ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Nightmare ฝันอันตราย

    ลำดับตอนที่ #1 : บทนำ

    • อัปเดตล่าสุด 10 มี.ค. 49


    บทนำ

              ครั้งแรกมันปรากฏตัวให้เห็นในความฝัน ครั้งนั้นมีเพียงภาพร่างและดวงตาที่กร้าวดุแต่ไม่มีน้ำเสียงสื่อความหมายใดๆ ให้เธอเข้าใจ...ยามที่สะดุ้งตื่นผวา ดวงรัตน์เพียงนึกปลอบตัวเองว่ามันเป็นเพียงฝันร้ายแล้วก็คงผ่านเลยไป แต่คืนต่อๆ มาทุกครั้งที่เธอนอนหลับฝันมันก็ปรากฏตัวให้เห็นซ้ำแล้วซ้ำอีก จนดวงรัตน์เริ่มรู้สึกหวาดหวั่นว่าเธอกำลังถูกพลังอำนาจอะไรบางอย่างจองเวรเข้าให้แล้ว

              เช้าวันที่สี่ดวงรัตน์จึงตัดสินใจเดินหน้าเข้าหาวัดเพื่อทำบุญตักบาตรและกรวดน้ำอุทิศส่วนกุศลให้กับเจ้ากรรมนายเวร...แต่แทนที่เธอจะรู้สึกดีขึ้นกลับกลายเป็นว่าขณะที่เธอกำลังก้าวเดินออกจากเขตวัดนั้นเธอได้ยินเสียงหัวเราะ...เสียงหัวเราะเบาๆ สามสี่ครั้งและปรากฏภาพของมันให้เห็นในห้วงสำนึก...แม้จะเป็นเพียงชั่วขณะเธอก็จดจำได้ว่าเป็นมัน...เป็นมันเองที่กำลังหัวเราะอยู่ หัวเราะเหมือนหัวเราะเยาะเธอ

                ...มันยังไม่พอหรอก..มันยังไม่พอ...หึ หึ...

              นั่นเป็นครั้งแรกที่เธอได้ยินเสียงพูดของมัน ดวงรัตน์หมดสติไปแทบจะทันใดหลังจากที่จับใจความประโยคพูดนั้นได้ และมั่นใจในบัดดลว่าเธอโดนจองเวรเป็นแน่แล้ว

              ระหว่างที่นอนพักฟื้นอยู่นั้น ดวงรัตน์พยายามนึกทบทวนถึงเหตุผลต่างต่างนานาที่อาจจะทำให้เธอถูกจองเวรจากอำนาจลี้ลับบางอย่างนั้น เพื่อเสาะหาบุคคลผู้ซึ่งน่าจะเป็นคนที่กำลังกระทำการจองเวรกับเธอ

              ...แต่เธอนึกไม่ออก...

              เธอนึกไม่ออกว่าช่วงชีวิตที่ผ่านมากว่ายี่สิบห้าปีของเธอนี้ เธอเคยไปทำให้ใครต้องเจ็บช้ำน้ำใจร้ายแรงพอที่จะทำให้คนคนนั้นก่อการจองเวรกับเธอได้บ้าง

              ชีวิตที่แสนจะราบเรียบและเรียบง่าย ตื่นเช้าออกจากที่พักมาที่ทำงาน กลับจากที่ทำงานไปที่พักในเวลาตอนเย็นและสังสรรค์กับเพื่อนๆ ที่บริษัทบ้างเล็กๆ น้อยๆ นั้นไม่น่าจะไปสร้างความเดือดร้อนให้กับใครได้...

              สำหรับเธอแล้วงานฝ่ายบุคคลที่เธอทำมันออกจะน่าเบื่อ จนเธอคิดจะเปลี่ยนงานอยู่หลายครั้งไปซะด้วยซ้ำ...นั่นสิงานอย่างนี้ไม่น่าจะไปสร้างความเดือดร้อนให้กับใครได้ เธอไม่ได้อยู่ฝ่ายการเงินหรือฝ่ายเร่งรัดหนี้สินของบริษัทซักหน่อย

              ...แล้วเรื่องชู้สาวล่ะ...

              ผู้หญิงหน้าตาธรรมดา นิสัยธรรมดาๆ ออกจะเก็บตัวอย่างเธอ เนี่ยนะ...ยิ่งเป็นไปไม่ได้เลย เพราะทุกวันนี้ก็ยังไม่เห็นมีผู้ชายคนไหนเข้ามาพูดคุยหรือจีบเธออย่างจริงจังสักคน

              ...แล้วมันอะไรกันล่ะ เธอไปทำอะไรมากันแน่ มันถึงคอยติดตามเธออยู่อย่างนี้...

                ...ใกล้ถึงเวลาแล้วล่ะ ใกล้ถึงเวลาแล้ว...เสียงของมันดังขึ้นในโสตสัมผัสอีกครั้งหนึ่ง

              ดวงรัตน์ขยับมือขึ้นมาเกาะกุมสร้อยพระที่คล้องอยู่ เธอนึกภาวนาคาถาและคำสวดต่างๆ เท่าที่จะนึกได้ เพื่อขับไล่เสียงนั้นไป

              ...อย่าตามมาจองเวร จองกรรมกันอีกเลย ได้โปรดเถอะ...เธอวิงวอนมันขณะที่สวดภาวนา

              สิ้นคำวิงวอนของเธอ เสียงหัวเราะของมันก็ดังก้องขึ้นให้ได้ยิน..ดัง ดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง

              "ไป ไป ซะทีเถอะ ออกไป ออกไป" เธอผุดลุกขึ้นจากเตียง และตะโกนก้องจนหมอ พยาบาลและคนไข้ในห้องดูอาการตกใจ

              "คุณคะ คุณ คุณใจเย็นๆ ก่อน มีอะไรให้ดิฉันช่วยได้บ้างค่ะ" เป็นนางพยาบาลคนหนึ่งที่เอ่ยปากพูดคุยไถ่ถามเธอ

              ...ใกล้ถึงเวลาแล้วล่ะ ใกล้ถึงเวลาของเจ้าแล้ว เตรียมตัวไว้ให้ดี...เสียงของมันยังดังขึ้นไม่หยุดหย่อน

              "ช่วยฉันด้วยค่ะ คุณพยาบาล ช่วยฉันด้วย" เธอร่ำร้อง ก่อนที่จะโผตัวเข้าหานางพยาบาลคนนั้น

    *****************************

              หมอตัดสินใจให้ยาระงับประสาทกับเธอ และให้เธอนอนรอดูอาการที่ห้องดูอาการต่อ

              ยานั่นทำให้เธอเคลิ้ม และเริ่มรู้สึกง่วงนอน ศีรษะและเปลือกตาของเธอหนักขึ้นเรื่อยๆ

              ...ไม่นะ ไม่ เธอยังไม่อยากจะนอนตอนนี้ เพราะถ้าเธอนอนหลับ มันจะมา...

                ...ช่วยด้วย...เธอตะโกนก้องแต่ไม่มีเสียงใดๆ ออกมาจากลำคอ เธอดิ้นสะบัดตัวแรง จนพยาบาลและผู้ช่วยพยาบาลหลายคนต้องเข้ามาช่วยกันจับตัวของเธอไว้

              ฤทธิ์ยาดูเหมือนจะเพิ่มกำลังขึ้นเรื่อยๆ ดูเหมือนร่างกายและจิตใจของเธอจะควบคุมอาการง่วงนอนนี้ไม่ได้แล้ว

              ...ได้โปรดเถอะ...ช่วยฉันด้วย...นั่นเป็นสำนึกสุดท้ายก่อนที่เธอจะนอนหลับไป

    *****************************

              มันโผเข้าหาเธอทันที เมื่อเธอปรากฏตัวขึ้นในความฝันนั้น

              การคุกคามของมันครั้งนี้ชัดเจนและรุนแรงยิ่งกว่าครั้งไหนๆ ที่เธอเคยประสบมา สองมือของมันเกาะกุมที่บริเวณลำคอของเธอและกระชับแน่น จนเธอเริ่มหายใจไม่ออก หัวใจและร่างกายพยายามไขว่คว้าหาอากาศเข้ามาหล่อเลี้ยง เธอปัดป่ายมือเป็นพัลวันและแค่นเสียงไอออกมาสองสามครั้ง

              นึกว่าจะหนีข้าพ้นหรือไง ห๊า!!...มันเอ่ยบอกขณะคุกคามเธอ

              เมื่อเริ่มตั้งสติได้ดวงรัตน์เอามือทั้งสองข้างที่เคยปัดป่ายไปมาหันมาทุบตีตอบโต้มันอย่างรุนแรง แต่ดูเหมือนว่าการทุบตีของเธอนั้นจะไม่ส่งผลกระทบใดๆ กับตัวของมันเลย มันขยับร่างและลำแขน ออกแรงชูตัวของเธอลอยสูงขึ้นจากพื้น ความสูงกว่าสามเมตรของมันและเรี่ยวแรงที่มันมี ทำให้ตัวของเธอลอยสูงขึ้นจากพื้นขึ้นมาเกือบหนึ่งเมตร เธอดิ้นเป็นพัลวัน ทั้งทุบทั้งเตะทั้งถีบมัน ด้วยหวังว่ามันจะรู้สึกเจ็บและยอมปล่อยตัวเธอลงกับพื้น

              ...แต่ไม่เป็นผล...

              มันยังคงหัวเราะร่า ปล่อยมือข้างขวาที่เกาะกุมลำคอของเธอไว้ ชูตัวของเธอขึ้นด้วยมือข้างซ้ายเพียงข้างเดียว ก่อนที่มันจะเคลื่อนมือข้างขวาของมันมาที่บริเวณทรวงอกของเธอ

                ...ขอหัวใจของเอ็งให้ข้าเถอะนะ...มันเอ่ย

                "ไม่นะ...ไม่..ไม่ อย่านะ." เธอพยายามส่งเสียงร้อง ดิ้นรนเพื่อหาหนทางเอาตัวรอด

              "ใคร...ใครก็ได้ช่วยที ช่วยทำให้ฉันตื่นจากความฝันนี้เสียทีเถอะ" สำนึกของเธอร่ำร้องขอความช่วยเหลือ หลังจากนั้นทุกๆ อย่างในโลกแห่งความฝันดูเหมือนจะเกิดการสั่นสะเทือนขึ้นอย่างต่อเนื่อง และค่อยๆ ทวีความรุนแรงขึ้น ก่อนที่ภาพและการกระทำที่เกิดขึ้นกับตัวของดวงรัตน์จะค่อยๆ แตกออกเป็นเสี่ยงๆ และมลายหายไป

    *****************************

              "คุณ คุณค่ะ เป็นอะไรหรือเปล่าค่ะ" เป็นเสียงของนางพยาบาลคนเดิมที่เคยเอ่ยถามดวงรัตน์เมื่อครู่

              เธอตกใจไม่น้อยที่เห็นคนไข้นอนดิ้นกระสับกระส่ายอยู่บนเตียง เนื้อตัวเปียกโชกไปด้วยเหงื่อ ด้วยความห่วงกังวลจึงตัดสินใจปลุกเรียกคนไข้ของเธอให้ตื่นขึ้นมา

              ดวงรัตน์ลืมตาโพลง นอนตัวสั่นหอบหายใจแรง เธอผุดลุกขึ้นนั่งยื่นมือคว้าจับข้อมือของนางพยาบาลคนนั้นไว้แน่น

              "ช่วยด้วยค่ะ ช่วยฉันด้วย อย่าให้ฉันต้องนอนหลับอีกเลยนะ ฮือ ฮือ...." ดวงรัตน์ร่ำไห้ออกมา

              และตั้งแต่วันนั้นมาเธอก็ไม่ยอมข่มตาหลับอีกเลย

    *****************************

              ห้าวันแล้วที่ดวงรัตน์ไม่ยอมนอนหลับ

              สติสัมปชัญญะของเธอตอนนี้อ่อนแรงมากขึ้นทุกทีๆ รู้สึกร่างกายเบาโหวงทุกๆ ขณะเวลาก้าวเดิน ในขณะที่ศีรษะและเปลือกตานั้นหนักอึ้งแทบจะควบคุมการทรงตัวไว้ไม่อยู่

              การทำงานของเธอในแต่ละวันเต็มไปด้วยความผิดพลาด และมีอาการเหมือนคนใจลอยเป็นพักๆ เมื่อมีคนเข้ามาพูดคุยและถามไถ่ด้วยความเป็นห่วง หลายครั้งเข้าทำให้ดวงรัตน์รู้สึกหงุดหงิดรำคาญมากขึ้นเรื่อยๆ จนเมื่อมันมาถึงขีดสุด เธอจึงตวาดผู้คนเหล่านั้นกลับไป

              "อย่ามายุ่งกับฉัน"

              และหลังจากนั้นก็ไม่มีใครเข้ามายุ่งกับเธออีกจริงๆ...มีเพียงแต่มันเท่านั้นที่ยังเฝ้าดูเธออยู่ ที่เธอรู้เพราะว่ามันคอยปรากฏภาพและเสียงให้เห็นให้ได้ยินในห้วงสำนึกในบางครั้งขณะที่เธอปิดตาลงนานกว่าปกติ

              ...เพราะเธอไม่ยอมหลับ จึงทำให้เธอยังคงดำรงชีวิตอยู่ได้ในตอนนี้ ดังนั้นถ้าเธอไม่หลับมันก็ทำอะไรเธอไม่ได้...ดวงรัตน์คิด แต่เธอเองก็บอกตัวเองไม่ได้เหมือนกันว่าจะสามารถฝืนร่างกายและจิตใจบังคับตัวเองไม่ให้หลับไปได้นานแค่ไหน

              คืนต่อมาดวงรัตน์พาร่างกายและจิตใจที่อ่อนล้ากลับมาถึงห้องพักคนเดียวเหมือนเช่นทุกๆ ครั้ง แต่ครั้งนี้มีบางสิ่งบางอย่างภายในต่างออกไป

              ...ไม่ไหวแล้ว...เธอรู้สึกว่าเธอฝืนความรู้สึกและฝืนร่างกายต่อไปไม่ไหวแล้ว

              ...คืนนี้เธอขอนอนหลับพักผ่อนบ้างเถอะนะ..ถ้าจะเกิดอะไรขึ้นก็ให้มันเกิดเถอะ หากปล่อยให้เป็นอย่างนี้ต่อไปมันคงตามกวนเธอไม่เลิกแน่..มี...มีทางเดียวเท่านั้นที่เธอจะเอาชนะมันได้ คือหันหน้าเข้าสู้กับมัน...

              ...เอาสิ ถ้ามันเป็นหนทางเดียว เดี๋ยวไว้เจอกันในฝันนะ เจ้าปีศาจ...

              ใจเธอยังเต้นระรัวตอนที่เกิดความคิดนี้ เพราะดวงรัตน์กลัวว่าหากเธอพ่ายแพ้มันในความฝันเธอจะไม่ได้มีโอกาสตื่นลืมตาขึ้นมาดูโลกอีกครั้ง...เธอยังอยากมีชีวิตอยู่ต่อไปอีกสักระยะหนึ่ง ถึงแม้โลกนี้มันจะไม่น่าอยู่เท่าไหร่ก็เถอะ

              ...นั่นสิถ้าเธอไม่ได้ตื่นขึ้นมาอีกล่ะจะทำยังไง หากเธอตายไปจริงๆ ล่ะ อีกซักกี่วันกว่าจะมีคนมาพบศพของเธอ...ตอนนั้นร่างกายของเธอคงบวมเบ่ง น่าขยะแขยงและส่งกลิ่นน่าสะอิดสะเอียน และนั่นคงทำให้ใครต่อหลายคนไม่กล้าสัมผัสกับตัวของเธอ...

              ..เธอไม่ยอมให้มันเป็นอย่างนั้นหรอก..จะทำยังไงดีล่ะ...ดวงรัตน์เฝ้าแต่ถามตัวเอง

              ในที่สุดดวงรัตน์จึงตัดสินใจโทรศัพท์หาเพื่อนคนหนึ่งของเธอซึ่งทำงานอยู่กันคนละบริษัท เสียงสัญญาณโทรศัพท์ดังอยู่นานแต่ไม่มีคนรับสาย จนกระทั่งมีสัญญาณบอกให้ฝากข้อความไว้ ดวงรัตน์จึงฝากข้อความลงไป

              "เพ็ญ พรุ่งนี้ถ้าว่างตอนไหน ให้แวะมาเอาของที่ห้องเราด้วย เรามีของสำคัญจะให้ อย่าลืมนะเพ็ญ"

              หลังจากฝากข้อความดวงรัตน์ พยุงตัวลุกขึ้นจากม้านั่ง เดินไปที่ตู้เย็น เธอเปิดตู้เย็นขนของทั้งหมดที่กินได้ออกมาวางไว้บนโต๊ะ และค่อยๆ กินมันจนหมด เพราะคิดว่าอย่างน้อยเธอน่าจะกินอะไรเพื่อให้มีเรี่ยวแรงพอที่จะสู้กับมันบ้าง

              จากนั้นนงลักษณ์ลุกขึ้นเก็บเศษอาหารและขนมออกจากโต๊ะนำไปทิ้งในถังขยะเมื่อพบว่าร่างกายของเธอรับอาหารและขนมเหล่านั้นเข้าไปไม่ไหวอีกแล้ว เสร็จแล้วจึงล้างหน้าบ้วนปากอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่จะเดินไปที่เตียง และล้มตัวลงนอน

              ...ตอนนี้เธอพร้อมแล้วที่จะเจอกับมัน...

    *****************************

              ทั้งๆ ที่เตรียมใจก่อนเข้านอนแล้ว แต่เมื่อเผชิญหน้ากับมัน ดวงรัตน์กลับควบคุมสติของตัวเองเอาไว้ไม่อยู่ ยามเมื่อเห็นมันเปลี่ยนท่ายืนจากการยืนงองุ้มมาเป็นยืดตัวตรงเผยให้เห็นความสูงกว่าสามเมตรยิ่งทำให้เธอหวาดหวั่น

              ดวงรัตน์เตลิดหนีเมื่อยามมันย่างเท้าเข้าหา เธอตัดสินใจวิ่ง วิ่งไปเรื่อยๆ ตามทุ่งหญ้าที่กว้างใหญ่ในความฝันของเธอ ดูเหมือนครั้งนี้เธอจะวิ่งได้เร็วกว่าครั้งไหนๆ ในชีวิต

              มันไล่ล่าเข้ามาอย่างกระชั้นชิด กระโจนทะยานติดตามมาเพียงไม่กี่ครั้งก็สามารถประชิดกับร่างของเธอได้

              ดวงรัตน์ล้มลงตอนที่มันเข้าใกล้ เธอถอยหนีรนรานด้วยความหวาดกลัวในท่ากึ่งนอนกึ่งนั่ง หันซ้ายมองขวาเพื่อมองหาบางสิ่งบางอย่าง

              ...บางสิ่งบางอย่างที่เป็นฟางเส้นสุดท้ายที่เธอคิดว่ามันจะสามารถช่วยยื้อชีวิตของเธอออกไปได้...

              เหงื่อกาฬของเธอไหลทะลัก เนื้อตัวสั่นสะท้าน มือของเธอควานเปะปะไปตามพื้นดิน จนกระทั่งไปสะดุดกับท่อนไม้ท่อนใหญ่

              ดวงรัตน์กระชับท่อนไม้กับมือไว้แน่น ก่อนจะตัดสินใจหวดท่อนไม้ไปข้างหน้าเต็มแรง เป้าหมายคือข้อเท้าของมัน

              ท่อนไม้หวดอากาศเสียงดังวืด ขณะที่มันกระโดดหลบ พอเท้าสัมผัสกับพื้น มันก็ค้อมตัวลงและกวาดฝ่ามือใหญ่หนาปะทะเข้ากับร่างของเธอ จนร่างของเธอกระดอนจากพื้นออกไปจากจุดเดิมที่เธออยู่สองถึงสามเมตร

              "คิดว่าแค่นี้จะเอาชนะข้าได้ยังงั้นเหรอ ถึงเวลาของเอ็งแล้ว ขอหัวใจของเอ็งให้ข้าเถอะนะ" มันเอ่ยประโยคยาวที่สุดเท่าที่ดวงรัตน์เคยได้ยิน แต่ความหมายไม่ได้แตกต่างไปจากครั้งก่อนๆ เลย

              เธอจุกเสียดและเจ็บปวดร่างกายจนไม่สามารถขยับร่างไปไหนได้ตอนมันยื่นมือเข้ามาคว้าตัว ใบหน้าและลำตัวของเธอมีบาดแผลและเลือดไหลออกมาบริเวณริมฝีปาก โหนกแก้ม ท่อนแขนและท่อนขา

              ...อ๊อก..เธอละล่ำละลักร้องตอนที่มือซ้ายของมันกุมขย้ำบริเวณลำคอ มันชูแขนยกร่างของเธอขึ้น ก่อนที่จะขยับมือขวาเข้าหาทรวงอกของเธอเหมือนเมื่อครั้งก่อน

              ...มันเป็นตัวบ้าอะไรกันแน่ เธอไปทำอะไรให้มันกันนะ...ทำไมถึงมันถึงตามจองเวรจองกรรมกับเธอไม่หยุด...เกิดคำถามมากมายขึ้นภายในใจของดวงรัตน์ กระทั่งมือขวาของมันล้วงทะลุเข้าไปในทรวงอกและสัมผัสกับหัวใจของเธอ ดวงรัตน์ก็ยังไม่ได้รับคำตอบ

              มันบีบและกระชากหัวใจของเธออย่างแรง ก่อนที่ห้วงชีวิตในความฝันของดวงรัตน์จะจบลง มีบางสิ่งบางอย่างบอกกับเธอให้รับรู้ว่า ชีวิตของเธอในโลกแห่งความเป็นจริงที่นอนหลับอยู่บนเตียงนั้น คงมีสภาพใกล้จะสิ้นไม่แตกต่างกัน

              ดวงรัตน์ได้แต่นึกภาวนาว่าเพ็ญเพื่อนของเธอจะได้รับข้อความที่ฝากไว้และมาหาเธอที่ห้องในเร็ววัน เพราะเธอไม่อยากให้ร่างกายของเธอเน่าเปื่อยและมีสภาพน่าขยะแขยงมากมายนักตอนที่มีคนเข้ามาพบศพ

                จบสิ้นกันซะที กับการตามจองเวรจองกรรมของมัน..นั่นคือสำนึกสุดท้ายของดวงรัตน์

              ในที่สุดขั้วหัวใจของดวงรัตน์ก็ถูกมันกระชากหลุดออกจากร่าง จากนั้นมันหยิบหัวใจของดวงรัตน์เข้าปาก ใช้ฟันและคมเขี้ยวบดขย้ำ จนเลือดแดงฉานไหลทะลักออกมาตามริมฝีปากในขณะที่หัวใจฉีกขาดเป็นชิ้นๆ

              หลังจากการกลืนกินหัวใจของดวงรัตน์สิ้นสุดลง มันค่อยๆ คู้ตัวลงกับพื้นอยู่ในอาการนิ่งสงบ

                ...ที่เหลือก็เพียงแค่การรอเวลาให้เหยื่อรายต่อไปปรากฏให้เห็นเท่านั้น...

             

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×