คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : NIGHT1 :: nightmare
Night 1
คืนนี้เอาไงอ่ะ ?
คืนนี้ผมต้องนอนกับผี... ปาร์คชานยอลคนนี้ต้องนอนกับผี !!!!!!!
“คุณ . นี่ นี่ ! คุณผีได้ยินที่ผมเรียกมั้ย !” หลังจากที่เข้ามาให้ห้องพร้อมกับวิญญาณหน้าตาน่ารัก ที่ตอนนี้ติดสอยห้อยตามเขาไปทั่ว คนตัวเล็กมองไปรอบห้องอย่างพิจารณาก่อนจะสะดุ้งตัวโยนเพราะเสียงเรียกที่ดังลั่นของเจ้าของห้อง
“ตะโกนทำไม ?” ผีน้อยหันมาตีหน้ายุ่งใส่คนเสียงดัง ทำเอาเขาตกใจหมด
“ก้เรียกแล้วเหม่ออยู่อ่า ก้ต้องเรียกดังๆสิ” อีกคนยังคงแก้ตัว
“แล้วเรียกทำไม”
“ผมจะถามว่าคุณจะเอายังไงต่อ” ว่าพลางวางสัมภาระบนตัวลงบนโต๊ะ
“ผมไม่รู้” ส่ายหน้าไปมาเหมือนคนกำลังจนหนทาง มันทั้งด่ารักและน่าสงสารในเวลาเดียวกัน
“คุณจะตามผมอย่างนี้ตลอดไปไม่ได้หรอกนะ คุณต้องไปในที่ของคุณ ซึ่งแน่นอนว่ามันไม่ใช่ที่นี่” ปาร์คชานยอลพูดเสียงหนักแน่นเสียจนคนฟังเริ่มหน้าเสีย ไม่ใช่เขาไม่รู้ว่าร่างสูงตรงหน้าไม่อยากจะให้เขาติดสอยห้อยตามไปไหนต่อไหนทุกวัน แต่เขาไม่มีทางเลือก ในเมื่อคนๆเดียวที่เห็นเขาและสามารถช่วยขาได้คือคนตัวโตคนนี้
“ผมรู้ แต่ตอนนี้ผมไม่รู้ว่าผมจะไปในที่ของผมได้ยังไง ผมเลยมาให้คุณช่วยไง” เสียงอ่อนเบาปะปนไปด้วยความเศร้าจนคนฟังเริ่มรู้สึกตัวว่าตัวเองได้พูดสิ่งที่ทำร้ายร่างเล็กตรงนี้เสียแล้ว ปากนะปาก ทำไมไม่คิดก่อนพูดเลย
“ผมก้อยากช่วยคุณนะ แต่คุณเล่นไม่รู้อะไรเลยเหมือนคนความจำเสื่อมแบบนี้ ผมไม่รู้ว่าควรจะเริ่มที่ตรงไหน”
“...” ตากลมเล็กเริ่มมีน้ำใสใสเอ่อคลอ มันเป็นความผิดของเขาใช่มั้ย ที่ตายแล้วแต่ยังไม่รู้ว่าตัวเองเป็นใคร จนทำให้คนตรงหน้าต้องมาลำบากไปด้วยแบบนี้
“เอ่อ อย่าร้องสิ ผมสัญญาก้ได้ว่าจะช่วยคุณ แต่ตอนนี้ผมว่าคุณควรจะพักผ่อน อาบน้ำหรือ กินอะไรสักหน่อยมั้ย เอ่อ คือผมไม่รู้ว่าต้องทำยังไง ?” อย่าว่าแต่ปาร์คชานยอลที่ไม่รู้ ผีตัวน้อยนี่ก้ไม่รู้เหมือนกัน
“เป็นผี ต้องอาบน้ำ กินข้าว หรือนอนด้วยหรอ ?” เป็นคำถามที่ทำเอาทั้งคู่ถึงกับใบ้กิน เอ่อว่ะ! เกิดมาก้ไม่เคยเป็นผี ไม่รู้ว่าต้องทำอะไรบ้าง ในหนังผีกไม่เห็นได้บอกอะไรไว้
“เอ่ออ งั้นเอางี้ คุณจะทำอะไรก้ทำนะ ต้องการอะไรก้บอกผม ผมขอตัวไปอาบน้ำก่อน”
“ได้สิ” เกิดรอยยิ้มเล็กๆบนใบหน้าขาว มันช่างงดงามจนคนมองรู้สึกราวกับถูกสะกด ใช่ ปาร์คชานยอลเผลอมองแล้วยิ้มตามอย่างหลงใหล รู้สึกตัวอีกทีก้ตอนที่ร่างเล็กตรงหัวเราะออกมา
“เอ่ออ หัวเราะอะไร”
“ฮิฮิ มองผมอย่างกับหลงงั้นแหล่ะ”
“ใครจะไปหลงผีกันล่ะ” วิ่งเข้าห้องน้ำไปอย่างรวดเร็วเพื่อปิดซ่อนใบหน้าแดงๆที่เกิดจากความเขินอาย ได้ยินเสียงเล็กๆหัวเราะไล่หลังมา
ทำไมเขาต้องหลงใหลใบหน้าหวานๆนั่นด้วยน่ะ ฮึ่ยย ไอผีอันตราย
เกือบครึ่งชั่วโมงที่ชานยอลหายเข้าไปในห้องน้ำ และกว่าจะแต่งตัวเสร็จก้ปาไปเกือบชั่วโมงแล้ว
ขายาวก้าวออกจากห้องนอนของตัวเองหลังจากที่จัดการตัวเองเรียบร้อยแล้ว สายตาคมกวาดมองรอบห้องเพื่อหาสมาชิกใหม่ที่เขารับเข้ามาไว้ในห้อง
“หาผมหรอ ?” จู่เสียงแผ่วๆก้ดังที่ข้างหู ชานยอลรู้สึกขนลุกซู่ทันที ทำไมมาแต่เสียง แล้วตัวละ ?
“ถ้าผมกลัวจนช็อกตาย รับรอง คุณได้เป็นผีเร่ร่อนเฝ้าคอนโดผมแน่” ไม่ทันขาดคำ ร่างขาวๆที่มองหาก้ปรากฏตรงหน้าทันทีพ้อมด้วยหน้ามุ่ยๆของผีน้อยจนชานยอลต้องกลั้นขำไว้ไม่ให้หลุดมาดขรึม
“ทำไมต้องขู่ผมด้วยละ ผมก้แค่อยากแกล้งคุณเล่นๆ” อมลมเหมือนเด็กๆ แต่ก้น่ารักไม่หยอก ชานยอลส่ายหัวไปมาก่อนจะเดินผ่านหน้าร่างบางเพื่อไปยังโซฟา มือหนาหยิบรีโมทขึ้นมาเปิดทีวีทันทีโดยไม่สนใจอีกคนเลยสักนิด
ร่างเล็กเดินตามหลังมาเงียบๆก่อนจะนั่งลงตามเจ้าของห้อง สายตาไม่ได้สนใจภาพในจอสี่เหลี่ยมตรงหน้าเหมือนร่างสูง แต่ตากลมกลับจองมองด้านข้างของอีกคน จนคนโดนมองรู้สึกตัว
“จ้องผมทำไมครับ “ ท้วงใส่หน้า แต่อีกคนกลับยิ้มให้ ปากรูปหัวใจอวบอิ่มนั่นมันน่า..... ฮึ่ยย คิดบ้าอะไรเนี่ย
“คุณอยู่คนเดียวหรอ แฟนคุณละ?” จู่ๆคนข้างๆก้ถามคำถามออกมา ชานยอลพลันทำหน้าสงสัยในคำถาม
“คุณรู้ได้ไงว่าผมมีแฟน ?” นั่นสิ ? หรือว่า....
“ผมเข้าไปในห้องนอนของคุณเมื่อกี้ แล้วเห็นรูปที่หัวเตียง แฟนคุณใช่มั้ย? น่ารักดีนะ” พูดไปยิ้มไปอย่างน่ารัก ผีตรงหน้าเขานี่ยิ้มเก่งไม่เบาเลยนะ
“ ใช่ แฟนผมเอง เขาอยู่คนละที่กับผมน่ะ นานๆทีถึงจะมา” ชานยอลพูดเสียงเรียบนิ่ง
“คุณดูเศร้าๆนะเมื่อพูดถึงเขา”
“เปล่านิ ช่างเรื่องของผมเถอะ เรามาว่าเรื่องของคุณดีกว่า” ร่างสูงตรงหน้าเปลี่ยนเรื่องทันทีเมื่อเห็นว่าคนตัวเล็กเริ่มซักไซ้เรื่องส่วนตัวของเขา
เมื่อชานยอลพูดเรื่องของตัวเองขึ้นมา ผีน้อยตรงหน้าถึงกับคลี่ยิ้มกว้าง
“คุณจะช่วยผมจริงๆใช่มั้ย ?”
“ผมว่าผมบอกคุณไปแล้วนะ คุณผี”
“เฮ้ อย่าเรียกผมแบบนั้นสิ มันรู้สึกแย่แปลกๆ” หน้าหงอขึ้นมาจนร่างสูงตามอารมณ์แทบไม่ทัน
“แล้วจะให้ผมเรียกว่าอะไรละ บอกชื่อมาสิ”
“เอ่ออ ผมไม่รู้ชื่อตัวเองอ่ะ” ถ้าเขาจำชื่อตัวเองได้ อะไรๆมันคงจะง่ายกว่านี้ แต่นี่แม้แต่ตัวเองยังไม่รู้จักเลย
“นั่นไง แล้วทีนี้จะให้ผมเรียกว่าอะไรละ ?”
“...” คนโดนถามถึงกลับพูดไม่ออก
“กริบ”
“ห้ะ ?”
“แค่นี้ถึงกับเงียบ เอางี้ นึกออกแล้วบอกละกันว่าอยากให้เรียกว่าอะไร ตอนนี้ผมง่วงมากแล้วก้อยากนอนมากแล้วด้วย” ร่างสูงพูดพลางปิดทีวีที่เปิดดูได้ไม่ถึงสิบนาที ปากหาวหวอดๆนั่งบ่งบอกได้ว่าเขาง่วงจริง
“...”
“เงียบอยู่นั่นแหล่ะ ไป ไปนอน” กวักมือเรียกอย่างไม่ใส่ใจนักก่อนจะเดินนำเข้าห้องนอนไป ร่างเล็กเอียงคออย่างไม่เข้าใจแต่ก้ยอมเดินตามไป
เรียกให้เขาไปนอนด้วยงั้นหรอ ?
ไม่ต้องหาคำตอบใด ชานยอลที่ล้มตัวนอนลงก่อนมองร่างเล็กพลางพยักหน้าให้ ก่อนจะตบมือลงเบาๆบนที่นอนที่ว่างข้างๆตัวเขา
“นอนข้างๆผมเลยก้ได้ “
“ข้างคุณ ?” เลิกคิ้วถาม
“อืม หรือจะนอนพื้น ?”
“ม ไม่ “ ขาเล็กก้าวขยับไปยังเตียงนุ่มที่เจ้าของนั้นเอ่ยเชิญชวน ตากลมวูบไหวไปมาเหมือนไม่ค่อยแน่ใจในนสิ่งที่ทำเท่าไหร่ แต่สุดท้ายก้ตัดสินใจทิ้งตัวลงบนเตียงนั่น
“งั้น ฝันดีนะ” เสียงทุ้มเอ่ยเป็นครั้งสุดท้ายก่อนที่เจ้าตัวจะพลิกตะแคงตัวหันหลังให้ผู้มาใหม่
ผีน้อยอมยิ้ม
“ครับ ฝันดีเช่นกัน”
.
.
.
‘ฉันรักนายปาร์คชานยอล’
‘ฉันก้รักนาย อืมม ดูเหมือนจะมากกว่าด้วยนะ’
‘นายเอาอะไรมาตัดสินว่านายรักฉันมากกว่าห้ะ?’
‘ก้เอาความรู้สึกฉันไง’
‘ หือ ? นายรู้สึกว่าฉันรักนายน้อยไปหรอ ‘
‘เปล่าเลย ไม่ใช่’
‘ไม่ใช่แล้วอะไรล่ะ’
‘ฉันแค่รู้ว่าฉันรักนายมากเกินไป รักจนคิดว่าวันนึงถ้านายจากฉันไป ฉันต้องไม่เป็นผู้เป็นคนแน่’
‘ฮะๆ เว่อน่า’
‘เรื่องจริงครับ’
‘เอ้อๆ เชื่อก้ได้’
.
‘ชานยอล’
‘...’
‘ชานยอลอา อย่าไปเลยนะ’
‘...’
‘ชานยอล ขอร้องละ’
‘...ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้’
‘ไม่นะชานยอล ไหนนายบอกนายรักฉันไง’
‘นายมันโง่ ที่เชื่อคนอย่างฉัน’
‘ฉันยอมโง่นะชานยอล แต่นายอย่าไปเลยนะ ฮึก.’
‘ขอโทษนะ แต่ฉันไม่ชอบคนโง่ๆ’
‘...ชานยอล อย่าไป’
อย่าไป
อย่าไป
อย่าไป
.
“เฮือก !”
“ฝันร้ายหรอ” เสียงเล็กที่ดังจากริมหน้าต่างเรียกสติคืนให้กลับร่างสูง ชานยอลที่ตอนนี้เหงื่อไหลเต็มกายกำลังหอบหายใจทิ้งรุนแรงราวกับเหนื่อยมากจากไหน
“ฮู่ว เปล่าหรอก” ปฏิเสธเสียงเรียบทั้งที่ทุกอย่างบอกได้ดีว่าเขานั้นฝันร้ายมา
“บ่อยมั้ย?”
“ดึกแล้วทำไมไม่นอน?” เปลี่ยนเรื่องราวกับไม่ได้ยินประโยคก่อนหน้า
“ผมฝันร้าย”
“ฝัน ? ผีนี่ฝันด้วยหรอ ?”
“ใช่ เมื่อกี้ผมฝันร้าย ..ผมฝันว่าผมอยู่บนเรือกับใครสักคน ผมไม่เห็นหน้าเขา ไม่ได้ยินเสียง แต่ฉันรับรู้สัมผัสอบอุ่นจากเขา เขาโอบกอดผม แต่แล้วทุกอย่างก้วูบไป จู่ๆผมก้จมดิ่งลงสู่ท้องทะเล เพราะความรักตัวกลัวตายทำให้ผมดิ้นรนเพื่อที่กอบโกยออกซิเจนที่อยู่เหนือน้ำ แต่กลับทำไม่ได้ ผมรู้สึกเหมือนตัวเองกำลังจะตายลงช้าๆ และในตอนที่กำลังจะหมดลมหายใจ ผมกลับรู้สึกว่ามีสิ่งของใหญ่ตกตูมลงมาในน้ำ ผมไม่รู้ว่ามันคืออะไร เพราะสะดุ้งตื่นเสียก่อน”
“อาจเป็นสาเหตุที่คุณตายก้ได้”
“ถ้าผมตาย ทำไมผมถึงไม่ไปผุดไปเกิด ไปลงนรกหรือขึ้นสวรรค์อะไรแบบนั้นล่ะ ทำไมถึงมาอยู่ที่นี่ ตรงนี้”
“ผมก้ไม่รู้ มันแปลกมาก”
“แปลก ? อะไรแปลก”
“คุณไม่เหมือนผีทั่วๆไปที่ผมเห็น คุณเหมือนคน คนธรรมดาที่เนื้อหนังชัดเจนจนครั้งแรกที่ผมเห็นผมไม่คิดว่าคุณจะเป็นผีได้”
“ที่คุณพูดหมายความว่ายังไง?”
“คุณ.. อาจยังไม่ตาย”
“ห้ะ ?”
“ผมแค่สันนิษฐานเอาน่ะ คือ คนที่ตายจะอยู่ในที่ที่ตัวเองตาย ไม่สามารถไปไหนมาไหนได้แบบที่คุณทำ จะจำเรื่องราวครั้งสุดท้ายที่ทำให้ตัวเองต้องอยู่นี่นั่น บางคนอยู่เพราะความแค้น บ้างก้อยู่เพราะความห่วง”
“...”
“แต่คุณไม่ใช่ คุณจำเรื่องราวของตัวเองไม่ได้ นั่นทำให้ผมแปลกใจ”
“ผมไม่เข้าใจที่คุณพูด”
“วิญญาณของคุณอาจจะหลุดออกจากร่างด้วยสาเหตุใดสาเหตุหนึ่ง และเท่าที่ผมรู้ คุณต้องหาร่างให้เจอภายในเจ็ดวัน ไม่งั้น..”
“ไม่งั้นอะไร ?”
“คุณอาจจะเข้าคืนร่างตัวเองไม่ได้อีกตลอดไป”
“ไม่นะ...”
เจ็ดวันหรอ ?
แค่เจ็ดวันในการหาร่าง ? จะเป็นไปได้ยังไง
ผมไม่รู้จักตัวเอง ไม่รู้ว่าตัวเองเป็นใครมาจากไหน ไม่รู้ว่าตายยังไง
และที่สำคัญ ผมไม่รู้ว่าร่างของผมอยู่ที่ไหน
แล้วผมควรจะเชื่อในสิ่งที่ปาร์คชานยอลบอกได้มั้ย ?
แต่.. เขาเป็นที่พึ่งสุดท้ายของผม ผมคงจะต้องทำตามที่เขาบอกแล้วละ
ปาร์คชานยอล คุณต้องช่วยผมนะ !
อีกตอนสั้นๆนะฮะ
นี่แค่คืนเดียวนะชานยอลดูเหมือนจะหลงผีตัวน้อยไปซะแล้ว
ชื่อผียังไม่ออก รอกันต่อไป แต่ทุกคนคงรู้แล้วใช่ว่าผีตนนี้คือใคร
แล้วแฟนชานยอลในรูปละ โอ้ยๆใครว่ะ ?
ฮ่าๆๆ เอาเถอะๆ
อ่านแล้วคอมเม้นนะฮะ ไม่ขอไรมาก
รักรีดเดอร์
แล้วเจอกันตอนหน้า ฮริ้งงงค์
ความคิดเห็น