ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Blind.​ #ผมใส่แว่นดำกันคูล

    ลำดับตอนที่ #1 : butter croissant

    • อัปเดตล่าสุด 2 พ.ค. 64


     

    คำเตือน

    เต็มไปด้วยมุกตลกหยาบโลน เสียดสี ตลกร้าย มีเจตนาเพื่อล้อเลียนสังคม

    ไม่มีเจตนาล้อเลียนผู้พิการ lgbtqia+ ชนกลุ่มน้อย แต่อย่างใด

    โปรดใช้วิจารณญาณแยกแยะมุก มุมมองของตัวละครที่ไม่ครอบคลุม บริบทเรื่อง และความเป็นจริงออกจากกัน

     

    ไปด่ากันได้ในแท็ก #ผมใส่แว่นดำกันคูล

     

     

     

    1

     

    butter croissant

     

     

     

     

    โคเรย์ตกอยู่ในสถานการณ์เสี่ยงตาย แบบแอบตั้งใจ

    “ผมทำอะไรผิด ผมก็แค่ขอทานธรรมดาๆ ปล่อยผมไปทำงานของผมต่อเถอะ” เขาพูด ซึ่งก็จริงในหลายๆ แง่

    ก่อนอื่น งานของเขาคือขอเงิน แน่นอนเลย สองคือการทำตัวน่าสงสารเพื่อขอเงินมากขึ้น นั่นไม่ใช่สิ่งที่ขอทานทุกคนอยากได้รึไง? เงิน ง่ายๆ แค่นั้นแหละ

    ข้อมือผอมติดกระดูกถูกมัดไพล่หลังไว้กับเก้าอี้ที่อาจจะอยู่ในชีสเน่าขนาดเท่าตัวคน กลิ่นสนิมของเลือดที่ปริรั่วจากมุมปากและรอยแยกบนศีรษะยังสดใหม่ อากาศเย็นจัดโอบล้อมร่างเล็กๆ ของเขาไว้ แทรกซึมเข้ามาไล่ความอบอุ่นในทุกมัดกล้ามเนื้อ

    โคเรย์เพิ่งอยู่ที่นี่ได้ไม่นานเท่าไร และเขาไม่คิดว่าเขามีความอดทนมากพอจะอยู่นานกว่านี้

    “แซมพบคุณทำลับๆ ล่อๆ ตอนเรากำลังส่งของ ตอนนั้นคุณทำอะไร”

    เป็นเสียงของชายแก่ ใจเย็น และพร้อมลงมือ แล้วเขาก็กลิ่นเหมือนครัวซองค์อบเนย

    “คุณครับ ผมตาบอด! ผมจะไปรู้ได้ยังไงว่าคุณกำลังส่งของ แถมพวกมาเฟียอย่างคุณก็คิดว่าทุกตารางมิลลิเมตรบนแผ่นดินนี้เป็นของคุณ แล้วผมจะทำไงได้ในเมื่อผมก็คิดแบบเดียวกัน! ”

    ผู้ชายอีกคนต่อยเขากลางท้อง

    “สายของเราพบด้วยว่าคุณก็ทำลับๆ ล่อๆ ที่เขตของศัตรูเราเหมือนกัน”

    “ผมบอกแล้วไงว่าขอทานอย่างเราเป็นเจ้าของแผ่นดิน! ”

    และอีกหมัด

    “พอแล้ว แซม” ชายแก่พูด “ผมว่าเราคงพูดภาษาคนกันไม่รู้เรื่อง”

    โคเรย์สะดุ้ง หลับตาปี๋เพื่อเพิ่มระดับการป้องกันตัว

    “พอแล้ว สแตนฟอร์ด ผมจัดการที่เหลือเอง ขอบคุณนะครับ ทุกคน” เสียงแหบต่ำของเจ้าชายขี่ม้าขาวดังขึ้น สำหรับคนตาบอดแล้ว เจ้าขอทานชอบความอ่อนโยนในน้ำเสียงจากใจจริง

    แต่คนคนนี้จะใจดีพอให้เขาปอกลอกหรือเปล่า นั่นคือคำถามสำคัญ

    ประตูเหล็กหนักๆ งับปิดแผ่วเบา เสียงขาเก้าอี้ไม้ลากครูดพื้นปูนหยุดลงตรงหน้าเขา ก่อนร่างกายหนักๆ จะวางลงบนเครื่องเรือนชิ้นนั้น นั่นคือทั้งหมดที่โคเรย์จินตนาการออกจากความมืดที่ท่วมมิดทัศนวิสัย

    “นายเป็นคนเผ่าอูโคซี” ชายคนนั้นพูด

    แกล้งโง่ โคเรย์ แกล้งโง่ไปเลย “คุณก็รู้ว่าพวกเขาตายไปหมดแล้ว”

    “ฉันรู้สึกถึงเวทมนตร์ได้จากตัวนาย มีแค่เผ่าอูโคซีที่มีเวทมนตร์ ถึงจะไม่รู้ว่านายรอดมาได้ยังไงหรือทำไม นั่นก็เป็นคำตอบเดียวที่มีเหตุผล ใช่ไหมล่ะ”

    เจ้าขอทานพลันต้องรีบตัดสินใจระหว่างสูดออกซิเจนเข้าไปเลี้ยงสมอง กับหยุดหายใจซะเพื่อแกล้งตาย คนตรงหน้าฉลาดและบ้าบิ่นกว่าที่คิด ไซโคพาธ ไซโคพาธแน่นอน

    “คุณจะ” โคเรย์เอ่ย “บอกทางการมั้ยครับ”

    “บอกสิ” และคนตาบอดพลันรู้สึกว่าเขากำลังฉีกยิ้มกว้าง “ถ้านายไม่ยอมรับข้อเสนอ”

    เขาเอนตัวเข้ามาหา กลิ่นเหมือนครัวซองค์อบเนยเช่นกัน และร่างกายแผ่ความอบอุ่นออกมา ความทึบของเสียงตุบตอนเขานั่งลงพอดีกับรสนิยมชอบคนตัวใหญ่ของเขาพอดี โคเรย์รู้ดีว่านี่เป็นช่วงเวลาที่ไม่เหมาะสมเอาเสียเลยสำหรับการเป็นเกย์ แต่เขาแยกไม่ออกระหว่างความต้องการทางเพศ ความกลัว และความหิวไม่ออกจริงๆ

    เจ้าขอทานเพิ่งกลืนน้ำลายเพราะกลัว ลุ้น หรืออยากXXXกันนะ?

    “ข้อเสนออะไรเหรอครับ” เจ้าขอทานถาม

    “ทำไมถึงยังถามทั้งที่ไม่มีสิทธิ์เลือก หืม”

    ทั้งเหงื่อตก เขาบอก “ผมจะได้รู้ว่าชีวิตผมจะลงเหวยังไงครับ”

    “บอกมาว่านายแอบเข้ามาในเขตของเราได้ยังไง” เจ้าชายขี่ม้าขาวพูด

    โคเรย์มั่นใจว่าผู้ชายคนนี้กำลังหาคนงานเข้าแก๊งโดยไม่จ่ายเงินเดือนโดยอาศัยช่องโหว่ของกฎหมาย ผู้ชายคนนี้ไม่มีเจตนาร้าย ลมหายใจเขากลิ่นเหมือนขนมอบใหม่

    เจ้าขอทานกำลังประสาทหลอนเพราะหิวหรือเปล่า ทั้งแก๊งกลิ่นตัวเหมือนขนมอบไหม โคเรย์จะปล่อยให้เขารู้เรื่องเครือข่ายขอทานไม่ได้

    “ขอทานอย่างพวกนายคงมีเครือข่ายสินะ” ชายตรงหน้าว่า “ได้ยินมาว่าขอทานรวมกลุ่มกันหลวมๆ ย้ายเปลี่ยนเมืองไปเรื่อยๆ ”

    “คุณจะจับเป็นตัวประกันเหรอครับ”

    “ช่าย”

    “คุณดูเป็นมาเฟียที่ชิลมาก”

    “ฉันไม่ได้อยากเป็นหรอก แต่ก็ต้องเป็น ขอโทษที่ใช้ความรุนแรง”

    เครื่องในโคเรย์ตีลังกาสามตลบ น้ำเสียงเขาอ่อนลงอย่างเห็นได้ชัด ไม่ใช่มนุษย์แน่นอน เขามีสวิตช์

    “ยังไงซะ” เจ้าขอทานเริ่ม “คุณสนใจขุนผมแล้วเก็บผมไว้เป็นของเล่นของคุณมั้ย”

    “เปลืองอาหารออก” มาเฟียหัวเราะ ก่อนเอนกลับไป พาน้ำเสียงนุ่มห่างออก “ฉันรู้สึกผิดก็จริง แต่ไม่ได้แปลว่าฉันจะไม่ทำ อย่ายั่วโมโหกันจะดีกว่า”

    “เคยมีใครบอกคุณมั้ยว่าคุณพูดแบบนั้นแล้วฮอตปรอทแตก”

    “กินครัวซองค์กัน -- ฉันเพิ่งพูดว่าอะไร” เขาถอนหายใจ “ -- ไม่น่าพูดเลย คุณพ่อฆ่าฉันแหง”

     

     

     

    +

    รีเทิร์นจริงจังแบบไม่จริงจัง คิดถึงสมัยเด็กที่เขียนแบบเน้นความสุขของตัวเองจัง

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×