ตอนที่ 12 : บทที่ 11 | การตายของผิงหยู่ (2) (RW)
บทที่ 11
ทางด้านของหลันเหม่ยอิง นางเพิ่งจะทราบข่าวเรื่องของสภาพการตายของผิงหยู่ ทั้งยังได้รู้เรื่องที่ตอนนี้ทางการตั้งใจที่จะสืบหาตัวการที่แท้จริงเบื้องหลังการตายของผิงหยู่อย่างมากเสียจนแต่งตั้งให้หัวหน้ากองปราบเป็นผู้สืบสวนด้วยตนเอง
เพี้ยะ
"คุณหนูตบหน้าบ่าวทำไมหรือเจ้าคะ" นี่เป็นครั้งแรกที่ทุกคนได้เห็นหลันเหม่ยอิงทำร้ายร่างกายผู้อื่น
โดยเฉพาะคนที่ถูกทำร้ายนั้นไม่ใช่ใครที่ไหน แต่ทว่าเป็นถิงถิงบ่าวคนสนิทของหลันเหม่ยอิงที่โตมาด้วยกัน
"เจ้ากล้าทำเกินคำสั่งของข้าหรือ ถิงถิง"
ถิงถิงเมื่อเห็นว่าหลันเหม่ยอิงโกรธจัด จึงได้ส่งสายตาบอกให้บ่าวคนอื่นๆ ออกไปให้หมด แล้ววิ่งไปปิดประตูเรือนในทันที ก่อนที่จะรีบวิ่งกลับมาแล้วพุ่งตัวเข้าไปกอดขาหลันเหม่ยอิง พลางน้ำตาคลอเบ้าอย่างน่าสงสาร
"คุณหนูเจ้าคะ บ่าวไม่ได้ทำจริงๆ นะเจ้าคะ"
"หากไม่ใช่เจ้าแล้วจะเป็นผู้ใดกัน ข้าสั่งเพียงแค่ให้เจ้าส่งคนไปฆ่าผิงหยู่ เพื่อที่จะทำลายชื่อเสียงของพี่สาวต่างมารดาของข้าเท่านั้น" หลันเหม่ยอิงพูดโดยพยายามให้เสียงของนางเบาที่สุดเพื่อที่จะไม่ให้พูดอื่นได้ยินบทสนทนาระหว่างทั้งสอง "เดิมทีหากเป็นเรื่องที่บ่าวที่ถูกขายไปแล้วถูกฆ่า ก็อาจจะเพียงแค่ดึงดูดให้ผู้คนนินทาเท่านั้น แต่ทว่าเมื่อเป็นเช่นนี้...ถิงถิง เจ้าไปจ้างผู้ใดมากันแน่"
ถิงถิงปล่อยขาของหลันเหม่ยอิงก่อนที่จะรีบโขกหัว
"คุณหนูเจ้าคะ ความจริงแล้ว คนที่ฆ่าผิงหยู่ไม่ใช่คนที่เราส่งไปเจ้าค่ะ"
"ว่าอย่างไรนะ"
"คนที่เราส่งไปถูกฆ่าตายหมดแล้วเจ้าค่ะ บ่าวเพิ่งจะทราบก่อนที่จะมีผู้พบศพของผิงหยู่ไม่นานเจ้าค่ะ"
"แล้วเหตุใดเจ้าจึงไม่บอกข้า"
"คราแรกบ่าวเข้าใจว่าคนที่ฆ่าคนของเราต้องการที่จะช่วยผิงหยู่เจ้าค่ะ แต่ไม่คิด..."
เพี้ยะ
หลันเหม่ยอิงฟาดฝ่ามือลงบนใบหน้าของถิงถิงอีกครั้ง
"คราวหน้า หากว่ามีเรื่องอะไรที่ผิดแผนไป เจ้าต้องแจ้งแก่ข้าทันที เข้าใจหรือไม่"
"เจ้าค่ะคุณหนู"
"ดี ทำลายหลักฐานทั้งหมดที่จะโยงมาถึงเราได้ เข้าใจหรือไม่"
"เจ้าค่ะคุณหนู" เมื่อทั้งสองคุยกันจบแล้ว ถิงถิงก็ขอตัวออกไปจัดการตามที่หลันเหม่ยอิงสั่งเอาไว้ โดยก่อนออกไป นางได้ทายาที่สามารถพรางรอยช้ำได้ที่หลันเหม่ยอิงเคยให้กับนางเอาไว้นานมาแล้ว
หลังจากที่ถิงถิงออกไปได้ไม่นาน ก็มีบ่าวเดินเข้ามาแจ้งแก่หลันเหม่ยอิงว่ามีหัวหน้ากองปราบมาขอพบนาง
แม้ว่าหลันเหม่ยอิงจะไม่อยากที่จะพบหน้าคนจากกองปราบ แต่ทว่าหากนางปฏิเสธ นางจะยิ่งดูน่าสงสัยมากยิ่งไปอีก นางจึงได้แต่จำยอมที่จะตอบตกลงให้เฉินจื่อเยว่เข้าพบ
ระหว่างที่หลันเหม่ยอิงกำลังถูกสอบสวนอยู่นั้น นางไม่ได้รู้เลยว่าตอนนี้มีข่าวลืออีกข่าวหนึ่งที่กำลังแพร่สะพัดไปในวงกว้างอย่างรวดเร็วราวกับไฟลามทุ่ง
ข่าวลือนั้นก็เกี่ยวข้องกับเรื่องที่อนุจ้าวได้ส่งคนแทรกซึมเข้าไปสืบข่าวในเรือนของหลันเหม่ยหลิน เพื่อที่จะทำลายชื่อเสียงของนางและทำให้หลันเหม่ยหลินดูเป็นเด็กสาวที่ร้ายกาจโดยการวางยาพิษที่ทำให้หลันเหม่ยหลินเกิดอาการคลุ้มคลั่งและควบคุมตนเองไม่ได้ ยาชนิดนั้นเป็นยาพิษที่ชื่อว่า 'พิษครวญนาง'
หลังจากที่เรื่องนี้แพร่สะพัดออกไป ก็มีทั้งคนที่เชื่อและไม่เชื่อว่าพิษนี้จะสามารถทำเช่นนั้นได้จริงๆ ก่อนที่จะมี 'ผู้รู้' ออกมายืนยันว่าพิษนี้มีอยู่จริง แต่ด้วยความที่มันเป็นพิษที่สกัดได้ยาก ทั้งยังมีฤทธิ์อ่อน จึงไม่ค่อยนิยมนำไปใช้ ทั้งยังมีการออกอธิบายเรื่องของสรรพคุณของพิษนี้ออกมาอย่างละเอียดอีกด้วย
นั่นจึงทำให้เริ่มมีคนออกมาพูดกันว่าคุณหนูหลันนั้นเคยเป็นเด็กดี เด็กน่ารักมาก่อน ที่จะเริ่มมีอาการคลุ้มคลั่งหึงหวงองค์ไท่จื่อเป็นบ้าเป็นหลังเช่นนี้
แต่ผู้คนก็ยังไม่รู้ว่า คนที่ถูกส่งเข้าไปแทรกซึมในเรือนของหลันเหม่ยหลินนั้นเป็นผู้ใด
หลายๆ คนก็เริ่มสงสัยว่าอาจจะเป็นผิงหยู่ อดีตสาวใช้ของหลันเหม่ยหลินที่เพิ่งจะถูกพบเป็นศพที่น่าสยองขวัญหลังจากที่ถูกขายออกมาจากจวน
ดังนั้นข่าวลือว่าหลันเหม่ยหลินเป็นผู้บงการฆ่าผิงหยู่จึงเริ่มจะกระพือขึ้นมาอีกครั้ง แต่ก่อนที่มันจะกระจายออกไป กลับมีคนตั้งข้อสังเกตว่า หลังจากที่ผิงหยู่ออกมาจากจวนราชครูหลันนั้น ก็ถูกคนของหลันเหม่ยอิง น้องสาวต่างมารดาของหลันเหม่ยหลินที่เป็นบุตรสาวของอนุจ้าว พาตัวไปที่ไหนสักแห่งก่อนที่ผิงหยู่จะถูกพบเป็นศพในเช้ามืดวันต่อมา
จนถึงตอนนี้ผู้คนบางส่วนก็เริ่มที่จะสงสารหลันเหม่ยหลินมากขึ้น ด้วยทราบดีถึงฤทธิ์ของพิษนางครวญ ทั้งยังสงสารที่นางต้องถูกหักหลังโดยสาวใช้ประจำตัวเสียอีก แล้วยังจะถูกคนพยายามป้ายความผิดว่านางเป็นคนฆ่าผิงหยู่อย่างโหดเหี้ยมเสียอีก
แต่บางส่วนก็ยังไม่เชื่อว่าหลันเหม่ยอิงนั้นเป็นคนที่ลงมือกระทำการด้วยตนเอง และยืนยันว่าจะต้องมีคนที่ใส่ร้ายนางอย่างแน่นอน แต่คนกลุ่มนี้ก็ยังไม่สามารถหาได้ว่าผู้ใดเป็นผู้กระทำการเช่นนั้น เพราะหากจะบอกว่าความจริงแล้วเป็นหลันเหม่ยหลินเองที่ใส่ความน้องสาวต่างมารดาก็ถือว่าเป็นเรื่องที่เชื่อได้ค่อนข้างยาก เพราะว่านอกจากเรื่องอารมณ์ร้ายของหลันเหม่ยหลินแล้ว ไม่มีอะไรที่นางจะด้อยกว่าน้องสาวต่างมารดาคนนี้แม้แต่อย่างเดียว
หลินหลันเองก็ไม่ทราบว่าผู้ใดเป็นผู้ที่ปล่อยข่าวนี้ออกไป แต่ทว่ามันกลับส่งผลดีกับนางอย่างไม่น่าเชื่อ
โดยที่นางไม่ต้องทำอะไรเลยด้วยซ้ำ
ความจริงแล้วนางเองก็วางแผนที่จะปล่อยข่าวลือในทำนองนั้นออกไปเช่นกัน
เพียงแต่มีคนที่ลงมือก่อนนางเสียอีก
และนั่นก็เป็นเรื่องดีสำหรับนาง
หลังจากนั้นอีกสองสามวัน อนุจ้าวและพ่อบ้านหลิวที่ถูกขังอยู่ในห้องดำก็ยอมรับสารภาพทุกอย่างที่ตนเองทำลงไปทั้งหมด ก่อนที่จะถูกส่งตัวไปยังกองปราบ โดยที่ราชครูหลันจัดแจงให้ทั้งสองคนนั่งไปในกรงไม้ที่ถูกลากไปอย่างเชื่องช้า โดยมีการประกาศสิ่งที่ทั้งสองคนทำไปตลอดทางจนกระทั่งถึงหน้ากองปราบ
และแน่นอนว่าเส้นทางที่ลากกรงของทั้งคู่ไปนั้น เป็นเส้นทางที่เรียกได้ว่าอ้อมเสียจนแทบจะผ่านทุกส่วนของเมืองกว่าที่จะไปถึงหน้ากองปราบได้
สภาพของอนุจ้าวนั้นเรียกได้ว่าค่อนข้างที่จะย่ำแย่ทีเดียว
ใบหน้าที่เคยถูกแต่งแต้มอย่างสวยงามตอนนี้กลับดูซีดเซียว
เสื้อผ้าที่เคยสวมใส่ด้วยผ้าไหมราคาแพงที่ดูสดใส ก็เปลี่ยนเป็นเพียงผ้าฝ้ายราคาถูกสีจืดชืดเพียงเท่านั้น
เครื่องประดับต่างๆ บนตัวก็ไม่เหลือแม้แต่ชิ้นเดียว
ร่องรอยจากการทรมานนั้นไม่มีให้เห็นแม้แต่จุดเดียว เพราะว่าราชครูหลันทำให้แน่ใจว่าร่องรอยจากการที่ทั้งสองคนถูกทรมานนั้นจะต้องอยู่ในตำแหน่งที่สามารถปกปิดได้ด้วยเสื้อผ้าที่สวมใส่ ทำให้ไม่มีใครรู้ว่าสามวันที่ผ่านมานั้นอนุจ้าวและพ่อบ้านหลิวต้องถูกทรมานอย่างไรบ้าง
เรื่องนี้มีเพียงราชครูหลัน พ่อบ้านหลิว และอนุจ้าวเท่านั้นที่รู้
แต่ไม่น่าเชื่อว่าคนที่เคยเชิดหน้าใส่ผู้อื่นจะเปลี่ยนเป็นคนที่คนอื่นจะต้องก้มหน้ามองภายในเวลาเพียงแค่สามวันเท่านั้น
ซึ่งเรื่องราวที่แพร่กระจายไปในช่วงสองสามวันที่ผ่านมานั้นก็ทำให้มีชาวบ้านออกมาชมดู 'ขบวนแห่' ของอนุจ้าวและพ่อบ้านหลิวกันถ้วนหน้า บางคนถึงกับหยิบข้าวของมาข้าวปาใส่คนทั้งสองไปตลอดทาง
ซึ่งเรื่องราวที่ผู้คนนั้นพูดถึงในช่วงสองสามวันมานี้ ก็ไม่พ้นเรื่องเลวร้ายที่อนุจ้าวนั้นได้ทำมา ไม่ว่าจะจริงหรือไม่ แต่คนทั้งสองก็ถูกตัดสินจากคนในเมืองไปแล้วว่าผิดจริง โดยดูจากการปฏิบัติของราชครูหลันที่มีต่อคนทั้งสองนั้น ก็ทำให้ชาวบ้านค่อนข้างแน่ใจได้แล้วว่ามันเป็นเรื่องจริง
เรื่องที่พูดถึงกันนั้นก็มีทั้งเรื่องที่หลันเหม่ยหลินถูกใส่ความ ถูกทำลายชื่อเสียง และที่ถูกทำร้ายจิตใจอีกหลายเรื่องที่ผ่านมา รวมไปถึงเรื่องที่นางจะต้องโตมาโดยที่ไม่มีมารดาแท้ๆ เลี้ยงดู แทนที่นางจะได้รับการดูแลอย่างเหมาะสม
หลังจากนั้นเสียงที่เล่าลือออกไปนั่นเริ่มที่จะลามไปจนถึงเรื่องการตายอย่างเป็นปริศนาของฮูหยินเหลียน เพราะว่าความจริงแล้วหลายคนก็ไม่อยากจะเชื่อว่าฮูหยินเหลียนที่ดูยังสาวและยังแข็งแรงเช่นนั้น จะตายไปเพียงเพราะการคลอดบุตรสาวเพียงแค่คนเดียว ดังนั้นหลายคนจึงได้โยงเรื่องเข้าด้วยกันว่าความจริงแล้วอนุจ้าวนั้นเป็นคนที่วางยาฆ่าฮูหยินเหลียน เพื่อที่ตนจะสามารถขึ้นเป็นฮูหยินคนใหม่ได้
แต่ทว่าราชครูหลันนั้นรักปักใจกับฮูหยินเหลียนจึงไม่ยอมที่จะแต่งตั้งนางขึ้นเป็นฮูหยินเสียที นางจึงได้วางอุบายเพื่อที่จะใส่ร้ายและทำลายชื่อเสียงของหลันเหม่ยหลินที่เป็นบุตรสาวคนเดียวของฮูหยินเหลียนแทน
และเพราะว่าเรื่องการยักยอกสินเดิมของฮูหยินนั้นกลายเป็นว่ามีพ่อบ้านหลิวเป็นผู้สมรู้ร่วมคิด ซึ่งสกุลหลิวนั้นเป็นที่รู้กันว่าเป็นสกุลที่ภักดีต่อสกุลหลัน และได้รับใช้สกุลหลันมารุ่นต่อรุ่น ดังนั้นการที่พ่อบ้านหลิวหักหลังสกุลหลันแล้วไปร่วมมือกับอนุจ้าวนั้นเป็นเรื่องที่ชาวบ้านรู้สึกสงสัยอย่างมาก
บางส่วนก็เล่าลือกันไปว่าอนุจ้าวความจริงแล้วนางสวมหมวกเขียวให้แก่ราชครูหลัน ยั่วยวนพ่อบ้านหลิวและได้ลักลอบเล่นชู้กัน พ่อบ้านหลิวจึงได้ยินยอมร่วมมือกับอนุจ้าวแต่โดยดี
หลายๆ คนจึงเริ่มที่จะสงสัยว่าความจริงแล้ว หลันเหม่ยอิงอาจจะไม่ใช่บุตรีของราชครูหลันจริงๆ แต่ทว่าเรื่องนี้แม้ทุกคนจะสงสัยแต่ก็ไม่กล้าที่จะพูดออกมาตรงๆ ต่อหน้าของราชครูหลัน
ดังนั้นในช่วงสองสามวันมานี้ราชครูจึงถูกคนในราชสำนักมองด้วยสายตาแปลกๆ
แต่ทว่าเขากลับไม่สนใจ และทำหน้าที่ของตนอย่างปกติ
กระทั่งฮ่องเต้เองก็ยังไม่กล้าที่จะเอ่ยถามถึงความเป็นมาจากเพื่อนสนิทของตนเลยแม้แต่น้อย
ส่วนทางด้านของหลันเหม่ยอิงนั้น นางก็ไม่ยอมที่จะก้าวเท้าออกจากเรือนเลยแม้แต่น้อยในช่วงสองสามวันที่ผ่านมา แม้กระทั่งองค์ไท่จื่อเองก็ไม่ได้มาเยี่ยมเยียนนางเลยแม้แต่น้อย
ทันทีที่อนุจ้าวและพ่อบ้านหลิวถูกส่งตัวไปถึงกองปราบพวกเขาก็ถูกคุมขังอยู่ในห้องขังที่นั่นเป็นเวลาสามวันก่อนที่จะถูกส่งต่อไปยังกรมอาญาด้วยวิธีการเดียวกันกับที่ราชครูหลันใช้ตอนที่ส่งตัวทั้งสองคนไปยังกองปราบ
เมื่อไปถึงกรมอาญาได้ยินมาว่าฮ่องเต้ทรงลงมาสอบสวนเรื่องนี้ด้วยพระองค์เอง เหตุผลคืออะไรแม้ผู้อื่นจะไม่ทราบ แต่ราชครูหลันที่เป็นสหายสนิทกับฮ่องเต้มาแต่เยาว์วัยนั้นทราบดีว่าเหตุผลนั้นก็เป็นเพราะว่าพระองค์อยากที่จะทราบเรื่องแต่ไม่กล้าที่จะถามจากปากของราชครูหลันก็เท่านั้นเอง
หลังจากที่องค์ฮ่องเต้สืบความทั้งหมดจนพอใจแล้ว จึงได้สั่งให้นำตัวคนทั้งสองไปขังเอาไว้รอวันที่จะประหารคนทั้งคู่ทิ้ง
และเมื่อบทลงโทษของอนุจ้าวและพ่อบ้านหลิวถูกประกาศออกมาแล้วนั้น หลันเหม่ยอิงก็พยายามที่จะฆ่าตัวตาย แต่ทว่าหลินหลันที่แอบสั่งให้บ่าวไพร่บางส่วนจับตาดูหลันเหม่ยอิงเอาไว้ ทำให้สามารถจัดการกับเรื่องนี้ได้ทันการ และสามารถป้องกันไม่ให้ข่าวเรื่องที่หลันเหม่ยอิงพยายามที่จะฆ่าตัวตายนั้นแพร่ออกไปนอกจวนได้
หลังจากที่อนุจ้าวและพ่อบ้านหลิวถูกประหาร หลันเหม่ยอิงก็เหมือนกับตายทั้งเป็น นางรู้สึกเหมือนในชีวิตของนางไม่เหลือใครอีกต่อไป ราชครูหลันเองก็ไม่เคยใส่ใจเธออยู่แล้ว อนุจ้าวตอนนี้ก็ถูกประหารไปแล้ว ส่วนองค์ไท่จื่อนั้น ตั้งแต่วันนั้นที่หลินหลันฟื้นขึ้นมา เขาก็ไม่มาให้นางเห็นหน้าอีกเลย ไม่สิ โดยปกติแล้วหากว่าหลันเหม่ยอิงไม่ได้เป็นฝ่ายที่จะออกไปหาเขาเอง นางก็แทบจะไม่ได้เจอเขาอยู่แล้ว
ส่วนเรื่องคดีฆาตกรรมของผิงหยู่นั้น ตอนนี้ทางการสามารถจับตัวผู้กระทำได้แล้ว
และผู้ที่กระทำความผิดนั้น แท้จริงแล้วมิใช่หลันเหม่ยอิงแต่อย่างใด
เพราะถึงแม้ว่าทางกองปราบนั้นจะสืบหาต้นตอไปจนพบว่าหลันเหม่ยอิงนั้น น่าจะมีส่วนเกี่ยวข้อง เพราะนางได้ว่าจ้างนักฆ่าให้ออกไปทำทีเป็นช่วยเหลือผิงหยู่หลังจากที่นางถูกขายออกไป แต่ทว่าทางการกลับพบศพของนักฆ่ากลุ่มนั้นตายรวมกันอยู่ที่ห้องว่างห้องหนึ่งในโรงเตี้ยมใกล้กับจุดที่พบศพของผิงหยู่ ซึ่งจากการชันสูตร คาดว่าพวกนั้นน่าจะตายก่อนผิงหยู่หลายชั่วยาม
ที่สำคัญทางกองปราบพบว่าลักษณะการฆ่าของฆาตกรคนนี้นั้น คล้ายกับฆาตกรต่อเนื่องที่ยังจับตัวไม่ได้เมื่อสิบกว่าปีก่อน
เพราะว่าสิ่งที่ทำให้ผิงหยู่เสียชีวิตนั้น ความจริงแล้วไม่ได้เกิดจากแผลที่ดวงตาของนางเพียงอย่างเดียว แต่ทว่าเกิดจากพิษชนิดหนึ่งที่จะทำให้เลือดมันไหลไม่หยุด นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ทำให้ศพมีเลือดออกมามากนั่นเอง
บนตัวของศพยังพบรอยกรีดรูปดาวที่เหมือนกับคดีเมื่อสิบปีก่อนไม่ผิดเพี้ยน
ทางการจึงสรุปว่าฆาตกรต่อเนื่องที่ยังจับตัวไม่ได้เมื่อสิบกว่าปีก่อนนั้นได้เริ่มก่อคดีอีกครั้งหนึ่ง
ซึ่งนั่นก็เป็นไปไม่ได้ที่หลันเหม่ยอิงจะเป็นผู้กระทำการ
และหลังจากนั้นไม่นาน ทางการสืบพบเบาะแสว่าเรื่องนี้นั้นเกี่ยวข้องกับพ่อค้าฝู ซึ่งเป็นญาติห่างๆ ของฮั่วกุ้ยเฟย
และด้วยความที่เรื่องนี้เป็นคดีใหญ่ ถึงแม้ว่าฮั่วกุ้ยเฟยนั้นอยากจะช่วยแต่ทว่าก็ไม่สามารถช่วยได้แม้แต่น้อย เพราะว่าเรื่องนี้ฮ่องเต้เป็นผู้ที่ลงมือสอบสวนด้วยพระองค์เอง ทันทีที่ทราบว่ามันเกี่ยวข้องกับคดีฆาตกรรมต่อเนื่องที่เกิดขึ้นเมื่อสิบปีก่อน ที่ทำให้ชาวบ้านอกสั่นขวัญแขวนกันไปทั่ว
หลังจากนั้นไม่นานพ่อค้าฝูก็ถูกสั่งประหารเจ็ดชั่วโคตร
ทางด้านฮั่วกุ้ยเฟยเองก็ถูกสั่งปลดแล้วเนรเทศออกไป
เมื่อหลินหลันได้ทราบเรื่องราวทั้งหมดแล้ว นางก็ไม่ได้แสดงอาการอะไรออกมาทั้งนั้น เพราะการที่คดีฆาตกรรมต่อเนื่องที่ปิดไม่ได้มานานถึงสิบปีกลับถูกปิดอย่างรวดเร็วเช่นนี้
นางเดาว่าความจริงแล้วฮ่องเต้น่าจะกำลังหาโอกาสที่จะกำจัดฮั่วกุ้ยเฟยอยู่แล้ว เพราะว่าฮั่วกุ้ยเฟยนั้นมีอำนาจในราชสำนักมากเกินไป ทั้งเหตุการณ์นี้ยังช่วยในการลดทอนอำนาจขององค์ชายใหญ่ซึ่งเป็นบุตรของฮั่วกุ้ยเฟยอีกด้วย เป็นการปูทางให้องค์ไท่จื่อได้เดินอย่างสะดวกมากยิ่งขึ้น
หลินหลันคาดว่ากรณีนี้ ถึงแม้ว่าพ่อค้าฝูจะผิดจริงหรือไม่ผลก็ไม่ต่างกันเท่าไหร่นัก เพราะเหตุการณ์นี้ก็เป็นเพียงละครฉากใหญ่เท่านั้น
แต่ที่น่าแปลกก็คือ หลินหลันสงสัยว่าผู้ใดที่เป็นคนสั่งฆ่าผิงหยู่ เพราะในระหว่างที่หลินหลันกำลังถูกสอบสวนอยู่นั้น นางได้ส่งเสี่ยวฝานให้ไปสืบเรื่องราวในเรือนของหลันเหม่ยอิงมาแล้ว ก็พบว่านางไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้แม้แต่น้อย
และที่สำคัญสภาพศพของผิงหยู่ก็ทำให้หลินหลันนึกถึงลิงสามตัวที่เธอเคยเห็นในชาติก่อน ที่ตัวหนึ่งปิดตา อีกตัวหนึ่งผิดหู และตัวสุดท้ายปิดปาก เพื่อไม่ให้กระทำสิ่งชั่วร้าย
เหมือนกับฆาตกรต้องการที่จะลงโทษในการกระทำของผิงหยู่อย่างนั้น
แต่หลินหลันไม่ใช่นักสืบ และนางก็ไม่อยากที่จะรับบทเป็นนักสืบในเวลานี้เสียด้วย
ตอนนี้สิ่งที่นางจะต้องทำต่อไปก็คือ นางจะต้องหาทางยกเลิกการหมั้นหมายระหว่างนางและองค์ไท่จื่อให้ได้ อย่างไรตอนนี้ชื่อเสียงของจวนราชครูก็ไม่ค่อยสู้ดีสักเท่าไหร่ การที่จะถอนหมั้นคงจะเป็นเรื่องที่ง่ายดายมากยิ่งขึ้นอยู่แล้ว
อีกอย่างหนึ่ง การที่จะเติมเชื้อไฟให้ผู้คนมีเรื่องให้พูดคุยเกี่ยวกับเรื่องภายในจวนของนางกันมากขึ้น ก็คงจะไม่เป็นอันใดใช่หรือไม่
อย่างน้อยนางก็ได้ทำประโยชน์ให้ผู้คนได้มีเรื่องที่จะพูดคุยกันมากขึ้นอย่างไรเล่า
แต่ไม่รู้ว่าราชครูหลันจะคิดเห็นเช่นไรกับเรื่องนี้กันนะ
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

เพิ่งตามมาอ่านรอบนี้ค่าาา
สนุกมากเลย ไม่รู้ว่าก่อนหน้า rw เป็นอย่างไร แต่ว่าตอนนี้เนื้อหาเข้มข้นกระชับสนุกมากเลยค่ะ
เอาจริง เพราะว่าเรื่องจริงเพี้ยนไปจากในนิยายก็เลยไม่รูู้ว่าอะไรเป็นอย่างไรขนาดไหน
แต่คิดอย่างหนึ่งว่า ถ้าทั้งหมดที่อีองค์ไท่จื่อทำเพื่อยั่วให้หึงเนี่ยย
รู้ไหมว่ามันได้ผลลัพธ์คนละอย่างกับที่ต้องการ ตอนนี้คนที่อยู่ข้างในอาจจะไม่ใช่คนที่เคยอยากให้หึงแล้วนะ
คือว่าเล่นอะไรมากเกินไปแล้ว เค้าตกน้ำตกท่ามาเลยนะ ถึงตัวเองจะเป้นคนช่วยมาก็เถอะ
แต่ก็นั่นแหละ มีน้องสาวมาช่วยกระพือความวุ่นวายอีกด้วยนี่นา
ไม่น่าอ้อมโลกแต่ไกลเลย จีบกันดีๆ ก็ได้ ตอนนี้ยากแล้วนะเออ
ปิดจบเรื่อง ฆตก ต่อเนื่องเร็วมากค่าา กำจัดไปหนึ่งง
ว่าแต่แม่เลี้ยงใจร้ายกับน้องสาวปิดจีอบเร็ซมาก ต่อไปจะมีอะไรมาอีกไหมนะ
ลุ้นนนๆๆ
จะลืมชื่อนางเอกอยู่แล้วค่ะ
รอออน๊าาาาาาา
รอๆๆๆๆๆ กำลังเข้มข้น