คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : Judge
Chapter 3
Who am I to judge another, when I myself walk imperfectly.
(ตัวฉันเป็นใครกันถึงสามารถตัดสินผู้อื่นได้ ทั้งที่ตัวฉันเองยังก้าวเดินได้ไม่สมบูรณ์แบบเลย)
ในห้องอาหารขนาดใหญ่ที่เหลือผู้นั่งรับประทานอาหารอยู่ห้าคนเท่านั้น รวมกับพ่อบ้านอีกหนึ่งชีวิตเป็นหกคน อันโตนิโอเดินไปเข็นรถเสิร์ฟที่บอสใหญ่แห่งวาเรียเพิ่งเตะชนกับกำแพงออกมา ก่อนจะจัดแจงข้าวของที่ล้มกระจายในนั้นให้เรียบร้อย
“พ่อบ้านออกไปได้แล้ว”
เสียงของสควอโล่พูดขึ้น ขับไล่พ่อบ้านวัยกลางคนออกไป เคียวโกะเห็นอันโตนิโอโค้งพยักนิดๆก่อนจะหยิบเหยือกน้ำมาวางไว้บนโต๊ะแล้วเข็นรถเสิร์ฟออกไปจากห้องนั้น
เสียงของส้อมและมีดกระทบกับจานทำให้เคียวโกะได้สติ เธอมองตามเสียงก่อนจะเห็นว่าสควอโล่เริ่มลงมือกินอาหารตรงหน้าแล้ว เบลเฟกอลยังคงขำอยู่เหมือนเดิม ลูซซูเรียเองก็กำลังจัดแจงผ้าเช็ดปากตรงหน้าตัวเองก่อนจะลงมือกินอีกคน ส่วนเลวี่นั้นยังดูกังวลอยู่เขายังไม่ยอมลงมือทานอะไร
“ไม่รีบกินเดี๋ยวก็เย็นหมดหรอก เธอก็ด้วย ผู้หญิงของวองโกเล่”
ประโยคของสควอโล่ที่พูดกับเลวี่อาแทน ก่อนจะกล่าวถึงเธอโดยไม่ได้หันมามอง คำพูดของชายผมเงินเรียกสติให้เธอหยิบส้อมและมีดขึ้นมา ก่อนจะเริ่มรับประทานอาหารตรงหน้า
“ขนาดท่าจับมีดยังไม่มีที่ติเลย สมกับเป็นเจ้าหญิงสุดที่รักของวองโกเล่จริงๆ ชิชิชิ”
ชายหนุ่มผมทองยังคงพูดจาแซวเธอต่อไป เคียวโกะเริ่มจะชินกับคำพูดของเขามากขึ้นแล้ว เธอคิดเอาเองว่าคงจะเป็นสไตล์การพูดของเขาแหละนะ จึงไม่ได้ติดใจอะไรก่อนจะตอบกลับไปเรียบๆ
“โดนสอนมาน่ะค่ะ คอร์สอบรมสำหรับว่าที่เจ้าสาว”
เธอตอบก่อนจะค่อยๆหั่นเนื้อช้าๆ กิริยามารยาททุกอย่างงดงามไม่มีที่ติ ไม่นานเนื้อในจานตรงหน้าก็ถูกตัดออกเป็นชิ้นเล็กๆ เธอใช้ส้อมจิ้มลงไปก่อนจะลองลิ้มรสอาหารตรงหน้า
เนื้อที่สัมผัสกับประสาทรับรส รสชาติที่ทั้งชีวิตนี้เธอไม่เคยรับรู้มาก่อน เนื้อที่แทบละลายในปากนั้น สาวน้อยวัยยี่สิบตกใจอย่างมากกับรสชาติตรงหน้า ดูจากการจัดจานก็พอเดาได้ว่ารสชาติคงไม่ธรรมดาแน่ แต่นี่เกินความคาดหมายของเธอไปเยอะมาก เบลเฟอกอลคงสังเกตได้เลยแซวเธออีกรอบ
“ทำหน้าแบบนั้นไม่เคยกินสเต็กหรือไง ดูท่าวองโกเลรุ่นที่สิบจะดูแลคู่หมั้นได้ไม่ดีนะเนี่ย ชิชิชิ”
คำพูดคำจาที่ไม่สนใจความรู้ใครทั้งนั้นถูกกล่าวออกมา เคียวโกะเริ่มสังเกตว่านอกจากเบลเฟกอลแล้วคนอื่นก็ไม่ได้สนใจเธอเท่าไร ทุกคนสนใจแต่อาหารตรงหน้าตัวเองทั้งนั้น
“หนวกหูจริงว้อย! กินกันเงียบๆไม่เป็นรึไง”
เสียงดังของสควอโล่บ่นออกมา ด่าชายที่พูดจาไม่รู้จักจบสิ้น
“ว้า~ พูดเล่นนิดๆหน่อยๆฉลามหัวหงอกก็ประสาทเสียแล้วหรอเนี่ย เจ้าชายละเบื่อจริงๆ ชิชิชิ”
เบลเฟกอลพอไม่ได้พูดจาแซวเธอก็หันไปแขวะสควอโล่แทน ฉลามหนุ่มแห่งวาเรียทำหน้าตาเบื่อหน่าย เส้นผมของเขาจะเป็นสีเงินเงางามยาวกว่าเส้นผมของเธอเสียอีก
“เงียบไปเหอะเบล บอสไม่อยู่ก็หัดทำตัวสงบๆบ้าง”
เสียงของเลวี่อาแทนพูดออกมา เคียวโกะเริ่มจะเดาความสัมพันธ์ของสมาชิกในวาเรียได้นิดหน่อยแล้ว ดูเหมือนว่าชายที่ชื่อว่าเลวี่อาแทนจะดูเคารพซัสซัสมากกว่าใครๆ ส่วนสควอโล่ก็ดูจะรำคาญกับทุกสิ่งอย่างรอบตัว เบลเฟกอลเองก็ดูท่าจะชอบกวนประสาททุกคนไม่ใช่เธอแค่คนเดียว
“นี่~ เคียวโกะจัง พี่ชายเธอเป็นยังไงบ้างฮ้า”
เสียงจากคนที่เงียบมานานชวนเธอคุย เธอหันไปทางลูซซูเรีย ยังไม่มั่นใจว่าต้องวางตัวประมาณไหนเพราะเหตุการณ์มากมายก่อนหน้าที่ทำให้เธองุนงงไปหมด
“พี่เขาบอกว่า ถ้ามีโอกาสก็อยากลองสู้กับคุณลูซซูเรียอีกนะคะ”
เธอไม่มั่นใจว่าคำถามที่ถูกถามหมายถึงอะไร เธอเลยเลือกที่จะตอบสิ่งที่ดูเกี่ยวกับผู้ถามหน่อย จะได้ไม่ดูเสียมารยาทเกินไป
“แหม... เจ้านั่นยังใจสู้เหมือนเดิมเลยนะฮ้า ฝากบอกพี่ชายเธอด้วยว่ารอบนี้เจ๊ไม่อ่อนข้อให้หรอกนะฮ้า”
คำลงท้ายประโยคอันเป็นเอกลักษณ์นั้นทำให้เคียวโกะเริ่มรู้สึกชอบคนตรงหน้าขึ้นมานิดหน่อย ดูท่าคนตรงหน้าเธอจะพอคุยเล่นได้บ้างล่ะนะ พอคิดแบบนั้นใจก็ชื้นขึ้นหน่อย ดูท่าว่าการมาอาศัยอยู่ในปราสาทวาเรียอาจจะไม่ได้เลวร้ายมากอย่างที่คิด
“เจ้าหญิง~ ทำไมไม่เห็นคุยกับเจ้าชายบ้างเลยล่ะ”
เบลเฟกอลเรียกร้องความสนใจจากเธอ เคียวโกะหันไปสบตาผู้พูด
“เบลจังคุยไม่สนุกไงล่ะฮ้า”
คำตอบที่ลูซซูเรียตอบออกไปแทนเธอ ทำให้เธอหน้าซีดเล็กๆ ความคิดที่ว่าลูซซูเรียอาจจะเป็นพวกเธอมากกว่าที่คิด พังทลายลงทันทีที่เขาหาเรื่องชวนผิดใจให้เธอกับเบลเฟกอล
เธอเลยต้องยอมเป็นฝ่ายชวนเบลเฟกอลคุยบ้าง จะได้ไม่มีความเข้าใจผิดไปมากกว่านี้
“ไม่ใช่แบบนั้นหรอกค่ะ คุณเบลเฟอกอลเองก็คุยสนุก”
คำตอบที่ยังไม่เลือกว่าจะเข้าข้างฝ่ายไหนดูท่าจะทำให้เบลเฟกอลชอบใจอย่างมาก
“เห็นไหมลูซซูเรีย เจ้าหญิงบอกว่าเจ้าชายคุยสนุกแหละ ชิชิชิ”
บรรยากาศที่เริ่มทำให้เคียวโกะงุนงงไปหมด สรุปว่าสองคนนี้กำลังชิงดีชิงเด่นกันโดยเอาเธอเป็นตัวกลางหรือไงนะ แบบนั้นเธอควรรีบหนีออกจากสถานการณ์ตรงนั้นไหม
“รีบกินข้าวกันอย่างที่คุณสควอโล่บอกเถอะค่ะ เดี๋ยวอาหารจะเย็นหมด”
คนที่ถูกอ้างชื่อเงยหน้าขึ้นมามองผู้พูดทันที ผู้หญิงคนนี้กล้าเอาชื่อเขามาอ้างเพื่อให้สองคนนั้นเลิกทะเลาะกันเลยหรอ
ตอนแรกเขาก็ไม่ได้สนใจเท่าไร แต่ดูท่าผู้หญิงคนนี้จะคุมสถานการณ์เก่งกว่าที่เขาคิดแฮะ
“ใครให้เอาชื่อฉันไปอ้าง ห้ะ!”
เขาตะโกนออกมา ก่อนจะจ้องมองคู่หมั้นของวองโกเลรุ่นที่สิบด้วยสายตาแข็งกร้าว สาวน้อยผมสีน้ำผึ้งไม่ได้ดูตกใจกับคำพูดและสายตาของเขาเลยแม้แต่น้อย เธอยิ้มออกมาเล็กๆด้วยซ้ำ
“ไม่ได้ตั้งใจแบบนั้นนะคะ แค่คิดว่าใกล้ค่ำแล้วเดี๋ยวพ่อบ้านจะลำบากถ้าพวกเรากินเสร็จช้า”
ชื่อของพ่อบ้านที่ถูกกล่าวถึงทำให้สควอโล่ไม่ได้เถียงอะไรต่อ ชายหนุ่มผมเงินรับรู้ได้ทันทีว่าหญิงสาวคนนั้นใช้เวลาไม่ถึงชั่วโมงก็สามารถบอกได้แล้วว่าในปราสาทนี้ลำดับชั้นของอำนาจเป็นอย่างไร เธอสามารถเลือกชื่อของคนมาอ้างได้อย่างถูกจังหวะ จนสามารถควบคุมสถานการณ์ตรงหน้าได้
‘อาจจะไม่ได้น่ารำคาญขนาดนั้นก็ได้’
สควอโล่คิดในใจถึงภารกิจที่รุ่นที่เก้ามอบให้กับหน่วยวาเรีย ภารกิจปกป้องคู่หมั้นของวองโกเล่รุ่นที่สิบในช่วงเหตุการณ์ระส่ำระส่ายนี้
------------------------------------------
------------------------------------------
29 ก.ย. 2564
ไรท์รักวาเรียมากเลยค่ะ แก้งค์ตลกแห่งชาติ 5555 ไม่ได้เขียนตัวละครฝั่งวาเรียมานานเป็นยังไงติชมได้นะคะ
ความคิดเห็น