คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
“ห้อง 13A เลขไม่เป็นมงคลเลยแฮะ”
ลิลลินคิดในใจ ขณะยืนเขม่นมองเลขหน้าห้องที่ตนเองจะต้องพักไปตลอด 4 ปีนี้ นึกแปลกใจนิดหน่อย เพราะเคยอ่านเจอว่าฝรั่งเขาถือว่าเลขนี้เป็นเลขไม่ดี แต่ท่าทางที่นี่จะไม่ถือแฮะ
มือบางยกขึ้นเคาะเบาๆ ให้สัญญาณคนข้างในรู้ตัวก่อนจะดึงลูกบิด ภาพที่เห็นผ่านกรอบประตูทำให้ต้องอ้าปากค้างไปอย่างคาดไม่ถึง ชายหนุ่มที่ยืนอยู่กลางห้อง กำลังถอดกางเกงที่สวมอยู่ออก มันค้างอยู่ที่สะโพก มองเห็นชั้นในสีเข้ม ช่วงอกเปลือยเผยให้เห็นมัดกล้ามเนื้อเป็นลอนสวยเด่นชัด
เขาเป็นชายหนุ่มหน้าตาหล่อจัดเหมือนกับคนอื่นๆในมหาวิทยาลัยที่เจอมาทั้งวัน แต่นั่นก็ยังไม่ทำให้เธอชินนักที่ต้องมาเจอคนหล่อบาดใจในสภาพกึ่งเปลือยแบบนี้เข้า ทำเอาหัวใจกระตุกวาบ หน้าร้อนซู่ไปหมด
คนยืนตาค้างหน้าประตูรีบละล่ำละลักกล่าวขอโทษคนในห้อง ก่อนปิดประตูตามหลังอย่างรวดเร็ว
“บ้าจริงเลยเรา สงสัยจะเข้าห้องผิดซะหละมั้ง” เสียงบ่นกับตัวเองเบาๆ ใจยังเต้นเป็นจังหวะแปลกๆอยู่กับภาพที่เพิ่งเห็น พยายามสลัดภาพนั้นให้หลุดจากความคิด แต่ก็ทำไม่ได้ง่ายนัก
ตาคมหวาน ก้มมองกระดาษจดหมายเลขห้องพักที่ได้รับมาจากโลคิ ก่อนมองหมายเลขหน้าห้องซ้ำอีกครั้ง คิ้วขมวดอย่างครุ่นคิด
“หรือว่าโลคิจะจดเลขห้องมาผิด อย่างนี้ก็ต้องเดินไปดูที่ป้ายประกาศใหม่ซีเนี่ย เสียเวลาชะมัด อยากเข้าห้องพักอาบน้ำจะแย่แล้ว”
แต่ก่อนที่ลิลลินจะทันได้ทำอะไรอย่างที่ใจคิด ประตูก็เปิดผัวะออกมา เทพบุตรกึ่งเปลือยเมื่อครู่ส่งสายตาเหมือนรำคาญนิดๆมาให้ เขาแต่งตัวเรียบร้อยขึ้นกว่าเมื่อกี้นิดนึง ใส่กางเกงเรียบร้อยแล้วแต่ยังเปลือยอกอยู่เหมือนเดิม
“อย่างกับรู้ว่าตัวเองหุ่นดีน่ามองงั้นแหละ ถึงไม่ยอมใส่เสื้อซะที”
ลิลลินแอบค่อนขอดในใจ หน้าขึ้นสีเรื่อนิดๆ อย่างควบคุมตัวเองไม่ได้ เมื่อเห็นอกเปลือยอีกครั้งในระยะเอื้อมมือถึง
คราวนี้เธอมีเวลาพิจารณาเขามากขึ้นกว่าเมื่อสักครู่ เขาเป็นชายหนุ่มหน้าตาหล่อเข้ม โครงหน้าแบบคนยุโรป ผมดำยาวสลวยปรกต้นคอ ผิวขาวจัดอย่างคนไม่เจอแดดมานาน ดวงตาสีน้ำตาลเข้มดูเย็นชา ที่ตอนนี้ส่อแววรำคาญใจนิดๆมายังร่างบางที่ยืนอยู่ไม่ห่าง ก่อนเอ่ยกับหญิงสาวหลังจากเห็นเธอเอาแต่จ้องหน้าเขาไม่พูดไม่จา
“เข้ามาข้างใน ฉันเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จแล้ว”
“เอ่อ..คือฉะ..ฉัน จดหมายเลขห้องมาผิดน่ะ คงต้องกลับไปดูใหม่ที่ห้องโถง ขอโทษด้วยนะที่รบกวน”
ลิลลินกล่าวขอโทษอีกครั้งเสียงตะกุกตะกัก พยายามบังคับสายตาตัวเองให้จับอยู่แต่ใบหน้าของชายหนุ่ม ไม่มองลงไปที่หน้าอกเปลือยเปล่านั่น
ใช่ว่าเธอไม่เคยเห็นผู้ชายไม่ใส่เสื้อ แต่เป็นครั้งแรกที่เห็นแล้วใจสั่น รู้สึกวูบวาบแปลกๆไม่เข้าใจว่าตัวเองเป็นอะไรกันแน่
“อย่ามองต่ำกว่าหน้าเชียวนะลิลลิน เดี๋ยวเขาจะหาว่าเธอเป็นผู้หญิงลามก” หญิงสาวพร่ำบอกตัวเองในใจ
“ชื่อลิลลินใช่ไหม?” เทพบุตรกึ่งเปลือยถามเสียงเรียบ
“ใช่” ตอบไปแล้ว ก็ทำหน้าสงสัยว่าเขารู้จักเธอได้อย่างไร
ชายหนุ่มตอบคำถามนั้นด้วยการยกนิ้วโป้งชี้ไปบนผนังขวามือข้างประตู ซึ่งมีช่องเสียบกระดาษเล็กๆพิมพ์ด้วยว่าหนังสือสวยงามว่า “Shax & Lillin”
หญิงสาวอ้าปากค้างอีกรอบ ขณะอ่านป้ายชื่อนั้น
“งั้นก็ถูกห้องแล้ว เธอต้องแชร์ห้องกับฉัน” เสียงทุ้มย้ำให้เธอแน่ใจว่าไม่ได้เข้าใจอะไรผิดไป
“ไม่จริง มันต้องมีอะไรผิดพลาดแน่ๆ ฉันจะอยู่ร่วมห้องกับผู้ชายได้ยังไง” เสียงโวยวายหลุดออกมาจากปากเรียวสวย
เขาถอนใจอย่างเบื่อหน่าย ก่อนตอบ “ที่นี่เขาไม่ถือเรื่องแบบนี้”
“แต่ฉันถือนี่ เรื่องแบบนี้นะที่เมืองไทย
” เธออธิบายยังไม่จบประโยคดี เสียงห้าวทุ้มก็แทรกตัดบทขึ้นมาก่อนอย่างกับอยากจบบทสนทนากับเธอเต็มที
“ตามใจ” พูดจบก็ปิดประตูใส่หน้าเธอดังปัง หญิงสาวได้แต่อ้าปากค้างอีกรอบ ในใจขุ่นเคืองกับความไร้มนุษยัสัมพันธ์ของเพื่อนร่วมห้องที่ถึงแม้จะหล่อจนน่าให้อภัยก็เถอะ
“จะให้อยู่กับเพื่อนร่วมห้องนิสัยแย่แบบนี้ 4 ปีเนี่ยนะ นรกชัดๆ อย่างนี้ได้ตีกันตายก่อนจบแน่” ลิลลินบ่นหงุดหงิดงุ่นง่านคนเดียว ก่อนเริ่มออกเดินย้อนกลับไปตามระเบียงทางเดิม
เมื่อขาเรียวพาเจ้าของร่างมาหยุดลงที่หน้าห้องโลคิ มือบางก็ลงมือเคาะประตูเสียงดัง อย่างกับจะระบายอารมณ์ที่ขุ่นมัวลงที่มันแทน ชายหนุ่มเจ้าของห้องเปิดประตูออกมาต้อนรับผู้มาเยือนด้วยรอยยิ้มระรื่น
“เปลี่ยนใจมาเยี่ยมฉันเหรอ เข้ามาเลย เข้ามา” มือใหญ่ยื่นออกมาหมายคว้ามือบางดึงให้เข้าไปในห้อง
“เปล่า ฉันมีปัญหาเรื่องห้องพักน่ะ อยากไปพบอาจารย์ที่ปรึกษาขอเปลี่ยนห้อง” ลิลลินตอบ พร้อมถอยหลังหลบมือที่ไขว่คว้ามายังเธอ
“อ้าว..ทำไมล่ะ!! เธอได้พักกับใครเหรอ?”
“รู้สึกเขาจะชื่อแชคซ์น่ะ”
“อ๋อ
เจ้าแชคซ์ พักกับหมอนี่ก็ดีนะ มันไม่ค่อยวุ่นวายเรื่องมากหรอก แต่อาจจะอึดอัดหน่อยเพราะมันไม่ค่อยพูด แต่ถ้าอยู่กับฉันหละก็รับรองสบาย ปัญหาพวกนี้ไม่มีแน่”
โลคิเสนอขายตัวเองเต็มที่ ราวกับพนักงานขายมืออาชีพ ขณะยิ้มหวานหยดให้
“หมดปัญหาเรื่องอื่นน่ะใช่ แต่มีปัญหาเรื่องความมือไวของนายแทนนะซี” ลิลลินคิดในใจ แต่ปากกลับกล่าวอีกอย่าง
“ขอบใจนะ แต่ฉันอยากพักกับผู้หญิงด้วยกันมากกว่าน่ะ”
“อืมมม งั้นเหรอ แต่ฉันว่าท่าจะยากนะ ที่นี่เขาไม่มีการให้เปลี่ยนห้องเพราะเหตุผลแบบนั้นหรอก ต้องเป็นเหตุผลร้ายแรงจริงๆเท่านั้นถึงจะเปลี่ยนได้”
“เหตุผลร้ายแรงที่ว่าเช่นอะไรเหรอ?” เสียงหวานเอ่ยถามอย่างมีความหวัง
โลคิใช้นิ้วชี้เคาะคาง พลางทำท่าครุ่นคิด
“เท่าที่เคยได้ยินมา ก็เช่นถ้าโดนอีกฝ่ายประทุษร้ายร่างกาย ทางอาจารย์จะหาห้องใหม่ให้ จะว่าไปเจ้าแชคซ์นี่แหละที่เคยขอเปลี่ยนห้องเพราะเหตุผลนี้”
“ฮ้า..อย่างนายนั่นน่ะนะ ฉันว่าหน้าตาท่าทางเขาก็เอาเรื่องอยู่ ไม่น่ามีใครกล้ายุ่ง” ลิลลินร้องเสียงหลง ตาเบิกโพลงอย่างแปลกใจ
“ฮ่า ฮ่า ฮ่า รู้ไหมว่าคนที่ประทุษร้ายมันน่ะเป็นผู้หญิง ยัยนั่นกะรวบหัวรวบหางมัน เพราะอยากเป็นสะใภ้ตระกูลนี้”
“อ้อ..บ้านรวยนี่เอง ถึงได้ทำท่าหยิ่งนัก เฮอะ..อย่างกับฉันสนงั้นแหละ” หญิงสาวค่อนขอดในใจ ค้อนอย่างลืมตัว ส่งไปทางห้องพักของคนที่เป็นหัวข้อสนทนา โดยคนที่ถูกกล่าวหาไม่ได้รับรู้ด้วย
“แต่ถ้าเธออยากย้ายจริงๆนะ ฉันแนะนำว่าคืนนี้ปล้ำมันดูซิ รับรองได้ย้ายห้องสมใจ”
เสียงหัวเราะดังลั่นอย่างเห็นเป็นเรื่องสนุก ทำเอาคนฟังหน้าคว่ำ
“ฉันจะลองไปคุยกับอาจารย์ที่ปรึกษาก่อนดีกว่า จะลองขอร้องดู เขาอาจจะเห็นใจฉันบ้างก็ได้”
เสียงเขียวถูกส่งไปให้เพื่อนใหม่ ที่เขาเห็นเรื่องนี้เป็นเรื่องตลก ประโยคท้ายนั่นเธอตั้งใจว่ากระทบเขาด้วยที่ไม่เห็นใจปัญหาของเธอ แต่ท่าทางเขาจะไม่รู้สึกรู้สมแม้แต่น้อย
“งั้นก็ขอให้โชคดีนะ ห้องพักอาจารย์อยู่ชั้นล่างจากห้องโถงไปทางซ้ายมือนะ” หูยังคงได้ยินเสียงโลคิหัวเราะไม่หยุดดังตามหลังมาหลังบอกทางไปห้องพักอาจารย์แล้ว
ลิลลินหาห้องพักอาจารย์จนเจอ และเข้าไปแจ้งความต้องการของเธอ พร้อมบอกถึงเหตุผลที่อยากจะย้ายห้องกับอาจารย์ที่ปรึกษา โดยยกเรื่องวัฒนธรรมที่ต่างกันมาช่วยอธิบาย
“คือที่ประเทศไทยของหนู ชาย-หญิงที่ไม่ได้เป็นอะไรกัน จะไม่อยู่ร่วมห้องกัน อีกอย่างหนูไม่รู้จักเขามาก่อน เลยรู้สึกไม่สะดวกใจที่อยู่ด้วยกันน่ะค่ะ”
อาจารย์สาวใหญ่ที่ยังคงความสวยไว้ไม่เปลี่ยน ยิ้มให้อย่างใจดีก่อนเอ่ยปลอบ
“ฉันเข้าใจดีเรื่องนั้น แต่ที่นี่เราก็มีกฏของเรา แล้วเราก็ปฏิบัติกันอย่างนี้มาตั้งแต่เปิดมหาวิทยาลัย จนถึงบัดนี้ยังไม่เคยมีปัญหาอะไร ขอให้เธอวางใจได้ ส่วนเพื่อนร่วมห้องของเธอเขาก็เป็นเด็กที่มีความประพฤติดี อยู่กับเขานี่เธอปลอดภัยที่สุดแล้ว ฉันรับประกันได้”
แต่คำปลอบนั่นไม่ช่วยให้ลิลลินสบายใจขึ้นเลยแม้แต่น้อย เธอถอนใจอย่างปลงๆ คงทำอะไรไม่ได้จริงๆ เธอนึกถึงแม่กับอาขึ้นมาจับใจ
“พวกท่านจะว่ายังไงบ้างนะ ถ้ารู้ว่าเราต้องมาเจอเรื่องแบบนี้ที่นี่ เอาน่ะ..ลิลลิล มันอาจจะไม่มีอะไรเลวร้ายอย่างที่คิดก็ได้ ผู้หญิงคนอื่นเขายังอยู่ได้ เราก็ต้องอยู่ได้ซี”
หญิงสาวปลุกใจตัวเองให้กลับมาสู้กับปัญหาอีกครั้งตามนิสัยของเธอที่เป็นคนปรับตัวง่าย ไม่ท้อถอย โวยวาย ฟูมฟายอย่างไร้สติ
ขาเรียวพาเจ้าของมันกลับมายืนหน้าห้องพักห้องเดิมอีกครั้ง สูดหายใจเต็มปอด เพื่อเรียกความกล้า ทำอย่างกับเธอกำลังจะเดินเข้าห้องเชือดอย่างนั้น ก่อนเคาะประตูห้องให้สัญญาณคนข้างใน ยืนรออยู่อึดใจนึง ให้เวลาคนในห้อง แต่งตัวให้เรียบร้อยก่อน เผื่อเขาจะกำลังเปลื้องผ้าอยู่อีก
มือบางดึงประตูเปิดออก อีกฟากของประตูหนุ่มหล่อเพื่อนร่วมห้องกำลังยืนอยู่หน้าประตูเหมือนกัน มือใหญ่ทำท่าเอื้อมจะมาจับลูกบิด ดวงตาเย็นชาไร้ความรู้สึกมองจ้องสบตาเธอ
“เอ่อ..ฉันไปขออาจารย์เปลี่ยนห้องมาแล้ว แต่ว่าเขาไม่ให้น่ะ”
ลิลลินอธิบายแม้คนฟังจะไม่ได้สนใจอยากรู้เหตุผลก็ตาม
ร่างสูงใหญ่เดินเลี่ยงไปที่เตียงตนเอง เอนตัวลงนอนหยิบหนังสือที่อ่านค้างไว้ออกมาเปิดอ่านต่อ ทำท่าเหมือนลิลลินไม่มีตัวตนอยู่ในห้องนี้อีกต่อไป
หญิงสาวถอนใจกับท่าทางของเพื่อนร่วมห้องผู้มีคะแนนมนุษย์สัมพันธ์ติดลบ
“เอาหละ วันนี้ฉันเหนื่อย ฉันจะปล่อยนายไปก่อน แต่ฉันไม่ยอมให้บรรยากาศภายในห้องมาคุแบบนี้ไปตลอดหรอกนะ” ลิลลินได้แต่หมายมั่นอยู่ในใจฝ่ายเดียว
ห้องที่พวกเธออยู่เป็นห้องที่ตกแต่งเรียบง่ายสำหรับนักศึกษา มีเตียงสองเตียงตั้งอยู่คนละฟากของผนัง ปลายเตียงเป็นตู้เสื้อผ้า โต๊ะหนังสือตั้งหันหน้าเข้าหาหน้าต่างกว้างที่มองเห็นวิวของป่ารอบโรงเรียน ผนังฝั่งที่เตียงของแชคซ์ตั้งอยู่มีประตูที่คาดว่าน่าจะเป็นประตูห้องน้ำติดอยู่
คนเข้ามาอยู่ใหม่เริ่มเปิดกระเป๋าหาเสื้อผ้าและอุปกรณ์เตรียมตัวอาบน้ำ ก่อนก้าวเข้าไปข้างในห้องน้ำ มือควานหาล็อคประตู แต่หาเท่าไหร่ก็หาไม่เจอ พยายามหาวิธีล็อคอยู่นาน เผื่อที่นี่จะใช้วิธีล็อคแปลกๆไม่เหมือนเมืองไทย
หญิงสาวเปิดประตูออกมาอีกครั้ง ก่อนเปิดปากถามเพื่อนร่วมห้องผู้เย็นชา
“ประตูห้องน้ำมันล็อคยังไงน่ะ?”
“ไม่มีล็อค”
เสียงทุ้มต่ำตอบเหมือนเป็นเรื่องปกติ ไม่แม้แต่จะเงยหน้ามามองคนถามที่ยืนทำหน้าเหลอทันทีที่ได้ยินคำตอบ
“หา..ไม่มีล็อค แล้วจะให้ใช้ยังไง?” หญิงสาวโวยเสียงลั่นช็อคเป็นรอบที่เท่าไหร่ก็จำไม่ได้ ตั้งแต่ก้าวเข้ามาเรียนที่นี่
แชคซ์ถอนใจเสียงดังอย่างตั้งใจให้อีกฝ่ายได้ยิน ก่อนกระแทกปิดหนังสือที่อ่านอยู่ลงเสียงดัง มองหน้าเพื่อนร่วมห้องเป็นครั้งแรก เอ่ยด้วยน้ำเสียงติดจะรำคาญนิดๆ อย่างตั้งใจให้เธอรู้สึกตัว
“ใช้มันตามปกติเหมือนที่บ้านเธอ ฉันไม่คิดจะแอบดูใคร”
ลิลลินหน้าแดง รู้สึกเหมือนโดนเขาตำหนิกลายๆ เธอไม่ได้ตั้งใจจะหาว่าเขาชอบถ้ำมองซะหน่อย ร่างบางรีบพลุนพลันเข้าห้องน้ำทันที
“ตาบ้า ไม่เห็นใจผู้หญิงบ้างเลย อยู่ร่วมกับผู้ชายที่ไหนก็ไม่รู้ ฉันก็ต้องระวังตัวเป็นธรรมดาซี เกิดนายเผลอเปิดผัวะมาเห็นฉันกำลังโป๊อยู่ ฉันจะเป็นเจ้าสาวใครได้อีกล่ะ ทำไมฉันต้องมาอยู่กับคนแบบนี้นะ”
หญิงสาวยืนทำใจอยู่พักนึงก่อนลงมืออาบน้ำ เพราะทำอะไรมากกว่านี้ไม่ได้อยู่แล้วนี่ มีแต่ต้องทำใจยอมรับวัฒนธรรมใหม่ๆของที่นี่ อาบน้ำไปใจก็ระแวงมองไปทางประตูตลอด เป็นการอาบน้ำที่รีบเร่งแล้วไม่มีความสุขเอาซะเลย
เมื่อออกมาจากห้องน้ำอีกครั้ง ตาคมหวานเหลือบมองไปยังเตียงอีกฟากนึง ก็เห็นหนุ่มหล่อเพื่อนร่วมห้องยังนอนอ่านหนังสืออยู่ท่าเดิม เขายังคงทำเหมือนเธอเป็นอากาศ ไม่เหลือบตาแลมาทางเธอซักนิด
ความคิดเห็น