ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    พระจันทร์ฉายที่ชายทุ่งตอนที่ 3

    ลำดับตอนที่ #1 : วิถีชาวนา

    • อัปเดตล่าสุด 6 มี.ค. 50


                    อาทิตย์กำลังจะลับขอบฟ้าเข้าไปทุกที    สายฝนเริ่มโปรยปรายลงมาอีกครั้ง   อึ่งอ่างส่งเสียงระงม    ลมพัดต้นข้าวไหวเอน   เสียงเพลงฤดูฝนบรรเลงอย่างเหน็บหนาว   ท่ามกลางวันเวลาที่เปลี่ยนผ่าน

    ท้องทุ่งเต็มไปด้วยสีทองของรวงข้าวที่กำลังโบกสะบัดตามกระแสลมหน้าร้อนรอวันเก็บเกี่ยว    ตะวันดวงกลมโตสาดส่องลงมากระทบกับรวงข้าวเป็นประกายชวนมองยิ่งนัก    ฝูงนกกระจอกบินว่อนลงมากัดกินเมล็ดข้าวที่สุกงอมสร้างความรำคาญให้แก่ชาวบ้านเป็นอย่างมากจนต้องทำหุ่นไล่กาหรือไม่ก็กระต๊อบเฝ้าไม่ให้นกลงมาจิกกินข้าวในนาของตัวเอง    ในแต่ละปีนกพวกนี้จะสร้างความเสียหายให้กับชาวนาจนผลผลิตแทบจะเหลือขายได้น้อย    สำหรับปีนี้ดูจะน้อยกว่าปีก่อนๆ แต่ชาวบ้านก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ

    อุ่นคำสอบปลายภาคเสร็จแล้ว    วันนี้หล่อนช่วยแม่ทำแก้สำหรับเอาไว้เกี่ยวข้าว   แก้เป็นมีดเล่มเล็กๆที่ทำจากเหล็กโค้งงอเล็กน้อยนำมาตอกลงบนแผ่นไม้ขนาดเล็กบางและกว้างประมาณสามนิ้วเห็นจะได้โดยใช้ไม่ไผ่ลำจิ๋วยาวเท่าขนาดเท่ากับแผ่นไม้จากนั้นก็นำไม่ไผ่ที่เกลาเอาไว้มาช่วยในการยึดอีกที คราวนี้ก็จะได้แก้ไว้เกี่ยวข้าวแล้ว    โดยทั่วไปชาวใต้ยังคงใช้แก้ในการเกี่ยวข้าวต่างจากชาวเหนือและอีสานที่ใช่เคียวเกี่ยวข้าว    แก้นั้นหากเกี่ยวข้าวไม่เป็นก็อาจบาดมือจนเลือดไหล

    ทำไมปีนี้แม่จึงทำแก้เยอะจังละจ้ะ “   หล่อนถามด้วยความสงสัย

    แม่จะให้อุ่นช่วยเกี่ยวข้าวนะ ทำไว้หลายอันเผื่อไว้เวลามีดหักยังไงละลูก “   แม่บอกก่อนจะยิ้มให้

    แปลกนะแม่ทำไมคนเหนือกับคนอีสานเค้าถึงไม่ใช้แก้เหมือนเรา   พอเกี่ยวเสร็จเราก็ต้องมานวดข้าวกับเท้าอีกที   แม่โพสพไม่เจ็บแย่เหรอจ้ะ

    ถึงจะแตกต่างกันเรื่องเกี่ยวข้าวแต่ชาวนาทุกคนก็รู้คุณค่าของข้าวทุกเมล็ด   อุ่นจำไว้นะว่าถ้าไม่มีชาวนาอย่างพวกเรา คนไทยทั้งประเทศก็ไม่มีข้าวกินกัน

    อุ่นภูมิใจที่ได้เกิดเป็นลูกชาวนาจ้ะแม่ “   หล่อนว่าแล้วกอดแม่ด้วยความภาคภูมิใจยิ่งนัก

    ตะวันบ่ายคล้อยพ่อเดินแบกเครือกล้วยมาจากขื่อท้ายนา   พ่อดูซูบลงไปมากนับแต่พี่ชายของหล่อนไม่ยอมกลับบ้านมาหลายอาทิตย์    หล่อนสังเกตเห็นพ่อยืนซึมบ่อยๆ ยามนี้ไม่มีเสียงเจ้าแดงกับแม่ของมันให้ได้ยินอีกแล้ว    พ่อเพิ่งจะขายมันไปเมื่อสองวันก่อนเพื่อนำเงินมาใช้หนี้ที่กู้ธนาคารมาซื้อที่นาเพิ่มและใช้หนี้ของประจวบด้วย    เดี๋ยวนี้พี่ชายของหล่อนเริ่มก่อหนี้สิ้นให้พ่อต้องตามชดใช้

    หล่อนเห็นพ่อเหนื่อยก็ให้นึกแค้นใจนัก ที่ลูกชายเพียงคนเดี่ยวของบ้านไม่เคยช่วยเหลือและดูดำดูดีพ่อกับแม่

    ความเหนื่อยยากของพ่อกับแม่ยิ่งทวีคูณกว่าเก่า จนอุ่นคำอดที่จะกังวลไม่ได้ ยิ่งปีนี้หากว่าหล่อนสอบเข้าเรียนต่อมหาวิทยาลัยได้สำเร็จ     นั่นก็หมายความว่าจะไม่มีใครคอยช่วยทำนา การห่างบ้านไม่ใช่สิ่งที่หล่อนกลัว     แต่การทิ้งพ่อกับแม่ไว้ตามลำพังคือสิ่งที่หล่อนไม่ปรารถนาต่างหาก    โลกหมุนไปข้างหน้าจริงอยู่แต่บางอย่างกลับเดินห่างครอบครัวของหล่อนออกไปทุกขณะ เสียงหัวเราะ   รอยยิ้ม   บัดนี้แทบไม่มีให้เห็น

    แม้นเป็นไปได้หล่อนอยากจะหยุดเส้นทางการเรียนของตัวเองลงเพียงเท่านี้แล้วหันมาเอาดีด้านการเกษตรแบบเต็มตัวอย่างน้อยๆก็จะได้ดูแลพ่อกับแม่อย่างใกล้ชิด    หากว่าหล่อนทิ้งความหวังที่ยังหลงเหลืออยู่ของบุพการีทั้งสองไปเสียเล่าหล่อนมิต้องกลายเป็นลูกอกตัญญูหรอกหรือ ยิ่งคิดยิ่งสับสน

    อุ่นคิดไว้รึยังว่าจะสอบเข้าเรียนต่อที่ไหน “    พ่อถามแล้วลูบศีรษะหล่อนเบาๆ

    อุ่นอยากเรียนเกษตรนะพ่อจบมาจะได้กลับมาพัฒนาการเกษตรบ้านเราให้ดีขึ้น หล่อนตอบเสียงหนักแน่นมั่นใจ

    ไม่อยากเป็นนักกฎหมายอย่างพี่ไก่ลูกชายครูชมเค้าบ้างเหรอ

    หล่อนส่ายหน้าแทนคำตอบ    ไม่เคยคิดจะเดินตามหลังความนิยมของใครเพราะหล่อนแน่ใจแล้วว่าตัวเองไม่มีความสามารถมากมายที่จะเป็นทนายความได้ อย่างดีก็แค่ชาวนาที่เลี้ยงตัวได้ไม่อดตายก็ถือว่าบุญหนักหนา    ครั้นจะคิดไปเดินเป็นคุณนายหรือผู้ดีหล่อนคงทำอย่างนั้นไม่ได้

    อย่าตั้งความหวังมากเกินไปนักละ   พ่ออยากให้อุ่นมองด้านอื่นไว้บ้างเผื่อพลาดขึ้นมาจะได้ไม่เสียใจภายหลัง “   พ่อแนะนำคงจะจริงอย่างนั้น    ครูที่ปรึกษาเคยบอกว่าหล่อนเคยจะเรียนด้านการออกแบบ    แต่ค่าใช้จ่ายก็สูงมากแล้วหล่อนจะมีปัญญาเอาเงินที่ไหนไปเรียนเล่า

    จ้ะพ่ออุ่นจะลองคิดดู

    พ่อกอดหล่อนด้วยความหวัง นานแค่ไหนแล้วหนอที่พ่อไม่เคยกอดหล่อนเยี่ยงนี้

    อุ่นคำมองดูตัวเลขในสมุดบัญชีเงินฝากที่หล่อนอุตส่าห์เก็บออมเอาไว้ตั้งแต่เล็ก    อีกไม่ช้าเงินจำนวนนี้จะได้ใช้ประโยชน์เสียที     หล่อนไม่คิดจะรบกวนค่าเล่าเรียนจากพ่อกับแม่อีกต่อไป หากว่าหล่อนสอบเข้าเรียนต่อได้     คงต้องหาหาทำควบคู่กับการเรียนไปด้วย

    สวัสดีจ้ะน้าหยัด น้ามุน “    นารีเพื่อนที่วิ่งเล่นกันมาแต่เล็กยกมือไหว้พ่อกับแม่ของหล่อน

    มาแต่เช้าเชียว    อุ่นกำลังตรวจแปลงผักอยู่หลังบ้านโน่นแน่ะ “   ละมุนบอกแล้วหันไปมองลูกสาวที่กำลังง่วนกับการถอนหญ้าแปลงผัก

    ขอบคุณจ้ะน้า   วันนี้หนูนาคงต้องขอโทษด้วยที่ทำให้อุ่นไปช่วยเกี่ยวข้าวไม่ได้ “   นารีกล่าวยิ้มๆ

    ไม่เป็นไรหรอกหนูนา    ดีเสียอีกอุ่นจะได้อ่านหนังสือให้เต็มที่   ใกล้สอบแล้วไม่ใช่รึ ประหยัดถามด้วยความสนใจ

    จ้ะน้าหยัดเหลืออีกแค่ไม่ถึงเดือน

    งั้นน้าสองคนขอตัวก่อนนะ    ไปแม่มุนขืนไปช้าแดดออกร้อนจนไม่ได้นั่งพักกันแน่ๆ

    ตามสบายนะหนูนา

    นารีเป็นลูกสาวคนเล็กของครูชมที่อยู่ท้ายหมู่บ้าน     สนิทกับอุ่นคำมาตั้งแต่เล็กๆต่างจากคุณวุฒิลูกชายคนรองที่ไม่ใคร่จะพูดคุยกับใครเพราะถือว่าฐานะทางบ้านดีกว่าใครๆในละแวกบ้านเดียวกัน     อุ่นคำถูกสั่งห้ามไปบ้านนั้นนานแล้วนับแต่คุณวุฒิไม่พอใจที่น้องสาวกับพี่ชายหันมาคบหากับลูกชาวนาผู้ต่ำต้อย

    เธอยืนชื่นชมความขยันของเพื่อนรัก     ทำไมหนอคุณวุฒิถึงได้มองว่าอุ่นคำเป็นคนไม่น่าคบหาด้วยทั้งๆที่หล่อนก็แสนจะมีน้ำใจกับเพื่อนฝูง     หลายครั้งที่เธอไม่เข้าใจบทเรียนก็จะมีอุ่นคำคอยชี้แนะ      ตัวคุณวุฒิเองก็เคยขอร้องให้อุ่นคำช่วยติวหนังสือให้บ่อยๆ ถ้าการที่เพื่อนของเธอเป็นเพียงลูกชาวนาแล้ว ไก่ คุณวุฒิและเธอละที่มีแม่และญาติๆเป็นชาวนา     คุณวุฒิคงหลงลืมความจริงข้อนี้ไปแล้วกระมัง

    มานานรึยังละหนูนา ทำไมไม่ขึ้นไปบนบ้านก่อน “    อุ่นคำถามเพื่อนด้วยความเป็นห่วง

    ไม่นานเลย ว่าแต่อุ่นเถอะเรามารบกวนเธอมากไปรึเปล่า

    เราเป็นเพื่อนกันมีอะไรก็ช่วยเหลือกันถึงจะถูก แล้วหนูนาเอาหนังสือมาด้วยไหม

    นี่ไงหนังสือของเรา ”    นารีชูหนังสือที่ถือมาด้วย อุ่นคำหน้าสลดเล็กน้อยหนังสือของหล่อนเก่าจนจะขาดหมดแล้วต่างจากหนังสือของนารีอย่างสิ้นเชิง

    หนังสือเล่มนั้นของนารียังดูใหม่สะอาดตาชวนอ่านยิ่งนัก    ความแตกต่างของฐานะระหว่างหล่อนกับเพื่อนนับวันยิ่งชัดเจนมากขึ้น     เคยมีคนพูดให้ได้ยินบ่อยๆว่าหล่อนช่างไม่เจียมตัวเอาเสียเลย     เป็นเพียงลูกชาวนาแต่กลับไม่คบหากับลูกคนมีสตางค์     หล่อนผิดเหรอที่คบค้าสมาคมกับคนต่างชั้นกัน     ด้วยเหตุนี้กระมังพ่อกับแม่จึงห้ามหล่อนไปมาหาสู่กับนารีที่บ้าน

    หากว่าทุกคนมีความคิดเช่นนี้กันหมดแล้วต่อไปภายหน้าคนจนจะมิต้องเจียมตัวกว่านี้หรืออย่างไร

    อุ่นคำได้แต่ถอนหายใจอย่างหวาดหวั่น      ครุ่นคิดต่างๆนานาถึงวันข้างหน้าของตัวเอง หล่อนเต็มใจที่จะเป็นแค่ลูกชาวนาจนๆแต่มีคุณค่าต่อคนรอบข้างมากกว่าการเป็นลูกเศรษฐีที่ชอบดูถูกดูแคลนคนอื่นๆ เมื่อเป็นเช่นนั้นชีวิตจะมีความหมายอะไร

    สุนัขตัวหนึ่งยังมีค่าแล้วคนหนึ่งคนจะทำตัวเองให้ไร้ค่าเพื่อสิ่งใดกันเล่า     คำพูดที่หยาบกระด้างถากถางจากคนอื่นๆจะมีประโยชน์อะไรในเมื่อเราไม่คิดจะเป็นอย่างคำพูดเหล่านั้น

    จงเป็นต้นไผ่ที่กล้าต่อกรกับกระแสลม     หล่อนยังจำได้แม่นยำกับคำนั้นของแม่

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×