ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Bleach] OS ❄ All for Hitsugaya Toshiro

    ลำดับตอนที่ #12 : Hyōrinmaru || ขั้วโลกเหนือเดือนเมษา

    • อัปเดตล่าสุด 1 เม.ย. 64






    ขั้วโลกเหนือเดือนเมษา

    จะเกิดอะไรขึ้นถ้าขั้วโลกเหนือถูกย้ายมาประจำที่โซลโซไซตี้ในหน้าร้อน?

    PG || One Shot (ที่เหมือนSF)

    Hyorinmaru x Toshiro





    "ทำไมถึงร้อนขนาดนี้" 

    หัวหน้าหน่วยสิบกำลังทำงานอย่างขะมักเขม้นเช่นเคย เว้นแต่ต่างออกไปเพราะวันนี้ร้อนเป็นพิเศษชวนหงุดหงิดงุ่นง่าน ยิ่งเห็นรองหัวหน้ามัตสึโมโต้ที่ควรจะนั่งทำงานฟุบหลับบนโต๊ะแบบไม่เกรงใจก็รู้สึกปวดหัวจี๊ดขึ้นมา

    ทว่าตามนิสัยของฮิตสึกายะ โทชิโร่ ร้อนแค่ไหนเจ้าตัวก็ไม่หยุดงาน

    พลังน้ำแข็งทำให้โทชิโร่ทนหนาวได้แต่ร่างกายไม่ทนร้อนเท่าไรนัก หน้าเริ่มแดงลามไปจนถึงลำคอ เหงื่อแตกพลักจนไรผมเริ่มลู่ลงตามใบหน้า...จนกระทั่งเริ่มรู้สึกมึนงงในหัว

    'ให้ข้าช่วยเถิด' 

    พลันเสียงหนึ่งก้องดังขึ้น อุณหภูมิห้องลดลงฉับพลันกลายเป็นเย็นสบาย พร้อมกับร่างสูงปรากฏนั่งอยู่บนโซฟาของห้องทำงานหัวหน้าหน่วย นั่งในท่วงท่าสง่างามปล่อยผมมรกตยาวสยาย รอยเกล็ดน้ำแข็งขึ้นประปรายบนบริเวณโซฟาใกล้ตำแหน่งที่เขานั่ง

    "ข้าไม่ได้เรียกให้เจ้าออกมาสักหน่อย"

    "ซัมปาคุโตมีจิตนึกคิด ย่อมมีจิตใจต้องการรับใช้ผู้เป็นเจ้านาย" เฮียวรินมารุนั่งนิ่งตอบคำถามด้วยเสียงโทนเรียบ

    โทชิโร่มองแล้วก็สงสัยอยู่ไม่น้อย ไม่ได้เรียกชื่อให้ออกมาแต่ก็ออกมาได้นี่มันปกติหรือ?

    แต่พอนึกถึงความร้อนก่อนหน้าก็เลิกใส่ใจ ปล่อยให้เฮียวรินมารุนั่งเล่นบ้างพร้อมไปกับสร้างประโยชน์ในมุมอื่นนอกจากต่อสู้ก็ไม่เลว

    "ว้าว ห้องเย็นฉันพลัน!" ไม่ทันที่จะพูดอะไรต่อ มัตสึโมโต้ก็กระเด้งตื่นขึ้นมาด้วยความตื่นเต้นกับอากาศที่เย็นสบายมีแรงพูดไปเรื่อยต่อทันที

    "สุดหล่อคนนี้--อ้อ ดาบฟันวิญญาณของหัวหน้านี่นา ทำไมหัวหน้าไม่เรียกเขาออกมาเร็วกว่านี้ล่ะค้า" 

    "น่ารำคาญมัตสึโมโต้"

    "โถถถ ได้ทำงานไปจ้องหน้าซัมปาคุโตหน้าตาดีก็ไม่เลวนะคะหัวหน้า ข้าอาจจะตรวจเอกสารได้มากขึ้นสองสามใบ--"

    มัตสึโมโต้ รันงิคุไม่ยอมหยุดพูด หัวหน้าหน่วยผู้เคยชินแล้วก็ได้แต่ถอนหายใจเอือมระอานั่งทำงานต่อไปจนกระทั่งได้ยินเสียงตึงตังจากรองหัวหน้าและดาบฟันวิญญาณของตน

    โครม!

    "อย่ามาแตะข้า" 

    เฮียวรินมารุปัดมือรันงิคุที่ยื่นมาจับผมอย่างสนอกสนใจด้วยลมหนาวเยือกจนเธอชักมือกลับอุทาน

    "โอ๊ะ หวงตัวกว่าที่คิดนะเนี่ย ขนาดหัวหน้าของข้ายังยอมให้ข้ากอดเลย" 

    "เจ้าพูดว่าอะไรนะ"

    "โอ๊ยๆ หนาวๆ ไม่จับเจ้าแล้วก็ได้"

    "แต่เจ้ากอดนายข้า"

    "อะไรนะ? ใช่สิ เมื่อก่อนหัวหน้าข้าเป็นเด็กน่าเอ็นดูเชียวน้าา เจ้าก็รู้อยู่ใช่ไหมล่ะ ตอนที่หัวหน้ายังเป็นเด็กอยู่ ข้าทั้งกอดทั้งบีบแก้มเล่นแทบทุกครั้งที่เจอเลย" 

    รันงิคุนึกว่าจะกอบกู้สถานการณ์ได้จากการเปลี่ยนประเด็นไปพูดชื่นชมสมัยเด็กของฮิตสึกายะ โทชิโร่ แต่ที่ไหนได้ อากาศกลับเย็นฮวบลงมากกว่าเดิมเป็นเท่าตัวจนน้ำแข็งเริ่มเกาะ สุดท้ายจึงยอมแพ้เลิกพูด เดินไปหยิบผ้านวมผืนใหญ่มาห่มตัวพยายามทำงานต่อทั้งที่ยังสั่นงันงก

    "หนาวเหรอมัตสึโมโต้" โทชิโร่เพิ่งรู้สึกตัวเห็นรองหัวหน้าของตนห่มผ้านวมตัวสั่น

    "หนาวค่ะ! หนาวจะตายอยู่แล้วหัวหน้า!" รันงิคุพูดพลางพยักเพยิดไปทางเฮียวรินมารุ ขอคะแนนความสงสารให้หัวหน้าช่วยลดอุณหภูมิห้องอย่างเต็มที่

    "เฮียวรินมารุลดอุณหภูมิห้องลงหน่อย"

    "นายข้าหนาวหรือ"

    "เปล่า ข้าสบายดี แต่มัตสึโมโต้หนาวสั่นอยู่" 

    "เช่นนั้นก็อยู่อย่างนี้ดีกว่า ข้าเองก็ชอบอากาศประมาณนี้" เฮียวรินมารุพูดพลางเหลือบมองหญิงสาวตรงหน้าที่หน้าซีดด้วยสีหน้าไร้ความรู้สึก

    "ข้าเข้าใจ แต่มัตสึโมโต้ต้องอยู่ช่วยงานข้า" โทชิโร่แย้งพลางมีรองหัวหน้าหน่วยพยักหน้าหงึกหงักเห็นด้วยอย่างเต็มที่แม้ตรงหน้าเธอจะมีกระดาษเพียงสองใบจากทั้งกองที่ผ่านการตรวจสอบแล้ว

    "ช่วยทำเป็นชั่วโมงทว่าลุล่วงเพียงสองใบ?" 

    เฮียวรินมารุรู้ทันเสียยิ่งกว่าอะไร นิ้วมือยาวแหลมประกอบไปด้วยน้ำแข็งคีบหยิบใบรายงานที่ถูกมัตสึโมโต้ตรวจสอบสองใบแกว่งไปมาอย่างดูถูก 

    "ให้ข้าช่วยไม่ดีกว่าหรือนายข้า เป็นดาบฟันวิญญาณของท่านคงเป็นตำแหน่งที่เพียงพอสำหรับการตรวจงานเช่นนี้" 

    โทชิโร่ได้ยินดังนั้นก็ช่างใจ แต่พอมองเห็นกระดาษเพียงสองใบที่ถูกขีดเขียนด้วยลายมือไก่เขี่ยก็เริ่มรู้สึกปวดหัวจี๊ดขึ้นมาอีกครั้ง

    "เจ้าช่วยทำงานแทนมัตสึโมโต้ก็แล้วกัน.."

    "เพื่อนายข้า ยินดีเป็นอย่างยิ่ง"

    มัตสึโมโต้มองเหตุการณ์ตรงหน้าไม่อยากจะเชื่อ นี่เธอกลายเป็นหมาหัวเน่าเหรอ!? 

    ไม่ทันที่จะได้เอ่ยปาก ลมหนาวก็พัดแรงจนแสบผิวไล่ให้เธอออกทางประตูอย่างโจ่งแจ้งจนเธอได้ประสบการณ์ของความรู้สึกหมั่นไส้ดาบฟันวิญญาณขึ้นมาเป็นครั้งแรก แต่เพราะทำอะไรไม่ได้จึงเดินออกมาพร้อมกับผ้าห่มห่อตัวเพราะหนาวไม่หาย พอเดินออกจากห้อง ปิดประตูสนิทดีแล้วเธอก็กรี๊ดเสียงดังระบายไปหนึ่งครั้ง...หน้าตาดีแลดูสุขุมภูมิฐานแท้ๆ ทำไมถึงร้ายกาจกับเธอขนาดนี้!

    "อ้าวรองหัวหน้าไหงวันนี้ห่มผ้าห่มล่ะครับ" 

    ลูกน้องมองตามสาวสวยที่ปกติแทบจะถอดชุดเครื่องแบบออกในหน้าร้อน แต่รอบนี้ดันเดินลากผ้าห่มหนามาอย่างผิดปกติ

    "หน่วยของข้าหนาวน่ะ" 

    "หืม?" อยากจะถามต่ออีกสักหน่อยแต่ก็หุบปากโค้งให้รองหัวหน้าอีกคนที่เดินผ่านมา อาบาไร เร็นจิ ผู้กำลังเดินสับขาสวนมาพอดี

    "หัวหน้าฮิตสึกายะอยู่ไหน หัวหน้าคุจิกิมีเรื่องฝากมาแจ้ง"

    "อยู่ในห้องทำงาน"

    "แล้วเจ้าอู้งานอีกแล้วเรอะ" เร็นจิอดไม่ได้ที่จะแซวรันงิคุพลางมองเธอราวกับมองตัวประหลาดตัวประหลาดที่ห่มผ้าเดินทั้ง

    นี่เขาร้อนจนเหงื่อเปียกท่วมตัวยังกะอาบน้ำแล้ว!

    "ตอนนี้เฮียวรินมารุอยู่ช่วยงาน ข้าเลยออกมา"

    "หา?" 

    เร็นจิยังไม่เข้าใจและส่งสายตาเหมือนมองตัวประหลาดให้รันงิคุเช่นเดิมจนเธอเริ่มรำคาญ หญิงสาวที่มือไม่ว่างเพราะจับผ้าห่มอยู่ จึงเอาตัวดันสหายผมแดงไปหน้าประตูที่ทำงานหัวหน้าหน่วยสิบ ก่อนจะกระโดดกลับไปทั้งที่ห่อผ้าห่มหนาอย่างทุลักทุเล

    "ช่างเหอะ พอเจ้าเข้าไปเดี๋ยวก็รู้เอง" 

    พูดไม่ทันขาดคำลมพัดวูบหนึ่งก็หอบเอาความเย็นสบายมาให้ เร็นจิกลับรู้สึกหนาวตามกระดูกไขสันหลังอย่างประหลาด แต่ก็ยังใจแข็งเลื่อนเปิดประตู

    ครืดด

    "หัวหน้าฮิตสึกา--" 

    "เจ้ามีอะไรกับนายข้า" ชายหนุ่มนั่งอยู่ในท่วงท่าสง่างาม ผ้าคลุมที่เกาะเป็นน้ำแข็งอยู่บนบ่าทั้งสองและศรหางน้ำแข็งบ่งบอกถึงตัวตนของเจ้าของเสียงได้เป็นอย่างดี

    "หะ หัวหน้าหน่วยที่หกฝากข้อความมา" เร็นจิกัดฟันอดทนต่อความหนาวฉับพลันฝืนพูดออกไป

    "แล้วทำไมไม่มาด้วยตัวเอง"

    "อากาศร้อนมาก ขะ ข้าเสนอมาส่งข้อความแทน" การที่ต้องพูดประโยคนี้ในห้องที่หนาวราวกับขั้วโลกเหนือทำให้เร็นจิรู้สึกขัดปากอย่างประหลาด

    "ที่นี่อากาศไม่ร้อน"

    "..."

    เจอคำตอบแบบนี้มาเร็นจิก็ไร้หมดสิ้นคำที่อยากจะพูด ชักไม่ค่อยแน่ใจว่าทำไมถึงต้องมาเกรงใจทำตามซัมปาคุโตของชาวบ้านด้วย

    "อีกประการ ตอนนี้นายข้าพักอยู่ ถ้าจะมาก็จงรู้เวลาด้วย"

    ครืดด ปึง!

    ประตูห้องทำงานหัวหน้าหน่วยสิบถูกเลื่อนปิดดังปังพร้อมกับเร็นจิที่ถูกลมพัดลิ่วกระเด็นมานั่งอยู่ด้านนอก ค้นพบเกล็ดน้ำแข็งที่เกาะตามตัวจากเหงื่อของตนกำลังละลายเป็นน้ำหยดลงบนพื้นพร้อมกับร่างกายที่แปรปรวนจนเริ่มมึนหัว

    "หลังจากนี้ไปพึ่งแอร์โลกมนุษย์ดีกว่า ขืนอยู่แบบนี้ได้เป็นไข้ตายแน่"

    พอเริ่มบุกได้ก็มุ่งหน้าเดินกลับหน่วยของตัวเองไปรายงานหัวหน้าพร้อมกับคิดในใจว่าจะขอลาหยุดสักครึ่งวันลงไปโลกมนุษย์

    "เอ้อ บอกให้รันงิคุเบิกงบลงไปซื้อแอร์ติดห้องหัวหน้าฮิตสึกายะสักตัวก็น่าจะดี" 

    ก่อนหน้านี้โซลโซไซตี้ไม่เคยต้องมีอุปกรณ์พวกนี้เพราะยมทูตมีร่างกายที่ทนทานกว่ามนุษย์อยู่มากโขและยังคงยึดถือธรรมเนียมเก่า ไม่เอาอะไรใหม่ที่ไม่จำเป็นเข้ามา

    ..แต่ตอนนี้อาจจะจำเป็นขึ้นมาแล้วก็ได้


    .

    "เราจะไปที่หน่วยสิบกันเซ็มบงซากุระ" 

    คุจิกิ เบียคุยะ ได้รับรายงานจากรองหัวหน้า อาบาไร เร็นจิแล้ว ดูเหมือนว่าเขาควรจะเข้าไปพูดคุยด้วยตัวเองพร้อมกับซัมปาคุโตของตนเอง

    เวลาของวันนี้มีไม่มาก ถ้าไปก็ต้องรีบไปตอนนี้

    การเดินทางของหัวหน้าหน่วยที่หกพร้อมกับซัมปาคุโตของเขาในร่างแปลงเป็นที่ฮือฮามากในหน่วยที่สิบ ยกเว้นเพียงห้องทำงานห้องหนึ่งที่ยังสงบสุขไร้สัญญาณรบกวน ฮิตสึกายะ โทชิโร่ที่ยังคงงีบหลับพักผ่อนอยู่จึงไม่รู้อะไรเลย

     ..น่าเสียดายที่เร็นจิลืมรายงานไปว่างหัวหน้าของหน่วยที่สิบกำลังพักผ่อนอยู่อย่าเพิ่งเข้าไปรบกวน

    ครืดด

    ทันทีที่เบียคุยะเลื่อนเปิดประตู ไอเย็นเยียบก็พวยพุ่งออกมาจนรู้สึกหน้าชา ยิ่งไปกว่านั้นเมื่อไอหมอกเย็นจางหายก็ทำให้เห็นฮิตสึกายะ โทชิโร่ ที่อยู่ในสภาพไม่พร้อมเจรจา

    "หลับอยู่รึ"

    "บังอาจเรียกนายข้ามาถึงที่ แต่หลับนอนขี้เกียจตัวเป็นขนเช่นนี้รึ สามหาวยิ่งนัก!" 

    เซ็มบงซากุระอารมณ์ขึ้นเร็วไม่ต่างกับคุจิกิ เบียคุยะในวัยเด็ก ทันทีที่เห็นสายตาเย็นชาไม่ต้อนรับของเฮียวรินมารุ จากห้องทำงานที่มีไอน้ำแข็งก็เริ่มแปรเปลี่ยนเป็นสีชมพูอ่อนกลีบดอกซากุระปลิวว่อนพร้อมเชือดเฉือนฝ่ายตรงข้าม

    "จงโปรยปราย!--"

    ลมกรรโชกแรงเมื่อกลีบดอกซากุระเริ่มหมุนวนเป็นพายุลูกใหญ่หอบเอากระดาษเอกสารปลิวว่อนเต็มห้อง เก้าอี้โคลงจนฮิตสึกายะ โทชิโร่ ที่เอนพิงเก้าอี้หลับอยู่นั้นหัวหล่นเกือบฟาดพื้น

    แต่เฮียวรินมารุเร็วกว่า เข้าไปประคองเจ้านายของตนได้ทันเวลาพร้อมส่งสายตาอาฆาตปะทะกับเซ็มบงซากุระที่พร้อมเอาเรื่อง พลันฟ้าแลบแปลบปลาบเริ่มมีเมฆครึ้มทะมึนกลางแดดจ้าอย่างไร้สาเหตุ

    "หยุด พอได้แล้ว" เบียคุยะรีบก้าวออกมากางแขนกั้นเป็นเชิงห้ามซัมปาคุโตของตน 

    "เจ้านั่นไม่มันให้ความเคารพต่อนายท่านสักนิดเดียว!"

    เบียคุยะเพิ่งรู้ตัวว่าตนเองคิดผิดมหันต์ ว่าการเอาเซ็มบงซากุระมาจะทำให้เข้าทางเฮียวรินมารุได้ง่ายขึ้น ตอนนี้เขารู้สึกเหมือนต้องมาห้ามเด็กที่จะพังบ้านทั้งหลังจากการทะเลาะกัน แทนที่จะได้ทำงานของตนให้ลุล่วง

    "ช่างเถอะ ไว้ข้าจะส่งจดหมายมาแทน" เขาถอนหายใจเฮือกใหญ่ก่อนจะลากเซ็มบงซากุระออกมาตามกัน

    ตอนที่เดินกลับออกมาฟ้ากลับมาสว่างร้อนแดดเหมือนเดิมแล้ว 

    คุจิกิ เบียคุยะผู้ไม่โปรดปรานอากาศร้อนได้แต่นึกกับตัวเอง ไม่น่าเชื่อว่าแดดร้อนๆ นี่จะสามารถทำให้โล่งใจได้เหมือนกัน..

    เรื่องที่ต้องหารือคุจิกิ เบียคุยะลงความเห็นว่าไม่สำคัญมากพอที่จะต้องไปเจรจาอีกรอบ จึงตัดสินใจทั้งหมดและเขียนเป็นเอกสารให้เซ็นว่าเห็นด้วยหรือไม่แทน และเอกสารก็ถูกส่งไปถึงมือในวันต่อมาด้วยผู้ส่งสารที่เบียคุยะไตร่ตรองว่าดีที่สุดตามเวลาเดิม

    ครืดด

    "มีเอกสารให้หัวหน้าหน่วยพิทักษ์ที่สิบเจ้าค่ะ" เสียงหญิงสาวผู้มาใหม่นุ่มนวลน่าฟังกว่าเป็นไหนๆ ไม่มีแม้แต่อาการสั่นเพราะความหนาว

    "จากบุรุษเจ้าของเซ็มบงซากุระ?"

    "ใช่ค่ะ จากท่านพี่ข้าเอง"

    โซเดะโนะชิรายูกิเดินเหินได้สบายๆ ในสภาพอากาศจุดเยือกแข็งดังนั้นอุณหภูมิใกล้เคียงกับขั้วโลกเหนือจึงไม่เป็นปัญหาสำหรับเขา เช่นเดียวกันกับลูเคียที่พลันเข้าใจขึ้นมาทันที ว่าทำไมท่านพี่ถึงบอกให้เขาเอาเอกสารแผ่นนี้มาส่งถึงมือด้วยตัวเองพร้อมกับดาบฟันวิญญาณเท่านั้น

    ลูเคียเหลือบมองหัวหน้าฮิตสึกายะที่กำลังหลับลึกอยู่บนตักเฮียวรินมารุแทนที่จะนั่งทำงานเช่นยามปกติ พอเฮียวรินมารุเห็นเข้าก็ยกมือลูบหัวเจ้านายตนอย่างราวกับกล่อมเด็กทำให้ลูเคียที่กำลังมองอยู่มีสีหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออก 

    อยากจะถามแต่ก็กลัวจะก่อเรื่องจากที่ท่านพี่กำชับไว้..

    "ดูเหมือนว่าเจ้านายของเฮียวรินมารุจะพักผ่อนได้เยอะกว่าปกตินะเจ้าคะ" โซเดโนะชิรายูกิถามออกไปรู้ใจลูเคีย ส่วนลูเคียก็ได้แต่ภาวนาว่าจะไม่มีเรื่องใหญ่อะไรตามมา

    "สองวันที่ผ่านมานี้ข้าช่วยงานนายข้าอย่างขันแข็ง เพราะอยากให้นายข้าได้พัก ปกติเห็นจะทำงานตลอดเวลาพยายามอยู่เสมอจนข้าอดเป็นห่วงมิได้"

    "เป็นช่วงเวลาที่ดีสินะคะ"

    "ใช่ โดยเฉพาะช่วงหน้าร้อนที่พอออกมาแล้วนายข้าก็ไม่มีท่าทีว่าจะสั่งให้ข้ากลับไปในสภาพดาบเลย" 

    "มีความสุขมากนะนั่น คนอื่นเลยไม่กล้าอยู่ด้วยเลย.." ลูเคียได้ยินแล้วก็เผลอปากบ่นออกมา จะรีบตะครุบปากเอาไว้ก็ไม่ทันเสียแล้ว

    "ผู้อื่นที่ว่านั่นเจ้าหมายถึงผู้ใด" สายตาที่เฮียวรินมารุมองผู้อื่นนอกจากนายตนช่างเย็นชา แต่ลูเคียก็ไม่คิดอะไรนอกจากโชคดีที่เธอไม่ได้อยู่ในจำพวกคนที่เฮียวรินมารุเกลียด

    "หากเจ้าหมายถึงยมทูตที่มีตำแหน่งทว่าช่วยงานนายข้าไม่ได้เรื่องเทียบเท่าข้า เจ้าพวกนั้นล้วนเป็นยมทูตไร้ประโยชน์ทั้งนั้น" 

    "อ่า ข้าเข้าใจแล้ว.." ลูเคียรู้สึกเสียวสันหลังแทนคนที่อยู่ในจำพวกยมทูตไร้ประโยชน์ของเฮียวรินมารุ 

    คาดว่ายมทูตที่เฮียวรินมารุหมายถึงพวกนั้น ลาพักร้อนเร็วขึ้นและมุ่งไปโลกมนุษย์ตั้งแต่เมื่อวานแล้ว ไม่รู้ว่าตอนนี้หัวหน้าฮิตสึกายะรู้เรื่องหรือยัง...อย่าน้อยเธอก็ควรจะบอกให้เขารู้รึเปล่านะ?

    "พวกเจ้ายังไม่เสร็จธุระอีกหรือ" 

    เฮียวรินมารุถามน้ำเสียงเรียบนิ่ง ทว่าลูเคียก็สัมผัสได้ว่าเขาอยากให้เธอและซัมปาคุโตของเธอออกไปโดยเร็ว 

    "ข้าขอเขียนฝากข้อความเพิ่มอีกนิดเดียวเดี๋ยวข้าก็ไปแล้ว ไม่ต้องห่วง" ลูเคียเขียนข้อความลาไปโลกมนุษย์ให้รันงิคุอย่างรวดเร็วพร้อมกับเรียกโซเดโนะชิรายูกิให้ออกไปพร้อมกัน

    "แล้วพบกันใหม่เจ้าค่ะ" อาจจะเป็นเพราะซัมปาคุโตของเธอเป็นธาตุเดียวกันกับของหัวหน้าฮิตสึกายะจึงไม่ถูกเขม่น เธอรู้สึกโล่งใจเหลือเกินที่มีโซเดโนะชิรายูกิ

    "รบกวนเจ้าปิดประตูเบาๆด้วย ข้าไม่อยากให้นายข้าตื่น"

    "..เจ้าค่ะ"

    ช่างเป็นซัมปาคุโตที่ไม่สนใครหน้าไหนนอกจากหัวหน้าของตนเลยจริงๆ..

    .


    ณ บ้านหลังหนึ่งในเมืองคาราคุระ


    "ไปอยู่ห้องเดียวกับเฮียวรินมารุก็น่าจะดีไม่ใช่เหรอ ญี่ปุ่นร้อนจะตายอยู่แล้ว" อิจิโกะเกาหัวแกรก 

    ญี่ปุ่นอากาศร้อนกับหนาวต่างกันสุดขั้ว หน้าหนาวก็ลงซะติดลบ แต่ทันทีที่แตะเดือนเมษาเข้าหน้าร้อน กราฟความร้อนก็พุ่งปรี๊ดแตกต่างจากเดิมเกิน 80% ดังนั้นมีห้องเย็นให้อยู่ก็น่าจะดีไม่ใช่เหรอ?

    "ไม่ ไม่ดีเด็ดขาดเลย!" เร็นจิสั่นหัวดิกทำหน้าเหมือนเห็นผี

    "ร้อนก็ไม่ได้เย็นก็ไม่ดี เซ้นซิทีฟเหมือนผู้หญิงเลยนะเร็นจิ" อิจิโกบ่นล้อเลียนในขณะที่ขยับตัวหลบฝ่าเท้า

    "ยังไงก็ไม่เข้าใจหรอก" รันงิคุถอนหายใจเฮือกใหญ่และพูดต่อ

    "เย็นขนาดขั้วโลกเหนือใครจะไปอยู่ได้ ยิ่งเห็นสายตาของคนสร้างห้องน้ำแข็งนั่นนะ...โห ขนาดข้าที่เป็นรองหัวหน้าหน่วยยังไม่อยากจะอยู่เลย มีแค่หัวหน้าเท่านั้นแหละที่ไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไรกับเขาเล้ยย"

    "เอ้อใช่ แล้วก็อย่าลืมพาพวกข้าไปดูร้านขายแอร์ด้วย ไอ้ตัวพวกนี้มันราคาสักกี่เยนเหรออิจิโกะ"

    อิจิโกะถอนหายใจเฮือกใหญ่ ยังงงไม่หาย เขามองเพื่อนยมทูตที่ติดสอยห้อยตามลงมานอนตากแอร์ที่บ้านของตัวเองก็พาลคิ้วกระตุกไม่หยุด 

    อะไรมันจะแย่นักหนาห้องหัวหน้าหน่วยสิบสำหรับยมทูตระดับรองหัวหน้าอย่างพวกเขามันจะเป็นอะไรไป คนที่เป็นน่ะคือเขาต่างหาก

    อยู่หลายคนเร่งแอร์ขนาดนี้ มันเปลืองโว้ยยยย!



    夏を生き残る

    "อยู่ให้รอดหน้าร้อนนี้"

     


    - END -








    01.04.2021

    ย ยาว..โดดดองงานที่ต้องทำมาเขียนฟิคไปครึ่งวันตั้งแต่เที่ยงอู้มาเสร็จค่อนคืนทันพอดี5555

     เพิ่งนึกได้ว่านี่มันวันเมษาหน้าโง่นี่นา!//ต่อให้คิดพล็อตใหม่ได้ก็ไม่ทัน;_; แต่หวังว่ารีดจะชอบตอนนี้เนอะ 

    ส่วนใครที่เป็นนักอ่านเงาก็เม้นได้เหมือนกันน้าา เอพริลฟูลส์เดย์ แกล้งๆเม้นหน่อยก็ได้ค่า--ฮ่าๆ//แห้ง


    ปล.เราใช้ทั้งคำว่าซัมปาคุโตและดาบฟันวิญญาณ เขียนไปมากลัวรีดงง แค่จะมาบอกว่ามันคืออย่างเดียวกันนะคะ เราแค่เขียนรวดเดียวแล้วไม่มีแรงมานั่งเกลาภาษาอีกรอบเท่านั้นเอง...แต่ถ้าอันไหนอ่านขัดจริงๆก็บอกได้ค่า

    TB
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×