ตอนที่ 20 : Chapter 15
Chapter 15
แสงไฟหลากสีของสถานที่ ที่ถูกเรียกว่าไนต์คลับ ปรากฏร่างของเด็กหนุ่มที่ใบหน้าชวนฝันของทั้งสาวเล็กสาวใหญ่หลายคน กำลังนั่งหมุนแก้วที่บรรจุเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ไปมา ดวงตาจับจ้องที่นาฬิกาข้อมืออยู่หลายครั้งทั้งๆ ที่เลยเวลานัดมานานพอดู แต่ก็ยังไม่พบกับเพื่อนตัวดีที่เป็นคนนัดเขาออกมา
“อะ อนยูนี่นา” ละสายตาจากนาฬิกาข้อมือราคาแพงหันไปตามเสียงที่เอ่ยเรียกก่อนจะวาดยิ้มขึ้นใบหน้าขาว
“สวัสดีครับ พี่เอริ” เอ่ยทักทายกับหญิงสาวที่มีอายุมากกว่าตรงหน้าด้วยความคุ้นเคย อนยูจำพี่เอริได้ดี เพราะมีพี่สาวไม่กี่คนนักหรอกที่จงฮยอนจะคบได้นาน
“ว้า~ มาคนเดียวหรือนี่ วายร้ายจงฮยอนไปไหนซะล่ะ” เอริเอ่ยทักพร้อมกับนั่งลงที่เก้าอี้ว่างข้างอนยู
“เดี๋ยวก็ตามมาฮะ มันคงออกเดตเพลินไปหน่อย” อนยูเอ่ยออกไปด้วยรอยยิ้ม เขาสามารถพูดเรื่องของจงฮยอนทั้งดีและไม่ดีกับคนตรงหน้าได้แบบสบายๆ ทั้งนี้เพราะพี่เอริเองก็รู้จักนิสัยของจงฮยอนดีไม่แพ้กับเขา
“นี่อนยูรู้ไหม ว่าวายร้ายสุดเลิฟของพี่มันปล่อยให้พี่รออยู่ที่สนามบินตั้งนาน พอโทรไปหาปรากฏว่าลืม ก่อนหน้านี่ละสัญญาซะดิบดีว่าเดี๋ยวตอนพี่กลับจากญี่ปุ่น ผมจะไปรับพี่กลับบ้าน” เอริจีบปากจีบคอบ่นแต่ถึงอย่างนั้นก็ดูเป็นการประชดประชังเสียมากกว่า อนยูที่อยู่ข้างๆ ก็ได้แต่นั่งหัวเราะเบาๆ ในท่าทางของร่างบาง
นั่งคุยเรื่อยเปื่อยกันได้สักพักดวงตาคู่สวยของหญิงสาวก็เห็นจงฮยอนกำลังเดินตรงมา แต่เหมือนว่าอีกคนยังไม่เห็นว่าเขานั้นอยู่ทางนี้ ด้วยความนึกสนุกอยากแกล้งจอมเจ้าชู้ทำให้หญิงสาวเอ่ยขอความช่วยเหลือจากอนยู
“อนยูขอพี่นั่งตักนายหน่อยนะ” เอริเอ่ยออกไป อนยูได้แต่เบิกตากว้างถึงความไม่เข้าใจคนตรงหน้า แต่ยังไม่ทันจะเอ่ยปากพูดอะไร ร่างบางก็กระโดดขึ้นมานั่งที่ตักเสียแล้ว แถมยังใช้แขนโอบรอบคอของตัวเองอีก
“พะพี่เอริ” อนยูพูดทั้งๆ ที่ไม่หันไปสบตา
“แป๊ปเดียวเองน่า นะ นะ จุ๊บ” อนยูได้ยินเสียงกระซิบข้างหูไม่ทันไรก็รู้สึกถึงบางสิ่งบางอย่างกระทบที่ผิวแก้ม
“เห้ย!!พี่เอริ ไออน” ยังไม่ทันได้ตั้งตัวทั้งอนยูและเอริก็ถูกกระชากตัวออกจากกันด้วยแรงของคนที่เพิ่งเข้ามาใหม่
“อนยูทำบ้าอะไรวะ พี่ก็ด้วยอีกคน” จงฮยอนหันไปตวาดทั้งกิ๊กทั้งเพื่อนสนิทในเวลาไล่เลี่ยกัน
“จงฮยอนพี่แค่ จุ๊บๆ เพื่อนนายเองนะ” เอริพูดพลางทำหน้าเหมือนว่ามันไม่ได้มีอะไรเกิดขึ้น แต่กับจงฮยอนแล้วเขากับรู้สึกไม่ชอบใจ คงเป็นเพราะอีกฝ่ายก็ คู่เดท อีกคนก็เพื่อนสนิท
“อนยูคอยดู ชั้นจะฟ้องซองมิน”ยื่นคำขาดที่น่ากลัวส่งให้อนยู
“พี่เอริพี่เคลียร์เลยนะ” อนยูร้อนลนกับคำพูดของจงฮยอนไม่น้อย เพราะที่ผ่านมาความสัมพันธ์ของเขาและซองมินก็ลุ่มๆ ดอนๆ อยู่แล้ว
“ใครกันล่ะซองมิน” หญิงสาวลอยหน้าลอยตาถามและดูเหมือนว่าไม่ได้ทุกข์ร้อนกับเรื่องที่เกิดขึ้นเลยสักนิด อนยูเองก็เริ่มเหนื่อยใจก่อนจะหาเรื่องมาเปิดประเด็นใหม่
“พี่เอริรู้ปะว่าเดี๋ยวนี้ไอจงมันจะกินเด็ก” อนยูพูดออกไปก่อนจะหันไปหาจงฮยอนด้วยท่าทางกวนๆ
“พูดมากไปไหม คุณเพื่อนสนิท” จงฮยอนพูดเสียงเหี้ยมเข้าให้
“เรื่องจริงหรอจงฮยอน” เอริถามพลางมองหน้าจงฮยอน เจ้าของชื่อเองก็ไม่รู้ว่าจะพูดอย่างไรดีก็เลยนิ่งเงียบ แต่ดูเหมือนอนยูจะเห็นเป็นประเด็นที่น่าสนุกถึงได้ต่อเรื่องขึ้นอีก
“ที่มันมาช้าก็เพราะเดทกับเด็กนี่แหละ”
“ว้าว~ เกิดอะไรขึ้นเนี่ย รสนิยมนายเปลี่ยนไปแทะเล็มหญ้าอ่อนตั้งแต่เมื่อไหร่กัน” หญิงสาวแปลกใจไม่น้อยที่เรื่องทั้งหมดที่อนยูพูดดูจะเป็นเรื่องจริง
“แก้เซ็งไปวันๆ” จงฮยอนพูดออกไปเพราะดูเหมือนค่ำคืนนี้เขาคงต้องรายงานเรื่องชีวิตให้กับคู่เดทที่คบกันนานจนจะเปลี่ยนมาเป็นพี่สาวแท้ๆ ของเขา
“เป็นไงๆ น่ารักป่ะ ได้กันรึยัง”
“จะบ้าหรอพี่ มาดงมาได้อะไรกัน” จงฮยอนหันไปทำหน้าแปลกๆ ส่งให้เอริ
“จงฮยอนของชั้นเป็นคนแบบนี้ไปตั้งแต่เมื่อไรเนี่ย”
“คบกับเด็กต้องค่อยๆ เป็นค่อยๆ ไป แต่ตอนนี้ผมเริ่มเบื่อแล้วล่ะ” อนยูแทบไม่เชื่อคำพูดของจงฮยอนที่บอกว่าเบื่อเลยอดไม่ได้ที่จะเอ่ยถามต่อ
“ก็เห็นว่าแกเว่อร์ใส่น้องเขาไม่ขาด ทำไมเบื่อไวจังวะ”
“น้องมันน่ารักเกิน แตะนิดแตะหน่อยเขินหน้าแดง แต่จะฟัดก็ฟัดไม่ได้ เพราะน้องเห็นชั้นเป็นฮีโร่ น้องเห็นชั้นเป็นคนดี ชั้นก็เลยต้องเล่นบทคนดี แต่อย่างว่า คิม จงฮยอน ไม่ใช่คนดี” ทั้งอนยูทั้งเอริต่างก็ตั้งใจฟัง
“นี่นายดูเป็นคนดีมากเลยนะจงฮยอน รู้จักอดกลั้นเสียด้วย แสดงว่าน้องเขาต้องพิเศษกลับแกมากๆ แน่เลย” เอริพูดออกมาอนยูก็พยักหน้ารับ เห็นด้วยกับคำพูดของหญิงสาวคนเดียวในกลุ่ม
“คิดงั้นหรอฮะ แต่ผมว่ามัน เห้อ~ จะพูดไงดีล่ะ มันแปลกสำหรับผมมากนะ ถ้าจะคบกัน ผมก็จะต้องตกลงเรื่องของระยะเวลา แล้วคนที่จะคบด้วยก็มีแต่คนที่อายุมากกว่า แต่กับแทมินแล้วไม่ใช่ ไม่ใช่ในทุกเรื่องเลย แทมินหลอกง่ายจะตายไม่มีทางทันผมสักเรื่อง อายุก็น้อย เป็นเด็กนิสัยดีด้วย แถมดูก็รู้ว่าต้องชอบผมมากๆ ผมไม่น่าไปรู้จักคนแบบนี้เลย”
“ถึงเวลาแล้วที่แกต้องเปลี่ยนนิสัยตัวเองเพื่อคนสักคน” อนยูพูดพลางแตะบ่าจงฮยอน แต่เจ้าของใบหน้าคมกับยกยิ้มก่อนส่ายหัวเป็นเชิงไม่เห็นด้วย
“คนๆนั้นคงไม่ใช่แทมิน”
หลังจากที่งานเสร็จสิ้นมินโฮก็โดนพวกพี่ๆ ทีมงานลากตัวมายังไนต์คลับ ร่างสูงจะปฏิเสธก็ดูเหมือนเป็นการเสียมารยาทเพราะดูจากสีหน้าของทุกคนแล้วกำลังบ่งบอกถึงความสุขและต้องการเลี้ยงฉลอง ถ้าปกติเขาก็คงดื่มแบบไม่ต้องคิดอะไรแต่ครั้งนี้คงไม่ใช่
“นี่ดื่มเยอะๆ หน่อยสิ” มินโฮฟังคำๆนี้มาไม่รู้กี่รอบต่อกี่รอบ แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้สักครั้ง ในใจก็อยากที่จะกลับบ้านไวๆ เพราะรู้สึกเป็นห่วงคนที่คอยทำอาหารเย็นให้ทุกวัน ป่านนี้แล้วก็คงยังไม่ได้ทานข้าวเพราะคงตั้งนั่งรอตัวเอง จะโทรบอกให้ทานข้าวแล้วกลับไปก่อนก็ไม่ได้ เพราะโทรศัพท์ที่ว่าก็ดันลืมทิ้งไว้ที่ห้อง
“นี่ๆ งานใหม่ ผู้จัดการนายรับไว้ให้แล้ว งานง่ายๆ ได้เที่ยวค้างคืนด้วย เออ จะเอาเพื่อนไปด้วยก็ได้นะ รายละเอียดอยู่นี่หมดแล้ว” มินโฮรับฟังก่อนจะรับซองสีน้ำตาลมาไว้ในมือ อดแปลกใจอยู่เหมือนกันว่าทำไมผู้จัดการถึงรับงานโดยไม่ปรึกษาเขาก่อน หรือเพราะงานที่ว่าเป็นงานง่ายๆอย่างที่คนตรงหน้าเอ่ยปากบอกเขา
ดื่มต่อได้สักพักมินโฮก็ขอตัวมาห้องน้ำ ขากลับออกมาก็พบกับเจ้าของใบหน้าที่แค่เห็นก็พาลให้เกิดอารมณ์เดือดดาลยืนมองเขาอยู่ แต่ด้วยสถานที่ที่มีคนพลุกพล่านแล้วคงไม่เหมาะที่จะมาหาเรื่องกันตอนนี้ มินโฮเลยเลือกที่จะเดินกลับมาที่โต๊ะแล้วทำเสียว่าก่อนหน้านี้ไม่ได้พบปะกัน
“เฮ้ยไอหล่อนั่นมันเมินแกว่ะ” อนยูยกยิ้มก่อนจะพูดกับจงฮยอน ใบหน้าของจงฮยอนในตอนนี้ดูเหมือนกำลังครุ่นคิดอะไรสักอย่าง
“หาอะไรทำหนุกๆดีกว่า ไออนแกรู้จักเจ้าของที่นี่ใช่มั้ย ไปขอยาอย่างว่ามาให้หน่อยดิ” จงฮยอนออกคำสั่งอนยูที่ยังไม่ค่อยรู้อะไรแต่ก็เดินเข้าไปขอยาจากเจ้าของที่นี่ทันที
หลังจากที่อนยูเดินไปขอยากลับมา จงฮยอนก็เดินกลับมายังโต๊ะ ความคิดเจ้าเล่ห์ทุกอย่างประมวลผลหลังจากเห็นหน้ามินโฮไม่ถึงห้านาทีก็จบลง
“พี่เอริรู้จัก ชเว มินโฮ มั้ย” จงฮยอนถามออกไปด้วยน้ำเสียงราบเรียบ หญิงสาวที่กำลังดื่มไวน์อยู่หันมาพยักหน้าด้วยรอยยิ้ม
“รู้จักสิดังขนาดนั้น” สิ้นสุดคำตอบของจงฮยอนอนยูก็เดินมาถึงโต๊ะพอดี จงฮยอนเอ่ยกระซิบกับอนยูว่าต้องการจะทำอะไรโดยไม่ให้ร่างบางที่นั่งจิบไวน์ด้วยผ่อนคลายนั่นรู้
“มันไม่แรงไปหรอ อนาคตมอดเลยนะนั่น” อนยูรู้สึกว่าแผนการของจงฮยอนมันดูแรงเกินไปเลยเอ่ยออกมา
“ตามนี้และกัน พี่เอริตะกี้ผมเจอมินโฮพี่ควรไปถ่ายรูปกับเขาแล้วเอาไว้อวดเพื่อนนะ”จงฮยอนกระซิบบอกไปในประโยคแรก ก่อนจะหันมาพูดกับหญิงสาว แล้วดูเหมือนว่าพี่เอริที่กำลังว่างๆ ไม่มีอะไรทำก็เห็นด้วยในคำพูดของคนตรงหน้า
จงฮยอนชี้ไปในทิศทางที่มินโฮนั่งอยู่ หญิงสาวพยักหน้าและออกเดินไปพร้อมกับจงฮยอน และนั่นก็เป็นช่วงเวลาเดียวกับที่หญิงสาวรูปร่างเพรียวกำลังเดินกลับออกมาจากฝั่งที่เป็นห้องน้ำ จงฮยอนจำได้ดีว่าคนๆ นั้นนั่งเก้าอี้ตัวข้างๆ กับมินโฮ ไม่รอช้าที่คนเจ้าเล่ห์จะเข้าไปดักทางเอาไว้ไม่ให้มาถึงโต๊ะได้ อนยูมองตามเอริที่ตอนนี้พามินโฮและผู้ชายตัวใหญ่ไปยังใกล้ๆ ทางออกซึ่งมีแสงไฟสว่างกว่าตรงเมื่อครู่เพื่อถ่ายรูป ส่วนจงฮยอนก็กันหญิงสาวเอาไว้ไม่ให้กลับไปที่โต๊ะดังเดิมได้ เมื่อเห็นว่าบนโต๊ะนั้นทางสะดวกอนยูก็รีบตรงเข้าไปทันที ผงสีขาวถูกเทลงในแก้วที่เต็มไปด้วยน้ำสีอำพันที่เป็นของมินโฮโดยที่จงฮยอนได้บอกไว้ ก่อนจะยกแก้วขึ้นหมุนให้สิ่งที่ใส่ลงไปหลอมรวมกันกับน้ำ เมื่อทุกอย่างเสร็จสิ้นอนยูก็เดินไปทางจงฮยอน เอื้อมมือสะกิดเพื่อนที่หลังโดยไม่ให้หญิงสาวตรงหน้าเห็นก่อนจะเดินกลับมาที่โต๊ะ
ที่เหลือก็แค่รอเวลา
จงฮยอนมองมินโฮที่ในตอนนี้กลับมานั่งที่โต๊ะแล้ว ร่างสูงตรงหน้าเอาแต่จับๆจ้องๆอยู่กับนาฬิกาที่ข้อมือ สักพักต่อมาก็จิบแก้วเหล้าดื่มนิดหน่อย ก่อนจะยกขึ้นดื่มอีกครั้งโดยชนแก้วกับผู้หญิงที่ตัวเองคุยด้วยเมื่อครู่ แต่ครั้งนี้เป็นการดื่มรวดเดียวหมดแก้ว
“เมื่อไหร่มันจะออกฤทธิ์ว่ะ” จงฮยอนหันมาถามอนยู ก่อนจะเห็นดวงตาหรี่เล็กของเพื่อนเบิกโตขึ้น
“ลุกแล้วๆ มันออกจากโต๊ะแล้ว” หันไปตามที่อนยูบอกก็พบว่ามินโฮลุกออกจากโต๊ะและกำลังตรงไปที่ประตูทางออก
“อนยูแกไปเอารถรอเลย เดี๋ยวชั้นจะเดินตามมัน” ว่าจบอนยูก็ลุกทันที จงฮยอนเร่งฝีเท้าตามมินโฮมาเรื่อยๆ ก็เห็นมินโฮหยุดทักทายกับผู้หญิงที่วิ่งเข้าพูดคุยตลอดทางด้วยท่าทางที่ปกติ จงฮยอนเลยได้แต่เฝ้ารอการออกฤทธิ์ของยา แต่จนแล้วจนรอดก็ดูเหมือนว่ายาที่มินโฮได้รับไปไม่ออกฤทธิ์เสียที
มินโฮเดินออกมาถึงนอกร้านก่อนจะเดินไปยังรถที่ตัวเองจอดทิ้งไว้ ส่วนจงฮยอนก็ขึ้นรถของอนยูที่จอดรออยู่ก่อนแล้วทันที
“ทำไมมันถึงออกมาคนเดียววะ” อดไม่ได้ที่จะถามจงฮยอนออกไป
“มีอยู่ 2 ทาง ยาเสื่อม ไม่ก็มันตายด้าน”
“แล้วจะเอาไงต่อ จะตามมันมั้ย” อนยูถามออกไปก่อนจะหันไปมองใบหน้าเซ็งแซ่ของเพื่อน
“ตามไปก่อน บางทีมันอาจจะโทรนัดนางแบบสักคน หรือเก็บเด็กบริการข้างทางไปที่คอนโดมันก็ได้” จบคำพูดของจงฮยอนอนยูก็ขับตามรถของมินโฮออกไป มินโฮขับรถค่อนข้างเร็วพอสมควรส่งผมให้รถที่ขับตามก็ต้องเคลื่อนตัวเร็วไปด้วย ไม่มีการจอดแวะข้างทางอย่างที่จงฮยอนคิดในตอนแรก จวบจนกระทั่งถึงคอนโดก็ดูเหมือนว่ามินโฮจะไม่ได้นัดใครเอาไว้เลย
“แผนชั้นวางไว้ดิบดีกะว่าจะได้ข่าวนายแบบหนุ่มร้อนแรงขยี้สาวกลางผับหรู หรือไม่ก็นายแบบหนุ่มมาแรงควงสาวเข้าโรงแรมไปเสวยสุข สุดท้ายดันมาตายเพราะยาเสื่อมซะงั้น” คิ้วคมที่ประดับอยู่บนใบหน้าขมวดเข้าหากันอย่างไม่พอใจที่แผนทั้งหมดได้พังลง
“หรือว่ายามันยังไม่ออกฤทธิ์วะ” อนยูเอ่ยถามคนที่ดูท่าทางหัวเสียสุดๆ
“งั้นก็ขอให้มันรีบๆ ออกและกัน คงทรมานไม่น้อยล่ะถ้าไม่มีที่ระบาย” ในเมื่ออะไรก็ไม่เป็นไปตามที่จงฮยอนคิดตั้งแต่แรก อย่างน้อยขอให้ไอคนตรงหน้ารู้สึกทรมานก็ยังดี
*****
มินโฮมองนาฬิกาข้อมือที่บอกเวลาเกือบสี่ทุ่มกว่าเข้าไปแล้ว ร่างสูงเร่งจังหวะฝีเท้าตัวเองให้มากกขึ้นจนกระทั่งถึงประตูห้อง ก่อนจะรีบเปิดประตูเข้าไป กลิ่นหอมของกับข้าวลอยมาแตะที่ปลายจมูกของ ก่อนจะมองเห็นคนตัวเล็กที่นอนหลับคาหนังสืออยู่ที่โซฟาตัวยาว มินโฮเดินเข้าไปใกล้มากขึ้น มือหนาเอื้อมหยิบหนังสือที่คีย์กอดไว้กับอกออกแล้วนำกลับไปวางไว้ที่ชั้นตามเดิม คีย์ขยับร่างกายเล็กน้อยก่อนจะรู้สึกถึงเงาที่วูบไหวอยู่ตรงหน้า พอลืมตามองเต็มสายตา ก็พบกับคนที่ตัวเองรออยู่
“มินโฮกลับมาตอนไหน” เสียงหวานเอ่ยออกไปก่อนจะมองนาฬิกาที่แขวนอยู่กับผนัง แล้วนั่นก็ทำให้ร่างเล็กร้อนรนยิ่งกว่าเดิม
“รอเดี๋ยวนะมินโฮ เราจะรีบอุ่นอาหารให้” คีย์บอกก่อนจะรีบเดินไปยังส่วนของห้องครัว มินโฮมองตามคนตัวเล็กที่ดูลนลานก่อนจะก้าวขาเดินตาม
“คีย์กินข้าวหรือยัง”
“อะ เอ่อเรารอมินโฮ” อย่างที่เขาคิดไม่มีผิด คีย์รอทานข้าวพร้อมกับเขา ทั้งที่เลยเวลาอาหารเย็นมาเกือบห้าชั่วโมง
“ไม่หิวหรือไง” มินโฮถามออกไปก่อนจะนั่งลงที่เก้าอี้ ร่างเล็กไม่ได้ตอบอะไรแต่กำลังรีบตักอาหารให้กับมินโฮ และในไม่ช้าอาหารก็ถูกยกมาวางอยู่ตรงหน้า
มินโฮไม่ได้รู้สึกหิวแต่กำลังรู้สึกแปลกๆกับร่างกายของตัวเอง อุณหภูมิในร่างกายตอนนี้มันร้อนขึ้นจนผิดปกติ แล้วไหนจะเม็ดเหงื่อเล็กที่กำลังผุดขึ้นบนใบหน้า อาการกระสับกระส่ายที่เกิดขึ้นกับตัวเองพาเจ้าตัวให้เดินมายังห้องนอน ทิ้งร่างลงบนเตียงก่อนจะถอดเสื้อเชิ้ตที่สวมใส่ออก มือหนาเอื้อมเปิดโคมไฟ พลางนึกสาเหตุของอาการร้อนวูบวาบบนเนื้อตัว
“มินโฮเป็นอะไร ไม่สบายตรงไหนรึเปล่า” คีย์ที่เห็นว่ามินโฮมีท่าทางแปลกๆตั้งแต่นั่งอยู่ที่โต๊ะอาหารเมื่อครู่ ก่อนจะเดินเข้ามาในห้องเลยอดไม่ได้ที่จะตามมาดู
“ออกไปก่อน” ตอนนี้มินโฮเข้าใจถึงอาการแปลกๆที่เกิดขึ้นกับตัวเองแล้ว ยิ่งได้กลิ่นผิวเนื้อหอมกรุ่นของคีย์ความชัดเจนก็ยิ่งชัดมากขึ้น
“มินโฮให้เราไปเอายาให้มั้ย” สิ้นสุดคำพูดของคีย์ก็ดูเหมือนความอดทนของมินโฮจะสิ้นสุดลงพร้อมกัน มือหนาฉุดร่างเล็กลงกับเตียงก่อนจะค่อมไว้ด้วยร่างของตัวเอง
“มะ มินโฮ เป็นอะไร” เสียงสั่นเทาเอ่ยถามออกไป ดวงตาที่เหมือนจะกลืนกินที่จ้องมองตัวเอง ทำให้คนตัวเล็กไม่กล้าแม้แต่จะขยับตัว
“ขอโทษ ชั้นขอโทษ มันควบคุมไม่ได้จริงๆ” คีย์ยังงงในคำพูดของมินโฮ ก่อนจะรับรู้เมื่อมือหนาไล่ปลดกระดุมเสื้อก่อนจะกระชากเมื่อรู้สึกว่าไม่ทันใจ การกระทำของมินโฮทำให้ร่างเล็กตัวสั่นเทิ้มไปหมด แต่ถึงอย่างนั้นคีย์ก็ยังพยายามดันตัวเองให้หลุดจากปราการแข็งแรงที่กักขังตัวเองไว้ ถอยตัวหนีได้ไม่เท่าไหร่มือหนาก็ฉุดร่างเล็กกลับมายังตำแหน่งเดิม พร้อมทั้งมือหนาที่ไล่สัมผัสกับกับผิวเนื้อเนียนอย่างหยาบคาย
------------PPLight------------
ใครที่เพิ่งเข้ามาอ่าน หรือรีดคนไหนมาอ่านซ้ำ
ถ้าเห็นคำผิด ขาด เกิน รบกวนบอกไรเตอร์ด้วยเน้ออออ
ปล้ำบลิง ส่งจูบให้ทุกคน -3-
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

สนุกมากเลย ฟินสุดๆๆ ทันมั้ยยยยย TT
wpoilsmith@gmail.com
สนุกมากเลย ฟินสุดๆๆ ทันมั้ยยยยย TT
wpoilsmith@gmail.com
levspring32@gmail.com
ขอบคุณจ้าาาา
Bowwi_12@hotmail.com
kaew_ka_kan@hotmail.co.th Plzz
mewmy333@gmail.com
Tak_ruknut@hotmail.com
klao_prapassarawe1234@hotmail.com
ทำไมแกทำกับชเวของฉันแบบนี้
ใจที่สุดคีย์ก็ไม่รอดใช่มั้ย
ขอเอ็นซีหน่อยนะคะ
Chutamat.choi@hotmail.com
Ooonel110@windowslive.com
ขอ nc ด้วยนะคะไรเตอร์ ขอบคุณค่ะ
^/\^ bobo_love_shinee@hotmail.com
ไรเตอร์ เค้าอยากอ่าน nc ขอหน่อย นะ นะ นะ
Ploy135@windowslive.com
แต่เพราะแกทำให้มีฉาก NC ><
ไม่รุ้ว่าทันมั้ย แต่เค้าเม้นท์ตลอดนะ TT
yabbybayyab@gmail.com
lucypuppy@hotmail.co.th
ขอ nc เค้าหน่อยน้า T^T
filmline2541@hotmail.com