ตอนที่ 19 : Chapter 18: Choice 110per
Chapter 18: Choice
“อื้อ”
ผมที่กำลังเก็บกวาดห้องเมื่อได้ยินเสียงของร่างสูงก็รีบไปดูเขาทันที กายพยุงตัวเองให้ลุกนั่งหน้าตาที่บอกบุญไม่รับเท่าไหร่
“เจ็บไหม”
ผมถามเสียงค่อยและเอื้อมมือไปจับดูแผลที่หัวของเขา แต่ร่างหนากลับหันตัวหนีผม เขาเอื้อมมือไปหยิบไม้ค้ำที่ผมวางไว้ข้างเตียงมาพาตังเองเดินไปเข้าห้องน้ำ
โกรธ? งั้นหรอ?
“กาย” ผมเดินหากายที่ห้องน้ำ ร่างสูงไม่ได้หันมามองผม เขาล้างหน้าแปรงฟันแล้วเดินออกจากห้องน้ำไม่สนใจผม
ผมไม่ได้เป็นคนผิด...ไม่ใช่หรอ?
ร่างหนาพยายามเดินไปนั่งที่เตียงอย่างทุลักทุเล พร้อมกับหยิบรีโมตทีวีขึ้นมาเปิดดูมันทำอย่างกับว่าผมไม่ได้อยู่ในห้องนี้
“หิวหรือเปล่า เดี๋ยวกูไปทำอะไรให้กิน”
“............”
ผมรอคำตอบจากมันแต่ก็คิดว่ายังไงซะ กายคงจะไม่ตอบผมแน่ๆ
“ถ้ามึงไม่อยากให้กูอยู่ กูกลับก่อนนะ” ผมบอกพร้อมกับหยิบเสื้อผ้าของตัวเองเตรียมจะเดินออกจากห้องไป
“กูอยากกินกาแฟ”
ไม่รู้ทำไมผมถึงต้องแอบอมยิ้มคนเดียวด้วยก็ไม่รู้ เพียงแค่มันตอบกลับมาเท่านั้นเอง อย่าลืมไปสิจูนว่า...เราสองคนรักกันไม่ได้หรอก
หลังจากที่ผมชงกาแฟมาให้มัน กายก็ไมได้พูดอะไรกับผม ตอนนี้ก็เกือบจะเก้าโมงไม่รู้ว่ามันมีเรียนหรือเปล่า
“มีเรียนไหม”
“มี”
“กี่โมง?”
“10 โมง” ผมเบิกตากว้างเมื่อกายบอกเวลามา ให้ตายเถอะตอนนี้มันควรจะรีบอาบน้ำแต่งตัวไปมหาลัยได้แล้ว
“งั้นเดี๋ยวกูไปเตรียมชุดให้นะ”
“ไม่ต้อง”
“หือ?” ผมขมวดคิ้วสงสัย กายถอนหายใจเฮือกใหญ่และหันมองนอกหน้าต่าง เมฆฝนตั้งเค้าดำทมิฬไปทั่วฟ้า กายเกลียดฝน....มันคงไม่ยอมไปเรียนแน่ๆ
“กูไม่อยากไป”
“แต่ว่า...”
“อาจารย์คนนี้ไม่เคยเช็คชื่ออยู่แล้ว ใครจะไปไม่ไปเขาไม่ได้สนใจอะไรหรอก” กายพูดพร้อมกับหยิบโทรศัพท์มากดโทรออก
“วันนี้กูไม่ไปนะ....อืม...ถูกแก้วบาดเดินยังไม่ได้...เออ!” ผมคิดว่าเขาคงจะโทรหาเพื่อนเรื่องที่จะหยุดเรียนวันนี้ ผมไม่ได้สนใจอะไร หน้าที่ของผมก็แค่อยู่รับผิดชอบความผิดของตัวเองจนกว่ากายจะหายเป็นปกติ
“มันมาทำไม” กายเหลือบมองผมแล้วก็หันไปคุยโทรศัพท์ต่อ มีเรื่องอะไรเกี่ยวกับผมงั้นหรอ?
“ของกูไม่ใช่ของมัน ถ้ามันจะมีเรื่องก็บอกมันไปเลยว่ากูพร้อม...เออ!....รู้แล้ว แค่นี้นะ” ผมรู้สึกสังหรณ์ใจยังไงก็ไม่รู้ มันเหมือนกับว่าบทสนทนานี้มีส่วนเกี่ยวข้องกับผมและนำพาเอาสิ่งเลวร้ายมา
“ไอ้เอกไปหากูที่คณะ” ผมเบิกตากว้างรีบหันไปมองกาย ร่างสูงสีหน้านิ่งเฉยราวกับไม่เกรงกลัวอะไรที่จะเกิดขึ้น
คนไม่เจียมตัว
“แล้ว? เขาทำไม?”
“มันก็คงจะถามหากู มันคงโกรธจนอยากจะฆ่ากูมั้ง” กายยิ้มที่มุมปากเหมือนกับเรื่องนี้เป็นเรื่องสนุก
“มึงจะบ้าหรอ!”
“อะไรมึง”
“ไม่เจียมตัวเองเลยนะ ถ้าพี่เอกเขาจะฆ่ามึงจริงๆ ยังไงซะตอนนี้มึงก็สู้เขาไม่ได้......พี่เอกต้องมาหามึงที่บ้านแน่ๆ ”
“กูไม่ได้อ่อนขนาดนั้นนะ”
“กาย แต่สภาพมึงมัน...” กายจ้องผมตาเขม็ง ผมเงียบไม่พูดอะไรต่อได้แต่ถอนหายใจกับพฤติกรรมของร่างสูง หวังว่าพี่เอกจะไม่มาที่นี่นะ ขอแค่นั้น....ก็พอแล้ว
“...............”
“...............”
เราทั้งสองนิ่งเงียบอยู่นาน ไม่มีใครพูดอะไรขึ้นมา ถ้าย้อนเวลากลับไปได้....อยากจะแก้ไขเรื่องของเราให้มันดีกว่านี้
ผมเอง...ที่โง่
“ขอโทษนะ เรื่องเมื่อคืน” จูนสะดุ้งเล็กน้อยเมือผมพูดออกไป ร่างบางที่กำลังนั่งจัดห้องที่รกและสกปรกของผมให้สะอาดเรียบร้อยเหมือนแต่ก่อน
“เอ่อ....ไม่เป็นไรหรอก” ร่างบางยิ้มก่อนจะรีบถือถุงขยะเดินออกไปข้างนอก ความสัมพันธ์ในสถานะอะไรก็ไม่รู้ของเราสองคน
ที่ต่างฝ่ายต่างไม่ยอมรับ
เขาอยากยุติความสัมพันธ์ของเราให้เป็นแค่เพื่อน คนรู้จัก
แต่ผมกลับอยากได้มากกว่านั้น
เมื่อครู่ที่ผมโทรไปหาเพื่อน มันก็โวยวายใส่ผมใหญ่ว่ามีไอ้เหี้ยที่ไหนไม่รู้มาอาละวาดตามหาผมไปทั่ว บอกว่าผมไปแย่งแฟนมัน
หึ นิสัยแบบนี้ไม่ค่อยเปลี่ยน พาลใส่คนอื่นไปทั่วแบบนี้จะมีใครไปได้อีกนอกจาก ไอ้เอก
เสียงฟ้าร้องมันทำให้ผมเริ่มรู้สึกแย่กว่าเดิม ผมเกลียดฝน... ผมพยุงตัวเองลุกขึ้นไปหยิบผ้าขนหนูเพื่อจะไปอาบน้ำสักหน่อย
แต่เสียงของผู้มาเยือนมันก็ทำให้ผมหยุดชะงักไปเสียก่อน ผมใช้ไม้ค้ำพาตัวเองไปที่ระเบียงก็พบกับรถของคนที่ผมเพิ่งจะกล่าวถึง
จูนพูดถูก ไอ้เอกมันมาหาผมจริงๆ
“กาย” จูนรีบเดินเข้ามาหาผม ร่างบางลุกลี้ลุกลนเดินไปเดินมา
“โอ้ย จะทำยังไงดี”
“มึงอยู่บนนี้แหละไม่ต้องลงไปหรอก”
“มึงจะบ้าหรอกาย ขามึง!” จูนขยี้หัวตัวเองแรงๆ แล้วทรุดนั่งลงที่โซฟา ร่างบางดูจะเป็นกังวลมาก แต่ยังไงก็อดดีใจไม่ได้ที่เขา...เป็นห่วง
“กูไม่ตายง่ายๆ หรอก ไอ้เอกมันไม่ได้โง่ที่จะใช้แต่กำลังอย่างเดียวหรอก”
“แต่ว่า...”
“กูถามมึงอย่างหนึ่งได้ไหม” ผมสูดลมหายใจพร้อมกับตัดสินใจถามร่างตรงหน้าออกไปตรงๆ จูนพยักหน้าตอบทันที
“มึงเป็นห่วงใครกันแน่? มัน....หรือว่ากู”
จูนนิ่งเงียบไม่ตอบอะไรผม ร่างบางเบือนหน้าหนีแล้วยิ้มแห้งๆ ออกมาให้แค่นี้ผมก็พอจะรู้คำตอบแล้ว
“กูเป็นห่วงมึงนะ...”
ผมเผลอดีใจกับคำตอบนี้ทั้งๆ ที่รู้ว่า
“ก็มึงเป็นเพื่อนกู” จูนนั่งนิ่งส่วนตัวผมก็ได้แต่มองร่างบางที่ใจแข็งเสียเหลือเกิน.....ผมลอบถอนหายใจและพยุงตัวเองลุกเดิน
“จะไปไหน....มึงอยู่บนนี้แหละนะ เดี๋ยวกูไปคุยกับพี่เอกเอง” ไม่รอฟังคำตอบของผม จูนก็รีบวิ่งลงไปหามันทันที
หมาหัวเน่า.....คำนี้น่าจะเหมาะสำหรับผม
เชื่อผมสิ ว่าถ้าจูนอยู่กับไอ้เอกสองคน จูนต้องใจอ่อนยอมไปกับมันแน่ๆ ส่วนผมก็คงต้องหงอยอีกตามเคย
ผมพยุงตัวเองให้ก้าวเดินลงบันไดตามร่างบางไปที่หน้าบ้านตัวเองอย่างทุลักทุเล จูนที่กำลังยืนคุยกับไอ้เอกอยู่หันมาเห็นผมก็ตกใจร้องออกมา
“กาย....” จูนจะมาหาผมแต่กลับถูกร่างหนาจับแขนไว้ ไอ้เอกจ้องผมตาเขม็งก่อนจะไล่สายตาดูผมตั้งแต่หัวจรดเท้า
“สภาพมึงขนาดนี้ ยังจะมีหน้ามาท้ากูอีกหรอ สมเพช!” ผมถอนหายใจอีกครั้งแต่ก็ไม่ได้ตอบอะไรกลับไปนอกจากรอยยิ้มยียวนกวนใจมัน
“พี่เอก ปล่อยจูน! กายเจ็บอยู่พี่ก็เห็น” ร่างบางตรงหน้าพยายามสะบัดแขนออกจากมือของอีกฝ่ายแต่เหมือนจะไม่ได้ผล
“มันสำออย จูนไม่เห็นหรอ? แต่ก่อนต่อยกับพี่ปางตายมันยังไม่เป็นอะไรเลย!”
ผมกับมันเลวพอๆ กัน
มันก็ต้องรู้ไส้รู้พุงกันอยู่แล้ว
ผมยิ้มกวนไปให้มันที่กำลังโมโหอยู่กับร่างบางที่ดิ้นหนีมัน สายตาของจูนที่มองผมตอนนี้มันทำให้ผม....คิดไปไกลแล้ว
“พอได้แล้วพี่เอก พี่กลับไปก่อนเถอะนะ”
“จูนปกป้องมัน ทั้งๆ ที่พี่เป็นแฟนจูน”
“เราเลิกกันแล้ว!” จูนพูดเสียงดังอย่างเหลืออด เขาไม่สนใจว่าพ่อแม่เขาที่อยู่ในบ้านจะออกมาได้ยินลูกของตัวเองทะเลาะกับแฟนที่แม่ของจูนรักนักรักหนา
“พี่ไม่เลิก”
“แต่จูนจะเลิก เพราะพี่เป็นแบบนี้ไงจูนถึงต้องเลิกกับพี่”
“หมายความว่าไง” ไอ้เอกที่โมโหอยู่แล้วก็โมโหยิ่งกว่าเดิม แต่คนที่มันจะเอาเรื่องตอนนี้ไม่ใช่ผมเหมือนตอนแรกแต่เป็นร่างบางตรงหน้าผมเสียมากกว่า
ผมค่อยๆ ขยับพาตัวเองเข้าไปใกล้สองคนนั้นเพื่อหวังว่าจะช่วยจูนออกมาจากพายุอารมณ์ของไอ้เอกที่ไม่มีทีท่าจะสงบลง
“กาย ระวัง!” ผมไม่ได้อ่อนอย่างที่จูนคิดหรอกนะ เพียงแค่ต้องใช้ไม้ค้ำพยุงตัวเองมันไม่ได้ทำให้ผมจะเลวน้อยลงหรอก ผมยกไม้ค้ำข้างหนึ่งดันไอ้เอกอย่างแรงจนมันเกือบเซล้ม จูนเลยรีบสะบัดแขนออกแล้ววิ่งมาอยู่ข้างผม
“มึง” มันดูจะหัวเสียมาก ร่างหนาพอๆ ผมตัวสั่นเทาไปด้วยความโกรธ จูนที่อยู่ข้างผมเขาคงจะกลัวไอ้เอกมากๆ
“อย่ามาเสือกได้มั้ยไอ้กาย มึงยังเอาตัวเองไม่รอดเลยนะ” มันยิ้มแสยะให้ผมแล้วมองดูไม้ค้ำที่ผมใช้ดันมันเมื่อครู่ก่อนจะเดินมาดึงมันไปจากผมข้างหนึ่ง
“กู....เรียนหมอ มึงก็น่าจะรู้.....” มันยิ้มเลวพร้อมกับก้มไล่มองตามร่างกายของผมที่มีรอยแผลต่างๆ อยู่
“ว่าตีตรงไหน ต่อยตรงไหนมันเจ็บที่สุด”
“มึงจะทำไรกูก็ได้ แต่อย่ายุ่งกับจูน”
“มึงไม่ได้เป็นไรกับจูน อย่าสอด”
“หึ แน่ใจหรอว่ากูกับจูนไม่ได้เป็นอะไรกัน” แขนของผมถูกจูนจับไว้แน่น เขาส่ายหน้าไม่ให้ผมพูดออกไป
“มึงจะพูดอะไรก็พูดมา” ไอ้เอกเร่งให้ผมพูด แต่มือเรียวที่จับแขนผมเอาไว้กลับสั่นเทาผมมองหน้าอย่างไม่เข้าใจ
“มันอันตรายกับมึงนะ” พอผมได้ยินเขาพูดก็ยิ้มแก้มปริ ถ้าเขามีเหตุผลแบบนี้อีกล้านข้อต่อให้ใครมาทำอะไรผมก็ไม่เป็นอะไรหรอก
“ไม่เป็นไรหรอก” จูนถอนหายใจเฮือกใหญ่ เขาคงจะเตรียมใจมาแล้วเหมือนกัน....ยังไงซะเรื่องนี้ก็ปิดไม่มิด ยังไงมันก็ต้องมีคนรู้......
“ว่าไง”
“จูนมีอะไรกับกายแล้ว” ไม่ใช่ผมที่เป็นคนพูดแต่เป็นร่างบางข้างๆ ผมที่โพล่งออกไป ทั้งผมทั้งไอ้เอกก็ต่างตกใจไม่แพ้กัน
ผมไม่คิดว่าจูนจะเป็นฝ่ายพูดมันออกไป......
“จูน ว่าไงนะ!!!” ไอ้เอกที่ดูจะโมโหกับพวกผมตะคอกถามจูน ผมดึงแขนจูนให้เขาไปอยู่ข้างหลังผมไว้
“ตามที่ได้ยินนั่นแหละ มึงกลับไปได้แล้ว”
“มึง!!! จูนบอกพี่มาสิว่ามันไม่จริง!!!”
“มันเป็นความจริงครับ....” จูนพูดเสียงค่อย เขาจับเสื้อผมไว้แน่น
“มันบังคับจูนใช่มั้ย จูนไม่ได้เต็มใจใช่มั้ย บอกพี่มา!!!” ไอ้เอกย้ำเท้าเดินเข้ามาหาจูนแต่ผมก็บังเอาไว้ไม่ให้มันเเตะต้องจูน
“พี่เอกกลับไปเถอะนะ”
“อ่อ เหตุผลนี้สินะที่ทำให้จูนไม่ยอมพี่ตลอดเวลาที่ผ่านมา ก็เพราะแบบนี้ใช่มั้ย!!!”
“มึงกลับไปได้แล้วไอ้เอก อย่ามายุ่งกับพวกกูอีก!”
“มึงคิดว่ามึงเป็นใครมาสั่งกู! ยังไงจูนก็เป็นของกู!!!....” มันหยุดพูดก่อนจะแสยะยิ้มให้พวกผมแล้วหัวเราะออกมา
“กูไม่ถือหรอกนะ ไอ้เรื่องแบบนี้”
“พี่เอกพอเถอะนะครับ ยังไงพี่เอกก็มีฝุ่นอยู่แล้ว พี่เอกจะมายุ่งกับจูนอีกทำไม” จูนโพล่งออกไป ไอ้เอกตาขวางทันทีที่ได้ยินชื่อเด็กฝุ่น
“อย่าพูดถึงเด็กคนนี้ได้มั้ย เรื่องของพี่กับฝุ่นมันจบไปแล้ว จูน..พี่รักจูนนะ รักจูนที่สุด รักคนเดียว” ไอ้เอกสาวเท้าเดินเข้ามาหาแต่จูนกลับหนีมัน ไอ้เอกชะงักก่อนจะเดินกลับไปที่เดิมอย่างหัวเสีย
“ยังไงพี่ก็ไม่มีวันเลิกกับจูนแน่ ถึงหนีพี่ก็จะไม่ปล่อย” พูดจบมันก็หันมาพูดกับผมแต่น้ำเสียงและสีหน้าท่าทางแตกต่างออกไป
“มึงต่างหากที่สมควรออกไปจากชีวิตจูนไม่ใช่กู!!!!” ผมกำหมัดตัวเองแน่น ยอมรับว่าตอนนี้โกรธมาก....ผมนะหรอจะเป็นฝ่ายที่ต้องออกไปจากชีวิตจูน ไม่มีทางหรอก
“กูไม่ทำ!!!”
“มึงต้องทำ!!!”
“จูนเป็นเมียกู มึงต่างหากที่เป็นคนนอกไอ้เอก!!!” ผมสุดจะทนกับความดื้อรั้นของมันที่ไม่ยอมรับความเป็นจริง ไม่ทันที่พูดจบประโยคดีหมัดหนักๆ ของไอ้เอกก็โดนเข้าที่หน้าของผมเต็มๆ โชคดีที่ผมจับไม้ค้ำไว้แน่นไม่อย่างนั้นคงได้ล้มลงไปแน่
“พอเลยนะพี่เอก ออกไปเลย!!!” จูนผลักไอ้เอกก่อนจะรีบมาดูผม ไอ้เอกที่เห็นจูนเอาอกเอาใจผมก็ยิ่งโกรธ
“จูน!!! พี่เป็นแฟนจูนนะ”
“กายเจ็บอยู่!!! แล้วพี่มาต่อยกายทำไม พี่ต่างหากที่เป็นคนผิด กลับไปก่อนที่จูนจะเกลียดพี่ไปมากกว่านี้!!!” จูนไม่สนใจว่าร่างสูงจะตอบอะไร เขาพาผมเดินเข้าในบ้านโดยทิ้งให้ร่างสูงหนาที่อยู่นอกบ้านทึ้งหัวตัวเองจนกระทั้งมันหยิบโทรศัพท์ขึ้นมารถรับแล้วก็รีบขับรถออกไปทันที ..........เกิดเรื่องอะไรกับมัน? หรือว่าจะเป็นฝุ่น?
ช่างเถอะ ขอเเค่มันไม่มายุ่งกับจูนก็พอแล้ว
“กายเป็นหรือเปล่า” จูนถามเสียงค่อย
“เปล่า ไม่เป็นไรหรอก มึงไม่เป็นไรใช่มั้ย?”
“มึงจะบ้ารึไง มึงควรจะดูสภาพตัวเองมากกว่านะก่อนที่จะมาถามกู” จูนพูดอย่างอารมณ์เสีย
“มึงโกหกไม่เก่งเลยนะจูน” ผมบ่นพึมพำในลำคอ
“หื้ม? ว่าไงนะ?”
“เปล่า ไม่มีอะไรหรอก”
แน่ใจหรอ.....ว่าที่ทำอยู่ตอนนี้มันเป็นเเค่สถานะเพื่อน
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

ปล.เค้ายังรอเรื่องHoly
ฮาาาาาาาา ชอบมาก แต่จูนก็นะปากไม่ตรงกับใจเลย
สงสารจูน แล้วก็แอบสงสารกายนิดหน่อย
ในที่สุดดดก็ได้อ่านสักที...จูนปากแข้งไปนะะ
ต่อไปจะหวานกันแล้ววววช่ะ!?? งานฟินต้องมาสินะะ (?) รึเปล่า
555555555555 55
ชอบคำนี้จุงงงง "จูนเป็นเมียกู" เต็มๆคำ >;<
ได้โปรดกลับไปหาน้องฝุ่นเหมือนเดิม น้องน่าสงสารมากนะ
รอต่อนะคะไรท์ มาต่อเร็วๆนะ
จูนคิดดีๆก่อนตอบนะ อย่าอ้ำอึ้งล่ะ
รอต่อค่ะ^^ ไรท์สู้ๆ
จูนคิดดีๆก่อนตอบนะ อย่าอ้ำอึ้งล่ะ
รอต่อค่ะ^^ ไรท์สู้ๆ