ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    7DAY 8NIGHT - ( CHANSOO_ft.KaiBaekKris )

    ลำดับตอนที่ #5 : NIGHT2 :: comeback

    • อัปเดตล่าสุด 4 ธ.ค. 57






     

    NIGHT 2
     


         เสียงกุกกักเหมือนมีใครบางคนกำลังทำอะไรบางอย่างอยู่ภายนอกนั้นทำให้กายหนาที่นอนหายใจสม่ำเสมอบนเตียงขาวถึงกับนิ่วหน้าเพราะความรำคาญ  พลิกตัวหันหลังให้ไปอีกทางเพื่อเลี่ยงจากเสียงนั่นพร้อมกับการถอนใจเฮือกใหญ่  และไม่นาน ลมหายใจนั่นก้กลับมาสม่ำเสมออีกครั้ง

     

       แต่แล้วชานยอลก้ต้องขมวดคิ้วอีกครั้ง เมื่อรู้สึกถึงบางอย่างที่ตอนนี้กำลังรบกวนการนอนของเขาอีกแล้ว

    คราวนี้มันไม่ใช่เสียงกุกกักอย่างเคย

     

        แต่มันคือความรู้สึกเหมือนมีลมหายใจอุ่นร้อนกำลังรดอยู่บริเวณปลายสันจมูกของเขาอย่างไม่มีทีท่าว่าจะหยุดเลยแม้แต่น้อย   ลมหายใจนั่นรดเลื่อนไปมาบริเวณใบหน้า   ชานยอลยังคงนอนนิ่งไม่ลืมตา  ปล่อยการรบกวนนั้นให้ดำเนินต่อไป

     

      แต่เหมือนคนรบกวนจะไม่หยุดแค่นั้น  เมื่อจู่ๆ แรงยวบบนเตียงก้เกิดขึ้น  ชานยอลตอนนี้หายจากอาการงัวเงียเสียแล้ว  แต่เขายังคงหลับตาเพื่อรอดูว่าบุคคลที่มาก่อกวนเขาในเวลาดึกดื่นเช่นนี้ จะทำอะไรต่อไป

     

      แรงยวบนั่นเคลื่อนใกล้ตัวเขามาเรื่อยๆ   เรื่อยๆ  ก่อนจะหยุดลง..

     

    เขารู้สึกเหมือนร่างตรงหน้ากำลังหยุดนิ่งจ้องมองเขา  ไม่ได้ละ  เขาต้องทำอะไรสักอย่างเพื่อตลบหลังจอมกวนนี่ซ่ะ

     

       ไม่รอช้า  ชานยอลรีบพุ่งตัวเอาผ้าห่มที่คลุมร่างตัวเองนั้น ไปคลุมอีกร่างแทน  แรงดิ้นคลุกขลักใต้ผ้านวมหนานั่นทำให้ชานยอลรู้สึกเป็นผู้ชนะ  คิดจะแกล้งเขา ก้ต้องเจอแบบนี้แหล่ะ

       ชานยอลเคลื่อนตัวขึ้นคร่อมร่างใต้ผ้าห่มทันที

     

    “คิดจะกวนผมหรอ  แบบนี้ต้องโดน”  มือหนาดึงผ้าห่มออกจากบุคคลใต้ร่างอย่างรวดเร็ว  หลังจากที่เปิดผ้าห่มออก ชานยอลถึงกับยกมือค้างกลางอากาศ เมื่อบุคคลตรงหน้านั้น ไม่ใช่คนที่เขาคิดไว้

     

    “แบคฮยอน..”   ชานยอลพูดชื่อนั่นออกมาอย่างลืมตัว  สีหน้างงปนตกใจยังคงเด่นชัดบนใบหน้าหล่อไร้กรอบแว่น   ทำเอาคนมาเยี่ยมถึงกับสงสัยในท่าทีที่แปลกไปของแฟนตัวสูง

     

    “ทำไมทำหน้างั้น ตกใจไร?”  แบคฮยอนเอียงคอถามออกมาเมื่อเห็นว่าอีกคนที่คร่อมเขา ไม่ยอมขยับไปไหน

     

    “หะ  ห้ะ  เปล่า” ชานยอลรีบเก็บสีหน้าให้เป็นปกติก่อนจะพูดปฏิเสธ  ร่างสูงค่อยๆเคลื่อนตัวลงจากการคร่อมร่างเล็กมานั่งข้างๆแทน  แบคฮยอนก้ลุกขึ้นนั่งหันหน้าเขาหาชานยอลเช่นกัน

     

    “ไม่เจอกันตั้งสองเดือน  คิดถึงจะแย่”   ไม่พูดเปล่า  แบคฮยอนเอื้อมแขนมาโอบรอบคอร่างสูง รั้งเบาๆให้อีกคนโน้มลงมาอย่างที่เขาต้องการ ก่อนจะทางริมฝีปากอุ่นร้อนลงบนริมฝีปากอีกคน

     

       ชานยอลจูบตอบแบคฮยอนเหมือนทุกครั้งที่เจอกัน  ไม่ใช่ว่าเขาไม่คิดถึง  ไม่ใช่ว่าเขาไม่โหยหา   แต่ที่เขาไม่คอยตาม ไม่เซ้าซี้  ไม่งี่เง่าเมื่ออีกคนหายไป เพราะเขาไม่อยากจะทำลายความสัมพันธ์เพียงเพราะความไม่เอาไหนของตัวเอง   ในเมื่ออีกคนบอกว่าทำงาน เขาก้จะปล่อยให้ทำ  เมื่ออีกคนบอกว่าจะออกไปอยู่ที่อื่น เขาก้ได้แต่ยอมให้อีกคนไปอย่างไม่มีปากมีเสียง   เขารู้ว่าแบคฮยอนเป็นคนอย่างไร   เขาไม่อยากเสียอีกคนไปตอนนี้ เลยได้แต่รั้งไว้แบบเบาๆ และอยู่ในที่ที่อีกคนจัดไว้ให้อย่างเงียบๆ

     

    “ คิดถึงเหมือนกัน  แต่ไหนนายบอกจะกลับอาทิตย์หน้า”  ใช่ ก้เมื่อวานที่โทรมาหาเขา บอกเขาว่าจะมาค้างด้วยตอนกลางสัปดาห์หน้า  แต่ไหงวันนี้มาโผล่บนเตียงเขาได้ละ

     

    “คิดถึงจนอดใจไม่ไหว  เลยทิ้งงานไว้แล้วบึ่งมานี่ไง”  แบคฮยอนหอมซ้ายหอมขวาจนชานยอลอดไม่ได้ที่จะหัวเราะ  เพราะงี้ไง เขาถึงไม่อยากปล่อยแบคฮยอนไปตอนนี้ 

     

       ต่อให้อีกคนจะทำร้ายเขาลับหลังขนาดไหนก้เถอะ...

     

    “จูบฉันทั้งที่ฉันยังไม่แปรงฟัน  หอมฉันทั้งที่ฉันยังไม่ล้างหน้า  ไม่เหม็นรึไง”

     

    “นี่ขนาดไม่ได้แปรงฟันปากยังหวานขนาดนี้”

     

    “ ...ชิมอีกทีมั้ย”

     

     












    15%



     

        นี่ผมกำลังทำอะไร ?  

     

       คำถามนี่ผุดขึ้นมาในหัวไม่รู้กี่ล้านครั้ง นับตั้งแต่ประตูห้องของชานยอลนั้นถูกเปิดออกจากผู้มาใหม่แต่ดูเหมือนจะคุ้นเคยเป็นอย่างดีกับที่นี่

     

     

        ใช่  เขาคือแฟนของชานยอล ที่ชื่อว่า แบคฮยอน

     

      ผมไม่รู้ว่า สิ่งที่ผมกำลังตอนนี้มันถูกต้องหรือไม่  เพราะตอนนี้ ผมกำลังนั่งมองคนสองคนพลอดรักกันในห้องกันอย่างใจจดใจจ่อ  ผมนั่งมองคู่รักตรงหน้า ผลัดกันส่งคำหวานชื่นให้แก่กัน

     

      แต่ที่มันแปลกก้คือ   ทำไมก้อนเนื้อข้างซ้ายของวิญญาณอย่างผมถึงรู้สึกปวดหนึบขึ้นมาได้ละ ?

     

    นี่ผมไม่ได้รู้สึกอะไรเกินเลยไปกับชานยอลใช่มั้ย ?

    แล้วถ้าใช่ ?    ผมไปรักเขาตอนไหนกันละ ?

    เวลาแค่ไม่กี่วันนี้จะทำให้ผมรักเขาได้เลยงั้นหรอ ?

     

     

    ไม่จริงมั้ง..

     

     

     

    “อึก  อื้อออ “   เสียงครางอื้ออึงในลำคอ ทำเอาผีน้อยที่นั่งแอยู่บนหลังตู้ผ้าต้องหลุดออกจากภวังค์ความคิดของตัวเอง แล้วหันไปสนใจที่มาของเสียง

     

    “เฮือก “  ผีน้อยเหลือกตาเบิกกว้าง  เมื่อเห็นภาพตรงหน้า  

     

     

        ใช่  ตอนนี้แบคฮยอนแทบไม่เหลือเสื้อผ้าบนตัวแล้ว   แบบนี้เขาจะทนดูอยู่ต่อไปงั้นหรอ ?

     

     

    เมื่อคิดได้ดังนั้น วิญญาณน้อยจึงลากตัวเองผ่านกำแพงสีขาวออกมายังอีกห้อง   ผ่อนลมหายใจยาวพร้อมกับทิ้งตัวลงบนโซฟา     

     

      มันไม่ได้ยวบอย่างที่ควรจะเป็น   มันไม่เป็นอะไรเลยด้วยซ้ำ  ก้แหงสิ เขาเป็นวิญญาณนี่

    จะให้มีน้ำหนักอะไรลงไปกดทับโซฟาได้ละ

     

    “บ้าชะมัด “  ผีน้อยพูดพลางยกกำปั้นขึ้นมาทุบอกซ้ายของตัวเองจนดังอัก สองสามครั้ง   แต่ความเจ็บนั่นไม่ได้แทนที่ความเจ็บที่อยู่ภายในเลย

     

    “อา  เกิดอะไรขึ้นกับใจฉันเนี่ย  ฮึก”  เมื่อไม่รู้สาเหตุของอาการที่เป็นอยู่  เขาก้ไม่รู้จะแก้มันด้วยวิธีไหน  ตอนนี้เลยทำได้แค่ร้องไห้   เพื่อระบายบางสิ่งบางอย่างที่เขาไม่รู้ว่าคืออะไรออกมา  

     

       แต่มันจะช่วยได้แค่ไหน  ในเมื่อ..

     

    “อึก  อือ  ชานยอลอา”  เสียงนั่น

     

    “อืออ  แบค..”  เสียงนั่น

    “อ้ะ  อืมมม”

     

     

    “ฮึก ก “ฝ่ามือเล็กที่ทาบทับอกถูกเปลี่ยนเป็นยกขึ้นมาปิดใบหูทั้งสองข้างเพื่อปิดการรับรู้จากเสียงที่เขาไม่อยากได้ยิน  สองตาปิดลงพร้อมแน่นหยดน้ำใสๆที่ไหลรินออกมาจากดวงตากลมโต

     

    “ฮึกก”  เสียงสะอื้นร่ำไห้ของเขาไม่สามารถกลบเสียงสวาทของคู่รักในห้องนั้นได้เลย  ไม่เลยสักนิด 

     

    ตอนนี้เขาควรทำยังไงกับเหตุการณ์ตรงหน้านี้

     

    จะทนฟังต่อไปอย่างนี้หรอ ?

     

    “ไม่ !  ฮึก”  อยู่ๆ  ปากอวบอิ่มก้โพล่งคำหนึ่งออกมา   ผีน้อยใช้มือเดิมปาดน้ำตาที่เปรอะเปื้อนใบหน้าออกลวกๆ  สองขาที่เคยคดงอจากการก้มหน้าร้องไห้ ตอนนี้ถูกทาบทับลงบนพื้น  ก่อนจะก้าวเดินผ่านกำแพงเข้าไปยังห้องที่ออกมาเมื่อครู่ 

     

       ภาพตรงหน้าทำเอาขาของเขาแทบไม่มีแรงจะยืน  แต่มันไม่ใช่เวลาที่จะมาทรุดตอนนี้ 

    เพล้งงง  !

     

    “เฮือก !”  เสียงที่แสดงถึงความตกใจดังมาจากคนสองคนที่กำลังพลอดรักกันบนเตียงย่างเมามัน   แต่ก้ต้องหยุดชะงัก เมื่อจู่ แจกันที่วางอยู่บนโต๊ะไม่ไกลจากเตียงนอนนั่นดันหล่นลงใส่พื้นบริเวณที่ไม่มีพรมอย่างแรงราวกับมีใครยกมาทุ่มลง

     

      ใช่  มีคนตั้งใจยกมันขึ้นแล้วทุ่มลงพื้นอย่างแรง

     

    แบคฮยอนมองไปยังแจกันที่แตกกระจายเบื้องหน้าอย่างไม่เข้าใจ  ผิดกับชานยอล ที่มองคนที่ทำให้มันแตกอย่างไม่ค่อยพอใจนัก 

     

    “มันหล่นมาได้ไง”  เป็นแบคฮยอนที่เอ่ยถามขึ้นมา  ชานยอลผ่อนลมหายใจช้าๆ มองไปยังตัวต้นเหตุ

     

      ผีน้อยที่ตอนนี้ดวงตาแดงก่ำกำลังจ้องหน้าเขาไม่ต่างกัน  แต่เพียงแค่ไม่นาน ร่างนั้นก้พลันหายไปในอากาศ 

     

    “ชานยอล..”  แบคฮยอนกำลังจะอ้าปากถามอีกครั้ง

     

    “ไม่มีอะไรหรอก  ทำให้เสร็จแล้วไปอาบน้ำเถอะ”  แบคฮยอนเลยเก็บความสงสัยนั้นไว้ ก่อนจะเริ่มบทรักของเขาต่อ  ตอนนี้ชานยอลหมดอารมณ์ทำเรื่องอย่างว่าไปเสียแล้ว 

     

       ในหัวตอนนี้มีแต่ความสงสัย  ว่าผีตนนั้น ทำอย่างนั้นไปเพราะอะไร ?

     

       คุณไม่พอใจที่ผมนอนกับแฟนผมงั้นหรอ ?

     

      แล้วทำไมคุณต้องไม่พอใจด้วยละ ?

     

    .

    .

    .

     

     

    “คิมจงอิน..” 

     

    “...”

     

    “นายช่วยออกมาคุยกับฉันหน่อยสิ ฮึก”

     

    “...”

     

    “ฉันควรจะทำยังไงดีจงอิน  ฮึก”

     

    “...”

     

    “บอกหน่อยว่าฉันควรจะทำยังไง”

     

    “หายไปหลายวัน แล้วกลับมาหาฉันด้วยสภาพนี้เนี่ยนะ”

     

    “ฮึก “

     

    “ร้องไห้ทำไม”

     

    “ฮึก ฉ ฉันเป็นอะไรไม่รู้”

     

      จงอินมองท่าทางทั้งหมดก้เข้าใจได้ดี  ไออาการที่ร้องไห้ฟูมฟายพร้อมกับการกุมอกซ้ายนั่น ไม่ใช่ว่าเขาไม่เคยเป็น  เขาเข้าใจว่าคนตรงหน้านี้รู้สึกยังไง

     

      นายเป็นอย่างนี้อีกแล้วนะ

     

    “เจ็บใช่มั้ย ?”

     

      ไม่มีเสียงตอบรับแต่อย่างใด  ร่างตรงหน้าทำเพียงพยักหน้าหงึกหงักไปพร้อมกับน้ำตาที่กำลังพรั่งพรูออกมาไม่ขาดสาย

     

    “เจ็บก้ร้องออกมา”  จงอินทำได้แค่นี้จริงๆ   ในเวลานี้ เขาไม่สามารถพูดอะไรได้อีกแล้ว

     

     ไม่ใช่สิ  เขาพูดอะไรมาไม่ได้ตั้งนานแล้ว

     

    “ทำไมฉันเป็นแบบนี้นะคิมจงอิน  เรื่องบ้าๆทำไมมันต้องเกิดขึ้นแต่กับฉันด้วย”   ร่างเล็กตอนนี้กำลังอ่อนไหวเป็นอย่างมาก  เขาไม่รู้หรอกว่าผีน้อยไปเจออะไรมา  แต่นี่ไม่ใช่เวลาที่มาซักถามอะไร

     

    “ทำไมมันต้องเป็นฉันที่มาเจอเรื่องแบบนี้  ตัวเองก้ไม่รู้จัก  ร่างก้หาไม่เจอ  หรือฉันเป็นผีอย่างที่ชานยอลว่าแล้วจริงๆ ฮึก”

     

    “...”

     

    “แล้วทำไมผีอย่างฉันถึงรู้สึกแบบนี้ด้วยละ  ทำไมผีอย่างฉันถึงรู้สึกเจ็บ ฮึก จงอิน นายเป็นแบบฉันรึเปล่า”

     

       ฉันเจ็บยิ่งกว่านายอีก  เจ็บที่ไม่สามารถทำอะไรได้มากกว่านั่งข้างๆนายอย่างที่เคยทำ

     

      “นายมีอย่างอื่นที่ต้องทำมากกว่ามานั่งร้องไห้แบบนี้นะ”

     

    “ฮึก ก”

     

    “สิ่งที่นายต้องทำคือหาร่างตัวเองให้เจอ  แล้วจำเรื่องราวทุกอย่างให้ได้ก่อนที่มันจะสายเกินไป”

     

    “...”

     

    “ฉันพูดกับนายได้แค่นี้จริงๆ”

     

    “แล้วทำไมนายไม่กลับเข้าร่าง  ในเมื่อร่างกายนายก้อยู่ใกล้แค่นี้”

     

    “มันยังไม่ถึงเวลา”

     

    “ยังไง”

     

    “ฉันก้รู้แค่นั้น”

     

    “...”

     

    “กลับไปในที่ของนายซะ  นายไม่ควรมาเสียเวลาอยู่ตรงนี้  กลับไปตามหาความจริง  กลับไปค้นหาตัวตนของนายซ่ะ”

     

    “นั่นสินะ...”

     

    “เลิกร้องไห้ได้แล้ว  กลับไปหาชานยอลซ่ะ  มีแค่เขาที่จะช่วยนายได้”

     

    “ฉันไม่เข้าใจว่าทำไมต้องเป็นเขาด้วย  แล้วไอความรู้สึกนี่มันคืออะไรกัน ฉันเป็นอะไร ?”

     

    “...”   ชานยอลคนเดียวเท่านั้นที่จะช่วยนายได้   แล้วไอความรู้สึกนั้นน่ะ 

     

      มันก้ความรู้สึกเดียวกับฉันนี่แหล่ะ

     

    “จงอิน..”

     

    “ฉันก้ไม่รู้หรอก  ขอโทษด้วยนะที่ช่วยอะไรไม่ได้”

     

     

     

      ขอโทษจริงๆ

     

     

    .

    .

    .

    .

     

     

          ผีน้อยจำเป็นต้องกลับมาตามคำแนะนำของจงอิน เพราะด้วยเหตุผลร้อยแปดที่อีกคนพูด  และเขาก้เห็นด้วย  ตอนนี้เขาต้องสนใจเรื่องความทรงจำกับการคืนร่างก่อน  หากว่าเขาไม่ได้เป็นผีไปจริงๆอ่ะนะ

     

      สงสัยใช่มั้ยว่าทำไมเขาคุยกับจงอินได้

     

    เขาเองก้ไม่เข้าใจเรื่องราวทั้งหมดสักเท่าไหร่  แต่ที่จำได้คือ  เขาพบจงอินประสบอุบัติเหตุอยู่ที่ไหนสักที่  จากนั้นก้เหมือนมีอะไรสักอย่างสั่งให้เขาตามจงอินไปจนมาถึงโรงพยาบาลแห่งหนึ่ง แล้วจู่ๆจงอินก้เดินเข้ามาหาเขาด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยอะไรมากมาย

     

      คำพูดที่เหมือนรู้จักเขา  ท่าทางที่เหมือนคุ้นเคย  แต่คำถามที่ว่า

     

    นายมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง ?’  แต่แล้วจงอินก้ปิดปากเงียบไป ไม่พูดอะไรอีก

     

    และในตอนนั้น ตอนที่มีชายร่างสูงสองคนเดินเข้าไปในห้องที่มีร่างของจงอินนอนห้อยสายระโยงรยางค์อยู่บนเตียงผู้ป่วย  

    เหมือนมีสัญญาณบางอย่างบอกให้เขาต้องจ้องมองผู้ชายตัวสูงใต้กรอบแว่น 

     

    จะว่ารู้จักก้ไม่ใช่  แต่ก้เหมือนมีอะไรบางอย่าง  พอจะหันไปถามจงอินอีกที  ก้ไม่รู้ว่าวิญญาณนั่นหายไปไหนแล้ว

     

    และหลังจากวันนั้น  ที่เขาตามชานยอลไปทุกที  นี่ก้ผ่านมาหลายวันแล้ว  เขาเพิ่งได้พบจงอินเป็นครั้งที่สอง  แต่ครั้งนี้ ร่างกายของจงอินดูต่างจากเดิมมาก  ผิวกายไม่ชัดเจนเหมือนของเขา  มันค่อนข้างโปร่งแสงกว่าครั้งแรกที่เห็น  แต่ก้ไม่อยากจะเอ่ยปากถามสักเท่าไหร่

     

    และตอนนี้  เขาก้เชื่อฟังคำสั่งจงอิน  และกลับมาที่ห้องชานยอลอีกครั้ง  

     

       แต่ทุกอย่างดูเงียบสงบดี  คาดว่าคนทั้งคู่คงหลับกันไปเพราะความเพลีย

     

    “สร้างปัญหาไว้แล้วก้หายหัว”

     

    “เฮือก !”   เสียงที่มาพร้อมกับไฟที่ถูกเปิดจนสว่างทั่วทั้งห้องทำเอาวิญญาณน้อยตกใจเป็นอย่างมาก   นี่ไม่รู้ว่าผีหรือคนที่น่ากลัวกว่ากันแล้วเนี่ย

     

    “ไง”  นั่น  ไหนจะสายตาคาดคั้นนั่นอีก   ทำไมวันนี้ชานยอลดูน่ากลัวจังง่ะ  เขาทำอะไรผิดงั้นหรอ ?   (ยังไม่รู้ตัวอีก)

     

    “ไงอะไร”

     

    “เหอะ”

     

    “แฟนคุณละ” 

     

    “กลับไปแล้ว”

     

    “หะ”   มาเอาเสร็จก้กลับงั้นหรอ ? 

     

    “ทำแบบนั้นทำไม ?”    นอกจากจะไม่ตอบข้อสงสัยของผีตรงหน้า  ชานยอลยังเบี่ยงประเด็นไปยังเรื่องที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้อีกด้วย

     

    “ทำ   ทำอะไร”     จะตอบว่าไงดีว่ะเนี่ยย  แกล้งซื่อไปก่อน -0-

     

    “เหอะ  ก้ไอที่ทุ่มแจกันผมไง  แบคฮยอนไม่เห็น  แต่ผมเห็น”  ชานยอลจ้องหน้าผีน้อยอย่างเอาอีก  แต่อีกคนกลับทำตาบ๊องแบ็วราวกับไม่รู้ไม่เห็นกับสิ่งที่ตัวเองก่อไว้

     

    “มือไปโดน  ...ผมตกใจภาพอุจาดตามากเกินไปหน่อย มือก้เลยไปถูกแจกันของคุณเข้า  ขอโทษด้วยละกัน”   แก้ตัวน้ำขุ่นๆไป  รู้ทั้งรู้ว่าชานยอลไม่มีวันเชื่อคำพูดโกหกของเขาหรอก

     

    “เหอะ  ก้ได้ ครั้งนี้ผมยกให้”

     

       ชานยอลแสยะยิ้มร้ายใส่อีกครั้ง แล้วเดินกลับไปยังห้องนอน ทิ้งให้ผีน้อยมองตามตาปริบๆ 

     

    “ไอบ้าเอ้ย”  สบถด่าอีกคนที่กำลังจะเดินหายเข้าไปหลังประตูสีขาว  ชานยอลชะงักมือค้างไว้ เหลือบสายตามองเจ้าของเสียงด่า

     

       ไม่ใช่ว่าเขาไม่รู้ว่าดวงตาแดงก่ำนั้นเกิดจากอะไร  แต่ที่เขาไม่รู้ก้คือ  เพราะอะไรเจ้าผีนั้นถึงมีอาการแบบนั้น

     

    เหมือนโกรธที่เขามีอะไรกับแบคฮยอนงั้นแหล่ะ

     

    อยากจะถาม แต่ก้รู้ว่าอีกคนคงไม่มีทางปริปากบอกเป็นแน่   

     

    ไว้ค่อยหลอกถามวันอื่นก้แล้วกัน

     

    .

    .

    .

     

    ตีหนึ่งกว่าแล้ว  ทำไมเขายังไม่หลับอีกนะ  สมองเอาแต่คิดเรื่องบ้าซ้ำไปวนมาไม่รู้กี่รอบต่อกี่รอบจนรำคาญ

     

    “ทำไมยังไม่หลับอีก”  เสียงเล็กดังขึ้นข้างๆทำชานยอลต้องละความสนใจจากสิ่งอื่นแล้วหันไปมอง

     

    “แล้วทำไมคุณไม่หลับ”  ถามกลับเพราะเขาเองก้ไม่มีคำตอบจะให้เหมือนกัน

     

    “ผีอย่างผมไม่จำเป็นต้องหลับก้ได้  แต่คนอย่างคุณนี่สิ   ทำไม  แฟนคุณทำคุณค้างหรอ ?”   ชานยอลยกยิ้มกับคำพูกนั่นทันที  

     

      เข้าใจหาเรื่องมาแขวะจริงๆ

     

    “ทำไม.. ”  ร่างสูค่อยๆขยับตัวเข้าไปใกล้มากขึ้น  ผีน้อยมองหน้าอีกคนด้วยสายตาหวาดระแวง

     

    “...”

     

    “ถ้าผมค้าง   คุณจะช่วยผมหรอ”   ปากอวบอิ่มอ้าค้างกับคำพูดนั่นทันที 

     

    “เอาหน้าออกไปเดี๋ยวนี้นะ   ใครจะไปช่วยคุณกัน”   มือเล็กผลักหน้าชานยอลออกทันที   ร่างสูงตกใจเล็กน้อยเพราะนี่เป็นครั้งที่สองที่เขาโดนสัมผัสเต็มๆจังๆ

     

      ไม่ค่อยจะชินสักเท่าไหร่แฮะ

     

      ชานยอลล้มตัวลงนอนเช่นเดิม  เกิดความเงียบขึ้นระหว่างเขาทั้งสองคนอีกครั้ง

     

    “คุณ  ทำได้ยังไง” 

     

    “หือ...”

     

    “แจกันนั่นน่ะหรอ ?   ผมบอกแล้วไงว่ามื..”

     

    “ผมเห็นว่าคุณทุ่มมันลงพื้น   แถมยังเป็นพื้นปูนด้วย ไม่ใช่พื้นพรม”

     

    “...”

     

    “คุณเป็นอะไร  บอกผมได้มั้ย”

     

    “...เปล่า”

     

    “หืม”

     

    “ผมไม่ได้เป็นอะไรสักหน่อย”

     

    “คุณไม่ชอบใช่มั้ย” 

     

    “เปล่า”

     

    “คุณทนไม่ได้ใช่รึเปล่า”

     

    “...”

     

    “คุณชอบผมหรอ ?”

     

    “หะ”








    100%

    ....

    come back : ไรต์เตอร์ หรือแบคฮยอนนนนนน
    5555555   ไม่เอาไม่มีเอ็นซี 
    จงอินคือ ?
    จงอินคือ ?
    จงอินคือ ?

    แบคฮยอนนี่ยังไง  เสร็จแล้วก้ไปเลย
    ชานยอลนี่ยังไง ?  ไหนว่าค่อยหลอกถามวันหลังฟร่ะ ?

    โอ้ยไรต์ก้งง 5555
    .

    หายไปเป็นเดือนๆ 5555  สำนึกผิดอยู่ฮะ
    สอบแกทแพทโน่นนี่นั่นนี่   อ่านหนังสือไม่หวาดไม่ไหว
    เลยไม่มีเวลาจะมาแต่ง  นี่จะว่างอยู่สักสองสัปดาห์ 
    แล้วจะเวิล์ลทัวร์แล้วนะฮะ (เว่อร์)
    ไล่ตามสอบเป็นว่าเล่น ฮ่าๆ
    แต่จะพยายามไม่หายแบบนี้อีกนะ
    คิดถึงรีดเดอร์จัง 
    ยังจะมีใครอ่านของผมอยู่ม้ายยยยยย?

    © themy  butter
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×