คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : วิถีชาวนา
อาทิตย์กำลังจะลับขอบฟ้าเข้าไปทุกที สายฝนเริ่มโปรยปรายลงมาอีกครั้ง อึ่งอ่างส่งเสียงระงม ลมพัดต้นข้าวไหวเอน เสียงเพลงฤดูฝนบรรเลงอย่างเหน็บหนาว ท่ามกลางวันเวลาที่เปลี่ยนผ่าน
ท้องทุ่งเต็มไปด้วยสีทองของรวงข้าวที่กำลังโบกสะบัดตามกระแสลมหน้าร้อนรอวันเก็บเกี่ยว ตะวันดวงกลมโตสาดส่องลงมากระทบกับรวงข้าวเป็นประกายชวนมองยิ่งนัก ฝูงนกกระจอกบินว่อนลงมากัดกินเมล็ดข้าวที่สุกงอมสร้างความรำคาญให้แก่ชาวบ้านเป็นอย่างมากจนต้องทำหุ่นไล่กาหรือไม่ก็กระต๊อบเฝ้าไม่ให้นกลงมาจิกกินข้าวในนาของตัวเอง ในแต่ละปีนกพวกนี้จะสร้างความเสียหายให้กับชาวนาจนผลผลิตแทบจะเหลือขายได้น้อย สำหรับปีนี้ดูจะน้อยกว่าปีก่อนๆ แต่ชาวบ้านก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ
อุ่นคำสอบปลายภาคเสร็จแล้ว วันนี้หล่อนช่วยแม่ทำแก้สำหรับเอาไว้เกี่ยวข้าว แก้เป็นมีดเล่มเล็กๆที่ทำจากเหล็กโค้งงอเล็กน้อยนำมาตอกลงบนแผ่นไม้ขนาดเล็กบางและกว้างประมาณสามนิ้วเห็นจะได้โดยใช้ไม่ไผ่ลำจิ๋วยาวเท่าขนาดเท่ากับแผ่นไม้จากนั้นก็นำไม่ไผ่ที่เกลาเอาไว้มาช่วยในการยึดอีกที คราวนี้ก็จะได้แก้ไว้เกี่ยวข้าวแล้ว โดยทั่วไปชาวใต้ยังคงใช้แก้ในการเกี่ยวข้าวต่างจากชาวเหนือและอีสานที่ใช่เคียวเกี่ยวข้าว แก้นั้นหากเกี่ยวข้าวไม่เป็นก็อาจบาดมือจนเลือดไหล
“ ทำไมปีนี้แม่จึงทำแก้เยอะจังละจ้ะ “ หล่อนถามด้วยความสงสัย
“ แม่จะให้อุ่นช่วยเกี่ยวข้าวนะ ทำไว้หลายอันเผื่อไว้เวลามีดหักยังไงละลูก “ แม่บอกก่อนจะยิ้มให้
“ แปลกนะแม่ทำไมคนเหนือกับคนอีสานเค้าถึงไม่ใช้แก้เหมือนเรา พอเกี่ยวเสร็จเราก็ต้องมานวดข้าวกับเท้าอีกที แม่โพสพไม่เจ็บแย่เหรอจ้ะ “
“ถึงจะแตกต่างกันเรื่องเกี่ยวข้าวแต่ชาวนาทุกคนก็รู้คุณค่าของข้าวทุกเมล็ด อุ่นจำไว้นะว่าถ้าไม่มีชาวนาอย่างพวกเรา คนไทยทั้งประเทศก็ไม่มีข้าวกินกัน “
“ อุ่นภูมิใจที่ได้เกิดเป็นลูกชาวนาจ้ะแม่ “ หล่อนว่าแล้วกอดแม่ด้วยความภาคภูมิใจยิ่งนัก
ตะวันบ่ายคล้อยพ่อเดินแบกเครือกล้วยมาจากขื่อท้ายนา พ่อดูซูบลงไปมากนับแต่พี่ชายของหล่อนไม่ยอมกลับบ้านมาหลายอาทิตย์ หล่อนสังเกตเห็นพ่อยืนซึมบ่อยๆ ยามนี้ไม่มีเสียงเจ้าแดงกับแม่ของมันให้ได้ยินอีกแล้ว พ่อเพิ่งจะขายมันไปเมื่อสองวันก่อนเพื่อนำเงินมาใช้หนี้ที่กู้ธนาคารมาซื้อที่นาเพิ่มและใช้หนี้ของประจวบด้วย เดี๋ยวนี้พี่ชายของหล่อนเริ่มก่อหนี้สิ้นให้พ่อต้องตามชดใช้
หล่อนเห็นพ่อเหนื่อยก็ให้นึกแค้นใจนัก ที่ลูกชายเพียงคนเดี่ยวของบ้านไม่เคยช่วยเหลือและดูดำดูดีพ่อกับแม่
ความเหนื่อยยากของพ่อกับแม่ยิ่งทวีคูณกว่าเก่า จนอุ่นคำอดที่จะกังวลไม่ได้ ยิ่งปีนี้หากว่าหล่อนสอบเข้าเรียนต่อมหาวิทยาลัยได้สำเร็จ นั่นก็หมายความว่าจะไม่มีใครคอยช่วยทำนา การห่างบ้านไม่ใช่สิ่งที่หล่อนกลัว แต่การทิ้งพ่อกับแม่ไว้ตามลำพังคือสิ่งที่หล่อนไม่ปรารถนาต่างหาก โลกหมุนไปข้างหน้าจริงอยู่แต่บางอย่างกลับเดินห่างครอบครัวของหล่อนออกไปทุกขณะ เสียงหัวเราะ รอยยิ้ม บัดนี้แทบไม่มีให้เห็น
แม้นเป็นไปได้หล่อนอยากจะหยุดเส้นทางการเรียนของตัวเองลงเพียงเท่านี้แล้วหันมาเอาดีด้านการเกษตรแบบเต็มตัวอย่างน้อยๆก็จะได้ดูแลพ่อกับแม่อย่างใกล้ชิด หากว่าหล่อนทิ้งความหวังที่ยังหลงเหลืออยู่ของบุพการีทั้งสองไปเสียเล่าหล่อนมิต้องกลายเป็นลูกอกตัญญูหรอกหรือ ยิ่งคิดยิ่งสับสน
“ อุ่นคิดไว้รึยังว่าจะสอบเข้าเรียนต่อที่ไหน “ พ่อถามแล้วลูบศีรษะหล่อนเบาๆ
“ อุ่นอยากเรียนเกษตรนะพ่อจบมาจะได้กลับมาพัฒนาการเกษตรบ้านเราให้ดีขึ้น “ หล่อนตอบเสียงหนักแน่นมั่นใจ
“ ไม่อยากเป็นนักกฎหมายอย่างพี่ไก่ลูกชายครูชมเค้าบ้างเหรอ “
หล่อนส่ายหน้าแทนคำตอบ ไม่เคยคิดจะเดินตามหลังความนิยมของใครเพราะหล่อนแน่ใจแล้วว่าตัวเองไม่มีความสามารถมากมายที่จะเป็นทนายความได้ อย่างดีก็แค่ชาวนาที่เลี้ยงตัวได้ไม่อดตายก็ถือว่าบุญหนักหนา ครั้นจะคิดไปเดินเป็นคุณนายหรือผู้ดีหล่อนคงทำอย่างนั้นไม่ได้
“ อย่าตั้งความหวังมากเกินไปนักละ พ่ออยากให้อุ่นมองด้านอื่นไว้บ้างเผื่อพลาดขึ้นมาจะได้ไม่เสียใจภายหลัง “ พ่อแนะนำคงจะจริงอย่างนั้น ครูที่ปรึกษาเคยบอกว่าหล่อนเคยจะเรียนด้านการออกแบบ แต่ค่าใช้จ่ายก็สูงมากแล้วหล่อนจะมีปัญญาเอาเงินที่ไหนไปเรียนเล่า
“ จ้ะพ่ออุ่นจะลองคิดดู “
พ่อกอดหล่อนด้วยความหวัง นานแค่ไหนแล้วหนอที่พ่อไม่เคยกอดหล่อนเยี่ยงนี้
อุ่นคำมองดูตัวเลขในสมุดบัญชีเงินฝากที่หล่อนอุตส่าห์เก็บออมเอาไว้ตั้งแต่เล็ก อีกไม่ช้าเงินจำนวนนี้จะได้ใช้ประโยชน์เสียที หล่อนไม่คิดจะรบกวนค่าเล่าเรียนจากพ่อกับแม่อีกต่อไป หากว่าหล่อนสอบเข้าเรียนต่อได้ คงต้องหาหาทำควบคู่กับการเรียนไปด้วย
“สวัสดีจ้ะน้าหยัด น้ามุน “ นารีเพื่อนที่วิ่งเล่นกันมาแต่เล็กยกมือไหว้พ่อกับแม่ของหล่อน
“ มาแต่เช้าเชียว อุ่นกำลังตรวจแปลงผักอยู่หลังบ้านโน่นแน่ะ “ ละมุนบอกแล้วหันไปมองลูกสาวที่กำลังง่วนกับการถอนหญ้าแปลงผัก
“ ขอบคุณจ้ะน้า วันนี้หนูนาคงต้องขอโทษด้วยที่ทำให้อุ่นไปช่วยเกี่ยวข้าวไม่ได้ “ นารีกล่าวยิ้มๆ
“ ไม่เป็นไรหรอกหนูนา ดีเสียอีกอุ่นจะได้อ่านหนังสือให้เต็มที่ ใกล้สอบแล้วไม่ใช่รึ “ ประหยัดถามด้วยความสนใจ
“ จ้ะน้าหยัดเหลืออีกแค่ไม่ถึงเดือน “
“ งั้นน้าสองคนขอตัวก่อนนะ ไปแม่มุนขืนไปช้าแดดออกร้อนจนไม่ได้นั่งพักกันแน่ๆ “
“ ตามสบายนะหนูนา “
นารีเป็นลูกสาวคนเล็กของครูชมที่อยู่ท้ายหมู่บ้าน สนิทกับอุ่นคำมาตั้งแต่เล็กๆต่างจากคุณวุฒิลูกชายคนรองที่ไม่ใคร่จะพูดคุยกับใครเพราะถือว่าฐานะทางบ้านดีกว่าใครๆในละแวกบ้านเดียวกัน อุ่นคำถูกสั่งห้ามไปบ้านนั้นนานแล้วนับแต่คุณวุฒิไม่พอใจที่น้องสาวกับพี่ชายหันมาคบหากับลูกชาวนาผู้ต่ำต้อย
เธอยืนชื่นชมความขยันของเพื่อนรัก ทำไมหนอคุณวุฒิถึงได้มองว่าอุ่นคำเป็นคนไม่น่าคบหาด้วยทั้งๆที่หล่อนก็แสนจะมีน้ำใจกับเพื่อนฝูง หลายครั้งที่เธอไม่เข้าใจบทเรียนก็จะมีอุ่นคำคอยชี้แนะ ตัวคุณวุฒิเองก็เคยขอร้องให้อุ่นคำช่วยติวหนังสือให้บ่อยๆ ถ้าการที่เพื่อนของเธอเป็นเพียงลูกชาวนาแล้ว ไก่ คุณวุฒิและเธอละที่มีแม่และญาติๆเป็นชาวนา คุณวุฒิคงหลงลืมความจริงข้อนี้ไปแล้วกระมัง
“ มานานรึยังละหนูนา ทำไมไม่ขึ้นไปบนบ้านก่อน “ อุ่นคำถามเพื่อนด้วยความเป็นห่วง
“ ไม่นานเลย ว่าแต่อุ่นเถอะเรามารบกวนเธอมากไปรึเปล่า “
“ เราเป็นเพื่อนกันมีอะไรก็ช่วยเหลือกันถึงจะถูก แล้วหนูนาเอาหนังสือมาด้วยไหม ”
“ นี่ไงหนังสือของเรา ” นารีชูหนังสือที่ถือมาด้วย อุ่นคำหน้าสลดเล็กน้อยหนังสือของหล่อนเก่าจนจะขาดหมดแล้วต่างจากหนังสือของนารีอย่างสิ้นเชิง
หนังสือเล่มนั้นของนารียังดูใหม่สะอาดตาชวนอ่านยิ่งนัก ความแตกต่างของฐานะระหว่างหล่อนกับเพื่อนนับวันยิ่งชัดเจนมากขึ้น เคยมีคนพูดให้ได้ยินบ่อยๆว่าหล่อนช่างไม่เจียมตัวเอาเสียเลย เป็นเพียงลูกชาวนาแต่กลับไม่คบหากับลูกคนมีสตางค์ หล่อนผิดเหรอที่คบค้าสมาคมกับคนต่างชั้นกัน ด้วยเหตุนี้กระมังพ่อกับแม่จึงห้ามหล่อนไปมาหาสู่กับนารีที่บ้าน
หากว่าทุกคนมีความคิดเช่นนี้กันหมดแล้วต่อไปภายหน้าคนจนจะมิต้องเจียมตัวกว่านี้หรืออย่างไร
อุ่นคำได้แต่ถอนหายใจอย่างหวาดหวั่น ครุ่นคิดต่างๆนานาถึงวันข้างหน้าของตัวเอง หล่อนเต็มใจที่จะเป็นแค่ลูกชาวนาจนๆแต่มีคุณค่าต่อคนรอบข้างมากกว่าการเป็นลูกเศรษฐีที่ชอบดูถูกดูแคลนคนอื่นๆ เมื่อเป็นเช่นนั้นชีวิตจะมีความหมายอะไร
สุนัขตัวหนึ่งยังมีค่าแล้วคนหนึ่งคนจะทำตัวเองให้ไร้ค่าเพื่อสิ่งใดกันเล่า คำพูดที่หยาบกระด้างถากถางจากคนอื่นๆจะมีประโยชน์อะไรในเมื่อเราไม่คิดจะเป็นอย่างคำพูดเหล่านั้น
จงเป็นต้นไผ่ที่กล้าต่อกรกับกระแสลม หล่อนยังจำได้แม่นยำกับคำนั้นของแม่
ความคิดเห็น