ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Cinderella story

    ลำดับตอนที่ #2 : Chapter: 1 ฉันนะหรือคือเจ้าชาย?

    • อัปเดตล่าสุด 4 มี.ค. 53


     

     

    Chapter : 1 ฉันนะหรือคือเจ้าชาย?วันนี้มารับตัวซายะจังเร็วจังนะค่ะ



                    “

    พอดีมีธุระต่อที่อื่นนะคะ ฮารุโยะยิ้มให้อย่างคุ้นเคยแต่สะกิดใจสาววัย 30 ได้อย่างรุนแรงแก้มงี้ร้อนผ่าวจนขึ้นสีเป็นสีแดงทั้งหน้า แม้แต่ครูคนอื่นๆที่ตามมาดูก็เหมือนกัน

    พี่ค่ะ! ” เด็กสาวตัวเล็กๆน่ารักผมยาวสลวยวิ่งกระโจนใส่อย่างคิดถึง แล้วก็ร้องวี้ดว้ายเป็นการใหญ่เมื่อพี่สาวอุ้มขึ้นแล้วเหวี่ยงร่างเล็กๆนั้นก่อนหอมแก้มนิ่มๆเสียฟอดใหญ่

    วันนี้พี่เลี้ยงไอติมนะอยากกินมั้ย? เด็กสาวพยักหน้าแล้วฉีกยิ้มกว้างแก้มแดงระเรื่อ

    งั้นเราไปกันเลย...ขอบคุณที่ดูแลซายะนะค่ะฮารุโยะกล่าวลาทั้งๆที่ยังอุ้มน้องสาวอยู่ก่อนเดินจากไป                                        

    ถ้าพี่มีแฟนยังงี้รักตายเลย

    เห็นด้วยเป็นอย่างยิ่งเลยคะ คิดถูกจริงๆที่ออกเสียงโหวตให้

    นั้นสิคะ เหล่าครูอนุบาลต่างทำท่าเคลิ้มฝันเป็นการใหญ่ ก็ทั้งหล่อ ทั้งดูดี แถมยังสุภาพเรียบไม่เหมือนพวกผู้ชายคนอื่นๆที่เคยเจอ น่าเสียดายนักเชียวที่เกิดเป็นผู้หญิงไม่งั้นไม่รอดมือหรอกเชื่อเถอะหึหึหึ.....

    ฮารุโยะที่เดินไปซื้อไอติมให้น้องสาวเสียวหลังวูบอย่างไม่รู้สาเหตุหันหลังมองซ้ายก็แล้วขวาก็แล้ว แต่พอเห็นน้องสาวที่นั่งรออยู่โบกมือให้ก็อดไม่ได้ที่จะยิ้มตอบ พอหันกลับมาอีกทีก็เห็นสาวขายไอติมหน้าแดงซ่านไปถึงใบหูยื่นไอติมแบบเยอะเกินพิกัดมาให้ แล้วก็ต้องรับมาแบบอึดอัดก็เล่นโดดคนนับสิบคนบริเวณนั้นหันมามองนัยน์ตาแวววับแล้วชักนึกสยองเกล้าพิกล

    พี่เหมือนเจ้าชายเลย

    เอ๋...จริงเหรอคะแต่พี่อยากจะเป็นเจ้าชายมากกว่านะ ฮารุโยะยื่นไอติมให้ซายะ ก่อนนั่งลงแล้วอุ้มร่างเล็กๆนั้นขึ้นวางบนตัก

    ถ้าหนูมีแฟนจะเลือกให้เหมือนพี่เลย

    แก่แดดจริงนะเรา

    ฮิๆๆ ซายะหัวเราะร่าค่อยๆเลียครีมที่กองสูงอยู่บนโคนแต่เลียแรงไปนิดตั้งครีมจึงหล่น แต่ฮารุโยะก็รับไว้ได้ทันก่อนที่มันจะเลอะกระโปรงเด็กสาว

    ว้ามือพี่เลอะเลยนี่แนะ หญิงสาวป้ายครีมที่ปลายจมูกเล็กๆนั้นแล้วหัวเราะร่า

    นี่แนะ ซายะก็ใช่เล่นป้ายครีมที่แก้มของฮารุโยะบ้างเป็นการตอบแทน

    แสบจริงนะเรา มือเรียวยาวเชยคางมนเล็กขึ้นแล้วก้มลงเลียครีมที่ปลายจมูกก่อนจะยื่นหน้าของตนเองให้อีกฝ่ายแล้วชี้ข้างแก้มที่ทำแบบป่องๆให้ให้เด็กสาวทำตามอย่างที่ตนทำ ซายะได้แต่หัวเราะคิกคักแต่ก็เลียครีมที่แก้มพี่สาวให้อย่างไม่โต้แย้ง เป็นภาพที่ใครต่อใครที่เดินผ่านมาเห็นแล้วก็ต้องเดินอมยิ้มไปตามๆกัน

    เธอดูนั้นสิหนุ่มหล่อ

    ไหนๆ...ว้ายจริงๆด้วยหล่อจังเลย สาวสุดเปรี้ยวหันมองตามมือคนชี้ เห็นหนุ่มหล่อที่นั่งอยู่ไม่ไกลพลางส่งเสียงวี้ดว้ายเสียงดัง ทั้งๆที่มือนั้นยังเกาะแขนแฟนหนุ่มไม่ปล่อย

    นี่เธอมีฉันอยู่ทั้งคนยังสนใจผู้ชายคนอื่นอยู่รึ?

    แหม...อย่าอารมณ์เสียสินั่นก็แค่อาหารตาเท่านั้นเองจะเทียบกับกับเธอได้ยังไง เธอนะยังไงก็เป็นที่หนึ่งเสมอแหละ หญิงสาวรับประจบเป็นการใหญ่โดยใช้ร่างกายอันอวบอั๋นด้วยเนื้อนมไข่กระแซะเบียดกับแขนแข็งแรงแล้วเขย่งปลายเท้าขึ้นจุ๊บที่แก้มเบาๆเป็นการปลอบขวัญ แต่ว่าชายหนุ่มก็เสียความรู้สึกไปแล้วจึงผลักร่างบางออกทีแบบขยะแขยง

    ว้าย!เธอผลักฉันทำไมนะ

    โทษนะฉันเกลียดผู้หญิงอย่างเธอที่สุดไสหัวไปซะ! ” ชายหนุ่มตวาดไล่อย่างไม่ใยดีก่อนเดินผละจากมาอย่างรวดเร็ว

    เดี๋ยวก่อนสิโทยะกลับมาเดี๋ยวนี้นะ หญิงสาวเต้นแร้งเต้นกาเป็นการใหญ่เมื่อหนุ่มที่จับตัวแสนจะยากบอกเลิกกันง่ายๆเพียงคบกันได้ไม่ถึงอาทิตย์ ส่วนอีกคู่หนึ่งที่ยืนดูอยู่ใกล้ๆไม่ได้ให้ความสนใจกับเธอแม้แต่น้อย

    เป็นอะไรของเค้ากันนะ?

    ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน เดี๋ยวนี้อารมณ์มันไม่อยู่กับร่องกับรอยเท่าไหร่ แต่ว่า…”แฟนหนุ่มเว้นระยะไว้ ก่อนเหลือบตามองหนุ่มหล่อไม่สิ!เรียกว่าหนุ่มรูปงามจะเหมาะกว่า ก่อนพูดต่อด้วยน้ำเสียงน้อยใจ

     “ เธอเห็นหมอนั้นหล่อกว่าฉันจริงๆเหรอ? หญิงสาวที่ยืนอยู่ข้างๆหัวเราะคิกคักก่อนตอบ

    ก็นะ...แต่นั้นก็ไม่ไช่สเป็กของฉันซะหน่อยมันต้องอย่างเธอนี้ถึงจะใช่ แต่เมื่อกี้ฉันก็แค่แกล้งยัยฮิเมะเท่านั้นแหละเกลียดขี้หน้ายัยนี้เต็มทนเอาแต่บ้าคนหล่ออยู่ได้เห็นแล้วหมั่นไส้ ยังนึกอยู่ว่าเจ้าโทยะเอามันมาเป็นแฟนได้ยังไงจริตเสียจริง

    แฟนหนุ่มได้ยินยังงั้นก็หัวเราะเสียงดังก็อย่างที่หญิงสาวพูด ยัยฮิเมะนะไม่ได้รักโทยะเลยสักนิดที่มาคบด้วยก็เพียงเพราะจะเอาไปโพนทะนาว่า ฉันนี่แหละแฟนของอิชิคาว่า โทยะลูกชายคนโตของเจ้าของบริษัทชื่อดังทำให้ไม่ว่าผู้หญิงคนไหนก็ตามต่างหวังที่จะตกถังข้าวสาร แต่ก็ต้องผิดหวังทุกรายเพราะเจ้าตัวสับเปลี่ยนผู้หญิงเป็นว่าเล่น

    นั้นนายจะไปนะ!?! ” เมื่อเห็นว่าเส้นทางที่เพื่อนรักกำลังเดินอยู่นั้นพุ่งตรงไปยังชายหน้าหวานที่เป็นต้นเหตุให้โทยะเลิกกับอดีตแฟนที่ยังยืนกรี้ดเมื่อกี้นี่จึงรีบเข้าไปรั้งตัวทันที

    ปล่อยฉันโวย ทาคากิ, เซกะ! ”

    ไม่! ”ทั้งคู่ตอบพร้อมกันแล้วยังช่วยกันหิ้วปีกคนละข้างของชายหนุ่มออกมา

    ปล่อยสิวะ ทั้งสามเยื้อยื้อฉุดกระชากกันไปมา จนทาคากิชักทนไม่ไหวใช้หนังสือเล่มใหญ่ที่ถือติดตัวมาฟาดกะบาลเข้าให้สุดแรง ทำให้ร่างโทยะเซถลาหัวโหม่งกับต้นไม้ดังแอ๊กสลบเหมือดคาที

    ตายแล้ว! ” เซกะรีบเข้าไปดูอาการโทยะทันทีเมื่อเห็นว่าไม่ได้สติก็หันไปมองหน้าแฟนหนุ่มอย่างตำหนิ

    อย่ามองแบบนั้นสิที่รัก ถ้าไม่ทำอย่างนั้นก็หยุดมันไม่ได้นะสิ เธอก็รู้ว่ามันบ้าแค่ไหน มาเดี๋ยวฉันแบกมันกลับเอง ทาคากิแบกโทยะไว้ที่หลังแล้วพากลับบ้านทั้งๆอย่างนั้น

    เค้าเป็นอะไรเหรอคะ? ซายะจ้องมองพวกที่เดินจากไปตาแป๋ว

    สงสัยเค้าไม่สบายมั้งคะอย่าไปสนใจเลยคะเรากลับบ้านกันดีกว่าสายแล้ว ฮารุโยะอุ้มซายะลงจากตักแต่ตาก็ยังเหล่มองพวกเมื่อกี้ที่ทำท่าจะเข้ามาหาเรื่อง โชคยังดีที่หนึ่งในนั้นรั้งตัวเอาไว้ได้ไม่งั้นคงเกิดเรื่องไม่ดีแน่ๆยิ่งเจอเป็นประจำซะด้วยสิ

    กลับมาแล้วค่ะ...เฮ้ย!?! ” ฮารุโยะเปิดประตูเข้าบ้านมาก็ต้องนิ่งค้างเมื่อเห็นกล่องกองอยู่หน้าประตูราว 4-5 กล่องใหญ่ที่จ่าหน้าถึงเธอจากโรงเรียน Aid-de-camp

    นี่มันอะไรกันคะ!?! ” หลังจากพาซายะไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเรียบร้อยแล้วอารุโยะก็มานั่งมองกล่องที่พ่อของเธอค้นเอามาไว้ที่ห้องให้อย่างนึกฉงน

    พ่อก็ไม่รู้เหมือนกันหลังจากที่ลูกออกจากบ้านไปไม่ถึง 5 นาทีก็มีพนักงานส่งของขนเข้ามาให้ จะแกะออกดูก็ใช่ที่พ่อก็เลยรอจนกว่าลูกจะกลับมานี่แหละ ฮารุโยะมองไล่กล่องแต่ละกล่องอย่างหนักใจ แล้วลงมือแกะกล้องที่อยู่ใกล้มือสุด แล้วก็ตกแปลกใจเมื่อพบว่าสิ่งที่นอนอยู่ในกล่องนั้นเป็นชุดฟอร์มอย่างดีแต่ทว่า.

     

    ชุดสำหรับผู้ชาย!?!

     

    หญิงสาวเอามือฟาดหน้าตัวเองอย่างหมดแรง นี่มันเรื่องอะไรกันวะเนี้ยเอาแบบฟอร์มของผู้ชายส่งมาได้ไงกันน่าตัดมือคนส่งให้กุดหมดทั้งสองข้างเลยฮารุโยะคิดในใจอย่างเดือดดาน เมื่อหยิบชุดพวกนั้นขึ้นมาแผ่นกระดาษใบหนึ่งก็ร่วงลงมาเธอจึงหยิบขึ้นมาดูแล้วก็อุทานเสียงแหบพร่าสมชายจนคนยืนดูอยู่สะดุ้ง

    มันอะไรกันวะ! ”

    ...อะไรเหรอลูก? หญิงสาวยื่นกระดาษแผ่นนั้นให้พ่อ ซึ่งก็มีปฏิกิริยาแทบไม่ต่างกัน

    พวกนั้นได้ขนาดตัวหนูมาได้ยังไงกัน? ฮารุโยะรีบลองชุดทันทีแล้วก็พบว่าขนาดพอดีตัวเป๊ะ ฮิโตมุที่ดูอยู่ถึงกับเช็ดเหงื่ออย่างหนักใจก็ลูกสาวของเขานะสิใส่ชุดนี้แล้วช่าง...ช่างหล่อเหลือร้าย!

    ชุดสีขาวทั้งตัวดิ้นด้วยไหมสีทองที่ปลายแขนเสื้อและคอเสื้อโดยสานไขว้กันอย่างสวยงาม แถมอ๊อฟชั่นด้วยกระบี่เล่มยาวเล็กปลอกสีเงินทองคล้องไว้ที่เอว ดูโดยแล้วคล้ายชุดของพวกองครักษ์รึไม่ก็เครื่องแบบของทหาร ส่งผลให้ร่างที่สวมอยู่ดูสง่างามและภูมิฐาน...เหอะๆๆลูกสาวเราแมนได้ใจจริงๆ

    ฮิโตมุไม่รู้ว่าตัวเองจะภูมิใจดีรึเปล่าที่เกิดมามีลูกสาวหล่อกระชากใจ จนสาวน้อยสาวใหญ่หลงแทบโงหัวไม่ขึ้นแถมอนาคตยังขึ้นคานชัวร์ไม่มัวนิ่ม โชคยังดีที่บ้านนี้มีซายะอยู่ไม่งั้นคงไม่ได้อุ้มหลานแน่ๆ แต่แล้วความคิดก็ต้องชะงักลงเมื่อลูกสาวคนโตหวีดร้องขึ้นมาอีกครั้งอย่างกับคนบ้า

    เป็นอะไรไปฮารุโยะ? ฮิโตมุถามด้วยความตกใจเมื่อแผ่นกระดาษในมือถูกกระชากไปฉีกทิ้งไม่เหลือชิ้นดี

     “ นี่แปลว่าหนูต้องไปเรียนที่นั้นอย่างหลีเลี่ยงไม่ได้ใช่มั้ยคะ? ฮารุโยะถอดชุดที่สวมอยู่โยนลงบนเตียงโดยคนเป็นพ่อได้แต่พยักหน้าเป็นคำตอบในเมื่อเอกสารที่เค้าเพิ่งถืออยู่ในมือเป็นเอกสารการลงทะเบียนเรียนที่ทำไว้ให้อย่างเรียบร้อยแล้ว และเป็นการลงทะเบียนเข้าเรียนอย่างมัดมือชกแบบเสร็จสรรพซะด้วย

     

                                    ***********************************

     

     

    1 อาทิตย์หลังจากที่ได้รับจดหมายและอุปกรณ์การเรียน ฮารุโยะก็แต่งตัวออกจากบ้านไปในมือถือแผนที่โรงเรียนไว้ เพราะไม่รู้ว่ามันอยู่ที่ไหนและเป็นสถานที่อย่างไรเธอจึงตื่นแต่เช้าเพื่อไปสำรวจที่ๆจะต้องใช้ชีวิตกว่า 3 ปีให้ดี แน่นอนว่าจากเท่าที่ดูแผนที่มันออกจะไกลโขพอดู

    เมื่อสุดสายรถเมลล์ที่เคยนั่งเป็นครั้งแรกหญิงสาวก็ต้องตระหนักว่ามันเป็นสถานที่ที่น่ากลัวจริงๆเมื่อที่ตั้งของโรงเรียนอยู่บนเขาลูกๆหนึ่งที่มีรั่วกั้นยาวรอบภูเขาทั้งลูก ประตูทางเข้านั้นถูกปกคลุมไปด้วยต้นไม้หนารกครึ้ม เพียงแค่เดินผ่านเข้าประตูเท่านั้นก็ต้องเสียวสันหลังวูบอย่างกับมีใครแอบมองอยู่ ฮารุโยะรีบเร่งฝีเท้าเดินไปตามทางเดินจนเมื่อพ้นเขตป่าจึงมองเห็นว่าโรงเรียนจริงๆเป็นเช่นไร

    นี่มันโรงเรียนหรือราชวังกันฟะ? อาคารรูปทรงปราสาทตั้งตระหง่านอยู่ตรงหน้าทำให้หญิงสาวรู้สึกเหมือนกับว่าตัวเองหลงเข้ามายังโลกอีกมิติหนึ่งที่ไม่อาจมีจริง เมื่อคิดได้ดังนั้นเธอจึงหมุนตัวกลับหลังทันทีอย่างไม่รอช้าแต่ก็ต้องชนกับอะไรบ้างอย่างที่เหมือนกำแพงจนเซถลา

    ขอโทษคะ ฮารุโยะลูบปลายจมูกแล้วเหงยหน้าขึ้นมอง ต่างฝ่ายต่างชะงักมองกันอย่างตกใจ หญิงสาวก้าวถอยหลังอย่างไม่รู้ตัวมองชายหนุ่มที่เดินย่างสามขุมเข้ามาใกล้แบบหวาดๆ รู้สึกกลัวในดวงตาคู่นั้นที่มองมาอย่างเย็นชา

    นาย...เด็กใหม่? น้ำเสียงทุ้มต่ำถามเรียบเหมือนมีแววหงุดหงิดแฝงอยู่

    ...เปล่าไม่ใช่ เผอิญฉันแค่หลงทางมาเท่านั้น ชายหนุ่มทำสีหน้าไม่เชื่อ หัวคิ้วเรียบขมวดเข้าหากันเล็กน้อย ก่อนสายตาเย็นชาจะไล่มองตั่งแต่หัวจรดเท้า

    ชุดนั้น...ที่นายใส่เป็นของที่นี่ ถ้าเป็นเด็กใหม่ก็ควรตอบว่าใช่ ฮารุโยะกลืนน้ำลายดังเอือก ลืมไปสนิทว่าอีกฝ่ายก็แต่งตัวเหมือนกัน จึงยิ้มแหยงๆให้

    ก็ใช่...ละมั้ง?

    ถ้างั้นก็หลีกไปเกะกะ หญิงสาวรีบหลีกทางให้ทันทีอย่างไม่รอช้าก้มหน้าก้มตามองพื้นรอให้อีกฝ่ายเดินผ่านไป แต่ร่างที่ควรจะเดินผ่านไปกลับยังยืนนิ่งอยู่ที่เดิมไม่ไหวติงจนอดไม่ได้ที่จะหันขึ้นมาถามด้วยความสงสัย

    มีอะไรงั้นเหรอ?

    เปล่า...แค่คิดว่าเราเคยเจอกันที่ไหนมาก่อนรึเปล่า...ก็แค่นั้นเอง ฮารุโยะเผลอมองอีกฝ่ายตรงๆ อาจเป็นไปได้ว่าเคยเจออีกฝ่ายจริงๆรึไม่ก็คู่กรณีเก่าของเธอที่ว่าด้วยเรื่องผู้หญิงที่โดนมานับไม่ถ้วน แต่ผู้ชายที่ร่างสูงกว่าที่เคยพบกันมีไม่มากนักเธอน่าจะจำได้สิ

    ชายหนุ่มที่ยืนอยู่ตรงหน้าดูหล่อคมเข้ม สูงกว่าเธอตั้งหลายเซ็นเห็นจะได้อีกอย่างท่าทางเหมือนพวกคุณหนูรึไม่ก็คุณชายอย่างนี้รับรองไม่ว่าผู้หญิงคนไหนเห็นก็ต้องตกหลุมรักแน่นอน เรื่องเกี่ยวกับผู้หญิงที่จะมีปัญหากับเธอนั้นไม่มีชัวร์ๆ เมื่อลงความเห็นตามนั้นหญิงสาวจึงฉีกยิ้มให้อย่างเป็นมิตรแล้วตอบ

    ไม่เคยเจอกันแน่นอน อีกฝ่ายก็พยักหน้าเห็นด้วยช้าๆ ในเมื่อเท่าที่ผ่านยังไม่เคยเห็นผู้ชายคนไหนที่จะหน้าตาหวานขนาดนี้ แม้แต่ในโรงเรียนนี้ก็ยังหาไม่ได้ง่ายๆถ้าไม่นับรวมกับน้องชายตัวเองละนะ?

    ถ้าไม่มีอะไรแล้วฉันลาละ ฮารุโยะรีบชิ่งทันทีอย่างรวดเร็วแล้วก็ต้องหน้าหงายเมื่อถูกรั้งไว้ด้วยมือแข็งแรง

    นายจะไปไหน?

    ฉันจะกลับบ้านนะสิถามได้ ชายหนุ่มนิ่งคิด สงสัยอีกฝ่ายจะโดดเรียนแน่ จึงลากหญิงสาวที่ขนาดตัวไม่ต่างกันนักไปด้วย โดยไม่สนใจเลยอีกฝ่ายจะโวยวายและขัดขืนขนาดไหน

    ปล่อยฉันนะ! ฉันจะกลับบ้าน

    ไม่!...นายคิดจะโดดเรียนละสิ เปิดเรียนวันแรกก็ทำตัวเหลียวไหลอย่างนี้เสียชื่อโรงเรียนหมด

    แล้วมันเกี่ยวอะไรกับนายด้วยฟะ ชายหนุ่มหยุดเดินทันทีแล้วจับหัวไหล่ทั้งสองข้างของหญิงสาวให้หันมาเผชิญหน้ากับตัวเองตรงๆ

    เกี่ยวสิ ทำไมจะไม่เกี่ยวก็ฉันเป็นลูกชายของผู้บริหารโรงเรียนนี้! ”

    หะ...!?! ” ฮารุโยะทำหน้าไม่อยากจะเชื่อเท่าไหร่แต่ก็ต้องเชื่อเพราะอีกฝ่ายส่งสายตาพิฆาตมาอย่างน่ากลัว นั้นมันก็เรื่องของนายไม่เกี่ยวกับฉัน ที่มาวันนี้ก็แค่สงสัยว่าโรงเรียนนี้เป็นยังไงก็แค่นั้นเอง แล้วตอนนี้ฉันก็รู้แล้วไม่จำเป็นที่ฉันจะต้องอยู่อีกลาขาดละหญิงสาวสะบัดมือของอีกฝ่ายทิ้งแล้วรีบเดินออกมาโดยเร็ว

    นายดูถูกที่นี่เกินไปไอ้หนู ฮารุโยะหยุดเดินแล้วค่อยๆหันกลับมา

    นายว่าใครเป็นไอ้หนู?

    นาย ชายหนุ่มชี้นิ้วยังเธอ

    ฉัน? ตั่งแต่เกิดมาเพิ่งเคยเจอคนที่ทักฉันว่าไอ้หนูก็วันนี้แหละ ถ้างั้นจะให้ฉันเรียกนายว่าอะไรดีนะตัวออกจะสูงซะขนาดนี้ ฮารุโยะกะระยะความสูงของอีกฝ่ายเมื่อเทียบกับตัวเองแล้วเบ้ปากด้วยอาการสุดเซ็ง

    พอละขี้เกียจต่อล้อต่อเถียงกับคนไม่รู้จัก เสียดายเวลา หญิงสาวตั้งท่าจะเดินจากไป เสียงดีดนิ้วก็ดังขึ้นพร้อมกับการปรากฏตัวของชายหนุ่มในชุดสีขาว ที่แต่งตัวไม่ต่างจากเธอหากติดตรงที่แขนซ้ายมีปลอกแขนสีดำรัดอยู่

    นายคงยังไม่ได้อ่านคู่มือสินะ...มันเขียนบอกไว้ชัดเจนว่า นักเรียนคนไหนที่ก้าวเท้าเข้าโรงเรียนแล้วห้ามออกไปข้างนอกก่อนเวลาหลังเลิกเรียน หรือได้รับอนุญาตอย่างเป็นทางการ หากฝ่าฝืนจะได้รับการลงโทษ หญิงสาวนิ้วหน้านึกย้อนเหตุการณ์กลับไปเมื่อ 1 อาทิตย์ก่อน แล้วก็จำได้ว่าตัวเองโยนหนังสือเล่มหนาทิ้งลงถังขยะตอนกำลังสติแตกอยู่

    ถึงจะเป็นอย่างนั้นก็เถอะนายไม่มีสิทธ์ที่จะรั้งฉันไว้หรอก ฮารุโยะหันตัวกลับเดินต่อแต่ก็ต้องชะงักเมื่อวงล้อมนั้นบีบตัวเข้ามาใกล้

    จับเค้าไว้อย่าให้หนีไปได้! ” ชายหนุ่มออกคำสั่งเข้ม เหล่าชายหนุ่มมาดยามรักษาการณ์ก็กรูกันเข้าหาหญิงสาวทันที

    พูดแค่นี้ไม่เข้าใจภาษาคนรึไงวะ! ” ฮารุโยะเบี่ยงตัวหลบมือที่ยื่นเข้ามาคนแรก ก่อนจับคอเสื้ออีกฝ่ายเหวี่ยงร่างทั้งร่างนั้นทุ่มไปข้างหน้าปะทะกับอีกคนที่วิ่งเข้ามาหาจนล้มลงไปทั้งคู่ ก่อนกระโดดหลบเท้าของคนข้างหลังที่ตวัดผ่านมาตามแนวพื้นโดยอาศัยบ่าของอีกฝ่ายเป็นบาร์เหวี่ยงตัวไปทางด้านหลัง ทันที่ที่เท้าเธอแตะพื้นก็ใช้ฝ่ามือทาบข้างศีรษะอีกฝ่ายแล้วออกแรงผลักกดลงกับพื้นสุดแรง จนร่างชายคนนั้นนอนสลบนิ่งไป

    ลาขาดยะ หญิงสาวแล้บลิ้นปลิ้นตาให้ก่อนวิ่งตรงไปที่ประตูอย่างรวดเร็ว แต่ก็รู้เสียวหลังแปลกๆจึงหันกลับไปมองแล้วต้องผวาเมื่อเมื่อร่างที่ยืนเงียบในตอนแรกวิ่งไล่กวาดมาด้วยความเร็วสูง ไม่กี่อึดใจร่างที่วิ่งตามมานั้นก็ไล่ตามทันแล้วคว้าเสื้อของอีกฝ่ายตรงหน้ารั้งไว้

    เฮ้ยปล่อยสิวะ ฮารุโยะตะโกนบอก

    ปล่อยให้โง่สิ นายนั้นแหละที่ต้องหยุด

    หยุดให้โง่นะสิ ฮารุโยะพยายามกระชากเสื้อออกจากมือของอีกฝ่ายแล้วก็ต้องล้มหน้าคว่ำเมื่อเท้าดันสะดุดกับก้อนหินที่วางประดับริมทางเข้า

    เฮ้ย!!! ”

    โครม!!!

     

    โอ้ย~ไอ้บ้าเอ้ย! ” ฮารุโยะครางอย่างอารมณ์เสีย อีกแค่นิดเดี๋ยวเท่านั้นก็จะออกนอกเขตโรงเรียนแท้ๆ ก่อนลืมตาขึ้นมองก็เห็นร่างหนาใช้แขนทั้งสองข้างยันพื้นคร่อมตัวเธอเอาไว้

    ถอยไปไกลๆเลยไอ้บ้า ฮารุโยะใช้มือทั้งสองยันร่างอีกฝ่าย นี่หูหนวกรึไงกันฉันบอกให้ถอยไป...นายคิดจะอยู่ท่านี้อีกนานมั้ยหะ?

    ...................... ชายหนุ่มนิ่งอยู่นานไม่ยอมตอบ มองร่างที่ตนคร่อมเอาไว้ด้วยความรู้สึกหลากหลาย

    ถอย-ออก-ไป ฮารุโยะพูดกัดฟัดกรอดพลางออกแรงผลักอีกฝ่ายสุดแรง แต่ก็เหมือนว่าร่างๆนั้นไม่สะดุ้งสะเทือนสักนิด ซ้ำยังยิงคำถามที่กวนส้นตีนคนฟังอย่างแรง

    นาย...เป็นผู้ชายหรือเปล่า?

    แล้วนายเห็นฉันเป็นกระเทยรึไงวะ? ฮารุโยะตะคอกด้วยเสียงแหบหวานที่เป็นเอกลักษณ์ของเธอเอง แล้วอารมณ์ก็ปรี้ดสูงยิ่งกว่าเดิมเมื่ออีกฝ่ายตอบกลับมาแบบกวนไม่หยอก

    ก็ไม่เชิงว่าเหมือน แต่นายอาจเป็นอย่างนั้นเลยชายหนุ่มลุกขึ้นยืนแล้วจับข้อมือของเธอขึ้นทำท่าทางเหมือนวัดขนาดข้อมืออีกฝ่าย ก็ข้อมือของนายเล็กอย่างกับผู้หญิง แถมน้ำหนักก็ยังเบาซะขนาดนี้

    เฮ้ย!?! ” หญิงสาวร้องเสียงหลงเมื่ออีกฝ่ายอุ้มร่างของเธอในท่าเจ้าหญิงอย่างง่ายดาย

    ปล่อยฉันลงเดี๋ยวนี้เลยนะไอ้โรคจิต! ”

    ใครกันโรคจิตที่ว่า? ” ชายหนุ่มก้มลงมองหน้าฮารุโยะตรงๆ

    ก็นายนั้นแหละ ปล่อยฉันลงซักทีสิโว้ย ร่างหนาชักสีหน้ายุ่งเป็นการใหญ่เมื่อร่างที่อยู่ในอ้อมแขนดิ้นขลุกขลักไม่ยอมอยู่นิ่ง ร่างบางถูกเหวี่ยงขึ้นพาดไหล่แล้วพาเดินเข้าไปในโรงเรียนห่างจากประตูรั้วเรื่อยๆ

    นี่นายโรคจิตปล่อยฉันลงเดี๋ยวนี้เลยนะ ฉันบอกให้ปล่อยยังไงละโถ่โว้ย! ” ฮารุโยะทั้งทุบหลังทั้งตะโกนตลอดทางที่ลูกชายผู้อำนวยการโรงเรียนแบกเธอไป

    ฉันไม่ได้ชื่อไอ้โรคจิตชายหนุ่มพูดเสียงตวัด ชักรำคาญเสียงโวยวายของหญิงสาว

    ฉันไม่สนว่านายจะชื่ออะไร ฉันจะเรียกนายว่าโรคจิตนี่แหละโอ้ย!?! ” ร่างของฮารุโยะถูกโยนลงโซฟา แล้วร่างสูงที่พาเธอมานั้นก็ยืนก้มตัวลงมาชี้นิ้วโป้งหาร่างตัวเอง

    ฉันชื่ออิชิคาว่า โทยะ ไม่ได้ชื่อไอ้โรคจิตจำเอาไว้ โทยะยืดตัวยืนตรงก่อนเดินออกจากห้องไปทิ้งท้ายด้วยเสียงซาวด์ปิดประตูที่ดังซะอย่างกับเปิดลำโพง

    ผู้ชายบ้าอะไรวะทุเรศจริงๆ ฮารุโยะคำรามอยู่ในใจก่อนลุกขึ้นเดินสำรวจห้องที่โทยะพามาดูแล้วคาดคะแนว่าน่าจะเป็นห้องทำงานของใครสักคน แต่ในเมื่อเธอไม่มีธุระอันใดกับโรงเรียนนี้อีกจึงไม่จำเป็นที่อยู่ที่นี้ต่อไป ร่างสูงของเธอจึงเดินย่องออกมาจากห้องนั้นเพื่อหาทางหนีออกจากโรงเรียน

    นั้นนายคิดจะไปไหนนะ? ฮารุโยะหันมองตามเสียงก็เห็นว่าคนที่พาเธอมายืนพิงกำแพงอยู่ใกล้ๆกำลังซดกาแฟกระป๋องอึกใหญ่

    กลับ เสียงกระชากห้วนตอบชัด ใบหน้าหล่อเหลาที่มองมานั้นจึงขมึงตึงขึ้นทันที โยนกระป๋องกาแฟที่เหลือเกือบครึ่งทิ้งลงถังแล้วก้าวยาวๆเข้ามาประชิดตัวอีกฝ่าย

    นายจะทำอะไรนะ? ฮารุโยะอ้าปากค้างเมื่อเห็นสิ่งที่อยู่ในมืออีกฝ่าย เชือกเส้นเคืองที่เจ้าตัวเอามาจากตรงไหนและตอนไหนก็ไม่ทราบค่อยๆกวัดแกว่งไปมา

    ถ้านายไม่ทำตัวดีๆละก็...เตรียมตัวถูกทำมัมมี่ได้เลย ไม่พูดเปล่าร่างหนาคว้าหมับที่ข้อมือเล็กแต่หญิงสาวสะบัดหลุดออกมาได้ทัน ก่อนค่อยๆถอยกรูอย่างรวดเร็วเมื่อโทยะยังไม่เลิกทำท่าทางคุกคามเธอ และในตอนนั้นเองสายตาของฮารุโยะก็เหลือบเห็นประตูหน้าต่างบ้านหนึ่งของอาคารแง้มอยู่ แผนการหลบหนีก็ผุดขึ้นในสมองทันทีอย่างรวดเร็ว

    นายทำมัมมี่ตัวเองละกันไอ้บ้าโรคจิต!” ฮารุโยะคว้าผ้าม่านผืนใหญ่ดึงสะบัดปิดหน้าโทยะก่อนวิ่งไปที่หน้าต่างบานที่เล็งไว้แล้วกระโดดลงไปอย่างไม่นึกกลัว โชดดีที่มันสูงแค่สองชั้นหญิงสาวรีบวิ่งหนีเข้าไปในกำแพงต้นไม้ทันที โทยะที่เสียที่อีกฝ่ายมองตามร่างที่วิ่งลับหายไปอย่างเจ็บใจ

     

     

     

     

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×