คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : [JinRin] The Impossible Way (No.1)
“แหม...เลิกพูดแบบนั้นซักทีเถอะน่า ใช่ว่าฉันจะชอบอะไรแบบนั้นนะ”
“ฮะๆ พอได้แล้วน่า ฉันจะเลี่ยนตายอยู่แล้วเนี่ย”
“พูดอะไรออกมาเคยรู้ตัวบ้างมั้ยน่ะ...ห...ห๊ะ ...เปล่านี่! ไม่ได้เขินนะ!”
“บ้า! คนที่สวยกว่าฉันมีตั้งเยอะแยะไป แถมฉันเองก็ไม่ใช่...“
“เอาน่า...ฉันรู้ แต่ว่านะ...”
“...ใครเคยบอกกันล่ะว่าไม่รักน่ะ”
...ครับ ผมได้ยิน ‘พี่ชาย’ ของผมกุ๊กกิ๊กกับ ‘เขาคนนั้น’ มาหลายวันแล้ว
ถึงแม้รูปร่างหน้าตาลักษณะภายนอกของพี่ผมจะห่างไกลจากความเป็น ‘ชาติชาย’ อยู่มากโขเลยก็เถอะ แต่ถ้าได้ไปดูสูติบัตรแล้วล่ะก็ จะรู้ว่า “อาคิคาเสะ ริน” เจ้าของเสียงหวานใส ผมยาวสลวย นัยน์ตากลมโตชวนมอง ใบหน้าขาวนวล...เอ่อ เอาเป็นว่าเป็นคนสวยละกัน เป็น ‘เพศชาย’ แน่นอน ถึงตอนนี้เจ้าตัวจะมีชื่อใหม่ว่า “ฮารุกะ” ที่อัพดีกรีความโมเอะเข้าไปอีกสิบเท่าก็เถอะ
ผมไม่ได้แอ้ม นี่ผมพูดจริงๆ จากใจของผมเลยเนี่ย ผมอยู่กับพี่มาตั้งสิบห้าปี ผมมีเหตุผลดีๆซักข้อเหรอ...ไม่! แล้วผมจะโกหกไปทำแป๊ะอะไรล่ะ หือ? ขอถามหน่อย?
เอ้อ ใช่ ผมยังไม่ได้แนะนำตัวเองเลยนี่นา
ผมชื่อ “อาคิคาเสะ จิน” อายุสิบห้าปี น้องชายแท้ๆ ของริน เอ่อ...ฮารุกะ นั่นแหละๆ ผมเด็กกว่าพี่สามปี พูดง่ายๆ คือพี่อายุสิบแปดแล้วนั่นเอง
แต่อย่าถามเรื่องชายหนุ่มผู้โชคดี...หรือโชคร้ายก็ไม่รู้คนนั้นนะ ผมไม่รู้จักเขา
พูดให้ชัดๆ คือ ผมไม่รู้ว่าเขาชื่ออะไรหรือเป็นใครเลยซักนิด ถามพี่ไปก็ไม่เคยได้คำตอบมาหรอก เอาแต่อ้อมแอ้มอยู่นั่นแหละ ทำตัวเหมือนเด็กสาววัยแรกแย้มที่เพิ่งมีความรักครั้งแรกในชีวิตไปได้ เขาเรียกว่าอะไรนะ? ปับปี้เลิฟ ใช่มั้ย?
ผมรู้แค่ว่าเขาเป็นเพื่อนทางจดหมายของพี่เท่านั้นแหละ
พูดจริงๆ นะเอ้า สาบานได้เลย
“อกหัก?”
“หา?”
“นายนั่นแหละ อกหักมาใช่มั้ย?”
เสียงของรุ่นพี่ปลุกผมออกจากภวังค์ “นาคามิ ซึสึรุ” ชะโงกหน้าจากสมุดวาดรูปเล่มโปรดพลางจ้องมาที่ผม แววตาของรุ่นพี่ส่อแววแปลกประหลาดออกมาอย่างที่ผมบอกไม่ถูก...
“...พี่น่าจะไปเป็นหมอดูนะ”
“ใครดูไม่ออก พี่ว่าก็บ้าเต็มทนแล้ว”
...นี่ผมแสดงสีหน้าออกมาชัดเจนขนาดนั้นเลยเหรอไงครับ
“อ่า...ใช่...” ผมถอนหายใจออกมาเสียเฮือกใหญ่
“ทำไงได้...ฮารุเขาก็มีแฟนอยู่แล้วทั้งคน”
“อย่าพูดตัดกำลังใจกันดื้อๆแบบนี้จะได้มั้ย...”
ครับ ใช่ครับ คนที่ผมรักไม่ใช่คนอื่นคนไกล...
แต่เป็นพี่ชายบังเกิดเกล้าของผมเนี่ยแหละ!
ถึงผมจะชอบทำตัวอึมครึมและทำท่าทีไม่เห็นด้วยที่พี่เขาเปลี่ยนแปลงตัวเองแบบนี้ก็เถอะ...เอ่อ...ผมเคยคิดอยากจะพูดดีๆ กับพี่เขาบ้างนะ แต่ปากมันก็ไปก่อนใจทุกทีนั่นแหละ แล้วก็นะ ไอ้บ้าที่ไหนมันจะไปกล้าสารภาพกับพี่ชายตัวเองกันเล่า? นอกจากจะผิดศีลธรรมแล้วยังวิปริตสุดๆ ไปเลยนะเฟร้ย!
ครับ...ครับ...เชิญก่นด่าผมได้ตามใจ ผมไม่ขัด เพราะหัวใจของผมมันผิดเอง ที่เผลอไปรักพี่เขา...และแน่นอนว่าคงต้องแห้วไปตามระเบียบครับ ทำยังไงได้ คำว่า “ผู้ชาย” กับ “พี่บังเกิดเกล้า” มันค้ำคอไว้เสียขนาดนั้น ใครมันจะกล้า...ผมกับพี่ไม่ใช่ โซxะ กับ xารุกะหรอกนะ จะบอกให้
“ก็บอกไปตั้งหลายรอบแล้ว...ว่ายังไงซะก็บอกไปเถอะ”
“บอกไปแล้วจะเป็นยังไงล่ะ?”
“อย่างน้อยๆ นายก็สบายใจขึ้นไง ไม่ต้องมานั่งเครียดเป็นเด็กดมกาวแบบเนี้ยน่ะ”
“โล่งใจ...แต่ได้โดนเกลียดแทนล่ะสิไม่ว่า”
“ยังไม่เคยลองแล้วจะรู้ได้ไง”
“เรื่องแบบนี้ไม่ต้องลองก็รู้ครับรุ่นพี่”
ผมถอนหายใจออกมาอีกรอบ ก่อนจะขยับแว่นสายตาที่ร่วงลงไปอยู่ปลายจมูกให้กลับเข้าที่เหมือนเดิม รุ่นพี่มองหน้าผมด้วยสีหน้าแปลกๆ พลางถอนหายใจเบาๆ แล้วเหมือนจะได้ยินรุ่นพี่พูดว่า “ไอ้บ้าเอ๊ย...” ออกมาเบาๆ ด้วย
ถึงยังไงมันก็เป็นไปไมได้...
ถึงจะอยากพูดออกไปแค่ไหน อยากเป็นคนที่อยู่เคียงข้างพี่ขนาดไหน
ก็คงทำไม่ได้...
พี่มีเขา เขาที่แสนดีและเข้าใจในตัวพี่...เขาที่ดีกว่าผมที่ทำตัวเย็นชากับพี่ทุกวัน...
ผมขอบคุณที่พี่ยังรักผม...ในฐานะน้องชายแท้ๆ
...ดูท่าผมคงต้องหลีกทางให้สินะ
“จิน เรามีนัดกับฮารุกี่โมงนะ?” รุ่นพี่ซึซึนละสายตาจากสมุดวาดรูป แล้วหันมาถามผม
“เอ้อ...บ่ายสองครับ”
“ถ้างั้นก็ไปกันเถอะ นี่ก็บ่ายโมงครึ่งแล้ว กว่าจะถึงก็คงพอดีกัน”
ผมลุกออกตามรุ่นพี่ไป พยายามลบความฟุ้งซ่านเมื่อซักครู่ทิ้งเสีย แต่ก็ทำไม่ได้ มันติดคาหัวผมราวกับว่าถูกสั่งไว้ว่า “จงทำให้หมอนี่รู้สึกแบบนี้ไปจนตาย” อย่างนั้น
...ดูท่าผมคงต้องหลีกทางให้สินะ
“จิน! เหม่ออะไรอยู่ มาได้แล้ว!”
“ค...ครับ!”
หลีกทางอะไรกันล่ะ...
ถ้าไอ้หมอนั่นของพี่ไม่ดีจริง ผมก็ไม่ยอมหรอกเฟร้ย!!
ความคิดเห็น