ความลับที่ถูกซ่อนไว้
“กรี๊ดดดดดดด” เสียงหญิงสาวกรีดร้องด้วยความหวาดผวา ตัวสั่นเทา ก่อนจะทรุดตัวลงนั่งบนพื้น ดวงตาเบิกโพรงด้วยความตกใจสุดขีด อามี เพื่อนสาวคนสนิทของเธอวิ่งเข้ามากอดพร้อมกับปลอบประโลมเป็นการใหญ่
“เกิดอะไรขึ้น เซริบอกฉันสิเกิดอะไรขึ้น” อามีไถ่ถามน้ำเสียงร้อนรน ยิ่งเห็นอาการของเซริ เธอยิ่งรู้สึกไม่สบายใจ
“นั่น นั่น” เซริพูดน้ำเสียงสั่นเครือมือหนึ่งปิดหน้าไว้ ส่วนอีกมือชี้ออกไปข้างหน้า
“เฮ้อ~ ก็แค่จิ้งจกน่า ไม่เอาน่าเซริ ลืมตามาได้แล้ว” อามีพูดแล้วหัวเราะร่วนเมื่อเห็นว่าสิ่งใดที่ทำให้เซริกลัวได้ขนาดนั้น
“ไม่ใช่อามี ไม่ใช่ ตรงนั้น ตรงนั้น” เซริพูดทั้งๆที่ยังเอามือปิดหน้าอยู่พูดด้วยน้ำเสียงยังคงสั่นเครืออยู่อย่างชัดเจน
“ไม่เห็นจะมีอะไรเลยนะเซริ พอเถอะ ไปเรียนได้แล้ว” อามีส่ายหัวพร้อมกับหัวเราะเบาๆ แล้วพยุงเซริขึ้น เซริค่อยๆลุกขึ้นพลางลดมือที่ปิดหน้าอยู่ลงช้าๆทีละข้าง สายตามองกวาดไปทั่วห้องแววตาหวาดหวั่น มือสั่นเล็กน้อย เหงื่อผุดซึมอยู่ตามไรผมจนเปียกชื้น
“มาเถอะ ไม่มีอะไรหรอกน่า” อามีพูดแล้วจูงมือเซริให้เดินไปข้างหน้า เซริเหลียวหลังกลับมามองอีกครั้งคิ้วขมวดด้วยความสงสัย
อะไรกันในเมื่อตะกี้ยังเห็นอยู่เลยนี่นา เซริคิดด้วยความแปลกใจแต่ก็ยอมเดินตามอามีไปแต่โดยดี
เงาดำค่อยๆเคลื่อนตัวออกมาจากมุมอับของห้องอย่างช้าๆ จ้องมองหญิงสาวทั้งคู่เขม็ง แววตาเครียดแค้นวูบวาบเป็นประกาย ก่อนจะค่อยๆเคลื่อนตัวหายไปในความมืดบริเวณมุมอับนั้นอีกครั้ง
เฮือก!
เซริสะดุ้งสุดตัวพร้อมกับหันขวับไปทางด้านหลังตัวเองอย่างรวดเร็ว อามีซึ่งนั่งอยู่ข้างๆเหล่ตามองอย่างงงๆกับอาการของเธอ เพราะนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เซริมีอาการเช่นนี้
“เป็นอะไรเซริ ฉันเห็นเธอเป็นอย่างนี้หลายรอบแล้วนะ บ้าหรือเปล่าเนี้ย” อามีแซวพลางหัวเราะในลำคอเบาๆแล้วหันกลับไปทำงานบนโต๊ะที่ทำค้างไว้อยู่ต่อ
“ก็ฉันรู้สึกเหมือนถูกมองตลอดเวลายังไงไม่รู้น่ะสิ จากตรงนั้น” เซริตอบสีหน้าเป็นกังวลแล้วหันไปมองยังมุมอับบริเวณหลังห้อง อามีเอื้อมมือมาดีดหน้าผากเซริเบาๆอย่างหยอกเย้า เซริยิ้มบางๆตอบกลับไปแต่ก็ยังไม่วายเหลียวหลังกลับไปมองยังมุมห้องอีกครั้งอย่างไม่สบายใจ
วันนี้เป็นอะไรนะทำไมถึงได้รู้สึกแปลกๆอย่างนี้ทั้งวันเลย เซริคิดอย่างแปลกใจก่อนจะส่ายหัวไล่ความคิดทั้งหลายออก
“จริงสิ วันนี้ฉันมีธุระ เธอกลับคนเดียวได้นะ” อามีพูดทั้งที่ยังไม่ได้ละสายตาจากงานที่ทำอยู่
“อะไรนะ” เซริครางออกมาเบาๆหันมามองอามีสีหน้าตื่นตกใจ
แย่แล้ว! ยิ่งรู้สึกแปลกๆอย่างนี้ แล้วได้เดินกลับบ้านคนเดียวอีกหรอเนี้ย เธอคิดสีหน้าหนักใจ อามีหันมายิ้มปลอบใจพอเป็นพิธีแล้วหันกลับไปทำงานต่อ
หลังจากร่ำลากับอามีที่หน้าโรงเรียนแล้ว เธอก็เดินแยกออกมาพลางคิดอะไรไปเรื่อยเกี่ยวกับเรื่องราวแปลกๆที่เกิดขึ้นกับเธอตลอดระยะเวลา 1 อาทิตย์ที่ผ่านมา
ฟู่!~
เซริหยุดเดินอย่างกะทันหัน ตัวแข็งทื่อ ขนลุกซู่ไปทั้งตัว แววตาสั่นไหวด้วยความตื่นตระหนก เมื่อมีลมมาปะทะเข้าที่หูเธอคล้ายกับมีใครบางคนจงใจเป่าลมใส่หูเธอ
“บ้าน่า คิดไปเองล่ะมั้ง” เซริยกมือขึ้นตบแก้มตัวเองเบาๆเพื่อเรียกสติ แล้วเริ่มต้นเดินต่อ แต่เมื่อเดินไปต่อได้เพียงเล็กน้อยก็มีลมมาปะทะเข้าที่ข้างหูเธออีก
ฟู่!~
“เฮือก!” เซริสะดุ้งสุดตัว หันขวับมองซ้ายมองขวาอย่างรวดเร็ว เป็นไปไม่ได้! ในเมื่อตอนนี้มีเพียงเธอคนเดียวเท่านั้นที่เดินอยู่บนริมทางเดิน แล้วใครที่ไหนจะมาเป่าลมใส่หูเธอเช่นเมื่อครู่นี้
“เซริ” เสียงแหบพร่าแผ่วเบา ลอยแว่วมาตามลม เธอหันซ้ายแลขวาหาต้นเสียงตามสัญชาติญาณทันที แต่ทว่าก็จับไม่ได้ว่าเสียงลอยมาจากทางทิศใด
“มาทางนี้สิ” เสียงนั้นดังขึ้นเรื่อยๆและเข้าใกล้เธอมาเรื่อยๆ เธอกำมือซึ่งชุ่มไปด้วยเหงื่อแล้วรีบสาวเท้าเดินหนีจากตรงนั้น ในสมองครุ่นคิดว่าเหตุใดเธอจึงได้ยินเสียงปริศนานั่น และทำไมมีเพียงเธอที่รู้สึกแปลกๆอยู่คนเดียว
“มาทางนี้” เสียงนั้นดังขึ้นอีกครั้ง แต่ว่าคราวนี้กลับดังขึ้นข้างๆหูเธอจนเธอรู้สึกเย็นวาบไปทั่วหลัง ขนตั้งชันไปทั่วกาย แขนขาไร้เรี่ยวแรงอย่างประหลาด ส่งผลให้กระเป๋าลื่นหลุดมือหล่นลงพื้น ตัวสั่นเทา เธอกรีดร้องเบาๆ ยกมือขึ้นปิดหูพร้อมกับกวาดตามองไปรอบๆตัวด้วยความหวาดกลัว
ฟู่!~
ลมเย็นยะเยือกปะทะเข้าที่ต้นคอเธอพร้อมกับสัมผัสบริเวณกลางหลังเซริเบาๆ เธอหันหลังหลับมาทันที ทันใดนั้น เงาบริเวณใต้เท้าของเธอยืดยาวออกไป เป็นรูปร่างคล้ายผู้หญิงที่มีขนาดตัวใกล้เคียงกันกับเธอ เงาดำประหลาดนั้นจ้องมองเธอแววตาเป็นประกายผ่านดวงตาสีแดงเพลิงเขม็ง ร่างกายเธอหมดสิ้นเรี่ยวแรงแม้แต่จะทรงตัว เธอจึงทรุดตัวลงนั่งกับพื้น ดวงตาเบิกโพรงด้วยความตกใจสุดขีด ริมฝีปากสั่นระริก เธอชี้มือที่สั่นเทาออกไปยังเงาดำนั้น ปากขยับคล้ายจะพูดอะไรบางอย่างออกมา
“จำฉันได้หรือเปล่าล่ะ เซริ” เสียงแหบพร่านั้นดังขึ้นน้ำเสียงเย้ยหยันแล้วหัวเราะออกมาเบาๆด้วยเสียงที่แหลมบาดหู
“ฉันคิดว่าเธอคงจะยังจำฉันได้นะ คนที่เธอเห็นในกระจกทุกวันยังไงล่ะ” เงาปริศนานั้นค่อยๆเคลื่อนตัวเข้ามาใกล้เซริเรื่อยๆ ขณะเดียวกันเซริเองก็ค่อยๆขยับตัวหนีออกไปเช่นกัน
“ไปให้พ้น ไปให้พ้นนะ” เซริตะโกนสวนกลับไปเสียงดัง เงานั้นหัวเราะเสียงแหลมก่อนจะเคลื่อนตัวมาหาเธออย่างรวดเร็วจนหน้าอยู่ห่างกับหน้าเซริเพียงคืบเดียว
“กรี๊ด อย่ามายุ่งกับฉันนะ” เซริผงะเล็กน้อยด้วยความตกใจ ก่อนจะกรีดร้องพร้อมกับพยายามฟาดมือไปยังเงาดำนั่น แต่ว่ามือเธอกลับฟาดผ่านเงาดำนั้นไปราวกับมันเป็นเพียงธาตุอากาศที่ไม่มีตัวตน
“อย่ามายุ่งงั้นหรอ อย่ามายุ่งงั้นหรอ” เงาดำตวาดเสียงกร้าวและคว้ามือเซริไว้แน่น ความเย็นยะเยือกบริเวณที่ถูกจับทำเอาเธอขนลุกไปทั้งตัว
“ฉันต้องทุกข์ทรมานอยู่แต่ในที่มืดๆ เย็นราวกับขั้วโลก ว้าเหว่และเหงาจนแทบขาดใจ แต่เธอ!! เธอนั่งหัวเราะกับเพื่อนอย่างมีความสุข ได้กินกับข้าวอร่อยๆที่แม่ทำให้ ได้กอดแม่ทุกวัน มันยุติธรรมแล้วหรอหะ!!” เงาดำนั้นตวาดเสียงดังน้ำเสียงดุดัน และบีบข้อมือเซริแน่นขึ้นจนเธอนิ่วหน้าด้วยความเจ็บปวด
“ฉัน ฉัน.........เซร่า พอเถอะ ปล่อยฉันไปเถอะนะ” เซริพูดเสียงอ่อน มองเซร่าด้วยแววตาอ้อนวอน ทันใดนั้นเงาปริศนาก็หายไปกลายเป็นหญิงสาววัยไล่เลี่ยกัน ซึ่งมีหน้าตาพิมพ์เดียวกันกับเธอ ใช่แล้ว เซร่าคือน้องสาวฝาแฝดของเธอนั่นเอง
“ปล่อยงั้นหรอ เธอรู้ไหมว่าฉันต้องทนทรมานมากี่ปี” เซร่ายังคงไม่ปล่อยมือเอ่ยถามเซริด้วยใบหน้าเปื้อนน้ำตา แววตาลุกวาวด้วยความโกรธแค้น เซริส่ายหัวพลางทรุดตัวลงนั่งกับพื้น
“เธอจะฆ่าฉันมันก็ไม่ทำให้อะไรมันดีขึ้นมาหรอกนะ เหอะๆ เพราะเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้น มันก็เป็นเพราะเธอ เพราะเธอนั่นแหละ!!” เซริตะโกนตอบกลับไปพร้อมกับสะบัดข้อมือออก หัวเราะในลำคอก่อนจะเงยหน้าขึ้นจ้องเซร่าตอบอย่างไม่หวั่นเกรง
“ถ้าวันนั้นมันไม่เกิดขึ้น ฉันก็คงไม่เป็นอย่างนี้ ฮือๆ” เซร่าพูดอย่างขมขื่นแล้วเริ่มร้องไห้ออกมา ใช่แล้วเหตุการณ์วันนั้น วันที่เธอจะจดจำมันไปจนวันตาย
“เซริ เซร่านั่งรอแม่อยู่นี่นะคะ อย่าไปไหนนะเดี๋ยวแม่กลับมา” หญิงสาววันกลางคนลูบหัวเธอทั้งคู่ด้วยความเอ็นดู
“แม่จะไปไหนคะ” เด็กหญิงผมเปียตากลมโต อายุประมาณ 5 ขวบ จับชายกระโปรงของผู้เป็นแม่แน่นเอ่ยถามตาแป๋ว
“แม่จะไปทำธุระ เดี๋ยวเดียวเท่านั้น เซริดูน้องด้วยนะคะคนเก่ง” ผู้เป็นแม่ตอบแล้วหอมแก้มเธออย่างรักไคร่ เธอยิ้มร่าตอบแล้วหันกลับมาสนใจไอศกรีมช็อกโกแลตในมือต่อ
ลูกบอลสีแดงกลิ้งมาหยุดที่แทบเท้าของเซริ เธอจ้องมองอย่างแปลกใจพลางมองหาผู้เป็นเจ้าของ
“เซริ มาเล่นกันดีกว่า” เซร่ามองลูกบอลตาเป็นประกาย เอ่ยชวนพี่สาวของตน ทั้งคู่ผลัดกันโยนให้กันอย่างสนุกสนาน จนกระทั่งครั้งนี้เซริโยนไปไกลเกินไป มันจึงกระเด็นออกไปกลางถนน
“ไม่เป็นไร เดี๋ยวเซร่า ไปเก็บเอง” เซร่าพูดแล้ววิ่งออกไปกลางถนนเพื่อเก็บลูกบอล ขณะเดียวกันรถเก๋งสีดำขับตรงมาอย่างเร็วก็บีบแตรไล่เธอเสียงดังลั่น เซริซึ่งวิ่งตามมาติดๆหันไปมองรถด้วยความตกใจ
โครม!
เสียงรถชนเข้ากับร่างของเธอดังสนั่น ร่างของเซร่าซึ่งโชกไปด้วยเลือดกระเด็นลอยข้ามฝั่งถนนไปอีกด้านเซริกรีดร้องวิ่งเข้าไปประคองร่างไร้วิญญาณของผู้เป็นน้อง ร้องไห้อย่างน่าเวทนา ผู้คนต่างเข้ามามุงดูแต่กลับไม่มีผู้ใดยื่นมือเข้ามาช่วยเลย
“จริงสิ” เสียงเซร่าอุทานขึ้น ปลุกให้เซริตื่นจากภวังค์ เธอหันไปมองเซร่าด้วยความสงสัย คิ้วขมวดเข้าหากันเล็กน้อย แววตาหวาดหวั่นเดาใจไม่ถูกว่าเซร่าคิดจะทำอะไร
“เราเป็นฝาแฝดกันนี่ งั้นก็มาอยู่กับฉันซะดีกว่านะ” เซร่าพูดน้ำเสียงเหี้ยม แววตาลุกวาวและแสยะยิ้มออกมาอย่างน่ากลัว ก่อนจะผลักเซริอย่างแรง เนื่องจากเธอยังไม่ทันได้ตั้งตัวจึงทำให้เสียหลักเซถลาออกไปกลางถนน รถเก๋งสีดำที่กำลังวิ่งตรงมาทางเธอบีบแตรเสียงดังลั่น เธอหันขวับไปมองตาเบิก ตัวแข็งทื่อขยับไปไหนไม่ได้
“ไม่นะ” คำสุดท้ายที่เปล่งออกมาจากปากเธอก่อนที่ร่างของเธอจะกระเด็นลอยข้ามถนนไปอีกฝั่ง
“เฮือก!” หญิงสาวสะดุ้งตื่นขึ้นมา เหงื่อผุดอยู่ทั่วใบหน้าเต็มไปหมด หายใจถี่และแรง เธอกวาดตามองไปรอบตัวด้วยความหวาดผวาจึงพบว่าตนเองเผลอหลับอยู่ในห้องเก็บของของโรงเรียน แต่ว่าที่มุมหนึ่งของห้องกลับมาบางสิ่งบางอย่างกำลังเคลื่อนไหวอยู่อย่างเงียบๆ
“กรี๊ดดดดดดด” เซริกรีดร้องด้วยความหวาดผวา ตัวสั่นเทา ก่อนจะทรุดตัวลงนั่งบนพื้น ดวงตาเบิกโพรงด้วยความตกใจสุดขีด เงานั่น เงานั่นเหมือนกับที่เธอเห็นในฝันไม่มีผิด แล้วอามี เพื่อนสาวคนสนิทของเธอก็วิ่งเข้ามากอดพร้อมกับปลอบประโลมเป็นการใหญ่
เหมือนในฝัน เหมือนในฝันเลย เธอคิดพลางเอามือขึ้นปิดหน้าพร้อมกับขยี้ตาเบาๆเพื่อไล่ภาพเงาดำนั่นออกไป
“เกิดอะไรขึ้น เซริบอกฉันสิเกิดอะไรขึ้น” เซริเงยหน้าขึ้นมองอามีอย่างแปลกใจ เมื่อคำพูดของอามีเหมือนกับในฝันทุกคำ หรือว่า..........
ไม่นะ!!
ข้อความที่โพสจะต้องไม่น้อยกว่า {{min_t_comment}} ตัวอักษรและไม่เกิน {{max_t_comment}} ตัวอักษร
กรอกชื่อด้วยนะ
_________
กรอกข้อมูลในช่องต่อไปนี้ไม่ครบ
หรือข้อมูลผิดพลาดครับ :
_____________________________
ช่วยกรอกอีกครั้งนะครับ
กรุณากรอกรหัสความปลอดภัย
ความคิดเห็น