คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : Byakuya || Rare Alpha 1 (α x α)
Rare Alpha 1 .
แรร์อัลฟ่า 1 .
R || Short Fic (2-4ตอน)
Kuchiki Byakuya x Hitsugaya Toshiro
❄
warning
Omegaverse (โอเมก้าเวอร์ส)
ยูนิเวอร์สโลกปัจจุบันไม่ได้เป็นยมทูตเหมือนในเรื่อง (เรื่องนี้เป็นอัลฟ่าxอัลฟ่า) ในเรื่องจะเป็นสังคมแบบมีชนชั้นโดยผู้คนในโลกจะถูกแบ่งออกเป็นสามประเภท คนทั่วไปจะสามารถรู้ได้เมื่อถึงช่วงอายุนึง (ส่วนใหญ่ว่า 12-24 ปี) โอเมก้าจะมีฮีทแรก อัลฟ่าจะตื่นมาพร้อมกับอาการอวัยวะเพศแข็งตัว(น๊อต) เบต้าก็จะไม่มีอะไรเปลี่ยน ไม่ปรากฏลักษณะของทั้งอัลฟ่าโอเมก้า
α (alpha) = born to be ยอดปิระมิดของสังคม อัลฟ่ามีทั้งผู้หญิงและผู้ชาย มีประสาทการรับกลิ่นที่ดีเยี่ยม สติปัญญาดี เก่ง พลังกำลังเหลือเฟือ เกิดมาเพื่อเหนือกว่าชนชั้นอื่นๆ ในทุกด้าน
β (beta) = มีรูปลักษณ์ภายนอกและภายในไม่ต่างจากคนปกติทั่วไป เหมือนผู้ชายผู้หญิงธรรมดาๆ สามารถรับรู้กลิ่นฟีโรโมนได้บ้าง
Ω (omega) = ตัวเล็กบอบบางกว่าอัลฟ่าและเบต้า มีจำนวนน้อยเป็นฐานล่างสุดของสังคม
__________________________________________
บนแผ่นดินญี่ปุ่นเศรฐกิจหลักถูกชักใยด้วยอิธิพลของทั้งสี่ตระกูลขุนนางเก่าผู้สืบทอด ตระกูลผู้เพรียบพร้อมมีเพียงอัลฟ่าเท่านั้นที่เกิดมาไม่ด่างพร้อย เรียกได้ว่าสี่ฤดูผู้ควบคุมญี่ปุ่นไม่ต่างไปจากสภาพอากาศ
หนึ่งฤดูร้อนเก็นริว สองฤดูใบไม้ผลิคุจิกิ สามฤดูใบไม้ร่วงชิโฮอิน และสุดท้าย ฤดูหนาวซึนะยาชิโระ ฤดูหนาวผู้เข้าสู่ยุคมืด
ผู้นำตระกูลล่าสุดมีภรรยาเอกเป็นโอเมก้า ท่านทั้งคู่เป็นโซลเมทกันและท่านประมุขก็ประกาศก้องว่าไม่มีทางที่เขาจะมีภรรยาใหม่เป็นคนที่สอง แน่นอนว่าในทางจริยธรรมแล้วนั่นเป็นสิ่งที่ถูกต้อง แต่สำหรับทั้งสี่ตระกูลใหญ่ การมีสายเลือดโอเมก้าเข้ามาปนเปื้อนสำหรับทายาทคนต่อไปนั้นเป็นเรื่องร้ายแรง ต่อให้ยุท่านประมุขแห่งซึนะยาชิโระอย่างไรให้มีคู่ชีวิตเป็นอัลฟ่าอีกสักนาง ท่านก็ปฎิเสธเสียงแข็งจนครั้งล่าสุดเห็นว่าทะเลาะใหญ่โตบาดหมางท่านเก็นริวไม่มาพบหน้ากันอีกเลย
และนั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมผมถึงมาปรากฎตัวที่นี่ บุตรบุญธรรมของตระกูลซึนะยาชิโระ
ใช่ ผมเป็นเด็กถูกบุพการีทิ้งขว้างไม่รู้ว่ามาจากใครชัดเจน แต่เพราะผมเป็นสิ่งที่เรียกว่าแรร์อัลฟ่า ความยิ่งใหญ่ที่ถูกกำหนดมาแต่เกิดจึงเป็นสิ่งที่เรียกได้ว่ามากพอจนแทบจะเป็นความหวังกอบกู้ไต่ขั้นบันไดไปสู่ความยิ่งใหญ่เป็นสี่ตระกูลหลักที่เท่าเทียมเช่นเดิม
ผมเกิดมาพร้อมกับลักษณะฟีโรโมนอัลฟ่า กลิ่นมิ้นต์หนักหน่วงที่ฉุนจนแทบจะเหม็นเขียวแสบจมูกสามารถทำให้ผู้คนทั้งหมดในห้องยอมศิโรราบกับความยิ่งใหญ่แม้จะเป็นเพียงเด็กทารก นั่นคือสัญลักษณ์ของการเป็นแรร์อัลฟ่าที่น่าเศร้าเพราะแม่แท้ๆของผมต้องตายเพราะอิทธิพลของการให้กำเนิดผม ส่วนพ่อก็ทิ้งผมหนีไปไหนไม่รู้เพราะไม่สามารถยอมรับความกดดันของแรร์อัลฟ่า หรือจริงๆแล้วอาจจะเป็นเพราะรับไม่ได้ที่ผมทำภรรยารักของเขาตายก็เป็นได้
มองเห็นได้ชัดว่าซึนะยาชิโระไม่คิดจะรับผมเป็นคนในตระกูลแม้จะเรียกผมว่าบุตรบุญธรรม เห็นได้จากการดูแลที่ห่างเหินไม่มีอะไรนอกจากตารางแน่นเอี๊ยดสำหรับการฝึกฝนที่มีข้อดีได้เรียนรู้การเก็บกักฟีโรโมนตนเองพียงเรื่องเดียว นอกนั้นก็มีแต่เรื่องน่าปวดหัวไม่จำเป็น
ชัดที่สุดก็คงเป็นสกุลที่ถูกมอบให้มาแต่เกิดนั้นไม่เคยถูกเปลี่ยนให้ผมได้เป็นส่วนหนึ่งกับพวกเขา แท้จริงผมเป็นเพียงยศตระกูลสามัญชนผู้มีเพศสภาพที่พวกเขาต้องการใช้มันเป็นเครื่องมือ ไม่ใช่ ซึนะยาชิโระ โทชิโร่ แต่เป็น ฮิตสึกายะ โทชิโร่
เกิดมายิ่งใหญ่แต่กลับมีชีวิตที่น่าสมเพช บนโลกใบนี้ผมไม่เคยคิดว่ามันยุติธรรมแต่ผมก็อดรู้สึกขมขื่นกับมันในทุกครั้งที่คิดถึง
"ฮิตสึกายะวันนี้มีประชุมสี่ตระกูล" ประมุขซึนะยาชิโระเอ่ย หรือถ้าฝืนเรียกว่าพ่อของผมก็คงไม่ผิดนัก
"ส่งตารางมาได้เลยครับ ผมจะจัดการให้เอง" นั่นเป็นคำที่เขาต้องการจะได้ยินโดยไม่ต้องถามหรือขอให้ผมเป็นคนไปประชุมแทน เป็นที่รู้กันว่าครั้งใดที่งานมีท่านประมุขเก็นริวนี่นั่นก็จะไม่มีประมุขซึนะยาชิโระ
เขาพยักหน้าอย่าพึงพอใจพร้อมส่งรายการผ่านแท็บเล็ตมาให้ รายงานอันยุ่งเหยิงพวกนี้คงไม่คณามือท่านประมุข แต่สำหรับผมที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะงานเหล่านี้ก็เป็นเรื่องยากพอสมควร
"แค่รายงานเศรฐกิจตระกูลแค่นี้ คงไม่ยากไปสำหรับทายาทตระกูลใหญ่อายุ19หรอกใช่ไหม"
"จะไม่มีอะไรผิดพลาดแน่นอนครับท่านประมุข" ผมรับปาก การพูดคุยกับท่านก็ไม่ต่างอะไรกับการเป็นนกในกรง แม้จะเป็นบุญคุณล้นเหลือที่ทำให้ผมมีกินมีใช้ทำงานสมฐานะอัลฟ่าก็ตาม
ผมกระชับผ้าพันคอผืนหนาของตันเองก่อนจะก้าวลงจากลีมูซีนเข้าสู่โรงแรมที่มีการประชุมนัดหมาย แม้ผมจะตัวเล็กที่สุดและเด็กที่สุดจากเหล่าตระกูลใหญ่ แต่การแต่งตัวเนี้ยบเคร่งครัดพร้อมใบหน้านิ่งเฉยประดับก็พอทำให้คนเกรงใจได้อยู่บ้าง
แต่ที่สำคัญที่สุดก็คงเป็นฟีโรโมนอัลฟ่าที่หอมเย็นแผ่กระจายออกไปอย่างปิดไม่มิด แน่นอนว่าผมฉีดยาระงับทุกเดือนแต่โดสของอัลฟ่าทั่วไปก็ไม่เคยแรงพอสำหรับแรร์อัลฟ่าอย่างผม
"หนุ่มน้อยมาแล้วสินะ" ใบหน้ายิ้มแย้มแต่ไม่ถึงดวงตาประจำผู้นำตระกูลชิโฮอินจับจ้องมายังตัวเขาและผายมือไปยังที่นั่งฝั่งขวาของตน
บอดี้การ์ดและลูกน้องมากมายที่อยู่ในห้องล้วนเป็นอัลฟ่าแข็งแรง กลิ่นอายกดดันตลบอบอวลไปทั่วในชนิดที่ว่าถ้าโอเมก้าเผลอเข้ามาเฉียดสถานที่นี้คงฟุบสลบไปก่อนที่จะเริ่มฮีทเสียอีก
"สายัณห์สวัสดิ์ท่านผู้นำตระกูลชิโฮอิน" ผมโค้งกล่าวด้วยท่าทางนอบน้อมเพราะผู้นำตระกูลชิโฮอินอวุโสกว่ามาก และจากทั้งสี่ตระกูลมีผมเพียงคนเดียวที่เด็กสุดแถมไม่ใช่ผู้นำตระกูลมาร่วมเจรจาในครั้งนี้
"นั่งจิบชารอไปก่อนก็ได้หนุ่มน้อย อีกสองคนนั่นมีธุระกันอยู่คงต้องรออีกหน่อย"
"ขอบคุณครับท่าน" ผมนั่งจิบชาไปตามอย่างว่าง่ายพลางทบทวนรายงานสำหรับไตรมาสนี้บนหน้าจอเพื่อความมั่นใจว่าจะไม่มีอะไรผิดพลาด
เมื่อประตูเปิดขึ้นอีกครั้งพร้อมกับผู้นำตระกูลเก็นริว ทั้งห้องประชุมก็ลุกพรวดขึ้นต้อนรับ ส่วนท่านประมุขก็เอ่ยถามโดยที่ยังไม่มอง
"เจ้าหนูนั่นมารึยัง"
"มารอได้สักครู่แล้วครับท่านเก็นริว" ผู้นำตระกูลชิโฮอินตอบ
"ดี ข้าจะได้เริ่มการประชุมพร้อมผู้นำตระกูลคนใหม่เสียที" ท่านเก็นริวเอ่ยพร้อมส่งสัญญาณให้คนหน้าห้องเปิดประตู
"ข้าขอแนะนำพวกท่านให้รู้จักผู้นำตระกูลคุจิกิคนใหม่ที่เราได้เห็นชอบในการแต่งตั้ง คุจิกิ เบียคุยะ"
ชายร่างสูงสง่างามใบหน้าคมคายสมวัยหนุ่ม ผมดำขลับล้อมกรอบตัดกับปิ่นปักผมขุนนางแบบดั้งเดิมส่งเสริมให้คนในวัยหนุ่มแน่นผู้นี้ดูน่าเกรงขามยิ่งขึ้น ใบหน้าของผู้เคยเป็นทายาทตระกูลคุจิกิที่บัดนี้ได้เลื่อนเป็นผู้นำตระกูล
"ยินดีด้วยผู้นำตระกูลคุจิกิคนใหม่ อย่างนี้ก็เรียกคุณว่าหนุ่มน้อยไม่ได้แล้วล่ะซิ" ผู้นำตระกูลชิโฮอินกล่าวยินดีด้วยคำติดตลก
"คุจิกิ เบียคุยะ ยินดีที่ได้พบท่านอีกครั้งในฐานะผู้นำตระกูล" ไม่มีการแสดงออกทางสีหน้า มีเพียงน้ำเสียงสุภาพมั่นคง
"ผมขอแสดงความยินดี" คำของผมถูกตัดสั้นเพราะผมไม่รู้จะพูดอะไร ผมไม่เคยถูกเตรียมมารับมือกับสถานการณ์ที่จะต้องเผชิญหน้ากับการเปลี่ยนผ่านผู้นำตระกูลใหม่ซึ่งๆหน้าแบบนี้
ยิ่งเป็นคนที่ประทับใจเชิดชูอย่างเขาแล้วด้วยล่ะก็..
"ขอบคุณ" เขากล่างพลางวางนัยน์ตาดำขลับจ้องตรงมาที่ผมไม่บ่งบอกถึงความรู้สึกใดๆ ยิ่งตอนที่ขยับสายตามองผ้าพันคอผืนโปรดที่อยู่บนคอผมก็ยิ่งประหม่า ผมรู้ดีว่ามันเหมือนกันกับผืนที่พันอยู่บนลำคอเขาแทบจะทุกกระบียดนิ้ว ผมขยับมันคลายออกลดความกังวลและหวังลึกๆว่าเขาจะไม่คิดว่าผมทำตามเขาอะไรแบบนั้น
รู้งี้ผมก็จะไม่ใส่มันมาในการประชุม แต่เพราะไม่เคยคาดคิดว่าผู้นำตระกูลจะถูกสับเปลี่ยนเป็นเขาอย่างรวดเร็วได้เช่นนี้ ส่วนใหญ่แล้วจะต้องมีภรรยาก่อนถึงจะเลื่อนขั้นเป็นผู้นำกัน(แน่นอนว่าพ่อบุญธรรมของผมที่มีภรรยาเป็นโอเมก้าคือข้อยกเว้น) และเท่าที่ผมจำได้ก็ยังไม่มีแม้แต่ข่าวว่าเขาคบหาดูใจกับใครหลุดรอดออกมา แต่สุดท้ายแล้วเมื่อคุจิกิ เบียคุยะมาถึงที่นี่ก็เลยมีแต่คำว่า รู้งี้ รู้งี้ วิ่งวนอยู่ในหัวของผม
"เอาล่ะ ครบทั้งสี่ตระกูลแล้วก็ได้เวลาเริ่มประชุม" ท่านประมุขเก็นริวนั่งยืดตัวตรงในท่วงท่าพร้อมประชุม
แต่ถึงอย่างนั้นจนแล้วจนรอด ท่านผู้นำคนใหม่ของตระกูลคุจิกิก็ยังคงจ้องมองผมด้วยสายตาเรียบนิ่งไม่มีเปลี่ยน อยากจะตะโกนเสียงดังๆใส่ว่าคุณไม่รู้เรอะว่าการไม่มองหน้าคนที่พูดอยู่อย่างท่านประมุขเก็นริวน่ะมันหยาบคาย
ครั้งนี้ไม่ทันเริ่มต้นประชุมก็เสียสมาธิแล้ว ผมอยากกลับบ้านจัง..
____________________________________________________________________-
โทชิโร่ต้องเป็นอัลฟ่าเท่านั้นค่ะ อัลฟ่าไม่พอก็ต้องเพิ่มเขาให้เป็นแรร์อัลฟ่าไปอีก
ความยิ่งใหญ่ตั้งแต่เกิดไม่เหมือนใครนี้มันก็คือแข็งแกร่งที่สุดในสามโลก!!!!
เรื่องนี้ได้แรงบันดาลใจจากความคล้ายของทั้งสองคนค่ะ ทั้งนิสัยไปจนถึงผ้าพันคอ5555
"โทชิโร่เห็นเบียคุยะเป็นต้นแบบของผู้นำตระกูลที่ดี" แค่คิดอย่างนี้พล็อตก็แล่นมาเชียว
ใครชอบเรื่องนี้ก็กดติดตามคอมเม้นให้กันหน่อยน้าาาา<3
ความคิดเห็น