คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : Chapter 5
Chapter 5
แสงอาทิตย์ยามเช้าสาดส่องลงมาผ่านผ้าม่านและไปตกกระทบอยู่ที่ร่างกายอันเปลือยเปล่าของร่างเล็ก ที่นอนขดตัวอยู่ในผ้าห่ม ร่างนั้นขยับกายเล็กน้อยเมื่อเจอกับแสงแดด ก่อนที่จะค่อยๆลืมเปลือกตาอันหนักอึ้งขึ้น สองมือพยายามที่จะยันตัวเองให้ลุกขึ้นจากเตียง หากแต่ว่าไร้ผล
ร่างบางมองไปรอบๆตัว ทำให้รู้ว่า มีบางอย่างแปลกไปจากเดิม เพราะเมื่อคืน...ตัวเขาเองกับดีโน่ยังอยู่ที่ห้องโถงใหญ่กลางคฤหาสน์ แต่ตอนนี้กลับมานอนอยู่ในห้องนี้ได้ คงเป็นเพราะดีโน่อุ้มมาสินะ ชายร่างเล็กคิด ก่อนที่จะค่อยๆยันตัวให้ลุกขึ้นมาอีกครั้งอย่างช้าๆ และในที่สุดก็ประสบผลสำเร็จ เขาสามารถลุกขึ้นยืนได้แล้ว ถึงแม้จะมีอาการเจ็บสะโพกนิดหน่อยก็เถอะ
ฮิบาริกวาดสายตามองรอบๆห้องเพื่อหาเสื้อผ้าของตน หากแต่ว่าไม่พบอะไรเลย เจอเพียงชุดชุดหนึ่งที่แลดูมอซอ คร่ำครึ แถมยังสกปรกอีกด้วย เมื่อเห็นว่าไม่มีทางเลือก ร่างบางเลยตัดสินใจหยิบชุดเก่าๆนั่นมาใส่ ก่อนที่จะนั่งลงบนเตียงตามเดิม พลางหยิบเครื่องดนตรีของตน(ที่มาอยู่ตรงนี้เมื่อไร่ก็ไม่ทราบ) ขึ้นมาเล่น พลางทอดสายตามองเหม่อออกไปนอกระเบียง ใบหน้าสวยเริ่มดูเคร่งเครียด คิ้วเริ่มขมวดกันเป็นปม ร่างบางขบริมฝีปากล่างอย่างใช้ความคิด ไม่นานนัก ร่างบางก็เริ่มคลายปมที่คิ้ว ใบหน้าเริ่มดูผ่อนคลายขึ้น ริมฝีปากสวยได้รูปขยับยิ้มอย่างผู้มีชัย และพูดกับตัวเองเบาๆว่า
“ได้เวลาที่ฉันจะเอาคืนแกแล้วล่ะนะ เจ้าสัตว์กินเนื้อ!! ดีโน่!!” พูดจบ ร่างเล็กก็หายตัวไปจากที่นั่นทันที ทิ้งเพียงเครื่องดนตรีญี่ปุ่นที่เจ้าตัวใช้เล่นเมื่อครู่ไว้อยู่บนเตียง
ครืด~!!!
เป็นเวลาไม่นานนักหลังจากที่ฮิบาริหายตัวจากห้องไป ดีโน่ก็เปิดประตูเข้ามาในห้องนี้ พลางกวาดสายตามองไปรอบๆเพื่อหาร่างเล็กที่เคยนอนอยู่บนเตียง
“คงไปเมื่อกี้สินะ” เขาพูดกับตัวเองเบาๆ ในขณะที่สายตายังคงจับจ้องอยู่ที่เครื่องดนตรีญี่ปุ่นที่วางไว้อยู่บนเตียง
“คืนนี้ เจอกันใหม่นะ เคียวยะ” ดีโน่ว่าพลางยิ้มเจ้าเล่ห์ ก่อนที่จะเดินออกจากห้องไป
เช้าวันนี้ยังคงเป็นวันที่คนงานทำงานกันได้อย่างแข็งขันอีกเช่นเคย โดยเฉพาะยิ่งมีหัวหน้ามาคุมด้วยแล้ว ยิ่งทำงานได้เร็วขึ้นอีก ดีโน่เป็นคนมาคุมงานการบูรณะคฤหาสน์ด้วยตัวเอง ซึ่งตอนนี้ก็เหลือเพียงแค่ทาสีด้านนอก แล้วก็จัดสวนอีกนิดหน่อย ก็พร้อมที่จะอยู่ได้แล้ว
“นี่บอสคิดจะอยู่ที่นี่คนเดียวหรือครับ!? ตลอดช่วงเวลาพักร้อนนี่” โรมาริโอ้เอ่ยถามผู้เป็นนายที่กำลังยืนอยู่บนระเบียงคฤหาสน์เพื่อดูงานด้านล่าง
“ไม่หรอกๆ ฉันมีคนอยู่เป็นเพื่อนแล้วด้วยน่ะ” ดีโน่ตอบอย่างอารมณ์ดี ทำให้โรมาริโอ้ต้องมีอาการแปลกใจเล็กน้อยกับสภาพอารมณ์ของดีโน่ที่ไม่ค่อยได้เคยเห็น
“เอ่อ...แล้วบอสอยู่กับใครกันครับ!? ทำไมผมไม่รู้เรื่อง”
“ความลับน่ะ” พูดจบดีโน่ก็เดินออกจากที่นั่นทันที พร้อมกับรอยยิ้มสดใสที่ประดับไว้บนใบหน้า
“เฮ้!! บอสครับ แล้วนั่นบอสจะไปไหน” โรมาริโอว่าพลางสาวเท้าเร็วๆเดินตามผู้เป็นนายไป
“ไปโฮมสเตย์~!!! ไปเอากล้องมาถ่ายรูปที่นี่ไปฝากสึนะน่ะ ฉันมาอยู่ที่นี่ก็ตั้งหลายวันแล้ว แต่กลับไม่มีรูปถ่ายเลยสักใบเดียว นายไม่ต้องตามฉันมาหรอกนะ โรมาริโอ้”
“ครับๆ เชิญบอสตามสบาย เดี๋ยวผมดูงานที่นี่ให้แล้วกันนครับ” โรมาริโอ้รับคำ ก่อนที่จะหันหลังเดินกลับไปตามทางเดิม
เมื่อมาถึงห้องพักในโฮมสเตย์ ดีโน่ก็เดินไปที่โต๊ะทำงานด้วยอาการลัลล้า ก่อนที่จะเปิดลิ้นชักออกมาดูและพบกับ...ความว่างเปล่า
“อา...ไม่มีกล้องในลิ้นชัก สงสัยคงอยู่ที่ไหนสักแห่งในห้องนี้ล่ะมั้ง!?” ดีโน่ต้องข้อสงสัย ก่อนที่จะเดินหากล้องรอบห้อง แต่...ก็ไม่เจออีกเช่นเคย
“เฮ้อ~!! งั้นก็สรุปว่า...ฉันลืมเอากล้องมาด้วยสินะ” ดีโน่พูดอย่างห่อเหี่ยว
“แต่ก็หาซื้อได้นี่!! หมู่บ้านใกล้ๆนี้มีร้านขายอุปกรณ์ไฟฟ้าด้วย น่าจะมีกล้องขายนะ” พูดจบ ดีโน่ก็เตรียมที่จะผินกายออกจากห้องทันที แต่ทว่าเจ้าตัวเกิดคิดอะไรขึ้นมาได้เสียก่อน
“เปลี่ยนชุดดีกว่า ไปนอนหมู่บ้านทั้งที เอาให้เท่ห์กว่านี้ดีกว่า แล้วก็...ถือโอกาสไปเที่ยวต่างหมู่บ้านซะเลย!!” ดีโน่เอ่ยขึ้นอย่างอารมณ์ดี
ร่างสูงเดินตรงไปยังตู้เสื้อผ้าที่อยู่ข้างๆเตียงนอนของตน ก่อนที่จะเปิดออกมาหาดูชุดที่เหมาะสมในการไปเที่ยวครั้งนี้ แต่ว่าก็ต้องพบกับความแปลกใจ เมื่อมีชุดๆหนึ่งได้หายจากตู้นี้ไปอย่างไร้ร่องรอย
“เอ๋!? เสื้อสีดำกับกางเกงขายาวของฉันหายไปไหนนะ อืม...น่าสงสัยจังแฮะ” ร่างสูงยืนครุ่นคิดอยู่หน้าตู้เสื้อผ้าอยู่นาน คิ้วหนาขมวดเป็นปมยุ่งเข้าไปใหญ่ ก่อนที่จะค่อยๆคลายออกทีละนิดๆ
“สงสัยฉันใส่ไปแล้วล่ะมั้ง!? แต่เอ...เฮ้อ!! ช่างมันเถอะ คิดไปก็ปวดสมอง หรือถ้ามีคนจะขโมยไปก็ช่างเถอะ” ดีโน่ว่าพลางยักไหล่อย่างไม่ยี่หระ ก่อนที่จะหยิบเสื้อสีเหลืองขี้ม้ากับกางเกงสีดำออกมา
ชายร่างสูงผมสีทองในชุดลำลองดูสบายๆ หากแต่ให้ความรู้สึกว่าหล่อจับใจ กำลังเดินทอดน่องอย่างสบายใจในห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง ร่างสูงเดินเลี้ยวเข้าไปในบูธเครื่องใช้ไฟฟ้า เพื่อหาของที่ตนต้องการซื้อ
“เอ...แล้วกล้องถ่ายรูปมันอยู่ส่วนไหนของโซนนี้ล่ะเนี่ย” ชายหนุ่มว่าพลางสอดส่องสายตามองหาของที่ตนต้องการ และในที่สุดเขาก็เจอ โซนกล้องถ่ายรูปนั้นตั้งไว้อยู่ด้านในสุดของโซนเครื่องใช้ไฟฟ้า เขาเดินตรงไปหามันอย่างไม่รีรอ
ในบริเวณนั้น มีเพียงหญิงสาวสองคนกำลังเลือกดูกล้องถ่ายรูปและคุยกันอยู่เพียงเท่านั้น นิสัยของผู้ชายเริ่มแผลงลายทันที
“สวัสดีครับ สาวๆ มาเลือกซื้อกล้องถ่ายรูปเหมือนกันหรือครับ!?” ดีโน่ว่าพลางส่งสไมล์พาวเวอร์ไปให้
“อา...ค่ะ คุณเองก็เหมือนกันสินะค่ะ” หญิงสาวคนหนึ่งที่ไว้ผมสั้นบ๊อบเป็นฝ่ายตอบ พร้อมกับทำสีหน้าเขินอาย
“ครับ แต่ว่า...ผมเองก็ไม่ได้มีความรู้เรื่องกล้องซะด้วยสิครับ เลยอยากทราบว่า...พวกคุณพอจะแนะนำผมได้มั๊ยล่ะครับ!?”
“แน่นอนค่ะ!! แล้ว...คุณต้องการกล้องแบบไหนล่ะค่ะ ต้องการราคาสูงมั๊ย!?” หญิงสาวคนเดิมเป็นผู้ตอบอีกครั้ง
“ผมต้องการกล้องแบบ...” ยังไม่ทันที่ดีโน่จะผู้จบ หญิงสาวอีกคนที่ไว้ผมยาวลอนก็เป็นฝ่ายเอ่ยแทรกขึ้นมาก่อน
“ขอโทษด้วยนะคะคุณ เผอิญว่าตอนนี้พวกดิฉันกำลังยุ่งน่ะค่ะ ไม่สามารถช่วยคุณได้ค่ะ ขอตัวก่อนนะคะ” เธอว่าพลางลากแขนเพื่อนอีกคน หากแต่ว่าเพื่อนของเธอกลับไม่ยอมไปเสียนี่ ทั้งยังลากให้เธออยู่ต่ออีกด้วย
“นี่แก!! อย่าเพิ่งรีบสิ ให้ความช่วยเหลือเขาหน่อยไม่ได้รึไงกัน!?” หญิงผมสั้นท้วงกับเพื่อนของเธอ
“เอ่อ...ถ้ารีบก็ไม่เป็นไรนะครับ ไม่รบกวนเวลาดีกว่า” ดีโน่ว่าพลางยิ้มแห้งๆ
“ไม่ค่ะ ไม่เป็นไรหรอกค่ะ เพื่อนฉันก็เป็นแบบนี้ล่ะค่ะ ใจร้อนไปเรื่อย อย่าไปใส่ใจเลยค่ะ คุณ..”
“ดีโน่ครับ”
“ค่ะ คุณดีโน่ ฉันโจเซฟีนนะคะ เอ่อ...แล้วคุณต้องการกล้องแบบไหนกันค่ะ!? ฉันจะได้ช่วยเลือกให้” หญิงสาวนาม โจเซฟีนพูด
“ผมอยากได้กล้องดิจิตอลครับ ความระเอียดขอปานกลางถึงสูงก็ดีครับ” ดีโน่ตอบพลางยิ้มให้
“ค่ะ งั้นฉันแนะนำตัวนี้นะคะ” หญิงสาวว่าพลางหยิบกล้องสีดำตัวหนึ่งมาให้ดีโน่
“ครับ สวยดีนะครับ แต่ผมอยากได้สีขาวมากกว่า เอ...หรือสีน้ำเงินดี เอ๊ะ สีส้มก็สวยดีนะ”
“นี่คุณดีโน่ค่ะ เมื่อไร่คุณจะเลือกได้สักทีล่ะค่ะ ฉันเองก็ต้องมีเวลาเลือกซื้อของของฉันเหมือนกัน นี่ถ้าฉันหาของเตรียมสำหรับงานวันนี้ไม่ทัน ฉันจะถือว่าเป็นความผิดของคุณนะคะ” หญิงสาวผมยาวลอนเอ่ยขึ้นอย่างอารมณ์เสีย
“อา...งานอะไรกัน ให้ผมช่วยด้วยมั๊ยครับ!? ผมเองก็อยากตอบแทนพวกคุณ” ดีโน่ว่าพลางยิ้มให้หญิงสาว
“งานจับแวมไพร์น่ะค่ะ คุณอยากทำเหรอ!?” เธอเอ่ยด้วยน้ำเสียงประชดประชันอย่างเห็นได้ชัด
“นี่!! ลอเรน ใจเย็นสิ เอ่อ...คุณดีโน่ค่ะ อย่าไปสนใจคำพูดของเพื่อนฉันเลยค่ะ คุณมาเลือกกล้องต่อดีกว่า ฉันว่า...”
“อะไรนะครับ!? จับแวมไพร์งั้นเหรอ!? หมู่บ้านนี้มีแวมไพร์ด้วยเหรอครับ!?” ดีโน่หุบยิ้มทันที พลางทำใบหน้าเคร่งครึม
“ใช่ค่ะ คุณคงเป็นนักท่องเที่ยวสินะ ถึงได้ไม่รู้เรื่องราวภายในหมู่บ้านที่ปิดไว้ งั้นฉันจะบอกให้นะคะ หมู่บ้านนี้มีแวมไพร์มาหากินตอนกลางคืนค่ะ ถึงแม้ว่าจะไม่มีใครน่าสงสัยในหมู่บ้านก็ตามแต่ แต่ก็มีสิ่งมีชีวิตดูดเลือดมากินเลือดของคนในหมู่บ้านนี้ค่ะ ดังนั้น...คุณควรที่จะออกจากที่นี่ได้แล้วนะคะ คุณดีโน่” หญิงสาวนาม ลอเรนพูดด้วยใบหน้าเคร่งครึมเช่นกัน
คำพูดประโยคนี้ของลอเรนทำให้ดีโน่นึกถึง ชายร่างเล็กที่เขากกกอดอยู่เมื่อคืน คนคนนั้นก็เป็นแวมไพร์เหมือนกันนี่!?
“ถ้าเป็นอย่างนั้น ให้ผมร่วมพิสูจน์กับคุณในคืนนี้ด้วยได้มั๊ยครับ!? ผมเองก็อยากเห็น...แวมไพร์” ดีโน่เอ่ยออกมา ทำเอาหญิงสาวทั้งสองเบิกตาโพลงด้วยความตกใจ
“ฉันไม่อยากให้คนที่ไม่ใช่คนในหมู่บ้านอย่างคุณมาเสี่ยงกับเรื่องนี้หรอกนะคะ เรื่องนี้เป็นเรื่องภายในหมู่บ้านของฉัน คุณไม่เกี่ยว” หญิงสาวคนเดิมตอบ
“คุณคิดว่าคุณห้ามผมไม่ให้ผมสืบหาความจริงในเรื่องนี้ได้หรือครับ”
“ฉันไม่คิดเช่นนั้นหรอกค่ะ เรื่องสืบหาความจริงน่ะ มันเป็นสิทธิ์ของตัวคุณ แต่เรื่องนี้...มันเสี่ยงเกินไป”
“ถ้าคุณไม่ให้ผมไปจับแวมไพร์ในคืนนี้กับพวกคุณ งั้นคุณบอกผมได้มั๊ยครับ!? ว่ามันจะออกมาเวลาประมาณไหน แล้วที่ไหน!?” ดีโน่แอบถาม
“แปลว่า...คืนนี้ฉันไม่ให้คุณไปด้วย แต่คืนหน้าคุณอาจจะไปเองสินะคะ” หญิงสาวแย้มยิ้มออกมาบ้างแล้ว
“คุณก็รู้นี่”
“แวมไพร์ตนนี้ไม่ได้หากินทุกวัน บางวันนึกอยากจะมาก็มา ไม่มาก็ไม่มา บางครั้งก็หายไป 3-4วัน กลับมาอีกทีสูบเลือดคนจนตายไป 4คนน่ะ มันมักจะหากินเวลาเที่ยงคืนเป็นต้นไป สถานที่ก็เช่นพวกข้างๆป่า หรือที่เปลี่ยวๆ ทางไปสุสาน...ประมาณนั้น” หญิงสาวตอบด้วยใบหน้าเฉยชา
“อืม...” ดีโน่ฟังพลางคิดไปด้วย
...แวมไพร์ตนนี้ไม่ได้หากินทุกวันหรอกรึ...
…แล้วทำไมต้องทำเช่นนั้นล่ะ!?...
...แล้วที่บอกว่า...ในหมู่บ้านนี้ไม่มีบุคคลน่าสงสัยจะเป็นแวมไพร์...
...งั้น...แวมไพร์ที่มาดูดเลือดของคนที่นี่...มาจากที่ไหนกันล่ะ!?...
...อา...นั่นสิ!!...
...แล้ว...เคียวยะล่ะ!? หากินที่ไหนกัน เขาเองก็ไม่เคยได้ข่าวว่ามีแวมไพร์ในหมู่บ้านของเขาเลยนะ...
...แล้ว...เคียวยะ จะดำรงชีวิตอยู่ได้ยังไงล่ะ!? ถ้าไม่มีอาหารน่ะ…
…หรือว่า...แวมไพร์ที่หาดูดเลือดของคนในหมู่บ้านนี้...คือเคียวยะกันนะ...
“คุณดีโน่ค่ะ คุณค่ะ!!” โจเซฟีนเรียกเขาเสียงดัง
“อะ...ครับ มีอะไรเหรอครับ!?” ดีโน่เอ่ยถามอย่างงงๆ
“ดิฉันเห็นคุณเหม่อลอยอยู่น่ะค่ะ”
“อ๋อ เหรอครับ แฮะๆ” เขาว่าพลางส่งยิ้มแห้งๆให้
“คือ...พวกดิฉันต้องขอตัวก่อนนะคะ ตอนนี้ต้องรีบแล้ว คุณคงได้กล้องที่คุณพึงพอใจแล้วนะคะ เรื่องสีก็แล้วแต่ความชอบส่วนบุคคลน่ะค่ะ”
“อ่า...ครับ ขอบคุณมากครับ”
“งั้นดิฉันไปก่อนนะคะ บายค่า~!!!” หญิงสาวว่าพลางเดินออกไปพร้อมกับเพื่อน และโบกมือให้ดีโน่
“ครับ บายครับ” ดีโน่ยกมือโบกกลับพร้อมกับรอยยิ้ม ในสมองสั่งการได้เพียงเรื่องเดียวในตอนนี้...
...เขาจะต้องรู้เรื่องนี้ให้ได้!!...
“โรมาริโอ้ วันนี้ฉันไปนอนที่คฤหาสน์นะ แล้วก็...ไม่ต้องให้ใครมาเฝ้าฉันล่ะ ฉันอยากอยู่เงียบๆคนเดียว” ดีโน่บอกกับคนสนิทของตน หลังจากกลับมาจากการตะลอนนอกหมู่บ้านของดีโน่ และระหว่างการรับประทานอาหารเย็น
“แต่คฤหาสน์ยังสร้างไม่เสร็จนะครับ” คนสนิทของเขาค้าน
“แต่เรื่องน้ำกับไฟฟ้าก็ใช้ได้แล้วนี่ ไม่จำเป็นต้องห่วงอะไรแล้วล่ะ”
“แต่...”
“นายเคยห้ามฉันได้ด้วยเหรอ!? โรมาริโอ้” ดีโน่พูดยิ้มๆ
“ครับๆ แล้วแต่บอสล่ะกัน”
“อื้ม นายเข้าใจได้ดีมาก”
“เอ่อ...บอสครับ คืนนี้ผมไม่อยู่นะครับ พอดีมีธุระต้องไปจัดการในเมืองน่ะครับ” โรมาริโอ้พูด
“อืมๆ นายไปเถอะ ไม่ต้องเป็นห่วง”
“ครับๆ” โรมาริโอ้รับคำอย่างไม่ค่อยเชื่อใจในดีโน่เท่าไร่นัก
เมื่อรับประทานอาหารเย็นเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ดีโน่ก็ขอตัวไปที่คฤหาสน์ทันที ชายหนุ่มเดินออกจากร้านอาหารไปด้วยสีหน้าครุ่นคิด
“บอสครับ!”
“หืม? มีอะไรเหรอ!? โรมาริโอ้” ดีโน่หันหลังกลับมาถามลูกน้องคนสนิทของตนด้วยใบหน้างุนงง
“ตั้งแต่บอสกลับมาจากการไปเที่ยวเมื่อเช้านี้ ผมเห็นบอสทำสีหน้าครุ่นคิดอยู่ตลอดเวลา บอสมีปัญหาอะไรให้ผมช่วยมั๊ยครับ!?” โรมาริโอ้ถามด้วยความเป็นห่วง
“อืม...ไม่หรอกๆ ฉันก็แค่คิดอะไรไปเรื่อยเปื่อยน่ะ” ดีโน่ตอบพลางยิ้ม ก่อนที่จะเดินจากไป
“ครับๆ” โรมาริโอ้มองตามไปด้วยความเป็นห่วง คำโกหกคำโตเมื่อสักครู่ของดีโน่ ไม่ได้ช่วยให้เขารู้สึกห่วงเจ้านายน้อยลงเลย
ชายผู้เป็นลูกน้องคนสนิทของดีโน่ถอนหายใจเฮือกใหญ่ ก่อนที่จะขึ้นรถของตนเองไปทำธุระในเมือง ชายสูงอายุยังคงมองไปยังเส้นทางที่ดีโน่เดิน ด้วยความรู้สึกวิตกกังวลเป็นอย่างยิ่ง
.
.
.
TBC.
ช่วงนี้หมดกำลังใจในการแต่งฟิคเรื่องนี้อย่างแรงอ่ะ - -
ความคิดเห็น