ตอนที่ 13 : [SPECIAL VALENTINE] SF : MY HEART ( Minho x Key ) 2
[SPECIAL VALENTINE] SF : MY HEART 2
Couple:
By : PPLight
ภายในห้องสีขาวที่กำลังโอบรอบร่างของเด็กหนุ่มที่กำลังนอนอยู่บนเตียงขนาดใหญ่ มือหนายกขึ้นจับที่เปลือกเบาๆ ก่อนจะปล่อยให้ความตึงเครียดเข้าเกาะกุมหัวใจ
คีย์ ฉันจะได้อยู่ข้างๆนายต่อไหม
ถ้านายกับเขารักกัน...
แล้วชั้นควรจะทำอย่างไร
คนตัวสูงรู้ว่าคีย์แอบมองอนยูมานานแล้วแต่เขาก็เลือกที่จะมองข้ามไป ก็ในเมื่อคนที่คีย์ใกล้ชิดมากที่สุดในตอนนั้นเป็นตัวเขา ถึงแม้ในสายตาคีย์ คนตัวสูงอาจจะเป็นแค่ไอเด็กข้างบ้านที่ชอบทำตัววุ่นวายก็ตาม แต่ไม่ว่าคีย์จะมองเขาอย่างไร มินโฮก็ไม่เคยที่จะสนใจ
มีเพียงสิ่งเดียวที่คิดว่าสำคัญ...ขอแค่เพียงได้อยู่ข้างๆคนที่ตัวเองรักก็พอ
แต่ดูเหมือนตอนนี้
สิ่งที่กำลังกลัวมาตลอด...กำลังใกล้เข้ามา
ดวงตาคมเปิดเปลือกตาขึ้นเบาๆ มือหนาเลื่อนเปิดลิ้นชักหัวเตียง ก่อนจะหยิบกรอบรูปออกมาด้วยความทะนุถนอม
ดวงหน้าหวานที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มระบายเต็มใบหน้า ทำให้มินโฮยิ้มบางออกมาอย่างไม่รู้ตัว นิ้วเรียวยาวของคนตัวสูงไล่สัมผัสโครงหน้าของคนที่รักผ่านกระจกใสที่กั้นระหว่างรูปภาพ
คงจะมีคนที่นายรัก แล้วเขาก็รักนาย
ต่อจากนั้น...
จะเหลือก็เพียงคนหนึ่งคน...
คนที่ไม่ได้ปลอบคีย์ในเวลาที่ร้องไห้งอแงเป็นเด็กๆอีกแล้ว
คนที่ไม่ได้อยู่เป็นเพื่อนคนสุดท้ายเวลาที่ต้องทำงานให้เสร็จจนมืดค่ำ
คนที่ไม่ได้ไปโรงเรียนพร้อมกันเหมือนทุกวัน
คนที่ไม่ได้นั่งเล่นที่ร้านขายสัตว์ด้วยกันจนไปโรงเรียนสายเหมือนที่เคย.....
คนๆนั้นก็ ชเว มินโฮ คนนี้ไง
ทั้งๆที่ทุกอย่างเคยเป็นเพียงแค่ความคิด แต่ตอนนี้ดูเหมือนมันกำลังจะกลายเป็นความจริง
แล้วจะจัดการกับทุกอย่างยังไงดี
ในเมื่อหัวใจให้ไปจนไม่เหลืออะไรแล้ว
ก๊อกๆ ก๊อกๆๆ
ในนั้นมีเจ้าตัวแสบอยู่หรือเปล่า เสียงหวานคุ้นหูที่ประตูปลุกเรียกมินโฮจากความคิดทั้งหมด ก่อนที่ขายาวๆจะลุกออกจากเตียงไปเปิดประตู
อะไรละเนี่ย~ เพิ่งลุกออกจากเตียงใช่ไหม หัวฟูเป็นสิงโตแล้ว ไม่พูดเปล่า ร่างบางเขย่งปลายเท้าตัวเองขึ้นสูง ก่อนจะใช้มือเรียวสัมผัสกับเส้นผมที่ดูไม่เป็นทรงของคนตัวสูงด้วยรอยยิ้ม
มาได้ไง คำถามสั้นๆของมินโฮ ทำเอาคีย์หุบยิ้มลงทันทีกับน้ำเสียงที่ดูเหมือนจะไม่ต้อนรับ
มินโฮใจร้าย พูดกับพี่ด้วยน้ำเสียงแบบนี้ได้ไงกัน ดวงตาหวานที่ดูเหมือนกำลังตัดพ้อทำให้มินโฮรีบดึงมือของคนตัวเล็กเข้ามานั่งในห้องของตัวเอง
สีหน้าที่เคยตึงเครียดแปรเปลี่ยนเป็นประดับยิ้มขี้เล่นเพื่อคนตรงหน้า
ว้าว~ อะไรเนี่ย ทำมาให้โฮหรอ มือหนาของมินโฮเอื้อมหยิบคุกกี้ที่อยู่ในถุงใบใสจากมือคีย์ แต่คนตัวเล็กกับกำแน่นไม่ยอมปล่อย
ไม่ให้กินหรอก บอกมาสิว่างอนอะไรพี่ น้ำเสียงดูดื้อดึงเล็กๆ ทำให้มินโฮมองคีย์ด้วยรอยยิ้มบางก่อนจะส่ายศีรษะไปมาเป็นการตอบคำถาม
แต่มินโฮแปลกไป
คิดมากนะคีย์ ขอขนมให้โฮหน่อยสิ อยากกินฝีมือคีย์ใจจะขาดแล้ว ดวงตาออดอ้อนพร้อมรอยยิ้มเหมือนเด็กๆของมินโฮ ทำให้คีย์ลืมเรื่องที่ข้องใจจนถึงบ้านเสียสนิท ก่อนจะส่งถุงขนมในมือให้คนตัวสูง
Rrrrrrrrrrrrrrrrrr
เสียงโทรศัพท์ของคีย์ที่ดังขึ้นทำให้คนตัวสูงละจากขนมที่เพิ่งได้มาครอบครอง ดวงตาคมมองร่างบางที่กำลังวาดรอยยิ้มกว้างให้กับโทรศัพท์เครื่องบางในมือ
ท่าทางแบบนั้นไม่บอกก็รู้ว่าปลายสาย สำคัญมากแค่ไหน..
แค่นี้นายยังทนไม่ได้ แล้วอีกหน่อยจะทำอย่างไร
ความรู้สึกที่เหมือนกำลังถูกจ้องมองทำให้ร่างบางหันกลับมามองคนตัวสูง แต่ก็พบว่ามินโฮกำลังสนใจคุกกี้ที่เพิ่งได้รับจากตัวเองเมื่อคู่เสียมากกว่า
สงสัยเราจะคิดมากไป มินโฮไม่ได้สนใจอะไรสักหน่อย คิดได้แค่นั้นมือบางก็กดรับสายโทรศัพท์
สวัสดี อนยู น้ำเสียงหวานใสที่ถ่ายทอดไปยังปลายสาย ทำให้มินโฮรู้สึกเจ็บลึกลงไปที่หัวใจ
อืม ได้สิ
พูดแบบนี้เราก็อายเป็นนะ ฟังจากน้ำเสียงก็พอจะรู้ว่าคนตัวเล็ก ดูจะตื่นเต็นดีใจเสียยกใหญ่ ถึงอย่างนั้นก็ทำเป็นว่าไม่ได้สนใจ...แม้หัวใจดูจะยับเยินเต็มที
เช่นกันนะ แล้วพรุ่งนี้เจอกัน จบคำพูดลงแค่นั้น ก่อนมือเรียวจะเก็บโทรศัพท์ลงกับกระเป๋าตัวเองพร้อมรอยยิ้ม
คนตัวสูงมองตามทุกอิริยาบถของคนตัวเล็ก จนคนที่ถูกจ้องมองเริ่มรู้สึกตัว
ดวงตาหวานสบกับดวงตาคมที่กำลังจ้องมองแปลกๆ แต่ก็ไม่รู้ว่าประกายของตานั่นกำลังจะบอกอะไรตัวเอง
อีกแล้ว ชอบมองด้วยแววตาที่บอกความหมายไม่ได้
เอ่อ
ฮ่า ฮ่า ดูคีย์สิอายจนแก้มขึ้นสีหมดแล้ว ร่างสูงหัวเราะก่อนจะเอื้อมมือไปสัมผัสกับผมนุ่มแล้วออกแรงโยกเบาๆ
ร่างบางที่ยังมีคำถามเกิดขึ้นในใจ ก็ต้องลบมันทิ้งอีกครั้ง เมื่อคนตัวสูงตรงหน้ากำลังแกล้งตัวเองด้วยรอยยิ้ม
มินโฮ แกล้งพี่อีกแล้วนะ คนตัวเล็กย่นจมูกใส่คนตัวสูงที่ยังโยกหัวตัวเองไปมาไม่เลิก ก่อนจะรีบวิ่งไปยังที่นอนแล้วคว้าหมอนใบใหญ่ไล่ฟาดคนชอบแกล้ง
ตุ้บ!!
คีย์ อย่าสิ มือหนายกปิดใบหน้าตัวเองที่กำลังโดนแรงกระแทกจากหมอน
เป็นไงละโดนซะมั้ง ชอบแกล้งแต่เรา คนตัวเล็กยื่นหน้าใส่พร้อมกับแลบลิ้นด้วยความสะใจ จนมินโฮอดไม่ได้ที่จะบีบจมูกเล็กที่กำลังเชิดอยู่ตรงหน้านั่น
มิ โอ ป่อย จิ เสียงพูดไม่รู้เรื่องของคนที่กำลังโดนแกล้ง เรียกรอยยิ้มจากมินโฮได้เป็นอย่างดี
ฮ่า ฮ่า แบบนี้น่ารักออก เหมือนลูกหมูน้อยเลย คนตัวเล็กได้ฟังก็ขมวดคิ้วยุ่งก่อนจะออกแรงผลักคนตัวสูงที่หัวเราะไม่เลิก
พอ พอได้แล้ว พี่จะกลับบ้านแล้ว คีย์พูดจาติดโวยวาย แต่คนที่จ้องมองกับยิ้มอย่างมีความสุข
ขาเรียวยาว ก้าวไปทางทิศของประตู มือเรียวยกขึ้นเปิดประตูออกก่อนจะส่งร่างทั้งร่างออกจากห้องของคนตัวสูงไป
เหลือเพียงคนในห้องที่ยังคงไม่ละสายตาจากแผ่นหลังเล็กที่หายลับออกไปแล้ว
มินโฮลุกขึ้นจากเตียง เพื่อเดินไปล็อกประตู แต่แล้วก็ต้องชะงักเฝีเท้าลงมื่อคนที่เพิ่งออกไปเมื่อครู่ เปิดประตูกลับเข้ามาใหม่
ฝันหวานนะคำพูดสั้นๆ กับใบหน้าหวานที่ระบายยิ้มกว้าง เล่นเอาใจของมินโฮแทบอยู่ไม่สุข
---------------------------------------------------------------
คืนนี้อย่าลืมฝันเห็นเรานะ
คำพูดสั้นๆจากปลายสายของคนที่ตัวเองปลื้ม ยังคงดังก้องอยู่ในหัวของร่างบางที่กำลังยิ้มไม่หยุด
คนตัวเล็กในชุดนอนสีชมพูนอนกลิ้งไปกลิ้งมาอยู่กับเตียงนับสิบรอบก่อนจะสามารถข่มดวงตาที่เบิกกว้างให้ปิดลงได้
แสงสีทองจากท้องฟ้ากระทบเขากับกระจกใสภายในห้องสีชมพูอ่อน ร่างบางที่นอนคุดคู้อยู่บนเตียงบิดร่างกายตัวเองเล็กน้อย ก่อนจะกระพริบตาถี่กันหลายครั้ง เพื่อปรับโฟกัสให้กับภาพตรงหน้า
นาฬิกาแขวนสีเดียวกับผนังห้องบอกถึงเวลาที่เจ้าของต้องทำธุระส่วนตัว และไปโรงเรียน
ร่างบางดึงแก้มของตัวเองหนึ่งทีเพื่อเป็นการกระตุ้นสมองที่ยังคงหลับใหล ก่อนจะลุกเข้าห้องน้ำ ....ไม่นานก็สามารถจัดการกับธุระของตัวเองเสร็จ
ใบหน้าที่หวานเกินกว่าจะเป็นเด็กผู้ชายกำลังสะท้อนจากกระจกเงา นิ้วมือเรียวยาวลูบไล้เลือนผมให้เข้าทรง ริมฝีปากบางคลี่ยิ้มให้กับตัวเองผ่านกระจกแบบทุกวัน ก่อนจะเดินไปหยิบหนังสือทำขนมที่วางเรียงกันหลายเล่มลงกระเป๋าสะพาย
ดวงตาคมที่ดูเลื่อนลอยกับท้องฟ้าสีส้มอ่อน ก็ต้องละจากภาพตรงหน้าเมื่อคนที่กำลังเฝ้ารอมาถึง...
ร่างบางกับจักรยานสีชมพูที่กำลังเคลื่อนเข้ามา ภาพที่ดูบางตากำลังฉายชัดขึ้นเรื่อยๆ
เด็กหนุ่มหน้าหวานที่กำลังระบายยิ้มอยู่ทั่วใบหน้า ความสดใสจากข้างในดูเหมือนบรรยากาศในยามเช้าจะสู้ไม่ได้เสียด้วยซ้ำ
อรุณสวัสดิ์มินโฮ น้ำเสียงร่าเริงที่เอ่ยทัก ทำเอาคนตัวสูงยิ้มบาง ก่อนจะก้าวขึ้นขี่จักรยานของตัวเอง
คีย์วันนี้แวะร้านข้าวต้มกันนะ
อ่า แต่ว่าวันนี้ต้องไปกรอกใบสมัครชมรม คีย์พูดขึ้นในทันที เพราะจำได้ว่าอนยูโทรมาบอกเรื่องสมัครชมรมเมื่อวาน
อืม โฮไปคนเดียวก็ได้ คำพูดสั้นๆที่เอ่ยออกมา ก่อนร่างสูงจะหักเลี้ยวรถไปอีกทางหนึ่ง ร่างบางได้แต่จ้องมองแผ่นหลังกว้างที่ดูไกลออกไป
รอด้วยสิ คำพูดที่ออกไปดูเหมือนคนตรงหน้าจะไม่ได้ยินเอาเสียเลย เมื่อรถยังคงเคลื่อนตัวไปโดยไม่ได้หยุดรอ
ร่างบางขับรถตามคนตัวสูงที่ไม่ได้หยุดรอแม้แต่น้อย ก่อนจะจอดรถตัวเองลงเมื่อถึงจุดหมาย แผ่นหลังกว้างที่อยู่บนม้าหินคุ้นตาคีย์เป็นอย่างดี
ขาเรียวยาวสาวเท้าไปอยู่ตรงข้ามกับคนตัวสูง ใบหน้าหวานจ้องคนตรงหน้านิ่ง ดวงตาคมของมินโฮสัมผัสได้ถึงเแรงกดดันจากสายตาของคนตัวเล็กเป็นอย่างดี
ตามมาด้วยหรอ มินโฮจ้องมองคนตัวเล็กที่ปั้นหน้าบึ้งก่อนจะเอ่ยถาม
...
คีย์มองโฮอย่างกับโฮทำอะไรผิด สายตาที่บ่งบอกความไม่เข้าใจของมินโฮที่ส่งให้คีย์ ไม่ได้ทำให้คีย์มีสีหน้าเปลี่ยนแปลงเลยแม้แต่น้อย ร่างบางทรุดตัวนั่งลงข้างๆกับคนตัวสูงที่ยังคงมองตัวเองไม่เลิก ก่อนริมฝีปากบางจะขยับด้วยน้ำน้ำเสียงประชด
ใช่ มินโฮผิดมาก เอาข้าวต้มนายมาเลย ไม่ว่าเปล่ามือเรียวยื่นออกไปคว้าชามข้าวต้มตรงหน้าคนตัวสูง แต่แล้วก็ต้องผลักมือของตัวเองออกอย่างรวดเร็ว
มินโฮ ร้อน อะ ร้อนๆ เสียงเอ่ยรัวเร็วซ้ำไปซ้ำมาก่อนจะเป่าลมลงกับมือของตัวเอง
คีย์นี่เด็กจริงๆเลย ยืนมือมานี่สิ นิ้วมือเรียวที่ขึ้นสีแดงจางถูกส่งไปให้กับมือหนาของอีกคน น้ำเย็นๆถูกรดลงที่มือเรียวก่อนจะถูกซับด้วยผ้าเช็ดหน้าเนื้อดี
หายร้อนแล้วรึยัง น้ำเสียงทุ้มต่ำที่กำลังเอ่ยไม่ได้เข้าหูคีย์แม้แต่น้อย ดวงตากลมมองคนตัวสูงที่ยังวุ่นวายกับฝ่ามือไม่เลิก อยู่ๆความรู้สึกแปลกใหม่ก็แล่นเข้ามาประทะที่อก ก่อนจะรีบเบือนหน้าหนี
อืมๆ เสียงพูดในลำคอทำให้คนตัวสูงได้แต่นึกสงสัยว่าคนตัวเล็กตรงหน้าเป็นอะไร
--------------------------------------------------------------------
คีย์ทำไมมาเอาป่านนี้ละ เสียงใสเอ่ยขึ้นถามทันทีที่เห็นรางบางเดินก้มหน้ามาหาตน
คือ คือเราติดธุระนะ รอยยิ้มเจื่อนถูกส่งไปให้กับคนเอ่ยถาม
อนยูถามหาแกอยู่นะ เห็นบอกให้แกเอาหนังสืออะไรไปให้เนี่ยแหละ แทมินพูดออกมาในขณะที่คีย์เองก็พยักหน้าว่าเข้าใจ
เมื่อช่วงพักกลางวันเข้ามาถึง คีย์ก็เดินไปยังตึกเรียนของอนยูทันที ดวงตาหวานสอดส่องหาคนตัวสูงสักพัก ก่อนจะได้ยินเสียงพูดคุยและสายตาหลายคู่หันมองมาทางตน
คีย์มาหาใครหรอ รอยยิ้มเขินจากคนที่ไม่ค่อยคุ้นหน้าเสียเท่าไหร่ทำให้ร่างบางได้แต่มองด้วยสายตาเก้อกัง ละคนแปลกใจ
มาหาอนยูนะ เห็นรึเปล่า ถึงอย่างนั้นเพื่อไม่ให้เสียมารยาท ร่างบางจึงเอ่ยตอบออกไป คนตรงหน้าระบายยิ้มกว้างก่อนจะชี้มือไปอีกทาง คีย์ก้มหัวให้เป็นการขอบคุณก่อนจะขอตัวออกมาหาคนตัวสูงที่ดูเหมือนกำลังพูดคุยอย่างออกรส
อนยู เสียงหวานเอ่ยทักพร้อมกับรอยยิ้มสวยที่ประดับใบหน้า ทำเอาคนตัวสูงได้แต่มองจนตาค้าง
อนยู เสียงหวานเอ่ยทักอีกครั้ง ทำให้คนที่ยังจ้องไม่เลิกต้องยกมือขึ้นมาลูบท้ายทอยด้วยความเขิน
คีย์มีอะไรหรอ
หนังสือที่ขอยืมเรา แล้วเมื่อเช้าขอโทษทีนะพอดีเรามาสายนะ มือบางหยิบยื่นหนังสือทำขนมก่อนจะส่งสายตาสำนึกผิดให้อีกฝ่ายพร้อมกับเอ่ยขอโทษ อนยูได้แต่มองการกระทำที่ดูยังไงก็น่ารักของอีกฝ่ายด้วยรอยยิ้มบาง ก่อนจะเอ่ยว่าไม่ได้สำคัญอะไร
คีย์กินอะไรหรือยังละ
ยังเลย
ทานข้าวด้วยกันนะ
ข่าวเรื่องคีย์กับอนยูทานข้าวด้วยกันเมื่อช่วงพักกลางวันทำเอามินโฮไม่เป็นอันเรียนหนังสือ แม้จะเรียนอยู่กันคนละตึกและช่วงพักไม่ตรงกัน แต่ทั้งคีย์และอนยูทั้งคู่ก็ต่างมีคนให้ความสนใจ ไม่แปลกเลยที่คำพูดที่ว่า...เมื่อพักกลางวันอนยูและคีย์นั่งกินข้าวด้วยกันลอยถึงหูมินโฮ
มินโฮเลิกเรียนแล้วซ้อมบอลด้วยละ สายตาคมที่จับจ้องอยู่กับท้องฟ้าหันมามองร่างสูงที่เอ่ยเรียกตัวเอง
อืม เสียงตอบในลำคอแผ่วเบาราวกับคนไม่มีเรี่ยวแรง ซึ่งผิดนิสัยของมินโฮ ทำให้คนที่เอ่ยถามทรุดตัวลงกับเก้าอี้ข้างๆที่ว่างอยู่ มือหนายกแตะไหล่เพื่อนตัวเองเบาๆ
ไหวรึเปล่าวะ น้ำเสียงที่ดูห่วงใยจากคนข้างๆทำให้มินโฮยกยิ้มแปร่งออกมา สายตาคมยังมองทอดออกไปยังท้องฟ้ากว้างนั่น
แกว่าคีย์เขารู้สึกยังไงกับชั้น เสียงทุ้มต่ำพูดออกมาอย่างดูเลื่อนลอยจนคนที่อยู่ข้างๆซึ่งรู้เรื่องราวของมินโฮมาตลอดได้แต่ถอนหายใจออกมา
ของแบบนี้ ชั้นว่านายน่าจะถามจากพี่คีย์นะ ไม่ควรจะมานั่งเดาเอาเอง น้ำเสียงจริงจังของคนที่คบกันมาเป็นเพื่อนกว่า 5 ปี อย่างซึงรี ทำให้เกิดรอยยิ้มจางๆบนใบหน้าของมินโฮ
คำถามสั้นๆ ของชั้น มันเสี่ยงกับอนาคตข้างหน้านะ มินโฮพูดขึ้นในขณะที่ความคิดทั้งหลายถูกกลั่นออกมา
ถ้าหากคีย์กับเขามีความรู้สึกที่สวนทางกัน...แล้วเวลาต้องเผชิญหน้ากันจะเป็นแบบไหน
เสี่ยงตอนนี้ หรือจะปล่อยทุกอย่างให้หลุดลอยตั้งแต่ยังไม่เริ่มละ อีกแค่ 4 วัน ก็จะถึงวันวาเลนไทน์ ถึงเวลานั้น ทั้งพี่คีย์และพี่อนยู.... นายคิดเอาเองแล้วกัน จบคำพูดยาวเหยียดของเพื่อนรัก ที่ดูเหมือนจะกระตุ้นสมองส่วนที่รับความรู้สึกของมินโฮได้อย่างดี
ฉันมันขี้ขลาด ไม่ใช่แค่ขี้ขลาดอย่างเดียว โง่ด้วยอีกต่างหาก ทำไมถึงปล่อยให้เรื่องทุกอย่างมันเป็นแบบนี้ได้นะ ทั้งที่ก็รู้อยู่กับตัวเองว่ารักคีย์มากขนาดไหน ทำไมถึงปล่อยให้มีวันแบบนี้ได้...วันที่ต้องยกคีย์ให้คนอื่น
สู้นะเว้ย ยังไงซะก็ดีกว่าไม่ทำอะไร มือหนาตบกระทบกับไหล่กว้างของมินโฮเป็นจังหวะ ก่อนจะบีบที่ไหล่แน่นเป็นการให้กำลังใจ และเชื่อมั่นในเพื่อนรักว่าจะสามารถเคลียร์ทุกอย่างได้
ช็อตฟิคเรื่องนี้ยิ่งเขียนมันก็ยิ่งยาว -*-
เเล้วมันจะจบยังไงฟะ เอาเป็นว่าไรเตอร์จะรีบๆปั่นมันให้จบไว้ๆเน้อ
อ่านเเล้วเป็นไงกันบ้าง? เม้นมั้งอะไรมั่งก็ดีเน้อ ^ ___________ ^
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

คีย์อยู่ใกล้กันแบบนี้ทุกวัน ไม่รู้บ้างเหรอว่าอีกคนคิดยังไง
กบสู้ๆ
หู้ไปหาแฟนตัวเองสิ(ลีจุน)
เฮียหู้ไปหาลีจุนซ่ะ
ชิ ๆ
ถอยมาเลยคีย์กะมินเค้าจะรักกัน-*-
มินโฮสู้ๆๆๆๆๆๆๆ ^O^ เค้าเปนกำลังใจให้
จงแย่งคีย์มาให้ได้ ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
ไรเตอร์ด้วย
สงสารมินโฮ แงงงงงงงงง
แต่สนุกดีนะ
เศร้า.....
ไงตอนนี้ก็มาเม้นให้แล้วนะฮะ อย่าว่า ลีดเดอร์ยังนึกไม่ออกเลยว่าเรื่องมันจะจบยังไง
เอาเป็นว่า ยูกึนเชียอัปปามินโฮ ละกันคับ^^
ความหมายน่ะมี เมื่อไหร่คีย์จะรู้ซะที
มินโฮจะทำยังไงต่อไปล่ะเนี่ย
อ่านแล้วแบบว่า ฉึกๆ ! โดนอ่ะ T____T
ไรเตอร์สู้ๆ
จีบคีย์ไม่ติดอายเค้าแย่
555555
________________________________________
ไรเตอร์สู้ๆน่ะค่ะ
อีก 4 วันก็วันวาเลนไทน์แล้วว
อย่าให้คีย์ถูกแย่งไปหล่ะ
ไหงคีย์ทำแบบนี้ล่ะ
มินโฮ นายน่าสงสารจังเลยนะ
ถึงตอนนี้คีย์จะชอบอนยู แต่ยังไงก็ต้องเปลี่ยนใจมาชอบนายแน่นอน -w-
(เพราะมันเป็นฟิตมินคีย์ไงเล่า -.-b)
ติดตามต่อไปครับผม