คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : วัยเยาว์
ความเป็นไปของแต่ละวันบวกกับความเหน็ดเหนื่อยของพ่อกับแม่ ทำให้หล่อนคิดจะเลิกเรียนหันมาเป็นชาวนาเต็มตัวเพื่อช่วยผ่อนแรงพ่อกับแม่ที่นับวันยิ่งเหนื่อยมากขึ้น ทั้งเหนื่อยกายและเหนื่อยใจ ทั้งที่รู้ว่าอาจทำให้ท่านทั้งสองไม่สบายใจเพิ่มขึ้น แต่หล่อนไม่มีทางเลือกที่ดีกว่านี้แล้ว ครั้นจะพึ่งพี่ชายก็คงหมดหวังเสียแล้ว เมื่อฝ่ายนั้นมักทำให้พ่อกับแม่เดือดเนื้อร้อนใจเป็นประจำ
“ แม่จบมัธยมต้นแล้วอุ่นจะออกมาช่วยแม่ทำนานะ “ หล่อนบอกแม่ในตอนเย็นหลังกลับจากโรงเรียน
“ ไม่นะอุ่น แม่ไม่ยอมให้ลูกออกจากโรงเรียนถึงเราจะฐานะไม่ดีแต่พ่อกับแม่จะส่งเสียลูกให้เรียนสูงๆให้ได้ “ แม่อธิบาย แววตาเปี่ยมด้วยความหวังมากมายอย่างที่หล่อนไม่เคยเห็นมาก่อน
“ แต่ตอนนี้แม่กับพ่อแก่มากแล้ว เรี่ยวแรงจะไถจะหว่านกล้าก็แทบไม่มีแล้ว ให้อุ่นได้ช่วยแม่บ้างเถอะนะ “ หล่อนบอกเหตุผล
“ แม่เข้าใจนะอุ่น แค่จวบคนเดียวที่คิดจะเลิกเรียนพ่อก็ไม่สบายใจมากพอแล้ว อุ่นอย่าทำให้พ่อหมดหวังอีกคนนะ ถ้ามีสิ่งไหนที่พ่อกับแม่จะทำให้ลูกไม่ต้องเป็นอย่างทุกวันนี้เราก็จะทำ เรียนให้สูงๆเข้าไว้แล้วอนาคตเราจะดีกว่านี้นะจำไว้ “ อีกคราที่แม่อ้างถึงความยากจนของครอบครัวซึ่งหล่อนรู้ดีว่ามันเป็นอุปสรรคมากแค่ไหนกับการส่งลูกให้เรียนจนจบปริญญาตรี
“ อุ่นเข้าใจนะแม่ แต่.....” หล่อนไม่มีข้อโต้แย้งใดๆทั้งสิ้น หลังจากนี้คงต้องหางานพิเศษทำในวันหยุดเรียน เพื่อแบ่งเบารายจ่ายให้ได้มากที่สุด
สายฝนฤดูหว่านกล้ากำลังจะมาเยือนในไม่ช้า
ท้องทุ่งที่เคยมีฝูงวัวควายเดินเล็มหญ้าบัดนี้มีก่อข้าวอ่อนๆที่กำลังจะแตกออกมาจากเมล็ด ความภาคภูมิใจของชาวนาเริ่มก่อตัวขึ้นอีกหน หล่อนเห็นพ่อยืนมองออกไปไกลจากท้ายนา แววตาเป็นประกายกว่าทุกครั้ง เสียงกระดิ่งวัวที่ถูกผูกไว้ไม่ไกลจากตัวบ้านดังปนมากับสายลม หญ้าแห้งกลายเป็นอาหารแทนหญ้าสด พ่อมักจะบอกเสมอว่ายามหน้านาหากเราไม่มีหญ้าหรือฟางเก็บไว้แล้ว วัวก็จะผอมขายไมได้ราคา นี่เป็นอีกสิ่งหนึ่งของชีวิตคนชนบทที่ไม่เคยขาดหายไปไหนเลย เจ้าแดงลูกวัวตัวน้อยที่เพิ่งคลอดได้ไม่ถึงสองอาทิตย์กระโดดไปมาอยู่ตรงลาน เสียงร้องของมันทำให้บ้านทั้งหลังไม่เงียบ หล่อนมักจะเดินไปลูบหลังมันบ่อยๆจนเป็นความเคยชิน ทุกๆวันหล่อนจะช่วยพ่อยกกองหญ้าแห้งออกไปกองไว้
เมื่อหว่านกล้าได้ประมาณหนึ่งเดือนให้หลังก็ต้องหว่านปุ๋ยบำรุงต้นกล้าจะมีการลงแขกช่วยกันถอนต้นกล้ามาทำเป็นมัดๆขนาดย่อมพอให้โอบได้ ช่วงนี้ถือว่ามีชีวิตชีวาพอสมควร เด็กๆอย่างหล่อนจะสนุกสนานกับการได้ลงไปเล่นดินโคลนในนาที่พ่อเพิ่งจะไถคลาดเสร็จใหม่ๆเพื่อเตรียมดินให้พร้อมก่อนจะลงมือปักดำกล้า วิธีการทำนาของคนใต้มักจะแตกต่างจากที่อื่นๆ
ยามเมื่อฟ้าครึ้มฝนฝูงนกนางแอ่นจะบินว่อนท้าทายกระแสลมที่พัดเอาเมฆก้อนแล้วก้อนเล่าให้ผ่านไปเหมือนเป็นสัญญาณเตือนว่าอีกไม่ช้าฝนก็จะตกลงมา ถุงพลาสติกจากกระสอบใส่ปุ๋ยคือเสื้อกันฝนชั้นเยี่ยมสำหรับเด็กๆและหญิงสาวที่กำลังปักดำกล้าในนาขึ้นมาทันที ในแต่ละปีชาวบ้านจะรวบรวมเงินเพื่อนำไปซื้อปุ๋ยมาใส่ในนาข้าวเพราะจะได้ราคาที่ต่ำกว่าการแยกซื้อ
ปีนี้เป็นปีแรกที่แม่จะฝึกให้ถอนต้นกล้า หล่อนไม่ใคร่ชอบนักพยายามขอร้องให้พ่อสอนหล่อนจับควายเหล็กฝึกไถนาเสียมากกว่า แต่พ่อก็ห้ามเพราะไม่ใช่งานที่เด็กหญิงอายุสิบสี่อย่างหล่อนจะทำได้ หล่อนจึงจำใจต้องฝึกถอนต้นกล้าไปโดยปริยาย
“ อุ่นเอ้ยอย่าเอาหลังเท้ามาฟาดต้นกล้าสิลูกเดี๋ยวต้นกล้าก็ช้ำหมดกันพอดี “ แม่หันมาเอ็ดเมื่อเห็นหล่อนฟาดต้นกล้าสุดแรง
“ แหมขืนฟาดกับกับฝ่าเท้าอย่างแม่เมื่อไรดินโคลนมันจะหลุดออกละจ้ะ “ หล่อนว่า
“ เราไม่ต้องเสียต้นกล้าดีกว่าบากหน้าไปขอปันต้นกล้าจากคนอื่นเป็นไหนๆนะลูก “ แม่อธิบายและทำตัวอย่างให้หล่อนดูอีกครั้ง คราวนี้ดินโคลนกระเด็นมาโดนใบหน้าหล่อนจนเลอะไปหมด เสียงน้าๆที่ยืนอยู่ใกล้ๆหัวเราะเป็นเสียงเดียวกัน หล่อนเอามือตวัดน้ำในนามาล้างหน้า ทั้งอายทั้งขำปนกัน
เมื่อวานนี้ฝนตกหนักน้ำในลำคลองท้ายนาเพิ่มปริมาณมากขึ้น เสียงประกาศของกรมอุตุนิยมวิทยาบอกว่าอาจจะมีฝนตกหนักต่อเนื่องกันอีกหลายวัน สำหรับผู้ที่บ้านเรือนในที่ลุ่มให้เตรียมขนของไปไว้ที่สูงได้แล้ว บ้านของหล่อนถึงแม้จะอยู่ใกล้ลำคลองแต่น้ำไม่เคยท่วมมาถึงสักครั้ง ถือเป็นความโชคดีอย่างหนึ่ง แต่คนที่อยู่ท้ายหมู่บ้านมักจะโดนน้ำท่วมขังนานหลายวัน ญาติๆก็มักจะมาขออาศัยที่บ้านหล่อนเป็นประจำ คนต่างจังหวัดมักเป็นคนมีน้ำใจ แตกต่างจากคนในเมืองใหญ่อย่างสิ้นเชิงก็ว่าได้
อุ่นคำไม่เคยนึกเสียดายหรือเสียใจเลยที่ชีวิตวัยเด็กของหล่อนจะมีท้องทุ่งเป็นสนามเด็กเล่นและแหล่งเรียนรู้ความอดทนทั้งจากสภาพดินฟ้าอากาศที่หมุนเวียนอยู่เสมอๆกับความเหนื่อยล้าอันน่าภาคภูมิใจ ใครจะคิดว่าหล่อนเป็นเด็กหลังเขาก็ช่างปะไรและหล่อนก็ไม่เคยคิดจะไปเปลี่ยนทัศนคติหรือมุมมองที่คนอื่นจะมีต่อหล่อนแม้นสักครั้งเดียว
กิจวัตรประจำวันของหล่อนหมดไปกับการต้องตื่นนอนแต่เช่าตรู่ทุกวัน เพื่อมาทำขนมไปขายที่โรงเรียน ตลอดระยะเวลาสองเดือนที่ผ่านมานั้นหล่อนสามารถเก็บเงินได้เกือบสองพันบาทซึ่งถือว่ามากโขสำหรับชาวนาคนหนึ่งจะทำได้ วันหยุดจากที่เคยทำขนมแล้วต้องเดินไปขายยังตลาดของหมู่บ้านถัดไป ตอนนี้หล่อนหันมาปลูกผักบุ้งกับผักหวานแซมด้วยเผือกแทน แม้นว่าจะต้องรอนานเพื่อเก็บเกี่ยวผักบุ้งกับยอดอ่อนของผักหวานไปขายแต่มันก็คุ้มค่า วันหยุดที่จะมาถึงหล่อนสามารถถอนผักบุ้งไปขายได้กำมือแน่ๆ ผักหวานก็โตพอจะตัดยอดอ่อนได้แล้วเช่นกัน
รอบๆบ้านยามนี้เต็มไปด้วยสีเขียวของต้นกล้าและผักที่หล่อนลงแรงปลูกเอาไว้
“ แม่จ้ะอุ่นว่าเราปลูกมะเขือเพิ่มอีกอย่างดีไหม ที่รอบบ้านก็ยังพอให้ปลูกได้อีกเยอะทีเดียว “ หล่อนถามความเห็นจากแม่หลังจากทานข้าวมื้อเย็นเสร็จ
“ ก็ดีเหมือนกันถ้างั้นพรุ่งนี้อุ่นก็เตรียมดินให้พร้อมนะ แม่จะไปขอปันเมล็ดมะเขือจากน้าเหลียว เราจะได้ลงมือเพาะกันตอนที่ฝนยังชุก “
“ ทำไมเราไม่ปลูกพริกเพิ่มบ้างละอุ่น ตอนนี้ราคาพริกกำลังดีเชียว พริกตากแห้งกิโลละเกือบเจ็ดสิบบาทแล้ว เมื่อวันก่อนพ่อเห็นที่ร้านส้มตำของป้าตีดวิ่งหาพริกสดกันให้วุ่น ถ้าเรามีพริกก็จะได้ส่งขายด้วยเลย “ พ่อออกความเห็นบ้าง หล่อนพยักหน้าเห็นด้วย
“ งั้นพรุ่งนี้อุ่นจะเตรียมดินแต่เช้าเลย พี่จวบช่วยอุ่นหน่อยนะ “ หล่อนหันไปบอกประจวบที่กำลังสาละวนกับขวดเหล้าเถื่อน
ประจวบส่ายหน้าเป็นการปฏิเสธ เขามีวิธีการหาเงินได้ง่ายกว่าการต้องมานั่งหลังขดหลังแข็งถางหญ้า ขุดดิน ใส่ปุ๋ย คอยดูแลกว่าจะได้เก็บเกี่ยว ไหนจะต้องมาเดินตากแดดไปขายที่ตลาดแล้วคอยตะโกนเรียกคนซื้อให้เจ็บคออีก แล้วเงินที่ได้มาก็เพียงน้อยนิดเมื่อเทียบกับการกัดปลาและขายเหล้าเถื่อน
“ ไม่เอาหรอกขายผักจะสู้กัดปลาสักสองสามตัวก็ได้เงินมาตั้งสี่ห้าร้อยแล้วหรือว่าจะทำเหล่าเถื่อนขายสักสิบขวดก็ยังดีกว่าอีก “
“ อุ่นลืมไปว่าพี่จวบเก่งเรื่องแบบนั้น มิน่าละวันหยุดทีไรถึงได้ไปขลุกตัวอยู่แต่บ้านลุงขำ อีกหน่อยพอมีวิชาขี้คร้านจะจะต้มเหล่าขายเองรวยเละเลยละคราวนี้ ถ้าจะให้ดีก็เรียนวิชาหนีตำรวจด้วยแล้วกัน เวลามีอะไรเกิดขึ้นจะได้เอาตัวรอดกลับมาให้พ่อกับแม่เห็นหน้า “ อุ่นคำทั้งแขวะทั้งว่ากระทบ
หลายเดือนมานี้ประจวบไม่เคยอยู่ติดบ้าน เขาไม่เคยช่วยพ่อทำงานอย่างที่ลูกชายบ้านอื่นเค้าทำกัน แต่ละวันก็คอยเดินเตร่ส่งเหล้าเถื่อนกับยาดองให้ร้านขายของชำตามหมู่บ้านใกล้เคียง เงินที่หามาได้ก็นำไปบ่อนกัดปลากับซื้อเสื้อผ้า หล่อนนึกระอาใจกับนิสัยนั้นของพี่ชาย
“ พ่อดูอุ่นด่าผมสิ แล้วทำไมละดีกว่าขอเงินพ่อกับแม่ไม่ใช่เหรอ อีกหน่อยพอพี่รวยเราคงจะวิ่งมาพึ่งละไม่ว่า “ ประจวบเพ้อฝันไปตามประสาเด็กหนุ่ม
“ จริงอย่างที่น้องพูดรึเปล่า จวบควรจะเอาเวลามาอ่านหนังสือเตรียมตัวสอบเข้าเรียนมหาวิทยาลัยมากกว่า ไม่ใช่คิดแต่จะหาเงิน ความรู้นะมีไว้วันข้างหน้าเราจะได้ไม่ต้องลำบาก “ พ่อบอกอย่างเหนื่อยใจ
“ เด็กต่างจังหวัดอย่างเราจะสู้เด็กในเมืองหลวงได้เหรอพ่อ จบมัธยมปลายก็ถือว่าเก่งมากแล้วนะ พ่อไม่ต้องมากล่อมซะให้ยากเลยยังไงผมก็ตัดสินใจแล้วว่าจะไม่เรียนต่อ “
“ อีกหน่อยเอ็งจะเสียใจที่คิดอย่างนี้ “ พ่อกล่าวทิ้งท้ายแล้วลุกเดินออกไปนอกชาน เสียงถอนหายใจนั้นพ่อคงผิดหวัง หล่อนคิด
ความคิดเห็น