ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    วิมานรักตะวัน

    ลำดับตอนที่ #11 : ความในใจ

    • อัปเดตล่าสุด 22 ก.ย. 58


    ------ ตอน10
     
    ตะวันนั้งนิ่งตลอดทางไม่พูดไม่จา เหมือนกำลังเครียดกับปัญหาอะไรบางอย่าง จุลลาที่นั้งอยู่เบาะหลัง มองตะวัน จุลลานึกในใจว่า ผู้หญิงคนนั้นต้องมีอะไรกับตะวันแน่ๆ  
    พอถึงคอนโดที่จุลลาพัก เบิ้มจอดรถที่หน้าคอนโด
     
    " ขอบคุณนะค่ะ " จุลลาบอกตะวัน แต่ตะวันก็นั้งนิ่ง ไม่ได้สนใจที่จุลลาพูดเลย จุลลาเลยลงจากรถ ปิดประตูแล้วเบิ้มก็ขับออกไป จุลลามองตามรถที่ขับออกไป
     
    " สงสัยผู้หญิงคนนั้น คงเป็นกิ๊กนายตะวัน แหงมๆเลย " จุลลายืนอยู่ พอดีจุลภาสมาพอดี
    " จุลลา " จุลลาหันมามองพี่ชายที่เรียกเธอ
     
    " อ่าวพี่จุล หน้าตื่นมาเชียวมีอะไรหรือป่าวค่ะ " จุลลาถามพี่ชาย
    " กลับบ้านกันเถอะ รู้สึกว่าที่ไร่จะมีปัญหา เรื่องส้มนีดหน่อย "
    " ได้ค่ะ รีบไปเถอะพี่เดี๋ยวจะค่ำ " 2พี่น้องก็รีบขึ้นห้องไปเก็บของ
     
    จุลภาสกับน้องสาว มาถึงไรก็เกือบจะ4 โมงเย็น จุลภาสกับจุลลา ก็ตรงมาจัดการปัญหาที่ไร่เลย พอเคลียร์ปัญหาเรื่องส้มที่ไม่พอส่งลูกค้าเสร็จ จุลภาสก็กลับไปบ้านจงพิสุทเลย แต่จุลลาไม่ได้กลับขออยู่ที่ไร่
     
    จุลลาเดินเล่นอยู่ในสวนส้ม ในใจเธอนึกถึงแต่เรื่องตะวันกลับสาวที่ชื่อนิริน
     
    " เฮ้ย ยายจุลลาไปนึกถึงเขา2คนทำไมเนี่ย บ๊องแล้วเรื่องของเขา ไม่ใช่เรื่องของเรา " เธอสะบัดหัวไปมา แล้วก็เดินดูสวนส้ม แต่ก็นึกถึงแต่เรื่องตะวันกับนิริน ทั้งที่ตัวไม่อยากคิด แต่ใจมันคิดตลอด
     
    จุลลาเดินอยู่ในไร่จน เย็น พระอาทิตย์เกือบจะตกดิน จุลลาเดินมานั้งเก้าอี้ไม้ที่วางอยู่ข้างรั้วกั้นเขตแดนไร่จุลภาสกับไร่ภูตะวัน
    จุลลานั้งมองพระอาทิตย์ตกดิน บรรยากาศดีมาก จุลลาไม่ค่อยได้สัมผัสแบบนี้มานานมากแล้ว ยิ่งมองก็ยิ่งสดชื่น
     ที่ไร่ภูตะวัน 
     
     ตะวันกลับมาจากกรุงเทพ รู้สึกเซ็งๆเลยเดินดูองุ่นในไร เขาหันไปเห็นจุลลานั้งอยู่ ตะวันสงสัยว่าจุลลากลับมาตั้งแต่เมื่อใหร่ เขาเดินมายืนด้านหลังตรงที่จุลลานั้งอยู่
     
    " กลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่ละคุณ " จุลลาตกใจนีดนึง แล้วหันมามองตะวัน
    " กลับมาตั้งแต่บ่ายละ " จุลลาตอบตะวัน
    " เหรอ แล้วมานั้งทำอะไรตรงนี้ จะมืดแล้วนะ " เขามองหน้าจุลลา จุลลาก็มองหน้าตะวัน
     
    " ก็นั้งเล่นเพลินๆ " เธอตอบพร้อมทำท่านั้วสบายๆ
    " นั้งด้วยคนได้ไหม " ตะวันถามจุลลาน้ำเสียงนิ่งๆ แต่ก็เครียดน่าดู
     
    " อยากนั้งก็นั้งสิ " จุลลาพูดจบ ตะวันก็ปืนรั้ว มานั้ง ที่โต๊ะ ตัวเดียวกับจุลลา แต่เว้นละยะห่าง เพราะโต๊ะมันกว้าง
     
    จุลลาหันมามองตะวัน
    " ฉันถามไรนายหน่อยสิ " ตะวันหันมามองจุลลา
    " ถามอะไรครับ "
    " ผู้หญิงคนนั้นเป็นแฟนเก่านายเหรอ " จุลลาถามคำถามเล่นเอาตะวันอิ้งไปเลย
    " คุณรู้ได้ไง " ตะวันมองหน้าจุลลา
    " ก็เดาไง ดูสายตาก็รู้ ไงนายก็ช่วยอธิบายให้เธอเข้าใจนะ ว่าฉันกับนายไม่ได้เป็นอะไรกัน แค่คนรู้จัก " จุลลาบอกตะวันด้วยน้ำเสียงนิ่งๆ
     
    " คงไม่ต้องแล้วละ " ตะวันพูดด้วยน้ำเสียงพร้อมใบหน้านิ่งๆ
     
    " อ่าวทำไมละ ฉันไม่อยากเป็นตัวปัญหาของใครนะ " เธอเถียงตะวัน ตะวันก็มองหน้าจุลลา
    " ก็จะอธิบายทำไม ในเมื่อมันจบไปนานแล้ว ระหว่างผมกับนิริน นิรินเขามีครอบครัวแล้ว เรา2คนไม่ได้มีอะไรเกี่ยวข้องกัน " ตะวันพูดด้วยน้ำเสียงเศร้าๆ จนจุลลารู้สึกไม่ดีขึ้นมาเลยทีเดียว
     
    " ถ้าฉันพูดเรื่องนี้ให้นายไม่สบายใจ ฉันขอโทษแล้วกัน" จุลลาเอ่ยขอโทษตะวัน
    " ไม่เป็นไรหรอกไงมันคือเรื่องจริง " ตะวันตอบจุลลาด้วยน้ำเสียงนิ่งๆ แต่ไม่มองหน้าจุลลา
     
    " แต่ดูเหมือนนาย เจ็บปวดมากเลยนะ "
    " ช่างมันเถอะ เลิกพูดดีกว่านะ " ตะวันพูดนิ่งๆ ไม่อยากเอ่ยถึงเรื่องนิรินอีก
    จุลลามองตะวันแบบสำนึกผิด เธอไม่น่าพูดเรื่องนี้เลย เพราะพูดไปทำให้ตะวันเครียดและเศร้ามาก จุลลาเองก็ไม่เข้าใจ ทำไมต้องถามตะวัน ทำไมต้องแคร์ความรู้สึกตะวันด้วย ทั้งๆที่ไม่ค่อยชอบหน้ากันสักเท่าใหร่
     
    ตะวันนั้งนิ่งมองพระอาทิตย์ตกดิน
    " ชีวิตคนเรา ก็เหมือนพระอาทิตย์นะ มีขึ้นก็ต้องมีลง อะไรก็ไม่แน่นอนจริงๆ " ตะวันเอ่ยขึ้นมาลอยๆ
    " ก็ใช่นะ ทุกอย่างบนโลกนี้ ไม่มีอะไรแน่นอนหรอก ยิ่งคิดมันก็ยิ่งซับซ้อน " จุลลาพูดด้วยน้ำเสียงนิ่งๆ
     
    " ทำไมคุณถึงยังไม่แต่งงานละจุลลา " ตะวันหันมาถามคำถามนี้ เล่นเอาเธออิ้งไม่รู้จะตอบอย่างไงเลยทีเดียว
     
    " ก็ไม่รู้สิ ในหัวมันไม่ได้สนใจเรื่องนี้ อยู่แบบนี้ก็ดีแล้วนี่ แล้วนายละทำไมถึงไม่แต่งงาน " จุลลาย้อนถามเขา
     
    " ก็ไม่รู้เหมือนกัน อยากทำงานมากกว่ามั่ง " ตะวันตอบจุลลา
    " ยังไม่เจอคนที่ใช่ มากกว่าละม้าง " จุลลาเถียงตะวัน ตะวันหันมามองหน้าจุลลา
    " ก็มีส่วนนะ ผมขอตัวก่อนละกัน " ตะวันพูดจบ ก็ลุกปีนรั้วกลับมาที่ไร่ตัวเอง
    " คุณก็ละวังละ นี่มันจะมืดแล้ว " ตะวันพูดแค่นั้นก็เดินไปที่บ้านพักของเขาทันที จุลลามองตามตะวัน
    " เชอะ ยังลืมรักเก่าไม่ได้อะสินายเผือกขาวเอ้ย " จุลลาพูดไล่หลังตะวัน เธอนั้งเซ็งๆ จนค่ำก็กลับบ้านพัก
     
    หลายวันผ่านไป จุลลาใช้เวลาส่วนใหญ่ ในการทำงาน เรียนรู้งานในไร่ ว่างๆถึงจะไปช่วยเก่งซ่อมรถที่อู่ ส่วนตะวันก็ทำแต่งาน ไปกลับกรุงเทพ ราชบุรี เพราะบริษัทของเขากำลังจะปิดงบประจำปี ตะวันเลยงานยุ่งมากๆในช่วงนี้ ตะวันกับจุลลาเลยไม่ค่อยได้เจอกันเท่าใหร่ แต่เจอกันทีไรก็เขม่นกันทุกที เถียงกันตลอด แต่ดูท่าจะเบาลงกว่าเจอกันทีแรกนีดนึง
     
    วันนี้ดาวมาที่บ้านพักในไร่จุลภาส เพราะจุลภาสชวนมากินข้าวเย็นกัน ดาวเลยมาช่วยจุลลาทำกับข้าวในครัว
    ดาวหันมามองจุลลาที่กำลังทำกับข้าว
     
    " พี่จุลลานี่เก่งนะค่ะ ทำอาหารก็เก่ง งานในไร่ งานอื่นๆก็เก่ง " จุลลาหันมายิ้มให้ดาว
    " ไม่เก่งหรอกจ๊า พอทำได้ พี่ไม่เหมือนน้องดาว ทั้งน่ารัก ทั้งเก่งงานบ้าน งานในบริษัทอีก พี่จุลโชคดีนะที่ได้เป็นแฟนกลับน้องดาว " จุลลาเอ่ยชมว่าที่พี่สะใภ้ในอนาคต เพราะจุลภาสชอบดาวมากเลยทีเดียว
    " แล้วพี่จุลลาละค่ะ ชอบผู้ชายแบบไหน แล้วทำไมพี่จุลลาถึงโสดค่ะ เพราะพี่จุลลาออกจะสวยครบสูตร " ดาวเอ่ยถามจุลลา
     
    " ถามยาวเลยนะจ๊าน้องดาว พี่ก็ไม่รู้อ่ะนะ พี่อยากโสดละมั้ง หรือไม่มันคงยังไม่ถึงเวลามีคู่ " จุลลายิ้มให้ดาว ทั้งที่มือก็ยังทำอาหารอยู่
    " แล้วพี่จุลลาชอบผู้ชายอย่างไงค่ะ "
    " อืม พี่ชอบคนทำงาน ชอบคนจริงใจ ไม่เจ้าชู้ และก็รักพี่ที่ตัวพี่เป็น เท่านี้ก็พอแล้วจ๊า "
    " โห งั้นพี่อาทิตย์ก็แห้วอะสิค่ะ ถ้าพี่ตะวันละครบเลยที่พี่จุลลาต้องการ " ดาวยิ้มตอบจุลลา
    " หือ " จุลลาหันมามองดาว อย่างสงสัย
    " ก็พี่ตะวันเขาทำแต่งาน รักใครรักจริง ตั้งแต่โดนยายแม่มดนิริน หักอกพี่ตะวันก็เปลี่ยนไป " ดาวพูดแบบโมโห เมื่อนึกถึงนิริน
    " ทำไมเหรอดาว " จุลลามองดาวด้วยอาการอยากรู้
    " ก็พี่ตะวันกำลังจะขอยายนิรินแต่งงานไงค่ะ แต่ยายนิริน กลับมาบอกเลิกพี่ตะวันหน้าตาเฉย แล้วก็ไปแต่งงานกับคนที่รวยกว่าพี่ตะวันเมื่อ4ปีก่อน "
     
    " เหรอน้องดาว " จุลลามองหน้าดาวอย่างอิ้งๆ ที่รู้ความจริงเรื่องตะวันกับนิริน
    " ใช่ค่ะพี่ ดาวเกรียดยายนิริน ยายนั้นเกือบทำพี่ตะวันเสียคน เลิกพูดเถอะค่ะ ยิ่งพูดยิ่งโมโห พี่จุลลาสอนดาวทำกับข้าวดีกว่านะค่ะ" จุลลาหันมามองดาว
    " น้องดาวก็ทำเก่งอยู่แล้วนี่จ๊า "
    " ไม่จริงเลยค่ะ พี่จุลลาทำอร่อยกว่าดาวตั้งเยอะ " ดาวยิ้มให้จุลลา
    " เหรอจ๊า ชมกันเกินไปไหมน้องดาว "
    " ก็จริงนี่ค่ะ ถ้าดาวเป็นผู้ชายนะค่ะ คงรีบขอพี่จุลลาแต่งงานเลยละค่ะ " ดาวแซวจุลลา
    " ไม่หรอก คงไม่มีใครชอบพี่ขนาดนั้นหรอก " จุลลายิ้มให้ดาว
    " จะไปรู้เหรอค่ะพี่ พี่จุลลาเก่งขนาดนี้ ใครไม่รักก็บ้าแล้ว แต่ที่รู้มีพี่อาทิตย์ ละ1คน ที่จะจีบพี่จุลลา " ดาวยิ้มให้จุลลา บอกให้เธอรู้ว่าอาทิตย์จะจีบเธอ
    " จ๊า ทำต่อเถอะจ๊า จะค่ำแล้ว "
    "ค่ะพี่ " 2คนก็ช่วยกันทำอาหารเย็นกัน ทำไปคุยกันไป เฮฮาสนุกสนานลั้นครัวเลยทีเดียว
     
    พอ6โมงเย็น อาทิตย์ ตะวัน จุลภาสนั้งรอ 2สาวยกอาหารมาวาง แล้ว2สาวก็มานั้งที่โต๊ะอาการ 
    " โห อาหารน่ากินทั้งนั้นเลยนะครับ " อาทิตย์ทำตาโต
    " ลองกินดูนะค่ะ ฝีมือพี่จุลลาทั้งนั้นเลยค่ะ ดาวแค่เป็นลูกมือ " ดาวบอกอาทิตย์ด้วยใบหน้ายิ้มชื่นชมจุลลา
    " เหรอ สงสัยพี่คงต้องอืด กลิ้งกลับบ้านแน่เลยวันนี้ " 
    " เว่อร์ไปไหมอาทิต " ตะวันมองค้อนอาทิตที่ชอบพูดอะไรเกินคงามจริง
    " ก็จริงนี่หว่า นานๆจะได้กินอาหารฝีมือจุลลา " อาทิตหันมายิ้มให้จุลลา จุลลาก็ยิ้มให้อาทิต ทำเอาตะวัน ไม่สบอารมณ์ หงุดหงิดเลยทีเดียว
     
    " อยากกินก็มาสิค่ะ จุลลาจะทำให้กินค่ะ "
    " ได้เหรอครับ " อาทิตทำหน้าเป็นกระต่ายตื่นตูมเลยทีเดียว
    " ได้ค่ะถ้าว่างนะค่ะ " จุลลายิ้มให้อาทิตแล้วหันมามองตะวันที่หน้าบิ้งอยู่ จุลลาก็ไม่ได้สนใจอะไร หันไปมองอาทิต ที่นั้งยิ้มให้จุลลา
    " อ่าวกินไปคุยกันไปก็ได้ เดี๋ยวกับข้าวเย็นหมด " จุลภาสบอกทุกคน
    ทั้งหมดก็กินกันไปคุยกันไป เฮฮา แต่คนที่ดูจะอารมณ์ไม่ดีคือตะวัน ที่นั้งฟังอย่างเดีลวไม่ค่อยจะออกความเห็นเท่าใหร่ เหมือนกำลังเครียดเรื่องอะไรบางอย่างอยู่ในใจ
     
    ( ตอนต่อไป ขอบอกว่า ฟินนีดนึงนะ อิอิ )
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×