ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Cinderella story

    ลำดับตอนที่ #3 : Chapter: 1 ฉันนะหรือคือเจ้าชาย? 2

    • อัปเดตล่าสุด 3 มิ.ย. 53


       

    Chapter: 1 ฉันนะหรือคือเจ้าชาย?  2 

     

    หมายความว่าเด็กใหม่ที่มาวันนี้หนีออกไปได้ทั้งๆที่เธออยู่ด้วยงั้นเหรอ ฮ่าๆๆเสียงหัวเราะของหญิงวัยกลางคนดังลั่นอย่างขบขัน มองใบหน้าบูดบึ้งของชายหนุ่มที่ขึ้นชื่อว่าเป็นผู้ที่ประกบติดเป้าหมายที่เล็งไว้ไม่เคยรอดพ้นเงื้อมือ เจอรายไหนเป็นได้เสร็จทุกรายแต่มาคราวนี้เหยื่อที่เล็งไว้กลับหลุดมือไปอย่างง่ายดายอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน ซ้ำยังเป็นเด็กใหม่ที่เพิ่งเข้าอีกถ้าข่าวนี้แพร่ออกไปมีหวังเสียชื่อหมด

    แม่คิดอะไรอยู่ผมรู้นะโทยะเขม่นมองผู้อำนวยการโรงเรียน Aid-de-camp ตาขวาง อายุอานามจะปาเข้าไป 50 แล้วยังทำตัวเหมือนเด็กอยู่ได้ ชายหนุ่มถอนหายใจอย่างเหนื่อยหน่าย

    โทยะ...ลูกกำลังคิดอะไรอยู่แม่ก็รู้นะ

    โอเคผมรู้ แม่ก็รู้ ต่างคนต่างรู้แต่ขอทีเถอะแม่จะเลือกใครเข้าเรียนสักคนก็น่าจะเลือกคนที่อยากเข้าเรียนจริงๆมากกว่า ไม่ใช่ใครที่ไหนก็ไม่รู้แค่เดินเข้ามาไม่ถึงห้านาทีก็จะเดินกลับ

    โทยะ แม่มีมาตรฐานในการเลือกเหมือนกันนะจ๊ะ ไม่ใช่กับใครที่ไหนก็ได้ อีกอย่างลูกก็ยังไม่รู้เลยว่าเด็กคนนั้นมีดีอะไรที่ทำให้แม่ตกลงใจได้ คนตั้งแสนแต่แม่ก็เลือกเค้าให้อยู่ 1 ใน 10 คนที่ได้รับการคัดเลือก อีกอย่างแม่ก็ไม่ได้เป็นผู้ตัดสินใจเพียงคนเดียวแต่ทางคณะกรรมการก็มีส่วนร่วม...เอาเป็นว่าเรื่องนี้ปล่อยให้เป็นหน้าที่แม่แล้วกันชายหนุ่มส่งเสียงฮึในลำคออย่างไม่พอใจ จนคนเป็นแม่ต้องคิดหาวิธีที่จะทำให้ลูกชายแสนดื้อของเธอยอมรับ

    ถ้าลูกไม่พอใจ...เธอเอ่ยเว้นระยะมองดูท่าทางของอีกฝ่าย แม่มีขอเสนออีกทางให้ลูกโทยะหันมามองอย่างสนใจและนิ่งเพื่อรอฟัง

    แม่จะให้เวลาลูก 1 เดือนในการติดตามดูพฤติกรรมเด็กคนนี้ ถ้าภายใน 1 เดือนลูกเห็นว่าเค้าไม่เหมาะสมที่อยู่ที่นี่แม่ก็จะเอาเรื่องนี้เข้าที่ประชุมคณะกรรมการอีกครั้งเพื่อพิจารณา แต่ว่าในระหว่างนั้น...

    อะไรครับ?

    ห้ามข่มขู่เค้าเป็นอันขาด ไม่อย่างนั้นเรื่องที่แม่พูดมาถือว่าเป็นโมฆะ

    ชิ!” ชายหนุ่มสะบัดหน้าหนีไปอีกทาง ไม่ชอบนักที่คนเป็นแม่ดักคอเอาไว้อย่างรู้ทัน แต่มีรึที่คนอย่าง  อิชิคาว่า โทยะ จะยอมแพ้ง่ายๆ ไม่ว่ายังไงเขาก็จะหาทางไล่หมอนั้นออกไปให้ได้ ถึงแม้เหตุผลจะดูไม่เข้าท่าก็ตามที แต่ในเมื่อความรู้สึกไม่ถูกชะตาเข้าจู่โจมแล้วยังงี้ไม่ว่าวิธีไหนก็จะขุดออกมาใช้ให้หมดถ้าคิดว่าทนอยู่ได้ก็ลองดู เมื่อคิดได้อย่างนั้นรอยยิ้มเจ้าเหล่ก็ผุดขึ้นมา ร่างสูงลุกขึ้นยืนแล้วเดินออกจากห้องไปอย่างอารมณ์ดี

    คนเป็นแม่ที่แอบมองอยู่ตลอดเวลาเห็นก็รู้ได้ทันทีเลยว่าเจ้าลูกชายตัวดีของเธอกำลังวางแผนร้ายแน่ๆ แต่จะทำยังไงได้ในเมื่อเธอเป็นคนยื่นข้อเสนอนี้ไปเอง แฟ้มประวัติในลิ้นชักถูกดึงออกมา เปิดไปที่หน้าประวัติของเด็กนักเรียนคนใหม่ที่มาในวันนี้

    หวังว่าเธอจะลดดีกรีความบ้าของลูกชายฉันได้นะทาคุนาระ ฮารุโยะ

     

     

     

     

    ฮัดชิ้ว!...ใครนินทาวะ?ฮารุโยะที่นอนเอนตัวอยู่บนต้นไม้เช็ดจมูกเบาๆก่อนหลับตานอนต่อ ไม่ว่าใครก็ตามคงไม่คิดว่าเธอยังคงอยู่ในโรงเรียนแน่ๆ ในเมื่อวันทั้งวันโหนตัวอยู่แต่บนต้นไม้แม้แต่ข้าวก็ยังไม่ได้ทานเลย เป็นเพราะอีตาบ้าโรคจิตนั้นทีเดียวที่ทำให้เธอตกอยู่ในสภาพแบบนี้จะหนีออกไปก็กะไรๆอยู่  ในเมื่อกำแพงรั้วโรงเรียนที่เธอมาสูงตั้งสามเมตรแค่คิดที่จะปีนออกไปก็เป็นเรื่องยากอยู่แล้วแต่นี่ยังมีรั้วหนามกั้นไว้อีกตั้งครึ่งเมตรไม่รู้ว่ากลัวใครจะแอบเข้ามากันนักหนาจนต้องทำขนาดนี้ แต่พอลองมาคิดดูอีกทีหรือว่าสร้างไว้กันเด็กนักเรียนหนีเที่ยวกันหว่า?

    เฮ้ย...คิดไปก็เสียเวลาเปล่าหิวเป็นบ้าเลยฮารุโยะนอนลูบท้องไปมา แต่ว่าความหิวจู่โจมมาอย่างต่อเนื่องจนทนไม่ไหว นาฬิกาก็เดินมาถึง 4 โมงเย็นแล้วด้วยโรงเรียนก็น่าจะถึงเวลาเลิกเรียนพอดี คิดได้อย่างนั้นหญิงสาวจึงกระโดดลงมาจากต้นไม้ทันทีโดยไม่คิดที่จะดูลาดเลาเสียก่อน

    เฮ้ยนายหลบไป!”

    หืม!?!” ชายหนุ่มที่นั่งกึ่งนอนปรือตาเหงยหน้าขึ้นมอง เฮ้ย!!!”

     

    โครม !!!

     

    ซวยฉิบวันเดียวสองหนฮารุโยะครางเบาๆยันตัวขึ้นนั่ง มองเห็นดาวลูกไก่ลอยไปมาอยู่บนหัวจะลุกขึ้นยืนก็ยืนไม่ไหวแค่นั่งตัวตรงได้ก็แทบแย่แล้ว

    นี่นายเสียงทุ้มลึกเอ่ยทัก

    มีอะไร? คนกำลังมึนอยู่หญิงสาวพูดตอบโต้โดยพยายามมองหาต้นเสียง นัยน์ตายังมองเห็นภาพเบลอๆอยู่

    นายมองหาอะไรอยู่นะ?เสียงทุ้มถามตวัดห้วนอย่างไม่พอใจ

    หานายอยู่นะสิ พูดกับคนอื่นโดยไม่ปรากฏตัวอย่างนี้รู้มั้ยว่ามันเสียมารยาทนะ

    คนที่เสียมารยาทนะนายต่างหากเล่า!”

    เอ๊ะ!?!” ฮารุโยะชักฉุน ตามองก็มองไม่ชัดแถมคู่สนทนาก็ยังไม่ยอมโผล่หัวออกมาอีกจึงทุบหมัดลงกับพื้นเพื่อระบายอามณ์

    โอ้ย!!! ฉันเจ็บนะหญิงสาวก้มลงมองตามเสียงที่ตะโกนลั่น ก็เห็นลางๆว่ามีร่างๆหนึ่งนอนอยู่ใต้ตัวเธอในสภาพหมอนรองนั่งชั้นดี และถ้าคิดไม่ผิดเมื้อกี้เธออัดหมัดเข้าที่กลางอกอีกฝ่ายซะเต็มเหนี่ยวเลย

    เฮ้ย!!! ฉันขอโทษฮารุโยะกระโดดลงจากร่างของอีกฝ่ายอย่างรวดเร็ว

    ให้ตายสิบื้อชะมัดชายหนุ่มลุกขึ้นนั่งช้าๆใบหน้าบูดเบี้ยวด้วยความจุก ก่อนตวัดมองคู่กรณีอย่างจะกินเลือดกินเนื้อ ถึงแม้ว่าสายตาของฮารุโยะจะยังมองไม่ชัดดีแต่ก็รู้สึกได้ว่าอีกฝ่ายอาฆาตน่าดูชม

    จะกระโดดลงมาก็หัดมองให้ดีก่อนสิ ซี้ซั้วลงมาอย่างนี้ถ้าโดนผู้หญิงเข้าเดี๋ยวก็ได้ซวยทั้งชีวิต

    ฉันก็ขอโทษนายแล้วไง บ่นอยู่ได้

    นายกล้าเถียงฉันที่เป็นรุ่นพี่เชียวเรอะคนที่อ้างตัวเองว่าเป็นรุ่นพี่ตวัดเสียงสูงลิบ เป็นแค่เด็กปีหนึ่งหัดเจียมตัวซะมั้งสิ แต่ถ้านายมีแถบสีน้ำตาลละก็ค่อยว่ากันไปอย่าง

    แถบสีน้ำตาล? แถบอะไร?ฮารุโยะนั่งหน้าเอ๋อ

    นี่นายไม่ได้อ่านคู่มือนักเรียนรึยังไงกัน?” เอาละวะคู่มืออีกแล้ว เมื่อเช้าไอ้โรคจิตนั่นก็พูดถึงคู่มือตอนนี้ก็พูดถึงมันอีก แล้วตูจะได้อ่านมันไหมละในเมื่อมันนอนแอ่งแม้งอยู่ในถังขยะที่บ้าน

    นายก็บอกชั้นมาสิ

    รุ่นพี่

    หา!?!”

    ฉันบอกให้นายเรียกฉันว่ารุ่นพี่รุ่นพี่ขึ้นเสียงอย่างกับว่ามันเป็นเรื่องใหญ่โต ถ้าเธอไม่เรียกสงสัยรุ่นพี่คนนี้คงจะชักดิ้นชักงอตายตรงนี้แน่ๆ

    เอ่อๆรุ่นพี่ก็รุ่นพี่ฮารุโยะพูดแบบขอไปที ขี้เกียจมีปัญหา

    ดีมากไอ้น้อง...แถบสีที่ว่านะมีไว้สำหรับแยกชั้นปีแต่ละชั้นออกจากกัน แถบสีขาวก็ปีหนึ่ง แถบสีน้ำเงินปีสอง แถบสีน้ำตาลปีสามนอกจากนี้ยังมีแถบสีพิเศษอีก

    ยังไง?

    แถบสีพิเศษคือแถบสีที่บ่งบอกฐานะและหน้าที่ของผู้ที่ใส่ เช่น แถบสีทองคือประธานนักเรียน และรองประธานนักเรียนใครๆก็เรียกทั้งคู่ว่าคิง(King)และควีน(Queen) ส่วนแถบสีแดงก็เป็นคณะกรรมการนักเรียนหรือขุนนาง

    แล้วถ้าเป็นแถบสีดำละ?

    ก็พวกสารวัตินักเรียนไง พวกนี้นะทั้งโหดทั้งเย็นชาใครทำผิดกฎโรงเรียนเป็นไม่ได้ โดนสอยไปอยู่ในห้องผู้อำนวยการโรงเรียนเกลี้ยงฮารุโยะพยักหน้ารับรู้มิน่าละเมื่อเช้าเจ้าพวกนั้นถึงพยายามล้อมจับเธอเอาไว้

    แต่อย่าไปยุ่งกับพวกนั้นเชียวนะ

    ทำไม?หญิงสาวที่เริ่มมองภาพชัดขึ้นเห็นรุ่นพี่ที่นั่งคุยกับเธอ เอนตัวนอนพิงกับต้นไม้ มิน่าละตอนที่เธอกระโดดลงมาถึงได้นั่งทับเจ้าตัวซะเต็มรัก

    เอ่อนะรู้แค่นี้ก็พอแล้ว ว่าแต่นายเถอะช่วยทำอะไรกับเสียงท้องร้องนั้นได้มั้ยรำคาญวะฮารุโยะยิ้มแห้งๆส่งให้ ก็ระหว่างที่คุยกันมาเสียงท้องของเธอก็ร้องออกมาเป็นระยะๆอย่างกับเสียงให้จังหวะการพูดของรุ่นพี่ ดังเมื่อไหร่คนพูดก็จะหยุดไปช่วงหนึ่งเหมือนรอว่าให้มันดังไปก่อนแล้วค่อยพูดต่อ

    นี่ก็เลิกเรียนแล้วเดี๋ยววันนี้ฉันเลี้ยงข้าวนายเองในฐานะรุ่นพี่ เริ่มจากแนะนำตัวก่อนเลยฉันคาซุสะ คาเครุ ปี 2 ห้อง อัศวิน (knight)”

    ฉันทาคุนาระ ฮา....เอย์เซย์

    นายยังไม่ได้เลือกห้องอีกเหรอ?คาเครุถามระหว่างที่เดินออกจากสวนต้นไม้

    ยังเพราะคู่มือฉันหายก็เลยไม่รู้รายละเอียดว่ามีอะไรบ้างฮารุโยะพูดแก้ตัวสายตาเหลือบมองกลัวว่าอีกฝ่ายจะไม่เชื่อ ซึ่งโชคดีที่รุ่นพี่คนนี้ไม่ได้แม้แต่จะสนใจสักนิด

    แต่ถึงยังไงวันนี้ก็เอาตัวรอดไปก่อนพรุ่งนี้ค่อยมาทำเรื่องลาออกกับทางโรงเรียน แค่ฟังรายระเอียดเรื่องแถบสีก็แปลกพิลึกพออยู่แล้วนี่ยังมีห้องเรียนที่เป็นฮัศวินอีก เหอะถ้าอยู่ต่อไปคงเจอเรื่องที่พิสดารกว่านี้แน่ๆ

    เฮ้...นายนะเสียงคุ้นหูแว่วมาแต่ไกล ฮารุโยะหันกลับไปมองที่ต้นเสียงอย่างนึกกลัว แล้วก็นั้นไงไอ้บ้าโรคจิตเมื่อเช้า

    ...เอ่อรุ่นพี่ครับ พอดีผมมีธุระด่วน ว...วันนี้ขอบายแล้วกันไปแล้วครับหญิงสาวพูดละล่ำละลัก รีบวิ่งฉิ่วออกไปทันทีอย่างรวดเร็ว

    เฮ้ยนายหยุดนะ ฉันบอกให้หยุดโทยะที่เผอิญเดินออกมาจากอาคารเรียนเห็นฮารูโยะวิ่งหนีไปก็รีบวิ่งตามไปอย่างเร็วไม่แพ้กัน คาเครุยืนนิ่งมองอย่างอึ้งไม่นึกไม่ฝันเลยว่าวันนี้จะเห็นลูกชายผู้อำนวยการโรงเรียนวิ่งตามเด็กใหม่อย่างเอาเป็นเอาตายแทบไม่เหลือมาดขรึมคมเข้มเจ้าระเบียบอย่างที่เคยๆ

    นั้นอิชิคาว่า โทยะตัวจริงรึเปล่า?

     

     

     

    นี่นายหยุดเดี๋ยวนี้เลยนะ ฉันบอกให้หยุดโทยะตะโกนไล่ตามมาอย่างประชิด นึกโมโหคนที่วิ่งหนีสุดชีวิตอยู่ข้างหน้า มันจะอะไรกันหนักกันหนาแค่เรียกให้หยุดคุยกันแค่นี้มันจะตายหรือไงกัน

    ถ้านายอยากให้หยุด ก็เลิกวิ่งไล่ตามฉันมาซะทีสิ

    แน่ใจนะว่าถ้าฉันหยุด นายจะหยุด

    เอ่อสิฮารุโยะพูดตอบเสียงแหบก็เล่นวิ่งมาราธอนมาซะไกลขนาดนี้ใครมันจะไปมีแรงวิ่งต่อไหว ไอ้โรคจิตนี้ก็แรงดีเป็นบ้าวิ่งตามมาอย่างไม่ลดละมีความพยายามดีเหลือเกินพ่อคู้นนน.....

    งั้นเรามานับถึง 3 พร้อมกันแล้วหยุดตกลงมั้ย?ฮารุโยะเสนอ

    ยังไงก็ได้

    งั้น 1...2...3หยุด!... แฮ่กๆๆ...โอ้ยปวดซี่โครงฉิบหญิงสาวครวญเป็นการใหญ่ยืนหอบจนตัวโยกขาสั่นพับๆๆๆแทบทรุดลงนั่งกับพื้น เพราะมัวแต่ยืนนิ่งเอาอากาศเข้าปอดเลยไม่รู้ตัวเลยว่าชายหนุ่มที่วิ่งตามมาอย่างไม่ลดละคนนั้นเดินเข้ามาหาแบบประชิดตัว

     

    คลิก

     

    เฮ้ย!?!...นายทำบ้าอะไรนะ?ฮารุโยะมองข้อมือขวาของตัวเองที่ตอนนี้มีกุญแจมือคล้องไว้คู่กับอีกฝ่าย

    กันไว้ดีกว่าแก้โทยะเหยียดยิ้มเหี้ยมดูสิจะหนีไปไหนพ้นหึๆๆๆ

    นายมันนี่มันโรคจิตอย่างที่ฉันคิดจริงๆฮารุโยะพูดเสียงลอดไรฟัน ผู้ชายอะไรวะหน้าตาออกจะดูดีดันทำตัวทุเรศ!

    เปล่าฉันปกติดี ไม่ได้โรคจิตอย่างที่นายว่า แต่ที่ทำอย่างนี้ก็เพื่อป้องกันนายหนีไปอีกเดี๋ยวก็ไม่ได้คุยกันพอดี

    จะคุยอะไรก็ว่ามา ฉันไม่มีเวลาว่างฟังมากนักหญิงสาวกระฟัดกระพืออมองใบหน้าหล่อตาขวาง แต่ดูเหมือนอีกฝ่ายจะรู้สึกภูมิใจมากเพราะรอยยิ้มเหี้ยมยังคงระบายอยู่เต็มหน้าไม่ยอมหุบซักที แทบยังทำเป็นเหลือบๆมองแบบเย็นชาซะอีกกวนบาทาดีแท้

    เรื่องที่เกิดเมื่อเช้านี้ฉันจะไม่ถือสาหาความนาย

    ถือสาอะไรไม่ทราบ ฉันไม่ได้ทำอะไรผิดสักหน่อยและยังได้ออกจากโรงเรียนก่อนเวลาเลิกเรียนด้วย

    นายทำ!”

    ฉันเปล่าทำ!”

    นายทำ!!”

    ฉันไม่ได้ทำ!!” ต่างฝ่ายต่างถียงกันคอเป็นเอ็นไม่ยอมลดราวาศอก

    เอ่อก็ได้...นายไม่ได้ทำโทยะพูดเสียงประชด ทำเอาหญิงสาวที่เตี้ยกว่าไม่กี่เซ็นฉุน

    ก็ไม่ได้ซิฟะ ตกลงนายจะพูดอะไรก็พูดมาเสียเวลาฉัน แล้วไอ้กุญแจบ้านี่ก็ถอดออกเสียที ถึงนายจะไม่อายแต่ฉันอายชาวบ้านโว้ย!” คนที่เดินผ่านไปผ่านมาในบริเวณที่ทั้งคู่หยุดคุยกัน พากันกระซิบกระซาบ บ้างก็หัวเราะมองมาอย่างอายๆลองคิดดูละกัน ถ้ามีเด็กหนุ่มหน้าตาดีสองคนยืนหันหน้าคุยกันในระยะประชิดแล้วมือของแต่ละฝ่ายล่ามด้วยกุญแจติดกันอีกมันไม่เหมือนคู่เกย์รึไง?

    ขอโทษทีนะพอดีหน้าฉันหนา ถ้านายอายนักละก็ตามฉันมา

    เอ๊ะ!ไม่ต้องจับมือกันก็ได้คนหน้าหนากึ่งลากกึ่งจูงอีกฝ่ายไปที่สวนสาธารณะใกล้ๆ เลือกม้านั่งที่ไม่เป็นที่สังเกตนักเพื่อนั่งคุยกัน

    บอกตรงๆฉันไม่ยอมรับนาย ที่นายได้เข้าเรียนโรงเรียนนี้ และฉันก็ไม่ชอบหน้านายด้วย

    แล้วนายคิดว่าฉันชอบรึไง? ถึงนายไม่บอกพรุ่งนี้ฉันก็จะทำเรื่องลาออกอยู่แล้วฮารุโยะฮึ่มๆในลำคอ ฉันก็ไม่ชอบขี้นายเหมือนกันละโว้ยไอ้โรคจิต!

    ทำไม?คนอยากให้เธอออกถามอย่างงุนงง โรงเรียน Aid-de-camp ไม่ไช่ใครที่ไหนจะเข้าก็เข้าได้ พวกที่อยากเข้าก็สู้กันเพื่อแย่งชิงที่นั่งอย่างเอาเป็นเอาตายขนาดซื้อด้วยเงินจำนวนมหาศาลก็ยังไม่อาจเข้าได้ แล้วนี้กลับจะลาออกซะงั้นหมายความว่าไง?

    นายอยากไล่ฉันออกอยู่แล้วนี่ถามทำไม และถึงแม้ว่าถึงนายไม่บอกให้ฉันออก ฉันก็จะออกอยู่แล้วเพราะฉันไม่ชอบถูกบังคับ โรงเรียนพิลึกอย่างนั้นใครกันอยากจะเรียน ที่ๆฉันจะสอบเข้าละคือมหาลัย xxx ต่างหากรู้ไว้ซะด้วย”  มหาลัยที่ฮารุโยะกล่าวถึงเป็นมหาลัยที่ขึ้นชื่อเรื่องการสอบเข้าที่หินไม่น้อยหน้า Aid-de-camp เลยเพียงแต่หลักสูตรที่ใช้เรียนนั้นแตกต่างกันลิบ

    ถ้านายไม่อยากเรียนแล้วสมัครมาทำไม?

    นายนึกว่าฉันสมัครรึไง? คนส่งใบสมัครนะมันพี่สาวข้างบ้านฉันต่างหากเล่า!” ฉารุโยะพูดอย่างฉุนเฉียวเมื่อนึกถึงเรื่องนี้ แต่โทยะที่นั่งฟังกลับพูดตำหนิเธอ

    นั่นเป็นเพราะนายไม่ทำอะไรด้วยตัวเอง มีที่ไหนให้คนข้างบ้านส่งเอกสารการสมัครเรียนให้ แล้วยังมีหน้าไปโทษคนอื่นอีกไม่ไหวเลยจริงๆนายนี่

    นายอยากตายรึไง?ฮารุโยะง้างหมัดสูงเตรียมชกอีกฝ่าย ไม่รู้เรื่องอะไรอย่าสู่รู้เรื่องคนอื่นมากนัก ถ้าตอนนั้นน้องสาวฉันไม่สบายเพราะพิษไข้ เรื่องในวันนี้ก็คงไม่เกิดขึ้นหรอก อีกอย่างฉันไม่ได้ฝากคนข้างบ้านไปส่งแต่เป็นพ่อบ้านั้นต่างหาก ถ้ารู้แล้วก็เอากุญแจงี่เง่านี้ออกเสียทีนัยน์ตาหญิงสาวแวววับด้วยแรงโกรธ

    ก็ได้ โทยะไขกุญแจมือออกไม่ได้เป็นเพราะกลัวหมัดอีกฝ่ายแต่เป็นเพราะนัยน์ตาที่จ้องมองมานั้นมันเจือไปด้วยแววเศร้าและความเหงาอย่างบอกไม่ถูก

    แล้วเรื่องลาออกละว่าไง?

    ก็บอกไปแล้วไง อย่าต้องให้พูดหลายรอบจะได้มั้ย?ฮารุโยะพูดเสียงหงุดหงิดพลางลูบที่ข้อมือตัวเองที่มีรอยแดงจางๆเพราะระหว่างที่เดินมาเธอสะบัดข้อมือเพื่อดึงมือออกจากมืออีกฝ่ายที่ลากเธอมาสาธารณะนี้หลายรอบ

    ฉันยังไม่ให้นายลาออก

    หะ! นายว่าไงนะ?ฮารุโยะไม่เชื่อหูตัวเองว่าอีกฝ่ายจะพูดอย่างนั้นออกมา

    ฉันบอกว่ายังไม่ให้นายลาออกหูตึงรึไง? เฮ้อย่าทำหน้ายังงั้นสิฉันไม่ได้นึกพิศวาสหน้านายนักหรอกแค่อยากดูให้แน่ใจเท่านั้นเองว่าเพราะอะไรนายถึงได้รับเลือกให้เข้าเรียนแค่นั้น อีกอย่างฉันก็สัญญากับผ..ไว้แล้วว่าถ้าใน 1 เดือน นายไม่มีคุณสมบัติพอที่จะเข้าเรียนที่ Aid-de-camp ละก็นายได้ลาออกแน่นอนไม่ต้องห่วง

    ไม่ดีกว่า โรงเรียนอย่างนั้นไม่เหมาะกับฉันชัวร์ฮารุโยะยิ้มอย่างขยาด ไม่รู้ตัวเลยว่าทำให้คู่สนทนาไม่พอใจอย่างแรง

    โรงเรียนอย่างนั้นมันโรงเรียนอย่างไหนห่ะ?โทยะมองหน้าอีกฝ่ายสีหน้าเรียบเฉยเพราะฟังดูแล้วอีกฝ่ายเหมือนดูถูโรงเรียนของตัวเอง

    ...ก็เปล่าฮารุโยะพูดเสียงสั่น อะไรของมันวะอยู่ๆก็มาบอกให้ลาออก แล้วอยู่ๆก็บังคับไม่ให้ออก แล้วพอมาถึงตอนนี้ก็ทำท่าโกรธเป็นฝืนเป็นไฟกูไปทำอะไรให้มันฟะเนี้ย?

    ไม่ว่ายังไงพรุ่งนี้นายต้องมาเรียน ไม่งั้นเห็นดีกันโทยะสะบัดตัวเดินจากไป ไม่วายส่งสายอาฆาตมาให้เป็นของแถม ฮารุโยะได้แต่เกาหัวแกร็กๆๆอย่างไม่เข้าใจ เฮ้ย!~ ถึงยังไงก็ต้องไปใช่ไหมเนี้ย...เหอะๆเรื่องอะไรจะกลับไปให้โง่อย่างมากก็แค่ส่งหนังสือลาออกไปให้ทางไปรษณีย์ก็พอแล้ว

     

     

     

     

    เช้าวันรุ่งขึ้นขณะที่ฮารุโยะกำลังหลับฝันดีอยู่นั้นเอง หูที่ไม่น่าจะได้ยินเพราะหลับลึกอยู่นั้นได้ยินเสียงฝีเท้าหนักๆของใครบางคนเดินเข้ามาที่ห้องของเธอ ฝีเท้าที่ไม่คุ้นเคยหยุดอยู่ที่ปลายเตียงนิ่งและนาน

    ผีอำรึเปล่าวะ?

    หญิงสาวคิดแล้วรีบดึงสติของตนเองที่เริงร่าอยู่ในความฝันกลับมา จะขยับก็ไม่กล้าจะลืมตาตื่นก็ยิ่งไม่กล้าเข้าไปใหญ่ แล้วเสียงประตูเสื้อผ้าก็ดังขึ้นพร้อมเสียงสวมสาบของอะไรบางอย่าง มันผีจริงรึฟะ? ฮารุโยะรีบผุดลุกขึ้นตื่นทันทีพร้อมเสียงร้องอย่างตกใจเมื่อมองเห็นว่าใครที่ยืนอยู่ในห้องตนเอง

    เฮ้ย!?!นายเข้ามาได้ไง?ใบหน้าเรียบเฉยของผู้บุกรุกหันมามองเล็กน้อยแล้วใช้สายตาเย็นชาสำรวจอีกฝ่ายอย่างที่เคยทำมาก่อนก่อนเสียงดีดนิ้วดังเปาะจะตามมา ชายสามคนที่มีแถบสีดำก็กรูกันเข้ามาจับตัวเธอมัดด้วยเชือกแล้วแบกขึ้นรถคันหรูที่จอดไว้หน้าบ้านโดยมีสายตาของชาวบ้านในระแวกนั้นมองมาอย่างสนใจ

    พ่อช่วยด้วย!” หญิงสาวตะโกนขอความช่วยเหลือผู้เป็นพ่อที่ยืนมองอยู่หน้าประตู แต่แทนที่จะช่วยเหลือกลับโบกมือให้มาใบหน้าเจื่อนๆ

    โชคดีนะลูกรัก

    พ่อ!?! อุบอื้อๆๆ...เทปกาวแผ่นใหญ่แปะติดปากหญิงสาวก่อนที่เจ้าตัวจะโวยวายโดยผู้บุกรุกหนุ่ม

    อืออืออึอืออึ้? (นายทำอะไรหะ? )ฮารุโยะมองหน้าอีกฝ่ายตาเขียวปัด

    ถ้านายอยากพูดอะไรละก็ไว้ค่อยคุยกันเมื่อถึงโรงเรียนเถอะโทยะพูดเสียงเย็นหันหน้าออกไปทางกระจกรถ แอบยิ้มอย่างพอใจเล็กๆ

    เอาอยากพูดอะไรก็พูดมาเมื่อเหล่าสารวัตินักเรียนแถบสีดำแบกร่างของฮารุโยะมาส่งถึงที่แล้ว โทยะก็ดึงเทปกาวออกทันที

    นาย...ทำบ้าอะไรวะ?เสียงแหบหวานพูดตะคอกสุดเสียง พยายามดิ้นไปมาเพื่อแก้เชือกที่มือ

    พานายมาโรงเรียนไง

    นายมันไอ้โรคจิต มันเรื่องอะไรกันถึงกับบุกรุกมาที่บ้านฉันแล้วลักพาตัวมาอย่างนี้

    ฉันไม่ใช่ไอ้โรคจิตโทยะเอ่ยเสียงเครียด

    แล้วมันมีคนสติดีที่ไหนวะ รุกบุกขึ้นบ้านคนอื่นแล้วจับมัดพามาทั้งอย่างนี้ ให้ตายเหอะฉันไปทำอะไรให้นายแค้นนักแค้นหนาถึงทำกันอย่างนี้

    นาย...ไม่ยอมมาเรียนฮารุโยะหันไปมองนาฬิกาที่ติดไว้ข้างฝาเข็มยาวชี้เลข 10 ส่วนเข็มสั้นชี้เลข 6

    มันยังไม่ 7 โมงเสียด้วยซ้ำนายบ้ารึเปล่า?

    นายนึกว่าฉันโง่รึไง จากบ้านนายมาที่นี่ก็ปาไปชั่วโมง ตอนที่ฉันไปหาก็น่าจะเห็นนายแต่งตัวเรียบร้อยแล้ว อย่าคิดนะว่าฉันไม่รู้ว่านายนะจะลาออกทางไปรษณีย์นะ

    นายรู้ได้ไง!?!” หญิงสาวนัยน์ตาเบิกกว้าง

    ฉันถามพ่อนายเอาโทยะพูดเสียงเรียบ ความจริงแล้วเขาไม่ได้ถามเอาหรอกแต่ขู่เอาต่างหากคนอย่าง อิชิคาว่า โทยะอยากรู้อะไรก็ต้องรู้อยากได้อะไรก็ต้องได้ไม่ว่าด้วยวิธีอะไรก็ตาม

    นี่เสือผ้านาย เปลี่ยนซะ ถ้านายไม่ยอมเปลี่ยนละก็เดี๋ยวฉันทำให้ ว่าไงเปลี่ยนรีไม่เปลี่ยนชายหนุ่มยื่นคำขาดเสียงแน่น แววตาบ่งบอกว่าเอาจริงไม่ได้พูดเล่น

    ฉันเปลี่ยนเองไม่ต้องยุ่ง!” ฮารุโยะกระชากเสียง ส่งค้อนให้วงใหญ่อย่างหมั่นไส้ แต่จนแล้วจนรอดคนออกคำสั่งก็ยังยืนนิงไม่ไปไหน

    นี่นายจะให้ฉันเปลี่ยนเสื้อรึเปล่าเชือกก็ไม่แก้ให้สายตาเย็นชาเหลือบมองเล็กน้อยแล้วถอนหายใจหนักๆ

    นายนี่ยุ่งจริงๆฮารุโยะมองคนพูดตาขวางอยากจับบีบคออีกฝ่ายให้ตายคามือซะให้หายแค้น คนบ้าอะไรให้เปลี่ยนเสื้อทั่งๆที่มือยังถูกมัดอยู่ทำได้ก็พระเจ้าแล้วไอ้เบือกนี่ โทยะแก้เชือกให้เรียบร้อบแล้วก็มีทีท่าว่าจะไม่ยอมออกไปอีกจนฮารุโยะชักเหลืออด

    นายจะดูฉันเปลี่ยนเสื้อผ้ารึยังไงกัน ออกไปซิฟะโทยะถอนหายใจอีก ก่อนจะแกล้งพูดล้ออีกฝ่าย

    มันน่าดูตรงไหนกัน รูปร่างสูงๆแต่น้ำหนักนิดเดียวคงเห็นแต่กระดูกไม่น่าสนหรอก

    งั้นนายก็ออกไปสิโว้ยใบหน้าฮารุโยะแดงก่ำ โดนอีกฝ่ายหยามกันอย่างนี้สักวันเดี๋ยวมีเฮแน่

    ได้...เชิญตามสบายชายหนุ่มเดินออกไปพร้อมฮัมเพลงเบาๆในลำคอ วันนี้รู้สึกมีความสุขจริงๆ

    ฮารุโยะแยกเขี้ยวให้อีกฝ่ายก่อนรีบเปลี่ยนเสื้อผ้าทันทีอย่างรวดเร็ว ผมเผ้ายุ่งเหยิงชี้ฟูดูไม่ได้ก็อย่างว่าถูกจับมัดมาทั้งๆที่ขี้ตายังติดอยู่จะเอาเวลาที่ไหนไปหยิบจับหวีมาแปรงผม ก่อนมองดูตัวเองที่หน้ากระจกอย่างนึกเศร้า ถ้ารูปร่างดูเป็นผู้หญิงกว่านี้อีกหน่อยไม่ก็หล่อเข้มไปเลยคงจะดีกว่า เหอะดูแล้วเหมือนกระเทยอย่างไอ้โรคจิตนั้นว่าจริงๆเฮอะ

    เสร็จรึยัง?โทยะที่ยืนรออยู่นอกห้องเคาะเรียกเบาๆ

    เสร็จแล้วเร่งจริงฮารุโยะตะโกนบอกเสียงแวว โทยะผลักประตูเข้ามาแล้วก็ยืนนิ่งพิจารณาอีกฝ่ายตั้งแต่หัวจรดเท้า

    มองอะไร?

    นายดู....แปลกตากว่าวันแรกที่เจอกันเอาเป็นว่าเดี๋ยวฉันจัดการให้ จะได้ดูเหมาะสมกับตำแหน่งที่ได้รับหน่อยเพียงแค่เสียงดีดนิ้วดังขึ้น เหล่าช่างแต่งหน้าทำผมก็กรูกันเข้ามา ทั้งหยิบทั้งจับทั้งลูบไล้ร่างกายของฮารุโยะ

    โอ้โห...ผิวสวยจังเลยนะค่ะ

    ...เดี๋ยวๆหญิงสาวชักมือหนีอีกฝ่ายที่ลูบแขนเธอไปมา

    หน้าตาดีจังเลยนะคะเหมือนผู้หญิงเลย

    เฮ้ยอย่ามาจับหน้าฉันนะ

    ผมนุ่มดีจังแต่ยาวไปนิดไม่เข้าทรง เดี๋ยวพี่จะจัดการให้เริดกว่านี้เองนะค่ะ

    เฮ้ย!มันอะไรกันนะ อย่ามายุ่งกับฉันหญิงสาวใช้มือปัดป้องเป็นระวิงแต่ในที่สุดก็ยอมจำนนเมื่อสู้ 10 แรงมือไม่ไหว การตัด ซอย เซต และแต่งผมจึงทำกันอย่างรวดเร็ว

    เป็นยังไงบ้างคะ คุณอิชิคาว่า

    อืมใช้ได้โทยะประเมินด้วยสายตาแบบผ่านๆก่อนหิ้วอีกฝ่ายที่ยังอยู่ในอาการงุนงงให้เดินตาม แต่ที่จริงน่าจะเรียกว่าลากไปคงจะเหมาะกว่า

    กว่าหญิงสาวจะรู้ตัวว่าอะไรเป็นอะไรก็พบว่าตัวเองยืนอยู่กลางเวทีขนาดใหญ่ในห้องที่เกือบจะเรียกได้ว่าโค-ตะ-ระใหญ่แถมยังประดับตกแต่งด้วยเครื่องเรือนสีเหลืองทองเงาวับทั้งหมด แต่นั้นก็ไม่ใช่เหตุผลที่ทำให้ฮารุโยะนิ่งค้างนอกจาก..........

    ยินดีด้วยครับคุณได้รับเลือกให้เป็นเจ้าชายในปีนี้เสียงประกาศดังขึ้น พร้อมกับมงกุฎและผ้าคลุมสีเหลืองทองมาสวมไว้ ผสมกับเสียงกรี้ดมากมายของเหล่านักเรียนหญิงที่ยืนเบียดเสียดกันเต็มห้องและต่างกู่ร้องด้วยประโยคเดียวกันซ้ำๆว่า ปริ้น(Prince) ไม่คาดปาก

    ยินดีด้วยนะเจ้าชายคนใหม่แห่งโรงเรียน Aid-de-camp โทยะกระซิบบอกเบาๆแล้วจับร่างของเจ้าชายคนใหม่ลงนั่งเก้าอี้ ฮารุโยะมองโดยรอบด้วยความงุนงงและหันกลับมามองหน้าชายหนุ่มที่อยู่ข้างกายเธอ

    ฉันเนี้ยนะเจ้าชาย!?!”

     

     

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×