ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    สุดแดนหฤทัย (มหัศจรรย์แห่งรัก 2 )

    ลำดับตอนที่ #2 : ตอนที่2.....100%

    • อัปเดตล่าสุด 1 ก.พ. 54




     

    ตอนที่2

     

    ย่ำค่ำอาทิตย์ยอแสงอ่อนๆก่อนลับเหลี่ยมเขา สกุณาโผผินบินกลับรัง เจ้าหลวงธราธรแห่งธาราศิลป์ก็แต่งองค์ทรงเครื่องเตรียมเสด็จไปยังพระตำหนักที่จัดพระราชทานเลี้ยงพระกระยาหารค่ำ ที่ทางเจ้าหลวงแห่งสัจจาวรรดิ์จัดขึ้นถวาย เจ้าหลวงธราธรทรงฉลองพระองค์สีน้ำเงินเข้มขับผิวประดับประดาเหรียญตรามากมายอย่างเต็มพระอิสริยายศ ที่บั้นพระเอวห้อยพระแสงดาบส่งให้ดูน่าเกรงขามยิ่งนัก

    เมื่อทุกอย่างเสร็จเรียบร้อยก็ทรงเสด็จออกมาหน้าพระตำหนัก มหาดเล็กราชวัลลภที่องค์ชายสิปปกรส่งมารับก็นำเสด็จไปยังสถานที่จัดพระราชทานเลี้ยงพระกระยาหารเย็น

    เจ้าหลวงธราธรเสด็จมาถึงก็เสด็จไปประทับยังที่ๆจัดไว้โดยมีองค์ชายสิปปกรประทับรออยู่ก่อนแล้ว จากนั้นไม่นานเจ้าหลวงสุรเมษฐ์ก็เสด็จมา เจ้าหลวงธราธรจึงลุกขึ้นค้อมพระเศียรให้พระเกียรติแก่ผู้อวุโสกว่าเจ้าหลวงสุรเมษฐ์จึงแย้มพระสรวลให้กับกิริยาอ่อนน้อมถ่อมตนที่อีกฝ่ายเสด็จออกมา

    เชิญประทับฝ่าบาท ชายวัยกลางคนกล่าวขึ้น

    ขอบพระทัย พระเจ้าค่ะ เจ้าหลวงธราธรทรงประทับนั่งลงยังพระเก้าอี้อีกครั้ง

    เราคงต้องขออภัยที่มิได้ไปรับเสด็จด้วยตัวเอง

    ไม่เป็นไร มิได้ พระเจ้าค่ะ

    เห็นองค์ชายตรัสว่าทรงพระประชวร ทรงดีขึ้นแล้วหรือพระเจ้าค่ะ เจ้าหลวงธราธรตรัสถามออกไป

    ดีขึ้นมากแล้ว คนแก่ก็อย่างนี้แหละ เจ้าหลวงสุรเมษฐ์ตรัสตอบพลางเปลี่ยนเรื่อง

    อาหารเหล่านี้เป็นอาหารพื้นเมืองของสัจจาวรรดิ์ ลองเสวยดูหม่อมฉันรับรองว่าคงไม่แพ้อาหารจากธาราศิลป์ เจ้าหลวงสุรเมษฐ์ทรงกล่าวชักชวน เจ้าหลวงธราธรจึงแย้มพระสรวลรับในไมตรี พลางตักพระกระยาหารมาเสวยตามคำชักชวน

    อื่ม...ชายน้องสาวเจ้าไปไหน ไยมิเสด็จมารับแขก เสียมารยาทจริง ออกไปเถลไถลได้ทุกวัน เจ้าหลวงทรงตำหนิเบาๆ

    เห็นว่าเสด็จไปนอกเมือง พึ่งกลับมาเมื่อครู่ พระเจ้าค่ะองค์ชายสิปปกรตรัสตอบพระราชบิดา พลางหันไปหาเจ้าหลวงธราธรแล้วเอ่ยต่อ

    หม่อมฉันขอพระราชทานอภัยแทนน้องหญิงของหม่อมฉันด้วย

    นางยังอ่อนชันษา ติดไปทางดื้อชอบเถลไถลไปโน่นมานี่

    ไม่เป็นไรหรอกพระเจ้าค่ะ หม่อมฉันไม่ได้ถือสาอะไร เจ้าหลวงธราธรตรัสตอบ

    พระกระยาหารค่ำในวันนี้จบลงในอีกเกือบช่วงโมงถัดมา หลังจากทรงตรัสถามโน่นถามนี่กันตามมารยาท โดยมิได้กล่าวถึงเรื่องอื่นใด เจ้าหลางธราธรทรงขอบพระทัยสำหรับพระกระยาหารค่ำที่เจ้าหลวงสุรเมษฐ์จัดถวาย แล้วเสด็จกลับพระตำหนักที่ประทับรับรองไป

     

    ระหว่างทางที่เสด็จกลับเจ้าหลวงธราธรทรงโปรดที่จะประทับทอดพระเนตรชมแสงชวาลายามค่ำคืน จึงมีรับสั่งให้เตมีกลับไปรอที่พระตำหนักรับรองก่อน แม้เตมีมิใคร่จะกลับอยากอยู่อารักขาความปลอดภัยแต่ก็ไม่ทรงยอม จึงจำใจต้องกลับตามพระบัญชา

    แสงชวาลายามค่ำคืนช่างงดงามนัก โดยเฉพาะจากมุมที่ทรงทอดพระเนตรอยู่ แต่แล้วอยู่ๆสายพระเนตรก็ไปสะดุดกับคู่ปรับเก่าที่กำลังเดินจ้ำอ้าวเหมือนกำลังจะรีบไปไหนสักแห่ง เจ้าหลวงธราธรจึงรีบเสด็จตามไปจับนางไว้

    หยุดเดี๋ยวนี้นะ

    ว้าย!” หญิงสาวร้องขึ้นด้วยความตกใจเพราะเจ้าหลวงธราธรร้องสั่งพลางใช้พระหัตถ์แข็งแรงเรียวรวบมือของหญิงสาวไว้ด้านหลัง

    เจ้าหลวงอำมหิต นางเอ่ยขึ้นเมื่อเห็นหน้าคนจับชัดๆถนัดตา

    ทรงมาจับข้าทำไม

    ยังมีหน้ามาถามอีกเจ้าจะเอาความลับของข้าไปบอกเจ้าหลวงสุรเมษฐ์ใช่ไหม

    ไม่ใช่สักหน่อย

    ยังมีหน้ามาเถียงอีก ถ้าเจ้าไม่ได้มาบอกเจ้าหลวงสุรเมษฐ์ แล้วเจ้ามาทำไม

    อ๋อ...หรือเจ้ามาขโมยของ ทรงถามเองตอบเอง

    ข้าเปล่านะ หญิงสาวปฏิเสธ แต่อีกฝ่ายก็หาเชื่อไม่

    แหม ดูทำแต่งตัวเข้า เข้าใจแต่งนะ สายพระเนตรทอดมองหญิงสาวอย่างพินิจพิจารณา ชุดกระโปรงสีขาวยาวกอมเท้า คอเสื้อเว้าแต่พองาม คล้ายกับชุดของหญิงสาวชาวสัจจาวรรดิ์ที่นิยมใส่กันอย่างที่ทรงทอดพระเนตรเห็นมาบ้างในวันนี้

    ไม่เจอกันแค่ข้ามคืน ริเป็นทั้งผู้กุมความลับทั้งเป็นหัวขโมยเลยเชียวหรือ

    นี่ ฝ่าบาทจะทรงเอาอย่างไงกับข้าอีก หญิงสาวชักฉุน

    ก็ไม่เอาอย่างไง

    เอ๊ะ ทรงตรัสวกวนดีแท้ ข้ายอมรับก็ได้ว่ามาขโมยของ พอใจรึยัง

    คราวนี้ปล่อยข้าไปได้หรือยัง ข้าจะได้รีบไป เมื่อทรงได้ยินเช่นนั้นจึงปล่อยนางให้เป็นอิสระ

    เจ้าให้สัจสัญญากับข้าแล้ว จงรักษาสัญญานั้นด้วย และอีกอย่าง ข้าเคยบอกเจ้าแล้วไงว่าอย่ามาให้ข้าเห็นหน้าอีก

    ทำอย่างกับข้าอยากเห็นหน้าฝ่าบาทนักแหละ ข้าก็ไม่อยากเจอฝ่าบาทหรอก...ทำอย่างกับหล่อตายหละจะได้อยากเจอบ่อยๆหญิงสาวหลบเสียงต่ำในประโยคหลัง

    เจ้าว่าอะไรนะข้าได้ยินไม่ถนัด

    เปล่า... หญิงสาวแสร้งตอบแล้วถามต่อ

    ข้าไปได้แล้วใช่ไหม จะได้รีบไปให้พ้นๆหน้าฝ่าบาท เจ้าหลวงธราธรทรงพยักพระพักตร์เป็นเชิงอนุญาต หญิงสาวจึงรีบจ้ำออกไป แต่เพียงก้าวไปได้ไม่กี่ก้าว ก็มีเสียงเรียกจากด้านหลังตามมา

    เดี๋ยว

    มีอะไรอีกล่ะฝ่าบาท

    ทางนั้นทหารเยอะ ไปทางโน้นจะดีกว่า ระวังตัวด้วย

    นึกว่ามีอะไรที่แท้ก็เป็นห่วง

    มากไปแล้ว อย่าสำคัญตัวเองผิดไปนักเลย ข้าไม่ได้ห่วงเจ้า ข้าห่วงตัวเองต่างหาก เพราะถ้าหากเจ้าถูกจับได้เข้า เดี๋ยวข้าจะพลอยซวยไปด้วย เมื่อได้ยินเสียงตอบกลับหญิงสาวจึงขึงตาใส่อย่างเซงๆ

    ข้าชำนาญแล้วรับรองไม่มีใครหน้าไหนมาจับข้าได้หรอก หญิงสาวคุยโว

    ปากดี ให้มันจริงเถอะ รีบไปได้แล้วไป สิ้นสุรเสียงไล่หญิงสาวจึงรีบออกไปจากตรงที่ทรงประทับอยู่ เจ้าหลวงธราธรทอดมองตามนางจนนางลับตาไป

    เจอกันอีกจนได้นะ สงสัยชาติที่แล้วข้าคงทำบุญทำกรรมร่วมกับเจ้ามาแหงๆ เจ้าหลวงตรัสแล้วทรงแย้มพระสรวลออกมานิดๆอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน พระองค์รู้สึกชอบนางตงิดๆคงเพราะความช่างกล้าช่างเถียงของนาง ที่ใช่ใครก็คงไม่กล้าทำเช่นนั้นกับพระองค์

     

    สางอรุโณทัยของวันใหม่ ท้องฟ้าฉาบทาด้วยสีเหลืองทองช่างงดงามนัก ฝูงนกกาต่างพากันโผบินออกหากินไปตามแผ่นฟ้ากว้าง น้ำค้างปลายยอดหญ้ากำลังจะล่วงหล่นสู่พื้นดินอันอุดม สายลมโชยเอื่อยระเรื่อยลิ่วโบกพัดสะบัดตั้งแต่ใบไม้ไปจนถึงผ้าม่านปักลายวิจิตรของตำหนักที่ประทับรับรอง

    เจ้าหลวงธราธรทรงตื่นบรรทมขึ้นมาชมธรรมชาติยามเช้าที่พระแกล มองออกไปจากตรงนี้ในระยะไกลๆจะเห็นทิวเขาสลับซับซ้อนทอดยาวไปไกลสุดลูกหูลูกตา  หมอกยามเช้ายังไม่จางหายไปกับแสงแดดจนหมดสิ้น ยังคงเหลือบางส่วนไว้สร้างความงดงามจรรโลงใจให้ผู้ที่เฝ้ามองจากมุมนี้ เจ้าของร่างสูงใหญ่ทอดพระเนตรมองอยู่ครู่หนึ่งจึงเสด็จไปสรงน้ำ เพื่อเตรียมเสด็จไปทอดพระเนตรชมนอกเมืองตามที่นัดหมายไว้กับองค์ชายสิปปกร

                    เมื่อสรงน้ำเสร็จก็เสด็จออกมารับลมชมวิวที่ด้านนอกพระตำหนักเป็นการฆ่าเวลารอองค์ชายสิปปกร เจ้าของพระวรกายสูงใหญ่เสด็จชมนกชมไม้รอบๆอาณาบริเวณพระตำหนัก ใจจริงก็มิได้ใคร่อยากจะชมอะไรหนักหนา ออกไปทางทอดพระเนตรดูจุดยุทธศาสตร์ของสัจจาวรรดิ์เสียมากกว่า และยิ่งวันนี้ที่มีโอกาสเสด็จออกนอกเมืองก็ต้องยิ่งกอบโกยโอกาสเอาไว้ให้ได้มากที่สุด เผื่อเอาไว้หากสัจจาวรรดิ์เข้าทางกสวงศ์พระองค์จะได้จัดการตามแผนที่วางเอาไว้ได้อย่างรวดเร็วที่สุดและเสียกำลังพลให้น้อยที่สุด ด้วยถือคติรู้เขารู้เรารบร้อยครั้งชนะร้อยครั้งดังที่เขาว่ากันไว้

                    ในขณะที่ทอดพระเนตรภูมิศาสตร์ของสัจจาวรรดิ์อยู่นั้น สายพระเนตรใคร่รู้ก็จ้องเขม็งดุดัน พระขนงที่โก่งดั่งคันศรก็ขมวดเป็นปม พระบาทที่เดินเตร็ดเตร่กับเดินจ้ำอ้าว แล้วทันใดนั้นพระหัตถ์แข็งแรงก็คว้าเข้าที่มือบอบบาง พร้อมเปล่งพระสุรเสียงดุดัน

                    เจ้าตัวแสบ ข้าบอกแล้วไงว่าอย่ามาให้ข้าเห็นหน้าอีก

                    อะไรของฝ่าบาท ฝ่าบาทต่างหากที่ตามหาเรื่องหม่อมฉันอยู่ได้

                    ยังจะมีหน้ามาพูดอีก ข้าเป็นใครและเจ้าเป็นใคร บังอาจมาต่อล้อต่อเถียง

                    หม่อมฉันเป็นองค์หญิงแห่งสัจจาวรรดิ์เพคะ แล้วทีนี้จะเถียงได้หรือยัง

                    ลามปาม สามหาว ระวังเถอะขี้กลากจะกินหัว

                    ก็ทรงมีรับสั่งให้หม่อมฉันตอบ หม่อมฉันก็ตอบแล้ว แล้วจะเอาอย่างไงกับหม่อมฉันอีก

                    ฆ่าทิ้งเสียเป็นไงเพคะ

    อย่ามาท้าข้านะ เจ้าหลวงธราธรขบพระทนต์แน่นอย่างไม่พอพระทัย พลางก้าวเข้าประชิดตัวหญิงสาว แต่ก่อนที่จะทำอะไรก็มีเสียงๆหนึ่งดังขึ้นมาจากด้านหลังของพระองค์

    มีอะไรกันหรือพระเจ้าค่ะ องค์ชายสิปปกรตรัสขึ้นเสียงดังฟังชัด ทำให้คนทั้งสองรีบผละจากกันในทันที เจ้าหลวงธราธรถึงกับพระพักตร์ซีด ส่วนอีกฝ่ายรีบขยับไปหาผู้ที่พึ่งมาถึง

    อ้าวน้องหญิงมาอยู่ที่นี่ได้อย่างไรคะ องค์ชายสิปปกรตรัสถามคนที่ขยับเข้ามาหา

    หญิงกำลังจะไปหาพี่ชายเพคะ แต่เผอิญเจอกับเจ้าหลวงเข้าเสียก่อน ก็เลยหยุดทักทายกันนิดหน่อยเพคะ หญิงสาวเอ่ยขึ้นพลางมองพระพักตร์ของอีกฝ่าย ที่บัดนี้จ้องเข็งราวกับจะกินเลือดกินเนื้อ

    นี่พระขนิษฐาของหม่อมฉัน แก้วกัญญา พระเจ้าค่ะ ผู้เป็นพระเชษฐาหันมาเอ่ยแนะนำน้องสาวกับเจ้าหลวงธราธร

    ยินดีที่ได้รู้จักอย่างเป็นทางการพระเจ้าค่ะ องค์หญิงแก้วกัญญา พระสุรเสียงขานพระนามทำเอาหญิงสาวออกอาการร้อนๆหนาวๆขึ้นมาทันที แล้วหญิงสาวจึงยอบกายเคารพอย่างอ่อนช้อย

    ยินดีที่ได้รู้จักอย่างเป็นทางการเช่นเดียวกันเพคะ

    เดี๋ยวพี่จะพาเจ้าหลวงเสด็จชมนอกเมือง เจ้ากลับตำหนักไปก่อนเถอะ มีอะไรเอาไว้ค่อยคุยกันวันหลัง

    เพคะ

    เดี๋ยวซิพระเจ้าค่ะ ถ้าไม่รังเกียจก็เสด็จด้วยกันซิพระเจ้าค่ะ ไปกันหลายๆคนสนุกดี เจ้าหลวงธราธรตรัสขึ้นก่อนที่หญิงสาวจะก้าวออกไป

    เอ่อ... หญิงสาวถึงกับอ้ำอึ้งพูดไม่ออก

    ว่าอย่างไรเล่า...พระเจ้าค่ะ ชายหนุ่มย้ำถามอีกครั้ง

    หรือว่าทรงรังเกียจ

    หามิได้เพคะ หม่อมฉันไม่อยากให้ต้องทรงรอ คือหม่อมฉันต้องไปเปลี่ยนชุดก่อน ใส่ชุดนี้คงไม่เหมาะกับการขี่ม้า หญิงสาวหาข้ออ้าง

    ไม่เป็นไร หม่อมฉันรอได้ ชายหนุ่มเอ่ยขึ้นอย่างไม่ทุกข์ร้อน หญิงสาวมองพระพักตร์พระเชษฐา อย่างหาตัวช่วย แต่พระเชษฐาที่ไม่ทรงรู้อะไรไม่

    รีบไปซิกัญญา อย่าให้แขกต้องรอนาน

    เพคะ เจ้าพี่ องค์หญิงแก้วกัญญาแห่งสัจจาวรรดิ์ถึงกับกลืนไม่เข้าคายไม่ออก ครั้นเสด็จไปด้วยมีหวังอาจถูกปลงพระชนม์เป็นแน่ แต่ครั้นจะไม่ไปก็ไม่ได้ ก็เลยจำต้องทำใจดีสู้เสือ

     

    หลังจากที่องค์หญิงแก้วกัญญาทรงกลับไปเปลี่ยนฉลองพระองค์เสร็จ ขบวนเสด็จก็ถูกตั้งขึ้นเป็นที่เรียบร้อย แต่ก่อนที่ขบวนเสด็จจะเคลื่อนออกไปนั้น ก็มีแขกผู้ที่ไม่ได้รับเชิญเข้ามาขวางเอาไว้

    จะเสด็จไหนกันหรือพระเจ้าค่ะ น้ำเสียงคุ้นหูของศัตรูหมายเลขหนึ่งของเจ้าหลวงธราธรดังขึ้น

    เจ้าหลวงอาทิกร ยินดีที่ได้พบพระเจ้าค่ะ องค์ชายสิปปกรตรัสขึ้นด้วยไมตรี

    ยินดีเช่นกันน้องสิปปกรน้องหญิงแก้วกัญญา เจ้าหลวงอาทิกรตรัสขึ้นอย่างเป็นกันเองจนน่าหมั่นไส้

    ว่าแต่กำลังจะไปไหนกันหรือ

    พวกเรากำลังจะออกไปนอกวังพระเจ้าค่ะ สนพระทัยเสด็จด้วยกันหรือไม่พระเจ้าค่ะ องค์ชายสิปปกรตรัสชักชวนเจ้าหลวงอาทิกร

    สนใจซิน้องสิปปกร สนใจมากๆเจ้าหลวงอาทิกรตรัสขึ้นพลางทอดพระเนตรไปยังเจ้าหลวงธราธรที่บัดนี้พระพักตร์ขมวด บ่งบอกได้ว่าทรงกริ้วจัด

    ทหารไปเตรียมม้ามาให้เจ้าหลวงอาทิกรด้วย องค์ชายสิปปกรร้องสั่งขึ้น ไม่นานนักอาชาที่สั่งให้หาก็มาถึง เจ้าหลวงอาทิกรเสด็จขึ้นไปประทับแล้วควบให้ย่างเหยาะแหยะมาข้างๆเจ้าหลวงธราธร

    ยินดีที่ได้พบกันอีกครั้งนะเจ้าหลวงธราธร ไม่คิดเหมือนกันว่าจะมาเจอพระองค์ที่นี่

    งั้นรึ แต่เราเตรียมใจไว้แล้วแหละว่าจะต้องเจอพระองค์ที่นี่ เจ้าหลวงธราธรตรัสพลางมองพระพักตร์ของเจ้าหลวงอาทิกรเขม็ง อย่างเอาเรื่อง

    งานนี้ใครไม่มาก็คงโง่เต็มทีแล้ว สุรเสียงเรียบๆตรัสขึ้น แต่ยังไม่ทันที่เจ้าหลวงอาทิกรจะได้เอาคืน องค์ชายสิปปกรก็ตรัสขึ้นมาเสียก่อน

    เชิญเสด็จเถอะพระเจ้าค่ะ เดี๋ยวสายแล้วจะร้อน

    เมื่อองค์ชายตรัสเช่นนั้นขบวนเสด็จจึงได้ฤกษ์ได้ยามออกจากพระราชวังเสียที แต่กระนั้นเจ้าหลวงอาทิกรก็ไม่ปล่อยเวลาให้เสียเปล่า ควบม้าตามติดองค์หญิงแก้วกัญญามิห่าง สร้างความโกรธาให้เจ้าหลวงธราธรมิน้อย โมโหทั้งเจ้าหลวงอาทิกร รวมทั้งแม่สาวน้อยหน้าแฉล้มที่บังอาจปิดบังความจริงกับพระองค์ว่านางเป็นใครมาจากไหน ปล่อยให้พระองค์ข่มขู่อยู่ได้เป็นนานโดยไม่ปริปากบอกสักคำ

    ขบวนเสด็จจึงเคลื่อนออกจากพระราชวังไปยังสถานที่ต่างๆ มากมายก่อนจะจบลงที่น้ำตกเรื่องชื่อของสัจจาวรรดิ์ สายธารฉ่ำเย็นไหลตกลงมาจากหน้าผาสูง มีละอองน้ำกระเด็นกระทบกับแสงแดดเกิดเป็นรุ้งสีสวย แล้วสายธารก็แยกย้ายกันออกเป็นสายเล็กๆกระจายตัวออกไป ทำให้บรรยากาศโดยรอบดูสดชื่น จนทำให้เจ้าหลวงธราธรถึงกับสูดพระปัสสาสะเข้าลึกเพื่อรับเอาอากาศเย็นๆ

    เป็นอย่างไรพระเจ้าค่ะ ทรงชอบหรือไม่ องค์ชายสิปปกรตรัสถามขึ้น

    อื่ม...ที่นี่สวยมาก อากาศดี บรรยากาศดี

    พักดื่มด่ำบรรยากาศกันสักพักแล้วจึงค่อยเสด็จกลับพระราชวังดีไหมพระเจ้าค่ะ

    ก็แล้วแต่เจ้าของบ้านจะกรุณา

    เช่นนั้นตกลงตามนี้ก็แล้วกันพระเจ้าค่ะ หม่อมฉันขอตัวไปสั่งทหารจัดเวรยามอารักขาความปลอดภัยก่อน

    เชิญเถอะตามสบาย

    เมื่อองค์ชายสิปปกรเสด็จจากไป เจ้าของร่างสูงสง่าก็เสด็จพระราชดำเนินไปตามแนวหินริมน้ำตกไปเรื่อยๆ สายน้ำสาดกระเซ็นเป็นละอองบางๆสร้างความชุ่มชื่นให้กับต้นไม่นานาชนิดที่รายล้อมอยู่ด้าน ต้นไม้ทุกต้นในบริเวณนี้สีเขียวครึ้มตั้งแต่โคนต้นจนถึงปลายใบ ที่โคนต้นมักปกคลุมด้วยพวกมอสและเพิร์นขยับขึ้นไปก็เป็นพวกกล้วยไม้นานาพันธุ์ที่ออกดอกหลากสีสันตระการตาจนแทบอดใจไม่ไหวที่จะไปเก็บมาครอบครอง ดังเช่นที่หญิงสาวแสนสวยนางหนึ่งกำลังทำอยู่ในขณะนี้

    ดอกกล้วยไม้สีชมพูสวยติดอยู่กับกิ่งไม้ที่ดูไม่สูงนักสำหรับเจ้าหลวงธราธร แต่สำหรับหญิงสาวดูเหมือนมันจะสูงเกินไปสำหรับนาง เพราะนางทั้งพยายามเขย่งตัวก็แล้ว หากิ่งไม้ที่หล่นตามพื้นมาเกี่ยวมาดึงก็แล้ว แต่สุดท้ายก็ยังไม่ได้ดอกไม้ช่อนั้นมาครอบครองอยู่ดี เจ้าหลวงธราธรประทับยืนมองความพยายามของนางอยู่ครู่ใหญ่ ด้วยรอยแย้มพระสรวลอย่างมีความสุข ก่อนจะเสด็จเข้าไปตรงจุดที่หญิงสาวยืนทำเก้ๆกังๆ

    ในที่สุดความพยายามของหญิงสาวก็เริ่มจะหมดลง นางทิ้งไม้ที่ใช้เกี่ยวอย่างไม่ใยดี แล้วพยายามเขย่งปลายเท้าเอื้อมหยิบดูอีกครั้ง แต่จนแล้วจนรอดก็เอื้อมไม่ถึงอยู่ดี

    โธ่เอ๊ย!”

    อีกนิดเดียวเอง หญิงสาวบ่นอุบด้วยความเสียดาย

    ขอลองอีกครั้งแล้วกัน ครั้งสุดท้ายท้ายสุดจริงๆ

    องค์หญิงแก้วกัญญาพยายามอีกครั้งดังที่ตั้งพระทัย ปลายเท้าค่อยๆเขย่งขึ้นจากพื้นดินพลางกระโดดนิดๆเพื่อเพิ่มความสูง สาวมือเรียวๆก็เอื้อมออกไปไขว่คว้าอย่างสุดความสามารถ แต่แล้วก็มีมือๆหนึ่งมาชิงตัดหน้าเก็บดอกไม้ของนางไปเสียดื้อๆ ดอกกล้วยไม้ช่องามตกไปอยู่ในมือมหาโจรที่ชิงตัดหน้ากันไปต่อหน้าต่อตา ทั้งๆที่นางเห็นก่อนและพยายามจะเก็บอยู่แท้ๆ

    สวย... สายพระเนตรคมทอดมองไปยังดอกไม้ในมือ

    หอม...พระนาสิกโด่งสำผัสที่กลีบดอกไม้เบาๆ อย่างเยาะเย้ย

    องค์หญิงแก้วกัญญาทอดพระเนตรมองดอกไม้ในมือมหาโจรอย่างเสียดาย แล้วถอยออกห่างจากชายหนุ่มอย่างระแวดระวังตัว ก่อนจะเปิดศึกชิงดอกไม้

    ดอกไม้นั่นหม่อมฉันเป็นคนเห็นก่อนนะเพคะ หญิงสาวเอ่ยขึ้นอย่างไม่พอพระทัย

    เห็นก่อนแล้วไง เจ้าหลวงธราธรย้อนถาม

    ก็ไม่แล้วไง ตามมารยาทมันก็เป็นสิทธิ์ของหม่อมฉันที่จะเก็บมันมาครอบครอง ไม่ใช่มาชิงตัดหน้ากันแบบนี้หญิงสาวเอ่ยขึ้นอย่างไม่ยอม

    ก็ไหนเจ้าบอกว่าจะลองเป็นครั้งสุดท้ายแล้วนี่ ข้าได้ยิน

    มันก็เรื่องของหม่อมฉัน ไม่เกี่ยวกับพระองค์

    พูดอย่างกับว่าถึงข้าไม่เก็บ แล้วคนแคระอย่างเจ้าจะมีปัญญาเก็บ

    ฝ่าบาท!” เสียงตวาดแว๊ดขึ้นเมื่อถูกเปลี่ยนว่าเป็นคนแคระ

    กล้าดีอย่างไงมาตรัสว่าหม่อมฉันเป็นคนแคระ

    แล้วเจ้าล่ะ กล้าดีอย่างไงมาโกหกคนอย่างเรา อยากแปรสภาพจากคนแคระเป็นปุ๋ยบำรุงต้นไม้นักใช่ไหม ฝ่ายชายเสียงสูงกลับไปบ้าง พลางก้าวพระบาทเข้าไปประชิดหญิงสาวแล้วกล่าวคำข่มขู่อีกคำรบ

    คนตายพูดไม่ได้ เถียงไม่ได้ บอกใครก็ไม่ได้

    องค์หญิงแก้วกัญญาถอยหลังหนีอย่างหวาดๆ จนเกือบสุดแผ่นหินที่ประทับยืน เบื้องล่างจากแผ่นหินมีกระแสน้ำที่ไหลแรงพอตัว พอที่จะพัดเอาร่างบางๆลอยไปได้ไกลหลายโยชน์ เจ้าหลวงธราธรเห็นท่าไม่ดีมีหวังองค์หญิงแก้วกัญญาคงถอยหลังไปจนตกลงไปในน้ำเป็นแน่  จึงหยุดการคุกคามไม่ก้าวพระบาทต่อพลางตรัสขึ้น

    หยุด!”

    ว๊าย!”

    ผิดคาดคำตรัสสั่งให้หยุดปานคำสั่งให้นางถอยต่อ เจ้าของร่างบอบบางจึงร้องออกมาอย่างตกใจ นัยน์เนตรแสนสวยหลับปี๋ด้วยไม่อาจคาดเดาได้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับตนเองทุกอย่างในโลกเหมือนหยุดนิ่ง

     เจ้าหลวงธราธรปล่อยดอกไม้ออกจากพระหัตถ์มาคว้าร่างบอบบางขององค์หญิงแก้วกัญญาไว้ได้ทันก่อนที่ร่างบอบบางจะตกลงไปในน้ำ แรงดึงของเจ้าหลวงธราธรทำให้ร่างบอบบางมาประทับกับร่างของพระองค์อย่างแรง จนทำให้ทั้งสองพระองค์เซถลาล้มลงไปด้วยกัน

    พระเนตรงดงามที่หลับปี๋ค่อยลืมขึ้นมาสบกับพระเนตรสีนิลกาฬของอีกฝ่าย สายพระเนตรสองคู่สบประสานกันอยู่ภายในอ้อมกอดของกันและกัน ความรู้สึกแปลกค่อยๆก่อกำเนิดขึ้นมาอย่างที่ไม่ทันจะตั้งองค์ แล้วหญิงสาวรีบดันกายออกห่างแล้วรีบลุกขึ้นด้วยความเก้อเขิน

    ขอบพระทัยเพคะ ที่ไม่ปล่อยให้หม่อมฉันตกลงไปในน้ำ หญิงสาวเอ่ยขอบคุณ ชายหนุ่มพยักหน้ารับคำขอบคุณด้วยรอยแย้มพระสรวล หญิงสาวยิ้มดีใจกับรอยยิ้มที่ได้รับ ก่อนจะอยากเข้าไปแว๊ะอกไปชกปากเจ้าหลวงธราธรในนาทีต่อมา เมื่อรอยยิ้มจริงใจกลายเป็นยิ้มเย้ยขึ้นมาเสียดื้อๆ

    คิดผิดก็คิดใหม่ซะองค์หญิง

    ที่ข้าช่วยเจ้าข้าไม่ได้เห็นแก่มนุษยธรรมอะไรที่ไหน และข้าไม่ได้อยากจะช่วยเจ้า ข้าคิดแค่เพียงว่า เจ้าจะมาตกน้ำตายง่ายๆแบบนี้ไม่ได้ เจ้าจะต้องถูกข้าฆ่าเท่านั้น

    เมื่อได้ยินคำตรัสองค์หญิงแก้วกัญญาถึงกับผงะ ถอยห่างออกมาอีกครั้ง แล้วมองสบพระพักตร์ของเจ้าหลวงธราธร และรีบจ้ำอ้าวเสด็จหนีออกไปก่อนจะไม่มีโอกาสได้หนี

    เดี๋ยวองค์หญิง จะหนีไปไหน!” สุรเสียงเข้มตรัสเสียงดัง ทำเอาองค์หญิงสะดุ้งสุดตัวหยุดกึกทันที

    อยากได้นักไม่ใช่หรือดอกไม้นี่ เจ้าหลวงธราธรเสด็จไปก้มเก็บดอกกล้วยไม้ที่หล่นอยู่กับพื้นขึ้นมาปัดๆพอเป็นพิธี แล้วส่งให้หญิงสาว องค์หญิงแก้วกัญญารับมาอย่างงงๆ ว่าตกลงจะเอาอย่างไงกันแน่ เพราะประเดี๋ยวก็ทรงดีประเดี๋ยวก็ทรงร้าย

    ทรงให้หม่อมฉัน...หรือเพคะ

    ก็รับไปแล้ว ยังจะมาถามเอาอะไรอีก สิ้นคำตรัสองค์หญิงก็ยิ้มแห้งๆ แล้วค้อมพระวรกายให้อย่างเร็วๆ ก่อนจะทรงวิ่งอย่างลืมพระองค์

     

    เมื่อกลับมาถึงพลับพลาที่ประทับชั่วคราวก็ทรงพบว่าพระเชษฐาและเจ้าหลวงอาทิกรกำลังประทับนั่งดื่มพระสุธารสชากันอยู่ ทันทีที่เจ้าหลวงอาทิกรทรงทอดพระเนตรเห็นองค์หญิงแก้วกัญญาก็รีบเสด็จไปหานางในทันที

    น้องหญิงไปไหนมาคะ

    คือหญิง...หญิงไปเดินเล่นมาเพคะ

    จะไปเดินเล่นทำไมไม่บอกพี่ พี่จะได้ไปเป็นเพื่อนน้ำเสียงและสายตากรุ้มกริ่มถูกส่งไปยังหญิงสาว

    ไหนมาไหนคนเดียวมันอันตรายนะคะ

    ก็แล้วใครว่านางไปคนเดียวเล่า สุรเสียงเข้มๆของเจ้าหลวงธราธรแทรกขึ้นมา จนทำให้เจ้าหลวงอาทิกรต้องหันไปทอดพระเนตรมองยังต้นกำเนิดเสียง

    องค์หญิงไปเดินเล่นกับหม่อมฉันมา และก็แวะไปเก็บกล้วยไม้ป่าติดไม้ติดมือกลับมาเป็นที่ระลึก เนื่องในโอกาสที่เราสองคนได้ไปเที่ยวด้วยกัน เจ้าหลวงธราธรตรัสเน้นคำว่าเราสองคนอย่างชัดถ้อยชัดคำ

    จริงไหมพระเจ้าค่ะองค์หญิง เจ้าหลวงธราธรเสด็จเข้ามาใกล้องค์หญิงแก้วกัญญา พลางแย้มพระสรวลทรงเสน่ห์ไปยังหญิงสาว หญิงสาวพยักหน้าหงึกหงักเป็นคำตอบ รู้ทั้งรู้ว่าเป็นกิริยาที่ไม่ควรอย่างยิ่งแต่ก็เป็นการตอบที่ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้แล้ว

    หญิงรู้สึกเหนื่อย หญิงขอตัวนะคะ หญิงสาวตัดบทเลี่ยงตัวออกมาจากสถานการณ์อันน่าอึดอัด

    เจ้าหลวงธราธรมองตามหญิงสาว แล้วจึงเสด็จผ่านเจ้าหลวงอาทิกรมาประทับร่วมโต๊ะพระสุธารสชาที่มีองค์ชายสิปปกรประทับนั่งอยู่ จังหวะที่เสด็จผ่านเจ้าหลวงอาทิกร น้ำเสียงเย้ยเบาๆก็ดังขึ้น

    วันนี้ข้านำเจ้าไปหนึ่งก้าวแล้ว และก็จะเป็นเช่นนี้ตลอดไป เจ้าหลวงธราธรเดินกระทบพระอังสาของอีกฝ่ายผ่านเข้าไปประทับนั่งยังพระเก้าอี้ สร้างความไม่พอพระทัยแก่เจ้าหลวงอาทิกรเป็นอย่างมาก

    มันไม่ง่ายอย่างนั้นหรอกไอ้ธราธร หวังจะเป็นเช่นนี้ตลอดไปงั้นหรือ...ฝันไปเถอะ ทรงประกาศกร้าวในความคิด แล้วเสด็จไปนั่งร่วมโต๊ะต่ออย่างแค้นเคือง



    ....................................................................

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×