ลำดับตอนที่ #3
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : ♡ - TEST
ถึงวันสอบ ...........
การเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยน มันไม่ใช่ว่าจะเป็นกันง่ายๆ
และจะได้เป็นกันทุกคน
และด่านแรกสำหรับการคัดเลือกนักเรียนแลกเปลี่ยน
ก็คือการ
" สอบ "
ทุกคนได้ยินคำนี้ก็จะเริ่มเพลียกันไปบ้างแล้ว ...
แต่มันก็ถือเป็นการที่จะคัดความสามารถของนักเรียนแต่ละคน
ที่จะไปเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนที่มีคุณภาพในภายหน้า
และสามารถพึ่งพาตัวเองได้เวลาคับขัน
และที่สำคัญคือ เวลาเราอยู่นู่น
เราต้องพึ่งแค่ตัวเอง ....
ฉะนั้น ด่านแรกก็คือการ สอบ !!!!!!!
ที่ปุ๋ยผ่านมาก็ขอเน้นที่ของ EF แล้วกัน เพราะไม่ได้ไปสอบของโครงการอื่นเลย
ที่นี่ ที่เดียว และก็ผ่านมาแล้ว สงสัยฟลุ้ค T - T
ข้อสอบนี้ที่เราโดนสอบมาก็คือข้อสอบที่เรียกว่า
SLEP TEST(Second Level English Proficiency Test)
หน้าตามันจะคล้ายๆ แบบนี้ อันนี้ยืมรูปมาจากใน google นะคะ T-T
สำหรับตัวข้อสอบแล้ว ถ้าใครบอกว่าไม่ยาก
ปุ๋ยขอค้านค่ะ
หรือมันอาจจะเป็นเพราะสกิลเราอ่อนเอง .. = _ =
อันนี้มีีความเป็นไปได้สูง 5555555555555555 เพราะเรากากแกรมม่ามาก
เท่าที่รู้กันก่อนไปสอบคือ การสอบครั้งนี้แบ่งเป็น 2 Part คือสำหรับช่วงเช้าแล้ว
ก็จะมีการสอบข้อเขียน แล้วจะแจ้งผลข้อเขียนหลังจากสอบเลย
ให้ขึ้นไปดูที่หน้าห้องสอบแล้วจะดูชื่อว่ามีสิทธิ์ิสอบสัมภาษณ์ต่อในช่วงบ่ายไหม
ช่วงเช้าเราก็ด้วยความเหนื่อย นั่งรถไปจากสุพรรณแต่เช้า ไปที่อาคารมหามกุฎ (ในจุฬาฯ)
ตอนแรกก็ซึนๆค่ะ ไม่เคยมาเดินในนี้เลย ด้วยความบ้านนอก
ง่วงมาแต่เช้า ก็เกือบหลับพาร์ท Listening เหมือนกัน
อ้อ แล้วในช่วงเช้า สอบข้อเขียนนี่ก็จะแบ่งเป็นพาร์ทๆนะ
จะมีพาร์ท Listening ก็จะมีเสียงฝรั่งพูด พี่เขาจะเปิดเทปให้ฟัง
ช่วงแรกๆ สำหรับเราเราว่าเราฟังออกเยอะ พาร์ทนี้เราว่าเราทำคะแนนได้เยอะ
แต่พอพาร์ทต่อมาคือ Reading นี่ก็จะมีพวก
Passage ยาวๆ มาให้อ่าน แล้วจับใจความ , Cloze test
และส่วนใหญ่ก็จะเป็นการวัดกึ๋น Grammar เราซะส่วนใหญ่
ซึ่งมันเป็นจุดฉุดคะแนนฉันมาก ... = _ =
แล้วสำหรับของ EF ก็จะมีการเขียน Essay หนึ่งหน้ากระดาษ 250 คำ
ก็จะให้เขียนทำนองว่า ทำไมเราถึงอยากมาเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยน
ถ้าเราได้เป็นแล้วเราจะทำอะไรบ้าง แล้วถ้าจำไม่ผิดเหมือนจะให้เขียนบอก
Host Family ในอนาคตด้วยอะไรงี้ ถ้าจำไม่ผิดนะ T_T
พาร์ทต่อมาก็จะเป็นการเทสต์ Attitude ของเรากับการเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยน
ตามหัวข้อเลยว่า Attitude Test คือการวัดทัศนคติของเรา ทำนองว่า
ถ้าเราเจอแบบนั้นในปีแลกเปลี่ยนของเรา หรือกับโฮสต์แฟมิลี่ของเรา
เราจะรับได้ไหม ? เราจะอยู่ได้ไหม ? เราจะรังเกียจที่จะอยู่กับเขาไหม ? ทำนองนี้
แล้วก็จะมีปัญหามาว่าถ้าเราเจออะไรแบบนี้ เราจะแก้ปัญหายังไง
(ส่วน Attitude นี่จะเป็นส่วนภาษาไทยนะ)
สุดท้ายก็ผ่านมันมาได้ข้อสอบช่วงเช้า ...
ตื่นเต้นมากตอนขึ้นไปดูผลค่ะ แบบใจเต้นสุดฤทธิ์ คือถ้าไม่ผ่านนี่
ขับรถกลับบ้าน แบบเหงาหงอยซึมเศร้าแน่ๆ
ตอนแรกก็ลืมว่าต้องไปดูที่ห้องเดิมรึเปล่าเลยถามเด็กคนนึงที่มาสอบรุ่นเดียวกัน
ยืนอยู่หน้าอาคารนั่นแหละ เราเดินไปถามว่า ' ดูคะแนนที่ไหนหรอ '
เพื่อนคนนั้นก็บอกว่าหน้าห้องที่สอบเมื่อเช้าอะ เราก็ขอบคุณ
แล้วก็ถามคำถามคำนี้ไป ซึ่งเรารู้สึกผิดมาก ว่า ' ผ่านป่าว !! '
คือเพื่อนคนนั้นเขาไม่ผ่าน คือเราแบบใจไม่ดีเลยอะตอนนั้น
รู้สึกผิดกับเพื่อนคนนี้ด้วย T_T เราขอโทษนะถ้ามาอ่าน ..
เสร็จตอนขึ้นนี่ใจไม่ดีเลยอะ คำว่า ... " จะติดป่ะวะ " เต็มหัว
แต่พอขึ้นไป ก็ไล่ดูเลข THB (เลขประจำตัวเข้าสอบของเรา) ใจก็เต้นตลอด
คือพอมีชื่อว่าอยู่สอบสัมภาษณ์ต่อ นี่แทบกรี้ดหน้าห้องเลยค่ะ TvT
ตกใจมากๆๆ แบบยิ้มน้ำตแทบไหลกับแม่ ปริ่มมากค่ะประเด็น
พี่คนที่ยืนรออยู่หน้าห้องก็บอกให้เรารีบเข้าไปนั่งรอสอบสัมภาษณ์ต่อเลย
.
เข้าถึงการทดสอบพาร์ทสุดท้ายของการสอบคัดเลือกครั้งนี้
คือพาร์ท Interview
ช่วงสอบสัมภาษณ์ตามความคิดเราเองนะ
เราว่าถ้าผ่านช่วงเช้ามาแล้วก็แสดงว่าสกิลอังกฤษเราอยู่ในเกณฑ์ใช้ได้แล้วล่ะ
คือก็อาจจะถือได้ว่าเราฟังเขารู้เรื่องแล้ว คราวนี้ก็ถึงตาตอบคำถาม
อาจารย์เขาก็จะถามถึงเกี่ยวกับตัวเรา เราอยากไปประเทศอะไร
เราอยากไปทำอะไรที่อเมริกา หรือทำไมเราถึงอยากไปอะไรงี้
เป็นคำถามเบสิกๆ สำหรับเราเราว่ามันไม่ยากนะ แค่ตอบที่เป็นตัวของเราเอง
ถ้าตอบไม่ได้ก็ยิ้มเข้าไว้ มันจะไม่ทำให้เราเกร็ง เพราะเราก็ทำมาวิธีนี้ 555555
คือมีตอนตอบไม่ได้ก็ยิ้มอย่างเดียว
อาจารย์ไม่ดุเลยจริงๆ ปลื้มมากตอนสุดท้าย
คืออาจารย์ยื่นซองให้ว่าเราผ่านนะ คือแบบยิ้มปากแทบฉีกเลยค่ะวันนั้น TvT
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น