ตอนที่ 16 : บทที่ 15 | พี่ชายบุญธรรม (3) (RW)
บทที่ 15
เมื่อราชครูหลันกลับมาถึงจวนก็มารับประทานอาหารกับหลินหลันและหลันเฟิ่งซือที่ห้องอาหาร ส่วนหลันเหม่ยอิงนั้น หลังจากที่ได้พูดคุยกับหลันเฟิ่งซือไปก็กลับไปขังตัวเองอยู่ในห้องไม่ยอมออกมารับประทานอาหารร่วมกับผู้อื่นเช่นที่ผ่านมา
ระหว่างมื้ออาหารนั้นคราแรกราชครูหลันก็ยังคงไม่รู้สึกถึงความผิดแปลกอันใด เพราะว่าเขานั้นพูดคุยกับบุตรชายที่หายหน้าไปนานถึงเรื่องราวต่างๆ ไปเรื่อยเปื่อย แต่ทว่าผ่านไปได้สักพัก เขาก็เริ่มรู้สึกถึงความผิดปกติของหลินหลัน
ทุกคราที่เขากลับมาที่จวนแม้ว่าหลินหลันจะไม่ใช่คนที่มักจะชวนพูดคุย แต่ทว่านางก็ไม่เคยที่จะนั่งทานอาหารอย่างเงียบเชียบราวกับตุ๊กตาตัวหนึ่งเช่นนี้ ราชครูหลันจึงได้หันไปกระซิบถามหลันเฟิ่งซือเสียงเบา
"อาเฟิ่ง วันนี้ตอนที่พ่อไม่อยู่เจ้าทำอะไรหลินเออร์ เหตุใดนางจึงเป็นเช่นนั้น"
"คือว่า ท่านพ่อ..."
"หากว่าท่านพ่อสงสัยแล้วละก็ลูกจะตอบให้เจ้าค่ะ" ก่อนที่หลันเฟิ่งซือจะทันได้ตอบอะไร หลินหลันก็วางตะเกียบตนเองลงเบาๆ แล้วเช็ดปากตนก่อนที่เอ่ยเสียงเรียบ "พี่ใหญ่ไม่ได้ทำอันใดกับลูกเลยเจ้าค่ะ แต่ว่าท่านพ่อต่างหาก"
เมื่อพูดจบหลินหลันก็จ้องหน้าราชครูหลันด้วยสีหน้าเรียบเฉย จนราชครูหลันต้องกลืนน้ำลายเพื่อที่จะคลายความประหม่าของตนลงแล้วยิ้มให้หลินหลันด้วยรอยยิ้มที่เขาคิดว่าดูสดใสที่สุดเพื่อกลบอาการประหม่าของตนไม่ให้เห็นชัด
"พ่อหรือ พ่อทำอะไรอย่างนั้นหรือ หลินเออร์"
"อ้อ ท่านพ่อไม่รู้เรื่องอย่างนั้นหรือเจ้าค่ะ เช่นนั้นท่านพ่อคิดเห็นอย่างไรเรื่องที่ลูก 'บังเอิญ' ได้ยินมาว่ามีคนยื่นเรื่องของให้ลูกถอนหมั้นกับองค์ไท่จื่อ"
เมื่อได้ยินประโยคนั้นของหลินหลันราชครูหลันก็รู้สึกได้ถึงเหงื่อเย็นๆ ที่ผุดขึ้นบนหน้าผากของเขา เขาเหลือบมองบุตรชายพลางส่งสายตาเป็นคำถามให้แต่ทว่าหลันเฟิ่งซือกลับไม่ยอมมองหน้าเขาแม้แต่น้อย กลับก้มหน้าทานอาหารอย่างเงียบเชียบราวกับว่าเขาไม่ได้เกี่ยวข้องกับบทสนทนาที่เกิดขึ้นในตอนนี้
"เอ่อ...หลินเออร์ลูกก็รู้ว่าเรื่องนี้มีขุนนางยื่นเรื่องต่อฮ่องเต้อยู่บ่อยครั้งอยู่แล้ว ฉะนั้นครั้งนี้ก็คงไม่ต่าง..."
"แล้วหากลูกจะบอกว่า 'บังเอิญ' ว่าขุนนางคนที่ยื่นเรื่องนี้ต่อฮ่องเต้ 'บังเอิญ' ดำรงตำแหน่งเป็นราชครูของราชสำนัก และถ้าจะให้ลูกพูดให้ชัดเจนขึ้นนะเจ้าคะราชครูคนนั้น 'บังเอิญ' เป็นคนสกุลหลันเสียด้วย ช่างเป็นความ 'บังเอิญ' ที่น่าแปลกเสียจริง จริงหรือไม่เจ้าคะท่านพ่อ"
"เอ่อพ่อก็ว่าจ...จริง แต่หลินเออร์พ่อว่า..."
"แต่น่าเสียดายที่ลูกก็ไม่รู้ว่าสกุลหลันที่เขาลือกันนั้น เป็นสกุลหลันไหน หลันของเราที่มาจากคำว่าเหวยหลัน* หรือว่าคำว่าหลันที่มาจากที่มาจากหลันฮวา* กันแน่จริงหรือไม่เจ้าคะท่านพ่อ"
"เอ่อ..."
"แต่ว่าแปลกนะเจ้าคะ หากว่าลูกจำไม่ผิด สกุลหลินอีกหลินหนึ่งไม่มีใครที่เป็นราชครูเลยนะเจ้าคะ มีเพียงแต่ขุนนางขั้นหกคนเดียวเท่านั้น แล้วที่เหลือก็เป็นบุตรีอดีตขุนนางที่เกษียณแล้ว กับบุตรชายคนเล็กที่ยังไม่หย่านมด้วยซ้ำ เช่นนั้นแสดงว่าราชครูหลันนั้นมีเพียงคนเดียวสิเจ้าคะ หลินเออร์เข้าใจถูกหรือไม่ท่านพ่อ"
ราชครูหลันถอนหายใจออกมา
"หลินเออร์ที่พ่อทำทั้งหมดก็เพื่อลูกทั้งนั้น"
"อย่างไรหรือเจ้าคะ...ท่านพ่อลองอธิบายให้ลูกเข้าใจหน่อยเถิด" หลินหลันพูดจบก็น้ำตาคลอเบ้าปริ่มจะรินไหลออกมาทันที
"หลินเออร์ เช่นนั้นพ่อก็คงจะต้องบอกลูกตามตรง" ราชครูหลันยกน้ำชาขึ้นดื่มแล้วก็เริ่มที่จะพูดต่อ "พ่อรู้ดีว่าลูกคิดอย่างไรกับองค์ไท่จื่อ และลูกก็หวังที่จะได้เป็นไท่จื่อเฟยของเขา แต่ทว่าองค์ไท่จื่อไม่ได้คิดเช่นเดียวกัน หากว่าลูกยังดื้อดึงที่จะแต่งเข้าวังไท่จื่อไปทั้งอย่างนี้ พ่อเกรงว่าในอนาคตชีวิตของลูกในวังไท่จื่อจะต้องลำบาก"
หลินหลันยังคงนั่งก้มหน้านิ่งเงียบไม่ตอบอะไร ราชครูหลันจึงรีบเอ่ยต่อ
"หลินเออร์ลูกรู้ใช่หรือไม่ว่าเมื่อแต่งงานไปแล้วชีวิตของสตรีนั้นจะต้องอยู่ในกำมือของบุรุษ และถึงแม้ว่าในตอนนี้ฮ่องเต้จะอยู่ข้างลูก แต่ในอนาคตเมื่อองค์ไท่จื่อได้ขึ้นเป็นฮ่องเต้แล้วเล่า ชีวิตของลูกจะเป็นเช่นไร หากว่าเขาไม่ได้โปรดปรานลูกแล้ว อย่าว่าแต่ตำแหน่งเลย แม้แต่ชีวิตของลูกเขาก็เอาไปได้"
เมื่อราชครูหลันพูดจบ หลินหลันจึงได้เอ่ยตอบพลางทำสีหน้าเศร้าสร้อย ก่อนที่จะก้มหน้าลงทำให้ราชครูหลันมองไม่เห็นใบหน้าของนางว่าตอนนี้แสดงสีหน้าเช่นไรออกมา
"หากว่าท่านพ่อรู้เช่นนี้ตั้งแต่แรกเหตุใดท่านพ่อจึงได้ยอมให้ลูกหมั้นหมายกับองค์ไท่จื่อเล่าเจ้าคะ"
ราชครูหลันถอนหายใจก่อนที่จะเอ่ยตอบ
"เพราะว่านั่นเป็นคำขอร้องสุดท้ายจากแม่ของเจ้าก่อนที่นางจะจากไปอย่างไรเล่า ทั้งพ่อและฮ่องเต้ก็ยินยอมที่จะทำตาม และพ่อก็ไม่เห็นว่าจะเป็นเรื่องใหญ่อะไร หากว่าวันหนึ่งลูกอยากจะถอนหมั้นก็สามารถทำได้เพียงแค่เอ่ยปาก และพ่อเองก็เห็นองค์ไท่จื่อมาตั้งแต่ยังเล็กจึงได้ไว้ใจให้พระองค์ดูแลลูก แต่ก็ไม่คิดว่าเรื่องจะกลายเป็นเช่นนี้ และพ่อ...ก็เกือบจะต้องเสียลูกไปตลอดกาล"
แล้วน้ำตาของราชครูหลันก็ไหลออกมา เมื่อคิดถึงสภาพของหลันเหม่ยหลินในตอนที่องค์ไท่จื่อเพิ่งจะพานางขึ้นมาจากน้ำ ร่างของนางในตอนนั้นเย็นชืดจนเขาคิดว่านางตายไปแล้ว แต่แล้วนางก็สำลักน้ำออกมาด้วยตัวเอง ร่างกายที่เย็นชืดนั้นก็เริ่มที่จะอุ่นขึ้นมาเล็กน้อย ทำให้เขารู้สึกสบายใจขึ้นมาว่านางยังไม่ตาย
"ถึงจะเป็นเช่นนั้น นี่ก็เป็นเรื่องของการหมั้นหมายของลูก อย่างไรท่านพ่อก็ควรที่จะบอกกล่าวกับลูกบ้างจริงหรือไม่เจ้าคะ"
"หลินเออร์ อย่าโกรธพ่อเลยนะลูก พ่อไม่รู้ว่าปลอบลูกอย่างไรดี หากลูกอยากได้สิ่งใดก็บอกพ่อมา พ่อขอเพียงอย่างเดียว อย่างไรลูกถอนหมั้นกับองค์ไท่จื่อเพื่อพ่อได้หรือไม่"
"ท่านพ่อ เรื่องการหมั้นหมาย..."
"เรื่องหมั้นอย่างไรก็ต้องถอนหมั้นหลินเออร์ พ่อ..."
"ก็ถอนเลยสิเจ้าคะ"
"หลินเออร์ ลูกก็รู้ดีว่าองค์ไท่จื่อ... หลินเออร์ เมื่อครู่ลูกว่าอย่างไรนะ"
"ลูกบอกว่าท่านพ่อไปขอถอนหมั้นให้ลูกได้เลยเจ้าค่ะ"
"อ้าว แล้วลูกไม่ได้โกรธพ่อหรอกหรือ"
"ก็โกรธเจ้าค่ะ แต่ว่าลูกโกรธเพราะว่าท่านพ่อกระทำการโดยที่ไม่ได้บอกลูกก่อน แต่ว่าลูกเองก็ตั้งใจว่าจะบอกท่านพ่ออยู่แล้วว่าลูกอยากจะถอนหมั้นเจ้าค่ะ ถามพี่ใหญ่ดูก็ได้นะเจ้าคะ ลูกบอกเรื่องนี้กับพี่ใหญ่ไปแล้วเจ้าค่ะ"
พอพูดจบราชครูหลันก็หันมองหน้าหลันเฟิ่งซืออย่างคาดโทษ หลันเฟิ่งซือที่ตอนนี้ก็นั่งก้มหน้าเช่นเดียวกับหลินหลันนั้นก็เอ่ยตอบราชครูหลันโดยที่ไม่ได้เงยหน้าขึ้นมา
"ขอรับท่านพ่อ เรื่องนั้นน้องบอกกับข้าแล้ว"
แต่ก่อนที่ราชครูหลันจะได้พูดอะไรต่อ หลินหลันที่เมื่อครู่ยังตีสีหน้าเศร้าสร้อยทั้งยังเอาแต่ก้มหน้าก้มตาอยู่ตลอด เวลานี้กลับจ้องหน้าราชครูหลันตาแป๋วแล้วเอ่ยถามว่า
"ท่านพ่อ ที่ท่านพ่อบอกนั้น ลูกจะขอสิ่งใดก็ได้จริงๆ อย่างนั้นหรือเจ้าคะ"
เมื่อเห็นท่าทางของหลินหลันเปลี่ยนไปและหลันเฟิ่งซือที่ตอนนี้เงยหน้าขึ้นมาโดยที่ใบหน้าของเขานั้นมีรอยยิ้ม นั่นเป็นรอยยิ้มที่ราชครูหลันมักจะเห็นเวลาที่หลันเฟิ่งซือนั้นวางแผนทำอะไรบางอย่าง นั่นจึงทำให้ราชครูหลันสังเกตบางอย่างได้
"นี่ พวกเจ้าคงจะไม่ได้..."
"พี่ใหญ่ อย่าลืมจ่ายน้องมาตามสัญญาด้วยนะเจ้าคะ"
หลันเฟิ่งซือยื่นมือข้ามโต๊ะอาหารมายีหัวหลินหลัน ก่อนที่จะกล่าวชมนาง
"ให้ตายเถอะ เจ้านี่มันร้ายขึ้นมากจริงๆ เหม่ยหลิน นอกจากที่เจ้าจะทำให้ท่านพ่อเชื่อเจ้าได้แล้วยังทำให้ท่านพ่อสัญญาที่จะให้ของกับเจ้าอย่างหนึ่งอีกด้วย พี่ไม่คิดจริงๆ ว่าเจ้าจะทำให้ท่านพ่อเชื่อเจ้าได้ ถือว่าฝีมือเจ้าพัฒนาไปมาก"
"น้อมรับคำชมเจ้าค่ะ" หลินหลันค้อมศีรษะลงเล็กน้อย ก่อนที่จะหันไปพูดกับราชครูหลันต่อในทันที "ส่วนท่านพ่อก็อย่าลืมที่สัญญากับลูกเอาไว้นะเจ้าคะ"
ราชครูหลันแม้จะพอเข้าใจเรื่องทั้งหมดบ้างแล้ว แต่ว่าหลินหลันก็เป็นบุตรสาวที่เขารักที่สุด จะให้โกรธก็คงจะโกรธนางไม่ลง จึงได้แต่พยักหน้าให้หลินหลันก่อนที่จะหันไปหาหลันเฟิ่งซือ...
"เรื่องทั้งหมดนี้เป็นความคิดของเจ้าใช่หรือไม่ อาเฟิ่ง" ราชครูหลันชี้หน้าหลันเฟิ่งซือที่ยังคงมีสีหน้ายิ้มแย้ม "ไปอยู่ชายแดนมาหลายปี นิสัยขี้แกล้งของเจ้าไม่ได้เปลี่ยนไปแม้แต่น้อย"
"โธ่ท่านพ่อ เหตุใดท่านตำหนิข้าเพียงผู้เดียวเล่า น้องก็ร่วมแผนการด้วยนะขอรับ"
"นั่นก็เพราะว่าเจ้าเป็นคนวางแผนหลอกพ่อ แล้วนี่ยังจะสอนให้น้องร่วมแผนการบ้างๆ ของเจ้าอีกหรือ เจ้านี่มัน..."
"ท่านพ่อเจ้าคะ" หลินหลันรีบขัดขึ้นมาในทันทีที่เห็นว่าราชครูหลันคงจะบ่นหลันเฟิ่งซืออีกยาว หลันเฟิ่งซือจึงมองหลินหลันอย่างขอบคุณ "เรื่องที่ลูกอยากจะขอน่ะเจ้าค่ะ"
"อ้อ เรื่องนั้นว่าอย่างไรเล่า"
แต่ก่อนที่หลินหลันจะทันได้พูดอะไร หลันเฟิ่งซือก็แทรกขึ้นมาเสียก่อน
"ท่านพ่อไม่ยุติธรรมเลยนะขอรับ เหม่ยหลินก็ร่วมมือกับข้า เหตุใดข้าจึงโดนด่าแต่นางกลับขอสิ่งของจากท่านพ่อได้เล่าขอรับ"
"เจ้าน่ะเงียบไปเลย เป็นพี่แต่ยังชวนน้องวางแผนแกล้งคนตั้งแต่เพิ่งจะกลับมายังจะมาพูดดีอีก" ราชครูหลันตำหนิบุตรชายเสร็จก็หันมาพูดกับหลินหลัน "ว่าต่อเลยสิ หลินเออร์"
หลินหลันแอบเห็นหลันเฟิ่งซือขมุบขมิบปากราวกับกำลังบ่นอะไรบางอย่างอยู่ ก็แอบขำเบาๆ ก่อนที่จะได้ยินเสียงของเสี่ยวฝานกล่าวออกมาว่า
'ทั้งบิดา ทั้งพี่ชายของเจ้า ทำตัววุ่นวายคล้ายสตรีอย่างไรอย่างนั้น'
หลินหลันได้ยินดังนั้นก็ได้แต่คิดว่าเสี่ยวฝานช่างปากร้ายยิ่งนัก ก่อนที่จะหันไปตอบราชครูหลันว่า
"เรื่องที่ลูกอยากจะขอท่านพ่อ ลูกขอเก็บเอาไว้ก่อนได้หรือไม่เจ้าคะ แต่ว่าลูกอยากจะให้ท่านพ่อสัญญาว่าไม่ว่าจะเป็นเรื่องอะไรท่านพ่อจะไม่ปฏิเสธลูก ไม่ว่าเรื่องที่ลูกจะขอนั้นจะเป็นเรื่องอะไรก็ตาม"
ราชครูหลันมีท่าทีลังเลอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่จะตอบตกลง
หลังจากนั้นทั้งสามคนก็เริ่มที่จะทานอาหารต่อ พลางพูดคุยกันไปด้วย
แม้ว่าท่านราชครูจะดูเหมือนว่าจะยังงอน...หมายถึงว่า...ท่านราชครูดูจะโกรธหลันเฟิ่งซืออยู่บ้าง แต่ทว่าด้วยความที่เรื่องที่เขาทำนั้นมิใช่เรื่องใหญ่อันใด หลังจากที่นั่งทานอาหารและพูดคุยกันได้ไม่นานก็กลับมาพูดคุยกันอย่างปกติ ราวกับว่าก่อนหน้านี้ไม่มีเรื่องอันใดเกิดขึ้น
"ท่านพ่อ เรื่องที่ท่านพ่อยื่นเรื่องขอถอนหมั้นให้น้องเป็นอย่างไรบ้างแล้วขอรับ"
ราชครูหลันเหลือบมองหน้าหลินหลันเล็กน้อย และเมื่อเห็นว่านางยังคงมีสีหน้าเรียบเฉยเช่นเดิม จึงได้ตัดสินใจที่จะตอบออกมา
"ก็ไม่ถึงไหนทั้งนั้น ฮ่องเต้ยังคงพูดเหมือนเดิมว่าถ้าหากว่าหลินเออร์ยังไม่ยืนยันว่าจะถอนหมั้นด้วยตนเอง การหมั้นหมายก็จะยังคงมีต่อไป" ราชครูหลันพูดจบก็หันมาถามหลินหลันอีกครั้งหนึ่ง "หลินเออร์ แล้วนี่เจ้าแน่ใจเรื่องถอนหมั้นแล้วใช่หรือไม่"
หลินหลันได้ยินดังนั้นก็วางตะเกียบลง ก่อนที่จะตอบ
"ลูกจะพูดเรื่องนี้เป็นครั้งสุดท้ายนะเจ้าคะท่านพ่อ ทุกคนที่อยู่ในบริเวณนี้ก็ฟังให้ชัดเจนด้วย" หลินหลันกวาดตาไปยังราชครูหลัน หลันเฟิ่งซือ ลามไปจนถึงบ่าวรับใช้ทุกคนที่อยู่ในบริเวณนี้
ก่อนที่จะประกาศด้วยเสียงอันดังเพื่อให้แน่ใจว่า 'ทุกคน' ที่อยู่ในบริเวณนี้ได้ยินอย่างชัดเจน
"ข้า...หลันเหม่ยหลิน ไม่ได้รักองค์ไท่จื่อเช่นเดิมแล้ว ดังนั้นหลังจากนี้ ข้ายินยอมที่จะถอนหมั้นกับองค์ไท่จื่อ โดยที่ไม่มีข้อแม้อันใด ดังนั้นไม่ต้องมาถามข้าเรื่องนี้อีก จบแยกย้าย ท่านพ่อ พี่ใหญ่กินข้าวกันต่อเถิด"
หลินหลันได้แต่หวังว่าเสียงนี้จะดังไปจนถึงใครอีกคนที่แอบฟังอยู่ และจะนำเรื่องนี้ไปบอกนายของเขาให้ชัดเจน
เพราะจากที่เสี่ยวฝานบอกมาว่านอกจากบรรดาบ่าวไพร่ที่เดินอยู่ทั่วบริเวณนี้ ก็ยังมีแขกที่ไม่ได้รับเชิญแอบฟังอยู่ด้วยเช่นกัน
หลังจากที่หลินหลันประกาศจบ ทั้งสามคนก็ลงมือทานอาหารต่อ และก็ไม่ได้พูดเรื่องการถอนหมั้นกันอีกเลย ส่วนแขกที่ไม่ได้รับเชิญนั้นก็หายไปในทันที คาดว่าน่าจะรีบกลับไปแจ้งข่าวแก่นายของตน แต่ทว่าหลินหลันก็ไม่รู้ว่านายของพวกเขาเป็นใครบ้าง เพราะจากที่เสี่ยวฝานบอกมา คนที่กำลังแอบฟังอยู่นั้นไม่ได้มีเพียงคนเดียว
เมื่อแน่ใจว่าคนที่แอบฟังอยู่นั้นไม่อยู่แล้ว หลินหลันจึงได้ตัดสินใจถามเรื่องบางอย่างออกไป
"ท่านพ่อเจ้าคะ"
"ว่าอย่างไรหรือ หลินเออร์"
"เหตุใดฮ่องเต้ถึงได้ยึดมั่นกับคำสัญญาที่มีให้ท่านแม่มากเพียงนี้เล่าเจ้าคะ"
ราชครูหลันเงียบไปครู่หนึ่งก่อนที่จะตอบออกมา
"เรื่องนั้น คงจะเป็นเพราะว่าฮ่องเต้ทรงเคยเป็นสหายกับมารดาของเจ้าด้วยเช่นกัน อีกทั้งคำขอนั้นยังคงเป็นคำขอสุดท้ายของท่านแม่ของเจ้าก่อนที่นางจะจากไป ฮ่องเต้ก็เป็นคนที่ยึดมั่นในคำสัญญาอย่างมากดังนั้น...เรื่องราวก็เป็นเช่นนี้"
"แต่ว่าท่านพ่อ...หากว่าข้าจำไม่ผิดท่านแม่เสียหลังจากที่คลอดเหม่ยหลินออกมาไม่ใช่หรือขอรับ แล้วท่านแม่ไปสั่งเสียเรื่องพวกนี้กับฮ่องเต้ตอนไหนกันหรือขอรับ"
เมื่อได้ยินคำถามของหลันเฟิ่งซือ ราชครูหลันก็นิ่งไปนานเสียจนหลินหลันและหลันเฟิ่งซือได้หันมองหน้ากันอย่าสับสน ก่อนที่หลินหลันจะโบกมือตรงระดับสายตาของราชครูหลันพลางเอ่ยเรียกราชครูหลัน
"ท่านพ่อเจ้าคะ" เสียงเรียกนั้นของหลินหลัน ราชครูหลันก็พลันได้สติ
"เรื่องพวกนั้นมันก็ผ่านมานาน พ่อเองก็จำไม่ได้เหมือนกันว่ามารดาของเจ้าไปคุยกับฮ่องเต้เอาไว้ตอนไหนเช่นกัน เรื่องมันก็ผ่านมานานแล้วอย่าได้รื้อฟื้นกันอีกเลยเอาล่ะ พวกเรามากินกันต่อดีกว่า คุยเรื่องโน้นเรื่องนี้กับอยู่นาน อาหารเย็นชืดหมดแล้วละมั้ง"
พูดจบราชครูหลันก็ลงมือทานอาหารอย่างเงียบเชียบ
สีหน้าของเขาดูคล้ายกับกำลังใช้ความคิดอย่างหนัก
หลินหลันและหลันเฟิ่งซือมองหน้ากันอย่างสงสัย แม้จะมีเรื่องที่ยังสงสัยอยู่มาแต่ทว่าทั้งคู่ก็ไม่กล้าถามอะไรอีก เพราะดูเหมือนว่าราชครูหลันดูจะไม่ค่อยอยากจะพูดเรื่องนี้อีก
แล้วทั้งสามคนก็ลงมือทานอาหารของตัวเองต่อไปเงียบๆ โดยต่างคนต่างก็อยู่ในความคิดของตัวเอง จนกระทั่งทานเสร็จต่างคนต่างก็แยกย้ายกลับเรือนของตัวเอง
ระหว่างที่เดินกลับเรือนหลินหลันก็คิดอะไรไปเรื่อยเปื่อย
นางไม่รู้ว่าคนที่ส่งมาสอดแนมพวกนั้นเป็นคนของใครบ้าง แต่หากจะให้เดาหนึ่งในนั้นก็น่าจะเป็นคนขององค์ไท่จื่อ แต่ว่าที่เหลือ...
เป็นไปได้หรือไม่ว่าจะเป็นคนของหลันเหม่ยอิง
แม้ว่านางจะยังคงขังตัวเองอยู่แต่ในเรือน แต่ทว่าเป็นไปได้หรือไม่ว่านางจะส่งคนออกมาสอดแนมเรื่องของคนอื่นๆ ในจวน โดยเฉพาะหลินหลัน
และหากว่านางได้ยินเรื่องนี้ หลินหลันคาดว่านางก็คงจะลิงโลดเลยทีเดียวที่หลินหลันที่เป็นอุปสรรคสำคัญของนางยอมที่จะถอยออกไปด้วยตัวเอง แต่ทว่าด้วยตำแหน่งและเรื่องราวที่ผ่านมาของนางในตอนนี้หากจะแต่งเข้าวังไท่จื่อ...คงจะมีคนคัดค้านหลายคนทีเดียว
หลินหลันคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อยจนกระทั่งถึงเรือนของนาง
แล้วหลินหลันก็ได้พบคำตอบว่าแท้จริงแล้วคนที่ถูกส่งมาสอดแนมไม่น่าจะใช่คนของหลันเหม่ยอิง แต่ทว่าเป็นคนของชายที่กำลังนั่งอยู่ในห้องของนางในเวลานี้ต่างหาก
_____________________
*คำว่าหลันในภาษาจีนเขียนได้หลายแบบค่ะ มีทั้งหลันจาก 蓝色 (Lán sè, หลานเซ่อ) ที่แปลว่าสีฟ้า, หลันจาก 兰花 (Lánhuā, หลันฮวา) ที่แปลว่ากล้วยไม้, หลันจาก 围栏 (Wéilán, เหวยหลาน) ที่แปลว่ารั้ว และก็ยังมีอีกหลายตัวเลยค่ะ
TALK
อีกแค่หนึ่งตอนหลิงก็จะรีไรท์เนื้อหาเดิมครบแล้วนะคะ เย้
รอบนี้มาช้าหน่อยเพราะว่าตอนนี้ก็ปรับเนื้อหาอยู่หลายรอบเหมือนกันค่ะ
หวังว่าทุกคนจะชอบกันนะคะ
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

ใครมาหรือค่ะ อยากรู้จัง
มาเห็นกันให้จะจะ
สตอเก่งจริง
ต่อเถอะ ขอยาวๆๆ นะคะ รออ่าน
ค้างงงงงงงงงงงงงมากกกกกกกกกเลยค่ะไรร์ขอยาวววววกว่านี้หน่อยได้ไหมค่ะมันสั้นอ่ะ