คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : Chapter : 3 ซินเดอเรล่า กับ ความอลมานที่น่าปวดหัว
Chapter 3 : ซินเดอเรล่า กับ ความอลมานที่น่าปวดหัว
หลังจากที่ผอ.ซาเอะไล่รุยยะลูกชายของตัวเองออกไปแล้ว เธอก็เอาแต่นั่งถอนหายใจตลอดเวลาราวกับว่าลืมเลือนเสีสยแล้วว่ามีใครอีกคนหนึ่งอยู่ในห้องด้วย จนฮารุโยะชัดอดรนทนไม่ไหวต้องพูดออกมา
“ตกลงผอ.มีเรื่องอะไรจะพูดคะ?”
“เธอคิดยังไงถึงเลือกลูกชายฉันให้เป็นซินเดอเรล่า?”
“ความจริงฉันก็ไม่ได้ตั้งใจให้มันเป็นแบบนั้นหรอกคะ แต่พอดีว่ามันประจวบเหมาะหลายๆเรื่อง ซาเอะเลิกคิ้วสูงอย่างสงสัย
“อย่างเช่นอะไรบ้างละ?”
“ก็รุยยะคุงใส่รองเท้าแก้วได้พอดี แล้วอีตาโทยะก็เข้าใจผิด ก็เลยลงเอยอย่างที่เห็น” หญิงสาวพูดเสียงอ่อนพลางเหลือบตามองอีกฝ่ายเป็นระยะๆ
“ฉันพอรู้แล้วละว่าเพราะอะไร......โทยะลูกชายฉันซินะที่ทำให้เป็นแบบนี้”
“มัน...ก็ไม่เชิงคะ” ฮารุโยะออกแนวแบ่งรับแบ่งสู้ จะให้โทษชายหนุ่มฝ่ายเดียวก็ไม่ได้ เพราะเธอเองก็มัวแต่โมโหที่ถูกร่างสูงนั้นตะคอกใส่จนเพลอรับปากรุยยะคุงไป
“ช่างเถอะ....เรื่องมันก็เกิดขึ้นไปแล้วก็ต้องทำใจยอมรับ แต่ที่ฉันห่วงจริงๆก็คือรุยยะต่างหาก” ฮารุโยะทำหน้าไม่เข้าใจจนผอ.วัยกลางคนต้องอธิบาย
“เป็นความผิดของฉันเองแหละที่ทำให้รุยยะเป็นแบบนี้ เมื่อก่อนฉันอยากมีลูกสาวมากแต่ทั้งคู่ก็เกิดเป็นผู้ชาย รุยยะนะตอนเด็กหน้าตาน่ารักอย่างกับเด็กผู้หญิงฉันก็เลยชอบจับแกใส่กระโปร่ง” หญิงสาวพยักหน้ายอมรับแม้แต่ตอนนี้ชายหนุ่มก็ยังมีหน้าตาสวยหวานยิ่งกว่าผู้หญิงจริงๆเสียอีก “แต่แล้ววันหนึ่งแฟนของโทยะมาเห็นเข้า และเข้าใจผิดว่ารุยยะเป็นผู้หญิงคนใหม่ ก็เลยเกิดมีปากมีเสียงกัน เด็กผู้หญิงคนนั้นถึงขั้นลงมือลงไม้กับรุยยะ” ซาเอะเว้นระยะก่อนกันมาทางหญิงสาว
“เธอคิดว่าเกิดอะไรขึ้นต่อจากนั้นลองเดาดูสิ” ฮารุโยะคิดหนัก การที่ผู้ชายถูกตบหน้าเพราะโดนเข้าใจผิดคิดว่าเป็นแฟนใหม่ของพี่ชายตัวเอง จะตอบโต้กลับยังไงกับผู้หญิงคนนั้นมันเดาไม่ออกจริงๆ จนเธอได้แต่ส่ายหน้า
“รุยยะตบยัยเด็กนั้นกลับแล้วพูดว่า'ยัยอัปลักษณ์อย่างเธอไม่มีสิทธิ์มาตบหน้าฉัน รอให้สวยกว่าฉันก่อนเถอะแล้วค่อยมาเสนอหน้ามาเป็นแฟนกับพี่ชาย' ตั่งแต่ตอนนั้นลูกชายของฉันก็มักแต่งตัวเป็นผู้หญิงหลอกล่อเด็กผู้ชายเป็นว่าเล่น ซ้ำยังโดนเด็กสาวเกลียดขี้หน้าไปตามๆกัน”
“เรื่องจริงเหรอคะ?” ฮารุโยะมองเห็นอนาคตที่วุ่นวายอยู่ไม่ไกล หน้าตาไร้เดียงสาอย่างนั้นนะน่ะจะเป็นมารน้อยแสนร้ายกาจ!?!
“เธอก็ระวังตัวเอาไว้เถอะอย่าให้เรื่องที่ตัวเองเป็นผู้หญิงแตกซะละ เพราะรุยยะนะเกลียดผู้หญิงยิ่งกว่าอะไร” ซาเอะเตือนอย่างหวังดี เพราะรู้ฤทธิ์เดชของลูกชายคนนี้ดีว่าเป็นยังไง ก็แค่หวังว่าทุกอย่างจะผ่านพ้นไปได้โดยไม่มีปัญาก็พอ
“ตกลงเป็นยังไบ้าง?” ฮารุโยะสะดุ้งสุดตัวเมื่ออยู่ๆเสียงรุยยะกระซิบอยู่ข้างหู
“มะ...มีอะไร?”
“ท่านว่ายังไงบ้าง?” นัยน์ตากลมโตมองมาใสแป๋ว เล่นเอาใจหญิงสาวในคราบชายหนุ่มชักเต้นไม่เป็นจังหวะ อย่าว่ายังงั้นยังงี้เลยขนาดเธอเป็นผู้หญิงยังโดนรูปลักษณ์แบบนี้ปั่นหัวเล่น แล้วพวกผู้ชายที่โดนล่อหลอกพวกนั้นละจะไปเหลือเรอะ
“อะ..เอ่อก็ไม่ว่าอะไรนิ ทำไมถึงยังอยู่ตรงนี้อีกละ?”
“ก็รอเจ้าชายของผมอยู่นะสิ” รุยยะเอ่ยยิ้มๆก่อนลงมือลากหญิงสาวอีกครั้ง
“จะไปไหนกัน!?!” ฮารุโยะร้องเสียงหลงเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายกำลังพาไปสถานที่ๆไม่รู้จัก
“มาเหอะน่าแล้วจะรู้เอง” ใบหน้าหวานๆนั้นเปื้อนไปด้วยรอยยิ้มจนเธอเองก็ชักอ่อนใจเพราะอีกฝ่ายให้ความรู้สึกไม่ต่างจากน้องสาวของตัวเอง
“ที่นี่ที่ไหนเนี้ย?” หญิงสาวตะลึงเป็นการใหญ่ไม่นึกเลยว่าข้างหลังโรงเรียนจะมีสถานที่แบบนี้ซ่อนอยู่
“หอพักนักเรียนชาย”
“หะ!?!” ฮารุโยะรีบดึงมือตัวเองออกทันที “นายพาฉันมาทำไมที่นี่?”
“มาแนะนำตัวไง?” รุยยะเอียงคอพูดอย่างน่ารัก “ประกาศให้ทุกคนรู้ว่าตอนนี้ผมเป็นของเอย์เซย์แล้ว”
“!?!”
“เพราะงั้นเข้าไปกันเถอะ”
“ไม่เอา!...ไม่ต้องฉันไม่เข้าไปแนะนงแนะนำตัวอะไรทั้งนั้น” หญิงสาวก้าวถอยห่างอย่างรวดเร็ว “เพราะยังไงเดี๋ยวก็คงจะรู้กันทั้งโรงเรียนอยู่แล้วว่านายได้เป็นซินเดอเรล่า ไม่จำเป็นเลยสักนิดที่จะต้องมาแนะนำตัว”
“แต่ว่า......”
“ไม่มีแต่ ถ้านายยังไม่เลิกความคิดนี้ละก็ฉันก็จะไม่ให้นายเป็นนางซินฯ” ฮารุโยะขู่เพราะดูท่าทางอีกฝ่ายอยากเป็นซะเหลือเกิน
“ก็ได้.........แต่!”
“แต่อะไรอีกละ?”
“ผมขอมัดจำก่อนทีหนึ่ง” ร่างแบบบางนั้นประชิดตัวอารุโยะทันทีอย่างรวดเร็ว ก่อนจะใช้มือทั้งสองข้างโอบรอบคอหญิงสาวให้โน้มตัวลงมาเพื่อประทับจูบเบาๆที่แก้มนวล
“เฮ้ย! นายทำบ้าอะไร!?!” ฮารุโยะพลักอีกฝ่ายออกแล้วใช้มือถูแก้มตัวเองไปมา
“ก็มัดจำยังไง”
“มัดจำ...มัดจำเรื่องอะไร?”
“ตอนนี้ไม่บอก......Good luck my prince” พูดจบร่างเล็กๆนั้นก็หายเข้าไปในหอพักทันที ปล่อยให้หญิงสาวยืนนิ่งอึ้งอยู่อย่างนั้นคนเดียว
“นายไปไหนมา?” เสียงทุ้มพร้อมร่างเจ้าของโพล่งออกมาขว้างทาง เมื่อฮารุโยะกำลังจะเดินออกนอกโรงเรียน
“เรื่องของฉัน” หญิงสาวพูดอย่างเหนื่อยอ่อนวันนี้ไม่อยากจะโต้คารมกับใครทั้งนั้น
“แต่ฉันอยากจะรู้ และต้องได้คำตอบตอนนี้ด้วย” โทยะออกคำสั่งจนคนได้ยินชักสีหน้าไม่พอใจใส่
“อยากจะรู้ก็ไปถามน้องชายของนายนู้น เลิกยุ่งกับฉันซักทีน่ารำคาญ”
“นายว่ายังไงนะ?”
“โอ้ยเบื่อจริงๆ ไปที่ชอบๆเถอะไป ฉันจะกลับบ้าน” ฮารุโยะพลักไหล่ร่างสูงที่ยืนขว้างอยู่แรงก่อนเดินเลี่ยงไป แต่อีกฝ่ายคว้าแขนเอาไว้แล้วลากไปโดยไม่ฟังเสียงโวยวายที่มีตามหลัง
“เข้าไป” โทยะโยนอีกฝ่ายขึ้นรถก่อนสั่งคนขับรถให้ปิดกระจกหลังคนขับ
“ทั้งพี่ทั้งน้องเหมือนกันไม่มีผิด” เสียงทุ้มหวานพึมพัมเบาๆพลางลูบต้นแขนตัวเองที่แดงระเรื่อเพราะโดนอีกฝ่ายออกแรงบีบลากมา
“นายไปไหนกับรุยยะ?” ชายหนุ่มออกปากถามอย่างใจเย็นที่สุด
“ไม่ได้ไปไหนมาทั้งนั้น”
“ฉันเห็นมานายพาน้องชายฉันไปทางหอพักนักเรียนชาย”
“ตานายมีปัญหารึยังไงกันคนที่พาฉันไปนะน้องชายนายต่างหากไม่ใช่ฉัน” ฮารุโยะสวนกลับเข้าให้อย่างโมโห เข้าข้างน้องชายดีซะเหลือเกิน
“ไปทำอะไร?”
“นายเห็นว่าฉันไปทำอะไรมาละ?”
“ฉันถามดีๆแล้วนะ!” โทยะเริ่มหงุดหงิดที่อีกฝ่ายยอกย้อน
“ฉันก็ตอบได้ดีๆแล้วไง ยังจะเอายังไงอีก?”
“เลิกความคิดที่จะให้รุยยะเป็นซินเดอเรล่าซะ แค่นี้มันก็ยุ่งยากพออยู่แล้ว”
“นายก็ไปบอกเจ้าตัวเอาเองซิ ฉันไม่ได้บังคับน้องชายนายให้มาเป็นซินเดอเรล่าซักหน่อย”
“แต่นายเป็นprinceย่อมมีสิทธ์ในการเลือกหรือไม่เลือก”
“ถ้าฉันไม่เลือกน้องชายนายคิดหรือว่าอีกฝ่ายจะยอม ทางที่ดีนายไปตกลงกับทางนู้นไม่ดีกว่ารึไง?” หญิงสาวเสนอ แต่โทยะกลับปั้นหน้ายุ่ง
“ถ้ามันง่ายอย่างนั้นฉันคงไม่ลากตัวนายออกมด้วยหรอก นายยังไม่รู้จักน้องชายฉันดีนั้นนะจอมมารในคราบเทวดาชัดๆ พรุ่งนี้นายเตรียมตัวไว้เลยเคราะห์หนักจะพุ่งเข้าหา”
“ไอ้ที่เป็นอยู่นี้ไม่เรียกว่าเคราะห์รึไง” ฮารุโยะพึมพัมกับตัวเองมือก็ลูบแก้มข้างที่โดนขโมยจูบไปมาอย่างเพลอไพล
“แก้มนายเป็นอะไร?” โทยะถามเพราะอีกฝ่ายลูบแก้มอยู่อย่างนั้นตลอด
“ปะ....เปล่า”
“โดนรุยยะทำอะไรมาละซิ” หญิงสาวสะดุ้งน้อยๆ เดาแม้นอย่างกับอะไร
“ไม่มีอะไรไม่ต้องสนใจ ว่าแต่มีอะไรอีกมั้ยฉันจะกลับบ้านเดี๋ยวต้องไปรับซายะอีก”
“...................ฉันจะไปส่งเองจะไปรับแฟนที่ไหนละ?” คนฟังได้แต่เลิกคิ้วสูงก่อนปล่อยหัวเราะก๊ากออกมา
“หัวเราะทำบ้าอะไรตกลงที่ไหน?”
“ที่................. ” ฮารุโยะบอกทางให้อย่างละเอียดกับคนขับรถ ก่อนทั้งสองจะนั่งเงียบไปตลอดทางโดยไม่พูดอะไรกันอีก เมื่อถึงที่แล้วเธอก็ลงจากรถพร้อมกับเอ่ยขอบคุณเบาๆ ก่อนเดินเข้าไปในโรงเรียนอนุบาลซึ่งติดกับโรงเรียนแห่งหนึ่ง
“ซายะจังพี่มารับแล้วจ๊ะ”
“พี่คะ” ร่างเล็กของเด็กสาววิ่งเข้าหาทันทีแล้ววีดร้องเสียงดังเมื่อถูกอีกฝ่ายเหวี่ยงตัวขึ้นอุ้มแล้วระดมจูบเป็นการใหญ่ เหมือนเป็นธรรมเนียมปฏิบัติที่ทุกครั้งหญิงสาวจะทำเมื่อมารับน้องสาวจนพวกผู้ใหญ่เห็นแล้วต้องยิ้มตามอย่างเอ็นดู
“ไม่เห็นหน้านานเลยนะคะ”
“พอดียุ่งๆอยู่นะคะ” ฮารุโยะยิ้มให้ ทำเอาใจสาวน้อยสาวใหญ่เต้นผิดจังหวะ ก็แหมชุดที่ใส่ช่างเหมาะเสียยิ่งกว่าอะไร
“ฮารุโยะคุงใส่ชุดนี้แล้วขึ้นจริงๆนะคะ”
“เอ๋?....เอ่อขอบคุณคะ” หญิงสาวเอ่ยขอบคุณเสียมิได้ เพราะยังไงทุกคนที่นี้ก็คอยดูแลน้องสาวเธอเป็นอย่างดี
“แหมที่ลงคะแนนเสียงให้ถือว่าไม่เสียหลาย ได้เห็นฮารุโยะคุงในชุดนี้แล้วอดปลื้มใจไม่ได้ ขนาดลูกชายป้ายังใส่ชุดนี้ไม่ขึ้นเลย” คุณนายเศรษฐีนีที่มารอรับหลานสาวเอ่ยขึ้นทันทีที่เห็นฮารุโยะ ก่อนจีบปากจีบคอพูดเสียงแหลมอย่างที่หญิงสาวไม่ชอบเสียเลย “เห็นข่าวว่าได้รับเลือกให้เป็นเจ้าชายด้วยนี้จ๊ะ”
“เอ๋...พี่เป็นเจ้าชายหรือคะ?” ซายะเอ่ยถามอย่างแปลกใจ
“อะ...เอ่อก็ใช่จ๊ะ”
“เย้! หนูนึกแล้วเชียวว่าพี่ต้องเป็นเจ้าชายแน่ๆ” ร่างเล็กๆในอ้อมกอดตบมือดีใจเป็นการใหญ่ ยัยน้องสาวตัวน้อยของเธอคงลืมไปแล้วว่าคนที่อุ้มตัวเองอยู่ขณะนี้เป็นพี่สาวแท้ๆที่ตัวเองคลานตามกันออกมา
“พี่เป็นผู้หญิงนะจ๊ะเป็นเจ้าชายไม่ได้หรอก”
“แต่ถึงยังไงก็ได้รับเลือกเป็นเจ้าชายที่ Aid-de-camp ป้าว่าเหมาะสมเป็นที่สุด” หลังจากที่ป้าอ้วนร่างฉุพูดก็มีเสียงสนับสนุนมากมายจากเหล่าคุณครูในโรงเรียนอนุบาลและผู้ปกครองทั้งหลายที่มารอรับบุตรหลาน จนฮารุโยะชักคิดไม่ตกว่าตัวเองไม่ปกติหรือว่าคนพวกนี้ไม่ปกติกันแน่?
หลังจากชิ่งหนีออกมาได้ฮารุโยะก็พยายามพูดกรอกหูน้องสาว ว่าตัวเองไม่ใช่เจ้าชายแต่เป็นพี่สาวที่ใจดีของซายะ แต่เพราะอะไรก็ไม่รู้ดูเหมือนว่าซายะไม่ยอมรับฟังเลย แล้วก็สร้างบรรยากาศเฟ้อฝันเป็นการใหญ่จนเธอเหนื่อยใจแล้วก็ต้องตกใจเป็นการใหญ่เมื่อรถคันงามสีดำที่น่าจะจากไปแล้วตั้งนาน กลับวิ่งเข้ามาจอดแบบเฉียดใกล้แทบเรียกได้ว่าเฉียวเลยที่เดียว
“นายบ้าไปแล้วรึยังไง!?!” หญิงสาวโวยเป็นการใหญ่เมื่อเห็นหน้ากวนโอ้ยของใครบางคนโผล่ออกมา
“ที่แท้ก็มารับน้องสาวนี่เองนึกว่าแฟนสาวซะอีก....มาขึ้นรถ” โทยะกล่าวแบบดูแคลนหน่อยๆก่อนจะเปิดประตูแล้วดึงอีกฝ่ายให้ขึ้นรถแล้วสั่งคนขับให้ไปส่งที่บ้านหญิงสาวทันที
“ว้าว.....สวยจัง” ซายะตาวาวมองนั้นมองนี้ไปทั่ว
“ชอบมั้ยจ๊ะ?”
“คะ” เด็กสาวยิ้มรับก่อนขยับตัวไปนั่งข้างหน้าต่างเหม่อมองข้างนอกอย่างสนใจ โทยะมองใบหน้าที่ยิ้มพรายของฮารุโยะแล้วรู้สึกแปลกๆเหมือนกับว่ามีบางอย่างในตัวของอีกฝ่ายที่ดูขัดแย้งกัน
“โชคดีจริงๆที่นายยยังไม่มีแฟน ไม่อย่างนั้นคงเกิดเรื่องใหญ่แน่ๆ”
“เรื่องอะไร?” หญิงสาวถามอย่างสงสัย
“รุยยะจะป่วนพวกนายจนเลิกกันนะสิ” ได้ยินอย่างนั้นแล้วฮารุโยะแถบจะระเบิดหัวเราะออกมา นี้ถ้าเธอมีแฟนหนุ่มแทนที่จะเป็นแฟนสาว คนที่จะมาป่วนคงไม่ใช่รุยยะแล้วแต่เป็นพี่ชายคนดีแทนซะมากกว่า เพราะกลัวว่าเธอที่เขาเห็นเป็นผู้ชายดันชอบไม้ป่าเดียวกันคงหาทางแยกรุยยะออกไปให้ห่างๆเป็นแน่ แค่นี้น้องชายตัวเองก็วิปริตจะแย่อยู่แล้วถ้ายังมาเป็นเกย์อีกลมคงใส่หน้าหงายอย่างไม่ต้องสงสัย
โทยะที่เห็นหญิงสาวกลั้นหัวเราะก็ชักจะฉุนคนเขาอุตส่าห์หวังดียังมาทำเป็นหัวเราะขำ จึงดีดนิ้วเข้ากลางหน้าผากอีกฝ่ายดังยินเสียงดังเปาะ
“โอ้ย!....ฉันเจ็บนะทำบ้าอะไรของนาย!”
“แค่หมั่นไส้มีอะไรมั้ย?” ชายหนุ่มพูดหน้าลอยแบบกวนบาทาสุดฤทธิ์ นี่ถ้าซายะน้องสาวสุดเลิฟไม่อยู่ด้วยละก็คงต้องมีการลงมือลงไม้กันซะแล้ว หญิงสาวพูดกัดฟันอยู่ใจแล้วก็ต้องขอบคุณอีกฝ่ายเสียไม่ได้ที่อุตส่ห์มาส่งให้ถึงที่บ้านทั้งๆที่ไม่ได้เอ่ยขอ
“ขอบใจที่มาส่ง” ฮารุโยะรีบลงจากรถจากนั้นก็อุ้มน้องสาวออกมา ซายะหันไปมอมงเจ้าของรถคันงามแล้วโบกมือให้
“บ๊ายบาย” หญิงสาวแทบหลุดหัวเราะเป็นรอบที่สามของวัน เมื่อเห็นสีหน้าโทยะดูอึกอักชอบกล สงสัยจะไม่ถูกกับเด็กอย่างแรงเพราะระหว่างที่นั่งรถกันมาเธอสังเกตุเห็นว่าชายหนุ่มมักจะถอยห่างจากซายะทุกครั้งที่ร่างเล็กเข้าใกล้
“พรุ่งนี้ฉันจะมารับแต่เช้าอย่าตื่นสายซะละ” โทยะสั่งเสียก่อนไป ทำราวกับว่าเป็นเจ้านายเธอ จนหญิงสาวรู้สึกว่าหางคิ้วมันกระตุกหน่อยๆ จึงตอกกลับไปด้วยสีหน้าท่าทางไม่ต่างกัน
“นายนั้นแหละอย่ามารับฉันสายละกัน”
“นาย...กลับ!” ชายหนุ่มพูดเข่นเขี้ยว ฮารุโยะโบกมือลาให้อย่างเยาะเย้ยแถมแลบลิ้นปลิ้นตาให้เป็นของแถม
“พรุ่งนี้คงเจอศึกหนักอีกแล้ว”
“ศึกอะไรคะพี่” ซายะเอียงคอถาม แต่หญิงสาวไม่ได้ตอบอะไรเพียงแต่ก้มตัวลงอุ้มร่างเล็กขึ้นมาหอมแก้มฟอดใหญ่แทนแล้วพาเข้าบ้าน
ความคิดเห็น