ลำดับตอนที่ #2
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : ♡ - WHY I CHOOSE EF ?
สวัสดีครั้งที่สองทุกคน !!!
คือไม่ได้เข้ามานานมากแทบไม่มีเวลาเลย T_T
วันนี้ก็วันที่ 25 มิถุนาแล้ว ... (D-27)
แต่กว่าจะมาถึงวันนี้ได้ เราก็จะมาย้อนอดีตถึงวันที่เราตัดสินใจ
เข้าร่วมโครงการนักเรียนแลกเปลี่ยนของโครงการ EF นี้ !
* รัวกลอง * #บ้า #ขอโทษ TvT
ตอนแรกเลยคือคิดมานานแล้วว่าอยากเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนมาก
คือเห็นรุ่นพี่แต่ละคนไปกลับมาก็เก่งภาษากันกลับมาทั้งนั้น T-T
ครั้งหนึ่งคือเข้าไปในห้องพักครูของอีพีโรงเรียนเราเนี่ยแหละ
เหมือนจะไปให้ครูช่วยเช็คการบ้านหรืออะไรซักอย่างเนี่ยแหละ
เห็นพี่คนหนึ่งเพิ่งจะกลับมาจากอเมริกา แล้วพี่เขารัวภาษาอังกฤษ
คุยกับครูฝรั่งคนในนึงในห้อง ขอเอ่ยชื่อพี่เขาแล้วกันนะ พี่เขาชื่อพี่ ' เอ ' เป็นพี่ผู้ชาย
ตอนนั้นเท่าที่จำได้เหมือนว่าเราจะอยู่ ม.1 แล้วพี่เขาขึ้นม.6
คือเห็นพี่เขาแล้วแบบ .. สตั้นเลย แบบ โหอะไรจะเก่งขนาดนั้น
เลยแบบ เห้ย ! เราก็อยากจะพูดอะไรแบบนั้นได้บ้างอะ ประทับใจมาก
เลยเริ่มคิดตั้งแต่วันนั้นเลยว่าอยากจะไปแลกเปลี่ยนบ้างอะไรบ้าง
แต่พอมาเรื่อยๆ ความหวังเราก็เริ่มน้อยลงๆ เพราะไม่มีความมั่นใจเลย
ว่าเห้ย เราจะสอบได้ป่ะวะ มันจะยากเกินตัวเราไปไหม ?
สารพัดเรื่องที่ทำให้เราเริ่มสิ้นหวัง ..
จนมาถึงวันหนึ่ง ช่วงม.3
ทุกๆปีก็จะมีแบบ AFS อะไรงี้เข้ามาเปิดสอบในโรงเรียนเราไรงี้ใช่ป่ะ
เพื่อนเราทั้งกลุ่มก็ไปลงชื่อสอบข้อเขียนกัน (ในกลุ่มมี 5 คน ไปกันหมดยกเว้นเรา)
ที่เราไม่ได้ไปเพราะ เหตุผลที่ว่า .............
" อ า ยุ ไ ม่ ถึ ง เ ก ณ ฑ์ "
บ้าจริง .......
คือตอนนั้นก็ทำให้ล้าเหมือนกัน แบบเห้ยเหลือเราคนเดียวอะ
ทำไมอะทำไมๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
คืออารมณ์ทำนองว่าเพื่อนจะไปกันหมดกลุ่ม ปล่อยฉันทิ้งไว้
" ค น เ ดี ย ว "
และผลสอบก็ออกมา
เพื่อนติดข้อเขียนกันไปซะ 3 คน ....
แต่ครูมาบอกอีกทีว่า ครูขอคนที่ไปแน่ๆ ไปสอบสัมภาษณ์
เราก็จำไม่ได้เหมือนกันว่าสาเหตุอะไร แต่มีเพื่อนคนนึงขอเอ่ยชื่อแล้วกัน
ชื่อ " หลิว " ก็ไปสอบสัมภาษณ์
ผลออกมาก็ ผ่านค่ะ !!!
นั่นไงเพื่อนฉัน โชคดีสุดๆ เจ๊แกเป็นพี่ใหญ่สุดของกลุ่ม
อายุมากสุด แล้วเจ๊ก็เลือกไป จีน (หอพัก) ของโครงการ AFS
โฆษณาให้เพื่อนหน่อย เข้าไปอ่านประสบการณ์ได้น้า
ตอนนี้เพื่อนเราเพิ่งจะกลับมา ไปอ่านได้ๆๆ ลิงค์ข้างล่างเลยๆ
http://www.dek-d.com/content/studyabroad/31905/
เข้าเรื่องเราต่อ ..
โอเค หลังจากหลิวเริ่มก้าวเข้าสู่โครงการนักเรียนแลกเปลี่ยน
ก็ทำให้เรารู้สึกแบบ เห้ย ! เพื่อนเราทำได้
ทำไมเราจะทำไม่ได้วะ อะไรทำนองนี้ คือแบบเห้ยอยากไปมาก !!
เลยแบบ เอาวะ รอสอบปีหน้าก็ได้ ไปปีม.5 ก็ได้
เราก็เริ่มฮึดอีกครั้ง ...
.
พอ AFS ปี 2012 เริ่มเข้ามา เราก็เห้ย! เราจะเอาแน่ๆ
ฉันต้องสมัคร ฉันต้องไปสอบให้ได้ !!!!!
แต่ที่ไหนได้ ..
ฝั น ส ล า ย ค่ ะ . . .
วันที่สอบ AFS ตรงกับวันที่ต้องไปฮ่องกง-มาเก๊ากับที่บ้านพอดี ..
บ้าจริง นี่มันอะไร ...
.
จุดนั้นคือสับสนมาก แต่สุดท้ายก็ยอมตัดใจไปเที่ยวกับที่บ้าน
แล้วบอกป๊าว่าเดี๋ยวปุ๋ยลองศึกษาของที่อื่นดูก่อน
เพราะก็รู้ๆมาว่า มันไม่ได้มีแค่โครงการเดียว ...
(คือจุดนั้นก็แบบไม่ค่อยรู้อะไรมากเลยเรื่องโครงการแลกเปลี่ยน
คือประเด็นคือบ้านนอกมาก มองอยู่แค่ AFS ไง T _ T )
จนกลับมาจากมาเก๊า ก็ลองกลับมานั่งเสริช ศึกษาเกี่ยวกับโครงการแลกเปลี่ยน
แต่ก็แบบ เห้ย เห็น EF อยู่บ่อยๆนะ
คือเคยเข้าไปดูเกี่ยวกับไป Summer ที่ต่างประเทศอะไรงี้
น่าจะเวิร์ค ตอนนั้นก็เข้าไปลองดู
ลองเข้าไปเล่นในเว็บ ef.co.th ก็จะมีแบบข้อสอบลองทำ
วัดระดับภาษาอะไรของตัวเรา เราก็ลองทำไปแล้วก็จะมี
กรอกเบอร์โทร , e-mail เพื่อจะส่งผลมาให้เราดูระดับ skill ภาษาอังกฤษของเรา
เสร็จวันนั้นทำไปเล่นๆ ก็ไม่คิดว่าจะมีอะไรเกิดขึ้น
มีพี่จากทาง EF โทรมาแจ้งคะแนนเรา จุดนั้นคือตกใจ ใครโทรมาวะ
แล้วพี่เขาก็พูดทำนองว่า พี่โทรมาจากอีเอฟนะ สกิลภาษาเราก็โอเคนะ
แล้วก็แนะนำว่าเราต้องปรับปรุง หรือเพิ่มอะไรตรงไหน
และสิ่งที่ประทับใจอย่างแรกจากอีเอฟคือ
พี่ที่โทรมาใจดีมากค่ะ ปุ๋ยปลื้มมาก T vvvvvvvvvv T
เสร็จก็มีวันนึงลองเข้าไปดูหน้าเว็บ ก็มีเขียนทำนองว่า
มีประกาศสมัครรับนักเรียนแลกเปลี่ยน รุ่น 18 สอบรอบแรก
อะไรทำนองนี้ .. จุดนั้นคือเราแบบ เห้ย ! เอาแล้วว่ะเอาแล้ว ๆ
ตื่นเต้น เลยไปนั่งคุยกับแม่ก่อนว่าอยากไปสอบบ้างอะแม่
แม่ก็บอกว่าลองไปลองข้อสอบก็ได้นี่ลูกอะไรงี้
(ประเด็นคือแม่คิดว่าเราไม่ได้แน่มั้ง ... )
เลยคุยกับป๊าอีกทีว่าจะไปสอบนะ แล้วป๊าก็ไม่ได้ขัดอะไรเลย
(ป๊าคงคิดแบบแม่ ... 55555555555 )
ในใจเราก็ เอาวะ ! ต้องทำให้ป๊าแม่เห็นถึงความพยามเราให้ได้ !
พูดในใจเสมอว่า เราต้องไปให้ได้ !!!!!!!!!!!!
และนี่แหละก็เป็นจุดเริ่มต้นของปุ๋ยกับการก้าวเข้าสู่
การเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนของโครงการ EF
คือไม่ได้เข้ามานานมากแทบไม่มีเวลาเลย T_T
วันนี้ก็วันที่ 25 มิถุนาแล้ว ... (D-27)
แต่กว่าจะมาถึงวันนี้ได้ เราก็จะมาย้อนอดีตถึงวันที่เราตัดสินใจ
เข้าร่วมโครงการนักเรียนแลกเปลี่ยนของโครงการ EF นี้ !
* รัวกลอง * #บ้า #ขอโทษ TvT
ตอนแรกเลยคือคิดมานานแล้วว่าอยากเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนมาก
คือเห็นรุ่นพี่แต่ละคนไปกลับมาก็เก่งภาษากันกลับมาทั้งนั้น T-T
ครั้งหนึ่งคือเข้าไปในห้องพักครูของอีพีโรงเรียนเราเนี่ยแหละ
เหมือนจะไปให้ครูช่วยเช็คการบ้านหรืออะไรซักอย่างเนี่ยแหละ
เห็นพี่คนหนึ่งเพิ่งจะกลับมาจากอเมริกา แล้วพี่เขารัวภาษาอังกฤษ
คุยกับครูฝรั่งคนในนึงในห้อง ขอเอ่ยชื่อพี่เขาแล้วกันนะ พี่เขาชื่อพี่ ' เอ ' เป็นพี่ผู้ชาย
ตอนนั้นเท่าที่จำได้เหมือนว่าเราจะอยู่ ม.1 แล้วพี่เขาขึ้นม.6
คือเห็นพี่เขาแล้วแบบ .. สตั้นเลย แบบ โหอะไรจะเก่งขนาดนั้น
เลยแบบ เห้ย ! เราก็อยากจะพูดอะไรแบบนั้นได้บ้างอะ ประทับใจมาก
เลยเริ่มคิดตั้งแต่วันนั้นเลยว่าอยากจะไปแลกเปลี่ยนบ้างอะไรบ้าง
แต่พอมาเรื่อยๆ ความหวังเราก็เริ่มน้อยลงๆ เพราะไม่มีความมั่นใจเลย
ว่าเห้ย เราจะสอบได้ป่ะวะ มันจะยากเกินตัวเราไปไหม ?
สารพัดเรื่องที่ทำให้เราเริ่มสิ้นหวัง ..
จนมาถึงวันหนึ่ง ช่วงม.3
ทุกๆปีก็จะมีแบบ AFS อะไรงี้เข้ามาเปิดสอบในโรงเรียนเราไรงี้ใช่ป่ะ
เพื่อนเราทั้งกลุ่มก็ไปลงชื่อสอบข้อเขียนกัน (ในกลุ่มมี 5 คน ไปกันหมดยกเว้นเรา)
ที่เราไม่ได้ไปเพราะ เหตุผลที่ว่า .............
" อ า ยุ ไ ม่ ถึ ง เ ก ณ ฑ์ "
บ้าจริง .......
คือตอนนั้นก็ทำให้ล้าเหมือนกัน แบบเห้ยเหลือเราคนเดียวอะ
ทำไมอะทำไมๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
คืออารมณ์ทำนองว่าเพื่อนจะไปกันหมดกลุ่ม ปล่อยฉันทิ้งไว้
" ค น เ ดี ย ว "
และผลสอบก็ออกมา
เพื่อนติดข้อเขียนกันไปซะ 3 คน ....
แต่ครูมาบอกอีกทีว่า ครูขอคนที่ไปแน่ๆ ไปสอบสัมภาษณ์
เราก็จำไม่ได้เหมือนกันว่าสาเหตุอะไร แต่มีเพื่อนคนนึงขอเอ่ยชื่อแล้วกัน
ชื่อ " หลิว " ก็ไปสอบสัมภาษณ์
ผลออกมาก็ ผ่านค่ะ !!!
นั่นไงเพื่อนฉัน โชคดีสุดๆ เจ๊แกเป็นพี่ใหญ่สุดของกลุ่ม
อายุมากสุด แล้วเจ๊ก็เลือกไป จีน (หอพัก) ของโครงการ AFS
โฆษณาให้เพื่อนหน่อย เข้าไปอ่านประสบการณ์ได้น้า
ตอนนี้เพื่อนเราเพิ่งจะกลับมา ไปอ่านได้ๆๆ ลิงค์ข้างล่างเลยๆ
http://www.dek-d.com/content/studyabroad/31905/
เข้าเรื่องเราต่อ ..
โอเค หลังจากหลิวเริ่มก้าวเข้าสู่โครงการนักเรียนแลกเปลี่ยน
ก็ทำให้เรารู้สึกแบบ เห้ย ! เพื่อนเราทำได้
ทำไมเราจะทำไม่ได้วะ อะไรทำนองนี้ คือแบบเห้ยอยากไปมาก !!
เลยแบบ เอาวะ รอสอบปีหน้าก็ได้ ไปปีม.5 ก็ได้
เราก็เริ่มฮึดอีกครั้ง ...
.
พอ AFS ปี 2012 เริ่มเข้ามา เราก็เห้ย! เราจะเอาแน่ๆ
ฉันต้องสมัคร ฉันต้องไปสอบให้ได้ !!!!!
แต่ที่ไหนได้ ..
ฝั น ส ล า ย ค่ ะ . . .
วันที่สอบ AFS ตรงกับวันที่ต้องไปฮ่องกง-มาเก๊ากับที่บ้านพอดี ..
บ้าจริง นี่มันอะไร ...
.
จุดนั้นคือสับสนมาก แต่สุดท้ายก็ยอมตัดใจไปเที่ยวกับที่บ้าน
แล้วบอกป๊าว่าเดี๋ยวปุ๋ยลองศึกษาของที่อื่นดูก่อน
เพราะก็รู้ๆมาว่า มันไม่ได้มีแค่โครงการเดียว ...
(คือจุดนั้นก็แบบไม่ค่อยรู้อะไรมากเลยเรื่องโครงการแลกเปลี่ยน
คือประเด็นคือบ้านนอกมาก มองอยู่แค่ AFS ไง T _ T )
จนกลับมาจากมาเก๊า ก็ลองกลับมานั่งเสริช ศึกษาเกี่ยวกับโครงการแลกเปลี่ยน
แต่ก็แบบ เห้ย เห็น EF อยู่บ่อยๆนะ
คือเคยเข้าไปดูเกี่ยวกับไป Summer ที่ต่างประเทศอะไรงี้
น่าจะเวิร์ค ตอนนั้นก็เข้าไปลองดู
ลองเข้าไปเล่นในเว็บ ef.co.th ก็จะมีแบบข้อสอบลองทำ
วัดระดับภาษาอะไรของตัวเรา เราก็ลองทำไปแล้วก็จะมี
กรอกเบอร์โทร , e-mail เพื่อจะส่งผลมาให้เราดูระดับ skill ภาษาอังกฤษของเรา
เสร็จวันนั้นทำไปเล่นๆ ก็ไม่คิดว่าจะมีอะไรเกิดขึ้น
มีพี่จากทาง EF โทรมาแจ้งคะแนนเรา จุดนั้นคือตกใจ ใครโทรมาวะ
แล้วพี่เขาก็พูดทำนองว่า พี่โทรมาจากอีเอฟนะ สกิลภาษาเราก็โอเคนะ
แล้วก็แนะนำว่าเราต้องปรับปรุง หรือเพิ่มอะไรตรงไหน
และสิ่งที่ประทับใจอย่างแรกจากอีเอฟคือ
พี่ที่โทรมาใจดีมากค่ะ ปุ๋ยปลื้มมาก T vvvvvvvvvv T
เสร็จก็มีวันนึงลองเข้าไปดูหน้าเว็บ ก็มีเขียนทำนองว่า
มีประกาศสมัครรับนักเรียนแลกเปลี่ยน รุ่น 18 สอบรอบแรก
อะไรทำนองนี้ .. จุดนั้นคือเราแบบ เห้ย ! เอาแล้วว่ะเอาแล้ว ๆ
ตื่นเต้น เลยไปนั่งคุยกับแม่ก่อนว่าอยากไปสอบบ้างอะแม่
แม่ก็บอกว่าลองไปลองข้อสอบก็ได้นี่ลูกอะไรงี้
(ประเด็นคือแม่คิดว่าเราไม่ได้แน่มั้ง ... )
เลยคุยกับป๊าอีกทีว่าจะไปสอบนะ แล้วป๊าก็ไม่ได้ขัดอะไรเลย
(ป๊าคงคิดแบบแม่ ... 55555555555 )
ในใจเราก็ เอาวะ ! ต้องทำให้ป๊าแม่เห็นถึงความพยามเราให้ได้ !
พูดในใจเสมอว่า เราต้องไปให้ได้ !!!!!!!!!!!!
และนี่แหละก็เป็นจุดเริ่มต้นของปุ๋ยกับการก้าวเข้าสู่
การเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนของโครงการ EF
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น