ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Diary of Stories

    ลำดับตอนที่ #3 : 28 ธ.ค. 2555 : Last hell day in 2012

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 62
      0
      28 ธ.ค. 55

    Last hell day in 2012


    28 ธ.ค.2555

    วันนี้เป็นวันปกติสำหรับการไปโรงเรียนวันนึง

    ตื่นมาตอน 7 โมงเช้า แล้วก็เข้าแถวสาย

    วิชาที่ ต้องสอบสำหรับวันนี้ ก็มีแค่ 3 วิชา วิทย์ อังกฤษ แล้วก็ไทย

    พอเริ่มสอบคาบวิทย์ มันไม่ยากมาก แต่เพราะเราเก่งไง เลยทำไม่ได้สักข้อ

     พอสอบเสร็จคาบวิทย์ ก็เข้าคาบภาษาอังกฤษ คิดว่าตัวเองไปหลุดอยู่ในโลกของภาษาตรุกี

    นี่โจทย์หรือคับ!!?!? กุคิดว่าเป็นโค้ดดาวินชี่

    นั่งเอ๋ออยู่ประมาณครึ่งชั่วโมง สุดท้ายก็ฝน ค.ควายเกือบทุกข้อ เพื่อส่อถึงสมองของเรา (ล้ำเลิศ)

    แต่จุดไคล์แมกซ์ มันอยู่ตอนที่ระหว่างนั่งรอสอบวิชาภาษาไทย

    เราลืมบอกไปว่าเราเป็นเป้าสายตาของคนทั้งห้อง

    ไม่รู้ว่าเพราะอะไร คนทั้งห้องถึงหันมาเกลียดเรา

    ความจริงเรื่องมันเริ่มตั้งแต่เมื่อเดือนก่อนเรามีปัญหากับเพื่อนคนหนึ่งในห้อง

    แต่เราลืมไปว่าเพื่อนคนนั้น (เราขอเรียกว่า นิว) นิวมีพวกมาก เพื่อนเยอะ

    การที่เรามีปัญหากับนิวคนเดียว ก็กลายเป็นว่า เรามีปัญหากับเพื่อนทั้งห้อง

    เพราะนิวเอาเราไปนินทาให้คนอื่นๆฟัง ทำให้คนทั้งห้องเกลียดเราคนเดียว

    กลับมาต่อเรื่องเดิม

    ระหว่างนั่งรอสอบคาบภาษาไทยอยู่หน้าห้อง

    เรานั่งที่เก้าอี้หน้าห้องสอบ เก้าอี้มันชิดกำแพงทางเดิน

    (ซึ่งทางเดินมันก็กว้างพอให้ควายทั้งตัวมาเดินผ่านได้)

    แน้ต เพื่อนร่วมห้องคนหนึ่ง เดินผ่านหน้าเราแล้วจงใจสะดุดเท้าเรา เธอเซ แล้วก็หันหน้ามาจิกตาใส่เรา

    โอ๊ย! เกะกะว่ะ! ไปนั่งไกลๆดิ๊!” แน้ตตวาดใส่

    ในตอนนั้นหน้าเราเอ๋อสุดๆ เพราะงงมากๆ แต่ก็ไม่อยากมีปัญหา เราส่ายหัวเบาๆแล้วก็ลุกออกไป

    แน้ตก็เดินไปหากลุ่มเพื่อนของตัวเองแล้วจงใจตระโกนดังๆว่า

    ไม่มีอะไร! ก็แค่หมาขวางทางเดิน!”

    ใจเราสั่นมาก น้ำตามันเริ่มคลอเบ้า ปายเห็นสีหน้าเราแล้วก็พยายามถามเรา แต่เราก็พูดอะไรไม่ออก

    ไม่ใช่ว่าปายไม่รู้เรื่องที่เกิดขึ้น เราเคยบอกปายกับเบลล์แล้วหลังจากเหตุการณ์ครั้งนั้น

    เราบอกว่า อย่าเข้ามาใกล้เรา เพราะจะติดร่างแหไปด้วย

    การที่ปายกับเบลล์ไม่สนใจพวกที่ฟังความข้างเดียว ยิ่งทำให้เรารักทั้งสองคนมาก

    สุดท้ายปายกับเบลล์ก็ไม่รู้เรื่องที่เราโดนแน้ตพูดจิก

    พอสอบภาษาไทยเสร็จเป็นคาบสุดท้าย เวลา 12.00

    เราก็ให้แม่มารับ แล้วกลับบ้านอย่างปลอดภัย โดยไม่โดนอะไรไปมากกว่านี้

    ถือว่าเราโดนส่งท้ายปีใหม่โดยวิธีน่ารักๆก็แล้วกัน

    และเราจะต้องกลับไปยังนรกนั่นอีกในวันที่ 3 มกราคม 2556 ยังมีเวลาเตรียมใจอีกนาน

    พอกลับถึงบ้าน อย่างแรกที่ต้องทำคือ เล่นคอม! คอมเฟส! เขียนไดอารี่!

    วันนี้น้องเล็นออนเฟสบุ้คแล้ว หลังจากหายไปตั้ง 2 วัน

    น้องเล็นบอกว่าที่หายไปเพราะเน็ตตัด แต่ตอนนี้ต่อเน็ตแล้ว

    หลังจากคุยเรื่องอื่นไปเรื่อย จู่ๆน้องเล็นก็ถามขึ้นว่า พี่ยังมีปัญหากับใครอีกหรือเปล่า

    ทำเราแทบหงายเงิบ เพราะเราไม่เคยเล่าเรื่องนี้ให้น้อง

    น้องเล็นเป็นคนหนึ่งที่ไม่รู้เรื่องที่เกิดขึ้นในโรงเรียน เพราะเราก็ไม่เคยเล่าให้น้องฟังเลย

    ไม่รู้ว่าไปรู้เรื่องนั้นได้ยังไง และรู้ไปถึงไหน เราก็ไม่กล้าถาม

    เราก็ทำได้แค่บอกไปว่า พี่ไม่เป็นไร ไม่มีใครมาทำอะไรพี่ได้อีกแล้ว

    ดูท่าว่าน้องเล็นจะไม่ติดใจอะไรเลยไม่สาวความ เราก็เปลี่ยนเรื่องคุย

    และหลังจากคุยเรื่องต่างๆกับน้องไม่นาน ก็ถึงเวลาที่น้องเล็นต้องนอน (เป็นคนที่นอนเร็วมาก)

    และเราก็จะได้ฟังคำที่ทำให้เรารู้สึกอุ่นใจที่สุดคือคำว่า Love sis กับ Miss sis

    มันเป็นคำที่ปัดเป่าความเหนื่อยล้าจากเราไปได้มากที่สุด

    พอฉันเห็นว่าน้องเล็นออฟไลน์ไปแล้ว นั่นก็แสดงว่าหลับไปแล้ว

    ก็ถึงตาฉันนอนซะที ราตรีสวัสดิ์ Dear Diary ;)

    C U TMR … Sweet Dream <3

     




    t em
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×