ตอนที่ 16 : Chapter 11
Chapter 11
แสงแดดอ่อนในยามเช้ากระทบเข้ากับใบหน้าคมของคนตัวสูง บิดขยับร่างกายเล็กน้อยก่อนจะรู้สึกสัมผัสอุ่นๆ จากคนข้างตัว ผมเส้นเล็กประกายสีน้ำตาลกับกลิ่นหอมอ่อนๆ ที่ประทะเข้าปลายจมูกทำให้คนเพิ่งตื่นระบายยิ้มอย่างไม่รู้ตัว คนตัวเล็กขดตัวชิดกับแผ่นอกของร่างสูง อาจเป็นเพราะความเย็นจากแอร์ที่ทำให้เจ้าของร่างขาวนั้นบดเบียดกายเข้าหาทั้งที่ผ้านวมผืนหนาก็ปกคลุมร่างกายอย่างมิดชิด
มินโฮค่อยๆ ขยับตัวออกจากที่นอนแล้วเดินเข้าห้องน้ำพร้อมกับเสื้อผ้า
เมื่อธุระส่วนตัวเสร็จสิ้น ขายาวๆของคนตัวสูงก้าวไปยังโต๊ะหนังสือก่อนจะหยิบสมุดเล่มเล็กที่ใช้จดงานเป็นประจำขึ้นมาเปิดดู
ภาพถ่ายชมรมนิทรรศการ(สวนสนุก) คิ้วเข้มขมวดขึ้นเป็นปมก่อนจะนึกได้ว่าเป็นงานที่ได้มาเมื่อ 2 อาทิตย์ก่อน งานที่เขาแย่งจับฉลากเลือกสถานที่กับคนในชมรม จนได้สถานที่ออกมาว่าเป็น สวนสนุก
มือหนาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาพร้อมกับเดินออกไปนอกห้องนอน ก่อนจะกดหาเบอร์ปลายสายด้วยรอยยิ้ม
“ฮัลโหลแทมิน นี่มินโฮนะ”
(พี่มินโฮ โทรหาผมได้ไงเนี่ย) น้ำเสียงร่าเริงติดสงสัยดังลอดมาจากปลายสาย มินโฮเผลอหัวเราะขำกับน้ำเสียงของแทมินทันที
“พี่จะไปสวนสนุก ทำงานชมรมนะ”
(จริงหรอฮะ สวนสนุกหรออยากไปจัง) เสียงปลายสายดูตื่นเต้นไม่น้อย
“ก็จริงนะสิ ไปด้วยกันไหม” มินโฮเอ่ยชวนออกไป ก่อนจะได้ยินเสียงหงอยๆที่มีท่าทีว่าเสียดายจากแทมิน
(พี่มินโฮจะไปวันนี้หรอฮะ)
“ก็วันนี้ไม่มีงาน แทมินไม่ว่างหรอ” ดูจากน้ำเสียงหงอยๆ เมื่อครู่คนตัวสูงก็พอจะรู้แล้ว แต่ก็อดไม่ได้ที่จะถามออกไป
(วันนี้ผมต้องไปซื้ออุปกรณ์ทำงานกับเพื่อน เสียดายจังเลย)
“อย่างนั้นก็ช่วยไม่ได้ ว่าแต่พี่สาวนายว่างหรือเปล่าล่ะ”
(พี่มินโฮ!! ) น้ำเสียงติดตะคอกนิดๆดังลอดมาตามสาย มินโฮกลั้นหัวเราะเอาไว้ เพราะในสมองของเขาจินตนาการใบหน้าของคนปลายสายได้อย่างชัดเจน
“ทำไมล่ะ พี่สาวนายก็สวยดี ให้พี่ยืมควงบ้างไม่ได้หรือไง”
(พี่มินโฮ ผมไม่อยากให้พี่ยุ่งกับพี่เจสสิก้า)
“อะไรกันแทมิน”
(เดี๋ยวพี่จะเสียใจ ถือว่าผมขอนะ) เสียงอ่อนของแทมินเอ่ยบอก
“พี่ก็แค่พูดไปนะ ว่าแต่ทำไมเราถึงไปรู้จักคีย์” มินโฮเอ่ยถามออกไปด้วยความสงสัย ทั้งคีย์และแทมินต่างอยู่คนละคณะแถมแทมินเพิ่งจะอยู่ปี 1 คงอยากถ้าจะเจอกัน
(บังเอิญนะครับ) แทมินลือกที่จะใช้คำตอบแบบสั้นๆ
“พี่อยากให้แทมินห่างๆ คีย์นะ แทมินก็รู้นี่ว่าคีย์เป็นยังไง” ด้วยความเป็นห่วงมินโฮเลยพูดออกไป
(แต่ผมว่าพี่คีย์น่ารักดีนะครับ พี่มินโฮคิดมากไปหรือเปล่า)
“เฮ้อ~ อย่ามองโลกในแง่ดีมากเกินไป เขาอาจจะหลอกนายก็ได้”
(ฮ่าๆ งั้นผมก็ต้องเป็นคนที่มองโลกในแง่ร้ายเหมือนพี่มินโฮนะสิ) เสียงหัวเราะสดใสฟังดูก็รู้ว่าแทมินไม่ได้สนใจเรื่องที่มินโฮเอ่ยเตือนเลยแม้แต่น้อย
“พี่ไม่คุยกับนายแล้ว พี่อุตส่าห์หวังดี” พูดแค่นั้นก่อนมือหนาจะกดวางสายโทรศัพท์ ไป
มินโฮพาร่างตัวเองกับเข้ามาในห้อง บนตัวเตียงขนาดใหญ่ยังปรากฏร่างของคนที่นอนหลับไม่ตื่น
“ไปสวนสนุกกับนายอาจไม่เลวร้ายเท่าไหร่” ริมฝีปากกระตุกยิ้มก่อนจะเดินไปนั่งที่เตียง ดวงตาคมจ้องมองใบหน้ายามหลับของคีย์ ใบหน้าสวยหยิ่งที่มินโฮรู้สึกหมั่นไส้ ไม่รู้ว่าตัวเองเป็นอะไรเวลาเห็นคีย์มักจะมีความรู้สึกควบคุมตัวเองไม่อยู่ ถึงได้ทำกับคนตัวเล็กนี่ด้วยความไม่สุภาพไปตั้งหลายครั้งต่อหลายครั้ง ทั้งๆ ที่ตัวเองก็ไม่ใช่คนที่จะทำอะไรโดยไม่คิด แต่กับคีย์ ทำไปก่อนจะคิดได้เสียทุกที
“นี่ นายจะนอนไปถึงไหน” เสียงที่เอ่ยออกไปไม่ได้ดังมากมาย แต่คนที่นอนก็พอจะรู้สึกตัว คีย์ลืมตาขึ้นก็เห็นใบหน้าคมที่จ้องมองด้วยแววตาที่ดูดุๆ สองมือเล็กรีบยันตัวเองลุกขึ้นนั่งก่อนจะก้มหน้าหลบแววตาของมินโฮ
“อาบน้ำ เดี๋ยวจะพาไปข้างนอก”
ผ่านไปกว่ายี่สิบนาที คีย์กับมินโฮก็นั่งอยู่ที่รถคันหรูสีดำ ซึ่งนานๆ จะถูกนำเอาออกมาใช้ที เพราะส่วนใหญ่แล้วเจ้าตัวมักจะขับแต่เจ้าสองล้อ ที่ทั้งสะดวกและรวดเร็วเหมาะแก่ชีวิตที่เร่งรีบในแต่ละวันเสียมากกว่า
มินโฮจอดรถหน้าหอของคีย์ ก่อนจะหันไปมองคนข้างตัวที่กำลังมองอย่างสงสัย
“รีบๆไ ปเปลี่ยนเสื้อผ้าเร็ว” มินโฮพูดก่อนจะเปิดประตูรถตัวเอง คีย์เห็นดังนั้นก็รีบตามลงมา ขายาวๆของมินโฮเดินเข้าไปในตัวหอทันที
“มินโฮ รอเราที่รถเถอะนะ” เสียงพูดที่ติดจะขอร้องมินโฮไม่ได้สนใจสักนิด สองขาก้าวยาวจนไปถึงหน้าลิฟต์ ดวงตาคมหันไปสบตากับคนที่เพิ่งจะเดินมาถึง ก่อนจะสังเกตเห็นความกังวลที่ระบายอยู่เต็มใบหน้าของคีย์
“นายเก็บผู้ชายไว้ในห้องหรอ” เสียงทุ้มเอ่ยออกไป ในขณะที่คนตรงหน้าส่ายหัวเป็นคำตอบ ถึงมินโฮจะเคยมาส่งคีย์แล้ว แต่เขาก็ยังไม่เคยขึ้นไปที่ห้องของคีย์
รอลิฟต์ได้สักพัก ทั้งคีย์และมินโฮก็ได้ขึ้นระหว่างทางจนขึ้นลิฟต์มินโฮก็สังเกตบรรยากาศทั้งหมด ที่นี่ดูค่อนข้างเงียบผู้คนไม่พลุกพล่าน แถมดูแล้วเด็กที่มหาลัยคงจะอยู่ค่อนข้างเยอะทีเดียว เพราะทั้งใกล้มหาลัยแล้วก็สะดวกตรงที่ไม่มีกฎมากมายเหมือนหอใน
“เราอยู่ชั้นนี้” คีย์เดินนำออกไปเมื่อประตูลิฟต์ถูกเปิดออก มินโฮที่เดินตามแอบเห็นท่าทางเหนื่อยใจและได้ยินเสียงถอนหายใจของคีย์ออกมา
คีย์หยิบคีย์การ์ดในกระเป๋าสะพายมาเปิด แต่ดูเหมือนสายตาของมินโฮจะถูกสะกดด้วยกระดาษแผ่นเล็กหลายใบที่ถูกติดเต็มหน้าห้อง มือหนาเลือกดึงออกมาก่อนจะขมวดคิ้วยุ่ง
“หน้าไม่อาย แย่งได้กระทั่งแฟนเพื่อน”
“สารเลว มั่วไม่เลือก”
“มะ มินโฮ เข้ามารอเราในห้องก็ได้” คีย์เอ่ยเรียกมินโฮ ในขณะที่คนตัวสูงอ่านข้อความจากกระดาษใบเล็กด้วยสีหน้าไม่สบอารมณ์
“คนแบบแกตายไปซะได้ก็ดี” มินโฮอ่านข้อความที่หยิบมาแผ่นสุดท้ายก่อนจะหันไปมองคีย์ ดวงตากลมดูวูบไหวราวกับจะร้องไห้ แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังพาเขามานั่งที่โซฟาตัวเล็กติดกับทีวี
“คีย์นายเก็บไว้ทำไม ทำไมถึงไม่ดึงออก” มินโฮเอ่ยถามออกไปด้วยข้องใจ
“ถ้าเอาออกก็เอามาแปะไว้เหมือนเดิม แต่ถ้าปล่อยให้มันเต็มจนไม่มีที่แปะ เราก็ไม่ต้องอ่านข้อความใหม่ มินโฮกินน้ำผลไม้มั้ย” คีย์เอ่ยพร้อมกับยื่นแก้วน้ำผมไม้ให้กับมินโฮ คนตัวสูงรับมาก่อนจะมองตามร่างบางที่ตอนนี้หายเข้าไปในห้องน้ำแล้ว
ห้องของคีย์ดูเรียบกว่าที่มินโฮคิดไว้เยอะ ทุกอย่างภายในห้องล้วนแต่เป็นโทนสีอ่อนๆ มินโฮลุกขึ้นเดินสำรวจห้องที่มีขนาดไม่ใหญ่มาก ก่อนดวงตาตมจะสะดุดเข้ากับโต๊ะหนังสือที่มีรูปใส่กรอบไว้หลายใบ
ภาพของเด็กชายวัยประมาณห้าขวบ ที่กำลังวาดยิ้มสดใสกับหญิงชายคู่หนึ่ง มินโฮ มองดูรูปทั้งหมดที่ตั้งโชว์ ก็เห็นแต่ภาพสมัยเด็กของคีย์ที่ถ่ายกับครอบครัว
“มินโฮเราเสร็จแล้ว” เสียงที่เอ่ยเรียกจากทางด้านหลังไม่ได้ทำให้มินโฮละสายตาจากรูปที่อยู่ในมือแม้แต่น้อย ตอนนี้คีย์ได้เปลี่ยนจากชุดมหาลัยที่มาหาเขาเมื่อวานเป็นเสื้อยืดแขนยาวสีน้ำตาลกับกางเกงสีโทนเดียวกับเสื้อ
“นายเป็นลูกแหง่หรอ ถึงมีแต่รูปครอบครัวเต็มไปหมด ถ้าคิดถึงขนาดนั้นทำไมไม่อยู่กับพ่อแม่ล่ะ”
“ไม่มีแล้วละ พ่อกับแม่เรา” น้ำเสียงบางเบาติดความเศร้าจนสังเกตได้ชัด ทำให้คนที่เอ่ยถามถึงกับรู้สึกผิดทันที
“โทษที ชั้นไม่ได้ตั้งใจ” มินโฮเอ่ยขอโทษ คีย์พยักหน้ารับรู้ ก่อนจะก้าวเท้าออกจากประตู้ห้อง ทำให้มินโฮต้องเดินตามออกมา
มินโฮและคีย์ขับรถมาได้สักพักหนึ่งแล้ว แต่ทั้งรถก็มีแต่เพียงความเงียบ คีย์ไม่แม้จะเอ่ยถามว่ามินโฮจะพาตัวเองไปไหน มินโฮก็เพียงแค่แอบมองคีย์บ้างเป็นบางครั้ง
“ขอโทษ ชั้นไม่รู้ว่าพ่อแม่นาย เอ่อ” มินโฮเอ่ยขอโทษออกไปอีกครั้ง เพราะเขาเข้าใจว่าการสูญเสียคนที่ตัวเองรักมันเป็นเรื่องที่เศร้ามากแค่ไหน
“ไม่เป็นไรหรอกมินโฮ” คีย์เอ่ยออกมาก่อนจะทอดสายตาผ่านกระจก
มินโฮขับรถเข้าจอดที่ลานก่อนจะเดินออกมายังหน้าประตูโดยมีคีย์เดินตามมา เมื่อคีย์เดินใกล้เข้ามามินโฮก็ตะโกนบอกให้หยุดรอ เพราะเจ้าตัวจะไปซื้อบัตร
“ไปได้แล้ว” มินโฮเอ่ยเรียกคนตัวเล็กที่ยังหันซ้ายหันขวาไปมาไม่เลิก ก่อนจะพากันเข้าไปในสวนสนุก
“มินโฮ สวนสนุก” น้ำเสียงแปลกๆ จากคีย์ที่มินโฮไม่เคยได้ยินทำให้คนตัวสูงต้องหันกลับไปมอง ดวงตากลมของคีย์กำลังประกายความสดใสบวกกับสีหน้าตื่นๆ เป็นภาพที่มินโฮไม่เคยเห็นมาก่อน แต่มองแล้วก็ดูน่ารักดี มินโฮจึงอดระบายยิ้มขำกับภาพตรงหน้าไม่ได้ แต่คนตัวสูงเองก็แปลกใจไม่น้อยกับท่าทางที่ดูตื่นเต้นอย่างกับเด็กๆของคีย์
“ทำอย่างกลับไม่เคยมาแบบนั้นแหละ” น้ำเสียงของมินโฮติดจะยียวนนิดๆ แต่ดูเหมือนว่าคนตัวเล็กจะไม่ได้สนใจอะไร
“เราไม่เคยมาหรอก มินโฮใจดีจังเลย” คนตัวเล็กตอบก่อนจะเข้าไปจับแขนมินโฮและเขย่าเบาๆเรียวปากหยักนั้นวาดยิ้มกว้าง มินโฮมองรอยยิ้มที่คีย์ยิ้มให้ครั้งแรกด้วยความรู้สึกแปลกๆ อย่างกับว่า รอยยิ้มนั่นกำลังแกว่งหัวใจของเขาให้วูบไหว
“งะ งั้นรีบๆ ไปดูข้างในดีกว่า” มินโฮบอกก่อนจะเดินนำคีย์ออกไป คนตัวเล็กรีบเร่งฝีเท้าของตัวเองตามคนตัวสูง
ดวงตากลมมองซ้ายทีขวาทีด้วยความรู้สึกตื่นเต้นผสมปนเปกับความดีใจที่ครั้งหนึ่งเขาเคยได้มาสถานที่แห่งนี้
เดินไปได้สักพักมินโฮก็หยิบกล้องออกจากกระเป๋าเพื่อทำการบันทึกภาพในจุดต่างๆ สำหรับมินโฮแล้ว สวนสนุกมันก็ไม่ได้น่าเบื่อเสียเท่าไหร่
“คีย์รอนี่ก่อน” คีย์พยักหน้าลงช้าๆ ก่อนจะยืนมองภาพตรงหน้าด้วยประกายตาสดใส มินโฮเดินเลี่ยงมาถ่ายรูปบรรยากาศจากจุดที่คีย์ยืนไม่ไกลมากเท่าไหร่ เสียงชัดเตอร์รัวภาพต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเครื่องเล่น ผู้คน สระน้ำ กว่าสิบนาที มินโฮก็ได้ภาพเป็นที่น่าพอใจ
สองขายาวเดินกลับมายังจุดเดิม ดวงตาคมมองคนตัวเล็กที่ยังคงจับจ้องอยู่กับสิ่งเดิมโดยไม่ลดละ มินโฮมองตามสายตาคีย์ที่ทอดมองไปยังภาพตรงหน้า
บ้านขนมหวาน
“คีย์” คนตัวสูงเอ่ยเรียกออกไป แต่ดูเหมือนกับว่าคีย์จะไม่ได้ยินอะไรทั้งนั้น ดวงตาเรียวรียังคงจ้องมองสิ่งที่เรียกว่าบ้านขนมหวานไม่วางตา
“คีย์!”
“มินโฮ” คีย์สะดุ้งตัวเล็กน้อยก่อนจะหันไปเห็นคนตัวสูงที่กำลังมองตัวเองด้วยดวงตานิ่งๆ ไม่รู้ว่าตัวเองไปทำอะไรให้มินโฮโกรธหรือเปล่า คนตัวเล็กเลยได้แต่ก้มหน้าหลบสายตา
“ไปได้แล้ว” มินโฮออกเดินทำให้คีย์เองก็ต้องเดินตามอย่างเลี่ยงไม่ได้ ดวงตากลมยังคงหันกลับไปมองบ้านขนมหวานหลังใหญ่ที่มีเด็กเล็กๆ วิ่งไปมาด้วยรอยยิ้ม
“ตุ้บ!!”
“เอ่อ เราขอโทษ” คนตัวเล็กเอ่ยขอโทษทันทีที่เดินชนมินโฮเข้าอย่างจัง มินโฮเองก็ใช่ว่าจะไม่มีเหตุผมที่ตัวเองหยุดเดิน นั่นเป็นเพราะเขาหันกลับไปมองคีย์ที่เดินตามหลัง แต่ดูเหมือนคีย์จะไม่รู้เลยเพราะสายตายังคงเอาแต่จ้องบ้านขนมหวานที่เดินจากมาจนกระทั่งชนกับมินโฮ
“ชั้นคิดว่าจะเข้าไปถ่ายรูปข้างในนั่นหน่อย” มินโฮชี้เข้าไปในบ้านขนมหวานที่เพิ่งเดินผ่านมา คีย์มองตามมือของมินโฮก่อนจะยิ้มกว้างแบบเด็กๆ แล้วรีบเดินตามคนตัวสูงที่ออกเดินนำไปก่อนแล้ว เพื่อหวังว่าตัวเองจะได้เข้าไปในนั้นสักครั้ง
“คีย์นายเข้าไม่ได้นะ รอข้างนอกนี่แหละ แล้วก็อย่าแตะบ้านนี่ละ” ทันทีที่มาถึงมินโฮก็เอ่ยบอกกับคนตัวเล็ก คีย์ทำหน้าผิดหวังขึ้นมาทันทีก่อนจะพยักหน้ารับเบาๆ มินโฮให้คีย์นั่งรออยู่หน้าบ้านหลังใหญ่แล้วตัวเองก็เดินเข้าไปข้างใน
ดวงตาคมแอบมองคีย์จากด้านในตัวบ้านก่อนจะหัวเราะเสียงดังจนเด็กตัวเล็กๆ ที่เดินผ่านยังสะกิดถามด้วยความแปลกใจ
“ตรงนั้นมีอะไรหนุกๆ หรอฮะ”
“เปล่าครับพี่แค่อยากหัวเราะ” แล้วเด็กน้อยก็เดินเกาหัวจากไป
มินโฮแอบมองคีย์อีกครั้งก็เห็นว่าคนตัวเล็กลุกจากที่นั่งเมื่อครู่แล้วเดินเข้ามาใกล้ตัวบ้าน มองซ้ายทีขวาทีก่อนจะยื่นมือเล็กขึ้นแตะตัวบ้านเบาๆ แล้วรีบดึงมือกลับ มินโฮมองแล้วก็หัวเราะออกมาอีกครั้ง คนตัวสูงเห็นพฤติกรรมที่ดูจะซื่อๆ ของคีย์ที่ทำให้เขาอดหัวเราะไม่ได้ก่อนจะมาคิดได้ว่า แล้วที่ตัวเองกำลังทำอยู่นี่คือบ้าอะไร
กำลังแกล้งคนตัวเล็กนั่นอยู่ไม่ใช่หรือไง มินโฮหยิกเนื้อตัวเองแรงๆหนึ่งทีเพื่อเรียกสติ เพราะคนอย่างเขาไม่เคยทำอะไรไร้สาระแบบนี้มาก่อน แต่พอคิดได้อีกทีก็อยากจะแกล้งคนตัวเล็กนั่นขึ้นมาอีก คงเป็นเพราะท่าทางที่ไม่รู้เรื่องอะไรสักอย่างที่ทำให้อยากจะแกล้งจนห้ามความตัวเองไม่ได้
“ชั้นรู้นะว่านายนะแอบจับ” น้ำเสียงดุๆ ทำให้คีย์กลัว แต่มินโฮก็แอบยิ้มเมื่อคีย์ก้มหัวลงไปแบบที่ชอบทำบ่อยๆ
“เราแค่อยากลองแตะดู เราแตะแค่นิดเดียว” น้ำเสียงหงอยๆลอดมาตามริมฝีปากบาง
“นายอยากเข้าไปในนั้นมั้ย” มินโฮลองถามดูทั้งที่รู้ว่าคีย์อยากจะเข้าไปมากขนาดไหน
“เราเข้าได้ด้วยหรอ” ทั้งดวงตาและน้ำเสียงที่ดูตื่นเต้นมันทำให้มินโฮอยากจะหัวเราะกับความซื่อของคนตรงหน้า สงสัยว่าคีย์คงจะไม่เคยมาสวนสนุกจริงๆ
“ได้ แต่มีข้อแม้ที่ต้องทำ นายจะทำไหมล่ะ”
“ทำสิ ทำแล้วจะได้เข้าไปในนั้นใช่ไหม” มินโฮพยักหน้าให้กับคีย์เบาๆ นัยน์ตาดำขลับมองอย่างมีความหวัง
“จูบชั้นสิ ตรงนี้” คีย์เบิกตากว้างกับคำพูดของมินโฮ เขาไม่กล้าพอที่จะทำเรื่องแบบนี้แต่อีกใจก็อยากจะเข้าไปในบ้านนั่นดูสักครั้ง คีย์ขมวดคิ้วยุ่งอย่างใช้ความคิดหนัก คนตัวสูงเองก็ไม่ได้คิดว่าร่างบางตรงหน้าจะดูมีท่าทางเคร่งเครียดขนาดนี้ เพราะถึงอย่างไงแล้วเขาก็คิดว่าจะพาคีย์เข้าไปข้างในนั้นอยู่แล้ว เพียงแค่แกล้งเล่นเฉยๆ
“จูบแบบที่มินโฮจูบเรา”
“จะแบบนั้นก็ได้ จะจูบไหมล่ะ” คีย์ตีหน้าเครียดขึ้นหนักกว่าเดิม มินโฮเองก็เริ่มรู้สึกว่าคนตัวเล็กตรงหน้าดูจะจริงจังกับไอบ้านขนมหวานที่ไม่มีอะไรมากไปเสียแล้ว
“มินโฮ จะเจ็บนะ เลือดออกด้วย” คีย์พูดพร้อมกับใบหน้าที่แดงระเรื่อขึ้นพร้อมกับสายตาที่เฉไปทางอื่น
“นายก็จูบแบบที่มันไม่ต้องเจ็บสิ เลือกมาสักอย่างหนึ่ง”
“แล้วแบบไหนมันไม่เจ็บล่ะ เราเพิ่งเคยจูบกับมินโฮแบบเดียว”
“เอาแบบที่นายเคยจูบกับคนอื่นแล้วมันไม่เจ็บก็ได้”
“เราเคยจูบกับมินโฮแค่คนเดียว” สิ้นคำพูดของคีย์ มินโฮแทบไม่เชื่อหูตัวเองเสียด้วยซ้ำ
จูบกับเขาแค่คนเดียวงั้นหรอจะเป็นไปได้ยังไงกัน
“ไปเหอะๆ ชั้นไม่มีอารมณ์จะพานายเข้าไปแล้ว” มินโฮหันหน้าหนีคีย์ก่อนจะก้าวขาออกเดิน แต่ก็ต้องหยุดชะงักไว้อย่างนั้นเมื่อมือเล็กของคนด้านหลังคว้าจับมือเขาไว้แน่นทำให้คนตัวสูงต้องหันกลับไปมอง
“chu~” สัมผัสบางเบาประทับลงที่ริมฝีปากของมินโฮ ก่อนคนตัวเล็กจะรีบถอนริมฝีปากตัวเองออกมาพลางก้มหน้านิ่ง
“พาเราไปข้างในหน่อยนะ” เสียงพูดติดกระซิบเอ่ยบอกคนตัวสูง แต่มินโฮยังคงค้างนิ่งจากสัมผัสเมื่อครู่ สัมผัสที่บางเบาจนแถบจะไม่รู้สึก แต่กลับทำให้แก้มของตัวเองร้อนฉ่า
คนตัวเล็กดูตื่นเต้นไม่น้อยเมื่อได้เข้ามาในบ้านชวนฝันของเด็ก มินโฮยืนพิงผนังกำแพงพลางมองร่างบางที่เดินไปทางนู้นที ทางนี้ที หยิบจับสิ่งต่างๆ ด้วยรอยยิ้มสดใส คนตัวสูงที่เห็นพฤติกรรมต่างๆ ที่ดูยังไง ก็ไร้เดียวสาในสายตาของตัวเอง คีย์ตอนนี้ไม่ได้ต่างอะไรกับเด็กประถมเลยสักนิด ความมีทิฐิที่อยู่ภายในใจของมินโฮแทบเลือนหายไปเกือบหมดกับภาพตรงหน้า
“มินโฮๆ เก้าอี้ตรงนั้นเหมือนทำมาจากขนมปังเลย ไปดูด้วยกันนะ” เสียงฝีเท้าเล็กวิ่งใกล้เข้ามาก่อนจะตามด้วยเสียงหวานเอ่ยเรียกชื่อคน
“นายไปดูเถอะ ชั้นจะรอ” เสียงทุ้มเอ่ยตอบไป คนตัวเล็กพยักหน้ารับก่อนจะวิ่งไปชวนเด็กอายุประมาณเจ็ดขวบบริเวณนั้น ให้เดินไปดูด้วยกัน
ในหัวใจดวงเล็กตอนนี้ดูจะมีความสุขเสียเหลือเกิน ดวงตากลมจับจ้องสิ่งต่างๆที่เพิ่งเคยเห็นไปทั่ว มือเล็กไล่สัมผัสทุกสิ่งที่อยู่ภายในบ้านขนมหวาน พร้อมกับมีเพื่อนตัวน้อยสามสี่คนที่เกาะขากางเกงแน่น
“พี่จ๋า เรากินอันนี้ได้ไหม” เสียงสดใสเอ่ยถาม พลางชี้ไปที่เครื่องใช้ที่ทำมาจากช็อกโกแลต คีย์ย่อตัวลงก่อนจะมองเด็กผู้หญิงที่รอฟังคำตอบตาแป๋ว
“ทานไม่ได้นะ มันไม่ใช่ขนม” วาดรอยยิ้มให้กับเด็กเล็กตรงหน้า ก่อนจะโดนอีกคนดึงแขนเสื้อเรียก
“มีอะไรครับ” มือบางวางลงบนศีระษะเล็กเบาๆพร้อมกับเอ่ยถาม
“พี่พาผมเดินไปตรงนั้นหน่อยสิฮะ” คีย์พยักหน้าตกลงก่อนจะจูงมือเด็กชายตัวน้อย แต่ยังไม่ทันจะได้ก้าวไปไหน ก็โดนเสียงทุ้มเอ่ยเรียกซะก่อน
“คีย์ ออกไปเถอะ”
“ตะ แต่” คีย์พูดได้แค่นั้นก่อนจะหันไปสบตาเด็กตัวเล็กที่กำลังยืนล้อมหน้าล้อมหลังตัวเอง
“ชั้นให้นายเล่นมา 20 นาทีแล้วนะ” ดูเหมือนมินโฮจะยื่นคำขาดให้กับคีย์เสียแล้ว ร่างบางหันไปมองเด็กๆที่ยังคงจ้องเขาด้วยดวงตาที่เปื้อนไปด้วยรอยยิ้ม
“พี่ต้องไปแล้วละ เป็นเด็กดีกันนะ บายๆ” คีย์เอ่ยลาจากเด็กก่อนจะเดินไปหามินโฮพร้อมกับโบกมือให้ เด็กตัวเล็กต่างพากันยกมือขึ้นโบกเป็นเชิงลาคีย์ด้วยแววตาเศร้า จนคีย์เองก็ถึงกับเศร้าไปด้วย
“ทำตัวอย่างกับเด็ก นายนะปี 3 แล้วนะ” เสียงบ่นจากมินโฮ คีย์รับฟังแต่ไม่ได้พูดอะไรออกไป เท้าเล็กออกเดินตามคนตัวสูงไปเรื่อยๆ
“ชเว มินโฮ” เสียงเรียกของผู้หญิงเอ่ยมาจากทางด้านข้าง ทำให้ทั้งคีย์และมินโฮต่างก็หันมองตามกัน
“มินโฮจริงๆ ด้วยสิ ขอถ่ายรูปสักใบนะคะ” น้ำเสียงตื่นเต้นดีใจชัดเจน มินโฮทำได้แค่พยักหน้าเบาๆ เป็นเชิงตกลง
“จงฮยอนมาถ่ายรูปให้ชั้นหน่อย” มินโฮหันตามไปทางเสียงหวานก่อนจะเห็นใบหน้าคมคายที่กำลังเดินใกล้เข้ามา แล้วดูเหมือนว่าจงฮยอนเองก็จะเห็นเขาแล้วเช่นกัน ดวงตาคมของทั้งสองฝ่ายจ้องมองกันอย่างไม่ลดละ ก่อนที่รอยยิ้มเหยียดจะปรากฏที่ริมฝีปากของจงฮยอน
------------PPLight------------
ใครที่เพิ่งเข้ามาอ่าน หรือรีดคนไหนมาอ่านซ้ำ
ถ้าเห็นคำผิด ขาด เกิน รบกวนบอกไรเตอร์ด้วยเน้ออออ
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

P.S. เรื่องนี้อ่านแล้วฟินจิกเนื้่อตัวเองมากกกกกกกก อ๊ายยยยยคู่นี้น่ารักอ่ะ >/////<
คีย์เป็นคนดีเมื่อไหร่จะเข้าใจสักทีนะ
คีย์น่ารักง่าาา จะไม่ทน >\\\\<
แต่จงอย่าคิดไปยุ่งกับคีย์เชียวนะ
คีย์ดูไร้เดียงสามากๆ
อิเป็ดแกคิดจะทำอะไรอีกเนี้ย
จงฮยอนแกเลวอีกแล้ว
มินโฮเจ้าเล่ห์หลอกให้คีย์จูบ
ชวนคีย์มาสวนสนุกมาเดตกัน
จะหวานกันไปไม่เเคร์สื่อ
มินโฮอย่ามองคีย์ในเเง่ร้ายนะ
คีย์ทำไมใสซื่อแบบนี้?
น่ารักอ่าาาาาาาาา
ชอบที่คีย์พูดว่า เรา มันเพราะดีนะ
คีย์น่ารักอ่า.
มินโฮ อ่ะ ชอบแกล้ง
คีย์อ่ะ
แล้วจงน่ะมาจากไหนอีกเนี่ย
กำลังดีอยู่เลย
มินโฮนิสัยไม่ดีชอบแกล้งคีย์อยุ่เรื่อยอ่า ^^
มินโฮแผนสูง หลอกให้เค้าจุ๊บตัวเอง