คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : Chapter1: Her power
กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว ณ อาณาจักรเอเรนเดลล์ อาณาจักรที่อุดมสมบูรณ์ ประชาชนทั้งหลายอยู่อย่างมีความสุขภายใต้การปกครองของราชินีแห่งเอเรนเดลล์ พวกเขามีราชินีที่พิเศษกว่าราชินีองค์ไหนๆในโลก นั่นคือการที่ราชินีของพวกเขาสามารถเสกน้ำแข็งหรือเนรมิตความสุขให้กับเด็กๆในฤดูหนาวด้วยพลังเวทย์หิมะของนาง ผู้คนในอาณาจักรเอเรนเดลล์หรืออาณาจักรข้างเคียงขนานนามของเธอว่า “ราชินีหิมะ เอลซ่า” เธอปกครองอาณาจักรเอเรนเดลล์มานานจนอีกแค่2เดือนก็จะครบรอบ1ปีอยู่แล้ว
“อีกแค่2เดือนก็จะครบ1ปีสินะ… กาลเวลาผ่านไปเร็วจริงๆ” ราชินีแห่งเอเรนเดลล์เหม่อมองไปยังหน้าต่าง แสงอาทิตย์สาดส่องเข้ามาภายในห้องยามรุ่งอรุณ ช่างเป็นบรรยากาศที่…..
ปึ้ง!!!
“เอลซ่า ตื่นได้แล้ว นี่พี่จะนอนไปไหนกันเนี่ย!!”เสียงแหลมๆเสียงหนึ่งดังขึ้นโดยไม่ต้องบอกก็รู้ว่าใคร ปลุกเอลซ่าให้ตื่นจากภวังค์ทันที ร่างบางหันหน้าไปทางนาฬิกาบอกเวลาซึ่งตอนนี้เข็มนาฬิกาเล็กชี้ไปยังเลข9แบบเป๊ะๆ นี่เราตื่นสายขนาดนี้เลยหรือนี่ ร่างบางรำพึงกับตนเองเบาๆอย่างประหลาดใจก่อนจะตอบเสียงของอันนากลับไป
“เธอลงไปข้างล่างก่อนนะอันนา พี่ขออาบน้ำแต่งตัวให้เสร็จแล้วค่อยตามลงไปนะ”
“ค่า พี่เอลซ่า”
เสียงของอันนาไม่ว่าจะได้ยินกี่ทีก็ทำให้เอลซ่ารู้สึกมีความสุขได้ตลอดเวลา เพราะว่าเธอเป็นคนเดียวที่ให้กับรู้สึกกับเอลซ่าว่า
‘เธอยังมีฉันอยู่นะ’
แน่นอนการมีน้องที่ดีในยามที่ตนเองไม่เหลือใครเลยถือว่าเป็นโชคดีของราชินีหิมะ อย่างน้อยเธอก็ไม่เหงาล่ะนะที่ยังมีอันนาอยู่เป็นทั้งเพื่อนและน้องสาวของเธอ
เอลซ่ายิ้มเล็กๆให้กับตนเอง ก่อนที่จะเดินเข้าไปในห้องน้ำเพื่อจะทำภารกิจยามเช้าให้เสร็จ
ณ ห้องอาหาร
“เฮ้ คริสตอฟ ทางนี้ ช่วยข้าที อึ๊ก” โอลาฟเดินออกมาทางห้องครัวพร้อมถือจานอาหารหลายใบออกมา เยอะแยะเต็มไปหมด
“โว้วๆ ข้าบอกเจ้าแล้วนะว่าอย่ายกมาทีละเยอะๆมันหนักนะ เดี๋ยวแขนก็หักกันพอดี มานี่ข้าช่วยถือ”คริสตอฟพูดพลางช่วยโอลาฟยกจานอาหารที่ตอนนี้มีอยู่เต็มมือเจ้ามนุษย์หิมะตัวน้อยเต็มไปหมด
“ขอบใจนะ”โอลาฟพูดขอบคุณก่อนจะเดินกุลีกุจอไปยังโต๊ะอาหาร
“นี่อันนา วันนี้มีซุปหัวหอมด้วยนะ อ้าวเฮ้! เอลซ่า มาพอดีเลย มาทานข้าวเช้ากัน!!” โอลาฟเรียกเอลซ่าเสียงดัง
“มาแล้วน่า วันนี้มีอะไรกินมั่….”
โพล๊ะ!!
เสียงบอลหิมะลูกเบ้อเร่ออัดเข้าใส่หัวของราชินีหิมะอย่างเต็มๆ
“นั่นใคร!!” ร่างบางหันหลังกลับไปดูเพื่อหาตัวต้นเหตุที่บังอาจมาปาบอลหิมะใส่ราชินีแห่งเอเรนเดลล์ แต่สิ่งที่เห็นคือความว่างเปล่า
ไม่มีใครอยู่ตรงนั้น
ร่างบางหันหน้ากลับมาทางโต๊ะอาหารก็พบว่าทั้ง อันนา คริสตอฟ และโอลาฟ กำลังจ้องมองมาที่ตนด้วยสีหน้าที่มึนงงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อครู่
“เอ่อ พี่คะ? มีอะไรรึเปล่า?” อันนาถามเสียงเรียบก่อนจะยักคิ้วข้างหนึ่งด้วยความสงสัย
“มีคนปาหิมะใส่พี่น่ะ พี่เลยหันไปดู”
“ตรงนี้ไม่ใครนอกจากพวกเรานะคะ พี่คิดไปเองรึเปล่าเอลซ่า หรือว่าพี่มีปัญหากับพลังของพี่อีกแล้ว?”
เกิดความเงียบภายในห้องชั่วขณะ
“สงสัยพี่คงจะคิดไปเอง…. พี่กลับห้องก่อนนะ” เอลซ่าถอนหายใจ
“แล้วนี่พี่จะไม่กินอะไรหน่อยหรือคะ พี่กำลังกังวลเรื่องอะไรอยู่รึเปล่า? เล่าให้ฉันฟังได้นะ”อันนาเอ่ยถามเอลซ่าด้วยความเป็นห่วงเมื่อสังเกตุได้ว่าสีหน้าของพี่สาวตนในตอนนี้ซีดลงอย่างเห็นได้ชัด
“พี่ไม่เป็นไรหรอกน่าอันนา ก็แค่ปวดหัวนิดหน่อยเท่านั้นเอง เดี๋ยวพี่กลับไปกินยาที่ห้องก่อนแล้วกัน”
เอลซ่าเดินออกมาจากห้องอาหารก่อนที่จะเดินกลับไปที่ห้องของตนเอง สองเท้าเดินก้าวอย่างรวดเร็ว ใครกันนะลอบเข้ามาในวังแล้วทำเรื่องบ้าๆแบบนี้ได้ ต้องเป็นพวกโจรแน่ๆ
มันจะบุกรุกเข้ามาขโมยอะไรไปกันหรือแค่มาแกล้งข้า? พวกข้าหลวงคงไม่ทำแบบนี้แน่นอน
ไม่แน่เธอจะแค่คิดไปเอง?
เอลซ่าพยายามสลัดความคิดเรื่องโจรบุกรุกเข้ามาในเขตพระราชวังแถมมาปาหิมะใส่หัวเธอ
แต่ความเย็นและเศษหิมะที่ยังติดหัวของเธอยังย้ำเตือนเรื่องที่เกิดขึ้นว่า
‘เราไม่ได้คิดไปเอง’
เอลซ่าเดินก้าวท้าวพลางเดินคิดไปด้วยเพียงไม่นานก็ถึงหน้าประตูห้อง ร่างบางยืนมือหยิบลุกกุญแจขึ้นมาก่อนจะค่อยไขลูกบิดประตูอย่างรวดเร็ว ก่อนที่จะเดินเข้าไปในห้อง พลางถอนหายใจเล็กน้อย
“อย่าไปคิดถึงมันน่าเอลซ่า ใครจะมาเล่นอะไรบ้าๆบอๆกับฉันได้ เฮ้อ..”
โพล๊ะ!!
ปึ๊ก!!
พลั่ก!!
ร่างบางถูกบอลหิมะอัดเข้าใส่ แต่ดูเหมือนว่าคราวนี้ไม่ได้โดนแค่ลูกเดียวซะแล้ว บอลหิมะถูกอัดเข้าเต็มแรงที่ใบหน้า หลัง และหัว ของเอลซ่า เต็มๆแบบพร้อมกัน
“อะไรกันเนี่ย! นี่มันไม่ตลกนะ! เจ้าเป็นใครกันน่ะ มาแกล้งเราทีเผลอ แถมยังไม่ปรากฏตัวมาให้เห็นอีก เจ้ายังมีศักดิ์ศรีอยู่รึเปล่า!!” เอลซ่าพูดอย่างโมโห
“แหม ไม่เห็นต้องด่าข้าขนาดนั้นเลย องค์ราชินี ทำหน้านิ่วคิ้วขมวดอยู่อย่างงั้นเดี๋ยวก็แก่เป็นป้ากันพอดี” เสียงหนึ่งตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงยียวนกวนประสาทยิ่งทำให้เอลซ่าโมโหยิ่งกว่าเดิมจากเมื่อกี้ที่โมโหอยู่แล้ว คนอะไรแกล้งคนแล้วไม่รู้จักขอโทษแถมมาเยาะเย้ยอีก
“ปรากฏตัวมาให้เราเห็น เดี๋ยวนี้นะ เจ้าโจรไร้มารยาท ก่อนที่เราจะแช่แข็งเจ้า เลือกเอาแล้วกัน” เอลซ่ากดเสียงต่ำ
“เจ้าจะมองเห็นข้าได้ไง องค์ราชินี ในเมื่อเจ้าไม่ได้ศรัทธาในตัวข้าซะหน่อย”เสียงนั้นตอบกลับมา
“เจ้าว่าไงนะ จะให้เราศรัทธาเจ้า??” เอลซ่าขมวดคิ้วจนแทบจะชนกัน
เดี๋ยวนะ?จะให้ฉันไปศรัทธาในตัวหมอนี่ได้ยังไงกัน แค่คิดก็แย่แล้ว
“แล้วทำไมฉันจะต้องไปศรัทธาในตัวในนายด้วยไม่ทราบ? นายโจรกระจอก”
“โว้ว ไปกันใหญ่แล้ว ข้าไม่ใช่โจรนะ ก็แค่หยอกเจ้านิดหน่อยเท่านั้นเองน่า โมโหเป็นป้าแก่ไปได้ เดี๋ยวก็แก่เร็วหรอกน่า” เสียงนั้นตอบกลับมา
“เจ้าเป็นใครกันแน่? โจร? ขโมย? หรือเป็นพวกโรคจิตกันแน่? ข้าให้โอกาสเจ้าบอกมาว่าเจ้าเป็นใครถ้าเจ้ายังไม่อยากถูกแช่แข็งแบบเป็นๆ” ไอเย็นๆเริ่มแผ่ออกมาจากร่างของราชินีหิมะก่อนที่จะก่อตัวขึ้นมาเป็นพายุขนาดย่อมๆ
“ ชื่อของข้าคือ แจ็ค ฟรอสต์ เป็นผู้พิทักษ์แห่งฤดูหนาว จำเอาไว้ด้วยล่ะ ราชินีน้อยอารมณ์ร้อน”
“แจ็ค ฟรอสต์? เรื่องแบบนั้นมันก็แค่เรื่องเล่าปรัมปรา อีกอย่างเรื่องที่เจ้าจะให้ข้าไปศรัทธาในตัวเจ้า ข้าว่าสมองเจ้าคงจะไม่ปกติ เพราะฉะนั้นข้าจะไว้ชีวิตเจ้าสักครั้งก็ได้”
“หึ ถ้างั้น เจ้าคิดว่าพลังน้ำแข็งที่เจ้ามีอยู่น่ะมันปกตินักรึไง? องค์ราชินี”
นั่นสิ ขนาดฉันยังมีพลังน้ำแข็งได้ แล้วทำไมถึงจะมีแจ็ค ฟรอสต์ สักคนไม่ได้ล่ะ เสียงเล็กๆดังขึ้นในหัวของเอลซ่า
“เอาล่ะ ฉันจะลองเชื่อนายดูสักครั้งก็ได้ ทีนี้บอกฉันมา ว่าฉันจะมองเห็นนายได้ไง”
“ก่อนอื่นเจ้าต้องมีความเชื่อในตัวข้าก่อน คือเชื่อว่าข้ามีจริง ถึงเจ้าจะมองเห็นข้า องค์ราชินี”
เอลซ่าทำหลับตาทำใจอยู่ครู่หนึ่ง ช่วงเวลาสั้นๆในการพยายามทำใจให้เชื่อในตำนานเทพผู้พิทักษ์
ก่อนที่จะลืมตาขึ้นมาพบกับ เด็กวัยุร่นคนหนึ่ง ในตอนนั้นเองหัวใจของเอลซ่าเต้นแรงขึ้นเรื่อยๆราวกับว่ามันจะทะลุออกมาใบหน้าเริ่มขึ้นสีแดงระเรื่ออย่างเห็นได้ชัด
แต่แจ็ค ฟรอสต์ ตัวจริงหล่อเหลามากกว่าที่เอลซ่าคิดเอาไว้ตอนแรกซะอีก
ผมสีขาวราวกับหิมะ ใบหน้าขาวซีดที่ดูหล่อเหลา มาพร้อมกับรอยยิ้มกวนประสาทซึ่งเข้ากับใบหน้านั้นอย่างสุดๆ
เขาใส่เสื้อฮู้ดสีน้ำเงิน กางเกงสีน้ำตาล ในมือถือไม้ยาวๆไว้หนึ่งอัน ซึ่งพอจะเดาได้ว่า มันคือไม้คล้องแกะแน่ๆ
เด็กหนุ่มยิ้มให้เอลซ่าเล็กน้อยก่อนจะค่อยๆเดินมาใกล้ๆอย่างช้าๆ
“ตกใจอะไรขนาดนั้นเล่าองค์ราชินี หล่อบาดใจล่ะสิ” แจ็ค พูดพลางยื่นใบหน้าเข้ามาใกล้เอลซ่าเรื่อยๆ ในตอนนี้ใบหน้าของเด็กหนุ่มอยู่ห่างกับราชินีหิมะไม่กี่เซนติเมตร
เอลซ่าที่ตอนนี้หน้าแดงจัด พยายามเปลี่ยนสีหน้าของตนให้กลับเป็นปกติเหมือนเดิมก่อนที่จะเชิดหน้ามาประจันหน้ากับเด็กหนุ่มตรงหน้า
“ขอโทษนะ ท่านมาทำอะไรที่นี่ไม่ทราบ อยู่ดีๆก็บุกรุกเข้ามาในปราสาทคิดจะทำอะไรกันแน่?”
“หืม ข้าก็แค่แวะมาที่นี่นิดหน่อย กะว่าจะมาหาอะไรสนุกๆทำก็แค่นั้นเอง ไม่คิดว่าคนที่ข้าแกล้งจะเป็นเจ้าไปได้ เอลซ่า” แจ็คพูดพลางยักไหล่เล็กน้อย ก่อนที่จะโหนตัวลอยตีลังกากลางอากาศ3ตลบต่อหน้าเอลซ่า
“นี่นายรู้จักฉันด้วยเหรอ?”เอลซ่าถามอย่างสงสัย
“ทำไมข้าจะไม่รู้ล่ะ ก็ในเมื่อข้าตาม…” เด็กหนุ่มชะงักไปเล็กน้อยเหมือนตัวเองกำลังจะเดินก้าวพลาดก่อนที่จะนึกขึ้นได้
“ตาม?” เอลซ่าเลิกคิ้ว
“เอ่อ…ก็ตามดูชาวเมืองเอเรนเดลล์ เล่นปาหิมะ ได้หลายวันแล้ว ก็เลยเห็นพวกเขาพูดถึงเจ้า…หมายถึงในทางที่ดีน่ะนะ”
เอลซ่าหน้าซีดลงเมื่อได้ยินแจ็คพูดว่าประชาชนพูดถึงเธอ พลันนึกถึงวันที่เคยทำให้เอเรนเดลล์ตกอยู่ภายใต้ยุคน้ำแข็ง ชั่วพริบตาหนึ่งหิมะที่อยู่ในห้องค่อยๆแผ่รัศมีไอเย็นออกเป็นวงกว้างขึ้นเรื่อยๆ
“เฮ้อ เจ้านี่น้า..” แจ็คเบ้ปากเล้กน้อย เขาหยิบไม้คล้องแกะนั้นเคาะลงบนน้ำแข็งเบาๆ ภายในเวลาไม่นานน้ำแข็งทั้งหมดภายในห้องของเอลซ่าก็ระเหยกลายเป็นไอไปหมดทันที
“ดูเหมือนว่าเจ้าจะยังควบคุมพลังนั้นได้อย่างไม่สมบูรณ์สินะ” แจ็คพูด ถอนใจหายเสียงดังและค่อยๆนั่งลงบนพื้นห้อง
“เมื่อกี้ นายทำได้ยังไงกันน่ะ? นายละลายน้ำแข็งพวกนี้ได้ยังไง?” เอลซ่าตาเป็นประกาย ที่ผ่านมาเธอใช้ความรู้สึกรักและความอบอุ่นในการควบคุมพลังของเธอตลอดมา แต่ดูเหมือนว่าหากเกิดความกลัวขึ้นมาแวบเดียวพลังก็อาจปะทุออกมาได้เช่นกัน ซึ่งการที่จะใช้ความรู้สึกรักและอบอุ่นในช่วงเวลาที่กำลังเกิดความกลัวนั้นมันช่างยากเหลือเกิน แต่ทำไมคนๆนี้ถึงทำราวกับว่ามันเป็นแค่เรื่องง่ายๆกันล่ะ?
เอลซ่ามองเด็กหนุ่มอย่างประหลาดใจกับความสามารถในการควบคุมพลังเวทย์น้ำแข็งได้อย่างคล่องแคล่วของแจ็ค ฟรอสต์ ความประหลาดใจฉายขึ้นบนใบหน้านั้น ก่อนที่เอลซ่าจะได้พูดอะไรออกมา ก็ถูกเสียงของเด็กหนุ่มขัดไว้เสียก่อน
“ง่ายนิดเดียวองค์ราชินี ข้าใช้สิ่งนี้” เด็กหนุ่มควงไม้คล้องแกะไปมา ก่อนที่จะนำมาพาดอยู่บนใหล่ พร้อมกับส่งยิ้มกวนๆให้กับหญิงสาวตรงหน้า
“แต่จุดสำคัญจริงๆ มันอยู่ตรงนี้ต่างหาก เอลซ่า” แจ็ค เอามือข้างหนึ่งทาบไว้ที่หน้าอกของตนเองก่อนทุบเบาๆ2ที
การใช้จิตใจในการควบคุมพลังของตัวเองถือเป็นเรื่องง่ายสำหรับแจ็ค ฟรอสต์ อยู่แล้ว แน่นอนเขาใช้เวลาฝึกฝนมันมานาน ถึงแม้ตอนแรกๆความสามารถในการควบคุมพลังจะไม่ต่างกับเอลซ่าตอนเด็กๆนักก็ตาม
“ข้ามาที่นี่เพื่อสอนเจ้าควบคุมพลังเวทย์น้ำแข็งของเจ้า ราชินีหิมะเอลซ่า”
ความคิดเห็น