คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : การประหารชีวิตแบบต่างๆ - เกร็ดความรู้
การประหารชีวิตแบบต่างๆ
มีรายงานข่าวสำคัญเรื่องหนึ่งออกมาจากทำเนียบรัฐบาลว่า คณะรัฐมนตรีไม่ผ่านร่างแก้ไขพระราชบัญญัติประมวลกฎหมายอาญามาตรา 19 ตามการเสนอของกระทรวงมหาดไทยที่ ต้องการเปลี่ยนวิธีการประหารชีวิตจากการยิงเป้า ซึ่งใช้มาตั้งแต่ พ.ศ. 2478 มาเป็นการฉีดสารพิษให้ตายแทน โดยคณะรัฐมนตรีขอให้กระทรวงมหาดไทยนำเรื่องกลับไปพิจารณาใหม่
ตั้งแต่คณะกรรมการขึ้นพิจารณาข้อดีข้อเสียโดยละเอียดอีกครั้ง รวมทั้งรับฟังความเห็นจากประชาชนด้วย เหตุผลสำคัญข้อหนึ่งของกระทรวงมหาดไทย คือ การประหารชีวิตด้วยการยิงเป้านั้นไม่เหมาะสม บางครั้งนักโทษที่ถูกยิงยังไม่ตายต้องยิงซ้ำเป็นการทรมาน จึงเห็นควรให้ประหารชีวิตแบบให้ตายอย่างสงบ โดยฉีดสารพิษเข้าร่างการแทน ซึ่งนอกจากไม่เป็นการทารุณแล้ว ยังเสียค่าใช้จ่ายต่ำ โดยยกตัวอย่าง ฟิลิปปินส์ที่ประหารชีวิตนักโทษด้วยวิธีนี้ว่า เสียค่าใช้จ่ายเพียง 1000 บาท ต่อครั้งเท่านั้น (ฟันคอดิ ถูกสุดๆ ^_^)
ทางองค์การต่างๆเช่นศาสนา สิทธิมนุษยชนได้ออกมายื่นหนังสือร้องเรียนขอให้กระทรวงมหาดไทยหันมาเสนอแก้กฏหมายยกเลิกโทษประหารชีวิตเสียเลยจะดีกว่า เพราะการประหากชีวิตนั้นเป็นการทำลายสิทธิพื้นฐานประการแรกของมนุษย์ในการที่จะมีชีวิตอยู่ และเห็นว่าการจำคุกตลอดชีวิตนั้นก็โทษหนักหนาแล้ว เพราะการประหารชีวิตอาจไม่ใช่การแก้ปัญหาที่ถูกต้องก็ได้ (แต่บางคนมันมีชีวิตอยู่เพื่อทำลายชีวิตคนอื่น ฆ่าคนเลวๆซะคน ช่วยคนที่สามารถจะกลับตัวได้อีกเป็นร้อยเป็นหมื่น ไม่คุ้มหรอ)
การประหารชีวิตสมัยโบราณมีวิธีการที่น่าสยดสยองตั้งแต่สับร่างออกเป็นชิ้นๆแล้วโยนลงในกระทะน้ำมันเดือด ไปจนถึงโยนเข้ากรงเสือหรือสิงโตที่กำลังหิวโหย ต่อมาจึงมีผู้คิดวิธีประหารให้นักโทษตายเร็วขึ้นให้ได้รับความทรมานน้อยลงด้วยวิธีการต่างๆ ซึ่งจากการวิจัยของดร.ฮาโรลด์ ฮิลล์แมน แห่งองค์การนิรโทษกรรมสากลเมื่อไม่นานมานี้บอกว่า การประหารชีวิตที่มีอยู่ทั่วโลกในปัจจุบันพอแยกออกได้ดังนี้
1. ยิงเป้า เป็นวิธีที่นิยมมากที่สุดใช้ถึง 86 ประเทศรวมทั้งประเทศไทยด้วย
2. แขวนคอ นิยมอันดับสอง มีใช้กันอยู่ 78 ประเทศ
3. ตัดคอ หลังจากกระประหารชีวิตด้วยกิโยตินโนฝรั่นเศสการตัดคอด้วยดาบหรือขวานในอังกฤษได้หมดไป แต่ก็ยังมีอีกอย่างน้อย 6 ประเทศในอาหรับและตะวันออกกลางที่ลงโทษประหารชีวิตด้วยการตัดศรีษะอยู่ พูดถึงการตัดคอ ถ้าตัดครั้งเดียวขาดก็โชคดีไป แต่ถ้าไม่หล่ะ...ลองคิดดูสิ...
4. ใช้ก้อนหินขว้างจนตาย เป็นการลงโทษแบบโบราณที่สุดที่ยังหลงเหลืออยู่ในบางพื้นที่ของอิหร่าน มัวริทาเนีย ปากีสถาน ซาอุดิอาระเบีย ซูดาน แาฟกานิสถาน สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์และเยเมน วิธีนี้นักโทษจะถูกจับฝังทรายเหลือแค่คอเพื่อให้คนที่เคยถูกนักโทษคนนั้นทำร้ายใช้ก้อนอิฐที่ทางการจัดไว้ให้เฉพาะขว้างใส่ศีรษะ คนที่ผ่านไปมาจะร่วมขว้างด้วยก็ได้จนกว่านักโทษจะตาย ก้อนหินต้องมีขนาดพอเหมาะ ถ้าใหญ่ไปอาจตายเลยไม่ทรมาน ขว้างไปเรื่อยๆ บางรายปรากฏว่าสมองไหล..กะโหลกแตก ทรมานน่าดู..!!
5. รมด้วยแก๊ส มีใช้อยู่ในบางรัฐของสหรัฐอเมริกานักโทษประหารจะดูกนำไปมัดไว้ในห้องอับอากาศแล้วปล่อยให้โซเดียวไซยาไนด์ในบูกแก้ว แตกออกไปผสมกับกรดกำมะถันในอ่าง เกิดปฏิกิริยาทางเคมีเป็นแก๊สไซยาไนด์
6. ใช้กระแสไฟฟ้า อเมริกาเริ่มใช้วิธีก่อนเพื่อนเมื่อ100ปีมาแล้วหลังจากพบว่ามีผู้เสียชีวิตด้วยอุบัติเหตุจากกระแสไฟฟ้า จึงดัดแปลงเป็นเครื่องมิอประหารชีวิตเสียเลย
7. ฉีดสารพิษ เชื่อกันว่าเป็นวิธีที่ทำให้นันกโทษเจ็บปวดและทรมานน้อยที่สุด ตายอย่างสวบที่สุดใช้กันอยู่ในบางรัฐของอเมริกาตั้งแต่ปี 2520 ในเอเซียมีฟิลิปปินส์นำมาใช้เป็นประเทศแรก ที่ตายอย่างสงบที่สุดเพราะว่า นักโทษจะถูกมัดไว้บนเตียงพิเศษคล้ายๆเตียงคนไข้แต่มีปลอกรัดปขนขาทั้ง 4 ข้างและรัดตรงกลางลำตัวอีก 1 รวมเป็น 5 ปลอก เพื่อกันดิ้นและมีอุปกรณ์สำคัญอีก 1 ชุดคือเข็มฉีดยาหร้อมสายยางฝังอยู่ในเส้นเลือดดำของนักโทษแระหาร พอได้เวลาเจ้าหน้าที่จะปล่อยยา 3 ชนิดที่เตรียมไว้ให้ไหลผ่านสายยางและเข็มฉีดยาเข้าสู่เส้นเลือด ชนิดแรกเป็นยาชาให้หมดความรู้สึกภายใน 10 -15 วินาที แล้วตามด้วยยาคลายกล้ามเนื้อและอันดับสุดท้ายคือโปแตสเซียมคลอไรด์ นัดโทษจะเสียชีวิตจากการที่กล้ามเนื้อปอดไม่ทำงานสารพิษจะเข้าไปทำให้หัวใจหยุดเต้นในขณะเจ้าตัวกำลังสลบไสลอยู่จังเป็นการตายอย่างไม่ทรมาน (ลองตายดูม้า รู้ได้ไงเคยลองรึเปล่าล่ะ)
การประหารชีวิตด้วยการตัดศีรษะ เป็นการที่รักษาอวัยวะทุกชิ้นบนใบหน้าให้อยู่ในสภาพเดิมที่สุด เพราะในประวัติศาสตร์ตอนหนึ่งของฝรั่งเศส ฌอง-พอล มารัดหนึ่งในนักปฏิวัติที่ถูกประหารชีวิตด้วยกิโยตินนั้นเมื่อถูกคมมีดตัดโครมเดียว จนศีรษะกระเด็นหลุดจากบ่าแล้วเพชรฆาตคงยังไม่หนำใจตามไปหยิบเอาหัวของเธอขึ้นมาตบแก้ม 2 ข้างเข้าอีก 2 ฉาด ปรากฏว่าแก้มนั้นแดงก่ำและตาของเธอกะพริบส่งประกายแห่งความโกรธแค้นออกมาให้เธอ แสดงว่าคนที่คอขาดแบบแบบฉับเดียวอย่างนี้ ส่วนศีรษะที่หลุดออกไปจะนั้นมีความรู้สึกต่อไปอีกชั่วหนึ่ง (แน่นอนอยู่แล้ว) นั่นคือเหตุการณ์เมื่อ 200 ปีที่แล้ว...
จากหนังสือคู่สร้างคู่สม
*เพื่อนส่งมาให้ทางเมล์อ่ะ คงเห็นว่าเราชอบแนวแบบนี้มั้ง (?)
ความคิดเห็น