คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : Chapter 3
Chapter 3
เวลาผ่านไปถึงหนึ่งวันเต็มๆแล้ว หลังจากที่มีคนพบดีโน่นอนสลบไสลในสถาพเลือดท่วมอยู่ที่ตรงระเบียงบ้านในตอนกลางคืน เขาค่อยๆลืมเปลือกตาอันหนักอึ้งของตนเองขึ้น นัยน์ตาสีอำพันพยายามปรับสายตาให้คุ้นชินกับภาพตรงหน้า สิ่งที่เขาเห็นก็คือ รอบกลางของเขามืดสลัวๆ อาจจะเป็นเพราะนี่คือเวลากลางคืน เขากวาดสายตามองออกไปรอบๆตัวเขา พบว่าตัวเองกำลังนอนให้สายน้ำเกลืออยู่ที่เตียงผู้ป่วย ที่คอของเขามีเฝือกอันใหญ่และหนาค้ำคออยู่
เขาพยายามส่งเสียงเรียกบุคคลที่นอนอยู่บนโซฟา ซึ่งเขาคิดว่าคือ โรมาริโอ้ แต่ทว่ากล่องของเขากลับไม่อำนวยเสียเลย เพราะไม่มีแม้แต่เสียงใดเล็ดลอดออกมา เขาจึงพยายามเรียกอีกครั้ง โชคดีที่ครั้งนี้ร่างกายของเขาให้ความร่วมมือดี เสียงก็เลยออกมาจากลำคอได้ ถึงแม้จะเป็นเสียงที่ไม่ดังนัก แต่เนื่องจากห้องนี้อยู่ในภาวะเงียบสงบ จึงทำให้เสียงแหบๆของเขาดูดังขึ้น
“โร...โรมาริโอ้” ดีโน่เอ่ยเรียกชื่อคนสนิทของเขาที่กำลังนอนหันหลังให้เขาอยู่ที่บนโซฟา
แต่ว่าชายที่ถูกเอ่ยนามกลับไม่ขยับเลยแม้เพียงนิด ดีโน่จึงตัดสินใจนำเท้าของตนเองไปเตะเหล็กที่กั้นเตียงเพื่อให้เกิดเสียงดัง และนั้นก็ได้ผล คนที่นอนหันหลังให้หันกลับมามองที่ดีโน่ และนั่นเองก็ทำให้เขาถึงกับตลึงงัน เพราะนั่น...มันไม่ใช่ใบหน้าของโรมาริโอ้!!
“อ๊าคคคคคค อย่า...อย่าเข้านะ ไม่...อ๊าคคค” ดีโน่กรีดร้องเสียงดัง พลางชี้นิ้วไปที่ร่างที่กำลังเดินเข้ามาหาตนอย่างหวาดหวัน ร่างนั้นเป็นผู้ชายในชุดเสื้อคลุมสีดำมืดมิด ใบหน้าที่ถูกฮู้ดปิดลงมาเกือบค่อนหน้า
“กะ...แก...ออกไปนะ” ดีโน่ยังคงสั่นด้วยความกลัว หากแต่ว่ายังคงเอ่ยปากไล่คนตรงหน้า ถึงแม้มันจะไร้ผลก็ตามที
ใช้เวลาเพียงไม่นานนัก ร่างสูงในชุดฮู้ดสีดำก็มายืนอยู่ตรงหน้าดีโน่แล้ว เขายื่นมือมาบีบคอคนที่อยู่บนเตียง ใบหน้าที่อยู่ใต้ฮู้ดเผยออกมาให้ได้เห็น
“!!!” ดีโน่ถึงกับมือไม้สั่นทำอะไรไม่ถูกทันที เมื่อสบตาเข้าอย่างจังกับนัยน์ตาสีเลือดนั่น เขาในตอนนี้แทบไม่มีแรงจะต่อต้านอะไรได้เลย
ใบหน้าที่อยู่ใต้ฮู้ดนั้นเผยรอยยิ้มแสยะ พร้อมๆกับที่เพิ่มแรงได้การบีบคอคนตรงหน้าแรงขึ้น ทำให้ดีโน่ได้แต่พยายามอ้าปากสูดอากาสเข้าไป พร้อมๆกับที่พยายามดิ้นรนให้พ้นอุ้งมือมารนี้ได้
จนในที่สุด เรี่ยวแรงที่หลงเหลืออยู่ก็หมดลง ดีโน่เริ่มอ่อนแรงลง เปลือกตาใกล้ปิดเต็มที พอๆกับที่อากาศที่ใช้ในการหายใจแทบไม่เหลือ แต่ก่อนที่เปลือกตาจะปิดลง...
“คุณ...คุณค่ะ ตื่นสิค่ะ!!!” เสียงร้องเรียกของหญิงสาวผู้หนึ่งเป็นผู้ฉุดรั้งสติของเขาไว้ พร้อมๆกับที่เขารู้สึกถึงความเจ็บจี๊ดที่ผิวหนัง
เมื่อเขาลืมตาขึ้น สิ่งที่เห็นเป็นสิ่งแรกคือ ภาพที่พยาบาลสาวกำลังแกะมือของดีโน่ที่บีบคอตัวเขาเองอยู่ เมื่อเธอเห็นว่าผู้ป่วยลืมตาขึ้นแล้ว จึงคลายวิตกกังวลไปบ้าง
“คุณค่ะ ทำใจเย็นๆไว้นะคะ ควบคุมสติอารมณ์ไว้ค่ะ ไม่เป็นไรแล้วนะคะ ไม่เป็นไรแล้ว” เธอพยายามพูดปลอบใจคนไข้
“อะ...ครับ...ผม...ผมแค่ฝันร้ายเอง ไม่เป็นไรแล้วล่ะครับ” ดีโน่เอ่ยพร้อมกับรอยยิ้มแห้งๆ เหงื่อกาฬของเขายังคงไหลออกมาไม่หยุด
“ค่ะ งั้นล้างหน้าหน่อยนะคะ” พูดจบเธอก็วิ่งเข้าไปในห้องน้ำ ก่อนที่จะออกมาพร้อมกับผ้าขนหนูชุบน้ำหมาดๆ
“ขอบคุณครับ”
ดีโน่รับมาเช็ดหน้า ก่อนที่จะส่งคืนพยาบาล
“แล้ว...คุณจะรับยานอนหลับรึเปล่าค่ะ?”
“เอ่อ...ไม่ดีกว่าครับ เดี๋ยวสักพักผมก็หลับต่อได้แล้วล่ะ” ดีโน่ตอบอย่างสุภาพ ก่อนที่จะล้มตัวลงนอนอีกครั้ง เขานอนหันหลังให้กับพยาบาล ใบหน้าคมยังคงครุ่นคิดถึงฝันเมื่อสักครู่
...ทำไมฉันถึงต้องฝันแบบนั้นล่ะ…
ฝันถึง ‘คนคนนั้น’ ทำไมอีก
หรือว่า...นี่จะเป็นลางบอกเหตุว่า...ชีวิตของเขาจะต้องมาเกี่ยวพันกับ ‘คนคนนั้น’ อีก
‘คนคนนั้น’ กับฝันร้ายที่เขาไม่เคยลืมเลือน...
แสงอาทิตย์อันแสนเจิดจ้าสาดส่องเข้ามาแยงตาของผู้ป่วยที่กำลังนอนหลับสนิทอยู่บนเตียง เวลาในตอนนี้คือ 6โมงเช้า อันเป็นเวลาที่เหล่านกกาทั้งหลายออกหาอาหาร แต่สำหรับบางคนกลับ...เพิ่งตื่น
“ฮ้าว~!!!” ดีโน่ที่ถูกรบกวนด้วยแสงแดดจากดวงอาทิตย์นั้น ค่อยๆตื่นลืมตาขึ้น เขายกปิดขึ้นมาปิดปากขณะหาว ก่อนที่จะมองหาแก้วน้ำที่วางอยู่ข้างๆเตียงผู้ป่วย
“บอสตื่นแล้วสินะครับ!!” โรมาริโอ้ว่าพลางเดินมาหาดีโน่ ก่อนที่จะหยิบแก้วน้ำและหลอดให้คนที่นอนป่วยอยู่
“ก็เห็นฉันลืมตาอยู่ จะให้หลับอยู่ได้ยังไงเล่า โรมาริโอ้” ดีโน่ตอบแบบกวนๆ ก่อนที่จะรับน้ำจากคนสูงวัยกว่ามาดื่ม
“ครับๆ นี่บอสเริ่มต่อปากต่อคำแล้วสินะครับ งั้นก็แปลว่าหายดีแล้วล่ะ”
“ก็คงงั้นมั้ง”
“งั้นบอสก็ได้เวลาตอบผมมาสักทีนะครับ ว่าทำไมบอสถึงไปนอนจมกองเลือดอยู่ได้ในวันนั้นน่ะ” โรมาริโอ้ถามด้วยน้ำเสียงจริงจัง
“ก็...ก็...ไม่มีอะไรมากหรอกน่า โรมาริโอ้ไม่ต้องเป็นห่วงหรอก ฉันดูแลตัวเองได้นะ ฉันโตแล้ว” ดีโน่ว่าพลางก้มหน้างุด ไม่กล้าสบสายตา
“นี่บอสบอกว่า บอสดูแลตัวเองได้เหรอครับ ในเมื่อตอนนั้นบอสยังถูกทำร้ายบาดเจ็บสาหัสได้อยู่เลย ถ้าไม่มีคนมาเจอเข้า ป่านนี้บอสคงไม่มีชีวิตอยู่แล้วนะครับ”
“แต่ถึงอย่างนั้นฉันเองก็ไม่ใช่เด็กๆแล้วนะ โรมาริโอ้” ดีโน่เถียงกลับด้วยใบหน้าแน่นิ่ง จนโรมาริโอ้ต้องถอนหายใจในความดื้อรั้นของเจ้านาย ก่อนที่จะเอ่ยออกมาเบาๆ
“ผมรู้ครับ บอส ว่าบอสไม่ใช่เด็กๆแล้ว แต่ที่ผมเป็นห่วงก็คือ...การที่บอสเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับพวกแวมไพร์ยังไงล่ะครับ” คำพูดนี้ทำเอาดีโน่ชะงักงันไปสักพัก
“ผมเองก็ไม่ได้เป็นคนโง่นะครับ ผมทำงานอยู่กับท่านพ่อท่านแม่ของบอสมาตั้งนานแล้ว ทำไมจะไม่รู้เลยว่าร่องรอยการต่อสู้ของแวมไพร์เป็นยังไง และสิ่งที่ผมเห็นได้รู้จากบาดแผลของบอสก็คือ ร่องรอยจากการต่อสู้กับแวมไพร์!!! บอสครับ...ผมเตือนบอสแล้วนะครับ ว่าอย่าไปยุ่งกับมัน บอสเองก็น่าจะรู้นี่ครับ ว่ามันร้ายกาจขนาดไหน แล้วทำไมบอสถึง...”
“เพราะฉันรู้ว่ามันร้ายกาจมากยังไงล่ะ ฉันถึงได้เข้าไปยุ่งกับมัน” ดีโน่พูดด้วยน้ำเสียงนิ่งๆระคนเย็นชา
“นี่บอสคิดจะทำอะไรกันแน่ครับ!?” โรมาริโอ้เริ่มถามด้วยความไม่แน่ใจ เขากลัวว่าบอสของเขาคิดจะทำอะไรแผลงๆลงไป
“ฉันคิดจะแก้แค้นให้พ่อแม่ของฉัน!!! จะแก้แค้น...พวกแวมไพร์ที่มันฆ่าพ่อแม่ของฉัน!!!” ดีโน่เอ่ยด้วยน้ำเสียงโกรธเกรี้ยวอย่างถึงที่สุด
“แต่...แต่บอสครับ แวมไพร์ตนนั้นก็ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องอะไรกับการตายของพ่อแม่บอสเลยนี่ครับ บอสจะเอาความแค้นส่วนตัวมาทำร้ายคนอื่นไม่ได้นะครับ!!” โรมาริโอ้รีบค้าน
“ทำไมฉันจะทำไม่ได้ล่ะ หน้าที่ของพ่อแม่ฉันคือ ‘แวมไพร์ฮันเตอร์’ ฉันซึ่งเป็นลูกก็ควรจะสืบทอดหน้าที่นี้!!” ดีโน่พูดอย่างจริงจัง ภายในดวงตาสีอำพันของเขามีเปลวเพลิงสีแดงลุกโชนอยู่
“บะ...บอสครับ” ลูกน้องคนสนิทของเขาได้แต่มองดูหน้าเจ้านายด้วยสีหน้าที่ไม่ค่อยดีนัก
.
.
.
.
ขาเรียวยาวของชายผู้มีเรือนผมสีทองสว่างกำลังก้าวเข้ามายังคฤหาสน์หลังใหญ่สีขาวนี้อย่างช้าๆ ดวงตาสีอำพันมองไปรอบๆตัวหวังจะได้เจอกับสิ่งที่ตนเองต้องการ แต่สิ่งที่เขามองเห็นก็มีเพียงความมืดที่บ่งบอกถึงกาลเวลาเท่านั้น
“กลับมาให้ฉันขย้ำแล้วสินะ แกน่ะ” ฮิบาริ เคียวยะ พูดพลางกระโดดลงมาจากที่ใดไม่รู้มายืนอยู่ตรงหน้าชายร่างสูง
“...”
“...” ต่างคนต่างมองตากันด้วยความเงียบ ไม่มีเสียงใดๆเล็ดลอดออกมาจากปากของแต่ละฝ่าย จะมีเพียงแต่ดวงตาอาฆาตแค้นที่แสดงออกมาเท่านั้น แต่ถึงกระนั้น...ก็ยังไม่มีใครลงมือทำร้ายใครก่อน จนดีโน่เอ่ยทำลายความเงียบ
“ฉันมาที่นี่อีกครั้งก็เพื่อ...ฆ่านาย” เสียงทุ้มต่ำเอ่ยออกมาอย่างเรียบๆ
ร่างเล็กกระตุกยิ้มที่มุมปากเล็กน้อย ก่อนที่จะไม่รอช้า หยิบทอนฟาขึ้นมาฟาดฟันไปที่ร่างสูงทันที น่าเสียดายที่ร่างนั้นกลับรับได้โดยง่ายซะนี่ แถมยังใช้มือรับเสียด้วย
แต่สำหรับฮิบาริ ไม่มีคำว่าผิดพลาดอีกในกรณีเดียวกัน เขาใช้ทอนฟาที่เหลืออยู่อีกข้างฟาดไปที่มือของร่างสูงที่กำลังจับเขาอยู่ทันที เมื่อเห็นว่าหลุดแล้ว จึงใช้ทอนฟาไล่ฟาดดีโน่ต่อไป แต่ก็ไม่ถูกเลยแม้แต่ครั้งเดียว ร่างที่สูงกว่าหลบพ้นได้ทุกครั้งไป แต่ถึงจะหลบพ้นได้ ก็ไม่ยอมโจมตีเลยสักกระบวนท่า ทำให้ฮิบาริฉุนเฉียวอย่างมาก
“ที่แกไม่ยอมโจมตีนี่ แปลว่าแกกำลังดูถูกฉันอยู่สินะ เจ้าสัตว์กินเนื้อ” ร่างเล็กพูดลอดไรฟัน
“ฉันก็แค่ให้โอกาสนายในเรื่องที่อนาคตนายจะไม่ได้ทำอีกแล้วยังไงล่ะ” ดีโน่พูดอย่างเรียบๆอีกเช่นเคย แต่นั้นก็สร้างความโกรธเกรี้ยวให้ฮิบาริมากขึ้นกว่าเดิม
“ฮึ!!!” ร่างเล็กแค่นเสียงจมูกนิดนึงด้วยความแค้น ก่อนที่จะกัดฟันโกรธและไล่ฟาดดีโน่ด้วยความแรงและเร็วขึ้น และนั้นเองก็ทำให้ดีโน่ได้รับบาดเจ็บบ้างเพียงเล็กน้อยเท่านั้น เพราะในเมื่อร่างสูงก็ยังคงตั้งรับอยู่เหมือนเก่า ไม่คิดแม้แต่จะโจมตี
ฮิบาริที่ยังคงไม่พอใจในเรื่องนี้กลับเลือกที่จะอยู่เฉยๆ แล้วรอโอกาสเหมาะๆฟาดไปที่คอของร่างสูงอันเป็นจุดยุทธศาสตร์ที่ในตอนนี้ปกป้องอยากที่สุด แต่ทว่า...คนตัวสูงกลับป้องกันมันได้น่ะสิ หนำซ้ำยังจับข้อมือของฮิบาริที่จะฟาดไว้ได้อีกด้วย
“เอาล่ะ ฉันเบื่อที่จะเล่นกับนายแล้ว”
“!!!?”
“ฉันไม่อยากมาเสียเวลากับนายมากหรอกนะ นายมันก็แค่แวมไพร์ตนหนึ่ง แวมไพร์...ซึ่งเป็นเผ่าพันธุ์ที่ฉันต้องฆ่า!!!!” ร่างสูงพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาจนเสียวสันหลัง ก่อนที่จะใช้มืออีกข้างหยิบโลหะรูปร่างเหมือนไม้กางเขน และทาบทับไปที่ลำคอขาวๆของอีกฝ่าย
ด้านฮิบาริที่ไม่เคยคิดว่าร่างสูงที่อยู่ตรงหน้าตนจะเล่นไม่นี้กับเขา ถึงกับกรีดร้องด้วยความเจ็บปวด ร่างเล็กพยายามที่จะดิ้นรนและผลักไสตัวเองให้ออกจากที่ตรงนี้โดยเร็ว แต่ทว่าร่างกายของเขากลับร้อนรุ่มจนแทบจะขยับตัวไม่ได้ และในขณะนั้นเอง ดีโน่ก็เป็นฝ่ายที่ยกโลหะสีเงินนั่นออกจากคอของเขาก่อน และผลักฮิบาริลงไปกองกลับพื้น จากนั้นก็ยิ้มแสยะ
“ในฐานะที่นายเป็นแวมไพร์ตัวแรกที่ฉันจะฆ่า ดังนั้น...ฉันจะทำให้นายตายแบบไม่ทรมานล่ะกัน” พูดจบ เขาก็ยกปืนกระบอกใหญ่ที่ซ่อนอยู่ด้านหลังของตนขึ้น กระบอกปืนขนาด 7มม. สีเงินวาววับ ที่ไม่ต้องบอกก็รู้เลยว่า...ข้างในนั่นบรรจุลูกกระสุนสีเงินสำหรับฆ่าแวมไพร์ไว้โดยเฉพาะแน่ๆ
“ลาขาดเลยล่ะ...เคียวยะ” ก่อนที่ฮิบาริจะได้ยินเสียงปืนดังสนั่น เขาหลับตาปี๋เพื่อรอคอยความเจ็บปวดก่อนตาย ตัวเขาเองเป็นแวมไพร์มาจนถึงป่านนี้ ไม่เคยเจอเหตุการณ์ลักษณะเช่นนี้มาก่อน นี้ล่ะมั้ง...ที่เขาเรียกว่า...แวมไพร์ฮันเตอร์ แต่ได้มารู้เอาป่านนี้...ก็คงสายเกินไปแล้วล่ะ เพราะยังไง...ก็คงต้องโดนกระสุนเงินเจาะหัวใจแน่ๆ
“อะ...นั่น” แต่เสียงที่ดังออกมากลับไม่ใช่เสียงปืน มันเป็นเสียงของดีโน่ที่กำลังบ่งบอกว่าตัวผู้พูดกำลังสนใจอะไรบางอย่างอยู่
“?” ทำให้ฮิบาริต้องลืมตาขึ้นมามองคนตรงหน้า แต่กลับยิ่งตกใจมากกว่าเดิม เมื่อร่างสูงที่เคยยืนค้ำหัวเขา ตอนนี้ได้ย่อตัวลงมาและเลื่อนใบหน้าเข้ามาหาเขาเรื่อยๆ
“นะ...นี่มัน” ดีโน่พูดด้วยน้ำเสียงตะกุกตะกัก สายตาจ้องมองไปที่สร้อยคริสตัลที่อยู่บนคอของฮิบาริ ความรู้สึกประหลาดใจปรากฏขึ้นภายในใจของดีโน่
ฝ่ายฮิบาริที่เห็นว่าดีโน่กำลังเผลออยู่นั้น ก็เห็นจังหวะที่จะตอบโต้กลับ เขาเอื้อมมือไปหยิบทอนฟาที่อยู่ไม่ไกลตัวนัก ก่อนที่จะฟาดเข้าไปที่ศีรษะของดีโน่อย่างเต็มแรง จากนั้นจึงลุกขึ้นยืน และยกเท้าขึ้นกระทืบร่างสูงซ้ำๆ
ดีโน่ที่ได้สติหลังจากอึ้งอยู่กับสร้อยเส้นนั้นอยู่นาน ก็แขนขึ้นไปปัดเท้าของร่างเล็กที่กำลังเตะเขาอยู่ พลางยันตัวเองขึ้น สองมือกระชับแส้อย่างมุ่งมั่น ใบหน้าพร้อมสู้เต็มที่
“นายเล่นทีเผลอนะ เคียวยะ” ดีโน่พูดเรียบๆ
“หึ!!” ฮิบาริที่ได้ยินคำนั้นกลับยิ้ม ก่อนที่จะพุ่งตัวเข้าไปสู้กับดีโน่อีกครั้ง ในการต่อสู้ครั้งนี้ฮิบาริดูท่าจะมีความคล่องตัวมากกว่าแต่ก่อน ซ้ำยังหลบได้เก่งขึ้นอีกด้วย แต่ดีโน่เองก็ไม่แพ้เช่นกัน เขาหวดแส้ด้วยความเร็วที่สูงขึ้น และปิดช่องว่างแทบทุกช่องที่ฮิบาริสามารถจะโจมตีเขาได้
ในขณะที่ฟาดแส้ไป เขาเองก็พยายามที่จะหาช่องว่างในการโจมตีร่างเล็กให้ได้ แต่ทว่า...สายตาของเขากลับหยุดลงที่สร้อยที่อยู่บนลำคอของร่างเล็ก ก่อนที่จะเอ่ยคำพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่แหบพร่า
“สร้อย...สร้อยคริสตัลเส้นนั้น ที่อยู่บนคอนาย นาย...ไปได้มันมาจากไหน!?”
“ฉันจะไปเอาสร้อยเส้นนี้มาจากไหน แล้วมันเกี่ยวอะไรกับแก เจ้าสัตว์กินเนื้อ” ฮิบาริยังคงฟาดทอนฟาต่อไป ในขณะที่ตอบคำถามคนตรงหน้า
“เกี่ยวสิ เกี่ยวมากๆเลยด้วย” น้ำเสียงของดีโน่อยู่เย็นชาขึ้น
“...”
“เพราะสร้อยเส้นนี้จะเป็นตัวกำหนดความเป็นตายของนายยังไงเล่า เคียวยะ!!!!” ดีโน่ขึ้นเสียง พลางตวัดแส้แรงยิ่งขึ้น ทำให้ทอนฟาที่คนตัวเล็กใช้รับหักงอจนเสียรูป ซ้ำแส้ยังตวัดมากระทบผิวกายเป็นแผลเลือดออกอีกด้วย
“แก!!” ฮิบาริมองทอนฟาที่หักงอของตน พลางกัดฟันกรอด ก่อนที่จะโยนทอนฟาที่ใช้ไม่ได้อันนั้นทิ้งไป เหลืออาวุธคู่กายเพียงอันเดียวที่จะใช้ต่อสู้กับคนตรงหน้า
ฮิบาริพุ่งตัวเข้าไปต่อสู้กับดีโน่ด้วยความระวังมากขึ้น เพราะอาวุธของตนมีเพียงข้างเดียว การที่จะใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพอย่างเมื่อก่อนนั้นคงเป็นไปไม่ได้ แต่ถึงฮิบาริจะใช้ความระมัดระวังมากเท่าไร ก็ดูเหมือนว่าจะไม่เพียงพอ เมื่อดีโน่ยังคงรุกเข้ามาหนักขึ้นเรื่อยๆ ซ้ำยังเป็นคนซึ่งตัวโตกว่าและแข็งแรงกว่า ถึงแม้แวมไพร์จะได้ขึ้นชื่อว่ามีความเป็นอมตะและแข็งแกร่งมาก แต่มันใช้กับฮิบาริไม่ได้ เมื่อเขาไม่เคยแม้แต่จะกินเลือดของแวมไพร์ด้วยกัน หรือกินเลือดของบาทหลวงหรือผู้มีพลังวิเศษเลย เขาซึ่งกินแต่เลือดของพวกโฮมเลซเท่านั้น กลับไม่ได้มีพลังมากเกินไปกว่ามนุษย์ธรรมดาเลย
ไม่ทันที่ฮิบาริจะได้คิดแผนการเอาชนะดีโน่ คนร่างสูงก็จัดการปัดทอนฟาที่เหลืออีกข้างของฮิบาริออกไปให้พ้นมือเจ้าของ พลางโอบกอดฮิบาริให้มาแนบชิดกับตัวเองยิ่งขึ้น
“กะ...แกจะทำอะไรน่ะ” ร่างเล็กที่อยู่ๆก็ถูกรวบตัวมากอดถามขึ้นด้วยท่าทีที่โกรธก็ไม่ใช่อายก็ไม่เชิง
“ฉันไม่คิดที่จะพิศวาสนายหรอกนะ ไม่ต้องกลัวไป” ร่างสูงพูดเรียบๆ
“งั้นแกก็ปล่อยฉัน!!!”
“ฉันจะปล่อยนาย...ก็ต่อเมื่อนายตอบคำถามของฉันจนกว่าฉันจะพอใจ” ร่างสูงพูดด้วยน้ำเสียงเข้มขึ้น
“ทำไมฉันต้องตอบคำถามแก!!!” ฮิบาริเริ่มตอบโต้ด้วยน้ำเสียงเย็นชาบ้าง
“ทำไมต้องตอบน่ะเหรอ!? ก็เพราะฉันอยากรู้ไงเล่า...แต่ถ้านายไม่ตอบฉัน...นายจะต้องได้รับบทเรียนที่นายจะลืมไม่ลงไปเลยล่ะ” ดีโน่ว่าพลางเชิงคางของคนในอ้อมกอดขึ้น เพื่อให้เงยหน้าขึ้นมาสบตากับตน และพูดด้วยน้ำเสียงที่แฝงไปด้วยความเจ้าเล่ห์
“กะ...แก” ฮิบาริกัดฟันกรอด พร้อมกับพยายามที่จะดิ้นให้ตนเองหลุดออกจากอ้อมกอดนี้ แต่ดูท่าว่าจะไม่ได้ผลเลยสักนิด ในเมื่อคนร่างสูงกลับรัดตัวเขาแน่นมากขึ้นกว่าเดิมทุกครั้งที่เขาขยับ
“ถ้านายตกลงว่าจะตอบทุกคำถามที่ฉันถามนาย ฉันก็จะยอมปล่อยนายไป”
“...!!!” ฮิบาริที่ปกติไม่เคยยอมใคร กลับถูกต้อนจนมุมแบบนี้ ยิ่งทำให้เจ้าตัวคับแค้นใจยิ่งขึ้น ใบหน้าสวยของคนตัวเล็กเงยหน้าขึ้นมองคนที่สูงกว่า พลางทำตาโตถมึงถึงใส่
“เรามาคุยกันดีกว่านะ” ดีโน่ยิ้มอย่างน่ากลัว ก่อนที่อุ้มร่างเล็กขึ้นพาดบ่า และเดินตรงไปยังห้องโถงใหญ่กลางคฤหาสน์ ท่ามกลางเสียงคัดค้านของคนที่ถูกอุ้ม
.
.
.
.
TBC.
ตอนหน้าคงจะเป็นที่ถูกใจกับแม่ยกหื่นๆหลายคนเลยล่ะค่ะ^^
ความคิดเห็น