ตอนที่ 33 : Chapter 25 - 100%-
Chapter 25
ท้องฟ้าสีขาวเริ่มเปลี่ยนเป็นสีส้มแดง บรรยากาศโดยรอบที่ปกคลุมด้วยกระแสของลมที่พัดผ่านมาเป็นระลอก ความเงียบนิ่งที่กำลังปกคลุมพื้นที่รอบบริเวณ
ร่างเล็กซึมซับเอาบรรยากาศแสนหดหู่ที่กำลังวิ่งวนอยู่รอบกาย ก่อนจะทอดสายตาไกลอย่างไม่มีจุดหมาย
เขากำลังทำอะไร
ประโยคสั้นๆที่อยู่ๆก็ปรากฏขึ้นมาในหัว ทำเอาคนที่กำลังซึมเศร้าเต็มทีหัวเราะออกมาเบาๆ
ก็แค่..... หัวเราะให้กับตัวเอง
กำลังใจที่สำคัญที่สุด ตัวเองต้องเป็นผู้สร้าง
ใครก็รู้
แต่จะมีสักกี่คนที่เคยสัมผัส...จะมีสักกี่คนที่รู้ล่ะว่า กำลังใจที่ตัวเองสร้าง บางครั้งมันก็ทำร้ายตัวเองเสียจนเจ็บปวด
การตั้งหมั่นว่าตัวเองทำได้ ว่าตัวเองจะต้องสำเร็จ
หลอกตัวเองเพื่อฝืนร่างกายให้ก้าวต่อไปอย่างมีความหวัง
ก้าวต่อไปเรื่อยๆ...แต่ก็ไม่เห็นเส้นชัยสักที แต่ในหัวก็เฝ้าบอกตัวเองย้ำๆ
อีกนิดเดียว
อีกนิดเดียวเท่านั้น
เราก็จะเห็นเส้นชัยตรงหน้า.....
สำหรับแทมินในตอนนี้
การให้กำลังใจตัวเอง ไม่ได้ต่างอะไรกับการหลอกตัวเองเลยสักนิด
ยิ้ม ยิ้มรับกับทุกอย่าง
ยิ้มทั้งที่มองไม่เห็นความสุข
ยิ้มทั้งที่หัวใจกำลังกรีดร้อง
ยิ้มทั้งที่หยาดน้ำตาจะไหลอยู่รอมร่อ
ยิ้มทั้งที่ไม่ใช่เรื่องที่จะฝืนยิ้มออกมาได้
รอยยิ้มที่เจ้าตัวสร้างเก่งนักเก่งหนา แต่กลับไม่เคยทำให้หัวใจยิ้มตามได้เลย
ลี แทมิน คนโง่ นายมันเข้มแข็งเกินไปแล้วนะ นายคิดหรอว่าจะมีเส้นชัยรออยู่ตรงหน้า
แต่บางทีอาจจะมีจริงๆก็ได้นี่....ความคิดเข้าข้างตัวเองโผล่งออกมา เจ้าของความคิดเลยได้แต่ยกยิ้มบางๆ ก่อนจะถอนหายใจลากยาว
อาจจะมองเห็นเส้นชัย ในวันที่ไม่มีเรี่ยวแรงจะเดินไปคว้าก็ได้
ท่าทางเศร้าๆของร่างเล็กที่นั่งอยู่บนม้านั่งตัวยาว สร้างความกังวลใจให้กับจงฮยอนไม่น้อย
เขาไม่ชอบที่ทุกอย่างกำลังดำเนินไปแบบนี้ ไม่ชอบที่จะเห็นแทมินฝืนยิ้มทั้งที่ดวงตาไม่ได้คลี่ยิ้มตามแม้แต่นิดเดียว
ถ้าให้ถามตัวเองว่าคิดยังไงกับล่างเล็กที่อยู่ตรงหน้าคนนี้
เขาคงฉีกยิ้มกว้างเต็มใบหน้า แต่ตอนนี้ เขายิ้มไม่ออกเลยสักนิด....จะให้ยิ้มออกได้ยังไง ในเมื่อแทมินกำลังซึมขนาดนั้น
ถ้าถามว่าที่ผ่านมารักแทมินบ้างไหม
จงฮยอนคงเลือกที่จะเงียบ คิดซ้ำไปซ้ำมา ว่าความรัก มันเป็นแบบไหน มันรู้สึกแบบไหน
แต่ถ้าถามว่าแคร์รึเปล่าว่า แทมินจะเป็นยังไง
หัวทุยสวยคงจะพยักหน้ารัวเร็ว เขารู้ตัว ว่าเขาแคร์แทมิน แคร์ความรู้สึกของคนตัวเล็กนี่ จนไม่รู้ว่าตัวเองควรจะทำยังไง
แล้วความแคร์เองเนี่ยแหละ ที่ทำให้เขาไม่กล้าทำอะไรได้เด็ดขาดออกไปเสียที
ปล่อยให้แทมินตามเขาอย่างมีความหวัง ทั้งที่คนยื่นความหวังไปให้ยังเอาแน่เอานอนกับตัวเองไม่ได้
มัวแต่ลังเล มัวแต่ไม่แน่ใจ สุดท้ายแล้ว จงฮยอนก็แค่คนที่เห็นแก่ตัว
คนที่ผ่านเข้ามาในชีวิต ก็มีแต่คนรักสนุกไปวันๆ แต่พอมาเจอกับแทมิน คนที่มอบความรักให้แบบบริสุทธิ์ใจ กลายเป็นว่า ไม่รู้ว่าตัวเองควรจะทำแบบไหนดี เพราะตัวเองก็ไม่ใช่คนที่คู่ควรกับความรักที่อีกคนมอบให้ จะให้เปลี่ยนแปลงเพื่อใครสักคนก็ไม่ใช่นิสัยของเจ้าตัวเลยสักนิด แต่แทมินกลับกำลังเรียนรู้ที่จะเดินไปข้างๆเขาด้วยความพยายามในแบบของตัวเอง
ความคิดเดิมๆรุมเร้าอยู่ในหัว พร้อมกับเรียวขาที่ก้าวเข้าไปใกล้ยังม้านั่งตัวยาว ที่มีร่างเล็กคุ้นตานั่งนิ่งอยู่
“อะ พี่จงฮยอนมาตอนไหนเนี่ย ผมตกใจหมดเลย” เสียงเล็กเอ่ยถามพร้อมกับที่สร้างยิ้มหวานขึ้นเต็มดวงหน้า จงฮยอนสบตาก่อนจะตอบคำถามออกไป
“เพิ่งมานะ แทมินรอพี่นานแล้วหรอ”
“ผะ ผม เพิ่งจะมาก่อนพี่มาแค่แป๊บเดียวเอง”
3 ชั่วโมง
จงฮยอนรู้ว่าแทมินนั่งรอเขาตรงนี้ไม่ต่ำกว่า 3 ชั่วโมง แล้วนั่นก็ไม่ต่างจากเขาเลยสักนิด เพราะเขาเองก็ยืนมองคนตัวบางนี่ตลอดเวลา
“พี่จงฮยอนจะไปร้านเหล้าไม่ใช่หรอฮะ งั้นเราก็ออกเดินทางกันเลย” เสียหวานเอ่ยอย่างตื่นเต้น พร้อมกับมือเรียวที่ขว้าเอาแขนแกร่งให้ก้าวขาตาม
ฝืนยิ้มแบบนี้ เจ็บแค่ไหน
ทำอะไรแบบที่ไม่ใช่ตัวของตัวเอง มีความสุขหรือไง
ทำไมต้องทนกับคนแบบเขา
“พี่จงฮยอนๆ กินเหล้าร้านไหนหรอฮะ”
“...” คำถามที่แทมินเอ่ยถาม กลับได้ความเงียบเป็นคำตอบ คนตัวบางเอี้ยวหน้าไปมองคนข้างตัวพร้อมกับที่คิ้วเรียวสวยจะขมวดเข้าหากัน
พี่จงฮยอนกำลังคิดอะไรอยู่นะ
มีเรื่องที่ไม่สบายใจหรือเปล่า
หรือบางที เรื่องที่ไม่สบายใจ...อาจเป็นเพราะตัวผมเอง
ก็ ผมมันดื้อนี่นา....พี่เอง ก็คงจะเหนื่อยใจ
ร่างเล็กหรุบตาต่ำลงพร้อมกับมือเรียวที่เผลอบีบแขนของจงฮยอน น้ำหนักที่ส่งไปให้ดูเหมมือนจะทำให้อีกคนที่เหม่อลอยรู้สึกตัว
“แทมิน พี่ขอถามนายนะ” เสียงทุ้มต่ำที่เอ่ยเรียก ทำให้เจ้าของชื่อต้องหันมาสบตา
“แทมินคิดว่า ผลสุดท้าย ของความพยายามทั้งหมด จะได้รับอะไรเป็นค่าตอบแทน” จงฮยอนถามคำถามออกไปด้วยสีหน้าเรียบเฉย ผิดกับคนที่ฟังคำถามอย่างแทมิน ดวงตาคู่สวยแทบจะเอ่อน้ำใสออกมา
“คนที่พยายาม ก็ต้องได้รับความสำเร็จเป็นค่าตอบแทน ใช่ไหมฮะพี่จงฮยอน” แทมินพยายามควบคุมน้ำเสียงไม่ให้หวั่นไหวไปตามความรู้สึก พร้อมกับที่ดวงตากระพริบถี่เพื่อกลืนน้ำตาของตัวเอง
“แล้วรู้รึเปล่า ถ้าความพยายามมันไม่สำเร็จ ผลสุดท้ายจะไม่ได้อะไรตอบแทน” คำพูดของจงฮยอนทำให้ร่างเล็กกัดปากตัวเองแน่น
ในขณะที่ผมพยายาม พี่จงฮยอนก็คอยแต่ย้ำว่าไม่มีทางเป็นไปได้
บทสนทนาไม่ได้เกิดขึ้นอีกตลอดระยะเวลาเดินทาง ไม่มีใครพูดอะไรออกมา ต่างคนต่างกำลังจมอยู่กับความคิดของตัวเอง ทั้งที่รอบข้างตัวในตอนนี้มีแต่เสียงโหวกเหวกโวยวายของนักศึกษาสถาบันเดียวกัน แต่กลับไม่ได้ช่วยให้บรรยากาศมาคุนี่สลายออกไปได้เลย
จงฮยอนและแทมินหยุดยืนอยู่หน้าผับแห่งหนึ่งที่ตั้งไม่ไกลจากมหาลัยเท่าไหร่ ในไม่ช้ามือหนาก็ยกขึ้นผลักบานประตูให้เปิดออก แสงไฟหลากสีสาดส่องเข้ากระทบตาจนแทมินยีตามอง พร้อมกับที่มือเล็กที่ยึดจับกับคนข้างตัวออกแรงบีบแน่น
ครั้งแรกที่แทมินเข้ามาในที่แบบนี้
ร่างเล็กก้าวเดินตามคนที่มีท่าทางชำนาญทางอย่างเงอะๆงะๆ
“จงฮยอนวันนี้มาไวจังเลยนะ” คำทักทายที่มาควบคู่กับคำถามทำให้จงฮยอนยกยิ้มบางส่งให้ และนั่นก็ทำให้คนถามเมื่อครู่ช้อนตามองก่อนจะเลื่อนหน้าเข้าไปใกล้และกดจูบเบาๆที่มุมปาก ภาพทั้งหมดอยู่ในกรอบสายตาของคนตัวเล็ก แทมินรู้สึกชาวาบไปทั้งตัวกับสิ่งที่ตัวเองเห็น แต่เจ้าตัวยังพอมีสติอยู่บ้าง เลยพอมองเหตุการณ์ได้ว่า ทั้งหมดนี่เป็นเพียงเรื่องปกติในชีวิตของจงฮยอน จะแปลกก็ตรงที่ ตัวเขาไม่เคยรู้อะไรมาก่อน
ละจากผู้หญิงคนเมื่อครู่ได้แค่สองก้าวเดิน ผู้หญิงคนใหม่ก็ก้าวมาขว้างหน้าจงฮยอนเอาไว้ แทมินไม่รู้ว่าทั้งคู่คุยอะไรกัน เห็นเพียงแค่ริมฝีปากที่ฉาบด้วยลิปสีสดกำลังไล่คลอเคลียอยู่ข้างหูคนที่ตัวเองกุมมือไว้ และในไม่ช้า ใบหน้าเนียนสวยก็ละออกมา และดูเหมือนว่าคนตรงหน้าทำทีราวกับจะปะกบริมฝีปากของจงฮยอน แล้วภาพที่ควรจะเห็นต่อจากนี้ก็จบลง เมื่อมือเล็กออกแรงกระตุกคนข้างตัวให้ถอยหลังออกมา หญิงสาวตรงหน้าดูเหมือนจะตกใจไม่น้อย เมื่อเห็นว่า ข้างตัวของจงฮยอนมีเด็กหน้าตาน่ารักเคียงคู่มาด้วย
“เอ่อ วันนี้มีคนมาด้วยหรอ งั้น ก็โทษทีนะ” รอยยิ้มสวยไม่ได้แค่ส่งให้จงฮยอนคนเดียว หากแต่ส่งมาถึงร่างเล็กบางที่ยังมีสีหน้าตกใจไม่หายด้วย จงฮยอนมองมือที่ดึงรั้งตัวเองไว้เมื่อครู่ก็เห็นว่าสั่นมากแค่ไหน เพียงแค่นี้เจ้าตัวก็พอจะรู้แล้ว ว่าแทมินคงไม่สามารถรับตัวตนจริงๆของเขาได้
จงฮยอนดึงคนตัวเล็กที่ไม่หลงเหลือเรี่ยวแรงจะก้าวเดินให้ออกเดินตาม ก่อนจะหยุดฝีเท้าลงยังโต๊ะด้านในที่มีเพียงแสงไฟสลัว ร่างทั้งสองทิ้งตัวลงที่เก้าอี้ พร้อมกับที่บริกรหนุ่มก้าวเท้าเข้ามา
“แทมิน อยากกินอะไร” ร่างบางสบตาคนเอ่ยถาม ก่อนจะนิ่งเงียบไป
“แทมินคงกินเหล้าไม่เป็นหรอก ที่นี่ดูไม่เหมาะกับแทมินเลยว่ามั้ย” จงฮยอนพูดออกมา ก่อนจะหันไปคุยกับบริกรหนุ่ม
“พี่จงฮยอน พี่ ชอบที่แบบนี้หรอฮะ” เอ่ยถามออกไป พร้อมกับที่ดวงตากลมกวาดสายตาไปรอบๆบริเวณที่มีผู้คนอยู่อย่างคับคลั่ง
“เดือนหนึ่งมี 30 วัน พี่จะมาที่นี่สัก 22 วัน แทมินคิดว่าพี่ชอบที่นี่ไหมล่ะ”
“พี่จงฮยอนคงจะชอบสินะฮะ” แทมินพูดออกมาพลางฝืนยิ้มให้คนตรงหน้า
“อืมม ก็ที่แบบนี้ กับคนอย่างพี่ เหมาะสมกันออกจะตาย”
“เฮ้ จงฮยอน มากอดให้หายคิดถึงหน่อยสิ” ร่างบางในชุดแฟชั่นทันสมัย ที่อยู่ๆก็ตรงมานั่งบนตักจงฮยอน ทำเอาแทมินที่นั่งฝั่งตรงข้ามได้แต่กระพริบตามองความสนิทสนมที่อยู่รอบตัวของทั้งคู่
ร่างบางบนตักสะบัดหน้าน้อยๆราวกับไม่พอใจอะไรสักอย่าง แต่อยู่ๆริมฝีปากสวยก็คลี่ยิ้มกว้างออกมาทันทีเมื่อจงฮยอนกระซิบอะไรสักอย่างข้างใบหู แทมินนั่งตัวแข็งทื่อ ก่อนจะเบิกตากว้างกับภาพของทั้งสองคนที่ประกบริมฝีปากเข้าหากัน
“โกโก้ปั่นครับ เอ่อ นั่น มันเตกีลานะครับคุณ คุณครับ”
“แทมิน นายทำอะไร รู้รึเปล่าว่าเตกีลามันแรงแค่ไหน” จงฮยอนรีบลุกจากโซฟาทันที เมื่อเห็นเตกีลาช๊อตที่ 2 กำลังถูกกรอกเข้าปากรวดเดียว ตามช๊อตแรกไปติดๆ
เสียงทุ้มที่กำลังเอ่ย ฟังยังไงก็ไม่เห็นจะเข้าหัวเลยสักนิด แทมินจ้องใบหน้าคมที่เหมือนจะเริ่มลอยเคว้งไปมา
เหล้ามันทำให้มึนได้ขนาดนี้ ร่างบางเองก็เพิ่งรู้
แทมินยิ้มน้อยๆออกมา ในหัวที่จำได้ขึ้นใจ คือภาพี่จงฮยอนจูบกับผู้หญิงนั่น
กินเหล้าให้เมา เมาแล้วก็ลืม
ยังจำได้ว่าเคยได้ยินประโยคแบบนี้บ่อยๆ แต่ทำไมภาพยังชัดเจนขนาดนี้ หรือว่าเขายังไม่เมา
“เทียร่า ผมขอตัวก่อนนะ”
“มีอะไรหรอจงฮยอน”
“ผมมากับเด็กคนนี้นะ” สั่งลาอีกคน ก่อนจะสะกิดคนตัวเล็กที่นั่งยิ้มแปร่งส่งให้เขา
“แทมินพี่จะไปส่งที่บ้าน กลับบ้านเดี๋ยวนี้” คำพูดคงจงฮยอนได้รับเพียงดวงตาหวานซึ้งของอีกคนมองตอบอย่างไม่เข้าใจ
แล้วในไม่ช้าฤทธิ์ของแอลกอฮอล์ที่เพิ่งจะลิ้มรสก็พากันทยอยออกมา แทมินหอบหนักก่อนจะรู้ว่าหัวมันตื้อไปหมด
“นายนี่นะ ชักจะดื้อใหญ่แล้ว กินเข้าไปได้ไงกัน” จงฮยอนบ่นออกไป พร้อมกับที่มือหนาก็คอยลูบหลังให้คนตัวเล็กกว่า
หลังจากอ้วกจนแทบตัวโยน จงฮยอนก็พยายามดึงให้คนตัวเล็กตามไปที่รถ แต่จนแล้วจนรอดก็ออกไปไหนไม่ได้ และดูเหมือนว่าแทมินจะสร้างความปั่นป่วนให้กับคนข้างตัวต้องปวดหัว จนในที่สุดจงฮยอนจำต้องเปิดห้องค้างที่นี่
ก็แค่รอ รอจนกว่าคนตัวเล็กนี่จะมีสติขึ้นมากกว่านี้
จงฮยองพยุงคนตัวเล็กที่เดินเซไปทางนั่นทีทางนี้จนมาถึงห้องพัก มือหนาจัดการเปิดห้อง ก่อนจะเริ่มดึงคนตัวเล็กเข้ามาด้วย จงฮยอนพาแทมินไปยังเตียงกว้างที่ตั้งเด่นกลางห้อง พร้อมกับจัดการให้คนตัวเล็กนอนได้อย่างสบายตัว แต่ทันทีที่จงฮยอนจะออกจากบริเวณเตียง มือเล็กก็คว้าโอบรอบคออีกคนเอาไว้ไม่ให้ไปไหน พร้อมกับที่ดวงตาปรือปรอยช้อนมองคนตรงหน้า จงฮยอนสบดวงตากลมโตที่ไม่เข้าใจความหมายก่อนจะพยายามละตัวออกห่าง แล้วนั่นก็ทำให้คนตัวเล็กต้องออกแรงดึงคนตรงหน้ามากขึ้น จนล่างกายช่วงบนเซซบลงกับไหล่ลาดเล็ก แทมินคลายมือออกจากเรียวคอ ก่อนจะขยับมาโอบร่างกายของคนที่ทับตัวเองเอาไว้แน่น
“ผม รักพี่นะครับ พี่จงฮยอน ผมรักพี่จริงๆ” ถ่อยคำรักผสมปนเปกับเสียงสะอื้นที่ไล่คลอเคลียอยู่ข้างหู ทำให้จงฮยอนรีบผละร่างกายออกห่าง ดวงตาคมมองดวงตาคู่สวยที่คลอเคล้าด้วยประกายจากน้ำ จ้องมองคนตรงหน้าอยู่อย่างนั้น กว่าจะรู้ตัวอีกที ความรู้สึกอ่อนนุ่มก็ทาบทับลงกับริมฝีปาก ความหอมหวานที่แทรกซึมเข้ามาพร้อมกับความเศร้าที่บีบเค้นหัวใจจากคนตรงหน้า ส่งถึงผู้รับอย่างจงฮยอนได้เป็นอย่างดี ยิ่งร่างเล็กแนบชิดในรสสัมผัสมากเท่าไหร่ จงฮยอนก็เหมือนจะรับรู้สิ่งที่อัดอั้นอยู่ในตัวแทมินมากขึ้นเท่านั้น เรียวปากบางอ้อยอิ่งอยู่กับปากได้รูปของอีกคน ดวงตาคมมองใบหน้าที่ชิดใกล้ ก่อนจะหลับตานิ่ง ไม่กล้าที่จะขยับร่างกลาย หรือแม้กระทั่งจูบตอบอีกคน
แพขนตาสวยที่ชื้นแฉะไม่แพ้กับผิวแก้ม ภาพที่ทำให้ปิดตาลงยังวนอยู่ในสมองไม่ไปไหน
มือเล็กเอื้อมสัมผัสกระดุมเม็ดบนสุดของคนตรงหน้า ก่อนที่จะปลดรั้งกระดุมให้หลุดออก และเลื่อนมือต่ำลงมายังเม็ดที่อยู่ถัดไป
“แทมิน นาย...จะทำอะไร” สติที่พอมีอยู่ ทำให้จงฮยอนรับรู้ถึงสถานการณ์ที่เริ่มแปลกไป ร่างกายล่ะจากความแนบชิด ก่อนจะนั่งนิ่งสบมองแววตาของอีกคน
“พี่ ว่าผมง่ายรึเปล่าฮะ” ร่างเล็กลุกนั่ง พร้อมกับคำถามที่ทำให้อีกคนต้องขมวดคิ้ว
“นายเมามากเกินไปแล้วแทมิน” เสียงแข็งเอ่ยบอกอีกคน จงฮยอนไม่รู้ว่าสิ่งที่คนตัวเล็กทำอยู่มันเป็นเพราะปัญหาที่รุมเร้าอยู่ในอก หรือเพราะว่าฤทธิ์ของแอลกอฮอล์เป็นต้นเหตุ
“ผม ไม่ได้เมาฮะ ผมรู้ว่าผมกำลังทำอะไร”
“นายรู้ ว่าการกระทำของนายที่แสดงออกมา มันเรียกยั่ว ใช่แบบนั้นรึเปล่าแทมิน”
“ฮะ ผมคง...กำลังทำแบบนั้น”
“อย่างนั้นสินะ” คำตอบที่หลุดจากปากแทมิน ทำให้จงฮยอนรู้สึกไม่พอใจ ดวงตาคมจ้องคนตัวบางที่เม้มริมฝีปากเข้าหากันแน่น ก่อนจะใช้มือโอบร่างกายของอีกคนแนบชิดตัว เรียวปากหนักแตะสัมผัสไปทั่วเรียวคอขาว ทั้งหมดไม่ได้เกิดจากความต้องการ จงฮยอนแค่อยากสั่งสอนเด็กที่ดูจะดื้อมากเกินไปเท่านั้น
รอยดูดเม้มฉาบเรื่อบนผิวเนื้อสวย แทมินตัวสั่นน้อยๆภายใต้ความแนบชิดจากร่างจงฮยอน มือหนาที่ไล่สะเปะสะเปะรอบแผ่นหลังบาง ทำให้ร่างเล็กแทบจะต้องกลั้นหายใจ
แทมินตอนนี้ไม่ได้ต่างจากตุ๊กตา ร่างบางยอมให้คนตรงหน้าทำทุกอย่างที่พอใจ ฝ่ามือร้อนเลื้อยสัมผัสใต้ผืนผ้า พร้อมกับที่เรียวปากหนาแนบสนิทลงบนกลีบปากนุ่ม ความชำนาญจากรสจูบที่จงฮยอนสร้างทำให้ร่างบางแทบจะตั้งรับไม่ไหว ใบหน้าหวานพยายามล่ะออกเพื่อหาอากาศหายใจ ก่อนจะถูกดึงรั้งเข้าไปรับสัมผัสลึกซึ้งที่ชัดเจนมากกว่าเดิม
ต่อให้ไร้เดียงสาแค่ไหน แทมินก็สัมผัสได้อยู่ดีว่ารสจูบแบบนี้หมายถึงอะไร
จูบที่ทำให้เขาละลายไปกับผู้สร้าง
จงฮยอนกำลังกลืนกินเขาทั้งตัวและหัวใจ
รู้สึกตัวอีกทีก็รู้ว่าเสื้อที่สวมใสหลุดออกจากตัวไปแล้ว แผ่นหลังบางค่อยไล่ติดลงกับฝูกหนา ตามด้วยร่างกายอีกคนที่โน้มตัวลงมาติดๆ
“พะ พี่ จงฮยอน ฮะ พี่ สัญญากับผมได้ไหม” กลัว...ปฏิเสธยังไงก็ไม่สามารถต่อต้านความรู้สึกตอนนี้ได้ ต่อให้คนตรงหน้าคือจงฮยอน คนที่เขาคิดว่าจะยอมให้ทุกอย่าง
“...” น้ำเสียงทั้งสั่นทั้งกลัวที่หลุดจากเรียวปาก ทำให้จงฮยอนต้องสบตากับคนพูด
“ต่อจากนี้ พี่อย่าไล่ผมอีกเลย สะ สัญญากับผมนะครับ” นิ้วก้อยเล็กๆที่สั่นไม่แพ้น้ำเสียงอยู่ในกรอบตาของจงฮยอนพอดี ดวงตาคมเมินหนีนิ้วเล็กนั่น ก่อนจะลุกออกจากเตียงและโยนเสื้อที่ยับยู่บนพื้นให้กับเจ้าของ
“เสื้อของนาย ใส่ให้เรียบร้อยซะแทมิน” จงฮยอนเอ่ยบอกทั้งที่ไม่มองอีกคน เรียวขาก้าวพาตัวเองไปยังตู้เย็น ก่อนจะคว้าเอาเบียร์กระป๋องออกมา และเดินออกไปยังระเบียง
แทมินกระชับเสื้อตัวเองเข้ากับตัว ดวงตาเศร้าเอ่อด้วยน้ำใส แผ่นหลังจงฮยอนที่อยู่ไม่ไกลสายตากำลังเบลอจนแทบมองไม่เห็น นิ้วบางยกขึ้นเกลี่ยม่านน้ำตาผืนหน้าออก ก่อนจะพาร่างกายที่แทบจะยืนไม่ไหวไปหาอีกคน
“พี่จงฮยอนฮ่ะ ผม ขอพี่มากไป......อย่างนั้นหรอฮะ”
“...”
“กระทั่งร่างกาย ก็ไม่มีค่าพอที่จะแลกกับคำสัญญ....” เสียงพูดขาดหายพร้อมกับเสียงล้มตึง จงฮยอนทิ้งกระป๋องเบียร์ที่ค่อนไปแล้วกว่าครึ่งกระป๋องมาหาร่างที่หมดสติ
แทมินกลับมาอยู่บนเตียงอีกครั้งด้วยฝีมือของจงฮยอน ผ้าชุบน้ำผืนบางเช็ดไล่ตามไรผมที่เปียกชื้นไปด้วยเม็ดเหงื่อ ก่อนจะมาเช็ดตามลำคอที่ยังมีร่องรอยสีชมพูจางๆตัดกับผิว จงฮยอนถอนหายใจออกมา ก่อนจะลุกนำผ้าไปเก็บ
“พี่ จงฮยอน”
“พี่ จงฮยอน” เสียงเอ่ยเรียกทำให้คนเป็นเจ้าของชื่อต้องเดินเข้าไปหา ก่อนจะจับมือของอีกคนเอาไว้
“พี่อยู่นี่นะแทมิน” คนที่ปัดป่ายมือไปทั่วหยุดนิ่งลง มือบางเกาะกุมมือหนาของอีกคนแน่น
“อย่า อย่า ไล่กันอีกเลยนะ อย่าไล่กันเลย” เสียงหวานเอ่ยบอกเบาๆก่อนจะนิ่งเงียบไป
--------------------------PPLight-----------------------------
กลับมาอีกครั้ง
จงฮยอนจะทำไงต่อดีหว่า ? มีคนว่าเป็ดใจร้ายเยอะเลย สงสารเป็ดนะเนี่ย
ฟิคใหม่ของเค้าอย่าลืมไปอ่านกันล่ะ 555+ ว่าเเต่จะมีบ้างเปล่าเนี่ย
กระซิบบอก คนเขียนตั้งใจกันมากจริงๆนะ หุ หุ
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

สงสารแทมิน เฮ้อ
ถ้านายรักก็บอกน้องไป
แทม นายต้องอดทน รอคำตอบนะ เพื่อนายจะได้ตัดสินใจ
เป็ดรีบๆรู้ตัวซะทีดิ ว่าตัวเองคิดยังไงกะแทมิน
สงสารแทม
เฮียจง หน้าเตะ ชิ ๆ
สงสารแทมินอ่าT^T
เป็ดใจร้าย
จงโอป้า!! แกก็ใจร้ายเกินไปแล้วนะ!!!!!! -*-
หนักใจแทนจงจริง~
เป็นไงล่ะแกฮีโร่สมใจอยากมั้ยล่ะ
จากแฟน(คลับ) อิอิ
สู้ต่อไปนะ แทมิน
ไม่เข้าใจอ่ะ ไม่รักแทมแล้วไง
บอกว่าอย่าทำร้ายใจ อย่าทำร้ายตัวแทม
สงสารอ่าๆๆๆๆ หวานสู้มินคีย์ยังไม่ได้น่ะเออ >
น่าสงสารพี่แทมอ่ะพี่จงใจร้ายเกินไปแล้ว
ทำไมทำแบบนี้แทนที่จะมีความสุขแบบคู่มินคีย์มั่ง
ดั๊น~ไม่เอา
สงสารแทมสุดๆเลย
จงทำไมนายทำแบบนี้
ตอนหลังสงสัยอิเป็ดต้องตามง้อน้องเห็ดอย่างแรงแน่ๆ !!