ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Bleach] OS ❄ All for Hitsugaya Toshiro

    ลำดับตอนที่ #5 : Byakuya || Rare Alpha 1 (α x α)

    • อัปเดตล่าสุด 4 ม.ค. 64




    Rare Alpha 1 .

    แรร์อัลฟ่า 1 .

    R || Short Fic (2-4ตอน)

    Kuchiki Byakuya x Hitsugaya Toshiro

    warning

    Omegaverse (โอเมก้าเวอร์ส)

    ยูนิเวอร์สโลกปัจจุบันไม่ได้เป็นยมทูตเหมือนในเรื่อง (เรื่องนี้เป็นอัลฟ่าxอัลฟ่า) ในเรื่องจะเป็นสังคมแบบมีชนชั้นโดยผู้คนในโลกจะถูกแบ่งออกเป็นสามประเภท คนทั่วไปจะสามารถรู้ได้เมื่อถึงช่วงอายุนึง (ส่วนใหญ่ว่า 12-24 ปี) โอเมก้าจะมีฮีทแรก อัลฟ่าจะตื่นมาพร้อมกับอาการอวัยวะเพศแข็งตัว(น๊อต) เบต้าก็จะไม่มีอะไรเปลี่ยน ไม่ปรากฏลักษณะของทั้งอัลฟ่าโอเมก้า 

    α (alpha) = born to be ยอดปิระมิดของสังคม  อัลฟ่ามีทั้งผู้หญิงและผู้ชาย  มีประสาทการรับกลิ่นที่ดีเยี่ยม สติปัญญาดี เก่ง พลังกำลังเหลือเฟือ เกิดมาเพื่อเหนือกว่าชนชั้นอื่นๆ ในทุกด้าน

    β (beta) = มีรูปลักษณ์ภายนอกและภายในไม่ต่างจากคนปกติทั่วไป เหมือนผู้ชายผู้หญิงธรรมดาๆ สามารถรับรู้กลิ่นฟีโรโมนได้บ้าง

    Ω (omega) = ตัวเล็กบอบบางกว่าอัลฟ่าและเบต้า มีจำนวนน้อยเป็นฐานล่างสุดของสังคม 


    __________________________________________



    บนแผ่นดินญี่ปุ่นเศรฐกิจหลักถูกชักใยด้วยอิธิพลของทั้งสี่ตระกูลขุนนางเก่าผู้สืบทอด ตระกูลผู้เพรียบพร้อมมีเพียงอัลฟ่าเท่านั้นที่เกิดมาไม่ด่างพร้อย เรียกได้ว่าสี่ฤดูผู้ควบคุมญี่ปุ่นไม่ต่างไปจากสภาพอากาศ 


    หนึ่งฤดูร้อนเก็นริว สองฤดูใบไม้ผลิคุจิกิ สามฤดูใบไม้ร่วงชิโฮอิน และสุดท้าย ฤดูหนาวซึนะยาชิโระ ฤดูหนาวผู้เข้าสู่ยุคมืด


    ผู้นำตระกูลล่าสุดมีภรรยาเอกเป็นโอเมก้า ท่านทั้งคู่เป็นโซลเมทกันและท่านประมุขก็ประกาศก้องว่าไม่มีทางที่เขาจะมีภรรยาใหม่เป็นคนที่สอง แน่นอนว่าในทางจริยธรรมแล้วนั่นเป็นสิ่งที่ถูกต้อง แต่สำหรับทั้งสี่ตระกูลใหญ่ การมีสายเลือดโอเมก้าเข้ามาปนเปื้อนสำหรับทายาทคนต่อไปนั้นเป็นเรื่องร้ายแรง ต่อให้ยุท่านประมุขแห่งซึนะยาชิโระอย่างไรให้มีคู่ชีวิตเป็นอัลฟ่าอีกสักนาง ท่านก็ปฎิเสธเสียงแข็งจนครั้งล่าสุดเห็นว่าทะเลาะใหญ่โตบาดหมางท่านเก็นริวไม่มาพบหน้ากันอีกเลย


    และนั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมผมถึงมาปรากฎตัวที่นี่ บุตรบุญธรรมของตระกูลซึนะยาชิโระ


    ใช่ ผมเป็นเด็กถูกบุพการีทิ้งขว้างไม่รู้ว่ามาจากใครชัดเจน แต่เพราะผมเป็นสิ่งที่เรียกว่าแรร์อัลฟ่า ความยิ่งใหญ่ที่ถูกกำหนดมาแต่เกิดจึงเป็นสิ่งที่เรียกได้ว่ามากพอจนแทบจะเป็นความหวังกอบกู้ไต่ขั้นบันไดไปสู่ความยิ่งใหญ่เป็นสี่ตระกูลหลักที่เท่าเทียมเช่นเดิม 


    ผมเกิดมาพร้อมกับลักษณะฟีโรโมนอัลฟ่า กลิ่นมิ้นต์หนักหน่วงที่ฉุนจนแทบจะเหม็นเขียวแสบจมูกสามารถทำให้ผู้คนทั้งหมดในห้องยอมศิโรราบกับความยิ่งใหญ่แม้จะเป็นเพียงเด็กทารก นั่นคือสัญลักษณ์ของการเป็นแรร์อัลฟ่าที่น่าเศร้าเพราะแม่แท้ๆของผมต้องตายเพราะอิทธิพลของการให้กำเนิดผม ส่วนพ่อก็ทิ้งผมหนีไปไหนไม่รู้เพราะไม่สามารถยอมรับความกดดันของแรร์อัลฟ่า หรือจริงๆแล้วอาจจะเป็นเพราะรับไม่ได้ที่ผมทำภรรยารักของเขาตายก็เป็นได้


    มองเห็นได้ชัดว่าซึนะยาชิโระไม่คิดจะรับผมเป็นคนในตระกูลแม้จะเรียกผมว่าบุตรบุญธรรม เห็นได้จากการดูแลที่ห่างเหินไม่มีอะไรนอกจากตารางแน่นเอี๊ยดสำหรับการฝึกฝนที่มีข้อดีได้เรียนรู้การเก็บกักฟีโรโมนตนเองพียงเรื่องเดียว นอกนั้นก็มีแต่เรื่องน่าปวดหัวไม่จำเป็น 


    ชัดที่สุดก็คงเป็นสกุลที่ถูกมอบให้มาแต่เกิดนั้นไม่เคยถูกเปลี่ยนให้ผมได้เป็นส่วนหนึ่งกับพวกเขา แท้จริงผมเป็นเพียงยศตระกูลสามัญชนผู้มีเพศสภาพที่พวกเขาต้องการใช้มันเป็นเครื่องมือ ไม่ใช่ ซึนะยาชิโระ โทชิโร่ แต่เป็น ฮิตสึกายะ โทชิโร่


    เกิดมายิ่งใหญ่แต่กลับมีชีวิตที่น่าสมเพช บนโลกใบนี้ผมไม่เคยคิดว่ามันยุติธรรมแต่ผมก็อดรู้สึกขมขื่นกับมันในทุกครั้งที่คิดถึง


    "ฮิตสึกายะวันนี้มีประชุมสี่ตระกูล"  ประมุขซึนะยาชิโระเอ่ย หรือถ้าฝืนเรียกว่าพ่อของผมก็คงไม่ผิดนัก


    "ส่งตารางมาได้เลยครับ ผมจะจัดการให้เอง" นั่นเป็นคำที่เขาต้องการจะได้ยินโดยไม่ต้องถามหรือขอให้ผมเป็นคนไปประชุมแทน เป็นที่รู้กันว่าครั้งใดที่งานมีท่านประมุขเก็นริวนี่นั่นก็จะไม่มีประมุขซึนะยาชิโระ


    เขาพยักหน้าอย่าพึงพอใจพร้อมส่งรายการผ่านแท็บเล็ตมาให้ รายงานอันยุ่งเหยิงพวกนี้คงไม่คณามือท่านประมุข แต่สำหรับผมที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะงานเหล่านี้ก็เป็นเรื่องยากพอสมควร


    "แค่รายงานเศรฐกิจตระกูลแค่นี้ คงไม่ยากไปสำหรับทายาทตระกูลใหญ่อายุ19หรอกใช่ไหม"


    "จะไม่มีอะไรผิดพลาดแน่นอนครับท่านประมุข" ผมรับปาก การพูดคุยกับท่านก็ไม่ต่างอะไรกับการเป็นนกในกรง แม้จะเป็นบุญคุณล้นเหลือที่ทำให้ผมมีกินมีใช้ทำงานสมฐานะอัลฟ่าก็ตาม


    ผมกระชับผ้าพันคอผืนหนาของตันเองก่อนจะก้าวลงจากลีมูซีนเข้าสู่โรงแรมที่มีการประชุมนัดหมาย แม้ผมจะตัวเล็กที่สุดและเด็กที่สุดจากเหล่าตระกูลใหญ่ แต่การแต่งตัวเนี้ยบเคร่งครัดพร้อมใบหน้านิ่งเฉยประดับก็พอทำให้คนเกรงใจได้อยู่บ้าง


    แต่ที่สำคัญที่สุดก็คงเป็นฟีโรโมนอัลฟ่าที่หอมเย็นแผ่กระจายออกไปอย่างปิดไม่มิด แน่นอนว่าผมฉีดยาระงับทุกเดือนแต่โดสของอัลฟ่าทั่วไปก็ไม่เคยแรงพอสำหรับแรร์อัลฟ่าอย่างผม


    "หนุ่มน้อยมาแล้วสินะ" ใบหน้ายิ้มแย้มแต่ไม่ถึงดวงตาประจำผู้นำตระกูลชิโฮอินจับจ้องมายังตัวเขาและผายมือไปยังที่นั่งฝั่งขวาของตน


    บอดี้การ์ดและลูกน้องมากมายที่อยู่ในห้องล้วนเป็นอัลฟ่าแข็งแรง กลิ่นอายกดดันตลบอบอวลไปทั่วในชนิดที่ว่าถ้าโอเมก้าเผลอเข้ามาเฉียดสถานที่นี้คงฟุบสลบไปก่อนที่จะเริ่มฮีทเสียอีก


    "สายัณห์สวัสดิ์ท่านผู้นำตระกูลชิโฮอิน" ผมโค้งกล่าวด้วยท่าทางนอบน้อมเพราะผู้นำตระกูลชิโฮอินอวุโสกว่ามาก และจากทั้งสี่ตระกูลมีผมเพียงคนเดียวที่เด็กสุดแถมไม่ใช่ผู้นำตระกูลมาร่วมเจรจาในครั้งนี้


    "นั่งจิบชารอไปก่อนก็ได้หนุ่มน้อย อีกสองคนนั่นมีธุระกันอยู่คงต้องรออีกหน่อย"


    "ขอบคุณครับท่าน" ผมนั่งจิบชาไปตามอย่างว่าง่ายพลางทบทวนรายงานสำหรับไตรมาสนี้บนหน้าจอเพื่อความมั่นใจว่าจะไม่มีอะไรผิดพลาด


    เมื่อประตูเปิดขึ้นอีกครั้งพร้อมกับผู้นำตระกูลเก็นริว ทั้งห้องประชุมก็ลุกพรวดขึ้นต้อนรับ ส่วนท่านประมุขก็เอ่ยถามโดยที่ยังไม่มอง


    "เจ้าหนูนั่นมารึยัง"


    "มารอได้สักครู่แล้วครับท่านเก็นริว" ผู้นำตระกูลชิโฮอินตอบ


    "ดี ข้าจะได้เริ่มการประชุมพร้อมผู้นำตระกูลคนใหม่เสียที" ท่านเก็นริวเอ่ยพร้อมส่งสัญญาณให้คนหน้าห้องเปิดประตู


    "ข้าขอแนะนำพวกท่านให้รู้จักผู้นำตระกูลคุจิกิคนใหม่ที่เราได้เห็นชอบในการแต่งตั้ง คุจิกิ เบียคุยะ"


    ชายร่างสูงสง่างามใบหน้าคมคายสมวัยหนุ่ม ผมดำขลับล้อมกรอบตัดกับปิ่นปักผมขุนนางแบบดั้งเดิมส่งเสริมให้คนในวัยหนุ่มแน่นผู้นี้ดูน่าเกรงขามยิ่งขึ้น ใบหน้าของผู้เคยเป็นทายาทตระกูลคุจิกิที่บัดนี้ได้เลื่อนเป็นผู้นำตระกูล


    "ยินดีด้วยผู้นำตระกูลคุจิกิคนใหม่ อย่างนี้ก็เรียกคุณว่าหนุ่มน้อยไม่ได้แล้วล่ะซิ" ผู้นำตระกูลชิโฮอินกล่าวยินดีด้วยคำติดตลก


    "คุจิกิ เบียคุยะ ยินดีที่ได้พบท่านอีกครั้งในฐานะผู้นำตระกูล" ไม่มีการแสดงออกทางสีหน้า มีเพียงน้ำเสียงสุภาพมั่นคง


    "ผมขอแสดงความยินดี" คำของผมถูกตัดสั้นเพราะผมไม่รู้จะพูดอะไร ผมไม่เคยถูกเตรียมมารับมือกับสถานการณ์ที่จะต้องเผชิญหน้ากับการเปลี่ยนผ่านผู้นำตระกูลใหม่ซึ่งๆหน้าแบบนี้


    ยิ่งเป็นคนที่ประทับใจเชิดชูอย่างเขาแล้วด้วยล่ะก็..


    "ขอบคุณ" เขากล่างพลางวางนัยน์ตาดำขลับจ้องตรงมาที่ผมไม่บ่งบอกถึงความรู้สึกใดๆ ยิ่งตอนที่ขยับสายตามองผ้าพันคอผืนโปรดที่อยู่บนคอผมก็ยิ่งประหม่า ผมรู้ดีว่ามันเหมือนกันกับผืนที่พันอยู่บนลำคอเขาแทบจะทุกกระบียดนิ้ว ผมขยับมันคลายออกลดความกังวลและหวังลึกๆว่าเขาจะไม่คิดว่าผมทำตามเขาอะไรแบบนั้น


    รู้งี้ผมก็จะไม่ใส่มันมาในการประชุม แต่เพราะไม่เคยคาดคิดว่าผู้นำตระกูลจะถูกสับเปลี่ยนเป็นเขาอย่างรวดเร็วได้เช่นนี้ ส่วนใหญ่แล้วจะต้องมีภรรยาก่อนถึงจะเลื่อนขั้นเป็นผู้นำกัน(แน่นอนว่าพ่อบุญธรรมของผมที่มีภรรยาเป็นโอเมก้าคือข้อยกเว้น) และเท่าที่ผมจำได้ก็ยังไม่มีแม้แต่ข่าวว่าเขาคบหาดูใจกับใครหลุดรอดออกมา แต่สุดท้ายแล้วเมื่อคุจิกิ เบียคุยะมาถึงที่นี่ก็เลยมีแต่คำว่า รู้งี้ รู้งี้ วิ่งวนอยู่ในหัวของผม


    "เอาล่ะ ครบทั้งสี่ตระกูลแล้วก็ได้เวลาเริ่มประชุม" ท่านประมุขเก็นริวนั่งยืดตัวตรงในท่วงท่าพร้อมประชุม


    แต่ถึงอย่างนั้นจนแล้วจนรอด ท่านผู้นำคนใหม่ของตระกูลคุจิกิก็ยังคงจ้องมองผมด้วยสายตาเรียบนิ่งไม่มีเปลี่ยน อยากจะตะโกนเสียงดังๆใส่ว่าคุณไม่รู้เรอะว่าการไม่มองหน้าคนที่พูดอยู่อย่างท่านประมุขเก็นริวน่ะมันหยาบคาย


    ครั้งนี้ไม่ทันเริ่มต้นประชุมก็เสียสมาธิแล้ว ผมอยากกลับบ้านจัง..




    ____________________________________________________________________-

    โทชิโร่ต้องเป็นอัลฟ่าเท่านั้นค่ะ อัลฟ่าไม่พอก็ต้องเพิ่มเขาให้เป็นแรร์อัลฟ่าไปอีก

    ความยิ่งใหญ่ตั้งแต่เกิดไม่เหมือนใครนี้มันก็คือแข็งแกร่งที่สุดในสามโลก!!!!

    เรื่องนี้ได้แรงบันดาลใจจากความคล้ายของทั้งสองคนค่ะ ทั้งนิสัยไปจนถึงผ้าพันคอ5555

    "โทชิโร่เห็นเบียคุยะเป็นต้นแบบของผู้นำตระกูลที่ดี" แค่คิดอย่างนี้พล็อตก็แล่นมาเชียว

    ใครชอบเรื่องนี้ก็กดติดตามคอมเม้นให้กันหน่อยน้าาาา<3







     
















    TB
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×