ตอนที่ 12 : Chapter 11 : Missing you 100per
Chapter 11 : Missing you
“ทำไมพี่ไม่ตอบจูนล่ะ”
“ก็แค่เด็กคนหนึ่งที่ชอบมาขอเงินน่าจูน” พี่เอกพูดด้วยเสียงหงุดหงิด ร่างสูงขยี้หัวตัวเองแรงๆ คล้ายกับเรียกสติ
“งั้นหรอ คิดว่าจูนจะเชื่อหรอ”
“จูน!”
“เป็นอะไรกันจูนไม่ว่าหรอกนะ แต่พี่ไปทำร้ายเขาทำไมพี่ไม่สงสารเขาหรอ” ผมสวนกลับไปอย่างเหลืออด
“สงสารมันทำไม!”
“พี่มันบ้า!!!! วันนี้เราคงคุยกันไม่รู้เรื่องแล้วล่ะ” พูดจบผมก็รีบหันหลังเดินออกจากห้องไปทันทีไม่สนใจเสียงเรียกจากร่างหนาที่อยู่ในห้อง
‘เพราะ....ถ้าคุณมายุ่งกับผม ผมก็จะโดนแบบนี้เอง ขอร้องล่ะครับอย่ามายุ่งกับผม’
คำพูดนี้ยังคิดอยู่ในหัวผมจนกระทั้งถึงบ้าน เด็กที่ชื่อฝุ่นน่าสงสาร ผมรู้แค่นี้ เขาอายุน้อยกว่าผม ตัวเล็กบางกว่าผม โดนผู้ชายร่างสูงหนาแรงเยอะอย่างพี่เอกตบตีขนาดนั้น เป็นผมก็คงระบมไปหลายวัน แต่เด็กคนนี้ไม่...ทำเหมือนเป็นเรื่องเคยชิน
“กลับดึกจังนะ” ผมสะดุ้งเมื่อมีคนมาพูดด้วยในตอนดึกแบบนี้ ผมที่กำลังเปิดประตู้รั้วพร้อมกับไอ้กายที่กำลังเปิดรั้วบ้านของมัน กลิ่นบุหรี่ตามตัวมันทำเอาผมอยากจะอาเจียนออกมา
กายสูบบุหรี่จัด....กว่าเดิม
“ไปหาไอ้เอกมาสินะ”
“อืม”
“เมื่อเที่ยงกูเห็นมัน....กับ....” ไอ้กายอ้ำอึ้งเหมือนไม่กล้าบอกอะไรผม ผมรีบหันหน้าไปมองมันทันทีเพราะคิดว่าเป็นเรื่องของพี่เอกกับเด็กฝุ่น
“ฝุ่นใช่ไหม?” ผมถามไปอย่างไม่คิด ไอ้กายดูตกใจไม่น้อยเมื่อผมพูดชื่อนี้ออกไป มันหัวเราะในลำคอเบาๆ
"เด็กชื่อฝุ่น มึงรู้จักงั้นหรอ" ผมมองหน้ามันเค้นเอาคำตอบ
"ยิ่งกว่ารู้จักซะอีก"
“กูอยากรู้เรื่องของเขาที่เกี่ย
"ได้ กูจะบอก" ผมยิ้มร่าเมื่อมันตอบออกมา
“เเต่กูจะได้อะไรล่ะ” ยิ้มของผมหุบทันทีเมื่อมันยื่นข้อต่อรองมา ผมมองหน้ามันอย่างไม่เข้าใจก่อนจะต้องถอนหายใจเมื่อมันถามย้ำผม
“ว่าไง”
“จะเอาอะไรล่ะ”
“ตามมาสิ” มันพูดพร้อมกับเดินไปขึ้นรถและขับเข้าบ้านหน้าตาเฉย ผมควรจะไปกับมันดีไหม....เพื่อรู้แค่เรื่องของเด็กคนหนึ่ง ถ้าไอ้กายมันทำเรื่องเลวๆ กับผมอีกล่ะ ผมจะสู้กับมันไหวงั้นหรอ....
“ไม่ต้องกลัวหรอกน่า ไม่ได้ทำอะไรหรอก” มันยิ้มที่มุมปากตอนผมเดินเข้าไปในบ้านของมัน ผมเริ่มจะกลัวมากขึ้นเมื่อมันเดินขึ้นห้องนอนไป
“เมี้ยว” เมื่อผมไปที่ห้องนอนมัน แมวตัวอ้วนก็กระโดดโจนใส่ผมมันคลอเคลียผมราวกับว่ารอให้มาหา
“บอกมาสิว่าเด็กคนนั้นเกี่ยวอะไรกับพี่เอก”
“กูนะเห็นเด็กคนนี้คบกับไอ้เอกตั้งแต่ใส่ชุดมอปลาย” ผมตกใจเมื่อมันพูดออกมา ตั้งแต่ฝุ่นอยู่มอปลาย....พี่เอกคบกับฝุ่นก่อนจะคบกับผมงั้นหรอ
“ก็ไม่เชิงคบหรอกนะ ฝุ่นก็แค่โดนหลอกให้รัก สองคนนี้เลิกกันก็เกือบครึ่งปีแล้ว”
“กูไม่เห็นรู้เลย”
“ไอ้เอกไม่ได้บอกใครในมอหรอกว่ามันกับฝุ่นเป็นอะไรกัน แต่คนที่สนามแข่งรถน่ะรู้กันหมด”
“แล้วตอนนี้ทำไมพี่เอกถึงต้องทำร้ายฝุ่นด้วยล่ะ” ผมถามมันออกไปตรงๆ ไอ้กายขมวดคิ้วกับคำถามของผม
“มันเป็นซาดิสท์”
“!!!!”
“มันไม่กล้าจะทำแบบนั้นกับมึงล่ะมั้งจูน” มันพูดพร้อมกับหยิบบุหรี่ขึ้นมาจุดสูบ ไอ้กายเดินไปปิดหน้าต่างเพราะฝนที่เพิ่งตกสาดน้ำเข้ามา
“หมายความว่าไง”
“กูคิดว่าที่มันทำร้ายฝุ่นก็เพราะว่าอยู่ด้วยกันมานาน ไอ้เอกมันซาดิสท์นับประสาอะไรกับผู้ที่ถูกกระทำบ่อยๆก็ต้องกลายเป็น......”
“มาโซคิสม์.....”
“อืม” มันตอบพร้อมกับดับบุหรี่
“กูรู้แค่นี้แหละนะ”
“อืม ขอบใจนะ” ผมวางซีโร่ลงก่อนจะหมุนตัวหันหลังกลับ
“อยู่ค้างที่นี้สิ ไหนบอกจะให้ทุกอย่างไง” ผมหันกลับมาแล้วมองหน้ามันด้วยความตกใจ
“แค่นอนเท่านั้น...”
“เมี้ยว” ซีโร่เดินมาคลอเคลียที่ขาผมคล้ายจะอ้อนให้อยู่ต่อ
“ก็ได้ กูนอนโซฟานี้แล้วกัน”
“มึงไปนอนเตียงเถอะ เดี๋ยวกูนอนโซฟาเอง” พูดจบมันก็เดินไปล้มตัวนอนที่โซฟา
ผมพาร่างของตัวเองและซีโร่ไปนอนบนเตียง แมวตัวอ้วนล้มตัวลงนอนในตะกร้าตรงปลายเตียงที่ประจำของมัน
2.00 am
นอนไม่หลับ....ผมข่มตาหลับยังไงก็ไม่สามารถจะหลับลงได้ ทำได้เพียงนอนพลิกตัวไปมาเท่านั้น ผมที่นอนตะแคงหันหลังให้ไอ้กายรู้สึกได้ว่ามีคนกำลังเดินมาทางผม ไม่นานก็ขึ้นมานอนบนเตียง
ร่างหนากอดผมจากข้างหลังจนผมสะดุ้งตกใจร้องออกมา
“ไอ้กาย!”
“ขอแค่กอดนะ” มันพูดพร้อมกับกอดผมแน่นกว่าเดิม
“ปล่อย”
“ไม่”
“ทำแบบนี้ไม่ได้นะ” ผมพยายามดิ้นและแกะมือมันออกแต่ก็ไม่เป็นผล ร่างหนาซุกหน้าลงที่ซอกคอของผม
“กูเป็นแฟนพี่เอกนะ” ผมยังไม่ล้มเลิกความตั้งใจ พูดอ้างเหตุผลสารพัดมาเพื่อให้มันหยุดทำบ้าๆ
“แต่เราก็เคยมีอะไรกันนี่” ผมชะงักค้างพูดไม่ออก
“จูน...กู” มันกระซิบเสียงแหบพร่าข้างหูผมก่อนจะกอดผมแน่นกว่าเดิม
“.............” ผมนิ่งเงียบรอให้มันพูดจบประโยค
“กูคิดถึงมึงนะ”
ผมเบิกตากว้างอย่างตกใจและรีบดันตัวเองลุกขึ้น พร้อมมองหน้าร่างสูงอย่างไม่เข้าใจกับสิ่งที่มันพูดออกมา
“พูดอะไรอยู่รู้ตัวบ้างหรือเปล่า”
“ก็รู้” มันยิ้มที่มุมปากกวนประสาทผม
“พอเถอะ เลิกทำแบบนี้สักที...” ผมพูดไปอย่างเหลืออด ไอ้กายที่นอนนิ่งอยู่เอามือขึ้นมาก่ายหน้าผากแล้วคุ้นคิดอะไรสักอย่างไม่สนใจผม
“วันเสาร์นี้ไปด้วยกันสิ”
“ไปไหน?”
“อยากรู้จักเด็กที่ชื่อฝุ่นไหมล่ะจะพาไป” มันเลิกคิ้วพร้อมกับถามผม พอเห็นเป็นเรื่องของเด็กคนนั้นผมก็พยักหน้าตอบตกลงไปทันที
“แล้วมึงไปรู้จักน้องเขาได้ยังไง”
“เอารถไปล้างบ่อย” ผมขมวดคิ้วสงสัยแต่ไอ้กายกลับไม่ตอบแถมยังดึงผมไปนอนกอดหน้าตาเฉย มันทำเหมือนแต่ก่อน....ตอนที่เรายังไม่ได้มีอะไรกัน
“มึง.....ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลยนะ” ผมบ่นพึมพำพร้อมกับพยายามดันตัวเองให้หลุดออกจากอ้อมแขนหนา ผมยอมตากฝนกลับไปนอนบ้านดีกว่า
“จะไปไหน!”
“จะกลับบ้าน” ผมพูดพร้อมสะบัดแขนที่จับผมไว้แน่น
“ไม่ให้ไป”
“ปล่อย!” ผมตะคอกใส่อีกฝ่ายเสียงดัง จนไอ้กายเริ่มแสดงสีหน้าหงุดหงิดออกมาให้ผมเห็น
“ไม่ปล่อย!” ผมไม่ตอบแต่ยังสะบัดแขน ทั้งผลักร่างหนาออกไปให้พ้นตัวแต่ก็ไม่เป็นผล
“วันนี้กูพูดดีๆ กับมึงแล้วนะจูน มึงไม่ชอบหรอหะ!”
“ปล่อยกูเถอะนะกาย ฝนจะหยุดตกแล้ว” มันไม่ตอบแต่กลับกดร่างผมลงกับเตียงแล้วใช้ขาของมันกดขาผมไว้ไม่ให้ขยับตัวไปไหน
“จะทำอะไร!” ผมร้องลั่นพร้อมทั้งพยายามผลักอีกฝ่ายออก
“อย่าดื้อได้ไหมหะ” ผมไม่สนใจคำพูดของมัน สิ่งที่ผมควรทำก็คือพาตัวเองหนีออกไปจากที่นี่
“อื้อ” ร่างหนาบีบปากผมและทาบทับริมฝีปากลงมา ไอ้กายไม่ได้มอบรสจูบที่หอมหวานให้ แต่มันเป็นจูบที่ดุดันรุนแรงจนผมรู้สึกแสบที่ริมฝีปาก มือทั้งสองข้างของผมควานหาของมาช่วยเหลือตัวเองผมหยิบใส่อะไรสักอย่างก็รีบทุบเข้าที่ศีรษะของไอ้กาย
ได้ผล....มันฟุบสลบไป
ผมควรรีบหนีไป.....ใช่ผมควรจะหนีไป
ผมควรจะหนีออกจากบ้านหลังนี้ไปตั้งแต่เมื่อสามสิบนาทีก่อนหน้านี้ ผมมันโง่ที่รีบวิ่งไปหากล่องปฐมพยาบาลทั่วบ้าน ทั้งๆ ที่ควรจะวิ่งหนีไป
ซีโร่ที่ได้ยินเสียงโครมครามก็ตื่นขึ้นมาและมาคลอเคลียผมที่นั่งทำแผลให้เจ้านายมันอยู่ เลือดที่ไหลซิบออกมาจากหัวของไอ้กายของเอาผมไม่สบายใจ จะทำไงได้ตอนนี้มันก็ตีสามและผมคิดว่าไอ้กายมันคงไม่เป็นอะไรเพราะแค่โดนนาฬิกาปลุกฟาดหัวเท่านั่นเอง
ช่วยไม่ได้...ใครบอกให้มันทำเรื่องบ้าๆ กับผมก่อน
“เฮ้อ เจ้านายแกน่ะนิสัยไม่ดีสุดๆ เลยนะซีโร่” ผมถอนหายใจหลังจากทำแผลเสร็จ บ่นกับเจ้านายมันไม่ได้ก็ขอมาลงที่แมวมันก็แล้วกัน ผมมองเสื้อของตัวเองที่เปื้อนเลือดของร่างสูงเลยจำใจไปหยิบชุดนอนของเขามาใส่อย่างเลี่ยงไม่ได้ พร้อมกับบ่นเจ้านายของซีโร่ต่อ
“เมี้ยว”
“ฟังรู้เรื่องหรอไง” ผมยิ้มขำพร้อมจับเจ้าแมวตัวอ้วนมาฟัด พอเล่นกันไปได้สักพักซีโร่ก็หลับคาอกผม ผมเลยได้แต่เดินไปล้มตัวลงนอนที่โซฟาพร้อมกับร่างเจ้าแมวและพยายามข่มตาหลับไป.............
Guy’Part
ปวดหัว
ความรู้สึกแรกที่ผมรู้สึกหลังจากตื่นขึ้นมา ผมเอื้อมมือจับบริเวณที่ปวดก็พบผ้าพันแผลพันรอบหัวผมอยู่ มองไปรอบๆ ก็พบกล่องปฐมพยาบาลที่พื้นและร่างบางที่นอนขดอยู่โซฟา
หึ ทั้งๆ ที่ตีผมแล้วหนีกลับบ้านไป จูนก็ไม่ทำ
เพราะว่าเขาใจดีเกินไป....จนผมได้ใจ
ผมยันตัวลุกขึ้นและหยิบผ้าห่มไปห่มให้จูนที่นอนหนาวอยู่บนโซฟา ตอนนี้ก็กลับจะหกโมงเช้าแล้ว ปรกติผมเป็นคนตื่นเช้าพอตีสี่ตีห้าผมก็ตื่น ซึ่งมันอาจจะขัดกับบุคลิกของผมนักก็เถอะ
ผมนั่งลงบนพื้นหน้าโซฟามองร่างเล็กที่กำลังนอนหลับอยู่ ในอ้อมแขนของจูนมีแมวของผมที่นอนซบกัน ซีโร่ติดจูนมาก...จนคนเลวอย่างผมใช้มันเป็นข้ออ้างในการไปหาจูน
“อื้อ” จูนครางเบาๆ ก่อนจะขยับตัวพลิกจนเจ้าแมวของผมสะดุ้งตื่นกระโดดลงจากโซฟา มันร้องเมี้ยวเรียกผมก่อนจะกระโดดขึ้นไปนอนบนเตียงของมัน
ผมนั่งเท้าคางมองอีกฝ่าย ผมชอบจะมองจูนตอนนอนมากเลยเป็นเหตุผมที่ผมลากจูนมานอนบ้านบ่อยหรือไม่อย่างงั้นผมก็จะเป็นฝ่ายไปนอนบ้านจูนเอง เราสนิทกันมาก....เป็นเพื่อนที่สนิทกันจนใครคนหนึ่งก้าวล้ำเส้นของคำว่าเพื่อนมา
แน่นอน...ว่าผมเป็นคนก้าวล้ำเส้นนั่นมาก่อน ตั้งแต่ที่จูนตัดสินใจคบกับไอ้เอก
ผมรู้ว่ามันเป็นคนไม่ดี เลวพอๆ กับผม แต่ผมไม่ได้ซาดิสท์ตบตีคนเป็นว่าเล่นแบบมัน เด็กที่ชื่อฝุ่น ผมก็เห็นมาตั้งแต่ใส่ชุดมอปลาย เขาน่าสงสารมาก.....
ผมเริ่มแสดงท่าทีไม่พอใจไอ้เอกทุกครั้งที่จูนพูดถึงหรือมาพามันเข้ามาในบ้าน จูนเปลี่ยนแฟนบ่อยใครๆ ก็รู้ คนในมอเลยมองจูนไม่ค่อยดีนักทั้งๆ ที่มันไม่ใช่แบบนั้น และผมก็ไม่ชอบที่จูนไม่ต่อต้านคำครหาพวกนี้ จูนไม่สนใจคำพูดพวกนี้ เขาทำเพียงแค่ขังตัวเองอยู่ในโลกใบเล็กๆ ของเขา จูนไม่เปิดโลกรับอะไรเลย แม้กระทั่งพ่อแม่พี่น้อง
ผมเริ่มหงุดหงิดและพูดรุนแรงกับจูนมากขึ้นอีกเมื่อเขาร้องไห้เพราะไอ้เอก ผมก็แค่อยากจะถามนักว่ามันดีอะไร ทำไมใครๆ ก็พากันไปรุมรักมัน....ทำไมจูนต้องไปเป็นของมัน ถึงแม้เราจะเคยมีอะไรกัน และผมก็ไม่แน่ใจ....ว่าผมเป็นคนแรกของเขาไหม แต่ด้วยสัญชาตญาณผมสามารถพูดได้เลยว่าผมเป็นคนแรกของเขา แต่เขากลับบอกว่าไม่ใช่....
ตอนนั้นโลกของผมหยุดหมุนเข้าไปอีกเมื่อไอ้เอกมาหาจูน เขาหยอกล้อกันดูมีความสุขกันส่วนผมก็ได้แค่ยืนมอง และผมก็แทบจะบ้าตายเมื่อจูนเอามูลี่มาปิดบังหน้าต่างไว้ไม่ให้ผมได้มองเข้าไปหาเขา
จูนอาจจะมองผมว่าเป็นคนใจร้าย ผมชอบแสยะยิ้มใส่เขา ชอบพูดจาทำร้านเขา....แต่ผมมันก็มีดีแค่พูดเท่านั่นแหละ.....
“ตื่นแล้วหรอกาย เป็นไงบ้างขอโทษนะ” จูนพูดพึมพำในขณะที่งัวเงียตื่นขึ้นมา ผมส่ายหน้าเบาๆ ผมมองจูนตาไม่กระพริบจนอีกฝ่ายกระแอมไอแต่ผมก็ไม่เลิกมอง
“อืม แล้วมานั่งทำไมตรงนี้” จูนพูดพร้อมยันตัวลุกขึ้นนั่ง ร่างเล็กที่อยู่ในชุดนอนหลวมโคร่งของผม กับใบหน้าหวานที่ผมหลงใหลตั้งแต่แรกเห็น
“กาย เป็นอะ อื้อ!” พอรู้สึกตัวอีกทีผมก็จูบเขาเข้าไปแล้ว...........
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

ชอบก็บอกไปตรงๆดิ่กาย ทำเก็กอยู่ได้ ชิ!!!!
ไรขาาาา รีบมาต่อนะคะ!!
อยากอ่านต่ออ่ะ >///////<
แอบสมน้ำหน้ากายเล็กน้อย...
สมน้ำหน้าาาาาาาาาา ถถถถถถ
แต่ก็แอบสงสารเล็กๆ
ไรท์ได้โปรดทรมานกายต่อไป....
พี่เอกกกกกก
ซาดิสต์หรอคะ? 5555
จูนคนดีละเกินนนนนนน
ขนาดเขาเป็นชู้กันยังสงสารชู้อีก?
ใจดีเกินไปละค่าาาา
สู้ๆนะคะไรท์ เอาใจช่วยค่ะ
ไรต์จ้าาา เมื่อไรห่จะทำให้กายใจดีกะจูนอ่าาา
เค้ารออยู่น้าาาา สู้ๆ ^^
ถ้าไม่ทำร้ายเค้าตั้งแต่แรกก็คงจะดีกว่านี้
มาอัพต่อไว้ๆน่า
จะรอนะค่ะ
สู้ๆค่ะ ^^
ถึงจะโหดจะเลวแต่ก็เอาใจช่วยกายนะ
กรี๊ดดดดดดดดดดด