ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Fic Winner {Namsong} ►Ghost Man◄

    ลำดับตอนที่ #7 : Chapter 7

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 119
      6
      23 ธ.ค. 60



    Chapter 7




    At: 10:10 PM


         เช้าวันใหม่แห่งการเริ่มต้นได้มาเยือน วันนี้แทฮยอนออกจากบ้านแต่เช้าไปทำธุระกับน้าซานดาร่า แทฮยอนบอกกับมินโฮว่าเขาน่าจะกลับอีกที

    ตอนช่วงเย็นเหมือนเดิม ซึ่งก็ปล่อยให้เขาต้องนั่งรอเฉื่อยๆเนือยๆเช่นเคยเหมือนทุกวัน แต่ทุกวันนี้ที่แทฮยอนไม่อยู่บ้านก็ใช่ว่ามินโฮจะอยู่เฉยๆ เขา

    พยายามฝึกควบคุมพลังในส่วนของดวงจิตให้สามารถทำอะไรได้มากขึ้น พยายามหมั่นฝึกฝนจับต้องสิ่งของภายในบ้านให้ทั่วบ้าน ในขณะเดียวกัน

    เขาก็กำลังหาเบาะแสของตัวเองไปด้วย ยิ่งเรื่องเมื่อคืนที่คุยกับแทฮยอนทำให้เขาจำอะไรได้มากขึ้นและเหมือนเขาเองก็กำลังสงสัยบางสิ่งบางอย่างใน

    ตัวเองมากขึ้นอีกด้วย


    ทำไมผมถึงไม่ตายๆไปซะที!’


         คำพูดของใครบางคนกำลังวนเวียนอยู่ในหัวของเขาตลอดทั้งคืน กลายเป็นว่าพอเริ่มที่จะจำได้กลับไม่อยากที่จะจำ เขาพยายามไล่มันออกจากหัว

    อยู่หลายครั้งแต่ก็กลับไม่เป็นผล เหมือนกับว่าคำพูดนี้มีผลกระทบกับจิตใจของเขามาก ยิ่งคิดก็ยิ่งรู้สึกผิดทั้งๆที่ไม่รู้เลยว่าเกิดอะไรขึ้น

    ช่างเป็นประโยคที่แทงใจเขาเสียเหลือเกิน..


    ใครเป็นคนพูดวะ..ใครทำไมกัน..”


         ตอนนี้มินโฮกำลังนั่งคิดทบทวนเรื่องราวต่างๆอยู่บนเตียงของแทฮยอน ทำไมอยู่ๆคำพูดนี้ถึงเข้ามาอยู่ในหัวเขาได้ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้ไม่เคยมีมาก่อน 

    เมื่อคืนเขาก็คุยกับแทฮยอนปกติ..แทฮยอนเล่าเรื่องของตัวเองให้เขาฟัง เขาถามแทฮยอนเกี่ยวกับเรื่องของคุณแม่และ..


    คุณแม่?

    ฮะๆ..นั่นสินะ ทำไมตอนนั้นผมไม่ตายๆไปเลยนะ


    !!!


    ประโยคที่แทฮยอนพูด..เหมือนกับประโยคที่วนในหัวนี่เลย..” ร่างสูงลุกขึ้นจากเตียง


    ถ้าเกิดว่าการที่เรากลายมาเป็นดวงจิตแบบนี้มันเกี่ยวกับแทฮยอน แสดงว่าเราต้องมีส่วนเกี่ยวข้องกับแทฮยอน..’

    อย่าบอกนะว่า..’


         มินโฮเริ่มคิดหนัก รู้สึกหนักใจแปลกๆขึ้นมากะทันหัน เหงื่อเริ่มผุดพรายขึ้นมาตามร่างกายไม่ใช่เพราะความร้อนของอากาศแต่เป็นเพราะเขากำลัง

    รู้สึกเครียดบางอย่างหลังจากที่ไม่ได้เครียดแบบนี้มาหลายปี คิ้วสองข้างขมวดเข้าหากันจนเป็นปม ท่าทางของเขาตอนนี้เหมือนกับคนที่มีเรื่องไม่

    สบายใจหรือมีความผิดบางอย่างเป็นชนักติดหลัง เพียงแต่เขายังไม่มั่นใจและยังไม่อยากที่จะยอมรับมัน..


    อยู่ที่นี่มาสามปี..คุณแม่แทฮยอนสามปี..

    สามปี..


    โธ่เว่ยย!!”


    ตึง!


         มือหนากำหมัดแน่นทุบกำแพงเสียงดังสนั่นด้วยความโมโห เขากำลังเข้าใกล้บางอย่างที่ไม่ควรรู้ ทั้งโมโห สับสน หงุดหงิดและเริ่มรู้สึกแย่ขึ้นเรื่อยๆ 

    แต่ถ้าเขาไม่ตามหาความจริงก็ไม่มีทางได้กลับเข้าร่าง


    ร่างที่ไม่รู้ว่าอยู่ที่ไหน..


    จริงสิ ร่างกาย อยู่ที่ไหนวะ..”


         มินโฮพยายามนึกถึงเรื่องราวในอดีตอีกครั้ง พยายามอย่างสุดความสามารถเพราะเบาะแสรอบตัวที่เริ่มเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ถ้าหากนึกถึงบางอย่างออก

    ก็เชื่อมไปถึงอย่างได้ ความจริง คือ เขานั้นไม่อยากที่จะพักแล้ว เขาพักมาหลายปีแล้ว มันเพียงพอสำหรับชีวิตบัดซบแบบนี้แล้ว..


    ร่าง ฝากไว้ที่ใคร..อยู่ที่ไหนวะ…”


         ร่างกายที่ยังหายใจของมินโฮยังคงอยู่ที่ไหนสักแห่งบนโลกใบนี้ ไม่อย่างนั้นเขาคงถูกตัดขาดการเชื่อมต่อจากอีกโลกหนึ่งโดยสมบูรณ์แบบและตาย

    เป็นผีวิญญาณไปแล้ว เขารู้แค่ว่ามันปลอดภัย ใครสักคนกำลังดูแลร่างกายนั้นอยู่ ใครสุกคนที่เขาไว้ใจ..


    ไว้ใจจนกระทั่งกล้าฝากชีวิตไว้..


    ซึงฮุน กูขอให้มึงอย่าถอดเครื่องช่วยหายใจกูเป็นอันขาด


    ฮุน..

    ซึงฮุน!


         มินโฮนึกออกแล้ว เขานึกถึงสิ่งสำคัญในอดีตขึ้นมาได้แล้ว สิ่งที่จะเป็นกุญแจไขประตูลับไปสู่อดีตได้ คนที่เขาไว้ใจจนกล้าฝากชีวิตไว้ให้ดูแลอีซึง

    ฮุนเพื่อนของเขาตั้งแต่สมัยเรียนมัธยมปลาย ความพยายามในการนึกถึงใครบางคนของเขามันได้ผลแล้ว การนึกถึงเรื่องเก่าๆเรื่อยๆติดต่อกันมันได้

    ผลจริงๆสินะ


    ไอฮุน..ซึงฮุน อีซึงฮุน..มึงอยู่ที่ไหนวะ..”


         ร่างสูงเดินวนไปรอบห้อง อย่าถอด..งั้นเหรอ มันยังไม่พอ ยังไม่พอต่อเรื่องราวทั้งหมดนี่ ทุกอย่างกำลังเข้ามาในหัวของเขา กำลังไหลเข้ามาเรื่อยๆ 

    ไหลเข้ามาในหัวของเขาเรื่อยๆ เรื่อยๆ เรื่อยๆ


    อั่ก..ปวดหัว..ชิ..บเป๋..ง ไม่ไหว..”


         และแล้วก็ถึงขีดจำกัด การนึกถึงเรื่องราวในอดีตมันดูดพลังงานในร่างกายเขามากเกินไป ทำให้เขาต้องมีสภาพแบบนี้ มินโฮก้มหน้าลงกุมศีรษะตัว

    เอง อาการแบบนี้เกิดขึ้นทุกครั้งหลังจากที่เขาพยายามนึกถึงเรื่องราวเก่าๆ รู้สึกตัวอีกทีร่างกายของเขาก็ชุ่มไปด้วยเหงื่อเสียแล้ว วันนี้คงเป็นวันแรกใน

    รอบหลายปีที่เขาใช้ความคิดมากที่สุดและมันอาจจะมากเกินไปเพราะเขากำลังจะหมดแรงแล้ว..


    ไม่ไหวแล้ว


         ร่างสูงล้มตัวลงนอนแผ่หลาบนเตียงนุ่ม แค่นึกคิดเขายังรู้สึกเหนื่อยขนาดนี้แล้วถ้าต้องยอมรับความจริงบางอย่าง เขาจะไม่เหนื่อยใจเจียนตาย

    เลยรึไงกัน..แค่คิดเขาก็รู้สึกเหมือนร่างจิตนี้จะแหลกเป็นเสี่ยงๆแล้ว ร่างสูงมองเพดานห้อง วันนี้เขาคงต้องพอแค่นี้ก่อนจริงๆ..














    At 14:40 PM


         ประตูรถถูกเปิดออก ขาเรียวยาวก้าวลงจากรถเก๋งหรูราคาแตะหลักสิบล้าน คนขับรถปิดประตูและโค้งให้กับเขาผู้เป็นเจ้าของ เรือนผมสีน้ำตาล

    อ่อน ร่างบางเดินเข้าบริษัทของตนเอง บริษัทธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่คุณพ่อของเขาเป็นเจ้าของโยมีผู้ติดตามคนสนิทคนหนึ่งเดินตามทางด้านหลัง


    เชิญค่ะคุณหนู


         ทันทีที่ขายาวก้าวเข้ามาในตัวบริษัท ตั้งแต่พนักงานต้อนรับยันพนักงานในบริษัทต่างกล่าวคำทักทายเป็นเสียงด้วยกันอย่างสุภาพนอบน้อม ทุกคน

    โค้งให้กับเขาและเขาเองก็ยิ้มตอบกลับเป็นมารยาทเช่นกัน จากนั้นจึงเดินไปขึ้นลิฟต์กับผู้ติดตาม วันนี้ที่บริษัทมีประชุมเกี่ยวกับโปรเจกต์ใหญ่ คนจึง

    เยอะเป็นพิเศษ แต่ดูท่าว่าเขาจะมาสายไปนิดนึงทำให้ไม่มีเวลาเตรียมตัวก่อนเข้าห้องประชุม


    ติ๊ง!


         ประตูลิฟต์ถูกเปิดออก ทั้งสองรีบเดินไปที่ห้องประชุมใหญ่ในชั้นนี้ แต่ถูกขัดจังหวะการเดินด้วยเสียงเรียกของใครบางคนที่คุ้นหู เป็นเสียงที่เขาไม่

    อยากจะเสียเวลาหันไปสนทนาด้วยแต่เขาเป็นคนมีมารยาทพอ ร่างบางหยุดเดิน ถอนหายใจเฮือกใหญ่ ก่อนจะหันไปเผชิญหน้ากับบุคคลที่ไม่อยาก

    เจอ


    สวัสดี น้องยุนฮยอง

    คุณอีกแล้วเหรอ กูจุฮเว..”


         ‘ซงยุนฮยองลูกชายคนเล็กของตระกูลซงแห่งบริษัทอสังหาริมทรัพย์ชื่อดังระดับประเทศ กำลังยืนพูดคุยกับกูจุนฮเว ลูกชายเพียงคนเดียวของ

    บริษัทหุ้นส่วนที่สนิทกันมากจนแทบจะนับญาติกันเลยก็ว่าได้ แต่ด้วยนิสัยของลูกชายตัวแสบตระกูลกูไม่เป็นที่พอใจของยุนฮยองสักเท่าไหร่ ทำให้ทั้ง

    สองไม่สนิทกันเหมือนคนในตระกูลของตน  ยิ่งเรื่องการหายตัวไปของพี่ชายทำให้จุนฮเวตกเป็นผู้ต้องสงสัยอันดับแรกๆเพราะเขามีเรื่องบาดหมางกับ

    พี่ชายที่หายตัวไปอยู่บ่อยๆ


    แหม เรียกซะเต็มยศแบบนี้ ดูห่างเหินจังเลยน้า

    คุณมีอะไรก็รีบๆพูดมา


         ร่างสูงกระตุกยิ้ม เขาเดินเข้ามาที่ยุนฮยองที่จ้องเขม็งมาที่เขา สีหน้าของอีกฝ่ายบอกบุญไม่รับเป็นอย่างมาก จุนฮเวรู้ดีว่าเขาไม่เป็นที่ชอบใจของ

    ยุนฮยองจึงชอบที่จะกวนประสาทอีกคนอยู่เป็นประจำทุกครั้งที่เจอกัน


    พี่ก็ทักทายปกติไง แล้วก็..เผื่อว่าพี่ชายของนายจะมาด้วย

    พูดอะไรของคุณ พี่ชายผมตายไปนานแล้ว คุณก็รู้


         ยุนฮยองตอบไปแบบหน้านิ่ง ถึงเขาจะรู้ดีว่าการตายปริศนาของพี่ชายซงมินโฮจะไม่จริง มีเพียงแค่ไม่กี่คนเท่าที่รู้ว่ามินโฮยังมีชีวิตอยู่แม้จะไม่รู้ว่า

    อยู่ที่ไหนก็ตาม เพราะซึงฮุน เพื่อนสนิทของพี่ชายเขาไม่ยอมบอกรายละเอียดเรื่องนี้ให้เขารู้ ซึงฮุนบอกเพียงแค่ว่ามินโฮยังมีชีวิตอยู่แต่มีเหตุจำเป็นที่

    ทำให้ยังเจอกันไม่ได้ จนกว่าซึงฮุนจะติดต่อกลับมาเอง..เขาต้องพยายามปกปิดเรื่องนี้ให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ไม่อย่างนั้นมินโฮจะตกอยู่ในอันตราย 

    เพราะเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อสามปีที่แล้วมันไม่ใช่อุบัตติเหตุ


    มีใครบางคนต้องการฆ่าพี่ชายของเขา..


    จริงรึเปล่าน้า สนิทกันแท้ๆยังไม่เชิญไปร่วมงานศพเลยด้วยซ้ำ

    คุณพ่ออยากจัดเงียบๆ ไม่ต้องการให้คนนอกมายุ่มย่ามครับ J


    ได้โอกาสที่เขาจะสวนกลับบ้าง จุนฮเวหุบยิ้มลงทันที คำพูดของคนหน้าหวานทำให้เขากำหมัดแน่นอยู่ในใจ..


    ก็เพราะว่ามัวอคติกับคนนอกอย่างพี่ไง ถึงไม่รู้วะทีว่าใครตัดสยเบรกไอมินโฮอ่ะ!”

    ผมยังไม่ได้พูดเลยนะว่าเป็นคุณน่ะ


         จุนฮเวสะอึกเฮือกใหญ่ แอบกัดฟันกรอดด้วยความโมโห ไม่คิดว่าคนตัวเล็กจะตอบยั่วโมโหเขาได้ถึงเพียงนี้ จนกลายเป็นว่าเขาเผลอกินปูนร้อน

    ท้องไปเสียได้ จุนฮเวถอนหายใจ ร่างสูงพยายามควบคุมอารมณ์และเปลี่ยนสีหน้าของตัวเองเข้าสู่โหมดปกติเผื่อว่าความสงสัยในตัวเขาที่มีต่อยุนฮ

    ยองจะลดลงบ้าง


    อะไรกันล่ะน้องยุน พี่เองก็เป็นห่วงพี่ชายของเรานะ อยากจะจับตัวคนร้ายมาลงโทษตามกฎหมายให้ได้อยู่นี่ไง

    ผมคิดว่าจริงๆแล้ว คนร้ายอาจจะอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลก็ๆได้ครับเขายิ้ม ผมเองก็อยากจับเขาให้ได้ ปล่อยให้ลอยนวลมาหลายปีแล้ว

    “..อื้ม นั่นสินะ พี่ก็คิดว่างั้นแหละ

    ได้เวลาเข้าประชุมตั้งนานละ คุณทำผมสายมากเลยนะ.. ผมขอตัวก่อน


         ยุนฮยองขอตัว เขาเดินสวนจุนฮเวไปอย่างหน้าตาเฉย สีน้าเรียบนิ่งไม่แสดงออกซึ่งอาการใดๆมันทำให้จุนฮเวหัวเสียอย่างมาก ร่างสูงได้แต่หันไป

    มองตามร่างเล็กที่เดินผ่านไปกับผู้ติดตามคนหนึ่ง มือหนากำหมัดแน่นจนเส้นเลือดปูดออกมา ความแค้นของเขาต่อตระกูลซงมันไม่จบลงง่ายๆ 

    ตราบใดที่เขาไม่เห็นศพของซงมินโฮด้วยตาตัวเอง เขาก็ไม่มีทางเชื่อเด็ดขาดว่าลูกชายคนโตของตระกูลซงศัตรูตัวฉกาจของเขาได้ล่วงลับจากโลกนี้ไป

    แล้ว


    คอยดูเถอะไอ้มินโฮ กูจะต้องหามึงให้เจอ!’











    เป็นอะไรรึเปล่าคะคุณหนู

    ผมไม่เป็นไร แค่ปวดหัวนิดหน่อย..”



         ผู้ช่วยของยุนฮยองทักเมื่อเห็นสีหน้าท่าทางที่ไม่ค่อยดีของยุนฮยอง ตั้งแต่ขึ้นมาทำหน้าที่รองผู้บริหารแทนมินโฮ เขาก็ต้องเหนื่อยเป็นเท่าตัว ทั้ง

    เรื่องงาน เรื่องเรียน ไหนจะเรื่องจิปาถะอีก เขาปวดหัวจะแย่อยู่แล้ว ความจริงเขาควรนั่งเรียนที่มหาลัยด้วยซ้ำแต่ทุกอย่างกลับตาลปัตรไปเสียหมด..


    พี่อยู่ที่ไหนกันแน่ พี่มินโฮ..’


















    At 22:10 PM


    คุณผีมินโฮ ผมกลับมาแล้วว


         แทฮยอนกลับเข้าประตูห้องมาพร้อมกับท่าทางแสนอารมณ์ดี ในมือมีถุงซุปเปอร์ที่ไปช้อปมาเหมือนทุกๆวัน เพราะว่ามีคนรออาหารจากเขาอยู่

    ทุกๆคืน ร่างบางมองไปรอบๆห้องแต่ก็ไม่เห็นแม้แต่เงาของมินโฮ มือบางวางถุงลงที่โต๊ะหนังสือก่อนจะหันไปสะดุดตากับร่างที่นอนอยู่บนเตียงของเขา


    หลับอยู่นี่เองเหรอ


         ร่างบางหย่อนก้นนั่งลงบนเตียงเบาๆเพราะกลัวแรงที่ทำให้เตียงยวบลงจะปลุกให้อีกคนรู้สึกตัวตื่นขึ้นมา มินโฮกำลังนอนหลับอยู่ ดูท่าทางจะต้อง

    เหนื่อยล้าจากการทำอะไรอะไรต่างๆนาๆของตัวเองอย่างแน่นอน ใบหน้าหล่อที่ในเวลานี้ดูไม่มีพิษมีภัยใดๆ แทฮยอนเผลอจ้องมองมัน..รู้ตัวอีกที่เขาก็

    นั่งจ้องใบหน้านี้อยู่นานเลยทีเดียว


    ผีบ้าอะไรมานอนอยู่บนเตียงแบบนี้กันนะ..”

    ก็ผมเหนื่อยนี่


         แทฮยอนตกใจสะดุ้งโหยง เขาไม่คิดว่ามินโฮจะไม่ได้หลับ ใบหน้าหล่อพูดทั้งๆที่ดวงตายังปิดอยู่ ก่อนที่จะค่อยๆลืมตาขึ้น มินโฮยิ้มที่มุมปากอย่าง

    เจ้าเล่ห์ให้กับแทฮยอน ทำเอาอีกอีกคนไปไม่เป็น นี่แสดงว่ามินโฮก็รู้มาตลอดเลยว่าแทฮยอนจ้องเขาอยู่นานแค่ไหน


    หน้าผมตอนหลับเป็นยังไงบ้างเหรอ J


         และคำพูดนั้นของมินโฮทำเอาคนหน้าสวยเบือนหน้าหนีเขาแทบไม่ทัน แทฮยอนเริ่มรู้สึกร้อนผ่าวที่ใบหน้า พวงแก้มทั้งสองข้างขึ้นสีระเรื่ออย่างไม่

    ได้ตั้งใจ ไม่รู้จะตอบอีกคนไปว่าอย่างไรดีเพราะเขาเองจ้องมินโฮอยู่นานจริงๆอย่างกับต้องมนต์สะกดบางอย่าง ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าใบหน้ายามหลับก็ดู

    ดีไม่แพ้ใบหน้าในเวลาปกติเลย


    คุณนี่มัน..เจ้าเล่ห์จริงๆ


         มินโฮหัวเราะในลำคอ ยิ้มชอบใจที่ทำให้คนหัวดื้อแบบแทฮยอนแก้มขึ้นสีขึ้นมาได้ ร่างสูงชันตัวขึ้นนั่งบนเตียงนอน ก่อนจะอ้าปากพะงาบๆเป็น

    สัญญาณว่าหิวแล้ว แทฮยอนรู้หน้าที่ เขาลุกจากเตียงไปหยิบขนมสักสองสามชิ้นออกมาจากถุง หนึ่งในนั้นมีขนมโมจิของโปรดของเขาอยู่ด้วย บรรจง

    แกะห่อออกมาและป้อนมินโฮ


    วันนี้ก็พยายามหนักอีกแล้วเหรอ คุณน่ะ

    ครับ หนักกว่าวันอื่นเลยล่ะ อา อ้าม..”


         มินโฮงับโมจิจากมือแทฮยอน คิ้วแก้มตุ่ยๆก่อนจะกลืนมันลงไปด้วยความหิว วันนี้เขาเหนื่อยมากจริงๆ ไม่ใช่แค่การใช้สมองเยอะแต่เป็นเพราะ

    ความทรงจำบางอย่างที่เริ่มกลับคืนมามันทำให้เขาหนักใจ เรื่องราวในแต่ละวันที่เขาเริ่มนำมันมาปะติดปะต่อเข้าด้วยกันได้ทำให้เขาเข้าใจความจริงที

    ละนิด ถึงแม้ความจิตใต้สำนึกบางอย่างของเขาจะไม่อยากรู้ก็ตาม


    นี่ แทฮยอน

    หืม?”

    คุณรู้จักคนที่ชื่อ..ซึงฮุนไหม? อีซึงฮุนน่ะ

    อ่า อืมม..เหมือนจะเคยได้ยินอยู่นะ

    จริงเหรอ?”


         มินโฮเบิกตาโพลงกว้าง เขาตกใจและตื่นเต้นมากที่เพียงแค่พูดชื่อบุคลหนึ่งในความทรงจำ แทฮยอนก็ตอบกลับเขามาอย่างดูมีความหวัง สีหน้า

    ท่าทางของคนหน้าหล่อทำให้แทฮยอนแปลกใจเล็กน้อย


    ทำไมเหรอ มีอะไรน่ะ..”

    วันนี้ผมนึกชื่อคนคนนี้ได้น่ะ เขาเป็นเพื่อนสนิทของผมเอง

    หือ เพื่อนสนิทเหรอ? อืมม..เหมือนผมเคยได้ยินจากคุณน้าว่าเขาเป็นหมอกายภาพบำบัดน่ะ

    หมอกายภาพบำบัดงั้นเรอะ..’

    พอจะรู้ไหมว่าเขาอยู่โรงพยาบาลไหน?”

    อ่า เขาอยู่โรงพยาบาลที่ผมเคยไปเข้ารักษาตอนประสบอุบัติเหตุ ชื่อโรงพยาบาลอะไรน้า..”


         แทฮยอนนึกคิด ถึงแม้ว่าตอนนั้นเขาจะอยู่ในวัยที่จำอะไรได่หมดแล้วแต่ด้วยความโศกเศร้าเสียใจที่มีในช่วงนั้นทำให้เขามองข้ามเรื่องเล็กน้อยแบบ

    นี้ไป ร่างบางนึกอย่างไรก็นึกไม่ออก มินโฮได้แต่นั่งรอให้อีกคนปิ๊งไอเดียขึ้นมา เขารอมันอย่างมีความหวังและอยู่ๆแทฮยอนก็ลุกจากเตียงที่นั่งอยู่ไปรื้อ

    ค้นลิ้นชักภายในห้องราวกับจะค้นหาของบางอย่าง มือบางเลื่อนไปเปิดลิ้นชักข้างใต้ก่อนจะจัดการรื้อข้าวของภายในนั้นออกมาวางกองกัน เขาใช้

    เวลานานพอสมควรก่อนจะร้องดีใจขึ้นมาและวิ่งกลับไปหามินโฮที่เตียง


    ผมเจอแล้ว นี่ไง!”

    นี่อะไรน่ะ ประวัติ..ผู้เข้ารับการรักษา..เหรอ?”

    ใช่แล้ว เมื่อสามปีที่แล้วไง


         ดวงตาเฉียบคมอ่านตัวหนังสือในกระดาษใบเก่าๆที่อยู่ในมือของแทฮยอน นี่คือใบประวัติการเข้ารับการรักษาของแทฮยอนเมื่อสามปีที่แล้ว มินโฮ

    อ่านมันอย่างตั้งใจก่อนที่สายตาจะเลื่อนไปมองตำแหน่งที่แทฮยอนจิ้มนิ้วชี้เอาไว้ เป็นชื่อของโรงพยาบาลแห่งนั้นที่แทฮยอนเข้าทำการรักษา


    โรงพยาบาลมยองเซ งั้นเหรอ?”

    ใช่ ที่นี่แหละ คุณหมอคนนั้นที่เป็นเพื่อนของคุณก็คงจะยังอยู่ที่นี่นะ


         แทฮยอนยิ้มออกมาบางๆ รู้สึกดีใจที่อย่างเขาก็ได้ช่วยมินโฮไปอีกขั้น เขาเองก็อยากรู้ที่มาที่ไปของพี่สุดหล่อคนนี้ไม่น้อยเช่นกัน แต่มินโฮที่ในตอนนี้

    กลับไม่มีท่าทีดีใจเลยแม้แต่น้อย ถึงเขาจะอยากรู้เรื่องราวของตัวเองขนาดไหนแต่อีกใจก็เหมือนจะฉุดรั้งเขาไว้ไม่ให้ถลำลึกลงไปมากกว่านี้ ลำพังเขารู้

    คนเดียวคงจะแค่เจ็บใจแต่ถ้าเกิดว่าสิ่งที่เขาสันนิษฐานไว้มันถูกต้องแล้วอีกคนต้องมารู้ด้วยนี่ล่ะ เขาจะทำยังไง..


    มันไกลจากที่นี่ไหม โรงพยาบาลนี่น่ะ

    คงต้องต้องนั่งรถไป ย่านอิแทวอนก็ห่างจากที่นี่อยู่เหมือนกันนะ

    อิแทวอนหรอ..’

    ถ้าคุณอยากไปตามหาเพื่อนคุณล่ะก็..ผมนึกได้ว่ามะรืนนี้น้าชวนให้ผมไปหาหมอที่โรงบาลเป็นเพื่อนน่ะ มันน่าจะเป็นโรงพยาบาลนี้ด้วยนะถ้าจำไม่

    ผิด


    อะไรเนี่ย นี่หาทางไปได้เร็วขนาดนี้เลยเหรอ..’


    จริงเรอะ..แต่ จะหาทางคุยกับมันได้ยังไงได้ล่ะ

    อืมม คุณไม่ใช่คนนี่นา แต่ว่านะ ถ้าคุณเป็นเพื่อนเขาจริงๆผมจะหาทางช่วยคุณเอง


         แทฮยอนยิ้มให้กับเขาอีกครั้ง แต่ครั้งนี้ช่างเป็นรอยยิ้มที่ทำให้มินโฮรู้สึกเจ็บปวดเหลือเกิน เจ็บจนจุกในอกไปหมด การที่รอยยิ้มที่ดูสดใสแบบนี้อาจ

    ต้องพังทลายลงเพราะเขา แค่คิดก็อยากจะฆ่าตัวเองให้ตายจริงๆเสียแล้ว แต่เขาไม่มีทางเลือกอื่น มินโฮพยักหน้าตอบอีกคนไปเป็นการตกลง เขายิ้ม

    เล็กๆกลบเกลื่อนความรู้สึกข้างในที่มี ได้แต่พูดบ่นกับตัวเองในใจ

    เขาพูดที่ไม่กล้าเอ่ยออกไปในตอนนี้..


    ขอบคุณนะแทฮยอน แล้วก็..’

    ขอโทษล่วงหน้าด้วยนะ..’



     



    #ฟิคผีคุณซง



    ___________________________________________________________________________________________________________


    ❤️อันยองค่ารีดเดอร์ที่น่ารักของไรทททท์❤️


    ต้องขอโทษที่หายไปอาทิตย์นึงด้วยนะคะ พอดีไรท์ติดสอบค่า แต่ตอนนี้สอบเสร็จแล้วนะ! >_<

    เริ่มจะถึงกลางเรื่องแล้วนะคะ แง เราใกล้จะรู้ความจริงกันแล้วเนอะ U-U

    ใกล้ถึงวันคริสต์มาสแล้ว ยังไงก็ขอให้ทุกคนมีความสุขกันมากๆนะคะ

    ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านฟิคเรื่องนี้นะคะ ติดตามกันต่อไปนะคะ

    รักรีดเดอร์ทุกคนเล้ย Merry Christmas นะคะ!❄️



    ❤️Wish everyone happy❤️

    Merry Christmas!



    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×