คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : DAY1 :: CK612
DAY 1
เช้านี้ดูเหมือนปาร์คชานยอลจะลืมอะไรไปสักอย่างนะ
เมื่อวานนี้... เขาอยู่กับผีนี่ แล้วเจ้าตัวเล็กนั่นหายไปไหนซะละ ?
“คุณ คุณหายไปแล้วเนี่ย ?” ชานยอลตะโกนเรียกจนดังไปทั่วห้องแต่ไม่มีวี่แววของผีน้อยสักนิด
คุณคงไม่ได้ไปเกิดแล้วหรอกนะ
“แฮร่ !!”
“เห้ยยยย !!!”
“ฮ่าๆๆๆ สกิลการหลอกของผมใช้ได้เหมือนกันนะเนี่ย” ผีตากลมทำหน้าภาคภูมิใจที่ตัวเองสามารถหลอกคนตัวสูงให้ตกใจแต่เช้าตรู่ได้อย่างเหลือเชื่อ และเมื่อมองไปยังคนโดนหลอก ดูเหมือนว่าปาร์คชานยอลจะไม่สนุกด้วยซะแล้วสิ
“เล่นบ้าอะไรของคุณ ! เกิดผมหัวใจวายตายขึ้นมา บอกเลยนะ คุณจะกลายเป็นผีเร่ร่อน
“ ชานยอลหัวเสียใส่ซะงั้น ผีน้อยรู้สึกผิดขึ้นมาจับใจเมื่อเห็นว่าอีกคนโกรธหัวฟัดหัวเหวี่ยงลุกจากเตียง แถมยังปิดประตูห้องน้ำดังปังจนผีอย่างเขาสะดุ้งตัวโยน
“ผมขอโทษนะชานยอล ผมไม่ได้ตั้งใจจะให้คุณโมโห” น้ำเสียงรู้สึกผิดทำเอาชานยอลหยุดชะงัก ทั้งที่ตั้งใจจะโกรธเพื่อดัดนิสัยผีตัวน้อย แต่กลับกลายเป็นว่าเขาต้องใจอ่อนเปิดประตูออกไป
“นี่ จำไว้นะว่าผมไม่ชอบเรื่องเซอร์ไพร์ วันหน้าวันหลังถ้าคุณทำผมตกใจอีก ผมจะเอาคืน” อา.. ปาร์คชานยอลไม่ได้ตั้งใจเปิดออกมาเพื่อต่อว่าผีน้อยสักหน่อย ใจคิดอีกอย่างแต่ปากดันไม่ยอมทำตาม เอาเถอะ ถ้าร้องไห้ค่อยออกไปปลอบละกัน
กว่าชานยอลจะอาบน้ำเสร็จเวลาก้ล่วงไปจนเกือบจะแปดโมง ดีนะที่วันนี้เขามีเรียนตอนบ่าย ฉะนั้นจึงไม่ต้องเร่งรีบรีบ
“คุณอาบน้ำช้ามากอ่ะ” เสียงเล็กนั่นเอ่ยทักขึ้นหลังจากที่เห็นคนตัวสูงออกมาจากห้องนอนในชุดขาสั้นสบายๆ
“รอผมรึไง” ดูเหมือนว่าเขาทั้งคู่จะลืมเรื่องเมื่อเช้ากันไปเสียแล้ว ชานยอลเอ่ยถามกลับอย่างกวนๆ จนผีน้อยต้องรีบปฏิเสธละล่ำละลัก
“บ้า ผมจะไปรอคุณทำไมละ ผมแค่ถามดูเฉยๆ” อดไม่ได้ที่ร่างสูงจะหัวเราะกับท่าทีนั้น อีกคนเลยได้แต่เบือนหน้าหนี
“หิวมั้ยผีน้อย ดูเหมือนคุณจะไม่ได้กินอะไรเลยนะ” น้ำเสียงอบอุ่นเรียกสายตากลมให้กลับมาสนใจเขาอีกครั้ง ผีตัวน้อยแอบหลงไหลใบหน้านั่นชั่วขณะ จนคนโดนมองต้องเลิกคิ้วสูงเป็นเชิงถาม
“เอ่อ ไม่ ผีอย่างผมต้องหิวด้วยหรอ ?”
“ไม่รู้สิ อืม.. เขาห้ามจุดธูปหรืออะไรในคอนโดด้วย จะจุดธูปเรียกคุณกินก้ไม่ได้ เอาไงดี ?”
“ผมไม่หิวหรอกน่า คุณจะกินก้กินไปเถอะ”
“เอางั้นหรอ ?”
“อื้ม ฮิฮิ” พยักหน้าหงึกหงักพลางยิ้มแป้นแล้นจนคนมองอดไม่ได้ที่จะยิ้มตาม
“นี่ เลิกยิ้มแบบนั้นสักทีเหอะ”
“ทำไมอ่ะ”
ทำไมน่ะหรอ ? ก้ใจฉันมันสั่นเพราะรอยยิ้มของนายไง ผีโง่
“มันน่าเกลียด !” ผีน้อยหุบยิ้มทันทีโดยอัตโนมัติ ผู้ชายตรงหน้านี่ปากทำด้วยอะไรนะ ไม่ชมไม่ว่ายังว่าด่าอีก ไม่ไหวเลยจริงๆให้ตาย..
“คุณเลี้ยงสัตว์ไว้ในปากกี่ตัวเนี่ย”
“ไม่ต้องมาว่าผมปากหมาเลยนะ เดี๋ยวแช่งเลยเดี๋ยว” ครับ อย่างว่า เจอผีให้แช่ง
“อ อย่านะ จะมาแช่งฉันได้ไงเล่า ไม่เอานะชานยอล ฮึก” ผีน้อยหน้าเปลี่ยนสีทันที ชานยอลตอนนี้แทบจะทำอะไรไม่ถูก เพราะความปากไวของเขาแท้ๆ
“อย่าร้องนะ คือ คือผม ขอโทษ ผมไม่แช่งคุณหรอก แต่อย่าร้องไห้นะ” ทำได้แค่พูดปลอบออกไปเท่านั้น และดูเหมือนมันจะได้ผลอยู่นะ ผีน้อยเริ่มนิ่งลง
“ผมไม่ร้องหรอก ฮึก” แล้วไอ้เสียงฮึกฮึกนี่คือไร ?
“ก้อย่าฮึกเซ่ แบบนั้นแหล่ะเขาเรียกว่าร้อง” เมื่ออีกคนสงบ ชานยอลก้เริ่มสร้างเรื่องใหม่ขึ้นมาอีกแล้ว ปากนะปาก ห้ามไม่เคยได้จริงๆ
“ก้บอกว่าไม่ได้ร้องไงเล่า !” ฝ่ายผีก้เหมือนจะไม่ยอมง่ายๆเหมือนกัน ก้บอกว่าไม่ได้ร้อง ยังจะบอกว่าเขาร้องอยู่ได้ ฆ่าแม่งเลยนี่
และไม่ทันที่ชานยอลจะได้เอ่ยอะไรต่อ ผีน้อยตัวกลับหายตัวไปเสียดื้อๆ ทีแรกชานยอลก้แอบตกใจนะ เล่นมาหายตัวต่อหน้าแบบนี้ขนขารุกกันเกรียวกราวราวกับได้ยินเพลงชาติ แต่เอาเถอะ ทำใจให้ชินเข้าไว้ชานยอล แกยังต้องเจอเรื่องสยองขวัญแบบนี้ไปอีกเยอะ !
หลังจากที่ชานยองจัดการกับอาหารเช้าของตัวเองเรียบร้อย เขาก้เก็บกวาดห้องไปตามปกติอย่างที่ทำทุกวัน สายตาก้คอยสอดส่องหาผีน้อยที่เงียบไปตั้งแต่ทะเลาะกันเมื่อเช้า นี่จะ11โมงแล้วนะ สองชั่วโมงแล้วที่ผีน้อยไม่ปรากฏตัวให้เขาเห็น
นี่สงสัยจะงอนกันจริงๆ แฮะ
ไว้ทำงานบ้านให้เรียบร้อยแล้วค่อยเรียกออกมาง้อก้ได้
หลังจากที่ทำงานบ้านเรียบร้อยแล้ว ชานยอลก้กลับเข้าไปในห้องนอนของตัวเองเพื่อจะเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นชุดนักศึกษา เขาไม่อยากสายเหมือนเมื่อวานอีกแล้ว ฉะนั้นเขาควรจะไปก่อนเวลาเผื่อว่ารถจะติดอีก
แต่ทันทีที่เปิดประตู เขาก้ต้องชะงัก เมื่อพบร่างที่เขาคอยส่งสายตามองหามาร่วมสองชั่วโมง กำลังนอนหลับอยู่บนเตียงของเขา ชานยอลยิ้มกริ่มอย่างลืมตัว
“เวลาหลับน่ารักกว่าเวลาเถียงตั้งเยอะ” อา.. นี่เขาพูดบ้าอะไรออกไปเนี่ย ? ดีนะที่เจ้าตัวหลับอยู่ ขืนมาได้ยินคำชมแบบนี้คงเหลิงไปกันใหญ่
ชานยอลเดินเข้าไปใกล้ๆเตียง ก่อนจะก้มลงสำรวจใบหน้าหวานที่กำลังหลับตาพริ้ม หน้าตาไร้เดียงสาทำให้ผีน้อยดูน่ารักราวกับเด็กๆ ปากสีแดงอวบอิ่มนั่นพอเวลามันปิดสนิทช่างดึงดูดสายตาเสียจริง
เขาไม่อาจละสายตาไปจากริมฝีปากสีชมพูนั่นได้เลย....
ร่างตรงหน้าค่อยๆลืมตาขึ้นเพราะความรู้สึกแปลกๆที่รินรดจมูก ชานยอลถึงกลับเบิกตาโพรง !
เขาถูกจับได้เสียแล้วว่ากำลังเชยชมใบหน้าหวานใกล้ซะขนาดนี้ ทำไงดีปาร์คชานยอล หายตัวตอนนี้ได้มั้ยว่ะ ?
“มองใกล้ขนาดนี้จะจูบผมรึไง ?” แทนที่จะกร่นด่า ร่างตรงหน้ากลับสงยิ้มหวานออกมาพร้อมกับคำพูดที่ชวนให้ปาร์คชานยอลอยากทำตามเสียงอย่างนั้น
และเพราะความลืมตัว บวกกับความหลงใหลกับสิ่งตรงหน้า ดึงดูดให้ปาร์ชานยอลเคลื่อนใบหน้าเข้าไปใกล้กว่าเดิมทั้งที่ควรจะผละออกแต่แรก
ตอนนี้ริมฝีปากของทั้งสองห่างกันเพียงแค่เสี้ยว อีกนิด อีกนิด...
ชานยอลกลั้นหายในเมื่อริมฝีปากใกล้สัมผัสกัน จากนั้น....
“คุณจะจูบผีอย่างผมจริงๆหรอ ?” คำพูดของร่างเล็กตรงหน้าทำชานยอลชะงัก และทันทีที่รู้ตัวว่าตัวเองกำลังทำอะไร ร่างสูงรีบดีดตัวออกทันที สีหน้าเลิ่กลั่กบ่งบอกได้ดีว่าปาร์คชานยอนคนนี้กำลังทำตัวไม่ถูก
“เอ่อ เอ่อ.. ขอโทษนะ” เมื่อไม่รู้จะหาวิธีใดมาแก้ไข ชานยอลเลยทำได้แค่เอ่ยคำขอโทษออกไปแบบตะกุตะกัก
ผีน้อยทำเพียงแค่ยิ้ม ก่อนจะส่ายหน้าเป็นเชิงว่าไม่เป็นไร
ทั้งที่ในใจ...
เต้นแบบนี้ แนะนำให้ออกมาแรพโย่วข้างนอกเลยดีกว่ามั้ยหัวใจ ?
“คุณ จะไปเรียนแล้วหรอ ?” เมื่อหมดเรื่องจะพูด สิ่งที่ดีที่สุดคือเบี่ยงประเด็นซะ ผีน้อยพูดพลางพยักพเยิดไปทางชุดนักศึกษาที่แขวนอยู่หน้าตู้เสื้อผ้า ชานยอลมองตามก่อนจะตอบ
“อ่า ใช่ ผมมีเรียนบ่าย นี่ก้จะเที่ยงแล้ว ผมไม่อยากเข้าคลาสเลทเหมือนเมื่อวาน”
“อ่อ งั้นเดี๋ยวผมออกไปรอข้างนอก คุณจะได้เปลี่ยนเสื้อผ้า” ไม่ทันทีชานยอลจะได้ตอบอะไร ผีน้อยก้หายตัวไปอีกครั้ง และมันก้ยังคงทำให้ชานยอลขนลุกเกรียวกราวอีกหน
“จะเดินออกไปผมก้ไม่ว่าคุณหรอกนะ คุณผี” ไม่วายตำหนิอีกคนเบาๆจนได้นะปาร์คชานยอล
.
.
ถ้าคนอื่นมองมาจะเห็นว่าชานยอลเดินแค่คนเดียว หล่อฉายเดี่ยวแทบทุกวัน ซึ่งอาจจะมีบ้างบางวันที่คริส เพื่อนสนิทของเขาจะมาเดินเป็นเพื่อน ซึ่งวันนี้ก้เป็นอย่างนั้น เขาเดินคนเดียวท่ามกลางนักศึกษามากมายอย่างที่ใครๆเห็น ปีหนึ่งบางคนหลงไหลในความหล่อจนมองเหลียวหลังเป็นแถบๆ
“คอหักมั้ยนั่น” จู่ๆเสียงหนึ่งก้เอ่ยขึ้น ชานยอลหันไปมองทางผีน้อยที่ตอนนี้กำลังหัวเราะนักศึกษารุ่นน้องที่มองเขา พลางชี้นิ้วไปทางน้องคนนั้นที่ตอนนี้เหลียวจนเหมือนคอตัวเองบิดได้สามร้อยหกสิบองศางั้นแหล่ะ ชานยอลทำแค่ส่ายหัวเบาๆ ขืนพูดหรือตำหนิผีน้อยตอนนี้ คงไม่วายถูกหาว่าบ้า พูดกับอากาศเป็นแน่
ตลอดทางเดิน ชานยอลได้ยินเพียงเรียกเจื้อยแจ้วของผีน้อยข้างกาย บางสิ่งบางอย่างที่คนตัวเล็กพูดออกมาช่างน่าขำราวกับเด็กๆกำลังพูดป้อสงสัยไปเรื่อย อยากรู้จริงๆหมอนี่อายุเท่าไหร่แล้วกันแน่ สงสัยตอนตายหัวจะกระแทกอะไรสักอย่างจนความจำหายไป หรือไม่ก้กระเทือนจนหมอนี่เป็นเอ๋อกันแน่ ?
แต่แล้วทุกอย่างก้หยุดชะงัก เสียงเล็กๆที่พูดตลอดทางเงียบไปจนชานยอลต้องหันกลับไปมอง และเพราะอะไรไม่ทราบคนตัวเล็กถึงเอาแต่ยืนนิ่งจ้องไปทางสวนหย่อมเล็กๆของตึกนิเทศนั่น ชานยอลจำใจเอาโทรศัพท์ยกขึ้นแนบหู แล้วเดินเข้าไปหาคนตัวเล็ก
“หยุดทำไมคุณ?” เอ่อยถามเสียงเรียบ หากมองมาคงจะเห็นชานยอลแค่กำลังคุยโทรศัพท์ ผีตัวเล็กหันหน้ามามองชานยอลที่ตอนนี้กำลังยืนซ้อนหลังของเขาอยู่อย่างใกล้ชิด ลมหายใจของคนตัวสูงรดรินใส่ใบหูจนตอนนี้รู้สึกหน้าร้อนผะผ่าว
อา.... อะไรกัน เป็นผีแล้วทำไมถึงรู้สึกถึงลมหายใจคนนะ
แล้วนี่อะไร ไปยืนไกลๆหน่อยไม่ได้รึไง ?
นิ้วเล็กชี้ไปยังต้นไม้ต้นหนึ่งที่ตั้งเด่นอยู่ในสวนหย่อม ชานยอลเลิกคิ้วสงสัยก่อนจะถามขึ้น
“อะไรของคุณ” ไม่ค่อยเข้าใจในสิ่งที่อีกคนบอกเท่าไหร่ ก้เล่นไม่พูดอะไรสักคำ แถมยังมาหน้าแดงอีกนั่น
“ผมจำได้ ต้นไม้นั่น”
ไม่รอช้า ชานยอลรีบสาวเท้ายาวๆเข้าไปที่ต้นไม้นั่นทันทีโดยไม่รอให้อีกฝ่ายเอ่ยอะไรให้มากความ ตาเรียวใต้กรอบแว่นสอดส่องไปทั่วบริเวณดังกล่าวเพื่อสำรวจหาสิ่งที่น่าจะเป็นความทรงจำของร่างเล็ก
“ไม่เห็นจะมีอะไรเลยคุณ” ชานยอลเงยหน้าขึ้นเพื่อบอกคนร่างเล็กแต่ดูเหมือนจะเป็นอะไรที่บังเอิญไปหน่อย เมื่อผีน้อยที่กำลังก้มมองหาเช่นเดียวกับเขาแต่อยู่ฝั่งตรงข้ามนั่นเงยหน้าขึ้นมาตาม ทำให้ใบหน้าของทั้งคู่ห่างกันเพียงแค่คืบ คืบเดียวเท่านั้น แต่ทำให้ใจของชานยอลเต้นตูมใหญ่
ตึก ตึกตึก ตึกตึก...
“ชานยอล คุณลืมยกโทรศัพท์ขึ้น” คนตัวเล็กที่เหมือนจะไม่ได้มีปฏิกิริยาเดียวกับเขาแม้แต่น้อยพูดขึ้นพร้อมกับยกมือทำท่าโทรศัพท์เพื่อบอกเขาว่า
ลืมทำเนียนนะชานยอล
เห็นดังนั้นร่างสูงจึงรีบดีดตัวขึ้นแล้วยกโทรศัพท์ขึ้นมาก่อนจะพูดกับร่างเล็กต่อ
“ผมไม่เห็นว่ามันจะมีอะไรเลย คุณนึกอะไรออกอีกมั้ย ?” ชานยอลทำเป็นมองหาต่อไปเพื่อกลบเกลื่อนอาการหวั่นไหวของตัวเอง
อยากจะบ้า นี่เขาหวั่นไหวกับผีหรอ ?
ไม่ไม่ไม่ นายบ้าไปแล้วชานยอล
“อ้ะ ! นี่อะไรอ่ะ ?” ชานยอลรีบรุดตัวไปตามนิ้วที่ชี้ของผีน้อยทันที ที่แถวๆกลางต้นไม่มีรอยสลักด้วยของมีคมอยู่
“CK612”
“CK612” ผีน้อยทวนคำพูดของชานยอลด้วย ตากลมเต็มไปด้วยความสงสัย
“รหัสอะไรหรอ ? นี่ หรือว่าคุณมาจากดาว นี่อาจเป็นชื่อรหัสคุณก้ได้นะ แบบในหนังสตาร์วอลล์ไง” ใบหน้าตื่นเต้นนั่นไม่ทำให้ผีน้อยรู้สึกสนุกตามเลยสักนิด
“ผมว่าคุณดูหนังมากไปป่ะ” ชานยอลถึงกับหยุดหัวเราะทันทีเมื่อผีตัวเล็กหน้าหงอ ก้แหงละสิ อุตส่าต์จำได้ขนาดนี้ แต่อีกคนกลับทำให้มันเป็นเรื่องตลกซะงั้น
จับหักคอซะดีมั้ย ?
ไม่ดีมั้ง แล้วใครจะช่วยเขาละ ? เห้อออออ
“นี่ คุณงอนผมหรอ ?” ชานยอลวิ่งตามผีน้อยที่อยู่ๆก้เดินออกมาจากตรงนั้นโดยที่ไม่เรียกเขาเลยสักคำ สงสัยคงไม่พอใจที่เขาบอกว่าตัวเองเป็นมนุษย์ต่างดาวแน่ๆ
“....”
“กริบ”
“...”
“คุณ นี่ อย่างอนเลยนะ” ชานยอลเดินเข้าไปใกล้มากขึ้นโดยลืมไปเลยว่าตอนนี้เขากำลังทำท่าทางเหมือนกำลังคุยกับใครสักคน สายตาหลายคู่จ้องมาทางชานยอลแบบงงๆ
“ชานยอล คุณลืมอีกแล้วนะ ดูสิ คนมองคุณเต็มหมดแล้ว” เมื่อมองไปรอบๆก้จริงอย่างที่ผีน้อยบอก ชานยอลเลยยกโทรศัพท์ในมือขึ้นมาคุยอย่างเนียนๆ
“ผมขอโทษ อย่างอนผมนะ” ทำไมเขาต้องมาตามง้อผีน้อยนี่วันนึงนับครั้งไม่ถ้วนอย่างกับแฟนอย่างงั้นแหล่ะ
“ผมไม่ได้งอนคุณสักหน่อย” ก้แค่ไม่พอใจ... เป็นผีอยู่ๆมาหาว่าเป็นมนุษย์ต่างดาวเฉย น่าโมโหมั้ยละ ?
“งั้นคุณก้เลิกทำแบบนี้ได้แล้วน่า หันมาคุยกับผมดีๆเลย” ร่างเล็กทำตามอ่างว่าง่าย และไม่เท่านั้น ผีน้อยยังยิ้มหวานที่ทำเอาชานยอลละลายทุกครั้งที่ได้เห็นใส่ ก่อนจะหุบยิ้มลงราวกับปิดสวิตซ์ ชานยอลกระพริบตาปริบๆสองสามครั้งก่อนจะคืนสติกลับมาได้
โอยยย รอยยิ้มนี่อาจจะหัวใจเขาหยุดเต้นได้จริงๆนะ
“พอใจยัง”
“ผ ผมจะไปเรียนแล้ว ยังไงตอนเรียนคุณก้ช่วยนั่งเงียบๆด้วยนะ” ชานยอลพูดออกมารวดเดียวจนคนฟังนั้นตามแทบไม่ทัน และเมื่อพูดจบ ขายาวก้ก้าวเข้าตึกไปอย่างรวดเร็ว
“บ้าอะไรของเขานะ อารมณ์แปรปรวนอย่างกับผู้หญิงมีวิกฤติการณ์ประจำเดือนงั้นละ ฮู่วว”
.
.
.
วันนี้เป็นอีกวันที่ชานยอลแทบเรียนไม่รู้เรื่อง เพราะอะไรน่ะหรอ ?
โน่น ผีตัวน้อยของเขากำลังนั่งอยู่บนจอโปรเจคเตอร์หน้าห้อง เพื่อเรียกความสนใจเขา และบางที ร่างเล็กก้หายตัวแล้วมาปรากฏตรงหน้าทำเอาเขาใจหายใจคว่ำ
และตอนนี้ ผีน้อยกำลังชะโงกหน้ามาดูเขาที่กำลังเลคเชอร์ยิกๆบนกระดาษ ชานยอลตอนนี้โคตรไม่มีสมาธิเลยขอบอก
ต้องหาวิธีบอกผีน้อยนี้ให้หยุดทำอะไรพิเรณน์ๆได้แล้ว ก่อนเข้าห้องก้เตือนให้เงียบไปแล้วนี่ !
แล้ววิธีเดียวคือ เขียน
ผมไม่มีสมาธิ
“เพราะผมหรอ”
ใช่
“ผมทำไรผิดอ่ะ ?”
ยังไม่รู้ตัว ?
“ฮิฮิ ก้ได้ ผมไม่กวนคุณก้ได้”
ช่วยอยู่นิ่งๆด้วยนะ อีกชั่วโมงก้จะเลิกคลาสแล้ว
“ฮะ ผมจะอยู่นิ่งๆ”
ดีมาก CK
“ชื่อผมหรอ ?”
อืม
ทำไมเขาต้องมานั่งยิ้มน้อยยิ้มใหญ่กับเพียงแค่ชื่อที่อีกคนเรียกด้วยเนี่ยยย ?
CK หรอ ก้ยังดีกว่าคุณผีละเนาะ ฮิฮิ
.
.
.
“เลิกคลาสครับ” เสียงศาสตราจารย์ สั่งเลิกคลาสเรียนที่นานเกือบสี่ชั่วโมง ชานยอลมองไปรอบกายก้พอผีน้อยที่เขาเรียกว่า CK กำลังนั่งสัปหงกอยู่ตรงที่ว่างหลังห้อง
ขี้เซาชิบเป๋ง
มือหนารีบหยิบหูฟังโทรศัพท์ขึ้นมาใส่หู ก่อนจะเดินเนียนๆไปตรงที่ผีน้อยนั่งอยู่แล้วเอ่ยเรียกอย่างเนียนๆ
“คุณ คุณ”
“อื้ออออ”
“ตื่นเดี๋ยวนี้ ไม่งั้นผมจะทิ้งคุณไว้นี่นะ”
“อือออ ทำไมคุณชอบขู่ผมจังนะชานยอล”
“แล้วใครใช้ให้คุณมานั่งหลับละซีเค” ชื่อใหม่ช่างแปลกหูเสียงจริง แต่ก้เอาเถอะ อย่างน้อยเรียกชื่อมันก้ยังดูดีกว่าเรียกคุณ หรือคุณผี ขนาดพูดเองยังกลัวเองเลย
“อือออ ก้ใครใช้ให้คุณนั่งเรียนเป็นชั่วโมงๆละ” สกิลการเถียงนี่ยกให้เขาเลยจริงๆ
“ความผิดผม ? “
“ใช่”
“งั้นคุณก้อยู่นี่แหล่ะ ผมไปละ” ไม่พูดเปล่า ชานยอลเดินออกไปโดยไม่แยแสร่างเล็กเลยสักนิด ผีน้อยที่รู้ตัวว่ากำลังจะโดนทอดทิ้งรีบลุกขึ้นอย่างเร็วแล้ววิ่งไปดักหน้าชานยอลเอาไว้
“จะไปไหนอ่ะ”
“กินข้าว” พูดจบก้เดินตัดหน้าร่างเล็กไปทันที
นี่ชานยอลไม่ได้กำลังงอนเขาใช่มั้ย ?
ผู้ชายบ้าอะไรงอนด้วย !
ร่างสูงยืนเลือกร้านอยู่ครู่หนึ่งหลังจากที่เดินไปเดินมาหลายรอบ ในที่สุดก้ตัดสินใจเข้าร้านโปรดที่เขามักจะมาบ่อยๆ
ชานยอลเลือกมุมในสุดของชั้นสอง เพื่อความเป็นส่วนตัว และอีกอย่าง เพื่อนจะได้คุยกับร่างเล็กโดยที่ไม่มีใครสงสัยด้วย
พนักงานยื่นเมนูอาหารให้แก่เขา ชานยอลกวาดสายตาไล่อยู่ครู่หนึ่งก่อนจะมาหยุดอยู่ที่เมนูประจำ
“สลัดกุ้ง/สลัดกุ้ง” ชานยอลเงยหน้ามองร่างตรงข้ามด้วยสีหน้าประหลาดใจ นั่นเมนูโปรดเขา ทำไม...
“รับอะไรเพิ่มมั้ยคะ ?” พนักงานที่เห็นชานยอลนั่งอึ้งอะไรสักอย่างเอ่ยท้วง ชานยอลรีบกลับมาสนใจเมนูอีกครั้งก่อนจะสั่งอาหารกับพนักงานต่อ
“ผมขอสลัดกุ้ง กับน้ำเปล่านะครับ อ้อ แล้วก้ขอสลัดกุ้งอีกชุดเอากลับบ้านด้วย”
หลังจากรับรายการเรียบร้อย พนักงานคนนั้นก้ขอเมนูคืนจากชานยอลก่อนจะเดินกลับลงไป ชานยอลมองไปรอบๆ เวลานี้ชั้นสองยังไม่มีคนขึ้นมาเลยนอกจากเขา ร่างสูงจึงได้ทีคุยกับร่างตรงหน้า
“คุณรู้ได้ไงเรื่องสลัดกุ้ง ?”
“สลัดกุ้ง ? ทำไมหรอ อร่อยนะ” ผีน้อยCK ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่พลางทำหน้าตื่นเต้นมองออกไปนอนกระจกที่มีวิวของมหาลัยปรากฏอยู่
“ใช่ แต่นั่น..”
“เมนูโปรดคุณหรอ ?” ผีน้อยถามแทรกขึ้นมา นั่นยิ่งทำให้ชานยอลแปลกใจขึ้นไปอีก
“รู้ได้ไง?”
“ไม่รู้เหมือนกัน อยู่ๆมันก้เข้ามาในหัวน่ะ ก้เลยพูดออกไปเผื่อมันจะเป็นทางเลือกให้คุณ”
“คุณนี่ ประหลาดจริงๆ” ส่ายหน้าเบาๆ แต่กลับทำให้กรอบแว่นเลื่อนลงมากองอยู่ปลายจมูก แต่พอชานยอลจะเลื่อนมือเพื่อดันมันขึ้น กลับมีนิ้วขาวๆ มาดันแทนซะงั้น
ชานยอลสตั๊นไปสามวิ
.1
.2
.3
“ ทำไมคุณชอบทำหน้าอึ้งใส่ผมทุกทีเลยนะชานยอล”
เพราะคุณไง ไม่รู้ตัวอีกหรอ ?
“อะไร อึ้งอะไร เงียบๆบางก้ดีนะคุณน่ะ พูดทั้งวันไม่เมื่อยปากบ้างหรอ” พอทำอะไรไม่ถูกก้ด่าออกมาทุกที เชื่อหมาในปากเลย
“อะไร แค่นี้ก้ว่า เชอะ”
ในระหว่างชานยอลนั่งกิน ซีเค ก้เอาแต่พูดพร่ำไปเรื่อย ผีตรงหน้านี่ไม่ต่างจากเด็กห้าขวบเลยสักนิด สงสัยไปหมด นั่นอะไร นี่อะไร โน่นอะไร แบบนั้นใช่มั้ย แบบนี้ใช่ ชานยอลที่ขี้เกียจตอบเลยทำแค่พยักหน้าหงึกหงักตามไป
“นี่ เมื่อไหร่จะเลิกพูดสักทีน่ะคุณ” ตำหนิสักหน่อย คนฟังนี่ปวดหูจะตายละ
“ก้ผมอยากรู้นี่”
“อย่าอยากรู้ไปซะทุกเรื่องเลยน่า เก็บความสงสัยของคุณไว้บ้างเถอะ”
“คุณก้แค่ทนๆฟังไปก้ไม่ได้ ทำไมต้องว่าผมตลอดด้วย”
“ก้ผมรำคาญหนิ”
และเพราะคำพูดที่ไม่ทันคิดของร่างสูง ทำเอาผีน้อยถึงกับใบ้เลยทีเดียว
“ขอโทษ/ขอโทษ” ทั้งครู่พูดมันออกมาพร้อมกันหลังจากที่ต่างฝ่ายต่างเงียบไปนาน
“คุณขอโทษผมทำไม” ผีน้อยถามออกมาอย่างไม่เข้าใจ ในเมื่อร่างสูงไม่ได้ทำอะไรผิดเลยสักนิด ทำไมถึงเอ่ยปากขอโทษเขาได้
“ก้ขอโทษที่ว่าคุณออกไปไง ปากผมเสียน่ะ”
“ผมรู้ว่าปากคุณเสีย”
“อ่าว -0-“
“แต่ผมก้พูดมากจนน่ารำคาญจริงๆนั่นแหล่ะ”
“ไม่ได้งอนผมใช่มั้ย ?”
“ถ้างอน คุณจะง้อผมรึไง ?” ปาร์คชานยอลถึงกับนิ่งกับคำถามที่โดนถามกลับ
“ก ก้ไม่รู้อ่ะ ถ้าผมผิดผมก้คงง้อ”
ความเงียบเข้าครอบงำคนทั้งครู่อีกครั้ง จนเสียงสั่นโทรศัพท์ของปาร์คชานยอลเข้าทำลายมัน
ครืดดด ครืดดดดด
ชานยอลมองเบอร์ที่โทรเข้ามาอย่างชั่งใจ ตาเรียวคมตวัดขึ้นมองร่างตรงหน้าที่กำลังมองโทรศัพท์ของเขาอยู่เช่นเดียวกัน
“แฟนคุณหรอ ?”
“...”
“รับสิ”
.
ติ๊ด “ฮัลโหล....
อีกสักตอนนะ โมเมนต์เยอะว่ะตอนกลางวัน ฮ่าๆ
ขี้งอนทั้งคู่อ่ะเอาง่ายๆ
ปมเริ่มมาแล้วนะ รหัสลับดาวินชี ! (ไม่เกี่ยว=0=)
CK 612 อะไรเนี่ยย ?
แล้วสลัดกุ้งของโปรดชานยอลละ ? ผีน้อยรู้ได้ไง ?
เอ้ะ เอ้ะ เอ้ะ ?
แฟนชานยอลคือใคร ยังไม่ออก ฮ่าๆๆๆๆ
ติดตามกันต่อนะฮ่ะ เรื่องอาจจะบอกแค่เจ็ดวันแปดคืน
แต่มันต้องมากกว่านั้นอยู่แล้ว บอกไว้ก่อนเดี๋ยวพอเรื่องมาแล้วจะสงสัยกันไปใหญ่
แต่ขอบเขตของชื่อมันต้องเกี่ยวแน่นอน
ไรท์ว่าไรท์พูดมากตามผีน้อยไปละ ...
เจอกันตอนหน้า ฮิฮิ
อ่านแล้วเม้นให้หน่อยน้าาาาาา
รักรีดเดอร์ทุกคนจากส่วนลึกของจิตใจ (เยอะไปละ)
จบแค่นี้สวัสดี
.
ความคิดเห็น