รักข้ามพิภพ

ลำดับตอนที่ #5 : Fulll Moon Hero (Rewrite 1)

บทที่ 4 Full Moon Hero
    

เวลา 5.00 น. ของเช้าวันใหม่ บนโต๊ะของร้อยเวรผู้รับแจ้งเหตุในคืนนั้น ปรากฏม้วนวีดีโอที่มีสติกเกอร์เขียนไว้ด้านข้างว่า “บันทึกลับแมวยั่วสวาท” วางอยู่ หลังจากกลับจากแว่บออกไปหากาแฟดื่มแก้ง่วง

เมื่อเห็นชื่อที่เขียนติดไว้ ร้อยเวรหนุ่มก็รีบเรียกเพื่อนที่อยู่บริเวณนั้นเข้ามาดูพร้อมส่งเสียงหัวเราะคิกคักกัน ก่อนพากันแอบดอดเข้าไปในห้องที่มีเครื่องเล่นวีดีโอ ยัดม้วนเทปเข้าเครื่อง นั่งรอลุ้นด้วยหัวใจระทึก

หากเมื่อภาพปรากฏขึ้น กลับไม่ได้เป็นวีดีโอปลุกใจเสือป่าอย่างที่พวกเขาคาดหวัง แต่เป็นเหตุการณ์ชวนสยองที่บันทึกคำสารภาพของคนร้ายซึ่งล่อลวงหญิงสาวไปข่มขืนและแบล็คเมล์

เมื่อดูจบเขารีบวิทยุแจ้งไปยังตำรวจที่อยู่ใกล้ที่เกิดเหตุให้เร่งไปตรวจสอบจุดเกิดเหตุตามที่จดหมายซึ่งแนบมากับม้วนวีดีโอแจ้งไว้ และโทรศัพท์ไปแจ้งให้ผู้บังคับบัญชาทราบ เพราะเรื่องนี้น่าจะเป็นข่าวใหญ่ขึ้นหน้าหนึ่งหนังสือพิมพ์อีกแล้ว

กว่าตำรวจจะไปถึงที่เกิดเหตุนั้น พวกไทยมุงและนักข่าวก็แห่มากันมามากมายแล้ว แสงแฟลชวูบวาบ เสียงผู้คนอึงอลอยู่รอบบริเวณดูสับสนวุ่นวายไปหมด แต่สิ่งที่ทำให้พวกตำรวจปวดหัวมากที่สุดก็คือสิ่งที่แขวนห้อยอยู่รอบระเบียงของห้องพักชั้น 5

เมื่อพิจารณาให้ดีจะเห็นว่ามันคือร่างเปลือยเปล่าของชาย 7 คน ซึ่งยังคงไม่ได้สติ ร่างกายเปื้อนเลือดแห้งกรัง ลำตัวถูกมัดไว้กับระเบียงห้อยต่องแต่งดูอุจาดตา

ถึงตอนนี้บางคนเริ่มได้สติ และตั้งท่าแหกปากร้องขอความช่วยเหลืออย่างน่าเวทนา ตำรวจต้องรีบเร่งเข้าไปติดต่อผู้ดูแลคอนโดฯเพื่อขอกุญแจสำรองมาเปิดห้องพักเจ้าปัญหานั้น แล้วรีบนำร่างพวกนั้นเข้ามาในห้อง

 เห็นสภาพใกล้ๆแล้ว พวกตำรวจต่างมองหน้ากันถอนใจอย่างเหนื่อยหน่าย พลางบ่น

“นี่มันอะไรกันวะ!! คดีที่ 7 แล้วนะ ทำไมคืนนี้มันเยอะกว่าปกติวะ ปกติไม่เกิน 3 คดีแท้ๆ”

ภาพที่เห็นนอกจากตามร่างกายจะถูกทำร้ายจนสะบักสะบอมกันอย่างทั่วถึงแล้ว บนหน้าผากแต่ละคนยังมีรอยไหม้เป็นแผลพุพอง เหมือนโดนนาบด้วยเหล็กเผาไฟ เป็นตัวหนังสือคำว่า “สวะสังคม”

ตำรวจหาเสื้อผ้ามาให้พวกเขาใส่กันอุจาด แล้วพาตัวไปโรงพยาบาลเพื่อทำแผลก่อน พาไปโรงพักเพื่อสอบสวนภายหลัง

ทางฝ่ายผู้กำกับสถานีตำรวจที่ได้รับวีดีโอเทป หลังจากได้รับรายงานจากลูกน้องแล้ว เขาก็รีบติดต่อผู้บัญชาการสูงสุดเพื่อรายงานให้ท่านทราบเรื่องทันที

“ตอนนี้เราควบคุมตัวพวกที่มีส่วนร่วมในขบวนการนี้ไว้เรียบร้อยแล้วครับ หลักฐานม้วนวีดีโอของเหยื่อที่ถูกแบล็คเมล์และรายชื่อลูกค้าที่พวกเขาเป็นผู้จัดหาหญิงมาขายบริการให้ เราได้รวบรวมไว้หมดแล้ว ตอนนี้กำลังออกสืบสวนหาผู้หญิงชุดดำในวีดีโอที่คาดว่าจะเป็นคนร้ายที่ทำร้ายพวกนี้อยู่ คาดว่าอีกไม่นานคงหาตัวเจอครับท่าน”

“ไม่ต้อง” เสียงเครียดจากปลายสายตอบกลับมา

“ท่านว่าอะไรนะครับ?” ฝ่ายอาวุโสน้อยกว่าถามกลับอย่างไม่แน่ใจในคำตอบนั่น

“ฉันบอกว่าไม่ต้องตามหาผู้หญิงชุดดำนั่น แล้วทำลายวิดีโอนั้นทิ้งซะ อย่าให้เรื่องนี้หลุดไปให้ข้างนอกรู้อย่างเด็ดขาด นี่เป็นคำสั่ง ถ้าทำพลาดฉันจะสั่งย้ายไป 3 จังหวัดภาคใต้ยกโรงพัก”

พูดจบเขาก็วางหูไปโดยไม่ฟังคำตอบจากอีกฝ่าย ปล่อยให้ผู้ใต้บังคับบัญชางุนงงกับคำสั่ง ซึ่งไม่อาจขัดขืนได้

หลังจากวางหูโทรศัพท์แล้วท่านของคนที่เพิ่งโทรมารายงาน ยังคงนั่งครุ่นคิดถึงเหตุการณ์หมาดๆที่เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อคืนนี้ ระหว่างที่ตอนหลับอยู่ข้างภรรยา อยู่ๆเขาก็รู้สึกเย็นยะเยือกเข้าไปถึงกระดูก จนต้องตื่นขึ้นมา

พอลืมตาขึ้นสายตาพลันปะทะเข้ากับร่างชายผมยาวสลวยสีเทาอ่อน ใส่ชุดคลุมยาวสีดำกรอมเท้า ยืนอยู่ปลายเตียง สัญชาติญาณทำให้เขารีบคว้าปืนที่ลิ้นชักหัวเตียงออกมาขู่

“ไม่ต้องกลัว ข้าแค่มีข้อแลกเปลี่ยนมายื่นให้ท่าน” ผู้บุกรุกกล่าวเสียงเบา แต่น้ำเสียงน่าเกรงขามนั้นกลับดังก้องอยู่ในหัวคนฟังราวกับคนพูดนั่งอยู่ภายในนั้น

“ข้อแลกเปลี่ยนอะไร? แล้วแกเข้ามาที่นี่ได้ยังไง? รู้ไหมว่าฉันยิงแกได้ ฐานที่บุกรุกบ้านคนอื่นในยามวิกาล” ฝ่ายถูกบุกรุกยังคงฉุนเฉียว ที่ถูกบุกเข้ามาถึงห้องนอนกลางดึก แถมเขาเป็นถึงผู้บัญชาการสูงสุดของกรมตำรวจ แบบนี้มันเท่ากับต้องการหยามกันชัดๆ

“นั่นไม่ใช่ประเด็น ฟังให้จบก่อน แล้วถ้าท่านอยากยิงข้าก็ได้ แต่ขอบอกก่อนว่าปืนน่ะไม่มีประโยชน์หรอก” ชายในชุดคลุมกล่าวต่อ โดยไม่เปิดโอกาสให้อีกฝ่ายพูด

“คืนนี้ลูกน้องของท่านจะได้รับวีดีโอเทปที่ถ่ายเหตุการณ์ทำร้ายร่างกายของแก็งค์มอมยาหญิงสาว พาไปข่มขืนและแบล็คเมล์ไว้ เป็นฝีมือของ Full Moon Hero ในนั้นมีหน้าของเธอปรากฏอยู่ด้วย ข้าอยากให้ท่านทำอย่างไรก็ได้ อย่าให้ลูกน้องท่านหาตัวเธอและทำลายวีดีโอนั้นทิ้งซะ”

นายตำรวจใหญ่กำลังจะเอ่ยปากปฏิเสธข้อเสนอ ทางฝ่ายโน้นก็พูดดักขึ้นมาก่อน ราวกับอ่านใจได้

“ข้อแลกเปลี่ยนคือ ข้าจะบอกข้อมูลคดีสำคัญระดับชาติที่พวกท่านกำลังสืบมาถึงทางตันให้ ท่านจะสืบคดีนั้นได้สำเร็จและได้ผลงานชิ้นโบว์แดง ผลงานชิ้นนี้จะกลบข่าว Full Moon Hero ได้แน่”

ข้อเสนอนี้ทำเอาท่านผู้บัญชาการฯหูผึ่ง พลางคิดกระหยิ่มในใจ

“หลอกให้มันให้ข้อมูลเราก่อนเสร็จแล้ว ค่อยตามหาตัวผู้หญิงคนนั้นก็ได้ ในเมื่อเราได้ข้อมูลแล้วก็ไม่ต้องสนใจมันอีก ทีนี้เราก็ได้ผลงานทั้งสองคดี”

เสียงจากชายในชุดคลุม กล่าวออกมาราวกับนั่งอยู่ในใจเขา ทำเอาขนลุกเย็นวาบไปทั้งตัว

“ถ้าคิดจะทำอย่างนั้นหละก็ บอกได้เลยว่าข้าจะทำให้ชีวิตท่านและครอบครัวพบกับความวิบัติทั้งชีวิต จนท่านไม่คิดอยากจะมีชีวิตอยู่ต่อไปทีเดียว จำคำของข้าไว้ให้ดี พรุ่งนี้เช้าท่านจะได้รับข้อมูลเรื่องคดีนั้นบนโต๊ะทำงาน รักษาสัญญาท่านให้ดีล่ะ”

พูดจบร่างนั้นก็อันตรธานหายไปต่อหน้าต่อตา ปล่อยให้เจ้าของห้องนั่งงง ก่อนรีบเปิดไฟหัวเตียงค้นหาร่างนั้น แต่ก็ไม่เห็นแม้แต่เงา เขาเดินตรงไปที่ประตูและหน้าต่างตรวจดูก็เห็นว่าลงกลอนแน่นหนาอยู่เหมือนเดิม

“หรือว่าเราจะเจอดีเข้าให้แล้ว มันไม่ใช่คนแน่ๆ” คิดดังนั้น ขนทั่วตัวก็ลุกเกรียวขึ้นมาอีกครั้ง รีบกลับไปล้มตัวลงนอนเอาผ้าห่มคลุมตัว แต่ไม่กล้าปิดไฟ

ทันใดนั้นกริ่งโทรศัพท์ก็ดังแหวกความเงียบสงัดยามค่ำคืนขึ้นมา เขาสะดุ้งสุดตัวด้วยความตกใจ ก่อนจะรีบคว้ามันขึ้นมากดรับสาย และนั่นก็คือโทรศัพท์จากผู้ใต้บังคับบัญชาที่โทรมารายงานคดีชวนสยองที่เพิ่งเกิดขึ้น

ภายในสถานีตำรวจในท้องที่เกิดเหตุวันนี้ คราคร่ำไปด้วยผู้คนผิดจากทุกวัน ทั้งนักข่าวจากหนังสือพิมพ์และสถานีโทรทัศน์หลายสถานี ต่างแห่กันมาทำข่าวที่คาดว่าจะเป็นข่าวเด่นที่สุดในวันนี้

“เป็นไงวะเอ็ง เมื่อคืนได้ข่าวว่าได้รับของขวัญสุดสยิวจาก “Full Moon Hero” เหรอ?”

ตำรวจนายหนึ่งที่เพิ่งมาเข้าเวรเช้านี้กล่าวกลั้วหัวเราะกับเพื่อน ซึ่งกลายเป็นคนดังของวันนี้ไปโดยที่เจ้าตัวไม่เต็มใจ เพราะเมื่อคืนเขาอยู่เวร และเป็นผู้โชคร้ายรับวีดีโอเทปม้วนต้นเหตุ

เขาเพิ่งทิ้งตัวลงนั่นที่เก้าอี้อย่างเหนื่อยล้า หลังจากโดนผู้กำกับฯเรียกตัวเข้าไปพบ และถ่ายทอดคำสั่งจากผู้บัญชาการสูงสุดให้รับทราบ เขาถอนใจเฮือกใหญ่ก่อนเอ่ยตอบเพื่อน

“เออว่ะ ซวยจริงๆ ก็กะอยู่แล้วเมื่อคืนนี้ต้องมีอะไรซักอย่าง แต่ไม่คิดว่าคราวนี้ฮีโร่ของเราจะเล่นหนักขนาดนี้”

“เห็นเขาว่าฮีโร่ของเราเป็นผู้หญิงจริงหรือเปล่า?”

ร้อยเวรหนุ่มหันซ้ายหันขวาดูให้แน่ใจว่าไม่มีใครแอบฟัง ก่อนเอ่ยตอบเพื่อน

“เออ..สาว สวย หุ่นดี อายุไม่น่าเกิน 20 ไม่น่าเชื่อเลยว่ะ ว่าไอ้ผลงานโหดๆที่ผ่านมาในรอบ 5 ปีนี่น่ะเกิดจากฝีมือของคนๆเดียว แถมเป็นผู้หญิงบอบบางแบบนั้นอีก ยังไงข้าก็ไม่เชื่อเด็ดขาด มันต้องมีคนหนุนหลังแน่ๆ”  

“วีดีโออยู่ไหนน่ะ ข้าอยากดูหน่อยว่าหน้าตาแม่จอมโหดนี่เป็นยังไง” เพื่อนเขากระซิบถาม สีหน้าอยากรู้อยากเห็นสุดๆ

“ไม่ได้ ผู้กำกับฯเอาวิดีโอนั่นไปแล้ว บอกว่ามีคำสั่งจากเบื้องบนมาให้ทำลายวีดีโอนั่น ห้ามพวกเราสืบหาตัวเธอ แล้วก็ห้ามให้เรื่องแพร่งพรายออกไป ไม่งั้นพวกเราจะโดนเด้งไป 3 จังหวัดภาคใต้กันยกสถานี” เขาบอกเพื่อนท่าทางเป็นกังวล

“เฮ้ย..ได้งัยวะ นี่มัน Full Moon Hero ตัวป่วน ที่พวกเราหาตัวกันมานานเลยนะ นี่เป็นเบาะแสที่เด่นชัดที่สุดตลอด 5 ปีมานี่เลยด้วย” เพื่อนเขากล่าวอย่างเสียดาย

Full Moon Hero เป็นชื่อที่นักข่าวตั้งและใช้เรียกผู้ก่อความวุ่นวายในเขตกรุงเทพฯตลอด 5 ปีมานี้ ในคืนวันพระจันทร์เต็มดวงมักเกิดคดีทำร้ายร่างกายตามจุดต่างๆในเขตกรุงเทพฯ แต่มันไม่ใช่การทำร้ายร่างกายแบบธรรดาทั่วไป เหยื่อมักจะถูกทำร้ายขณะก่ออาชญากรรม เช่นค้ายาเสพติด, ลวนลาม ข่มขืน หรือชิงทรัพย์ เป็นต้น

จะถือว่าเป็นการช่วยตำรวจก็ว่าได้ ถ้าอาชญากรเหล่านั้นจะไม่ถูกทำร้ายอาการสาหัส จนต้องเข้าไปนอนรักษาตัวที่โรงพยาบาลเป็นอาทิตย์แทบทุกราย และสิ่งที่เหลือไว้เป็นเครื่องเตือนความจำว่า เป็นฝีมือเธอก็คือตัวหนังสือคำว่า “สวะสังคม” ที่เหมือนโดนนาบด้วยเหล็กเผาไฟบนหน้าผาก ที่เก็บไว้ประจานพวกทำความผิดพวกนั้น

ตำรวจจึงจำต้องออกหมายจับฮีโร่คนนี้ แต่ที่ผ่านมาไม่ว่าจะสอบปากคำทั้งเหยื่อและพยานแค่ไหนก็ไม่เคยได้เบาะแสหรือรูปพรรณสัณฐานของฮีโร่เลย ทุกคนไม่เคยให้การตรงกันซักครั้งเดียว ยิ่งประชาชนรู้ว่าตำรวจกำลังตามจับฮีโร่ของพวกเขาอยู่ ต่างก็ร่วมใจกันไม่ให้ความร่วมมือกับตำรวจ คดีนี้สร้างความปวดหัวและเสียหน้าให้กับตำรวจมาเป็นเวลานาน

Full Moon Hero กลับกลายเป็นขวัญใจของประชาชนอย่างแท้จริง พวกหนังสือพิมพ์และโทรทัศน์ต่างชื่นชมการกระทำของเธอ รวมทั้งพวกที่ได้รับการช่วยเหลือให้รอดพ้นจากมือคนร้ายด้วย ถึงขนาดมีคนสร้างเว็บไซด์สำหรับพวกแฟนคลับ ซึ่งมีสมาชิกเข้าชมอย่างล้นหลาม หลังจากคืนพระจันทร์เต็มดวงจะมีสมาชิกเข้ามาโพสต์เหตุการณ์ที่ฮีโร่ได้ก่อไว้ ให้สมาชิกคนอื่นรับทราบ

งานนี้ตำรวจก็แค่ทำให้มันเหมือนผลงานของ Full Moon Hero เหมือนอย่างปกติ ไม่บอกกับพวกนักข่าวว่าพวกเขารู้โฉมหน้าที่แท้จริงของฮีโร่แล้ว และนี่เป็นผลงานชิ้นสุดท้ายของเธอก่อนลาจากเมืองนี้ จะว่าไปพวกเขาควรจะดีใจด้วยซ้ำที่เธอจากไปซะได้ พระจันทร์เต็มดวงคราวหน้าความสงบสุขจะได้คืนกลับมาสู่สถานีตำรวจซะที