ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [EXO,SNSD,F(X)] GIRLS IN LOVE { krissica x kaistal }

    ลำดับตอนที่ #6 : raindrops ( kaistal ) 100% UP!

    • อัปเดตล่าสุด 31 ก.ค. 56


      .


    .



    .





    .




    .

     




      “ฝนตกหนักชะมัด.เสียงทุ้มสบถขึ้นอย่างขัดใจ ฝนตกหนักขนาดนี้เค้าจะขับรถลงเขาได้อย่างไร

       “วันนี้เราคงต้องหาที่พักใกล้ๆนี่ก่อน รอให้ฝนหยุดตกหรือซาลงกว่านี้แล้วเราค่อยกลับบ้านกัน”ชายหนุ่มพูดต่อพลางหักพวงมาลัยเลี้ยวเข้าโรงแรมหรูซึ่งเป็นเครือเดียวกับสวนสนุกที่พวกเขาเพิ่งออกมาไม่นาน

       “แล้วถ้าฝนตกหนักตลอดเลยล่ะ”เสียงหวานเอ่ยถามขึ้นอย่างสงสัย ถ้าฝนตกไม่หยุดเธอมิต้องนอนค้างที่นี่เลยหรือ

       “เราก็ค้างกันที่นี่แหละไม่เห็นต้องถาม” นั่นไง...

      “ไม่เอาอ่ะ พรุ่งนี้ฉันเปิดเทอมวันแรกนะ ไม่อยากขาดเรียนแล้วก็ไม่อยากไปสายด้วย”ร่างบางโต้กลับชายหนุ่มอย่างจริงจัง และแน่นอนว่าเธอไม่ยอมนอนค้างคืนที่โรงแรมกับผู้ชายที่เพิ่งพบกันวันแรกเป็นแน่

       “พรุ่งนี้ฉันก็เปิดเทอมวันแรกเหมือนกัน ไม่อยากไปสายเหมือนเธอนั่นแหละน่า”ชายหนุ่มว่าพลางดับเครื่องยนต์เมื่อรถจอดเข้าที่เข้าทางเรียบร้อย มือหนาหยิบกระเป๋าตังค์ขึ้นมา พลางค้นหาอะไรบางอย่าง ก่อนจะนึกขึ้นได้พร้อมเอื้อมมือมาเปิดช่องใส่ของหน้ารถตรงที่หญิงสาวนั่งอยู่ เมื่อแขนของชายหนุ่มวางพาดบริเวณต้นขาสวยของหญิงสาว ทำให้เธอสะดุ้งตัวเล็กน้อย

        “โทษทีนะ ฉันจะหยิบของน่ะ” ชายหนุ่มเมื่อทราบว่าหญิงสาวตกใจจึงเอ่ยขอโทษก่อนจะหาของต่อไป โดยไม่ได้สังเกตใบหน้าสวยที่กำลังแดงจัดด้วยความขวยเขิน

        “อะ..อือ ไม่เป็นไร” สาวสวยตอบอ้อมแอ้มก่อนจะหาเรื่องมาพูดคุยเมื่อกำจัดอาการฟุ้งซ่านของตนเองในตอนนี้ “เอ่อ..นายอยู่โรงเรียนอะไรเหรอ”

        “มัธยมปลายดองกุกน่ะ เจอแล้ว!”เสียงทุ้มเอ่ยตอบ พร้อมคุ้ยกองกระดาษในช่องใส่ของอีก 2-3 ที ก่อนจะเจอบัตรสีดำเงาขลับคล้ายบัตรเครดิตธรรมดาทั่วไป จะแปลกก็ตรงที่ไม่มีตัวอักษรอะไรเลย นอกจากชื่อคนที่เขียนเป็นภาษาอังกฤษตัวเขียนสีทองที่มุมขวาล่าง หญิงสาวพยายามเพ่งมองว่าชื่อนั้นเขียนว่าอะไร แต่ก็โดนขัดต้องคำถามของเจ้าของบัตรนั้นเสียก่อน “ว่าแต่เธอล่ะอยู่โรงเรียนอะไร”   

         “มัธยมปลายดองกุกเหมือนนายนั่นแหละ”เสียงหวานเอ่ยตอบไปส่งๆ ก่อนจะนึกขึ้นได้ว่า ”เฮ้ย งั้นฉันก็อยู่โรงเรียนเดียวกับนายเลยอ่ะดิ โชคดีชะมัด อย่างน้อยฉันก็หาเพื่อนได้แล้ว นายรู้เปล่า ฉันเครียดมากเลยนะ กลัวว่าจะไม่มีเพื่อน เพราะฉันเข้าไปก็ปีสุดท้ายแล้ว เพื่อนที่โรงเรียนก็ต้องสนิทกันมากแน่ๆ แล้วฉันจะไปแทรกตรงไหน แต่เจอนายก่อนก็ดีแล้วๆ สบายใจขึ้นเยอะเลย แล้วที่โรงเรียนเป็นไงบ้าง อาจารย์ใจดีมั้ย แล้วเรียนหนักรึเปล่า แล้ว...”

         “ใจเย็นๆ เธอถามฉันทีละคำถามได้ไหม ฉันรู้ว่าเธอตื่นเต้น แต่เธอช่วยพูดช้าลงหน่อยจะดีมาก...”เสียงทุ้มเอ่ยหลังจากที่นำนิ้วชี้ของตนไปแตะเบาๆที่ริมฝีปากบางของหญิงสาวอย่างแผ่วเบา “แต่เธอรู้อะไรไหม มีอยู่ข้อนึงที่ฉันก็รู้สึกเหมือนเธอ”

        “....”

        “ฉันเองก็รู้สึกดีใจที่ได้รู้จักเธอเหมือนกัน”ใบหน้าหล่อเหลาเปื้อนไปด้วยรอยยิ้มอันอบอุ่น จนทำให้หญิงสาวรู้สึกใจเต้นอย่างควบคุมไม่ได้ นิ้วเรียวที่ปิดริมฝีปากเธออยู่เมื่อสักครู่ได้ผละออกไปแล้ว กลายเป็นใบหน้าหล่อเหลาของชายหนุ่มที่ค่อยๆโน้มเข้ามาใกล้เรื่อยๆ

          ภายในรถเงียบสนิท มีเพียงเสียงสายฝนที่โปรยปรายอยู่ด้านนอกรถ หากคนทั้งสองหาได้ยินไม่ ใบหน้าของคนทั้งสองอยู่ใกล้กันมากจนได้ยินเสียงลมหายใจของกันและกันได้ไม่ยาก ดวงตาคมของชายหนุ่มจ้องเข้าไปในดวงตากลมโตของหญิงสาว ราวกับกำลังค้นหาอะไรบางอย่าง ทั้งสองจ้องตากันอยู่อย่างนั้นจนในที่สุด...

        “โอเค ฉันยอมแล้ว ให้ตาย” ชายหนุ่มเป็นฝ่ายเลือกที่จะยอมแพ้เสียเอง ใบหน้าหล่อฝังลงที่ไหล่เล็กของร่างบาง พร้อมเอ่ยขึ้นว่า “รู้ไหมว่าตัวเองมีแรงดึงดูดมากขนาดไหน แล้วถ้าฉันหยุดตัวเองไม่ได้จะทำยังไง”

        “....”หญิงสาวที่ตอนนี้เหมือนสติจะไม่อยู่กับเนื้อกับตัวได้แต่ทำหน้างง ดวงตากลมกระพริบปริบๆสองสามที ก่อนจะดึงสติของตนเองกลับมาได้ ใบหน้าหวานแดงจัดอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน หัวใจเต้นแรงราวกับจะหลุดออกมาจากร่างกายของเธอเอง

         “อย่างน้อยก็ช่วยผลักฉันออกมาหน่อยได้ไหม...ซูจอง”  
     

    30 %






        ร่มเธอนี่เล็กเกินไปจริงๆนะ”ร่างสูงเอ่ยขณะกำลังเดินเข้าไปในโรงแรมด้วยอาการหนาวสั่น เสื้อเชิ้ตสีดำเปียกโชกเพราะหยาดฝนที่ตกลงมาอย่างหนักหน่วงนั้นแนบไปกับร่างกายของชายหนุ่ม เผยให้เห็นกล้ามเนื้ออ่อนๆทั้งบริเวณต้นแขน หน้าท้องและแผ่นหลัง ซึ่งบ่งบอกว่าชายหนุ่มนั้นดูแลร่างกายของตัวเองดีขนาดไหน

        “ฉันบอกให้นายขยับเข้ามาแล้วนะ นายดื้อเองช่วยไม่ได้”หญิงสาวที่เดินตามเข้ามาก็เปียกฝนเช่นกัน แต่ถ้าเทียบกับชายหนุ่มที่เดินพลางมีน้ำหยดออกมาจากปลายเสื้อขณะเดินตลอดทางแล้ว นั้นถือว่าเธอไม่เปียกเลยก็ว่าได้

        “เออ ฉันผิดเองแหละ รีบไปหาห้องพักกันเถอะ ฉันหนาวจะตายอยู่แล้ว”ว่าแล้วชายหนุ่มก็เดินตรงไปที่เคาน์เตอร์เพื่อที่จะหาห้องพักก่อนที่ตัวเองจะหนาวตายอยู่ตรงนี้

        “ขอห้อง DELUXE SUITE สองห้องเชื่อมกัน ด่วนครับ”ชายหนุ่มตรงเข้าไปหาพนักงานสาวที่ดูแล้วน่าจะมีตำแหน่งสูงอยู่พอสมควร ก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือเพราะความหนาว

        “ขออภัยค่ะ ตอนนี้ห้องพักของเราเต็มทุกห้องแล้วค่ะ”พนักงานสาวพูดด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย สายตาจดจ่ออยู่ที่คอมพิวเตอร์ ไม่แม้แต่จะเงยหน้าขึ้นสบตากับชายหนุ่มเลยแม้แต่น้อย และนั่นทำให้ชายหนุ่มอารมณ์เดือดไม่น้อยเช่นกัน

         “ซูจอง ตรงนั้นมีร้านขายเสื้อผ้าอยู่ วานเธอไปซื้อเสื้อกับกางเกงให้ฉันที แล้วก็ซื้อเผื่อตัวเธอเองด้วย อ่ะนี่บัตรเครดิต ราคาไม่ต้องสน เธอชอบตัวไหนก็รูดเอาแล้วกัน”ร่างสูงว่าพลางยัดบัตรเครดิตสีทองใส่มือเล็กและจับเจ้าของมือเล็กให้หันหลังพร้อมดันหลังเธอเบาๆเป็นสัญญาณว่าให้รีบไปในทันที

         ร่างบางหันหน้ามาค้อนให้ชายหนุ่มหนึ่งทีเพื่อบ่งบอกว่าเธอไม่พอใจที่เขามาสั่งเธอ แต่ก็ยอมไปให้แต่โดยดี ร่างสูงเมื่อเห็นร่างบางเดินไปไกลพอสมควรแล้ว จึงหยิบบัตรสีดำที่เขาหาในรถเมื่อสักครู่ออกมา ก่อนจะถอนหายใจออกมาเบาๆ

         แค่เอามาเผื่อไว้ แต่ไม่คิดว่าวันนี้จะต้องใช้มันจริงๆแฮะ

        การ์ดใบสวยถูกยื่นไปอยู่ใกล้กับใบหน้าของพนักงานสาว เมื่อเธอเงยหน้าขึ้นมาด้วยอาการตกใจใบหน้าหล่อที่มีรอยยิ้มมุมปากเล็กๆ ก่อนเสียงทุ้มจะเอ่ยขึ้นว่า

        “ขอห้อง DELUXE SUITE สองห้องเชื่อมกันได้ไหมครับ”

     

     

     

         “โห ใหญ่ชะมัด ไหนเขาบอกว่าห้องไม่ว่างเลยไง แล้วทำไมนายถึงหาห้องหรูขนาดนี้มาได้ล่ะ”ร่างบางเดินเข้ามาในห้องก็ต้องตกตะลึงกับความสวยงามและความอลังการของห้องนี้ สาวสวยวางกระเป๋าและถุงเสื้อผ้าที่ซื้อมาไว้ที่โซฟาก่อนจะเดินสำรวจรอบๆทั้งสองห้อง

       “อืม..รู้สึกจะมีคนแคนเซิลพอดีน่ะ”เสียงทุ้มว่า พลางใช้นิ้วเรียวเกาแก้มเบาๆอย่างรู้สึกผิดเมื่อนึกถึงครอบครัวที่ถูกเขาแย่งห้องมา รวมทั้งใบหน้าซีดเผือดของพนักงานสาวคนนั้นด้วย

         ไม่คิดว่ามันจะใช้ได้ผลกับที่นี่ขนาดนี้เลยแฮะ

        “อ่อ...โชคดีเนอะ งั้นก่อนอื่นนายรีบอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเถอะ ถ้าเป็นหวัดแล้วฉันไม่รับผิดชอบนะ”หญิงสาวว่า หลังจากเดินสำรวจห้องเรียบร้อยแล้ว ก่อนจะเดินกลับมาหาร่างสูงพร้อมผ้าเช็ดตัวที่เธอหยิบออกมาจากในห้องน้ำยื่นให้ หลังจากนั้นก็หันไปหยิบเสื้อผ้าที่เธอซื้อเตรียมไว้ให้ยื่นให้เช่นกัน

       “ขอบใจ”หนุ่มหล่อรับของมามือนึง อีกมือหนึ่งก็ลูบท้ายทอยตัวเองไปมาด้วยความรู้สึกแปลกประหลาดที่เขาเพิ่งเคยสัมผัสมันเป็นครั้งแรก...

     

     

    15 นาทีผ่านไป

       ชายหนุ่มออกมาจากห้องน้ำด้วยความหงุดหงิดเล็กน้อย เพราะไม่พอใจกับเสื้อผ้าที่ตัวเองใส่อยู่สักเท่าไหร่ เสื้อยืดสีขาวลายมิกกี้เมาส์กับกางเกงวอร์มสีเทาทำให้เขาดูเหมือนเด็กมัธยมต้นที่ดูอ่อนต่อโลกและมันทำให้เขาขนลุก

        “เธอยังไม่ได้อาบน้ำอีกเหรอซูจอง”เสียงทุ้มเอ่ยขึ้นด้วยความสงสัยเมื่อเห็นร่างบางที่นั่งอยู่หน้าโทรทัศน์และกำลังหัวเราะกับรายการตลกอย่างเอาเป็นเอาตาย

        “ฮ่าๆๆ อ้าวไค นายอาบเสร็จแล้วเหรอ พะ..พอดีห้องน้ำอีกห้องมันไม่มีอ่างอาบน้ำน่ะ ฉันเลยมาจะมาอาบต่อจากนาย ฮ่าๆๆ โอ้ย รายการนี้ตลกชะมัดเลยอ่า”เสียงหวานตอบพลางหัวเราะไปพลาง ทำให้ใบหน้าหล่ออดยิ้มไปกับท่าทางน่าเอ็นดูของคนตรงหน้าไม่ได้ แต่ก็ต้องพยายามเก๊กขรึมเข้าไว้

       “ไปอาบน้ำได้แล้ว เธอนี่น้า ถ้าไม่สบายขึ้นมาจะทำยังไง ไปๆอาบน้ำๆ”ร่างสูงตีสีหน้าเรียบเฉยพลางพูดจาตำหนิหญิงสาว ทำเอาอารมณ์ขันของสาวเจ้าหมดไปในพริบตา

       “ชิ คนกำลังอารมณ์ดีแท้ๆ”ใบหน้าสวยแสดงสีหน้าไม่พอใจเล็กน้อย ก่อนจะคว้าเสื้อผ้าเข้าห้องน้ำไปอย่างรวดเร็ว

      “เฮ้อออ” ชายหนุ่มถอนหายใจยาวๆก่อนจะทิ้งตัวลงบนโซฟาบริเวณเดียวกับที่ร่างบางนั่งเมื่อสักครู่ กลิ่นกายสาวที่ยังติดอยู่ที่โซฟาช่างหอมหวานและเย้ายวนใจไปในคราวเดียวกัน และนั่นทำให้เลือดในกายของชายหนุ่มพลุกพล่านอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน...

     

     
     

    30 นาทีผ่านไป

       ร่างสมส่วนก้าวออกมาจากในห้องน้ำอย่างอารมณ์ดี พอได้อาบน้ำก็รู้สึกร่างกายสดชื่นขึ้นมาก หญิงสาวเดินมาที่โซฟาที่มีชายหนุ่มนั่งเล่นโทรศัพท์มือถืออยู่ กลิ่นสบู่อ่อนๆทำให้ชายหนุ่มเงยหน้าขึ้นมามองก็พบใบหน้าสวยกำลังจ้องมองเขาอยู่

       “เปิดทีวีนะ”ร่างบางพูดขึ้นหลังจากนั่งลงบนโซฟานุ่มเรียบร้อยแล้ว ชายหนุ่มไม่ได้ตอบอะไร เขาสังเกตเสื้อผ้าที่หญิงสาวใส่ก็อดที่จะอมยิ้มน้อยๆไม่ได้ คงเพราะเสื้อลายมินนี่เมาส์กับกางเกงวอร์มสีเทาที่เหมือนกับของเขาทุกกระเบียดนิ้วนี่ละมั้ง

       ท่าทางจะชอบใส่เสื้อผ้าคู่จริงๆนะยัยนี่

       “ไค เช็ดผมให้ฉันหน่อยสิ”หญิงสาวพูดขึ้นในขณะที่สายตายังคงจับจ้องอยู่ที่โทรทัศน์ขนาด 60 นิ้วอย่างตั้งอกตั้งใจ ชายหนุ่มแม้จะไม่ค่อยเข้าใจ แต่ก็ยอมทำตามคำขอของหญิงสาวแต่โดยดี

       “ไค”

       “เรียกจงอินเถอะ นี่คือชื่อจริงๆของฉัน ฉันอยากให้เธอเรียก”นายหนุ่มขัดขึ้นอย่างทนไม่ได้ ชื่อไคเป็นเพียงชื่อเล่นที่เพื่อนๆตั้งให้เขาก็เท่านั้น เขาเห็นว่าเท่ดีเลยเอามาใช้ แต่สำหรับเธอคนนี้ คนที่อยู่ตรงหน้าเขา เขาอยากให้เธอเรียกชื่อจริงๆของเขา ไม่รู้ว่าเพราะอะไรเหมือนกัน

        “จงอิน..”เพียงแค่เสียงหวานเรียกชื่อเขาเบาๆ ก็ทำให้ชายหนุ่มรู้สึกอุ่นวาบไปทั่วทั้งร่าง เป็นความรู้สึกที่ไม่มีผู้หญิงคนไหนที่เขาคบด้วยก่อนหน้านี้จะทำให้เขารู้สึกแบบนี้ได้ มันรู้สึกอบอุ่นหัวใจอย่างบอกไม่ถูก รู้สึกราวกับว่าถ้าเขาขาดเธอไปคงจะอยู่ไม่ได้อีกต่อไป

         “ปกติพี่สาวของฉันจะเป็นคนเช็ดผมให้ฉันแทบทุกครั้ง มันเลยติดเป็นนิสัยเสียๆของฉันน่ะ ถ้านายไม่อยากทำก็บอกนะ”หญิงสาวเอ่ยขึ้นอย่างแก้เก้อ รู้สึกแปลกๆกับความรู้สึกของตัวเองเหมือนกัน เพราะถึงแม้เวลาที่พี่สาวของเธอเช็ดผมให้เธอจะรู้สึกสบายและอบอุ่นก็เถอะ แต่ครั้งนี้มันต่างออกไป รู้สึกอบอุ่นแบบแปลกๆ รู้สึกว่าหัวใจของเธอกำลังเต้นแรงกว่าปกติ อาจเป็นเพราะความอ่อนโยนที่ชายหนุ่มมอบให้ผ่านมือใหญ่ของเขานี่ล่ะมั้ง

        “มือนายใหญ่จัง...”

        “อืม”ชายหนุ่มตอบออกไปเพียงเท่านั้น ในหัวสมองของเขากำลังคิดอะไรหลายๆอย่างที่เขาไม่เคยคิดมาก่อน ทั้งหมดนี้ผุดขึ้นมาในสมองของเขาภายในวันเดียว วันที่เจอกับผู้หญิงคนนี้ ...เพราะอะไรกันนะ 

         ทันใดนั้น คำพูดของพี่ชายที่เคารพรักก็ลอยขึ้นมาราวกับจะย้ำเตือนให้เขาคิดอะไรบางอย่างได้อย่างง่ายดาย...

     

        “อย่าใช้สมองกับเรื่องของความรัก เพราะมันไม่มีทางเป็นไปตามที่นายคำนวณไว้หรอก”


     

          70%      

       
       
    “จงอินๆ ฮัลโหลลล นายยังอยู่ดีใช่ม้ายย”เสียงหวานเอ่ยขึ้นเป็นรอบที่ร้อย พร้อมแขนเรียวโบกสะบัดพัดไปมาเหมือนเด็กที่กำลังสนุกกับอะไรบางอย่างแม้แต่ตัวเธอเองก็ไม่สามารถอธิบายการกระทำของตัวเองได้

        “หืม? มีอะไรเหรอ แล้วนี่เธอทำท่าอะไรของเธอเนี่ย”ชายหนุ่มถามหญิงสาวพลางกลั้นยิ้มเอาไว้ด้วย ถึงจะดูประหลาดแต่พอเป็นคนตัวเล็กทำแล้วกลับน่ารักขึ้นมาซะได้

        “นายได้ฟังฉันรึเปล่าเนี่ย ฉันบอกว่าฝนหยุดตกแล้ว นายจะกลับบ้านกันเลยไหม”เสียงหวานถามออกไปขณะกำลังดูเล็บของตัวเองเนื่องจากไม่มีอะไรจะทำแล้ว

       “แล้วนี่หลับในอยู่รึเปล่า นายเช็ดผมฉันจนมันแห้งจนจะร่วงหมดหัวอยู่แล้วเนี่ย”หญิงสาวอดที่จะบอกไม่ได้ เหตุเพราะชายหนุ่มไม่ยอมหยุดเช็ดผมให้เธอสักที มันสบายดีก็จริง แต่นานขนาดนี้เธอก็เมื่อยเป็นเหมือนกันนะ

        “เปล่า แค่อยากให้มันแห้งสนิทน่ะ เดี๋ยวเธอจะไม่สบาย”สิ่งที่ชายหนุ่มเอ่ยออกมา ทำให้หญิงสาวที่นั่งอยู่แทบจะนั่งไม่ติดโซฟาอยู่แล้ว รู้สึกอบอุ่นขึ้นมาทันที ความเมื่อยที่รู้สึกเมื่อสักครู่กลับหายเป็นปลิดทิ้งเลยทีเดียว

       “เธออยากกลับเลยรึเปล่าล่ะ นี่ก็สองทุ่มแล้ว กลับบ้านดึกเดี๋ยวคนที่บ้านเธอจะเป็นห่วงเอา”เสียงทุ้มถามพลางพับผ้าที่ใช้เช็ดผมของเธอเมื่อครู่อย่างเรียบร้อย ดวงตากลมโตจ้องมองการกระทำของเขาอย่างไม่วางตา พลางอมยิ้มไปด้วย จะมีผู้ชายสักกี่คนกันเชียวที่เป็นแบบนี้

       “จริงๆกลับเลยก็ได้นะ แต่ฉันเสียดายห้องนี้อ่ะ มันต้องแพงมากแน่ๆ พวกเราอยู่ยังไม่ถึง 2 ชั่วโมงเลยมั้ง”ร่างบางลุกขึ้นจากโซฟา ก่อนจะเดินไปที่หน้าต่างบานใหญ่เท่าประตู มือเล็กผลักบานประตูทั้งสองฝั่งออกพร้อมกัน ก่อนจะเดินไปที่ระเบียงกว้างที่ปูพื้นด้วยหินอ่อนสีขาว ให้ความรู้สึกราวกับเธอเป็นเจ้าหญิงที่กำลังรอเจ้าชายปีนขึ้นมาหาด้วยความคิดถึง...

       “เธอกำลังฝันอะไรอยู่รึเปล่า”เสียงทุ้มเอ่ยขึ้นจากทางด้านข้าง ร่างบางสะดุ้งตัวเล็กน้อย ก่อนจะค้อนให้ชายหนุ่มหนึ่งที

       “พระจันทร์สวยชะมัด หลังฝนตกท้องฟ้าจะสวยแบบนี้ทุกครั้งรึเปล่านะ เธอเคยเห็นรึเปล่า”หนุ่มหล่อไม่สนใจสายตาของหญิงสาวที่ค้อนมาให้ กลับถามอะไรที่หญิงสาวฟังแล้วรู้สึกอบอุ่น และพร้อมที่จะยกโทษให้คำพูดที่ฟังแล้วไม่เข้าหูเธอได้เสมอ

        “ก็เคยเห็นบ้าง แต่เป็นตอนกลางวันนะ มีสายรุ้งด้วยแหละ มันพาดจากขอบฟ้าด้านนึงไปอีกด้านนึงเลยนะ ตอนนั้นฉันชี้สายรุ้งให้พี่ซูยอนดู พี่เค้าตีมือฉันเลยอ่ะ พี่บอกว่าห้ามชี้เดี๋ยวนิ้วกุด ตอนหลังมาพอฉันเห็นฉันก็จะทำปากจู๋แบบนี้ๆ” ว่าแล้วหญิงสาวก็ทำท่าทางให้ชายหนุ่มดู เสียงหัวเราะเบาๆเกิดขึ้นระหว่างบทสนทนาเล็กๆนี้ ชายหนุ่มรู้สึกมีความสุขมาก ไม่เคยมีครั้งไหนที่เขาอยู่กับผู้หญิงที่ไม่ใช่แม่ของเขาแล้วจะรู้สึกสบายใจได้ขนาดนี้

       “จริงๆฉันก็เคยเห็นนะ ท้องฟ้าหลังฝนตก..”ชายหนุ่มแหงนหน้าขึ้นไปมอง ทำให้หญิงสาวต้องแหงนหน้ามองตามไปด้วย “มันก็สวยดี”เสียงทุ้มเอ่ยต่อ หลังจากนั้นก็หันมาพลางจ้องใบหน้าด้านข้างของสาวสวย ยามแสงจันทร์ส่องลงมากระทบกับใบหน้าสวย ทำให้ใบหน้าที่สวยอยู่แล้ว กลับดูสวยหวานไปกันใหญ่

       “แต่ครั้งนี้สวยกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา สวย สวยมากจริงๆ”รอยยิ้มบางปรากฏอยู่บนใบหน้าของชายหนุ่มในขณะที่สายตายังคงจับจ้องอยู่ที่ใบหน้าสวยอย่างไม่วางตา

       “อื้ม ฉันก็ว่างั้นเหมือนกัน อ๊ะ นายดูนั่นสิ ดาวดวงนั้นน่ารักจัง”ใบหน้าสวยเปื้อนไปด้วยรอยยิ้มหวานจนชายหนุ่มถึงกับเคลิ้ม ยิ่งพอเห็นดวงตากลมโตเบิกกว้างเมื่อเห็นดวงดาวที่ถูกใจก็ยิ่งละสายตาก็จากเธอไม่ได้ ผู้หญิงอะไรสวยอย่างกับภาพวาด สวยราวกับเทพธิดาในเทพนิยายกรีกไมมีผิดเพี้ยน เรียกได้ว่าถ้าวีนัสมีเวอร์ชั่นเกาหลีล่ะก็ ผู้หญิงตรงหน้าเขาต้องไม่แพ้แน่

        “ยิ้มอะไรของนาย”ร่างบางที่เห็นว่าชายหนุ่มไม่ตอบอะไรกลับมา จึงหันไปมอง กลับพบว่าใบหน้าหล่อเหลากำลังมองเธออยู่ด้วยสายตาที่ราวกับจะละลายเธอให้ได้เดี๋ยวนั้น มันทำให้เธอขนลุกและใจเต้นแรงไปพร้อมๆกัน

        เป็นความรู้สึกที่แปลกพิลึก...

        “ใครบอกฉันยิ้มให้เธอ นู่น เมื่อกี้มีสาวห้องข้างๆโบกมือให้หรอก”ว่าแล้วนายหนุ่มก็ชี้ให้ร่างเล็กตรงหน้าหันไปมองที่ระเบียงห้องข้างๆที่ไกลกันอยู่พอสมควร

        “ไกลขนาดนั้นนายยังอุตส่าห์มองเห็นอีกนะ”เสียงหวานเอ่ยขึ้นอย่างอดที่จะเหน็บแหนมคนหล่อตรงหน้าไม่ได้

        “เรื่องผู้หญิงฉันไม่พลาดอยู่แล้ว”ชายหนุ่มตอบไปตามตรง เรื่องความเจ้าชู้เขาก็พอรู้ตัวเองอยู่ และไม่คิดจะปิดบังอะไรกับใครทั้งนั้น

         “ฉันสงสารผู้หญิงที่มาติดผู้ชายเจ้าชู้แบบนายจัง”ในเมื่อเขาพูดมาตามตรง เธอเองก็บอกความรู้สึกของเธอไปตามตรงเช่นกัน แน่นอนไม่มีผู้หญิงคนไหนชอบผู้ชายเจ้าชู้ รวมทั้งเธอด้วย

       “ไม่ต้องสงสารหรอก เพราะส่วนมากพวกเธอก็เลือกที่จะจากฉันไปเอง คงเพราะฉันไม่ได้สนใจพวกนั้นเท่าไหร่มั้ง แล้วก็ไม่คิดจะรั้งไว้ด้วย แต่จะมีบางพวกที่น่ารำคาญจนฉันต้องบอกเลิกเองก็มี แต่ก็แค่ 5-6 คนเท่านั้นแหละ”ชายหนุ่มพูดอย่างสบายๆ ราวกับมันเป็นเรื่องเล่าสู่กันฟังธรรมดาๆ ตรงกันข้ามกับปฏิกิริยาของคนฟังที่ได้แต่เพียงยืนฟังตาปริบๆด้วยความไม่เข้าใจ

        “นาย..ไม่เคยรักใครสักคนเลยเหรอ?”เสียงหวานเอ่ยถามอย่างตรงไปตรงมา

       “ไม่..นอกจากแม่แล้ว ผู้หญิงที่ฉันเคยเจอมาก็ไม่มีใครที่ฉันรู้สึกว่ารักเลยสักคน”หญิงสาวลอบมองใบหน้าหล่อคมคายที่กำลังมองท้องฟ้าอยู่ สายตาที่เขาทอดมองไปนั้นดูเหงาและเปล่าเปลี่ยวจนเธอสัมผัสได้ เธอพยายามจะพูดอะไรสักอย่างเพื่อปลอบใจเขา แต่ก็สำนึกได้ในเรื่องของความด้อยประสบการณ์ของตัวเอง เลยไม่ดูจะปลอบโยนเขายังไง

       “แต่ตอนนี้ฉันคิดว่าอาจจะมีแล้วก็ได้”ชายหนุ่มหันกลับมามองหญิงสาวที่อยู่ข้างๆกำลังยืนทำท่าทางแปลกๆ ไม่ทันรู้ตัว รอยยิ้มบางก็ปรากฏขึ้นบนใบหน้าหล่อเข้มของชายหนุ่ม ก่อนเสียงทุ้มจะเอ่ยต่อว่า “ไม่นานมานี้ ฉันเพิ่งรู้สึกแปลกๆกับผู้หญิงคนหนึ่ง รู้สึกว่าเธอจะทำให้หัวใจของฉันเต้นแรงตลอดเวลา และทำให้สมองของฉันหยุดคิดเรื่องเกี่ยวกับเธอไม่ได้เลย”

        “.....”

        “ฉันไม่รู้ว่าความรู้สึกรักมันเป็นยังไง การรักผู้หญิงคนอื่นนอกจากแม่ของตัวเองฉันก็ยังไม่เคยรับรู้... แต่ถ้าสิ่งที่ฉันรู้สึกกับผู้หญิงคนนั้นเรียกว่าความ”รัก”แล้วล่ะก็ ฉันก็พร้อมที่จะ”รัก”เธอด้วยหัวใจทั้งหมดที่ฉันมี....”

        “ฉันอยากจะลองเริ่มมันดูสักครั้ง เธอคิดว่ายังไง...จองซูจอง

      
     



    © Tenpoints!


     

    -------------------------------------------------------------------------------------
     

    มาแล้วค่ะกับตอนต่อของคู่น้อง ><
     สั้นไปหน่อย แต่ก็อ่านให้สนุกนะคะทุกคน ^^
    26.07.13

    มาต่อแล้วค่ะ ดูจบแบบงงๆ ไม่ต้องห่วงค่ะ แต่งเองยังงงเองเลย 55555
    วันอังคารจะสอบมิดเทอมแล้วค่ะ ยังไม่ได้อ่านหนังสือเลย T_T
    แต่ยังไงก็อยากให้คนอ่านได้อ่านกันนะคะ เพราะฉะนั้นอ่านให้สนุกล่ะ
    แล้วเจอกันค่ะ ^^
    28.07.13 


    8i[ 100% แล้วค่ะ ดีใจๆ ><
    สำหรับเรื่องนี้เป็นเรื่องยาวนะคะ แน่นอนว่ามีดราม่าแน่ๆ และตัวละครใหม่ๆก็ใกล้ออกโรงแล้ววว
    จะเป็นใครก็ต้องรอดูกันนะคะ
    แต่รับรองความรักของทั้งสองคู่ไม่ราบรื่นแน่ค่ะ(ขู่)
    อ่านให้สนุกนะคะ ^^
    31.07.13
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×