ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    รักข้ามพิภพ

    ลำดับตอนที่ #10 : อยากให้เป็นแค่ความฝัน (Rewrite 1)

    • อัปเดตล่าสุด 16 ก.ค. 55


    บทที่ 8 อยากให้เป็นแค่ความฝัน
     

    ลิลลินกรีดร้องสุดเสียง สะดุ้งพรวดลุกขึ้นนั่ง ดวงตาเบิกโพลงด้วยความหวาดกลัว เหงื่อไหลซึมท่วมตัวทั้งๆที่อากาศค่อนข้างเย็น ดวงตาคมหวานสำรวจรอบตัว เมื่อพบตัวเองอยู่บนเตียงในห้องพักก็ถอนใจอย่างโล่งอก

    ฝันร้ายนี่เอง เฮ้อ.. ทำเอาตกอกตกใจหมด

    เสียงรำพึงกับตัวเองเบาๆ ก่อนเริ่มรู้สึกได้ถึงสายตาคู่หนึ่งที่จ้องมองมา ดวงหน้าคมหันไปตามทิศทางนั้น สบตาเข้ากับแชคซ์ที่นั่งมองมาที่เธออยู่ก่อนแล้วจากเตียงของเขา ร่างสูงโน้มตัวมาข้างหน้า แขนสองข้างวางทับบนหัวเข่า นิ้วมือสอดประสานหลวมๆไว้ข้างหน้า

    ยังดูหล่อ แต่เย็นชาเหมือนเดิม ไม่ได้หน้าตาน่ากลัวเหมือนในฝัน ค่อยยังชั่วหน่อย ลิลลินคิดอย่างโล่งใจ

    คือ.. ฉันนอนฝันร้ายนิดหน่อยน่ะ ฝันประหลาดมากเลย ฝันว่าพวกนายเป็นปีศาจ ที่นี่เป็นมหาวิทยาลัยปีศาจน่ะ”

    ร่างบนเตียงหัวเราะแหะๆ หน้าตาเก้อเขิน เล่าให้เพื่อนร่วมห้องฟังอย่างอดไม่ได้ รู้สึกอับอายที่ทำตัวเหมือนเด็ก ยังนอนฝันร้ายเรื่องปีศาจอยู่

    ร่างสูงใหญ่บนเตียงฝั่งตรงข้ามไม่ตอบมาในทันที สีหน้าครุ่นคิดก่อนยืดตัวนั่งตรง เอ่ยด้วยเสียงเคร่งขรึม

    มันไม่ใช่ความฝัน ทั้งหมดที่เห็นเป็นเรื่องจริง เธอเห็นร่างจริงของพวกเราในวิชา เพิ่มทักษะปีศาจ ที่ทุกคนต้องกลับร่างเดิม เพื่อจะได้ใช้พลังได้เต็มที่ จากนั้นเธอก็เป็นลมไป

    เขาพูดยาวที่สุดตั้งแต่เจอกัน ถ้าเป็นเวลาปกติเธอคงได้แซวเขาเล่นแล้ว แต่เวลานี้เธอกำลังช็อคกับความฝันที่กลายเป็นจริงจนไม่มีอารมณ์คิดอย่างอื่น

    ไม่จริง นายกำลังจะบอกว่าพวกนายเป็นปีศาจงั้นเหรอ? ไม่จริงหรอกปีศาจไม่มีจริง ผีไม่มีจริง ทุกอย่างเกิดจากจินตนาการของตัวเอง ไม่มีจริง ไม่มีจริงเสียงพร่ำบอกซ้ำๆ เหมือนกำลังสะกดจิตตัวเองให้เชื่อตามที่กำลังพูดออกมา

    ถ้าไม่เชื่อ จะแสดงให้เห็นชัดๆอีกที

    พูดจบชายหนุ่มก็ลุกขึ้นยืนเต็มความสูง ร่างกายเขาค่อยๆเปลี่ยนแปลงไป ผมสีดำงอกยาวขึ้นจรดเอว ลูกตาดำเปลี่ยนเป็นสีแดงเหมือนเลือด บนศีรษะมีเขาสองข้างปลายแหลม ยาว คดงอ ปีกสีดำขนาดใหญ่กางสยายอยู่เบื้องหลัง

    สติของลิลลินดับวูบอีกครั้งเมื่อเห็นความจริงตรงหน้าแจ่มชัดระยะเผาขนเป็นครั้งที่สองของวัน ร่างทั้งร่างหงายหลังล้มตึงลงไปนอนบนเตียงอีกครั้ง ไม่มีเสียงกรีดร้องใดๆหลุดออกมาจากปากบาง

    เป็นลมอีกแล้ว วันนี้จะคุยกันรู้เรื่องไหม แชคซ์ถอนใจยืดยาว บ่นอย่างอ่อนใจกับภาระชิ้นใหญ่ที่ถูกโยนใส่บ่าเขาด้วยภาวะจำยอม

    เขาถูกสั่งให้มีหน้าที่ดูแลลิลลินจนกว่าจะฟื้น อธิบายให้เธอเข้าใจถึงสถานการณ์นี้ และทำหน้าที่พี่เลี้ยงในช่วงนี้ จนกว่าเธอจะปรับตัวได้ ด้วยเหตุผลที่ว่าเขาเป็นรูมเมทของเธอ และเธอก็คือลูกน้องในอนาคตคนนึงของเขา เพราะฉะนั้นเขาจึงมีคุณสมบัติที่เหมาะสมที่สุดที่จะรับหน้าที่นี้

    ตระกูลแอสโมเดียสของเขาทำหน้าที่รับใช้ราชาปีศาจมาหลายยุคหลายสมัย เรียกว่าตั้งแต่มีราชาปีศาจ พวกเขาก็รับหน้าที่นั้นเป็นต้นมา หน้าที่นั้นตกทอดต่อไปถึงลูกชายทุกคนของตระกูล ตัวเขาเองก็ต้องรับหน้าที่นี้ต่อจากบิดาไม่วันใดก็วันหนึ่ง

    นักศึกษาที่อยู่ทางปีกตึกด้านซ้ายทุกคนเมื่อจบการศึกษาแล้ว ก็จะเข้าไปทำงานในกองทัพปีศาจ ซึ่งมีบิดาเขาเป็นหัวหน้าผู้ปกครองฝ่ายซ้าย คอยดูแลอยู่ ทุกคนจึงเหมือนกับลูกน้องในอนาคตเขาไปโดยปริยาย รวมทั้งลิลลินด้วย

    นั่นคือสาเหตุว่าทำไมถึงไม่มีใครกล้าเข้ามาทำตัวสนิทสนมหรือปฏิบัติกับเขาอย่างเพื่อน ตัวเขาเองก็เช่นกัน ต้องปฏิบัติตัวกับคนอื่นราวกับเป็นหัวหน้า ทำตัวให้น่าเชื่อถือ น่าเคารพตลอดเวลา

    แชคซ์รอจนกระทั่งลิลลินฟื้นขึ้นมาอีกครั้ง พยายามอธิบายให้เธอฟังถึงสถานการณ์ตอนนี้ แต่หญิงสาวเอาแต่โวยวายร้องห่มร้องไห้ไม่ฟังเขาเลย ซ้ำยังหยิบข้าวของออกมาขว้างปาใส่ ไล่ให้เขาออกไปให้พ้นอีก

    ออกไปนะ ออกไปให้พ้น ไอ้ปีศาจ อย่าเข้ามาใกล้ฉันนะ ฮือ ฮือ ฮือ ทำไมฉันต้องหลงเข้ามาที่นี่ด้วยนะ แม่ อาแลค ช่วยลิลด้วย ลิลยังไม่อยากโดนกิน

    เสียงสะอื้นสลับกับเสียงพูดภาษาอะไรซักอย่าง ที่ชายหนุ่มฟังไม่เข้าใจปนเปกันไปหมด

    ตอนนี้ร่างบางถอยหนีไปยืนหลังชนฝาอยู่ที่ผนังด้านหนึ่ง นิ้วชี้สองข้างยกขึ้นไขว้กันทำเป็นสัญลักษณ์ไม้กางเขนที่คิดว่าปีศาจในคราบหนุ่มหล่อตรงหน้าน่าจะกลัว ปากก็บ่นภาษาประหลาด จะว่าไปมันก็ดูน่าขันดีสำหรับเขา ก่อนหน้านี้เธอยังแกล้งยั่วเขาเล่นอย่างไม่หวาดกลัวอยู่ แต่ตอนนี้กลับกลัวเขาลนลาน

    ถึงทีฉันเอาคืนบ้างหละชายหนุ่มคิดอย่างสะใจ เกิดความคิดแปลกๆขึ้นอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน ไม่เคยนึกอยากแกล้งหรือเอาคืนใครมาก่อนในชีวิต อาจจะเพราะไม่มีใครกล้าแกล้งเขามาก่อนนั่นเอง

    แชคซ์ค่อยๆย่างเท้าเข้าไปหาร่างบางที่ยืนตัวสั่นอยู่อย่างช้าๆ ดวงตาดูโหดเหี้ยม ไร้แววปราณี เขาจับมือบางที่ทำสัญลักษณ์กางเขนนั้นไว้ โน้มตัวลงกระซิบเบาๆข้างหูด้วยเสียงที่ฟังแล้ว ความกลัวจับไปถึงขั้วหัวใจคนฟัง

    นึกว่าฉันจะกลัวไอ้ไม้กางเขนงี่เง่านี่เหรอ เธอไม่รอดจากเงื้อมมือนี้หรอก ฉันจะกินวิญญาณเธอให้ไม่เหลือซากเลย

    กรี๊ดดด

    ลิลลินหลับหูหลับตากรีดเสียงร้อง เอาเรี่ยวแรงจากไหนไม่รู้ผลักร่างสูงซะกระเด็น ก่อนกระโจนไปทางประตู แต่แชคซ์ไวกว่า เขาหายตัวโผล่ไปยืนขวางประตูไว้ก่อนที่เธอจะไปถึง  ร่างบางผงะถอยหลัง ขาไม่มีเรี่ยวแรงจนสะดุดขาตัวเอง ล้มหงายหลังลงไปนั่งกองกับพื้น เข่าอ่อนด้วยความกลัว นัยน์ตาแดงกล่ำจากการร้องไห้ น้ำตาไหลนองหน้า ตาเบิกโพลงมองเขาอย่างหวาดกลัวสุดชีวิต ดูแล้วน่าเวทนา จนเขาล้มเลิกความคิดจะแกล้งต่อ

    ร่างสูงย่อตัวลงคุกเข่าข้างนึงกับพื้นก่อนเอ่ยขอโทษเสียงเบา ท่าทางดูขัดเขิน เขาเคยต้องขอโทษใครมาก่อนล่ะ

    ขอโทษ แค่แกล้งขู่เล่นเท่านั้น ไม่คิดทำร้ายเธอจริงๆ เขาบอกพลางเอื้อมมือไปจับแขนเธอไว้

    ร่างบางสะบัดแขนออก กำปั้นน้อยๆทุบตีเขาพัลวัน จนเขาต้องจับมือทั้งสองข้างรวบไว้ หญิงสาวได้แต่มองหน้าเขาดวงตาเบิกโพลง หากแต่ไม่มีเสียงใดหลุดรอดออกมาจากริมฝีปากที่เผยออยู่ ราวกับลืมเสียงตัวเองไว้ที่ไหนซักแห่ง หน้าซีดเผือดไร้สีเลือดบอกความกลัวสุดขีด จนเขากลัวเธอจะช็อคไปอีกรอบ

    ทีนี้เรามาพูดกันดีๆ ฉันจะปล่อยเธอ แต่เธอต้องหยุดกรี๊ด ตั้งสติให้ดีๆแล้วเรามาคุยกัน ตกลงนะ?

    ดวงตาคมยังคงเบิกกว้าง มองหน้าเขาตาไม่กระพริบ เหมือนไม่รับรู้สิ่งใด ชายหนุ่มต้องเขย่าร่างบางในมือเบาๆเป็นการเรียกสติ พร้อมเรียกชื่อหลายครั้ง จนเธอครางรับในลำคอ

    มือใหญ่ดึงรั้งหญิงสาวขึ้นมาจากพื้น พามานั่งบนเตียงของเธอ ก่อนตัวเองจะทิ้งตัวลงนั่งฝั่งตรงข้ามที่เตียงของตัวเอง นั่งเงียบเหมือนพยายามเรียบเรียงคำพูด ก่อนเอ่ยในที่สุด

    อย่างที่เธอเห็นวันนี้ พวกเราเป็นปีศาจและที่นี่เป็นมหาวิทยาลัยสำหรับพวกเรา ฉันไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับเธอ ทำไมถึงเข้ามาเรียนที่นี่โดยไม่รู้อะไรเลย

    ใบหน้าหล่อเข้มเงยขึ้นมองหญิงสาวอย่างต้องการคำตอบ

    ลิลลินเอาแต่ก้มหน้ามองมือตัวเอง ไม่ตอบคำถามเขา น้ำตายังคงไหลอาบแก้มอยู่เป็นทาง

    เขาถอนใจเฮือกใหญ่กับท่าทางนั้น ก่อนเอ่ยต่อ

    ที่นี่มนุษย์ธรรมดาไม่มีทางเข้ามาได้ เพราะต้องมีศิษย์เก่าแนะนำมาเท่านั้น ซึ่งพวกเราก็ได้รับการแนะนำมาจากพ่อแม่ของตัวเอง ใครเป็นคนแนะนำเธอมา? เขาไม่บอกอะไรมาก่อนหรือ?

    ลิลลินเริ่มมีสติกลับมาอีกครั้ง หลังจากได้ยินเรื่องศิษย์เก่าที่เขาเล่า

    อา เอ่อไม่ใช่พ่อของฉันแนะนำมา

    หญิงสาวนึกได้ถึงคำสั่งของธนภัทรก่อนมา ที่ให้บอกกับคนอื่นว่าเขาเป็นพ่อของเธอ เธอก็ไม่รู้เหตุผลว่าทำไม แต่คิดว่าทำตามไว้ก่อนน่าจะดีที่สุด อาต้องมีเหตุผลที่ดีและหวังดีกับเธอแน่นอนถึงได้สั่งแบบนั้น แต่ชักเริ่มสงสัยแล้วว่าทำไมอาถึงแนะนำเธอมาเรียนที่นี่ได้ 

    งั้นพ่อเธอก็ต้องเป็นปีศาจ ไม่งั้นเขาเข้าเรียนที่นี่ไม่ได้หรอก เขาสรุปให้หลังจากได้ยินคำตอบ

    อาแลคเป็นปีศาจงั้นเหรอ? ไม่จริงเป็นไปไม่ได้เสียงปฏิเสธอื้ออึงในใจ แม้จะเริ่มคลางแคลงบ้างก็ตาม แต่เขาเป็นอาที่เธอรัก ต่อให้เป็นปีศาจ ก็ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงความรักที่เธอมีต่อเขาได้  

    แชคซ์ลอบสังเกตลิลลินที่เงียบลงไปอีกแล้ว ก่อนเอ่ยเสียงเรียบต่อ

    ส่วนเธอก็เป็นลูกครึ่งปีศาจ ถึงยังไม่มีพลัง แต่พ่อเธอส่งมาอย่างนี้ก็แสดงว่าเขาอยากให้เธอมีพลังนั้นแน่

    ไม่ใช่ ฉันเป็นมนุษย์ ไม่ใช่ปีศาจ ต้องเกิดผิดพลาดอะไรแน่ๆ อา..เอ่อ พ่อฉันถึงส่งฉันมาที่นี่ ฉันจะกลับบ้านแล้ว ไม่อยู่ที่นี่ต่อแล้ว

    หญิงสาวปฏิเสธเสียงแข็ง ยังคงไม่ยอมสบตาคนตรงหน้า ตัดสินใจได้ทันทีว่าจะทำยังไงต่อไปในสถานะการณ์นี้

    ร่างบางลุกขึ้นคว้ากระเป๋าเดินทางมาจับเสื้อผ้ายัดลงไปอย่างรวดเร็ว อย่างกับกลัวชายหนุ่มจะทักท้วง ก่อนคว้ากระเป๋าเดินตัวปลิวจะออกไปจากห้อง

    เธอออกไปจากที่นี่ไม่ได้เสียงเรียบเย็นเอ่ยขัดก่อนเธอจะเดินไปถึงประตู

    ทำไมจะไม่ได้? ลิลลินถามกลับ ใจฝ่อลงทันที ดวงตาคมที่สบตาเขาฉายความหวาดกลัวแจ่มแจ้ง

    ถ้าไม่ได้รับอนุญาตจากแกเบรียล ใครก็ออกไปจากที่นี่ไม่ได้ ป่าข้างนอกนั่นอันตรายมาก แม้แต่พวกเราที่เป็นปีศาจยังไม่กล้าไปตามลำพัง แล้วเธอที่เป็นลูกครึ่งปีศาจซึ่งไม่พลัง รับรองว่าไม่ถึงนาที ได้โดนเจ้าพวกนั้นจับกินไม่เหลือซาก 

    ชายหนุ่มอธิบาย แล้วก็เห็นหน้าคนฟัง ซีดลงเรื่อยๆ จนแทบไม่มีสี จนกลัวว่าเธอจะเป็นลมไปอีกรอบ

    หญิงสาวก้มหน้าลงมองพื้น เงียบไปพักนึงก่อนเอ่ยเสียงเบา

    งั้นฉันจะไปขออนุญาตเขา บอกว่าฉันเป็นมนุษย์ มีการเข้าใจผิด เลยถูกส่งมาเรียนที่นี่ ท่าทางเขาเป็นคนใจดี เขาคงเข้าใจ ริมฝีปากล่างถูกกัดแรง เมื่อคนพูดต้องใช้ความคิด

    เจอเขาแล้วเหรอ? แชคซ์หรี่ตามองร่างบางด้วยความสงสัย ที่นักศึกษาใหม่ซึ่งเพิ่งเข้ามาเมื่อวานนี้กลับได้มีโอกาสเจอแกเบรียลแล้ว ทั้งๆที่หมอนี่เป็นคนที่เจอตัวได้ยาก มักออกไปทำธุระข้างนอกบ่อยๆ ปล่อยหน้าที่ดูแลเรื่องต่างๆให้อาจารย์ท่านอื่นเสมอ

    หญิงสาวพยักหน้าแทนคำตอบ ตายังคงมองที่พื้นซึ่งไม่มีอะไรน่าสนใจให้มองแม้แต่น้อย

    ลองไปคุยดูก็ได้ แต่ถ้าดูจากสถานการณ์แล้ว บอกได้ว่ายาก

    ลิลลินเหลือบตามองคนตรงหน้าอย่างเกรงๆ ใจแป้วเมื่อได้ยินที่เขาพูด ขออย่าให้เขาคาดการณ์ถูกเลย

    ฉันจะพาเธอไปพบเขาเองเสียงทุ้มเรียบเย็นอาสา ฟังดูเหมือนมีน้ำใจ

    ไม่เป็นหรอก ฉันรู้ทางแล้ว ไปเองได้ ขอบใจนายมากนะ เธอกล่าวขอบคุณเสียงเบา รู้สึกดีกับเขาขึ้นมานิดๆ ที่ดูมีน้ำใจให้ ถึงจะเป็นปีศาจ แต่ก็ไม่มีทีท่าคุกคามจะเข้ามาทำร้ายอย่างที่เธอกลัวแต่แรก

    เธอยังอยู่ในความรับผิดชอบของฉัน เกิดคิดสั้นวิ่งหนีเข้าป่า โดนปีศาจชั้นต่ำฆ่าตายไป มันถือเป็นความผิดของฉัน

    ที่แท้ก็ห่วงตัวเอง อีตาปีศาจชาเย็นเอ๊ยยยลิลลินค่อนขอดเขาในใจ เปลี่ยนความคิดดีๆที่มีให้ทันควัน

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×