ตอนที่ 32 : Sexy Smile _31 : ปัญหา(ใจ)เเทรกซ้อน -ครึ่งเเรก-
Chapter 31
ปัญหา(ใจ)แทรกซ้อน
-KEY-
ผมตื่นเช้าวันนี้ในห้องของตัวเอง อาการไม่สบายต่างๆ ก็หายไปเพราะฤทธิ์ยาที่ได้กิน แต่ถึงอย่างนั้นผมก็รู้สึกว่าหัวสมองมันตื้อไปหมดอยู่ดี หลังจากเมื่อคืนทำให้รู้ว่า เรื่องของเรามันไม่ได้เลวร้ายถึงขนาดที่เข้าหน้ากันไม่ติด เรายังคุยกันได้ มันไม่ได้น่ากลัวแบบที่ผมคิดเอาไว้ แต่มันก็ห่างไกลจากความปกติที่เราเคยเป็นไปมาก ผมไม่เป็นตัวของตัวเองเลย และมันเองก็ต่างจากมินโฮที่ผมรู้จัก
วันนี้ผมมีเรียน ไอมินโฮเองก็มีเรียน ไม่รู้ว่ามันออกไปแล้วหรือยัง
แย่ว่ะ! ทั้งที่เมื่อก่อนเราไปเรียนพร้อมกัน แล้วดูตอนนี้สิ
ผมสะบัดผ้าห่มออกจากตัวก่อนจะลุกไปอาบน้ำให้เรียบร้อย เห็นสภาพตัวเองในกระจกก็อยากจะแหกปากโวยวายให้อาคารร้าว
คนหรือศพเนี่ยไอคีย์ เมิงมันผีมากกกกกกก
และแทนที่ผมจะรีบอาบน้ำ กลายเป็นว่าเสียเวลาโหยหวนให้กับความหล่อที่พังทลายลงไปเพราะเรื่องน่าปวดหัว เอาเป็นว่าก่อนกลับบ้านจะไปกวาดวิตามินบำรุงผิวชนิดที่ว่ายอมอดเงินค่าข้าวเลยทีเดียว ความจริงเรื่องนี้ไอมินโฮควรรับผิดชอบ เพราะทั้งหมดเกิดจากการกระทำของมันทั้งสิ้น แต่จะให้บากหน้าไปพูดกับมันถึงเรื่องนี้ รู้เลยว่าตลกไม่ออก แล้วเดี๋ยวจะพาลให้จิตใจทรุดโทรมลงกว่าเดิม กลายเป็นหนังหน้าหมองคล้ำหาทางแก้ได้ยากกว่าที่เป็นอยู่ ช่างเป็นสเต็ปที่บัดซบมากมายจริงๆ
ผมแหงนมองนาฬิกาที่บอกได้เวลาเริ่มเรียนแล้วนั่นแหละถึงได้ก้าวขาออกจากห้องตัวเอง และถึงแม้จะคิดไว้แล้วว่าไอมินโฮออกไปตั้งแต่ครึ่งชั่วโมงก่อนแล้วใจมันก็อดนึกไม่ได้ว่ามันจะหาของกินรออยู่ร้านสะดวกซื้อด้านล่าง
ดีแล้วที่มันไม่ได้เป็นแบบนั้น...
นึกแล้วก็อดจะขำออกมาไม่ได้ ถ้าเกิดว่ามันรอล่ะ ผมควรทำไงดี มันแย่มากเลยนะถ้าย้อนกลับไปนึกถึงตอนได้โวยวายว่ารอแค่นี้ไม่ได้ไงวะ หรือไม่ก็วิ่งขอส่วนแบ่งจากขนมที่มันซื้อมากิน
“อะไรเล่า มองหน้าหาเรื่องรึไง” ผมเสียงดังพร้อมทำหน้าดุไปนิดหน่อย ไอหมาตัวประจำใต้ตึกก็เชิดหน้าแล้วเดินผ่านเหมือนมันไม่เคยมองหน้าหาเรื่องผม เอาเป็นว่าผมจะบ่นแค่นี้แล้วกัน ถ้ามากมายกว่านี้มันจะกลายเป็นว่าผมทะเลาะกับหมาไป ซึ่งแค่คิดก็ดูแย่เต็มที และผมไม่ได้ว่างขนาดนั้น อย่างเช่นตอนนี้ผมควรจะรีบไปเรียนได้แล้ว
ถึงหัวผมจะคิดว่าผมควรรีบไปเรียน ควักปากกาออกมาจดตามที่อาจารย์สอนตามประสาคนขยันเรียน แต่ใจผมมันไม่ได้รู้สึกไปตามนั้นเลย ผมเดินเอื่อย แวะชมข้างทางอย่างไม่เคยทำไปเรื่อย แม้กระทั่งท้องฟ้าที่เป็นสีฟ้าผมยังหยุดชมมันเลย ผมว่าผมเริ่มไม่ปกติแล้วจริงๆ ผมผ่านร้านเกมส์ ร้านกับข้าวที่มินโฮมันชอบลากมากินตอนมืดๆ เพราะร้านนี้เปิด 24 ชั่วโมง หรือไม่ก็เป็นผมเองนั่นแหละที่ทนหิวไม่ได้ต้องลากมันมาเป็นเพื่อน
ผมนึกถึงมันอีกแล้ว เฮ้อออออออออออออออ
กว่าจะก้าวขาเข้ารั้วมหาลัยผมก็สายไปครึ่งชั่วโมง จิตใจผมไม่พร้อมสำหรับการไปรับอะไรที่มันน่าปวดหัวจากอาจารย์เพิ่มเลย แล้วก็ยังไม่อยากเจอกับ 2 สาวมหัศจรรย์นั่นด้วย จริงๆ ถ้าได้ระบายออกไปบ้างมันก็ดีแหละนะ 2 คนนั่นถึงจะช่วยได้บ้างช่วยไม่ได้บ้าง แต่มันก็ช่วยให้ผมรู้สึกดีขึ้นได้ทุกครั้ง คือเห็นท่าทางกับน้ำเสียงมันก็ทำให้ผมหัวเราะออก
“พี่คีย์” ผมะงักก้าวเดินเพราะเสียงที่เอ่ยเรียกด้วยความรู้สึกงงๆ แต่วินาทีต่อมาที่ผมสบตากับน้องเขานั่นแหละ
“น้องเรียกพี่หรอ”
“ผมชื่อแบคฮยอนนะครับ”
“อ่า” เสียงของผมหลุดจากลำคอเพียงแค่นั้น ตาของผมเผลอจับจ้องรุ่นน้องตรงหน้าอย่างดูน่าเกลียด น้องเขาเองก็คงจับอาการผมได้เหมือนกัน ถึงได้เผลอทำตัวเก้กังออกมาชัดเจน
“ผมอยากคุยกับพี่คีย์ครับ”
“คุยกับพี่หรอ” ผมชี้ที่อกตัวเองอย่างงงๆ แล้วน้องเขาก็พยักหน้ายืนยันคำพูด ในใจผมรู้สึกวูบโหวงอย่างน่าประหลาด ผมพยายามคลี่ยิ้มให้เราทั้งคู่นั้นดูผ่อนคลาย แต่ทว่า...
“ผมขอคุยกับพี่ เรื่องพี่มินโฮหน่อยครับ” ผมนิ่งอึ้งไปอยู่หลายวิทีเดียว มันค่อนค้างจะ อ่า ผมพูดไม่ออกเลย ผมว่าระหว่างผมกับมันที่เป็นอยู่นั้นแย่มากแล้วนะ แล้วตอนนี้อีก กับเด็กแก้มยุ้ยตรงหน้านี่
“เรื่องอะไร” ผมไม่รู้ว่าน้ำเสียงที่เอ่ยออกไปมันห้วนไปหรือเปล่า หรือไม่ก็แววตาสีหน้าของผมที่แสดงออกมาอย่างไม่พอใจ คนตรงหน้าผมถึงได้พยายามหลบสายตาด้วยท่าทางเครียดขนาดนั้น หรือไม่อย่างนั้นก็ เป็นเพราะ ประโยคที่เจ้าตัวพูดออกมาเอง
“ผม ผมรักพี่มินโฮ”
ผมรู้สึกเหมือนจะกลับไปปวดหัวเป็นไข้อีกครั้ง ดวงตาเรียวที่ช้อนสายตามองผมนั้นดูกล้าๆ กลัวๆ ผมอยากหัวเราะออกไปดังๆ แล้วบอกว่า ผิดแล้วไอหนู นี่ชั้นคีย์ คิม คิบอม ไม่ใช่ไอมินโฮ นายบอกผิดคนแล้ว ให้ตายเถอะ ทำไมลิ้นผมถึงได้แข็งทื่อพูดอะไรไม่ออกแบบนี้
“ผมอยากคุยกับพี่เรื่องพี่มินโฮ” คนตัวเล็กกว่านั่นเอ่ยออกมาอีกครั้ง น้ำเสียงน่าฟังนั่นสะท้อนอยู่ในหัวที่ปวดหนึบของผม ผมไม่กล้าคิดว่าแบคฮยอนจะพูดอะไรเกี่ยวกับมินโฮ ผมรู้สึกกลัว กลัวทั้งที่ผมไม่รู้ด้วยซ้ำว่าจะต้องคุยอะไรกับคนๆ นี้ แค่เป็นเรื่องเกี่ยวกับมินโฮ
ผมไม่อยากคุย
“คือ วันนี้พี่ไม่ว่าง ตอนนี้ก็ เอ่อ เลยเวลาเรียนมามากแล้วด้วย” ผมตอบออกไปโดยไม่มองคนตรงหน้า ผมตั้งท่าจะเดินหนีแต่ก็รู้สึกถึงความอุ่นที่ข้อมือที่โดนรั้งเอาไว้
“ไว้คราวหน้าก็ได้ครับ” เราต่างสบมองกันอย่างนิ่งเงียบ แก้วตาใสที่จับจ้องผมนั้นไม่ลดละเลยแม้แต่น้อย มือที่ยังรั้งผมไว้ก็ไม่ปล่อย
“ไว้คราวหน้า” ผมตอบทวนคำถามออกไป รู้สึกในลำคอนั้นแห้งผากไปหมด คราวหน้าอย่างนั้นหรอ ก็ยังดี ขอแค่ไม่ใช่ตอนนี้
“ขอบคุณมากนะครับพี่คีย์” คนตัวเล็กตอบแล้วก้มหัวให้ผม ผมมองตามจนแผ่นหลังนั่นหายลับไป และผมยังคงยืนนิ่งเป็นมนุษย์ทุกสาปให้กลายเป็นหินอยู่แบบนั้น
-ครึ่งเเรก-
------------PPLight---------------
เป็นการลงฟิคที่ลำบากมากกกก ข้าเป็นคนเดียวใช่ม้อยยยยยยยยยยย
มันลงยากจริงจังมาก ฮึกกกกกก
อย่างที่บอกจะจบเเล้วนะครัชชชช ถ้าจะรวมเล่มนี่มีใครสนใจมากระซิบบอกกันหน่อย
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

แบคฮยอนเธอตรงมาก มาแบบนี้คีย์จะทำไงหละเนี่ย
แล้วคีย์จะทำไงเนี่ยะ