คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : NIGHT2 :: comeback
NIGHT 2
เสียงกุกกักเหมือนมีใครบางคนกำลังทำอะไรบางอย่างอยู่ภายนอกนั้นทำให้กายหนาที่นอนหายใจสม่ำเสมอบนเตียงขาวถึงกับนิ่วหน้าเพราะความรำคาญ พลิกตัวหันหลังให้ไปอีกทางเพื่อเลี่ยงจากเสียงนั่นพร้อมกับการถอนใจเฮือกใหญ่ และไม่นาน ลมหายใจนั่นก้กลับมาสม่ำเสมออีกครั้ง
แต่แล้วชานยอลก้ต้องขมวดคิ้วอีกครั้ง เมื่อรู้สึกถึงบางอย่างที่ตอนนี้กำลังรบกวนการนอนของเขาอีกแล้ว
คราวนี้มันไม่ใช่เสียงกุกกักอย่างเคย
แต่มันคือความรู้สึกเหมือนมีลมหายใจอุ่นร้อนกำลังรดอยู่บริเวณปลายสันจมูกของเขาอย่างไม่มีทีท่าว่าจะหยุดเลยแม้แต่น้อย ลมหายใจนั่นรดเลื่อนไปมาบริเวณใบหน้า ชานยอลยังคงนอนนิ่งไม่ลืมตา ปล่อยการรบกวนนั้นให้ดำเนินต่อไป
แต่เหมือนคนรบกวนจะไม่หยุดแค่นั้น เมื่อจู่ๆ แรงยวบบนเตียงก้เกิดขึ้น ชานยอลตอนนี้หายจากอาการงัวเงียเสียแล้ว แต่เขายังคงหลับตาเพื่อรอดูว่าบุคคลที่มาก่อกวนเขาในเวลาดึกดื่นเช่นนี้ จะทำอะไรต่อไป
แรงยวบนั่นเคลื่อนใกล้ตัวเขามาเรื่อยๆ เรื่อยๆ ก่อนจะหยุดลง..
เขารู้สึกเหมือนร่างตรงหน้ากำลังหยุดนิ่งจ้องมองเขา ไม่ได้ละ เขาต้องทำอะไรสักอย่างเพื่อตลบหลังจอมกวนนี่ซ่ะ
ไม่รอช้า ชานยอลรีบพุ่งตัวเอาผ้าห่มที่คลุมร่างตัวเองนั้น ไปคลุมอีกร่างแทน แรงดิ้นคลุกขลักใต้ผ้านวมหนานั่นทำให้ชานยอลรู้สึกเป็นผู้ชนะ คิดจะแกล้งเขา ก้ต้องเจอแบบนี้แหล่ะ
ชานยอลเคลื่อนตัวขึ้นคร่อมร่างใต้ผ้าห่มทันที
“คิดจะกวนผมหรอ แบบนี้ต้องโดน” มือหนาดึงผ้าห่มออกจากบุคคลใต้ร่างอย่างรวดเร็ว หลังจากที่เปิดผ้าห่มออก ชานยอลถึงกับยกมือค้างกลางอากาศ เมื่อบุคคลตรงหน้านั้น ไม่ใช่คนที่เขาคิดไว้
“แบคฮยอน..” ชานยอลพูดชื่อนั่นออกมาอย่างลืมตัว สีหน้างงปนตกใจยังคงเด่นชัดบนใบหน้าหล่อไร้กรอบแว่น ทำเอาคนมาเยี่ยมถึงกับสงสัยในท่าทีที่แปลกไปของแฟนตัวสูง
“ทำไมทำหน้างั้น ตกใจไร?” แบคฮยอนเอียงคอถามออกมาเมื่อเห็นว่าอีกคนที่คร่อมเขา ไม่ยอมขยับไปไหน
“หะ ห้ะ เปล่า” ชานยอลรีบเก็บสีหน้าให้เป็นปกติก่อนจะพูดปฏิเสธ ร่างสูงค่อยๆเคลื่อนตัวลงจากการคร่อมร่างเล็กมานั่งข้างๆแทน แบคฮยอนก้ลุกขึ้นนั่งหันหน้าเขาหาชานยอลเช่นกัน
“ไม่เจอกันตั้งสองเดือน คิดถึงจะแย่” ไม่พูดเปล่า แบคฮยอนเอื้อมแขนมาโอบรอบคอร่างสูง รั้งเบาๆให้อีกคนโน้มลงมาอย่างที่เขาต้องการ ก่อนจะทางริมฝีปากอุ่นร้อนลงบนริมฝีปากอีกคน
ชานยอลจูบตอบแบคฮยอนเหมือนทุกครั้งที่เจอกัน ไม่ใช่ว่าเขาไม่คิดถึง ไม่ใช่ว่าเขาไม่โหยหา แต่ที่เขาไม่คอยตาม ไม่เซ้าซี้ ไม่งี่เง่าเมื่ออีกคนหายไป เพราะเขาไม่อยากจะทำลายความสัมพันธ์เพียงเพราะความไม่เอาไหนของตัวเอง ในเมื่ออีกคนบอกว่าทำงาน เขาก้จะปล่อยให้ทำ เมื่ออีกคนบอกว่าจะออกไปอยู่ที่อื่น เขาก้ได้แต่ยอมให้อีกคนไปอย่างไม่มีปากมีเสียง เขารู้ว่าแบคฮยอนเป็นคนอย่างไร เขาไม่อยากเสียอีกคนไปตอนนี้ เลยได้แต่รั้งไว้แบบเบาๆ และอยู่ในที่ที่อีกคนจัดไว้ให้อย่างเงียบๆ
“ คิดถึงเหมือนกัน แต่ไหนนายบอกจะกลับอาทิตย์หน้า” ใช่ ก้เมื่อวานที่โทรมาหาเขา บอกเขาว่าจะมาค้างด้วยตอนกลางสัปดาห์หน้า แต่ไหงวันนี้มาโผล่บนเตียงเขาได้ละ
“คิดถึงจนอดใจไม่ไหว เลยทิ้งงานไว้แล้วบึ่งมานี่ไง” แบคฮยอนหอมซ้ายหอมขวาจนชานยอลอดไม่ได้ที่จะหัวเราะ เพราะงี้ไง เขาถึงไม่อยากปล่อยแบคฮยอนไปตอนนี้
ต่อให้อีกคนจะทำร้ายเขาลับหลังขนาดไหนก้เถอะ...
“จูบฉันทั้งที่ฉันยังไม่แปรงฟัน หอมฉันทั้งที่ฉันยังไม่ล้างหน้า ไม่เหม็นรึไง”
“นี่ขนาดไม่ได้แปรงฟันปากยังหวานขนาดนี้”
“ ...ชิมอีกทีมั้ย”
15%
นี่ผมกำลังทำอะไร ?
คำถามนี่ผุดขึ้นมาในหัวไม่รู้กี่ล้านครั้ง นับตั้งแต่ประตูห้องของชานยอลนั้นถูกเปิดออกจากผู้มาใหม่แต่ดูเหมือนจะคุ้นเคยเป็นอย่างดีกับที่นี่
ใช่ เขาคือแฟนของชานยอล ที่ชื่อว่า แบคฮยอน
ผมไม่รู้ว่า สิ่งที่ผมกำลังตอนนี้มันถูกต้องหรือไม่ เพราะตอนนี้ ผมกำลังนั่งมองคนสองคนพลอดรักกันในห้องกันอย่างใจจดใจจ่อ ผมนั่งมองคู่รักตรงหน้า ผลัดกันส่งคำหวานชื่นให้แก่กัน
แต่ที่มันแปลกก้คือ ทำไมก้อนเนื้อข้างซ้ายของวิญญาณอย่างผมถึงรู้สึกปวดหนึบขึ้นมาได้ละ ?
นี่ผมไม่ได้รู้สึกอะไรเกินเลยไปกับชานยอลใช่มั้ย ?
แล้วถ้าใช่ ? ผมไปรักเขาตอนไหนกันละ ?
เวลาแค่ไม่กี่วันนี้จะทำให้ผมรักเขาได้เลยงั้นหรอ ?
ไม่จริงมั้ง..
“อึก อื้อออ “ เสียงครางอื้ออึงในลำคอ ทำเอาผีน้อยที่นั่งแอยู่บนหลังตู้ผ้าต้องหลุดออกจากภวังค์ความคิดของตัวเอง แล้วหันไปสนใจที่มาของเสียง
“เฮือก “ ผีน้อยเหลือกตาเบิกกว้าง เมื่อเห็นภาพตรงหน้า
ใช่ ตอนนี้แบคฮยอนแทบไม่เหลือเสื้อผ้าบนตัวแล้ว แบบนี้เขาจะทนดูอยู่ต่อไปงั้นหรอ ?
เมื่อคิดได้ดังนั้น วิญญาณน้อยจึงลากตัวเองผ่านกำแพงสีขาวออกมายังอีกห้อง ผ่อนลมหายใจยาวพร้อมกับทิ้งตัวลงบนโซฟา
มันไม่ได้ยวบอย่างที่ควรจะเป็น มันไม่เป็นอะไรเลยด้วยซ้ำ ก้แหงสิ เขาเป็นวิญญาณนี่
จะให้มีน้ำหนักอะไรลงไปกดทับโซฟาได้ละ
“บ้าชะมัด “ ผีน้อยพูดพลางยกกำปั้นขึ้นมาทุบอกซ้ายของตัวเองจนดังอัก สองสามครั้ง แต่ความเจ็บนั่นไม่ได้แทนที่ความเจ็บที่อยู่ภายในเลย
“อา เกิดอะไรขึ้นกับใจฉันเนี่ย ฮึก” เมื่อไม่รู้สาเหตุของอาการที่เป็นอยู่ เขาก้ไม่รู้จะแก้มันด้วยวิธีไหน ตอนนี้เลยทำได้แค่ร้องไห้ เพื่อระบายบางสิ่งบางอย่างที่เขาไม่รู้ว่าคืออะไรออกมา
แต่มันจะช่วยได้แค่ไหน ในเมื่อ..
“อึก อือ ชานยอลอา” เสียงนั่น
“อืออ แบค..” เสียงนั่น
“อ้ะ อืมมม”
“ฮึก ก “ฝ่ามือเล็กที่ทาบทับอกถูกเปลี่ยนเป็นยกขึ้นมาปิดใบหูทั้งสองข้างเพื่อปิดการรับรู้จากเสียงที่เขาไม่อยากได้ยิน สองตาปิดลงพร้อมแน่นหยดน้ำใสๆที่ไหลรินออกมาจากดวงตากลมโต
“ฮึกก” เสียงสะอื้นร่ำไห้ของเขาไม่สามารถกลบเสียงสวาทของคู่รักในห้องนั้นได้เลย ไม่เลยสักนิด
ตอนนี้เขาควรทำยังไงกับเหตุการณ์ตรงหน้านี้
จะทนฟังต่อไปอย่างนี้หรอ ?
“ไม่ ! ฮึก” อยู่ๆ ปากอวบอิ่มก้โพล่งคำหนึ่งออกมา ผีน้อยใช้มือเดิมปาดน้ำตาที่เปรอะเปื้อนใบหน้าออกลวกๆ สองขาที่เคยคดงอจากการก้มหน้าร้องไห้ ตอนนี้ถูกทาบทับลงบนพื้น ก่อนจะก้าวเดินผ่านกำแพงเข้าไปยังห้องที่ออกมาเมื่อครู่
ภาพตรงหน้าทำเอาขาของเขาแทบไม่มีแรงจะยืน แต่มันไม่ใช่เวลาที่จะมาทรุดตอนนี้
เพล้งงง !
“เฮือก !” เสียงที่แสดงถึงความตกใจดังมาจากคนสองคนที่กำลังพลอดรักกันบนเตียงย่างเมามัน แต่ก้ต้องหยุดชะงัก เมื่อจู่ แจกันที่วางอยู่บนโต๊ะไม่ไกลจากเตียงนอนนั่นดันหล่นลงใส่พื้นบริเวณที่ไม่มีพรมอย่างแรงราวกับมีใครยกมาทุ่มลง
ใช่ มีคนตั้งใจยกมันขึ้นแล้วทุ่มลงพื้นอย่างแรง
แบคฮยอนมองไปยังแจกันที่แตกกระจายเบื้องหน้าอย่างไม่เข้าใจ ผิดกับชานยอล ที่มองคนที่ทำให้มันแตกอย่างไม่ค่อยพอใจนัก
“มันหล่นมาได้ไง” เป็นแบคฮยอนที่เอ่ยถามขึ้นมา ชานยอลผ่อนลมหายใจช้าๆ มองไปยังตัวต้นเหตุ
ผีน้อยที่ตอนนี้ดวงตาแดงก่ำกำลังจ้องหน้าเขาไม่ต่างกัน แต่เพียงแค่ไม่นาน ร่างนั้นก้พลันหายไปในอากาศ
“ชานยอล..” แบคฮยอนกำลังจะอ้าปากถามอีกครั้ง
“ไม่มีอะไรหรอก ทำให้เสร็จแล้วไปอาบน้ำเถอะ” แบคฮยอนเลยเก็บความสงสัยนั้นไว้ ก่อนจะเริ่มบทรักของเขาต่อ ตอนนี้ชานยอลหมดอารมณ์ทำเรื่องอย่างว่าไปเสียแล้ว
ในหัวตอนนี้มีแต่ความสงสัย ว่าผีตนนั้น ทำอย่างนั้นไปเพราะอะไร ?
คุณไม่พอใจที่ผมนอนกับแฟนผมงั้นหรอ ?
แล้วทำไมคุณต้องไม่พอใจด้วยละ ?
.
.
.
“คิมจงอิน..”
“...”
“นายช่วยออกมาคุยกับฉันหน่อยสิ ฮึก”
“...”
“ฉันควรจะทำยังไงดีจงอิน ฮึก”
“...”
“บอกหน่อยว่าฉันควรจะทำยังไง”
“หายไปหลายวัน แล้วกลับมาหาฉันด้วยสภาพนี้เนี่ยนะ”
“ฮึก “
“ร้องไห้ทำไม”
“ฮึก ฉ ฉันเป็นอะไรไม่รู้”
จงอินมองท่าทางทั้งหมดก้เข้าใจได้ดี ไออาการที่ร้องไห้ฟูมฟายพร้อมกับการกุมอกซ้ายนั่น ไม่ใช่ว่าเขาไม่เคยเป็น เขาเข้าใจว่าคนตรงหน้านี้รู้สึกยังไง
นายเป็นอย่างนี้อีกแล้วนะ
“เจ็บใช่มั้ย ?”
ไม่มีเสียงตอบรับแต่อย่างใด ร่างตรงหน้าทำเพียงพยักหน้าหงึกหงักไปพร้อมกับน้ำตาที่กำลังพรั่งพรูออกมาไม่ขาดสาย
“เจ็บก้ร้องออกมา” จงอินทำได้แค่นี้จริงๆ ในเวลานี้ เขาไม่สามารถพูดอะไรได้อีกแล้ว
ไม่ใช่สิ เขาพูดอะไรมาไม่ได้ตั้งนานแล้ว
“ทำไมฉันเป็นแบบนี้นะคิมจงอิน เรื่องบ้าๆทำไมมันต้องเกิดขึ้นแต่กับฉันด้วย” ร่างเล็กตอนนี้กำลังอ่อนไหวเป็นอย่างมาก เขาไม่รู้หรอกว่าผีน้อยไปเจออะไรมา แต่นี่ไม่ใช่เวลาที่มาซักถามอะไร
“ทำไมมันต้องเป็นฉันที่มาเจอเรื่องแบบนี้ ตัวเองก้ไม่รู้จัก ร่างก้หาไม่เจอ หรือฉันเป็นผีอย่างที่ชานยอลว่าแล้วจริงๆ ฮึก”
“...”
“แล้วทำไมผีอย่างฉันถึงรู้สึกแบบนี้ด้วยละ ทำไมผีอย่างฉันถึงรู้สึกเจ็บ ฮึก จงอิน นายเป็นแบบฉันรึเปล่า”
ฉันเจ็บยิ่งกว่านายอีก เจ็บที่ไม่สามารถทำอะไรได้มากกว่านั่งข้างๆนายอย่างที่เคยทำ
“นายมีอย่างอื่นที่ต้องทำมากกว่ามานั่งร้องไห้แบบนี้นะ”
“ฮึก ก”
“สิ่งที่นายต้องทำคือหาร่างตัวเองให้เจอ แล้วจำเรื่องราวทุกอย่างให้ได้ก่อนที่มันจะสายเกินไป”
“...”
“ฉันพูดกับนายได้แค่นี้จริงๆ”
“แล้วทำไมนายไม่กลับเข้าร่าง ในเมื่อร่างกายนายก้อยู่ใกล้แค่นี้”
“มันยังไม่ถึงเวลา”
“ยังไง”
“ฉันก้รู้แค่นั้น”
“...”
“กลับไปในที่ของนายซะ นายไม่ควรมาเสียเวลาอยู่ตรงนี้ กลับไปตามหาความจริง กลับไปค้นหาตัวตนของนายซ่ะ”
“นั่นสินะ...”
“เลิกร้องไห้ได้แล้ว กลับไปหาชานยอลซ่ะ มีแค่เขาที่จะช่วยนายได้”
“ฉันไม่เข้าใจว่าทำไมต้องเป็นเขาด้วย แล้วไอความรู้สึกนี่มันคืออะไรกัน ฉันเป็นอะไร ?”
“...” ชานยอลคนเดียวเท่านั้นที่จะช่วยนายได้ แล้วไอความรู้สึกนั้นน่ะ
มันก้ความรู้สึกเดียวกับฉันนี่แหล่ะ
“จงอิน..”
“ฉันก้ไม่รู้หรอก ขอโทษด้วยนะที่ช่วยอะไรไม่ได้”
ขอโทษจริงๆ
.
.
.
.
ผีน้อยจำเป็นต้องกลับมาตามคำแนะนำของจงอิน เพราะด้วยเหตุผลร้อยแปดที่อีกคนพูด และเขาก้เห็นด้วย ตอนนี้เขาต้องสนใจเรื่องความทรงจำกับการคืนร่างก่อน หากว่าเขาไม่ได้เป็นผีไปจริงๆอ่ะนะ
สงสัยใช่มั้ยว่าทำไมเขาคุยกับจงอินได้
เขาเองก้ไม่เข้าใจเรื่องราวทั้งหมดสักเท่าไหร่ แต่ที่จำได้คือ เขาพบจงอินประสบอุบัติเหตุอยู่ที่ไหนสักที่ จากนั้นก้เหมือนมีอะไรสักอย่างสั่งให้เขาตามจงอินไปจนมาถึงโรงพยาบาลแห่งหนึ่ง แล้วจู่ๆจงอินก้เดินเข้ามาหาเขาด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยอะไรมากมาย
คำพูดที่เหมือนรู้จักเขา ท่าทางที่เหมือนคุ้นเคย แต่คำถามที่ว่า
‘นายมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง ?’ แต่แล้วจงอินก้ปิดปากเงียบไป ไม่พูดอะไรอีก
และในตอนนั้น ตอนที่มีชายร่างสูงสองคนเดินเข้าไปในห้องที่มีร่างของจงอินนอนห้อยสายระโยงรยางค์อยู่บนเตียงผู้ป่วย
เหมือนมีสัญญาณบางอย่างบอกให้เขาต้องจ้องมองผู้ชายตัวสูงใต้กรอบแว่น
จะว่ารู้จักก้ไม่ใช่ แต่ก้เหมือนมีอะไรบางอย่าง พอจะหันไปถามจงอินอีกที ก้ไม่รู้ว่าวิญญาณนั่นหายไปไหนแล้ว
และหลังจากวันนั้น ที่เขาตามชานยอลไปทุกที นี่ก้ผ่านมาหลายวันแล้ว เขาเพิ่งได้พบจงอินเป็นครั้งที่สอง แต่ครั้งนี้ ร่างกายของจงอินดูต่างจากเดิมมาก ผิวกายไม่ชัดเจนเหมือนของเขา มันค่อนข้างโปร่งแสงกว่าครั้งแรกที่เห็น แต่ก้ไม่อยากจะเอ่ยปากถามสักเท่าไหร่
และตอนนี้ เขาก้เชื่อฟังคำสั่งจงอิน และกลับมาที่ห้องชานยอลอีกครั้ง
แต่ทุกอย่างดูเงียบสงบดี คาดว่าคนทั้งคู่คงหลับกันไปเพราะความเพลีย
“สร้างปัญหาไว้แล้วก้หายหัว”
“เฮือก !” เสียงที่มาพร้อมกับไฟที่ถูกเปิดจนสว่างทั่วทั้งห้องทำเอาวิญญาณน้อยตกใจเป็นอย่างมาก นี่ไม่รู้ว่าผีหรือคนที่น่ากลัวกว่ากันแล้วเนี่ย
“ไง” นั่น ไหนจะสายตาคาดคั้นนั่นอีก ทำไมวันนี้ชานยอลดูน่ากลัวจังง่ะ เขาทำอะไรผิดงั้นหรอ ? (ยังไม่รู้ตัวอีก)
“ไงอะไร”
“เหอะ”
“แฟนคุณละ”
“กลับไปแล้ว”
“หะ” มาเอาเสร็จก้กลับงั้นหรอ ?
“ทำแบบนั้นทำไม ?” นอกจากจะไม่ตอบข้อสงสัยของผีตรงหน้า ชานยอลยังเบี่ยงประเด็นไปยังเรื่องที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้อีกด้วย
“ทำ ทำอะไร” จะตอบว่าไงดีว่ะเนี่ยย แกล้งซื่อไปก่อน -0-
“เหอะ ก้ไอที่ทุ่มแจกันผมไง แบคฮยอนไม่เห็น แต่ผมเห็น” ชานยอลจ้องหน้าผีน้อยอย่างเอาอีก แต่อีกคนกลับทำตาบ๊องแบ็วราวกับไม่รู้ไม่เห็นกับสิ่งที่ตัวเองก่อไว้
“มือไปโดน ...ผมตกใจภาพอุจาดตามากเกินไปหน่อย มือก้เลยไปถูกแจกันของคุณเข้า ขอโทษด้วยละกัน” แก้ตัวน้ำขุ่นๆไป รู้ทั้งรู้ว่าชานยอลไม่มีวันเชื่อคำพูดโกหกของเขาหรอก
“เหอะ ก้ได้ ครั้งนี้ผมยกให้”
ชานยอลแสยะยิ้มร้ายใส่อีกครั้ง แล้วเดินกลับไปยังห้องนอน ทิ้งให้ผีน้อยมองตามตาปริบๆ
“ไอบ้าเอ้ย” สบถด่าอีกคนที่กำลังจะเดินหายเข้าไปหลังประตูสีขาว ชานยอลชะงักมือค้างไว้ เหลือบสายตามองเจ้าของเสียงด่า
ไม่ใช่ว่าเขาไม่รู้ว่าดวงตาแดงก่ำนั้นเกิดจากอะไร แต่ที่เขาไม่รู้ก้คือ เพราะอะไรเจ้าผีนั้นถึงมีอาการแบบนั้น
เหมือนโกรธที่เขามีอะไรกับแบคฮยอนงั้นแหล่ะ
อยากจะถาม แต่ก้รู้ว่าอีกคนคงไม่มีทางปริปากบอกเป็นแน่
ไว้ค่อยหลอกถามวันอื่นก้แล้วกัน
.
.
.
ตีหนึ่งกว่าแล้ว ทำไมเขายังไม่หลับอีกนะ สมองเอาแต่คิดเรื่องบ้าซ้ำไปวนมาไม่รู้กี่รอบต่อกี่รอบจนรำคาญ
“ทำไมยังไม่หลับอีก” เสียงเล็กดังขึ้นข้างๆทำชานยอลต้องละความสนใจจากสิ่งอื่นแล้วหันไปมอง
“แล้วทำไมคุณไม่หลับ” ถามกลับเพราะเขาเองก้ไม่มีคำตอบจะให้เหมือนกัน
“ผีอย่างผมไม่จำเป็นต้องหลับก้ได้ แต่คนอย่างคุณนี่สิ ทำไม แฟนคุณทำคุณค้างหรอ ?” ชานยอลยกยิ้มกับคำพูกนั่นทันที
เข้าใจหาเรื่องมาแขวะจริงๆ
“ทำไม.. ” ร่างสูค่อยๆขยับตัวเข้าไปใกล้มากขึ้น ผีน้อยมองหน้าอีกคนด้วยสายตาหวาดระแวง
“...”
“ถ้าผมค้าง คุณจะช่วยผมหรอ” ปากอวบอิ่มอ้าค้างกับคำพูดนั่นทันที
“เอาหน้าออกไปเดี๋ยวนี้นะ ใครจะไปช่วยคุณกัน” มือเล็กผลักหน้าชานยอลออกทันที ร่างสูงตกใจเล็กน้อยเพราะนี่เป็นครั้งที่สองที่เขาโดนสัมผัสเต็มๆจังๆ
ไม่ค่อยจะชินสักเท่าไหร่แฮะ
ชานยอลล้มตัวลงนอนเช่นเดิม เกิดความเงียบขึ้นระหว่างเขาทั้งสองคนอีกครั้ง
“คุณ ทำได้ยังไง”
“หือ...”
“แจกันนั่นน่ะหรอ ? ผมบอกแล้วไงว่ามื..”
“ผมเห็นว่าคุณทุ่มมันลงพื้น แถมยังเป็นพื้นปูนด้วย ไม่ใช่พื้นพรม”
“...”
“คุณเป็นอะไร บอกผมได้มั้ย”
“...เปล่า”
“หืม”
“ผมไม่ได้เป็นอะไรสักหน่อย”
“คุณไม่ชอบใช่มั้ย”
“เปล่า”
“คุณทนไม่ได้ใช่รึเปล่า”
“...”
“คุณชอบผมหรอ ?”
“หะ”
100%
....
come back : ไรต์เตอร์ หรือแบคฮยอนนนนนน
5555555 ไม่เอาไม่มีเอ็นซี
จงอินคือ ?
จงอินคือ ?
จงอินคือ ?
แบคฮยอนนี่ยังไง เสร็จแล้วก้ไปเลย
ชานยอลนี่ยังไง ? ไหนว่าค่อยหลอกถามวันหลังฟร่ะ ?
โอ้ยไรต์ก้งง 5555
.
หายไปเป็นเดือนๆ 5555 สำนึกผิดอยู่ฮะ
สอบแกทแพทโน่นนี่นั่นนี่ อ่านหนังสือไม่หวาดไม่ไหว
เลยไม่มีเวลาจะมาแต่ง นี่จะว่างอยู่สักสองสัปดาห์
แล้วจะเวิล์ลทัวร์แล้วนะฮะ (เว่อร์)
ไล่ตามสอบเป็นว่าเล่น ฮ่าๆ
แต่จะพยายามไม่หายแบบนี้อีกนะ
คิดถึงรีดเดอร์จัง
ยังจะมีใครอ่านของผมอยู่ม้ายยยยยย?
ความคิดเห็น