it's a long story

ลำดับตอนที่ #1 : Hard hit in the head

     ผั๊วะ!!!    เสียงของดาบไม้ที่กระทบเข้ากับชุดเคนโด้  และตามมาด้วยเสียง ตุบ ของชุดที่กระแทกเข้ากับพื้นโรงฝึก  

“โอ้ว...” เสียงอุทาน ผู้ที่นั่งชมการประลองอยู่ในขณะนั้น  บางคนก็ตบมือ บางคนก็ ซี๊ด เบาๆ ด้วยความรู้สึกเจ็บแทน  

“เอาหละ วันนี้ทุกคนพอแค่นี้..” ครูฝึกพูด พร้อมกับยืนขึ้น “ เอาหละเอ็ง สองคน หนะ มานี่หน่อย”  ครูผึกเรียก คู่ประลองเมื่อสักครู่นี้มา “พี แกต้องฝึกอีกเยอะโดยเฉพาะจังหวะการฟัน ส่วน แก อเล็ก ถึงจะเก่ง แค่ไหน ก็จงจำไว้ว่ายังมีคนที่เก่งกว่านี้อีก เข้าใจนะ”      “ครับบ” ทั้งคู่ตอบพร้อมกัน “เอาหละ ทีนี้แยกย้ายกันไปได้แล้ว” แล้วทั้งคู่เดินออกจากโรงฝึกไปพร้อมกันและ เดินไปตามถนนเพื่อ จะเรียกรถสองแถวกลับบ้าน

 ทั้งคู่นั่งกันเงียบๆ     อเล็ก นั่งสไลด์มือถือไปๆมาๆ เพื่อฆ่าเวลาเล่น  “เห้ย กูถามหน่อยเหอะ หวะ มึงเป็นซามูไรกลับชาติมาเกิดรึไง วะ ถึงโหดสั* ขนาดนี้ ขนาด อาจารย์บอกให้พวกกู รุม 2 แล้วยังสู้ไม่ได้เลย” พีพูดขึ้นเพื่อทำลายความเงียบ “มึงมีเคล็ดลับอะไรวะบอกหน่อย หรือมึงไปแอบฝึกมาวะ” พีถามต่อ  อเล็กแอบอมยิ้มนิดๆ เพราะตนเองเป็นคนที่ชอบคำชมอยู่แล้ว “ของแบบนี้ มันอยู่ที่ความพยายาม หนะเพื่อน กูนี่กลับไปฝึกฟันทุกวัน วันไหนแขนไม่ล้ากูไม่เข้านอน ไม่ได้โม้” อเล็กพูด  และขณะที่อเล็กกำลังจะโม้ต่อ รถโดยสารสีแดงก็เข้ามาขัดการโม้ของอเล็ก

“เห้ย นั่น.. รถกูมาละ  แม่มึงมารับใช่ไหม๊  ไปละ   โชคดีเพื่อน” พีพูด ขณะเดินไปขึ้นรถ “เออๆ โชคดี” อเล็กยกมือเป็นการบอกลา

วันต่อมา...    ที่ห้องเรียนศิลปะ 

“เห้ย ไอ้ (อ)เล็ก  เรียนกระบี่กระบองเป็นไงบ้างวะ ได้ข่าวต้องฟันผู้ชายด้วยนี้หว่า ฮ่าๆๆ” ไอ้ซัน ขาแสบประจำห้องพูด ด้วยน้ำเสียงเยอะเย้ย   “กระบี่ กระบอง พ่อมึงอะดิ เขาเรียกเคนโด้ ไอฟวายเอ้ย” อเล็กคิดในใจ แต่ไอ้ทีอยู่ในใจนี่ก็กำลังกระจายออกเป็นคลื่นเสียงผ่านทางปาก ครูสอนศิลป์ก็เดินเข้ามาขัดจังหวะเสียก่อน  “อ้าว เว้ย.. เงียบกันหน่อย “ พูดพลางเอาไม้เคาะโต๊ะเบาๆ “เอาหละนักเรียน ครูมีงานกลุ่มจะให้นักเรียนเอาไปทำ”   “มาถึงก็ให้งานเลยนะ” อเล็กคิดในใจ   “ครูจัดกลุ่มให้นักเรียนไว้แล้วเรียบร้อย กลุ่มละ 2 คน “ อาจารย์อธิบายไปพลาง เขียนเลขที่ไว้บนกระดานไปพลาง “ก็คือจับคู่ จะใช้กลุ่มทำไมวะ” ไอ้ซันพูดเบาๆ    อาจารย์บอกเลขที่ที่ต้องคู่กัน ไปทีละคู่ๆ จนมาถึงของอเล็ก “เลขที่  21 “ อาจารย์เรียก   “ครับ” อเล็กขานรับ  “คู่กับ อ่า ..  เลขที่ 41”  **เงียบ** “เลขที่ 41 “ อาจารย์เรียกอีกรอบ แต่คราวนี้เสียวค่อนข้างจะดัง      ”อีครีม( มีอีห่าครีมปนๆมาด้วย)”  เพื่อนในห้องส่งเสียงกระตุ้น     

“ค่ะ?”  เสียงจากหลังห้องดังขึ้น  “เธอเลขที่ 41 เธอคู่กับ เลขที่ 21 นะ”อาจารย์ทวน  “ค่ะ” ครีมตอบ  หลังจากจัดกลุ่ม(คู่) ท่านอาจารย์ก็สั่งงาน     “งานก็ง่ายๆ ให้เธอไปสร้างงานศิลปะ อะไรก็ได้จากวัสดุในโรงเรียน ส่งก่อนสอบ” สั่งเสร็จก็สั่งทำความเคารพแล้วเดินออกไป ทิ้งให้นักเรียน นั่งงงกัน เป็นแถว ต่างคนต่างมองหน้ากัน     “งานกับ นิสัยแม่งอินดี้พอกันเลยหวะ” ไอ้ซันพูดขึ้น “เห้ย ไปเตะบอลกัน เหอะหวะ คาบว่างแล้วรอเชี่ยไร” ไอเจ็ก หัวหน้าห้องหน้าตา ดึงดูดตีน ตะโกนขึ้น “เห้ยไอเล็ก ปะ เก็บของได้แล้วมึงอะ ไปสนาม”ซํนพูดชวนอเล็ก  ในขณะที่อเล็กกำลังเก็บของ ครีมก็เดินเข้ามา”เห้ย มึงอะ ไอหาของมาหน่อย ภายในคาบนี้เลย” ครีมสั่ง          

  ”หา ส่งตั้งหลังสอบไม่ใช่เรอะ” อเล็กตอบ “ก็คาบนี้มันว่างมึงก็แค่ไปหาวัสดุ แล้วก็เอามาไว้ที่กูนี่ เดี๋ยวกูจัดการที่เหลือเอง” สิ้นคำพูดของยังครีม โดยเฉพาะคำว่า เดี๋ยวกูจัดการที่เหลือเอง  สะกิดต่อมขยันของนายเล็กขึ้นมาทันที  “เออ เว้ย ดีเหมือนกันหวะแค่ไปหาข้าวของ แล้วเดี๋ยวมันก็ทำของมันเอง สบายเว้ยกู”อเล็กคิดในใจ “เออๆ มึงจะเอาแบบ ไหนหละ จะได้หาให้ได้ถูก”อเล็กถาม “ไม้  เอาไม้แบบไหนก็ได้ ใหญ่หน่อยก็ดี”ครีมตอบ  “เอาไปตีหัวพ่อ มึงใช่มะ” อเล็กเก็บประโยคนี้ไว้ในใจ“โอเค ไม้ใช่ไหม๊”อเล็กทวนคำถาม   “เออๆ เอา แบบแผ่นๆนะ” ครีมตอบ “ดีๆ จะได้ตีได้ ถนัดมือหน่อย”อเล็กคิดในใจเช่นเคย 


สักครู่หนึ่ง อเล็กก็มาอยู่ตรงที่ๆตำนานกล่าวขานกันว่า โรงไม้ อยู่บริเวณข้างโรงเรียน เป็นส่วนที่แทบไม่มีใครอยากมา นอกจากพวกขี้ยา กับ พวกที่จะปีกำแพงโดดเรียน ด้านนอกดูละม้ายคล้ายโรงสีข้าวเก่าๆ ข้างในก็มีเครื่องมืองานไม้ แทบทุกชนิด ถูกปิดตายมานานแล้ว แต่มันมีทางเข้าอยู่ข้างหลัง โรงไม้ ปกติมันจะมีหญ้าขึ้นสูงบังทางเข้าเอาไว้ไม่ให้ใครเห็น ที่อเล็กรู้ เพราะตอน ม. ต้นเคย อเล็กกับเหล่าแก๊งเด็กหัวเกรียน เอาลูกหมาหลงทาง มาแอบเลี้ยงไว้ที่นี่ เลี้ยงไว้เดือนเดียว หมาดันหายไปไหนไม่รู้ บ้างก็บอกว่ามันออกเผชิญโลกกล้าง บ้างก็บอกถูกผีอุ้มไปเลี้ยง บ้างก็บอกว่ามันไปเกณฑ์ทหาร(อันนี้สันนิฐานกวนตีน)

 อเล็กแหวกหญ้า แล้วก็เดินเข้าไปข้างใน ภายในก็ไม่ต่างอะไรกับโกดังเก็บของ เป็นห้องโล่งๆ มีฝุ่น และเศษไม้อยู่ตามพื้น อเล็กรีบมองหาแผ่นไม่ สวยๆ เอาไปให้อีแว่นจอมบงการ จะได้รีบไปเล่นบอล สายตาของอเล็กกวาดมองหาแผ่น สายตาก็ไปสะดุดกับประตูไม้ ที่มีวงกบติดอยู่ เป็นประตูไม้ที่ทำอย่างประนีต มีลูกบิดประกอบอยู่กับประตู ที่น่าแปลกคือทั้งๆที่ในห้องนี้มีฝุ่นอยู่เต็มไปหมดแต่ประนั้นกลับสะอาดเอี่ยมอ่อง การที่ประตูไม้พร้อมลูกปิดมาตั้งอยู่กลางห้อง ของโกดังไม้ ที่ไม่มีใครเข้ามายุ่งย่ามเช่นนี้  ในบริเวณที่เปลี่ยวที่สุดของโรงเรียนเช่นนี้ มีผลทำให้อเล็กขนลุกพอสมควร เรื่องอัปมงคลเริ่มเข้ามาในหัวของอเล็ก เหมือนมนต์สะกดอเล็กค่อยๆก้าวเข้าหาประตู โดยยื่นมือไปข้างหน้า พร้อมที่จะจับลูกบิด โดยในหัวคิดว่า”ถ้าแม่ง พากูไปอีกมิติหนึ่ง ก็ดีเหมือนกัน กูจะได้ไม่ต้องส่งงานเคมี” อีกไม่ถึง ฟุตมือจะถึงประตู แต่เนื่องจากสายตาอล็กเพ่งไปที่ลูกปิด ทำให้ไม่ได้ใส่ใจชิ้นไม้ที่อยู่บนพื้นมากนัก ผัวะ เสียงหลังเท้ากระแทกเข้ากับท่อนไม้

อเล็กเสียการทรงตัว “เหี้***ยยยยย” อเล็กอุทาน  เพราะการสะดุดทำให้ตัวอเล็กพุ่งเข้าหาประตู อย่างรวดเร็ว ทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วมาก โครมมมม  

ทุกอย่างมืดมิด

อเล็กได้สติลืมตาขึ้น และลุกขึ้นยืน มองเห็นประตูบานเดิม แต่สภาพแวดล้อมกลับไม่เหมือนเดิม แทนที่จะเป็นโรงไม้ผุๆพังๆ กลับเป็น “ป่า ป่า ป่าเว้ยเห้ย ต้นไม้ต้นบะเหิ่มเลยเห้ย มองทางไหนก็มีแต่ป่า  กูอยู่ไหนวะเนี่ย ตะกี้กูยังอยู่โรงไม้อยู่เลย อะไรวะเนี่ย นี่กูมาอีกโลกแล้วเรอะ กูไม่ต้องส่งงานเคมีจริงๆแล้วใช่ไหม๊” ตอนนี้ความของอล็กสับสนไปหมดคำถามร้อยแปดพันก้าว ได้แต่มองไปรอบๆ เดินมั่วซั่วเหมือนคนไร้สติ จำได้แค่ว่าสะดุดอะไรสักอย่าง “หรือว่ากูตายแล้ววะ นี่กูตายโง่ๆ แบบหนัง final d*stinati*n ใช่ไหม๊วะเนี่ย” ผลจากการเดินไปๆมาในป่า อเล็คโผล่ออกมาเจอถนน  ที่ไม่ใช่ลาดยางแต่ถนนดินไม่รู้จะเรียกถนนได้ไหมเพราะมันแค่เกลี่ยพื้นให้มันดูเรียบๆ  อเล็กแหงนหน้ามองทองฟ้า ด้วยความเหนื่อย                          “HEY, hold you” เสียงห้วนๆของฝรั่ง สำเนียงออกจีนๆ ดังมาจากข้างหลัง อเล็กหันไปดูต้นตอของเสียง พอหันไปก็เจอ ชาย 3 คนท่าทางน่ากลัว สวมชุดเกราะลักษณะคล้ายกับชุดเกราะทหารจีนสมัย 3 ก๊ก ไอ้ 3 คนนั้นก็กำลังตรงเข้ามาหาอเล็ก  “เยี่ยมเลยคน  ว่าแต่มึงคอสเพลย์อะไรมารึไงวะ” เพราะมัวแต่ดีใจที่ได้เจอคน(แล้วโว้ย) เลยลืมคำถามที่ว่ากูมาอยู่ที่แห่งนี้ได้ยังไง อเล็กไม่รอช้ารีบเดินเข้าหา แก๊งคอสเพล์เล่าปี่ทันที แต่แทนที่จะเป็นอ้อมกอดอันแสนอบอุ่น ดันเป็นเสียงอันดุดัน  “ HOLD IT RIGHT THRERE” ไอตี๋ 1 ตะโกนเสียงดุดัน “WHO ARE YOU” ไอตี๋ 1 ถามต่อ                             “Doesn’t matter, He is a dead man by now “ ไอตี๋ 2 พูดด้วยน้ำเสียงเรียบ ทันทีที่พูดจบ ไอตี๋ 1  และ ไอตี๋ 3 เตรียมจะชักดาบทันที “เห้ย ไอสั* เจอกันไม่ทันไรกูก็เป็น dead man แล้วเรอะ” อเล็กสบถในใจ ด้วยสัณชาติญาณการต่อสู้ที่ได้จากเรียนศิลปะการต่อสู้เพื่อที่จะเอาใจพ่อที่เป็นทหาร อย่ากระนั้นเลยเลือดนักสู้สูบฉีดไปทั่วร่างกาย ทุกอย่างดูช้าลงสำหรับอเล็ก

ไอตี๋สามตน ที่ยืนแถวกันเป็นหน้ากระดาน อเล็กเลือกคนที่อยู่ซ้ายสุดก่อน(ไอที่เหลือมันดูเก๋าเกมกว่า) อเล็กใช้มือขวากระแทก ที่ช่องว่างของชุดเกราะบริเวณใหล่ขวาของไอตี๋ 1 ที่กำลังจะชักดาบ ไอตี๋อุทานด้วยความเจ็บ ตามด้วยถีบบริเวณเข่าซ้ายเพื่อให้เสียหลัก ไอตี๋ 2 และ3 ไม่รอช้าเข้าโอบทางขวาของอเล็ก  ขณะที่ไอตี๋ 1 กำลังจะตั้งหลัก อเล็กเคลื่อนตัวไอข้างขวาและผ่านไปข้างหลังของไอตี๋ 1 ดึงดาบของไอตี๋ 1 ขึ้นมา แล้วฟาดด้วย ไอตี๋ 1 ด้วย ตัวดาบอย่างแรง ไอตี๋ 1 สลบ ไปเพราะแรงกระแทก  ไอตี๋ 1 ร่วงไปแล้วเหลือ ไอตี๋ 2 และ ไอตี๋ 3 ตอนนี้มาอยู่ด้านหน้าของอเล็ก

ตอนตอนนี้ไอตี๋ทั้ง 2 มันถือดาบอยู่ในมือและเตรียมที่จะใช้ ไอตี๋ 2 เหวี่ยงดาบมาก่อน อเล็กปัดป้องไว้ได้ ไอตี๋ 2 เหวี่ยงมาอีกเป็นชุด อเล็กปัดป้องอย่างมีชั้นเชิง ไอตี๋ 2 รุกเอาๆ จนเผลอก้าวขามาในระยะขาอเล็ก พอไอตี๋ 2 เหวี่ยงดาบมา อเล็กปัดป้องพร้อมกับเตะเข้าที่ขา  ไอตี๋ 2 ไอตี๋ 2 เซไปข้างหลัง อเล็กไม่รอช้า พุ่งเข้าหาเป็นฝ่ายรุกบ้างไอตี๋ 2 เหวี่ยงดาบแบบสะเปะสะปะ  อเล็กก้มตัวโยกหลบในจังหวะที่หลบ นั่นก็เหลี่ยงดาบแบบ back hand เข้าที่ศรีษะ ไอตี๋ 2 เซไปตามทิศทางของ แรง F แน่นอนมี back ก็ต้อง มี fore hand ฟาดเข้าอีกที ไอตี๋ 2 ร่วงไอตาม ระเบียบ ทีนี้เหลือไอตี๋ 3  ไอตี๋ตนนี้ดูท่าจะเก่งกว่าไอตี๋ 2 ตัวทีแล้ว ไอตี๋ ตนดู นิ่งเหมือนรุ่นใหญ่(ใจต้องนิ่ง)

“Well, fight. Dead man” ไอตี๋พูด “Let’s see what you got” พูดเสร็จมันก็ตั้งท่า ทั้ง อเล็กและไอตี๋ 3 ต่างจ้องตากัน ทั้งป่าเงียบสงัด      ครืนนนนน.. เสียง พื้นสะเทือนเลื่อนลั่น  ไอ้ตี๋ 3 ทันทีที่ยินเสียง ก็เปลี่ยนสีหน้าจากเข้มขรึม กลายเป็นตกใจ ในทันที และเสียงนั่นก็เข้าใกล้เข้ามาเรื่อยๆ “เห้ย เสียง ม้านี่หว่า เป็นฝูงเลยเห้ย”อเล็กคิด ทันใดนั้นทหารม้าเครื่องแบบสีน้ำเงินเข้ม พกดาบ หอก  ก็กระโจน ออกมาจากแนวต้นไม้ เต็มไปหมด เพียงไม่นานทั้งคู่ก็โดนกองทหารม้าล้อมไว้ ไอตี๋ 3 เห็นท่าไม่ดี พยายามจะวิ่งหนี แต่โดนปลายหอกจี้ หน้าอกห้ามเอาไว้     

“ you did that?” พูดกับอเล็ก คราวนี้เป็นสำเนียงออกแนวอังกฤษๆ  พูดจบไอหรั่ง ท่าทางสง่าราสีก็ลงมาจากม้า ตรงเข้ามาหาอเล็ก และถอดผ้าปิดปากออก
”Hello stranger, I’m lieutenant macus bronth  1^st cavalry of renaicos kingdom it an honor to meet a brave man like you” ไอ้หรั่งหน้าตาดีพูด  “นี่กูอยู่ไหน วะ เนี่ยตะกี้แม่งก็เล่าปี่ คราวนี้ผู้พันอะไรอีกวะเนี่ย เชี่ยยย”                      อเล็กคิดในหัวดังๆ

จบ ตอนแรก ติชมด้วยครับ อาจจะเผลอ ใช้  [ก้] ไปบ้างก็ขอโทษด้วยครับ 

ตอนหน้า(ถ้ามีคนอ่าน)จะถือว่าตัวละครพูดอังกฤษคร่องฟังได้สบายมาก นะครับ ก็จะไม่เขียน English แล้วนะครับ