ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ชมรมขนหัวลุก ปี2

    ลำดับตอนที่ #3 : ผีถ้วยแก้ว

    • อัปเดตล่าสุด 21 ต.ค. 48


        สวัสดีครับขอต้อนรับสู่ชมรมของเราอีกครั้งนะครับ ผมบอกเอาไว้ในตอนที่แล้วนะครับว่าผมจะมาเล่าเรื่องที่ผมกับสมาชิกของชมรมจะไปลองของกันซักหน่อย คือพวกผมจะไปเล่าผีถ้วยแก้ว ผมได้อะไรมามากมายเลย

        ผมขอย้อนไปเมื่อ 2 วันที่แล้วนะครับ ตอนที่ผมกล่าวจบเรื่องของคุณธนาณัติ หล่าวสมาชิกก็เริ่มมากันแล้ว ที่มาก็ มี ฟ้า, แป้ง, แตง, ยุทธ์, อ้อ, แนบ, คุณธนาณัติชื่อเล่นชื่อแบงก์

       สมาชิกบางคนยังเป็นนักศึกษาอยู่เลย ผม, แนบ, ยุทธ์, อ้อ, แป้ง กำลังอยู่ปี2 เอกนิเทศ (เป็นเพื่อนและเป็นคนก่อตั้งชมรม) ผมกับสมาชิกคนอื่นๆออกมารับประทานอาหารข้างนอกชมรม อื่ม ลมหนาวเริ่มพัดมาแล้ว เรารู้สึกหนาวกันจริงๆ (ตอนกลับไปที่ชมรมคงต้องหาเสื้อกันหนาวใส่ซะแล้ว) เมื่อเราทานข้าวเสร็จแล้ว เดินออกมานอกร้านอาหารยิ่งหนาวไปใหญ่ นั้นแหละเราเข้าไปหาเสื้อกันหนาวที่ห้องเก็บชุด อื่อ สวมเสื่อแล้วค่อยอุ่นขึ้นหน่อย เราลงบันไดไปชั้นใต้ดิน มันค่อนข้างมืดเพราะหลอดไฟนีออนพึ่งขาดไปเมื่ออาทิตย์ก่อน เราเดินลงไปเรื่อยๆอากาศที่นี่ค่อนข้างอับ(แน่ละเพราะช้างในนี้ไม่มีหน้าต่าง) เอ้... อุปกรณ์มันอยู่ที่ไหนนา อ้อ. อยู่นั้นเอง เราได้ของแล้วก็รีบเดินขึ้นไปข้างบน(ไม่รู้ทำไมเวลาที่เดินเข้ามาในนี้ต้องรู้สึกหวาดๆด้วยนะ) พอเดินออกมาข้างนอกท้องฟ้าก็มืดแล้ว เอาละเราจะได้เริ่มกันซะที ข้างในทั้งอับทั้งมืดทั้งเหม็น แสงไฟฉายเริ่มส่องมองทาง

         บันไดข้อนข้างเก่าแก่ เราไม่ต้องมองหาลิฟต์เสียให้ยาก เสียงไม้ลั้นกราวน้ำหนักที่ขึ้นเยอะกว่าเดิมหลายเท่า เสียงหัวเราะได้ดังมาใกล้ๆพวกเราทำให้เราขนลุกเกลียว  ปัง! เสียงวัตถุกระทบกับพื้น เสียงหัวเราะหยุดไปซักพัก แล้วเริ่มขึ้นมาอีกครั้ง เสียงหัวเราะใกล้เข้ามา ใกล้เข้ามา....... เด็กผู้ชายกลุ่มเล็กๆวิ่งออกมาจากซอกหลืบข้างหน้า พอพวกเด็กๆนั้นเห็นพวกเราก็ได้เงียบลงพรางเดินเร่งๆผ่านเราไปผมว่าผมได้กลิ่นบางอย่างโชกออกมาจากพวกเด็กๆแต่ผมยังไม่แน่ใจว่าเป็นกลิ่นอะไรพวกเขาก็หายลับไปซอยข้างๆแล้ว ผมรู้สึกออกจะยังไงๆอยู่เลยวิ่งตามไปดู แต่ข้างหน้าผมมันเป็นห้องที่ล็อกประตูไม่มีทางที่เด็กพวกนั้นจะเข้าไปได้ ผมเรียกให้สมาชิกคนอื่นๆมาดู  ต่างฝ่ายต่างพูดไม่ออกแต่แล้วสมาชิกคนหนึ่งก็ชี้ให้ดูที่ประตู นั้น....... มันไม่ได้ล็อกนี่ เราตกลงกันได้ในที่สุดแล้วว่าเราจะเข้าไปเล่นในนี้แหละ ผมเอื่อมือไปเปิดประตูออกกลิ่นคาวฟุ้งกระจายออกมามันแรงจนผมต้องเอียงหน้าหลบ  เราเดินเข้าไปทีละคน สายไฟฉายส่องไล่ความมืดและหาที่เหมาะๆ เรานั้งกันตรงกลางห้องผมรู้สึกว่าขนผมเริ่มตั่งชันขึ้นไม่รู้ว่าทำไม  ผมเริ่มปูกระดานและจัดตั่งอุปกรณ์ มีเสียงหัวเราะดังมาใกล้ๆหู ผมหันไปดูโดยเร็ว แต่ก็ไม่เห็นอะไร(ตอนนั้นผมคิดว่าตัวเองหูแว่ว) ผมทำพิธีกันซักพัก ควันธูปที่ผมจุดลอยคว้างหมุนเป็นวงในแก้ว เราเร่งทำสมาธิซักพัก ทั้งๆที่เมื่อกี๊ก็หนาวแต่เดี๋ยวนี้พวกเรากับเหงื่อชุ่มตัว ต่อมาก็กับเป็นหนาวสุดๆ สลับกันไปมาแต่เรานั้งกันนิ่งไม่กระดุกกระดิก ความอึดอัดเริ่มแทรกเข้ามา กริ๊ง! เสียงนี้ราวนี้กับทำให้ความรู้สึกต่างๆได้หยุดลง เราลืมตาขึ้นมา ข้างๆสมาชิกคนอื่นเริ่มขยับตัวแล้วเช่นกัน แก้วในมือเริ่มสั่นนิดๆ คำถามต่างๆได้ผ่านไปจนถึงคำถามสุดท้าย เราดันไปถามว่า คุณต้องการอะไร แก้วเคลื่อนที่แล้วอ่ามนได้ว่า ข้าต้องการพวกเจ้าไปอยู่ด้วย แล้วแก้วก็แตกกระจาย ขวัญธูปฟุ้งกระจายไปทุกทิศทาง เสียงหัวเราะของเหล่าเด็กๆ ได้ดังขึ้นอีกครั้ง ไฟฉายเริ่มดับไปทีละกระบอก พักเดียวทั้งห้องก็มืดสนิท เสียงหัวเราะดังขึ้นเรื่อยๆ ร่างสีขาวขุ่นๆเรืองรองได้ปรากฏขึ้น ร่างนั้นพุ่งมาหาพวกเรา เรารู้สึกหายใจไม่ออก เหมือนมีใครเอาควันไฟมารมหน้า ผมไม่รู้ว่ามีอะไรเกิดขึ้นอีกเพราะผมได้หมดสติไปนับตั้งแต่นั้น

         ผมรู้สึกตัวอีกครั้ง เหมือนใครเอาไม้มาสะกิดพร้อมด้วยเสียงหัวเราะเล็กๆ ผมลืมตาขึ้นเห็นเหมือนกลุ่มหมอกเคลื่อนตัวออกห่างไป แสงแดดแยงตาแล้ว เหล่าสมาชิกก็ฟื้นขึ้นทีละคนๆเราพากันออกมาจากข้างนอกเงียบๆ เงียบมากๆ ไม่มีใครพูดกันเลย แต่อ้อสัญญาว่าจะมาเล่าเรื่องต่อไปอยู่ อ้อว่าจะพาเพื่อนอีก2คนมาสมัครสมาชิกด้วย

           นี่แหละครับ ผมก็เป็นไข้เสีย2วัน น่าอายจริงๆ อาทิตย์หน้าเราค่อยมาพบกันใหม่นะครับ สวัสดีครับ          

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×