คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #9 : Chapter9
Chapter9
“เฮ้ย!! บอส!! ตกลงแกรู้รึเปล่าเนี่ย ว่าทำไมไอ้ม้าพยศถึงไม่มาประชุม!?” สคอลโล่เอ่ยถามผู้เป็นนายตนทันทีที่ออกมาจากที่ประชุม เรียกเอาโทสะของร่างสูงให้ตื่นขึ้นมา
“ฉันจะรู้เรื่องของไอ้สวะนั่นทำไม!!!!” ร่างสูงตอบโดยไม่หันมามอง เพียงแค่เดินต่อไปข้างหน้าเท่านั้น
“ก็เห็นปกติมันจะไม่เคยขาดประชุมนี่นา แต่ครั้งนี้กลับขาดประชุม มีเรื่องอะไรรึเปล่าน้า!~” สคอลโล่ทำหน้าครุ่นคิด
“แกอยากรู้ก็ไปถามมันเองสิวะ!! ห่วงมันนักก็ไปหามันซะสิ!!” บอสแห่งวาเรียหันกลับมาตวาด
“ก็...ฉันแค่อยากรู้นี่นา.....แต่เอาเถอะ! ไม่รู้ก็ไม่เป็นไรหรอก ขอโทษที่รบกวนการเดินทาง เชิญเดินต่อไปเถอะ” สคอลโล่พูดเสียงอ่อยๆ พร้อมกับทำท่าเศร้าๆนิดนึง เสมือนว่าตัวเองเป็นภรรยาที่ถูกสามีตวาดซะอย่างนั้น กิริยาเช่นนี้เล่นเอาคนตัวสูงชะอักไปนิดนึง ก่อนที่จะกลับสู่สถาวะปกติ
“ไม่ต้องมาทำหน้าสำออย แล้วนี่แกจะเดินตามฉันมาทำไม!!” แซนซัสเอ่ยถามเสียงเข้ม
“ก็...ฉัน...ฉันอยากคุยเรื่องการประชุมเมื่อกี้น่ะ!!” สคอลโล่ยิ้มแฮะๆ เหมือนเด็กน้อยที่เพิ่งหาข้อแก้ตัวได้
“...อืม” แซนซัสหยุดคิดครู่นึงก่อนเอ่ยปากรับ พลางเดินนำไปยังห้องรับรองของตนที่อยู่ชั้นบนสุด และมีความสะดวกสบายรวมทั้งความปลอดภัยมากที่สุดด้วย
.
.
.
.
.
“มีเรื่องอะไรก็ว่ามา” บอสแห่งวาเรียเอ่ยถามทันที่ทีมาถึงห้องรับรองของตน
“ก็เรื่องตาแก่ของอินฟีนี่แฟมิลี่น่ะ” สคอลโล่ว่าพลางนั่งลงบนโซฟา
“สวะตาแก่ขี้งกนั่น!!...ทำไมเรอะ!!” แซนซัสเลิกคิ้วขึ้นอย่างสงสัย
“ก้อ....ฉันคิดว่ามันจะกอบโกยผลประโยชน์มากเกินไปน่ะสิ เรื่องอะไรจะมาให้เพิ่มราคาตั้ง2เท่า!!” กว่าสคอลโล่จะเค้นประโยคนี้ออกมาจากสมองมันน้อยนิดแทบเป็นตายเลยทีเดียว
“แล้วแกจะมาบ่นให้ฉันฟังทำไม!!”
“ก็แค่จะถามว่า...นายจะทำยังไงต่อเหรอ?” สคอลโล่ว่าพลางนั่งพิงโซฟากอดอกและแยกขาออกเล็กน้อย แต่เมื่อร่างสูงเห็นกลับทำเป็นเมินซะอย่างนั้น
“ฉันก็จะต้องคุยกับมันให้รู้เรื่องอยู่แล้ว พรุ่งนี้เช้ายังไงก็ต้องได้จ้อสรุปที่สมน้ำสมเนื้อกันหน่อยสิ!!” แซนซัสพูดพลางกระตุกยิ้ม
“อืมๆ” สคอลโล่พยักหน้าเป็นเชิงรับรู้
“แล้วนี่ตกลงแกจะกลับได้รึยัง!? มาเพื่อเรื่องแค่นี้น่ะ” แซนซัสเอ่ยปากไล่ นั่นทำให้ฉลามหนุ่มยิ่งไม่พอใจเข้าไปใหญ่ แต่ก็ไม่ได้แสดงออกอะไรมาก ทำได้แต่...
“ถ้างั้นฉันก็หมดธุระที่จะคุยแล้ว ไปก่อนนะ” เมื่อสคอลโล่พุดจบก็ลุกขึ้นจากโซฟาทันที แต่ในขณะนั้นเอง สคอลโล่ก็เกิดสะดุดกับอะไรก็ไม่รู้ ทำให้การทรงตัวมีปัญหา และเขาเองนั้นก็คิดว่าจะล้มแน่ๆเลยหลับตาปี๋ไว้ แต่ปรากฏว่าร่างกายเขากลับไม่ได้สัมผัสถึงความเย็นของพื้นเลยแต่กลับสัมผัสกับแผงอกแข็งๆของใครบางคนแทน ซึ่งคนคนนั้นไม่ใช่ใครนอกเสียจาก...
“ไอ้ฉลามสวะ!!! แกลุกออกไปจากตัวฉันเดี๋ยวนี้น่ะ ล้มบ้าอะไรของแกว่ะ ไม่ดูอะไรบ้างเลย!!” แซนซัสรีบต่อว่าร่างบางที่ทักอยู่บนแผงอกของเขาทันที
“คนจะล้มมันจะบังคับให้ไม่โดนใครได้บ้างเรอะ!!” ฉลามหนุ่มบ่นปอดแปดๆพลางยันตัวลุกขึ้นอย่างรวดเร็วก่อนที่แซนซัสจะเผาเขาทิ้ง แต่ก็... “พลั่ก!!” สคอลโล่ต้องล้มลงไปอีกรอบเนื่องจากอาการขาเคล็ดที่เกิดจากการล้มเมื่อครู่ แต่คราวนี้ไม่มีที่รองรับแล้ว สคอลโล่ล้มลงไปบนพื้นอย่างจัง
“สำออยจัง ไอ้สวะ แค่นี้ก็ขาเคล็ดแล้วเรอะ!?” แซนซัสบ่นด้วยท่าทางหงุดหงิดเล็กๆ
“โธ่โว้ย!! ร่างกายมันห้ามได้ที่ไหนกันเล่า!!” ฉลามหนุ่มว่าพลางพยายามจะลุกขึ้นมาอีกรอบให้ได้ แต่ผลสุดท้ายก็ดหมือนเดิม
“เฮ้อ!!” บอสหนุ่มถอนหายใจ ก่อนที่จะช่วยพยุงร่างเล็กให้ไปนั่งบนโซฟา
“แล้วนี่ฉันจะกลับห้องยังไงว่ะเนี่ย!!” สคอลโล่เอ่ยพลางทำท่าอารมณ์เสีย(?) ส่วนแซนซัสก็ได้แต่ถอนหายใจ
“ถ้าแกไปที่ห้องแกไม่ได้ ก็อยู่มันที่ห้องนี้น่ะแหละ!!” แซนซัสพูดตัดรำคาญ แต่ถึงกระนั้นก็ทำให้สคอลโล่ตาวาวในทันที
“โอเค ถ้าอย่างนั้นฉันนอนห้องนายล่ะกัน” พูดจบสคอลโล่ก็พาตัวเองไปที่เตียงของแซนซัสอย่างทุลักทุเล
“ใครสั่งให้แกนอนที่เตียงฉัน ห๊า!!” แซนซัสว่าพลางฉุดแขนของฉลามหนุ่มให้ลุกขึ้น และจากการกระทำนั้นเอง ทำให้สคอลโล่...ทำแก้มป่องๆด้วยความงอน แถมยังไม่ยอมลุกขึ้นอีกต่างหาก
“ก็นายบอกให้ฉันนอนที่นี่ได้นี่นา” สวอลโล่ว่าพลางทำปากจู๋ ทำให้คนตัวใหญ่อึ้งกับกิริยาที่ไม่เคยเห็นมาก่อนนี้ คิดแล้วอยากกินฉลามซะจริงๆ
“ฉันบอกให้แกนอนที่นี่ ไม่ได้บอกให้แกนอนบนเตียง!!” แซนซัสยังคงพยายามทำเสียงเข้ม ไม่หวั่นไหวต่อการยั่วเนียนของสคอลโล่
“ไม่อาวอ่ะ ก็ฉันลุกไม่ขึ้นแล้วนี่นา ขอนอนตรงนี้เถอะนะ น้า~” สคอลโล่อ้อนแซนซัส จนในที่สุดร่างสูงก็ใจอ่อน
“เออๆ ก็ได้ แกนี่มันน่ารำคาญจริงๆนะ” แซนซัสพูดแบบไม่ใส่ใจอะไรมาก แล้วก็หยิบผ้าเช็ดตัวเดินเข้าห้องน้ำไป เรียกเอาสคอลโล่หน้าแดงทันที...
“เหมือนฉันเป็นเจ้าสาวนอนรอเจ้าบ่าวอาบน้ำเสร็จยังไงยังงั้นแหละ!!” สคอลโล่พูดเบาๆพร้อมความเขินอายที่ปรากฏอยู่บนหน้า
“แต่...จะบ้าเรอะ!! เราคิดอย่างนั้นได้ยังไง ยังไม่ได้ก้าวไปถึงขั้นนั้นซักหน่อยนี่” สคอลโล่เถียงกับตัวเอง
“แต่ว่าเดี๋ยวก็ถึงขั้นนั้นเองแหละน่า!!” สคอลโล่ยังเถียงกับตัวเองต่อไป
“แต่แซนซัสไม่ได้รักเราสักหน่อย”
“แต่ว่าถ้าพยายาม เดี๋ยวแซนซัสก็หันมารักเองแหละ!!”
“แต่แซนซัสรักฮิบารินี่นา”
“แต่ก็ใช่ว่าแซนซัสจะเลิกรักไม่ได้นี่”
“แต่ถ้าเลิกรักฮิบาริแล้ว จะรักเรามั๊ยอ่ะ!?”
“แต่...แต่...แต่...”
“โอ้ย!!! ไม่เอาแล้ว ไม่คิดแล้ว นอนดีกว่า” สคอลโล่ขยี้หัวตัวเองด้วยความสับสน งงงวย ก่อนที่จะล้มตัวลงนอนทันที และเนื่องจากการประชุมในวันนี้หนักมาก ทำให้สคอลโล่ผล็อยหลับไปโดยง่าย...
.
.
.
.
“แก๊ก!” บอสแห่งวาเรียเปิดประตูห้องน้ำออกมาหลังจากเสร็จธุระในห้องน้ำเรียบร้อย เขาเดินไปหยุดอยู่ข้างๆเตียง พลางเอื้อมมือจะไปลูบไหมสีเงินแห่งคำสัญญานั้นเบาๆ หากแต่ว่า...
“บ้าน่า!! ทำไมฉันต้องทำอย่างนั้นด้วย ไม่ได้น่าจับซักหน่อย” แซนซัสชักมือกลับทันที พลางเสหน้าไปทางอื่น
“เฮอะ!! ไร้สาระน่าที่ฉันจะต้องมาดูไอ้ฉลามสวะนี่หลับน่ะ ไปแต่งตัวจะยังดีกว่า” แซนซัสพูดก่อนเดินไปแต่งตัว
แต่ถึงกระนั้น ร่างสูงก็ยังหันกลับมา เหมือนโดนมนต์สะกด เขาก้มหน้าลงไปจุมพิตกับริมฝีปากนุ่มๆแสนบอบบางนั้น เนิ่นนานเหมือนจะเป็นการปลุกจากการหลับใหลของเจ้าหญิงนิทรา หากแต่ว่า...เขาเองไม่ได้ชุดมียศแบบนั้น แต่ใส่เพียงผ้าเช็ดตัวผืนเดียวและยังเพิ่งเดินออกมาจากห้องน้ำอีก แถมร่างบางตรงหน้าก็ไม่ได้ชุดกระโปรงแสนสวยแบบเจ้าหญิง หากแต่สวมใส่ชุดเครื่องแบบแห่งความภักดีที่มีต่อเขา ก็เพียงเท่านั้น
และเมื่อแซนซัสรู้ตัวอีกทีว่าริมฝีปากของตนเองได้จรดไปที่ริมฝีปากสีกุหลาบของร่างบางตรงหน้า เขาก็รีบผละออกทันที
“ทำไมฉันต้องจูบแกด้วยว่ะ!! ไม่ได้รักแกซักหน่อย” ร่างสูงทิ้งท้ายไว้เพียงแค่นั้น ก่อนที่จะเดินไปแต่งตัว
.
.
TBC.
ขอบคุณสำหรับการติดตามค่ะ
ความคิดเห็น