คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #13 : DAY4 :: Love trip (1)
DAY 4
“คุณ....” เสียงทุ้มเอื่อยๆ ดังขึ้นหลังจากที่แสงในยามเช้าเข้ามาทิ่มแทงดวงตา จนไม่สามารถทนหลับได้อีกต่อไป
“...” แต่ต่างจากคนข้างๆโดยสิ้นเชิง
“ชานยอล” เอ่ยเรียกอีกครั้ง แต่ผลที่ได้ก้เหมือนเดิม
“....”
“ถ้าคุณไม่ตื่น ผมจะควักไส้ออกมาให้คุณดูเดี๋ยวนี้แหล่ะ”
“หะ เห้ยย คุณทำอย่างนั้นได้ด้วยหรอ ?” ชานยอลที่แกล้งหลับอยู่นาน ลุกขึ้นถอยห่างพลางทำหน้าตาตื่นตกใจเป็นอย่างมาก
ถึงจะอยู่ด้วยกันทุกวัน แต่ควักไส้ออกมาให้ดูได้นี่ ก้ไม่ไหวเหมือนกันนะ
“ฮิฮิ เปล่า ผมทำไม่ได้หรอก” เสียงเล็กหัวเราะคิกคัก
ชานยอลนี่ ขี้กลัวผีเป็นบ้า
“เห้ ไม่เล่นอย่างนี้นะ ถ้าผมหัวใจวายตายขึ้นมาจะเป็นยังไง” ชานยอลถอนใจยาว แล้วเขยิบตัวทำท่าจะลงนอนเช่นเดิม แต่ก้ต้องชะงักเมื่อได้ยิน...
“คุณก้จะได้ไปอยู่กับผมไง” คนพูด พูดออกมาเหมือนเป็นเรื่องทั่วไป แต่กลับทำเอาคนฟังรู้สึกเสียววาบ
“นี่คุณ...”
“ผมล้อเล่น คุณคิดว่าผมพิศวาสคุณขนาดนั้นเลยหรอ ?” ร่างเล็กพูดไปหัวเราะไป ชานยอลเลยทำได้แค่ยิ้มแห้งๆตอบกลับ
“ก้ไม่แน่หรอก ผมออกจะน่ารักขนาดนี้ คุณอาจจะหลงรักผม แล้วพาผมไปอยู่ด้วยจริงๆก้ได้”
“หลงตัวเองหว่ะ ฮ่าๆๆ” ร่างเล็กหยิบหมอนอิงใกล้มือขึ้นมาฟาดไปที่หัวชานยอลแรงๆ ร่างสูงที่ไม่ทันตั้งตัว หัวปลิวไปตามแรงตี
“อ้ะ นี่ ! ผมเจ็บนะ”
“อะไร แค่นี้สำออยหรอชานยอล ตัวโตซะเปล่า ไม่น่าเลยนะ”
ไม่พูดเปล่า แต่ยังลงมือตีต่อไป
“เห้ย นี่ พอก่อนๆ ผมยอมแล้ว”
“ยอมง่ายไปนะชานยอล ฮ่าๆๆ” ร่างเล็กยังคงไม่หยุด
ชานยอลคว้ามือสะเปะสะปะเพื่อหลบหมอนอิงลูกนั้น จนคว้าเอาข้อมือเล็กได้แล้วดึงลง จนคนขี้แกล้งใบหน้าชนกับอกกว้าง
“แฮก ๆ เป็นไง แกล้งดีนัก จับซบอกเลย” ชานยอลปล่อยมือออกจากข้อมือ มาเป็นโอบกอดร่างเล็กไว้ทั้งร่างแทน อีกคนดิ้นขลุกขลักไปมา แต่เหมือนจะไม่หลุดออกง่ายๆซะแล้ว
“นี่ อย่าทำแบบนี้สิ ผมยอมแล้ว”
“ยอมง่ายไปนะ คุณผี...”
10%
.
.
.
.
“คุณจะขับ ?”
“อ่า ใช่แล้ว”
“ชานยอล คุณจะขับเองจริงหรอ ?”
“ใช่แล้ว ทำไมหรอ ?”
“ก้.. เปล่า คือ ผมไม่คิดว่า...”
“ผมขับมันได้น่า ก้แค่เรือเองนะ คุณกลัวอะไร ?”
“ก้เปล่า ผมแค่ไม่คิดว่าคุณจะกล้าขับมัน...”
“ผมขับเป็นน่า ขึ้นเรือได้แล้ว คนเริ่มมองผมเป็นคนบ้าแล้วเนี่ย”
พอมองไปรอบๆ ก้เหมือนจะจริงอย่างที่ชานยอลว่า คนที่เดินผ่านไปผ่านมามองเขาเป็นตัวประหลาด ยืนพูดยืนเถียงอยู่คนเดียวราวกับคนเสียสติ
แต่เพราะใคร ? ถ้าไม่ใช่เจ้าผีน้อยขี้สงสัย
แถมยังขี้กลัวอีกต่างหาก ฮะๆ
ชานยอลขับเรือสปีดโบทออกมาจากท่าได้ไม่นาน ผีน้อยขี้กลัวก้ดูเหมือนจะผ่อนคลายขึ้น เริ่มสงเสียงเจื้อยแจ้วถามโน่นถามนี้ไป
“เราจะไปไหนกัน ชานยอล”
“ปิกนิคครับ”
“ปิกนิค ?”
“อย่าบอกนะว่าไม่รู้จักปิกนิค มันก้คือการ....”
“หยุดเลย คุณไม่ต้องมาทำเหมือนผมเป็นเด็กอนุบาล ผมความจำเสื่อมนะ ไม่ได้ปัญญาอ่อน”
พูดไปทำหน้าง้ำหน้างอไป ชานยอลที่แอบเห็นสีหน้าเหมือนไม่พอใจ ก้อดยิ้มขำไม่ได้ เพราะมันดูน่ารักมากกว่าน่ะสิ
“ขนาดงอนยังน่ารัก”
“ผมไม่ได้งอน”
“ไม่ได้งอนแล้วทำไมหน้างอ”
“หน้าผมไม่ได้งอสักหน่อย” ไม่พูดเปล่า แต่เผยอหน้าให้อีกคนดูว่าหน้าเขายังตรงดี
ชานยอลยิ้มกว้าง ก่อนก้มลงไปจุ๊บปากแดงๆที่เจ้าตัวยื่นเข้ามาใกล้
จุ๊บ !
“อา ... คุณทำให้ผมเสียสมาธิในการขับเรือนะผีน้อย”
ชานยอลเอ็ดเสียงดุแล้วตั้งหน้าตั้งตาขับเรือต่อ โดยไม่หันกลับมามองผีน้อยหน้าเหวอเพราะถูกจูบทีเผลอไม่หาย แก้มแดงหูแดงจนเก็บอาการเขินไม่อยู่
เสียงเจื้อยแจ้วกลับมาอีกครั้ง เมื่อเรือเคลื่อนมาใกล้เกาะกลางทะเลที่ชานยอลตั้งใจจะพาอีกคนมาปิกนิค
“นั่นไงๆ ใกล้ถึงแล้ว”
“โห สวยจัง คุณรู้จักที่แบบนี้ได้ไงเนี่ย?”
“ผมเคยมาน่ะ แต่เมื่อนานมาแล้ว”
“คุณเคยมาที่นี่ด้วยหรอ ?”
“ใช่แล้ว สวยใช่มั้ยละ แต่ผมไม่ได้มานานมากแล้วนะ ไม่รู้ข้างในจะยังเหมือนเดิมมั้ย”
“คุณมากับใครอ่ะ ?”
“แบคฮยอนมั้ง ถ้าจำไม่ผิด”
“.... อ๋อ หรอ” เสียงเล็กสดใสดูเอื่อยลงอย่างเห็นได้ชัด ทำไมอกซ้ายเขาต้องรู้สึกแปลบขึ้นมาด้วยละ
ก้แค่ชื่อแบคฮยอน ก้แค่แฟนชานยอลเองนะ
บ้าจริง !
ชานยอลไม่ได้ทันสังเกตว่าคนข้างๆเริ่มแปลกไป เพราะมัวแต่หาที่จะเทียบเรือเข้าฝั่ง แต่เพราะน้ำวันนี้ลดลง ทำให้เขาต้องจอดเรือไกลจากฝั่งมากพอสมควร และเดินลุยน้ำทะเลเพื่อเข้ามายังฝั่ง
“ให้ผมช่วยถือมั้ย?” เมื่อเห็นชานยอลวุ่นวายกับการต้องการที่จะยกของทั้งหมดเข้าฝั่งทีเดียว ผีน้อยที่เงียบตั้งแต่ได้ยินชื่อบุคคลที่สามจึงออกปากถาม
“ก้ดีนะ” ชานยอลพูดพร้มกับส่งยิ้มหวานๆให้
“ J ” ผีน้อยส่งยิ้มให้ ก่อนจะเอื้อมมือไปคว้าตะกร้าในมือชานยอล แต่ผลที่ได้คือ มือของเขาผ่านตะกร้าไปราวกับอากาศ
เจ้าตัวตกใจไม่น้อยที่จู่ๆตนเองก้ไม่สามารถหยิบจับสิ่งของที่ต้องการได้ มือเล็กเอื้อมไปจับตะกร้านั่นอีกครั้ง แต่ผลที่ได้ก้ยังคงเป็นเช่นเดิม
ชานยอลที่เห็นท่าไม่ดีของอีกคน ต้องเอ่ยปากบอก
“ไม่เป็นไร ของแค่นี้เดี๋ยวผมถือเอง คุณไปรอผมที่ฝั่งนะ” แต่ดูเหมือนจะไม่ช่วยเท่าไหร่ เพราะผีน้อยเดินไปตามที่เขาบอกด้วยสีหน้าที่ไม่บอกอารมณ์ใดๆเลย มันน่ากังวลยิ่งกว่าอีกคนทำหน้างอเสียอีก
กว่าจะเดินลุยน้ำทะเลที่คลื่นซัดขึ้นลง แม้จะไม่แรง แต่ก้ยากต่อการเดินลุยมาอยู่พอสมควร ชานยอลวางของบนตัวลงพื้นทรายทันที สีหน้าปวดเมื่อยจนไม่ทันเห็นว่าอีกคนที่มองอยู่จะรู้สึกหดหู่ยิ่งกว่าเดิม
“ผมขอโทษนะ ผมมันไม่ได้เรื่องจริงๆ” เสียงเล็กๆเอ่ยออกมาแผ่วๆ เหมือนน้อยใจในความไม่เอาไหนของตัวเอง
“ไม่เอาน่า ผมก้แค่ทำเหนื่อยโอเว่อร์ให้คุณเอาใจผมเล่นเฉยๆนะ ไม่ได้ให้มาทำหน้าแบบนี้ใส่”
ชานยอลพยายามแก้สถานการณ์ให้กลับมาดีกว่าที่เป็นอยู่
“เอาใจ ?”
“โอ้ย ดูสิ ผมปวดไหล่อ่ะ ไม่คิดจะทำอะไรเพื่อเป็นการตอบแทนที่ผมอุตส่าห์ยกของพวกนี้มาบ้างหรอ ?”
ร่างบางเอียงคออย่างงๆกับคำพูดของชานยอล
“ทำอะไร ?”
“อืมม ถ้าได้หอมแก้มคุณสักที ความเมื่อยพวกนี้ต้องหายไปแน่ๆเลย คุณว่ามั้ย?”
“เอิ่มม ... แต่ผมไม่คิดงั้นนะ” ร่างเล็กที่เหมือนจะตามทันตอบกลับไป ชานยอลที่ถูกขัดใจ เริ่มหาวิธีใหม่
“โถ่ ผีอะไรใจร้ายชะมัด นอกจากไม่ช่วยผมถือแล้ว ยังไม่คิดจะตอบแทนผมอีกต่างหาก ใจร้ายสุดๆ”
ชานยอลเริ่มเอามือกอดอกเหมือนเด็กเอาแต่ใจ ทำหน้างอใส่จนอีกคนส่ายหน้าไปมากับท่าทางปัญญาอ่อนนิดๆนั่น
“ชานยอล คุณก้เห็นนี่ว่าผมจับอะไรไม่ได้ แล้วคุณจะหอมผมยังไง จริงมั้ย ?”
ชานยอลรู้สึกหน้าชาๆ เพราะอีกคนพูดด้วยสีหน้าไม่ดียิ่งกว่าเก่า เหมือนเขาไปซ้ำเติมรอยเดิมๆเมื่อครู่นี่
“เอ่ออ งั้น พูดอะไรหวานๆก้ได้ น้าๆ “
“จะให้ผมพูดอะไร ผมไม่มีอารมณ์มาพูดจาหวานหูกับคุณหรอกนะ”
“เชอะ ! ขอแค่นี้ก้ไม่ได้ ใจร้าย ใจร้ายที่สุดอ่ะ !”
อ้าว นั่น ไม่พูดเปล่า แต่กลับลุกขึ้นแบกของทั้งหมดที่วางลงเมื่อกี้ สะบัดตูดหนีไปเข้าไปยังด้านในของเกาะโดยที่ไม่รอให้อีกคนได้พูดอะไรต่อ
ไอบ้านี่ ! ทำตัวเป็นเด็กๆไปได้
.
.
.
จะว่าไป เกาะที่คนตัวสูงพามานี่ก้ไม่เลวเลยน่า มันดูธรรมชาติแบบสุดๆ ธรรมชาติโคตรๆเลย
เพราะอะไรรู้มั้ย เพราะเกาะนี้....
“ไม่มีแม้กระทั่งบังกะโลเลยหรอ ?”
“ใช่แล้ว มันเป็นเกาะว่างเปล่า ไม่มีแม้กระทั่งไฟฟ้าเลยด้วย”
ตัวผมน่ะ เป็นผี(เออ วันนี้ยอมรับล่ะ) อยู่ได้ทุกที่ จะมีไฟหรือไม่มี นั่นไม่ใช่ปัญหา แต่ไอ้คนตัวโตๆนี่สิ ไม่กลัวว่ายุงจะหาม หรืองูจะเขมือบเลยรึไง นี่มันเขากะจะมาปิคนิกกลางที่โล่งแจ้งแบบนี้เนี่ยนะ
“คุณคงไม่นอนค้างที่นี่ใช่มั้ย ?” ร่างเล็กถามเพื่อความแน่ใจ จะนอนก้คงบ้าเต็มทีแล้วละ มองๆดูแล้ว แม้แต่ที่จะให้นั่งหลบแดดหลบฝนยังหายาก
“ใครบอก ผมคงไม่ขับเรือกลับแน่ๆ นี่ก้บ่ายแล้วด้วย กว่าจะถึงคงค่ำ ค้างสักคืนคงไม่เป็นไรหรอก ผมเองก้อยากลองนอนที่แบบนี้ดูเหมือนกัน”
อ อ อ อะ ไอบ้า !! คำตอบของชานยอลทำผมเงิบอยู่หลายวินาที มันไม่ใช่ที่ที่คนธรรมดาจะมานอนเล่นได้เลยนะ
“เอาจริง ?”
“อ่าห้ะ”
เออ ตามใจเลย นี่แบคฮยอนคนดีงามคงไม่ได้ไม่เคยพานายมานอนที่โรแมนติกพอที่จะทำหนังอีโรติกแบบนี้ใช่มั้ย ?
เก็บกดอะไรมาจากไหนป่าวว่ะ ?
ชานยอลเดินดุ่มๆเข้ามาบริเวณที่ห่างจากฝั่งพอสมควร แต่ยังพอมองเห็นวิวทิวทัศน์และเรือที่ลอยโคลงเคลงอยู่ในน้ำได้พอสมควร เขาวางสัมภาระทั้งหมดลง ก่อนจะหยิบบางอย่างออกมา
“โอ้ยย หิวเป็นบ้า หิวจนจะกินผีได้แล้วเนี่ย” ชานยอลว่าพลางหยิบอาหารและน้ำออกมาจากตระกร้า นี่เขาอัดของกินมา กะจะอยู่สามวันเลยรึไง โคตรเยอะ !
“กินข้าวไปน่ะดีแล้ว แล้วนี่กะจะมาอยู่กี่วันเนี่ย ตุนมาซะขนาดนั้น”
“ก้กะจะอยู่สักสามสี่วันนะ”
“จะบ้ารึไง ! นี่ผมไม่ได้ให้คุณมาพักผ่อนนะ ผมให้คุณมาตามหาร่างของผม นี่ก้ผ่านมา4วันแล้วนะชานยอล ถ้าขืนคุณยังมานอนเล่นอยู่บนเกาะนี่หลายวันแบบนี้ เกิดผมกลบเข้าร่างไม่ได้แล้วคุณจะทำยังไง”
“ผมจะเลี้ยงคุณไว้แบบนี้ ใจจริง ผมก้ไม่ได้อยากให้คุณกลับเข้าร่างเท่าไหร่หรอกนะ”
พูดอะไรของเขา...
“ไม่ได้หรอกนะ คุณจะทำอย่างนั้นไปทำไม ไม่อยากช่วยผมทำไมคุณไม่บอกตั้งแต่แรก ผมไปตามหาเองก้ได้ !” ร่างเล็กลุกขึ้นด้วยอารมณ์ฉุนเฉียว ใบหน้าเล็กบ่งบอกถึงความไม่พอใจเป็นอย่างมาก ก่อนที่ขาเล็กจะก้าวเดินออกไป ประโยคบางอย่างของร่างสูงก้ทำเอาเขาต้องชะงักเท้าลง
“ผมกลัวคุณจะไม่กลับมาหาผม”
“....” ร่างเล็กยืนนิ่งฟังสิ่งที่อีกคนจะพูดต่อ
บ้างจริง ! ทำไมเขาต้องฟังหมอนี่พล่ามด้วยนะ
“ผมกลัวว่าเราจะไม่ได้อู่ด้วยกันแบบนี้อีก โอเค ผมยอมรับว่าผมเห็นแกตัว แต่ผมผิดด้วยหรอที่ผมไม่อยากเสียคุณไป”
“คุณก้รู้ว่ามันเป็นแบบนี้ตลอดไปไม่ได้...” ร่างเล็กค่อยหันกลับมาเผชิญหน้าอีกครั้ง
“...”
“ผมอยู่กับคุณด้วยสภาพนี้ไม่ได้ สักวันคุณก้ต้องไปตามทางของคุณ ถึงเวลานั้น คุณจะเอาผมไปไว้ที่ไหน ? ตอบผมทีสิชานยอล ถ้าเกิดวันนึงคุณต้องกลับไปมีใครสักคนนึง ผมจะเอาตัวเองไปไว้ที่ไหน ? “
ร่างสูงนิ่งเงียบกับคำพูดของร่างเล็ก เขาคงเห็นแก่ตัวมกเกินไปจริงๆ เขาไม่คิดถึงใจอีกคนเลยแม้แต่น้อย เขาเอาแต่กลัวว่าตัวเองอาจจะขาดใจถ้าอีกคนไป แต่เขาไม่เคยนึกเลย ว่าหากอนาคตที่มันไม่เคยจะมีอะไรแน่นอนนั้น มันจะโหดร้ายกับร่างตรงหน้าขนาดไหน
“ผมขอโทษ ผมขอโทษที่ไม่เคยนึกถึงใจคุณ”
“ ผมรักคุณ ตอนนี้ผมรักคุณ”
“...”
“ถ้าคุณรักผมจริงๆ วันนั้นถ้าคุณได้เจอกับผม ผมขอให้คุณทำให้ผมตกหลุมรักคุณแบบนี้อีกครั้ง แล้วผมสัญญา ผมสัญญาว่าจะไม่ไปจากคุณอีก”
“.... ผม ผมก้ยังกลัว กลัวว่าวันนั้นผมอาจจะไม่มีโอกาสแม้แต่จะทำให้คุณรักผม
ผมกลัวว่าผมอาจจะไม่ได้เจอคุณ”
.
.
.
.
บางครั้ง ผมเหมือนจะเข้าใจในสิ่งที่ชานยอลพูด แต่บางครั้งที่ผมเห็นการกระทำบางอย่างของเขา ผมกลับไม่แน่ใจว่าตัวเองนั้นเข้าใจประโยคเหล่านั้นถูกต้องชัดเจนรึเปล่า
บางทีผมเห็นเขาเหม่อ
บางครั้งเขาก้เผลอพูดชื่อแบคฮยอนออกมา
จริงๆแล้วผมเองก้ทำใจไว้อยู่เรื่องที่เขาอาจจะไม่คิดแบบเดียวกันกับผม
เขาอาจจะไม่ได้รู้สึกรักผมจริงๆก้ได้ ตอนนี้เขาอาจแค่ต้องการที่พึ่งทางใจ ก้เขาเพิ่งอกหักมานี่ !
เห้อออ คงไม่มีใครรักใครอีกคนได้ในเวลาเพียงไม่กี่วันหรอก คงไม่มีใครบ้าแหมือนผมแล้วล่ะ
ผมไม่คิดว่าตัวเองผิดหรอกนะ เพราะผมรู้สึกได้ว่าผมไม่ได้เพิ่งรักเขา แต่มันเป็นความรู้สึกเหมือนว่า ความรู้สึกผมโดนเคาะฝุ่นมากกว่า
ผมรู้สึกได้ว่าตัวเองรักเขามานานมาก มากเกินกว่าจะอธิบายได้ว่าเพราะอะไร แน่นอนว่ามันไม่ใช่รักแรกพบแน่ๆ ผมรู้ตัวเองอยู่
แต่มันคืออะไรกันแน่นะ ?
.
.
ไม่มีการตอบรับจากหมายเลขที่ท่านเรียก กรุณาติดต่อใหม่อีกครั้งค่ะ
ไม่มีการตอบรับจากหมายเลขที่ท่านเรียก กรุณาติดต่อใหม่อีกครั้งค่ะ
ไม่มีการตอบรับจากหมายเลขที่ท่านเรียก กรุณาติดต่อใหม่อีกครั้งค่ะ
ไม่มีการตอบรับจากหมายเลขที่ท่านเรียก.....
ไม่มีการตอบรับจากหมายเลขที่ท่านเรียก.....
ไม่มีการตอบรับจากหมายเลข.... ติ๊ด !
“โอ้ยย ชานยอล นี่มึงไม่ได้หายสาบสูญใช่มั้ยเนี่ย”
“ใจเย็นน่าไอ้คริส ชานยอลมันอาจมีธุระสำคัญก้ได้”
“ธุระสำคัญบ้าอะไรว่ะ ปิดเครื่องทั้งวันเนี่ย จะติดต่อบ้าอะไรก้ไม่ได้”
“แล้วมึงรีบร้อนเรื่องอะไรว่ะ” คริสเงียบกริบลงทันที สายตาหลอกแหลกเหมือนชั่งใจว่าเขาควรจะพูดเรื่องนี้กับจงอินดีมั้ย แต่จงอินก้เพื่อนสนิทเขากับชานยอลนี่ ?
“....”
“ว่าไง มึงร้อนใจเรื่องอะไรกับไอยอล”
“กู... กูเห็นแบคฮยอนแม่งคั่วกูกับไอเด็กเซฮุนอีกแล้ว”
“นี่คือเรื่องที่มึงร้อนใจ ? “ จงอินถามย้ำอีกครั้ง คริสส่งสายตาไม่พอใจไปหาเพื่อนสนิททันที
“มึงคิดว่าไอชานยอลจะไม่ร้อนใจหรอถ้ารู้เรื่องนี้”
“กูว่าไม่ !” จงอินตอบเสียงแข็งจนคริสต้องตวัดสายตามองอย่างไม่เข้าใจ
“ทำไมว่ะ แฟนมันทั้งคนน่ะเว่ย แม่งเดินขึ้นคอนโดกับผู้ชายคนอื่น มึงขะไม่เดือดร้อนแทนเพื่อนหน่อยหรอ ?”
“มึงแน่ใจว่ามันเดือดร้อนแทนเพื่อน ไม่ใช่ตัวเอง?”
“มึงไม่ต้องมาจับผิดกู ไอจงอิน เดี๋ยวมึงได้เป็นเจ้าชายนิทราอีกรอบ” คริสหัวเสียอย่างเห็นได้ชัด เขาเบื่อที่จงอินมักจะรู้ทันเขาตลอด ซึ่งต่างกับชานยอล ที่ไม่เคยรู้อะไรเลย
ไม่รู้แม่กระทั่งว่าเพื่อนสนิทอย่างเขา แอบกินปลาย่างหอมๆอย่างแบคฮยอน
“กูก้อยากจะเป็นเจ้าชายนิทราอีกรอบเหมือนกัน”
เขาจะได้เจอกับคนคนนั้นอีกครั้ง คนที่เขาอยากเจอมานาน อยากพูดอยากคุยด้วยมาแสนนาน
“ปากเสียนะมึง”
90%
.
.
.
“น้ำเริ่มขึ้นแล้ว ผมจะออกไปเอาเรือมาไว้ใกล้ฝั่ง คุณรอผมอยู่นี่แปปนึงนะ” ชานยอลพูดด้วยใบหน้าเปื้อนรอยยิ้ม ร่างเล็กพยักหน้าเป็นการตอบรับ ก่อนมองร่างแผ่นหลังกว้างของร่างสูงที่กำลังมุ่งหน้าไปยังชายหาดเพื่อเอาเรือเข้าใกล้ฝั่ง
ใจเริ่มคิดถึงหลายๆสิ่งที่ได้ทำด้วยกันมาตอลอดหลายวันนี้ ไม่มีวันนี้ไหนที่เขาไม่มีความสุขเลยสักครั้ง ต่อให้บางวันอาจจะไม่ค่อยดีเท่าไหร่ แต่ถ้ามีชานยอล นั่นคือความสุขของเขา
ทุกๆวัน เขาคิดเสมอว่า วันนี้พรุ่งนี้อาจจะไม่ได้ตื่นมาเห็นหน้าของชานยอลอีก ปฏิเสธไม่ได้ว่าใจดวงนี้รู้สึกเจ็บแปลบทุกครั้งที่คิด เขาไม่รู้ว่าตนเองเป็นผีภาษาอะไรถึงได้มีความรู้สึกแบบนี้
แค่คิดว่าไม่มีอีกคน ชีวิตแลดูมืดมนหนทางยิ่งกว่าคนตาบอดเสียอีก
เขาไม่ได้เข้าหาชานยอลเพียงเพื่อประโยชน์ในการหาร่าง เขาเข้าใจในสิ่งที่คิมจงอินพูดแล้วว่าทำไมต้องเป็นชานยอลที่จะสามารถช่วยเข้าได้
แต่ที่ยังไม่เข้าใจคือ ชานยอลเกี่ยวข้องอะไรกับชีวิตเขากันแน่ ร่างสูงตรงหน้านี้อาจจะเคยเป็นคนรัก ?
หรือเป็นคนที่ทำให้วิญญาณเขาหลุดออกจากร่าง ?
แน่นอนว่าเข้าไม่ต้องการให้เป็นอย่างหลังแน่ๆ
“คุณต้องช่วยผมหาคำตอบนะชานยอล อย่าเพิ่งไปจากผมนะ”
.
.
100%
อารมณ์ดีเพราะคะแนนเจ็ดวิชา 5555
ทำไมเดาร่วงได้ขนาดนี้ (แง่วว)
คิดถึงรีดเดอร์เลยมาอัพก่อน10%
(มาอัพเพิ่มอีกนิด อีเว้นท์เยอะมาก ปลีกตัวไม่ได้ ข้ออ้าง** ฮ่าๆๆ)
ไม่ว่ากันนะ แล้วจะมาอัพต่อในเร็ววัน
จะไม่ให้รอนาน55555
อ่าน คอมเม้น หรือติดแท็กในทวิต
ฝากสกรีมด้วยนะฮ๊าาา
กำลังใจไรท์เตอร์
#ฟิคผีเจ็ดวัน
ความคิดเห็น