ตอนที่ 21 : Chapter 20: Don't go 120per
Chapter 20: Don't go
“อย่าไปนะ”
ผมจับมือจูนแน่นไม่ปล่อย จูนเองก็ก้มหน้าไม่พูดอะไร....อยากกลับไปงั้นหรอ ผมจับมือจูนแน่นกว่าเดิมแล้วลากแขนเขาพร้อมกับรถเข็นเดินหนี
“มึงจะทำแบบนี้ไม่ได้นะไอ้กาย มึงกำลังเห็นแก่ตัว!”
“ใครกันแน่ที่เห็นแก่ตัว” ผมสวนไอ้เอกกลับ มันรีบมาขว้างพวกผมไว้และจับมือจูนอีกข้างไว้แน่นจนจูนสะดุ้ง
“ปล่อยจูน!” ผมดึงจูนเข้ามาใกล้พร้อมกับพยายามปัดมือของไอ้เอกออกจากแขนจูน
“ไม่!!! ของกู กูมาทวงคืน!”
“พอ..พอได้แล้ว พี่เอกกลับไปก่อนเถอะครับ จูนอายคนอื่นเขา ไว้ถ้าจูนพร้อมคุยเมื่อไหร่..จูนจะโทรหาพี่เอกเอง” ไอ้เอกถอนหายใจก่อนลดมือจากแขนจูน ยอมเชื่อฟังจูนแต่โดยดี.....ที่พูดหมายความว่ายังไงหรอจูน...
“ก็ได้ ไว้จูนพร้อมเมื่อไหร่ก็บอกพี่.....พี่รักจูนนะ รักมากที่สุดเลย” ผมไม่สนใจหรอกว่าที่มันพูดมาจะเป็นความจริงหรือเปล่า ผมขอเป็นคนเห็นแก่ตัวที่จับแขนจูนเดินหนีมันออกมา ไม่อยากจะให้จูนไปกับมัน ไม่อยากจะเสียจูนไปให้ใคร
“กลับบ้านเถอะกาย...” ร่างบางที่ซุกหน้าเข้ากับแผ่นหลังของผมเอ่ยขึ้นมาเบาๆ จูนร้องไห้ออกมา ผมเลยพาเขาไปจ่ายเงินแล้วก็กลับบ้านทันที ยัง....ยังไม่พอ บรรยากาศแค่นี้มันก็แย่พอแล้ว ฝนก็ยังจะมาตกอีก.......
“อย่าร้องไห้เพราะมันได้มั้ย” ผมพูดออกมาในขณะที่ขับรถอยู่...ส่วนคนที่ขับมาตอนแรกนะหรอ นั่งร้องไห้ไม่ลืมหูลืมตาอะไรอยู่ข้างๆ ผมแถมถามอะไรก็ไม่ยอมตอบ
“.....” ไม่มีคำตอบอะไร มันพอจะทำให้รู้ว่าตอนนี้ผมควรจะรีบขับรถให้ถึงบ้านเร็วๆ สังขารตัวเองตอนนี้นะหรอ....หายเจ็บตั้งแต่เจอไอ้เอกเมื่อกี้แล้ว
ผมสูญเสียความเป็นตัวเองไป....ตั้งแต่เมื่อไหร่
ผมแค่อยากให้จูนปลอดภัย....เวลาที่เขาอยู่ข้างผม
“กะ กาย! อื้อ!”
ผมที่นั่งมองอีกคนนั่งร้องไห้เงียบๆ มานานก็อดไม่ไหว ถามอะไรไปก็ไม่ตอบ ชวนคุยก็ไม่พูดสุดท้ายก็เลยใช้ปากผมง้างปากจูนให้มาพูดกันดีๆ
“เลิกร้องไห้ได้แล้ว” จูนขยับตัวไปนั่งริมโซฟาเมื่อผมขยับมานั่งฝั่งเดียวกับเขาแล้วเปิดทีวีดูบอลเพื่อทำลายความเงียบ ถึงแม้ข้างนอกฝนจะตกหนักมากก็เถอะ...ส่วนซีโร่พอเกิดเรื่องแบบนี้แทนที่จะมาเล่นกับจูนกลับหนีไปนอนหลับแล้ว แมวบ้า
“ทำไม....ทำไมตอนเรามีปัญหา...ทำไมมันต้องถาโถมเข้ามาเยอะขนาดนี้หรอกาย....ทำไมตอนที่เรามีความสุข ทำไม...ไม่แบ่งไปตอนนั้นบ้าง....” พูดแล้วก็ชุกหน้ากับเข่าของตัวเอง จูนเป็นคนไม่กล้าตัดสินใจ....เป็นแบบนี้มาแต่ไหนแต่ไรแล้ว เขาก็แค่กลัว...ว่าถ้าเลือกใคร อีกคนหนึ่งจะเจ็บหรือเปล่าเพราะเขาหรือเปล่า
“ทำตามความรู้สึก ทำตามหัวใจมึงสิจูน” ผมทำท่าจะขยับเข้าไปหาอีกฝ่ายแต่เขากลับขยับหนี หึ....นั่นสินะ เป็นอะไรกับเขาหรือกาย ถึงมีสิทธิ์มาทำแบบนี้กับเขา เพื่อน แฟน...หรือแค่คนข้างบ้าน
“อย่า...”
เปร้ง!!!!!!
เราทั้งคู่ต่างสะดุ้งตกใจเมื่อจู่ๆ ฟ้าก็ร้องมาแถมไฟในบ้านก็ดับ...ให้ตายเถอะ บรรยากาศมันชวนให้น่าอึดอัดกว่าเดิมอีก จะมาดับอะไรวันนี้ห้ะ!
แต่ก็นะไม่รู้ว่าฟ้าเล่นตลก.....หรือเข้าข้างผมก็ไม่รู้
เมื่อร่างบางขยับตัวจากที่นั่งริมโซฟามาเป็นข้างๆ ผมแทน จูนกอดแขนผมไว้แน่นเหมือนกลัวผมจะหายไปอย่างนั้น
“กลัวหรอ”
“อืม....” ผมก้มลงไปเช็ดน้ำตาให้อีกฝ่ายถึงจะมองเห็นไม่ค่อยชัดก็เถอะ ผมยอมรับเลย...ว่าตอนนี้ผมหลงจูนมาก ผมอยากจะกอดเขา อยากจะจูบเขา อยากจะสัมผัสเขาทุกครั้งที่เราอยู่กันแค่สองคนแบบนี้
"จูน"
"หื้อ?"
"ขอจับมือได้มั้ย..." ร่างบางตกใจกับคำขอของผมไม่น้อย เขาผละออกจากแขนของผมแล้วก็ชุกหน้ากับเข่าของเขาเหมือนเดิม แต่ว่ากลับยื่นมือข้างหนึ่งมาให้ผม
".....อืม" ผมลอบยิ้มกับตัวเองในความมืดที่ไม่มีใครมองเห็น ผมค่อยๆ จับมือเขาไว้และก็จับแน่นกว่าเดิมเมื่อเขาสะดุ้งเสียงฟ้าร้อง
“กูอยู่ข้างมึงเสมอนะจูน ไม่ว่าจะเรื่องอะไร..”
“ข...ขอบใจ”
“ที่สำคัญกูรักมึงนะ...แล้วมึงเองก็...รักกูใช่มั้ย?”
------------------------------------------
เปร้ง!!!
ไม่ทันที่จูนจะได้ตอบผม ฟ้าก็ดันร้องมาเสียก่อน ร่างบางข้างๆ เกาะแขนผมแน่นไม่ยอมปล่อย ยังไม่พอ...เข้าซุกหน้าของตัวเองมาที่อกแกร่งของผม
เราสองคนนิ่งเงียบไม่มีใครปริปากพูดอะไรออกมา ผมก็แค่อยากจะรอคำตอบจากปากของเขา...ว่าตอนนี้คนตรงหน้ารู้สึกยังไงกับผมกันแน่
“ขอเวลา....ได้มั้ยกาย” จูนพูดเสียงเบาจนผมต้องก้มไปเงี่ยหูฟัง ร่างบางพูดแค่ประโยคเดิมซ้ำไปซ้ำมาสองสามรอบ
“ขอเวลา?”
“ขอให้จบเรื่องพี่เอกก่อนได้มั้ย...พอถึงตอนนั้นจะตอบทุกอย่าง” ไม่พูดเปล่าร่างบางเอื้อมมือมากอดผมไว้ ผมโอบเขาตอบและยกตัวอีกฝ่ายมานั่งบนตักของตัวเอง
รองั้นหรอ....
ผมรอจูน...มานานขนาดนี้แล้ว....ให้รออีกสิบปีผมก็รอได้
ขอแค่เขา....อย่าไปจากผม
ขอเเค่เขาไม่ทิ้งผมไป...ไม่หนีผมไปไหนก็พอแล้ว
“ให้กูรอมึงอีกสิบปี กูก็รอได้” ผมก้มลงจุมหน้าผากของอีกฝ่ายเบาๆ จูนพยักหน้าตอบ ผมรู้สึกว่าเสื้อของผมกำลังเปียกชุ่มไปด้วยน้ำตาของอีกฝ่าย
ผมอยากสัมผัสเขา.....
อยากจะกอดปลอบ..ให้หายเศร้า
ยิ่งมานั่งตักกันแบบนี้.....
“กาย” จูนร้องทันทีที่ผมเอนตัวให้เขานอนราบกับโซฟา ร่างบางใต้ร่างผมดันตัวผมให้ออกห่าง
“ถ้ามึงไม่ให้กูทำ...กูไม่ทำก็ได้นะ” เขานิ่งเงียบไม่ตอบอะไร ถึงแม้ไฟจะดับแต่ผมก็พอจะเห็นหน้าของเขา
คิ้วที่ขมวดเป็นปมของเขาทำให้ผมหมั่นเขี้ยวขบเข้าที่ซอกคอขาวเบาๆ จูนไม่ตอบแต่พยายามผลักผมออก
ถ้าไม่พูดปฏิเสธ.....ผมก็จะถือว่าเขาสมยอม J
อดมาหลายเดือนแล้ว....ขอกินหน่อยก็แล้วกัน
“กาย! ไม่เอา” ผมจับมือเรียวไว้เหนือศีรษะเขาแล้วก้มประกบริมฝีปากลงกับร่างบาง จูนได้แต่ดิ้นหนีผม
“เดี๋ยวจะตกนะจูน” ผมพูดไม่สบอารมณ์เมื่อคนต่างหน้าดิ้นหนี คือถ้าตกโซฟาไปจะทำไงครับตอนนี้ไฟมันดับแล้วคนขี้กลัวอย่างจูนอีก
“กูกลัว...ไม่เอา” ปากบอกว่าไม่แต่แขนนี้โอบคอผมไว้แน่น ผมให้แต่ก้มลงจูบอีกฝ่ายกับท่าทางไร้เดียงสานี้
“ไม่คิดจะใจอ่อนให้กูเลยหรอ”
“เปล่า...แต่” ไม่ทันให้เขาพูดจบผมก็ทาบทับริมฝีปากลงไปอีกครั้งอย่างโหยหา ผมก็แค่คนขี้ขลาดที่ไม่อยากรับฟังอะไร
ผมกลัวว่าเขาจะปฏิเสธผม กลัวว่าเขาจะทิ้งผมไป
“ขอได้มั้ยจูน ขอร้องล่ะ”
“......”
“แค่นิดเดียว ขอกินนิดเดียว....”
“มะ..ไม่”
“นะครับจูน กายขอ...”
“ไม่เอา” ผมไม่สนกับคำตอบของคนตรงหน้าพร้อมกับยื่นหน้าเข้าไปใกล้เขา แต่ก็โดนขาของจูนมาขวางไว้ก่อนจะได้ทาบริมฝีปาก
“ทำไมล่ะจูน...ทั้งๆ ที่เรา...รักกันไม่ใช่หรอ”
“มัน...ไม่ใช่ตอนนี้”
“นิดเดียวก็ไม่ได้หรอ”
“ไม่....ขอร้องเถอะนะ” ผมได้แต่ถอนหายใจและลุกออกจากตัวร่างบาง พร้อมขยี้หัวตัวเองแรงๆ พอสงบสติ จูนขยับตัวไปชัดกับพนักโซฟาอีกครั้ง ผมเองก็ไม่รู้จะพูดอะไรออกมาเหมือนกันเลยได้แต่นั่งเงียบกันทั้งสองคน
นานพอ...
ที่จะรู้ว่าอีกคนหลับไป
เกือบ 30 นาทีได้ที่เราต่างนิ่งเงียบให้กัน ผมที่หยิบโทรศัพท์มาเปิดเล่นเกม ส่วนจูนที่นั่งเงียบๆ ของเขาไปๆ มาๆ ก็หลับไป
ผมเหลือบไปเห็นแสงจากจอโทรศัพท์ของเขาที่วางไว้ข้างตัว ก็ไม่ได้อยากจะยุ่งหรอกนะ...แค่อยากรู้เฉยๆ ผมเสียมารยาทหยิบมือถือของเขาขึ้นมาเปิดดู เป็นจาที่ส่งข้อความมาบอกว่าจะไม่กลับบ้านแต่จะไปหาพ่อกับแม่ที่ต่างจังหวัด ยังไม่พอ...ยังจะมาชวนจูนไปอีก
‘ตามมาก็ได้นะจูน อยากเที่ยวอยู่ไม่ใช่หรอ? ทะเลน่ะ’
ทะเลงั้นหรอ...หึ
คงต้องทำแต้มหน่อยแล้วล่ะกาย
“อื้อ”
“ตื่นแล้วหรอ” ผมที่เพิ่งจะลืมตาตื่นขึ้นมาก็ต้องสะดุ้งตกใจเมื่อพบว่าตัวเองกำลังอยู่บนรถ....แถมคนข้างๆ ก็ยังคงขับต่อไปข้างหน้า
‘ประจวบคีรีขันธ์ 50 กิโลเมตร’
ป้ายข้างทางทำให้ผมเบิกตากว้าง หันมองร่างสูงที่ไม่อธิบายอะไรให้ผม กายทำเพียงแค่ส่งถุงเซเว่นที่มีนมกับขนมปังอยู่เต็ม
“หมายความว่ายังไงกาย”
“อ่า...ลองเปิดข้อความในมือถือดูสิ” ผมขมวดคิ้วสงสัย จะบ้าตาย...จำได้แค่ว่าเมื่อคืนไฟดับ...แล้วผมกับกายก็เกือบจะมีอะไร ผมหลับ...ตื่นขึ้นมาก็อยู่บนรถนี่แหละ แถมยังเป็นเสื้อผ้าชุดใหม่ด้วย
‘ไม่กลับบ้านนะพี่ ไปหาพ่อกับแม่ที่ประจวบ ตามมาก็ได้นะจูน อยากเที่ยวอยู่ไม่ใช่หรอ? ทะเลน่ะ’
"มึงเป็นบ้าอะไรห้ะ! คิดจะมาก็มางั้นหรอ!!!" ถึงจะเคยบ่นๆ กับจูนว่าอยากไปเที่ยวทะเล แต่ผมก็ไม่คิดว่า..กายจะพาผมมาตามคำชวนของจา ใจกล้าบ้าบิ่นไปแล้วนะ
"ก็แค่อยากพาเมียมาเที่ยวทะเล" ผมแทบจะปรี๊ดแดกกับคำพูดของอีกฝ่าย พอขาหายเจ็บ...ก็กลับเป็นแบบเดิมอีกแล้ว
"จะพูดอะไร ทำอะไรเคยถามกันสักคำมั้ย!?!"
"เปล่า กูยัดเยียดให้ไง"
“กาย!”
“ก็เห็นเครียดเลยพามาเที่ยวบ้าง มหาลัยก็คงเรื่องจัดกีฬา เอาน่า” กายพูดไม่สบอารมณ์นักที่เห็นผมโวยวายใส่ ผมก็ไม่ได้โกรธอะไรมากมายหรอกนะครับ...แต่ผมไม่ชอบที่กายชอบทำอะไรตามใจตัวเอง...ไม่เคยคิดถึงจิตใจคนอื่นบ้างเลย
“อย่าโกรธกูเลยนะ”
“ไม่ได้โกรธ”
“กูทำเพื่อมึงนะจูน” ผมไม่รู้ความคิดของกายเลยจริงๆ ...ในบางครั้งเขาก็เป็นคนที่ดูโหดร้าย น่ากลัว เข้ากับคนอื่นยาก แต่ในบางมุม...เขาก็น่ารักมากสำหรับผม
“ขอบคุณนะ
“ลมอะไรหอบให้มาด้วยกันเนี่ย” หลังจากที่เราถึงหัวหินก็เกือบสิบโมง ผมก็โทรหาจาและตามไปหา รีสอร์ทที่พ่อแม่และจาพักตอนนี้หนาแน่นไปด้วยทัวร์ของชาวต่างชาติ แม่ยิ้มกว้างทันทีที่ผมลงจากรถมาพร้อมกับร่างหนาข้างๆ
“พอดีไม่มีเรียนกันน่ะครับ เลยอาสาขับรถพาจูนมา” กาย...เข้ากับพ่อแม่ผมได้ดี พ่อกับแม่มองกายเป็นเพื่อนคนหนึ่งของผม...
“อธิบายมาให้หมดเลยนะ” ระหว่างที่พ่อกับแม่คุยกับกายอยู่ จูนก็ลากตัวผมมาคุยให้ไกลจากพวกเขา แถมสายตาของน้องสาวผมที่ไล่มองตัวผมตั้งแต่หัวจรดปลายเท้า
“อย่าบอกนะว่าพี่แต่งตัวเอง ไม่ใช่หรอก” ผมหน้าร้อนขึ้นทันทีเมื่อจูนพูดออกมา จะว่าไปก็ลืมไปเสียเลยว่ากายเป็นคนเปลี่ยนเสื้อผ้าให้แถมยังจัดกระเป๋ามาให้อีก
“ทำไมหรอ”
“มันน่ารักสุดๆ เลย”
“งะ งั้นหรอ”
“ใครแต่งให้ ฉันไม่เชื่อหรอกนะว่าพี่จะแต่งตัวแบบนี้เป็น” เสื้อผ้าที่ผมใส่มามันก็ไม่ได้หรูหราอะไรมากก็แค่เสื้อยืดลายสีเทากับกางเกงยีนส์ขาสั้นเลยเข่าแถมยังมีหมวกสานที่มันไม่ใช่ของผมติดมาด้วย
“ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่เลยนะ เล่ามาเลยนะ ไหนบอกจะไม่ยุ่งกันไงแล้วทำไมถึงมาด้วยกันล่ะ?”
“ก็เมื่อคืนน่ะ....พี่ก็นอนหลับไป รู้สึกตัวอีกทีก็มาอยู่ที่นี่แหละ”
“พี่จะหมายความว่าพี่กายแต่งตัวให้พี่ จัดกระเป๋าให้พี่มา?”
“อืม”
“ให้ตายเถอะ คิดบ้าอะไรของมัน แค่ส่งข้อความไปอวดไม่คิดว่าจะเห็นแล้วตามมาจริงๆ เฮ้อ” จาถอนหายใจยาวพร้อมกุมขมับ ผมหัวเราะกับอาการของเธอ
“หมายความว่าไง ไม่อยากให้พี่มาเที่ยวด้วยว่างั้น?”
“ก็เปล่า ก็ไม่ได้อะไรหรอก แต่พวกเราคิดว่าพี่มาคนเดียวเลยเปิดห้องให้แค่ห้องเดียวแล้วเดี๋ยวพรุ่งนี้ทัวร์ก็จะมาลงดังนั้นห้องก็จะเต็ม แล้วถามหน่อยเถอะ...พี่กายจะนอนที่ไหน ถ้าไม่ใช่ห้องเดียวกับพี่” ผมนิ่งเงียบไม่รู้จะพูดอะไร ความจริงงถึงห้องมันว่าง....ก็ไม่ต้องไปเปิดเพิ่มก็ได้นี่ ผมกับกายนอนด้วยกันได้สบายอยู่แล้ว
“ก็ไม่เห็นเป็นไรเลยนี่”
“โอ้ยย พี่จูน ถ้าเกิดตัวเองโดนเขางาบขึ้นมาจะทำยังไง”
“หื้ม?”
“บรรยากาศมันให้ขนาดนี้....พี่กายก็ไม่ได้จะขี้เหร่ซะหน่อย เชื่อเถอะ...พี่เสร็จเขาแน่ๆ” ผมอ้าปากเหวอเมื่อจาพูดแล้วยิ้มมุมปากเหมือนกับแกล้งผม
“ก็...ก็พี่ไปนอนกับจาก็ได้นี่”
“ฉันน่ะโอเคไม่มีปัญหาหรอกนะ..แต่นู้น เขาจะยอมเปล่าล่ะ?” จาพูดพร้อมหันไปทางกายที่คุยกับแม่ผมอยู่
กายคงไม่ใจร้ายกับผมขนาดนั้นหรอกมั้ง?
เริ่มหวานทีละนิดๆ หวังว่าจะชอบกันนะ
ยังไม่ได้ตรวจคำผิดนะคะ
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

เดี๋ยวโดนตัดหน้านะ
คิดถึง กายจูนมาก ไรท์มาต่อเร็วๆนะคะ
เค้ายังหาไม่เจอเลอออ นี่พูดจิงง -*- 555555555555 55
หน่วงงจิงจัง จูนตัดสินใจไปเลยย เลิกกับอิพี่เอกเหอะะะ
กายรออยู่น๊าาา จะได้หวานกันจิงๆๆซะทีี #งานชงต้องมา!!