จอมเวทไร้พลัง
เด็กหนุ่ที่น่าจะมีพลังกลับไม่มีความสามารถอะไรเลย เขาจะต้องตามหาตัวจอมปิศาจเพื่อต่อสู้กับมัน
ผู้เข้าชมรวม
1,442
ผู้เข้าชมเดือนนี้
25
ผู้เข้าชมรวม
ข้อมูลเบื้องต้น
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ผลงานอื่นๆ ของ Avaridia ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ Avaridia
"Colorful Review รับวิจารณ์นิยายหลากแนว"
(แจ้งลบ)ผู้วิจารณ์ THEzeroday สวัสดีคะ พี่ฮาคุ ขอเรียกอย่างนี้นะ อายุ 20 อือหือ.. ห่างกันเป็นวาเลยแหม.. แอบเกร็งนะเนี่ยะ แต่ยังไงก็ 5 ดาวแล้วนี่เนอะ งั้นซีขอตรงๆเลยนะ แรงไปก็ขอโทษด้วยแล้วกัน ชื่อเรื่อง :: 10/10 ชื่อเรื่องดี สั้นง่ายได้ใจความ แต่จะดีกว่านี้ถ้ามีชื่อภาษาอังกฤษมันจะทำให้นิยาย ‘ดูหรูขึ้น’ คือดูมีระดับ ประมาณนั้น แต่ถ้าพอใ ... อ่านเพิ่มเติม
ผู้วิจารณ์ THEzeroday สวัสดีคะ พี่ฮาคุ ขอเรียกอย่างนี้นะ อายุ 20 อือหือ.. ห่างกันเป็นวาเลยแหม.. แอบเกร็งนะเนี่ยะ แต่ยังไงก็ 5 ดาวแล้วนี่เนอะ งั้นซีขอตรงๆเลยนะ แรงไปก็ขอโทษด้วยแล้วกัน ชื่อเรื่อง :: 10/10 ชื่อเรื่องดี สั้นง่ายได้ใจความ แต่จะดีกว่านี้ถ้ามีชื่อภาษาอังกฤษมันจะทำให้นิยาย ‘ดูหรูขึ้น’ คือดูมีระดับ ประมาณนั้น แต่ถ้าพอใจอย่างนี้แล้วก็ไม่เป็นไรคะ เพราะยังไงเนื้อในก็สำคัญกว่า ความสวยงาม :: 0/10 ซีไม่ได้เน้นที่ความสวยงาม เพราะนิยายมันไม่ได้ตัดสินที่ตรงนั้น แต่ยังไงมันก็ถือว่ามีส่วนในการเลือกของผู้อ่านเหมือนกัน การแต่งหน้านิยายมันแสดงให้เห็นถึงความเอาใส่ใจก็ผู้เขียนด้วย และที่สำคัญ ‘หน้านิยาย’ นะคะ ไม่ใช่ ‘ตัวนิยาย’ หน้านิยายคือที่ๆเอาไว้ ‘นำเสนอ’ ว่านิยายของเรา ‘มีอะไรที่น่าสนใจ’ ที่อยากจะสื่อให้ผู้อ่านได้รับรู้ ไม่ใช่ที่ที่เอาไว้ลงนิยายนะคะ แยกให้ออก การลงบทนำไว้ที่หน้านิยายเป็นอะไรที่ผิดพลาดของผิดพลาดสุดๆ ถ้าบทนำสั้นก็แล้วไป แต่บทนำนี่ยาวเป็นพรืด ลองนึกดูสิคะ ว่าถ้าเปิดเป็นตัวเอง เปิดเข้ามาในนิยาย แล้วก็ยังไม่รู้เลยว่ามันเกี่ยวกับอะไร พล็อตเป็นยังไง แล้วมาเจอบทนำยาวเป็นพรืด แถมตัวหนังสือก็เล็กจิดนึง ถ้าเป็นซี ซีปิดคะ มันไม่ได้อยากอ่านมากขนาดที่ต้องมาเพ่งตามองคอมอ่านนิยายที่ไม่รู้เรื่องเลยว่ามันเกี่ยวกับอะไร เดี๋ยวเกิดไม่ถูกใจก็เสียเวลาเปล่า ร้อยทั้งร้อย ไม่ว่าจะเป็นนิยายเรื่องไหน ความอายอ่านที่เปิดนิยายเข้ามาครั้งแรกต้องเริ่มจาก 0 พอเห็นเรื่องย่อ ว่าเนื้อเรื่องเป็นยังไง มันถึงจะเปลี่ยนแปลง จะเพิ่มขึ้นหรือลดลง ส่วนนึงมาจากพล็อตของคุณอีกส่วนมาจากความชอบของคนๆนั้น นิยายก็เหมือนอาหาร เรื่องย่อเปรียบเหมือนอาหารที่ให้ทดลองชิม ถ้าลองชิมแล้วคนชิมถูกใจ เขาก็ซื้อกลับ เขาไม่ถูกใจก็ไม่ซื้อ และแน่นอนจะให้ชิมก็ต้องให้ชิมคำเล็กๆ ถ้าคำใหญ่ๆเดี๋ยวเกิดไม่อร่อยขึ้นมาจะทำยังไง เดี๋ยวเกิดมันเผ็ดล่ะ มันเค็มไปล่ะ ถูกไหม? เพราะฉนั้นคุณต้องจัดลำดับขั้นตอนให้ดี ชื่ออาหารก็เหมือนชื่อนิยาย ชื่อน่ากินเขาก็ลองชิม ชื่อแปลกก็ไม่ชิม หน้าตาของอาหารก็คือหน้านิยาย หน้าตาน่ากินเขาก็กิน แต่ก่อนกินก็ต้องลองก่อน เดี๋ยวเกิดซื้อมาไม่ชอบก็เสียเงินเปล่า เพราะฉนั้นเรื่องย่อก็คือสิ่งที่ให้เขาลองอ่าน ลองชิม พล็อตถูกใจ อาหารอร่อย เขาก็ซื้อ มันต้องค่อยเป็นค่อยไป จากเล็กไปใหญ่ ค่อยๆตะล่อมๆให้เขามาอ่านของเรา แต่การที่เราเอาบทนำไปวางเลยเนี่ยะมันเหมือนการยัดเยียดว่า กินเข้าไปๆ โดนแบบนั้นใครจะชอบล่ะคะ มันไม่มีอะไรเป็นตัวช่วยในการตัดสินใจเลยว่าจะกินดีหรือไม่ดี อ่านหรือไม่อ่าน และเพื่อความปลอดภัย เขาก็ต้องเลือกที่จะปฏิเสธอยู่แล้ว การดำเนินเนื้อเรื่อง :: 6/10 พล็อตมันดูพื้นๆไปหน่อย ดูไม่ค่อยมีอะไรน่าสนใจ ไม่น่าตื่นเต้น คือมันสามารถเดาได้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อไป แล้วมันจะเกิดความไม่สนุก ถ้าจะบอกว่ามันยังไม่เข้าเนื้อเรื่อง มันมีอะไรมากกว่านั้นอีก แล้วคนอ่านเขาจะรู้เหรอ เพราะฉนั้นสิ่งที่คุณต้องทำคือดึงผู้อ่านไว้ให้ถึงสิ่งที่คุณจะสื่อ ขอเปรียบเป็นอาหารอีกแล้วกัน ถ้าเกิดคนเขากินเขาไป เคี้ยวแล้วรู้สึกว่ามันจืดๆ เหนียวๆเย็นๆ ไม่ชอบ เขาก็ไม่กินต่อ แต่ถ้าคุณบอกว่า กินไปเรื่อยๆสิ แล้วรสชาติมันค่อยๆเผยออกมาทีละนิดๆ ใครเขาจะไปรู้ล่ะว่าจะต้องกินต่อไปถึงเมื่อไรถึงจะเจอกับไอรสชาติที่ว่านั่น เพราะฉนั้นคุณก็ต้องทำให้อาหารของคุณมันมีรสชาติบ้าง คือใส่จุดน่าสนใจลงไปบ้างระหว่างที่ยังไม่ถึงเนื้อเรื่อง สำนวนการเขียน :: 8/10 ภาษาสวยจริงๆ แต่มีบางจุด..ไม่ใช่สิ เท่าที่เห็นนี้เยอะเลยอ่ะ ที่ใช้คำแปลกๆ อย่างเช่นตรงบทนำ คิดอย่างเผ็ดร้อน คือนึกภาพไม่ออกว่าคิดแบบเผ้ดร้อนมันเป็นยังไง เพราะปกติแล้วคำว่าเผ็ดมันใช้กับรสชาติ เอามาใช้บรรยายความคิดมันก็กระไรอยู่ มันจินตนาการไม่ออก ถ้าจะเปรียบเทียบควรเปรียบเทียบในสิ่งที่ใกล้เคียงหรือพอจะคล้องกันอยู่บ้าง อย่างเช่นพูดจาอย่างเผ็ดร้อน มันยังจะพอนึกภาพออกว่าเป็นยังไง ทางที่ดีควรเลือกใช้คำที่เหมาะกว่านี้เช่น คิดอย่างแค้นเคือง คิดอย่างน้อยใจ อันนี้ซีคิดว่าพี่ฮาคุตั้งใจจะซีอย่างนี้นะ เพราะซีก็ไม่รู้ว่าพี่ตั้งใจจะสื่ออะไร อีกจุดที่โคตรจะขัดกัน ตรงดาบหล่นราวกับใบไม้ร่วง อย่างที่บอกไปว่าจะเปรียบเทียบควรเปรียบในสิ่งที่ใกล้เคียง ดาบกับใบไม้ คนละเรื่องเลยคะ ดาบคืออาวุธ เอาไว้โจมตี เป็นเหล็ก มีความแข็งแรง ใบไม้เป็นพืช ลักษณะบางๆ ฉีกก็ขาด ที่สำคัญ มันเบา เวลาร่วงมันจะค่อยๆร่วงแบบนุ่มๆ แต่ดาบมันแข็ง หนัก ร่วงทีเสียงดังมาก เอามาเปรียบกันมันไม่ใช่อ่ะค่ะ แล้วก็บางจุดที่ใช้คำไม่สละสลวย ยกตัวอย่างตรงบทนำอีกเช่นกัน (บทนำมีเยอะมาก) ตรงคำว่า เพื่อนหญิง ทางที่ดีใช้เพื่อนสาวจะเหมาะกว่า มันให้คำความรู้สึกว่าตัวละครนั้นๆเป็นผู้หญิงที่อยู่ในช่วงสาว วัยรุ่น ซึ่งช่วงเวลานั้นมันเป็นช่วงเวลา...เอ่อ...ขอใช้คำว่าเจริญพันธุ์แล้วกัน เป็นช่วงเวลาที่กำลังมีความรัก ผิวพรรณเปล่งปลัง หรือที่เขาเรียกกันว่าเอาะๆนั่นแหละ มันจะทำให้เวลาอ่านแล้วจินตนานการเนี่ยะ มันจะรู้สึกพลิ้วๆ โลกนี้ช่างสวยงาม (ว่าไปนั่น) เอาเป็นว่ามันจะทำให้อ่านแล้วมันไม่ติดขัด แล้วก็ปัญหาคำเกิน มีบรรยายเกินๆอยู่บ้าง ไม่ใช่ปัญหาใหญ่อะไรมาก แต่บางทีมันก็ไม่ดี จะชี้จุดใหญ่ๆให้คือในตอน 1 ‘เช่นเดียวกับบุรุษชายหนุ่ม’ ตัดคำว่าบุรุษออกไป แค่คำว่าชายหนุ่มก็รู้เรื่องแล้ว เพราะเราแค่ต้องการจะสื่อว่า อาเจ๊คนนี้เขาทำตัวเหมือนผู้ชาย คำว่าบุรุษมันเป็นการเน้นย้ำให้ความหมายของ ‘ผู้ชาย’ ชัดเจนมากขึ้น แล้วมันไม่ใช่ประเด็นที่เราจะสื่อ เพราะฉนั้นตัดออกไป ให้กระชับ มันจะทำให้ลื่นขึ้น การใช้ภาษา :: 10/10 ไม่ขอพูดอะไรมาก เพราะพูดมาเยอะแล้ว //หอบ อ่านน้อยลง
Shoofly Pie | 15 เม.ย. 56
6
0
"Colorful Review รับวิจารณ์นิยายหลากแนว"
(แจ้งลบ)ผู้วิจารณ์ THEzeroday สวัสดีคะ พี่ฮาคุ ขอเรียกอย่างนี้นะ อายุ 20 อือหือ.. ห่างกันเป็นวาเลยแหม.. แอบเกร็งนะเนี่ยะ แต่ยังไงก็ 5 ดาวแล้วนี่เนอะ งั้นซีขอตรงๆเลยนะ แรงไปก็ขอโทษด้วยแล้วกัน ชื่อเรื่อง :: 10/10 ชื่อเรื่องดี สั้นง่ายได้ใจความ แต่จะดีกว่านี้ถ้ามีชื่อภาษาอังกฤษมันจะทำให้นิยาย ‘ดูหรูขึ้น’ คือดูมีระดับ ประมาณนั้น แต่ถ้าพอใ ... อ่านเพิ่มเติม
ผู้วิจารณ์ THEzeroday สวัสดีคะ พี่ฮาคุ ขอเรียกอย่างนี้นะ อายุ 20 อือหือ.. ห่างกันเป็นวาเลยแหม.. แอบเกร็งนะเนี่ยะ แต่ยังไงก็ 5 ดาวแล้วนี่เนอะ งั้นซีขอตรงๆเลยนะ แรงไปก็ขอโทษด้วยแล้วกัน ชื่อเรื่อง :: 10/10 ชื่อเรื่องดี สั้นง่ายได้ใจความ แต่จะดีกว่านี้ถ้ามีชื่อภาษาอังกฤษมันจะทำให้นิยาย ‘ดูหรูขึ้น’ คือดูมีระดับ ประมาณนั้น แต่ถ้าพอใจอย่างนี้แล้วก็ไม่เป็นไรคะ เพราะยังไงเนื้อในก็สำคัญกว่า ความสวยงาม :: 0/10 ซีไม่ได้เน้นที่ความสวยงาม เพราะนิยายมันไม่ได้ตัดสินที่ตรงนั้น แต่ยังไงมันก็ถือว่ามีส่วนในการเลือกของผู้อ่านเหมือนกัน การแต่งหน้านิยายมันแสดงให้เห็นถึงความเอาใส่ใจก็ผู้เขียนด้วย และที่สำคัญ ‘หน้านิยาย’ นะคะ ไม่ใช่ ‘ตัวนิยาย’ หน้านิยายคือที่ๆเอาไว้ ‘นำเสนอ’ ว่านิยายของเรา ‘มีอะไรที่น่าสนใจ’ ที่อยากจะสื่อให้ผู้อ่านได้รับรู้ ไม่ใช่ที่ที่เอาไว้ลงนิยายนะคะ แยกให้ออก การลงบทนำไว้ที่หน้านิยายเป็นอะไรที่ผิดพลาดของผิดพลาดสุดๆ ถ้าบทนำสั้นก็แล้วไป แต่บทนำนี่ยาวเป็นพรืด ลองนึกดูสิคะ ว่าถ้าเปิดเป็นตัวเอง เปิดเข้ามาในนิยาย แล้วก็ยังไม่รู้เลยว่ามันเกี่ยวกับอะไร พล็อตเป็นยังไง แล้วมาเจอบทนำยาวเป็นพรืด แถมตัวหนังสือก็เล็กจิดนึง ถ้าเป็นซี ซีปิดคะ มันไม่ได้อยากอ่านมากขนาดที่ต้องมาเพ่งตามองคอมอ่านนิยายที่ไม่รู้เรื่องเลยว่ามันเกี่ยวกับอะไร เดี๋ยวเกิดไม่ถูกใจก็เสียเวลาเปล่า ร้อยทั้งร้อย ไม่ว่าจะเป็นนิยายเรื่องไหน ความอายอ่านที่เปิดนิยายเข้ามาครั้งแรกต้องเริ่มจาก 0 พอเห็นเรื่องย่อ ว่าเนื้อเรื่องเป็นยังไง มันถึงจะเปลี่ยนแปลง จะเพิ่มขึ้นหรือลดลง ส่วนนึงมาจากพล็อตของคุณอีกส่วนมาจากความชอบของคนๆนั้น นิยายก็เหมือนอาหาร เรื่องย่อเปรียบเหมือนอาหารที่ให้ทดลองชิม ถ้าลองชิมแล้วคนชิมถูกใจ เขาก็ซื้อกลับ เขาไม่ถูกใจก็ไม่ซื้อ และแน่นอนจะให้ชิมก็ต้องให้ชิมคำเล็กๆ ถ้าคำใหญ่ๆเดี๋ยวเกิดไม่อร่อยขึ้นมาจะทำยังไง เดี๋ยวเกิดมันเผ็ดล่ะ มันเค็มไปล่ะ ถูกไหม? เพราะฉนั้นคุณต้องจัดลำดับขั้นตอนให้ดี ชื่ออาหารก็เหมือนชื่อนิยาย ชื่อน่ากินเขาก็ลองชิม ชื่อแปลกก็ไม่ชิม หน้าตาของอาหารก็คือหน้านิยาย หน้าตาน่ากินเขาก็กิน แต่ก่อนกินก็ต้องลองก่อน เดี๋ยวเกิดซื้อมาไม่ชอบก็เสียเงินเปล่า เพราะฉนั้นเรื่องย่อก็คือสิ่งที่ให้เขาลองอ่าน ลองชิม พล็อตถูกใจ อาหารอร่อย เขาก็ซื้อ มันต้องค่อยเป็นค่อยไป จากเล็กไปใหญ่ ค่อยๆตะล่อมๆให้เขามาอ่านของเรา แต่การที่เราเอาบทนำไปวางเลยเนี่ยะมันเหมือนการยัดเยียดว่า กินเข้าไปๆ โดนแบบนั้นใครจะชอบล่ะคะ มันไม่มีอะไรเป็นตัวช่วยในการตัดสินใจเลยว่าจะกินดีหรือไม่ดี อ่านหรือไม่อ่าน และเพื่อความปลอดภัย เขาก็ต้องเลือกที่จะปฏิเสธอยู่แล้ว การดำเนินเนื้อเรื่อง :: 6/10 พล็อตมันดูพื้นๆไปหน่อย ดูไม่ค่อยมีอะไรน่าสนใจ ไม่น่าตื่นเต้น คือมันสามารถเดาได้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อไป แล้วมันจะเกิดความไม่สนุก ถ้าจะบอกว่ามันยังไม่เข้าเนื้อเรื่อง มันมีอะไรมากกว่านั้นอีก แล้วคนอ่านเขาจะรู้เหรอ เพราะฉนั้นสิ่งที่คุณต้องทำคือดึงผู้อ่านไว้ให้ถึงสิ่งที่คุณจะสื่อ ขอเปรียบเป็นอาหารอีกแล้วกัน ถ้าเกิดคนเขากินเขาไป เคี้ยวแล้วรู้สึกว่ามันจืดๆ เหนียวๆเย็นๆ ไม่ชอบ เขาก็ไม่กินต่อ แต่ถ้าคุณบอกว่า กินไปเรื่อยๆสิ แล้วรสชาติมันค่อยๆเผยออกมาทีละนิดๆ ใครเขาจะไปรู้ล่ะว่าจะต้องกินต่อไปถึงเมื่อไรถึงจะเจอกับไอรสชาติที่ว่านั่น เพราะฉนั้นคุณก็ต้องทำให้อาหารของคุณมันมีรสชาติบ้าง คือใส่จุดน่าสนใจลงไปบ้างระหว่างที่ยังไม่ถึงเนื้อเรื่อง สำนวนการเขียน :: 8/10 ภาษาสวยจริงๆ แต่มีบางจุด..ไม่ใช่สิ เท่าที่เห็นนี้เยอะเลยอ่ะ ที่ใช้คำแปลกๆ อย่างเช่นตรงบทนำ คิดอย่างเผ็ดร้อน คือนึกภาพไม่ออกว่าคิดแบบเผ้ดร้อนมันเป็นยังไง เพราะปกติแล้วคำว่าเผ็ดมันใช้กับรสชาติ เอามาใช้บรรยายความคิดมันก็กระไรอยู่ มันจินตนาการไม่ออก ถ้าจะเปรียบเทียบควรเปรียบเทียบในสิ่งที่ใกล้เคียงหรือพอจะคล้องกันอยู่บ้าง อย่างเช่นพูดจาอย่างเผ็ดร้อน มันยังจะพอนึกภาพออกว่าเป็นยังไง ทางที่ดีควรเลือกใช้คำที่เหมาะกว่านี้เช่น คิดอย่างแค้นเคือง คิดอย่างน้อยใจ อันนี้ซีคิดว่าพี่ฮาคุตั้งใจจะซีอย่างนี้นะ เพราะซีก็ไม่รู้ว่าพี่ตั้งใจจะสื่ออะไร อีกจุดที่โคตรจะขัดกัน ตรงดาบหล่นราวกับใบไม้ร่วง อย่างที่บอกไปว่าจะเปรียบเทียบควรเปรียบในสิ่งที่ใกล้เคียง ดาบกับใบไม้ คนละเรื่องเลยคะ ดาบคืออาวุธ เอาไว้โจมตี เป็นเหล็ก มีความแข็งแรง ใบไม้เป็นพืช ลักษณะบางๆ ฉีกก็ขาด ที่สำคัญ มันเบา เวลาร่วงมันจะค่อยๆร่วงแบบนุ่มๆ แต่ดาบมันแข็ง หนัก ร่วงทีเสียงดังมาก เอามาเปรียบกันมันไม่ใช่อ่ะค่ะ แล้วก็บางจุดที่ใช้คำไม่สละสลวย ยกตัวอย่างตรงบทนำอีกเช่นกัน (บทนำมีเยอะมาก) ตรงคำว่า เพื่อนหญิง ทางที่ดีใช้เพื่อนสาวจะเหมาะกว่า มันให้คำความรู้สึกว่าตัวละครนั้นๆเป็นผู้หญิงที่อยู่ในช่วงสาว วัยรุ่น ซึ่งช่วงเวลานั้นมันเป็นช่วงเวลา...เอ่อ...ขอใช้คำว่าเจริญพันธุ์แล้วกัน เป็นช่วงเวลาที่กำลังมีความรัก ผิวพรรณเปล่งปลัง หรือที่เขาเรียกกันว่าเอาะๆนั่นแหละ มันจะทำให้เวลาอ่านแล้วจินตนานการเนี่ยะ มันจะรู้สึกพลิ้วๆ โลกนี้ช่างสวยงาม (ว่าไปนั่น) เอาเป็นว่ามันจะทำให้อ่านแล้วมันไม่ติดขัด แล้วก็ปัญหาคำเกิน มีบรรยายเกินๆอยู่บ้าง ไม่ใช่ปัญหาใหญ่อะไรมาก แต่บางทีมันก็ไม่ดี จะชี้จุดใหญ่ๆให้คือในตอน 1 ‘เช่นเดียวกับบุรุษชายหนุ่ม’ ตัดคำว่าบุรุษออกไป แค่คำว่าชายหนุ่มก็รู้เรื่องแล้ว เพราะเราแค่ต้องการจะสื่อว่า อาเจ๊คนนี้เขาทำตัวเหมือนผู้ชาย คำว่าบุรุษมันเป็นการเน้นย้ำให้ความหมายของ ‘ผู้ชาย’ ชัดเจนมากขึ้น แล้วมันไม่ใช่ประเด็นที่เราจะสื่อ เพราะฉนั้นตัดออกไป ให้กระชับ มันจะทำให้ลื่นขึ้น การใช้ภาษา :: 10/10 ไม่ขอพูดอะไรมาก เพราะพูดมาเยอะแล้ว //หอบ อ่านน้อยลง
Shoofly Pie | 15 เม.ย. 56
6
0
ความคิดเห็น