ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [HaEun] Love passionate ออนนี่คะ! ฉันไม่อยากเป็นแค่น้องสาว

    ลำดับตอนที่ #1 : Chapter 1 (รัก)ครั้งแรกของฮายอง

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 159
      1
      16 มิ.ย. 57

    Chapter 1 

    ราวกับโดนเวทย์มนตร์สะกดพลัน 
    นาทีนั้นฉันรักเธอทันใด..

    [ Oh Hayoung Part ]


    6:30 น.

    กริ๊งงงงงงงง~ 

    " อื้ออออออออออออออออออออออ~ รู้แล้วน่าา ขออีก 1 นาที " 

    กริ๊งงงงงงงงงงงง~ กริ๊งงงงงงงงง~ กริ๊.. 

    ปึ้ก!!!!!!!!

    ยังไม่ทันจะสิ้นเสียงร้อง เจ้าของร่างกึ่งหลับกึ่งตื่นก็ใช้มือทุบไปที่นาฬิกาปลุกเจ้ากรรมต้นตอของเสียงร้องอันน่ารำคาญ ซึ่งบัดนี้มันได้นอนตายอยู่ที่พื้นเป็นอันเรียบร้อยแล้ว..

     

    7:30 .

    แสงแดดยามเช้าส่องลอดผ่านช่องว่างเล็กๆระหว่างผ้าม่าน ลมเบาๆพัดเข้ามาชายผ้าปลิวไสว แสงแดดจากข้างนอกค่อยๆส่องกระทบกับใบหน้าคมๆของคนขี้เซา ลมหายใจที่เคยเข้า - ออกช้าๆสม่ำเสมอก็เร็วถี่ขึ้นเจ้าของร่างเริ่มรู้สึกตัว เต็มไปด้วยความง่วงงัวเงียอารมณ์ไม่ค่อยจะดีนัก หันไปมองนาฬิกาปลุกบนหัวนอนไม่พบเหมือนดั่งเดิม จึงเหลือบไปมองนาฬิกาอีกเรือนที่แขวนอยู่บนฝาผนัง ทำให้คนที่กำลังงุนง่วงอยู่เมื่อครู่รู้สึกตัวอย่างรวดเร็วจนถึงขั้นช็อคโลก !!!!!!!!

    " เห้ยยย!!! เจ็ดโมงครึ่งบ้าหน่าา งานงอกแล้ววว!!!!!!! " 

    ฉันกำลังจะโทษเจ้านาฬิกาปลุกที่มันไม่ส่งเสียงเตือนแต่พอดูสภาพจึงลำดับเหตุการณ์ในสมองก่อนหน้านั้นก็เข้าใจดี นี่ฉันต้องเสียตังค์ซื้ออีกเรือนแล้วเรอะ!! คิดอย่างเดียวก็คงไม่ทัน ฮายองรีบสปริงตัวจากที่นอนเข้าจัดการตัวเองอย่างเร่งรีบเพื่อแข่งกับเวลาที่ไม่เคยรอเธอเลยมาตั้งแต่ไหนแต่ไร

    7:50 น.

    " สายแล้วๆ บ้าจริงนี่รีบที่สุดละนะ " 

    ตอนนี้ฉันเพิ่งออกจากบ้านอย่างเร่งรีบ ที่จริงโรงเรียนใหม่ฉันมันก็ไม่ได้ไกลมากนัก วิ่งไปแป๊ปปปปปปปปปปปปเดียวก็ถึง แป๊ปเดียวจริงๆ แต่จะไม่ให้ตกใจได้ยังไง ก็ในเมื่อโรงเรียนเข้าตอน 8:00 น. วันนี้เป็นวันแรกของการใช้ชีวิตมัธยมปลายยิ่งเป็นโรงเรียนใหม่มันต้องมีอะไรที่ต่างจากเดิมแน่ๆ แต่ฉันดันมาสายตั้งแต่วันแรกนี่มัน.. ความจริงฉันเพิ่งย้ายโรงเรียนจากการสอบเข้าที่นี่ เพราะฉันคิดว่าที่นี่ดีและมีชื่อเสียงในย่านนี้ ถือว่าโรงเรียนนี้เป็นที่ที่ดีน่าศึกษาต่อเลยล่ะ ฉันเตรียมตัวมาพร้อมกับวันนี้มาก ไม่ใช่ฉันไม่วางแผนนะ ฉันแพลนไว้แล้วว่าวันนี้ฉันต้องทำอะไรยังไง
     

    6:30 น. ตื่นนอน จัดการตัวเองเตรียมไปโรงเรียน
    7:30 น. ถึงโรงเรียน
    แล้วฉันก็จะเหลือเวลาที่จะทำความรู้จักเพื่อนใหม่และโรงเรียนใหม่อีกประมาณครึ่งชั่วโมงโฮะๆ
    แต่นั่นมันก็แค่ความคิดบัดนี้แพลนฉันก็พังทลายอย่างที่เห็น
    ㅠㅇㅠ 



    10 นาทีต่อมา

    ร่างสูงที่วิ่งเหงื่อตกท่วมกายมาตลอดทางก็ยิ้มออก เมื่อเห็นประตูโรงเรียนอยู่ตรงหน้าก็หยุดชะลอวิ่งแล้วเดินพักให้หายเหนื่อยแทน แต่ไม่รู้ว่าพระเจ้าเล่นตลกอะไรกับเธอพอเดินได้ 2-3 ก้าว ออดเข้าแถวของโรงเรียนก็ดันดังขึ้นซะงั้น พร้อมกับนักเรียนที่กำลังวิ่งแย่งกันเข้าให้ทันเข้าแถว

    " อะไรกัน ฉันยังไม่ทันจะหายเหนื่อยเลยนะ!! " 

    บ่นอย่างเดียวคงไปไม่ทัน เธอเร่งฝีเท้าขึ้นอีกครั้งแต่การวิ่งครั้งนี้กลับมีอุปสรรค ดูเหมือนว่าเธอวิ่งชนกับอะไรบางอย่าง ทำให้รู้สึกถึงความเจ็บปวดบริเวณหัวไหล่

    " โอ๊ยยย!!!! "

    ไม่ใช่เสียงของเธอแต่เป็นเสียงของใครอีกคนซึ่งตอนนี้ล้มไปนอนกองอยู่ที่พื้น

    "ขอโทษค่ะ เป็นอะไรมากมั้ย? "

    นั่นคือประโยคแรกของคนเซ่อที่กำลังจะเข้าไปพยุงเจ้าทุกข์ที่ต้องมาเจ็บตัวเพราะตัวเธอ

    " ก็เจ็บน่ะสิ เดินไม่ดูตาม้าตาเรือ! ข้อเท้าฉันพลิกเธอเห็นมั้ย!!? "

    ผู้เคราะห์ร้ายเงยหน้าขึ้นมาตอบอย่างอารมณ์ฉุนเฉียว ร่างสูงได้แต่ยืนนิ่งอึ้ง!!! มึน!! งง!! ทุกอย่างเงียบอยู่นิ่งก็มีแต่ก้อนเนื้อหัวใจของเธอนี่แหละที่เต้นแรงไม่ยอมหยุด

    ' คนบ้าอะไรสวยขนาดนี้เนี่ย พระเจ้าส่งนางฟ้ามารับวันเปิดเทอมของฉันรึไงกัน แต่ทำไมนะหน้าเธอก็สวยแต่ปากนี่...พูดดีๆไม่เป็นหรอคะคนสวย '

    นั่นคือสิ่งแรกที่เธอคิดจนเผลอยิ้มออกมาคนเดียว ลืมไปว่า นางฟ้าของเธอกำลังเจ็บอยู่ กว่าจะรู้สึกตัวหลุดออกจากภวังค์

    " อะ..อ๋อ ขอโทษจริงๆ เดี๋ยวฉันช่วยเอง "

    ร่างสูงเข้าไปพยุงร่างบาง แต่ก็เกิดเหตุไม่คาดคิดไม่รู้ว่าร่างบางตัวหนักไปหรืออย่างไรอยู่ๆคนตัวเล็กกว่าก็ล้มทับเธอ การทรงตัวเสียศูนย์ร่างสูงล้มลงกับพื้นถนนโดยที่มีร่างบางทับอยู่ข้างบน ไม่ใช่แค่ตัวที่ทับเพียงเท่านั้นแต่แก้มของคนข้างบนดันไปโดนที่ปากของคนที่อยู่ข้างล่างนี่สิ!!! นาอึนพยายามจะผละตัวออกจากฮายองแล้วยันตัวเองขึ้นสายตาของทั้งคู่ประสานกัน ทุกสิ่งทุกอย่างหยุดนิ่งราวกับมีมนต์สะกด โลกหยุดหมุน ไม่รู้ว่านานเท่าไหร่ นานแค่ไหน ที่อยู่แบบนี้ หัวใจเต้นแรงจนกลัวอีกฝ่ายจะได้ยินแต่แล้ว..

    'ออดดดดดดดดดดดดดด!!!~~'

    เสียงออดก็ดังขึ้นอีกครั้ง ไม่รู้ว่าจะเป็นเสียงสวรรค์หรือเสียงนรก ที่ทำให้ทั้งสองได้รู้สึกตัว

    " ฮะ..ฮะ เฮ้ยย ธะเธออ..เป็นอะไรมากมั้ย? " 

    ฮายองเป็นคนที่รู้สึกตัวก่อนมีอาการตื่นตระหนกตกใจ หน้าแดงร้อนผ่าว แต่ก็ยังตั้งสติขึ้นมาได้จึงพยุงอีกคนขึ้นมาจากพื้น 

    " เป็นอะไรรึป่าว? หน้าดูแดงๆนะ กระแทกพื้นหรอ?? " 

    ฮายองถามไปไม่คิดอะไรตามภาษาคนซื่อ(บื้อรึป่าวก็ไม่รู้)

    " ไอบ้า!!! จะกระแทกได้ไงกันเล่า " 

    ' ก็หน้าฉันดันไปอยู่บนหน้าเธอขนาดนั้น -//////- ' 

    นาอึนตอบพลางหลบตาเสมองไปทางอื่นไม่สบตากับเจ้าของคำถาม

    " ใครจะรู้ งั้นเรารีบไปกันเถอะ ดูเหมือนเขาจะเข้าเรียนกันแล้วนะ " 

    คนตัวสูงพูดพลางพยุงคนตัวเล็กแต่ดูเหมือนจะอาการที่ข้อเท้าไม่ค่อยสู้ดีนัก ดูจากสีหน้าของเจ้าตัวที่บ่งบอกถึงความเจ็บปวด พอเห็นอย่างนั้นฮายองจึงนั่งยองลงกับพื้นพลางเรียกนาอึนที่กำลังยืนด้วยความยากลำบากให้มาขึ้นหลัง

    " นี่!! มาขึ้นหลังฉัน รู้หรอกว่าเดินไม่ไหว ไม่ต้องฝืนขึ้นมาได้แล้ว เสียเวลาฉันจริงๆ " 

    นิสัยปากปีจอไม่เคยเปลี่ยน แต่ความจริงในใจก็เป็นห่วงอยู่หรอก แต่จะให้พูดตรงๆมันไม่ใช่สไตล์ฉันน่ะ

    " อื้ออออ " 

    นาอึนส่งเสียงอู้อี้ในลำคอตอบรับไปอย่างนั้น พลางขึ้นหลังร่างสูงอย่างเงียบๆ ไม่รู้ว่าเพราะอะไรแค่ขึ้นหลังคนตรงหน้าแค่นี้ถึงทำให้หัวใจเต้นแรงอย่างไม่มีสาเหตุ อาจเป็นเพราะไม่ค่อยได้ขี่หลังใครแบบนี้มานานมั้ง แก้มออกสีแดงระเรื่อ ความเงียบเข้าครอบงำจนเดินได้มาครึ่งทางก็เริ่มบทสนทนาไม่ให้การเดินทางดูเงียบเหงา

    " นี่! ฉันชื่อโอฮายองอยู่ ม.4 เธอชื่ออะไรนะ? "

    ร่างสูงที่กำลังแบกถามพลางเหลียวมองไปหาคนข้างหลัง 

    " นาอึน ซนนาอึน ม.5 ฉันเป็นพี่เธอเข้าใจไว้นะไอเด็ก ม.4 " 

    ไม่พูดเปล่านาอึนก็เอามือเขกไปที่หัวของร่างสูงที่แบกตนอยู่อย่างไม่คิดจะสงสาร..

    " ค่าาาาา นี่คุณพี่นาอึนแล้วไอห้องพยาบาลมันอยู่ไหนอะ ? "

    เพราะเป็นวันแรกที่เข้ามาอยู่ในรั้วโรงเรียนใหม่ฮายองไม่รู้อะไรเกี่ยวกับที่นี่เลยสักนิด จึงต้องถามนาอึนตลอดทาง

    " ตรงไป ขึ้นบันไดแล้วเลี้ยวซ้าย ห้องทางขวามือ "



    ห้องพยาบาล

    ห้องสี่เหลี่ยมสีขาวสบายตาไม่ใหญ่ไม่เล็กมาก ลึกเข้าไปภายในมีเตียงเรียงกันเป็นแนวยาว 3-4 เตียง ถึงแม้ห้องจะดูไม่ใหญ่มากแต่ก็แบ่งสัดส่วนได้อย่างลงตัว เป็นระเบียบ หน้าต่างเปิดระบายอากาศมีผ้าม่านสีขาวบางๆกั้นอยู่ ทำให้ลมเย็นๆลอดผ่านเข้ามาได้อย่างไม่ยากนัก ฮายองค่อยๆให้นาอึนนั่งลงที่เก้าอี้ หลังจากที่สังเกตห้องแล้วก็เริ่มหาอุปกรณ์ที่ใช้ปฐมพยาบาลคนที่นั่งอยู่ คนตัวสูงเหลือบไปเห็นผ้าพันแผลในตู้เก็บอุปกรณ์ หยิบลงมาแล้วเริ่มบรรจงพันบริเวณข้อเท้าข้างพลิกของนาอึนที่แสดงสีหน้าอาการเจ็บปวดอย่างเห็นได้ชัด

    " เจ็บมากมั้ย? "

    " ลองมาโดนมั่งมั้ยล่ะ โอ้ยยย!! "

    นาอึนตอบกลับทันควัน แต่เธอเผลอไปขยับเท้าจึงเกิดอาการเจ็บขึ้นนิดหน่อย จริงๆแล้วเธอไม่ได้เจ็บอะไรมากมาย แค่อยากจะกวนประสาทคนตรงหน้าเท่านั้นเอง

    " อยู่เฉยๆสิ " 

    น้ำเสียงดูจริงจังของฮายองพูดพลางพันเท้าของนาอึนจนเสร็จแล้วค่อยๆพยุงไปห้องเรียน โดยที่ทั้งคู่ไม่ทันสังเกตเลยว่ามีสายตาคู่หนึ่งจับจ้องมองมาอย่างจับผิด แต่ไม่ได้มองอย่างเดียว มือกลับล้วงโทรศัพท์จากกระเป๋าขึ้นมา ไม่รอช้าที่จะเก็บหลักฐานด้วยรูปถ่าย 

    แช๊ะ!!! 

    รอยยิ้มเผยออกทางมุมปากเป็นรอยยิ้มที่แฝงไปด้วยเลศนัย ถ้าเขาคนนั้นรู้จะเกิดอะไรขึ้นกันนะ? แค่คิดก็สนุกแล้ว ลองคิดถึงผลที่ตามมาสิมันคุ้มซะยิ่งกว่าคุ้มเลยล่ะ..ซนนาอึน

    หลังจากที่ฉันไปส่งพี่นาอึนคนสวยแต่ปากไม่สวย (ปากไม่ดี) จนถึงห้องแล้ว ก็มีแต่เรื่องให้คิดตลอดทางไม่เป็นอันเดิน
    ' ยังเจ็บอยู่รึเปล่า? '
    ' จะเดินไหวมั้ย? '
    ขณะที่กำลังคิดอยู่อาจจะเป็นเพราะรีบเกินไปหรือความเหม่อลอยเซ่อซ่าจนลืมสิ่งตรงหน้าทำให้เดินสะดุดตกบันไดขาเจ็บไปตามนาอึนไปอีกคน..

    "โอ้ยยยย อะไรกันวันนี้มันวันอะไรซวยจริงๆเดินก็หลงเรียนก็ไม่ได้เรียน ห้องก็หาไม่เจอ จะมีอะไรแย่กว่านี่อีกม้ายยยยยยยย!? "

    ร่างสูงสบถออกมายาวยาวววววววหลังจากที่อัดอั้นมาตั้งแต่เมื่อเช้า ก็อดแปลกใจไม่ได้ทำไมเธอเพิ่งจะมาปรี๊ดดดแตกเอาป่านนี้ทั้งๆที่เรื่องก็เกิดตั้งแต่เมื่อเช้าแล้วหรือเพราะมีคนๆนั้นกันนะ ไม่เห็นจะเข้าใจเลย 




    ห้อง A
    เสียงเงียบสงัดราวกับไร้ผู้คนภายในห้อง เดาได้เลยว่าอาจารย์เข้าสอนในห้องเป็นที่เรียบร้อย ฮายองยืนมึนๆเก้ๆกังๆอยู่หน้าห้องทำตัวไม่ถูกจะเข้าก็ไม่เข้าทำท่าจะเข้าแล้วถอยออกมาอยู่หลายครั้ง จนมีเสียงใสๆของใครอีกคนที่มาถึงทีหลังเอ่ยทัก

    " เอ่อ..เธอเรียนห้องนี้รึเปล่า? ทำไมไม่เข้าไปล่ะ "
    ฮายองหันหน้าไปมองแล้วทำปากจุ๊ๆเป็นการบอกว่าให้เบาๆแต่ดูเหมือนจะไม่ทันพอเธอหันกลับไปก็พบกับครูรุ่นราวคราวเดียวกับแม่มายืนอยู่แล้ว

    " นี่พวกเธอ!! มายืนทำอะไรกันหน้าห้องทำไมไม่เข้าไป คิดว่าวันแรกจะมาสายได้หรือไง แล้วยังมาคุยกันเสียงดังหน้าห้องอีก เมื่อไม่อยากจะเข้าก็ไม่ต้องเข้ายืนสำนึกผิดหน้าห้องไปทั้งคู่จนหมดคาบเข้าใจ..? นะคะนักเรียน "

    ยังไม่ทันที่ฮายองจะเอ่ยคำใดๆออกมาก็โดนอาจารย์ตัดบทจัดมาซะชุดใหญ่

    ' ยังไม่ทันจะพูดไรสักคำก็โดนเฉย อยากจะถาม.. 
    ฉานนนนนนผิดอาร๊ายยยยยยยยยยยยยย!?! '

    ความจริงแล้วฉันว่าเสียงของคนตรงหน้าไม่ได้ดังอะไรมากมาย แต่ทำไมเสียงถึงได้ไปเข้าโสตประสาทอาจารย์ได้..ก็ไม่รู้สินะ ขณะที่ฉันคิดอะไรเพลินอยู่ๆคนข้างๆก็เอ่ยทักขึ้นมาอีกที ไม่ใช่น้ำเสียงสดใสเหมือนครั้งแรกแต่เป็นน้ำเสียงที่แสดงถึงความรู้สึกผิดจนอารมณ์เสียใส่ไม่ลงไม่ลง
    " เอ่อ..เธอ..ขอโทษนะฉันไม่ได้ตั้งใจให้เป็นแบบนี้ขอโทษจริงๆ ขอโทษ.." 

    เจ้าตัวที่รู้ว่าตัวเองทำผิดไปรีบขอโทษรัวๆด้วยไม่อยากให้เพื่อนใหม่รู้สึกไม่ดี

    " ไม่ต้องขอโทษอะไรขนาดนั้นก็ได้เธอไม่ผิดหรอกนะ เธอชื่ออะไร ฉันโอฮายอง เรียกฮายองก็ได้ "
    พูดจบก็ฉีกยิ้มส่งให้อีกคนที่กำลังรู้สึกผิด เผื่อจะทำให้อีกฝ่ายรู้สึกสบายใจขึ้นมาบ้าง

    " อ๋ออ ฉันคิมนัมจู งั้นเรียกนัมจูเหมือนกันนะฮายอง " 

    นัมจูกลับมายิ้มสดใสอีกครั้ง ทั้งสองพูดคุยกันได้อย่างถูกคอ ไม่นานก็สนิทกันอย่างง่ายดาย สนิทกันเหมือนรู้จักกันมานาน ถือได้ว่าเป็นเพื่อนคนแรกของฮายองเลย นัมจูไม่ใช่นักเรียนใหม่ที่เพิ่งย้ายเข้ามาแต่เธอเรียนอยู่ที่นี่ตั้งแต่ม.ต้นแล้ว รู้ทุกอย่างดี รู้ลึก! รู้จริง! ถ้าอยากจะรู้เรื่องอะไรให้ถามเธอรับรองไม่ผิดหวังแน่

    ' ออดดดดดดดดดดดดดดดดดด '

    " ฮ้าาาาาาาา~ ฮายองอาาา~ คาบนี้เราพักกันแล้วนะไปกันเต๊อะ~ "

    ไม่พูดป่าวนัมจูเอื้อมมือไปดึงแล้วลากคนมึนๆที่ยืนงงๆ ให้ตามเธอไป

    โรงอาหาร

    ผู้คนคับคั่งบรรยายกาศที่แสนจะวุ่นวาย คนอื่นๆอาจจะคิดว่ามันเป็นเรื่องปกติ แต่สำหรับฮายองนั้นยังคงไม่คุ้นชินกับสถานที่นี้เท่าไหร่นัก จึงต้องตกเป็นหน้าที่ของคิมนัมจูผู้โชคดี(?) ที่ต้องดูแลต่อไปแต่ก็ดูไม่เป็นภาระของนัมจูสักเท่าไหร่ดูเหมือนจะยินดีซะด้วยซำ้

    " ฮายองงงงงงกินเสร็จแล้วเรายังเหลือเวลาอยู่เลย เดี๋ยวฉันพาทัวร์โรงเรียนเองงนะ ^++++^ "

    นัมจูฉีกยิ้มกว้างให้อีก1ทีแล้วจับมือลากคนตัวสูงให้เดินตามตัวเองไป

    " เอ่อคือ..ขอโทษด้วยนะ ที่ทำให้เธอลำบาก "

    คนที่ถูกลากพูดออกมาอย่างเกรงใจเพิ่งรู้จักกันวันแรกเองทำไมถึงดีกับตัวเธอขนาดนี้นะ

    " ไม่เป็นไรหรอกเรื่องแค่นี้เอง ฉันอยา.. "

    " ระวัง!!!!!!!!!!!! "

    ตึ๊ก ตึ๊ก 
    เสียงลูกบาสเด้งกระทบพื้น ถ้าช้ากว่านี้ที่โดนคงไม่ใช่ลูกบาสแต่คงเป็นหัวของคนที่กำลังพาทัวร์อยู่เป็นแน่ ยังไม่ทันจะพูดจบ อยู่ๆก็มีลูกบาสลอยมาจากไหนก็ไม่รู้ แต่โชคดีที่ฮายองไวกว่าเลยดึงนัมจูให้หลบทันอยู่ในท่าที่คนตัวใหญ่กว่าเล็กน้อยกอดแล้วบังไม่ให้โดนลูกบาส

    " เธอยังทำฉันใจเต้นแรงเหมือนเดิมเลยนะฮายอง.. " 
    คนที่อยู่ในอ้อมกอดเผลอพูดออกมาอย่างน้ำเสียงแผ่วเบาตอนนี้สติไม่อยู่กับตัวมันหลุดไปตั้งแต่ลูกบาสลอยมาแล้ว

    " เมื่อกี๊พูดว่าอะไรนะ ฉันไม่ค่อยได้ยินๆ "

    " อะ..อ๋อๆฉันบอกว่าเธอปล่อยฉันได้แล้วหน่าาฮายอง"
    ' สุดท้ายเธอก็จำฉันไม่ได้อยู่ดีสินะฮายอง.. '

    นัมจูตอบกลับมาอย่างตะกุกตะกัก อ้อมกอดคลายออกฮายองมองหาเจ้าของลูกบาสแต่ก็หาไม่เจอ อยู่ๆร่างสูงก็เดินดุ่มๆไปที่สนามทิ้งให้นัมจูต้องเดินตาม 

    " ใครโยนไอนี่มา?? " ฮายองตะโกนอยู่ข้างสนามมือถือลูกบาสอยู่

    " ฉันเองอะ แต้งนะอุตส่าห์เดินเอามาให้ " 

    คนๆหนึ่งเดินออกมาจากกลุ่ม แล้วยื่นมือมาดึงลูกบาสออกจากมือฮายองไปเสียดื้อๆ แต่เสียใจมีหรอฮายองจะยอมปล่อยให้ไปง่ายๆ

    " อะไรของเธอเอามาให้ไม่ใช่หรอ อย่าลีลาฉันไม่ชอบ " น้ำเสียงเริ่มเปลี่ยนไปจากที่พูดดังๆน้ำเสียงไพเราะครั้งแรกกลับกลายเป็นนำ้เสียงอีกอย่างที่แข็งกร้าว กดดัน เสียงเบาลงกว่าเดิมอย่างเห็นได้ชัดอะไรของคนๆนี้กันนะ

    " ไม่ให้ อยากได้ก็เข้ามาแย่งสิ "

    " นี่เธอรู้มั้ยฉันเป็นใคร เธอไม่รู้จักฉันหรอห้ะ!!? "

    " เธอยังไม่รู้จักตัวเองเลยฉันจะรู้มั้ยล่ะ อยากได้มั้ย ? อยากได้ก็มาแย่งเอา "

    " อย่างเธอน่ะหรอเหอะ! เดี๋ยวจะออมมือให้ละกัน " 
    คนมีลูกที่มือทำทีไม่สนใจกับคำพูด ฮายองเริ่มเลี้ยงลูกไปบนสนามเลี้ยงผ่านคนที่1 คนที่2 แล้วเลี้ยงหลบกาดเลาะทางขอบสนามแล้วขึ้นไปเลย์อัพลงห่วงได้อย่างง่ายดาย ทุกคนตกอยู่ในสภาพ อึ้ง ทึ่ง งง คนตัวสูงกลับมายืนที่กลางสนามอีกครั้ง

    " เอ้า!! อะไรกันนี่ให้ฉันเล่นคนเดียวหรอ ไม่ต้องออมมือเลยเต็มที่ๆ "

    ฮายองเลี้ยงลูกอีกครั้งแต่ครึ่งนี้กลับหลบเข้าตรงกลางอย่างรวดเร็วไปเกือบถึงตัวเซ็นเตอร์แล้วกระโดดขึ้นโชว์ดังค์อีกลูก เสียงฮือฮากันดังรอบๆสนามคนเดียวสามารถชนะคน 5 คนได้ ก็จะไม่ให้เก่งได้ยังไงก็แต่ก่อนม.ต้นโรงเรียนเก่าเธอเป็นนักกีฬาบาสของโรงเรียนเลยนะไปแข่งมามากสนาม คนในสนามเคลื่อนไหวอีกครั้งคนที่เพิ่งเรียกเสียงฮือฮาไปหมาดๆก็โยนลูกบาสส่งคืนเจ้าของเดิม

    "ก็บอกแล้วไง ไม่ต้องออมมือคราวหลังไว้เจอกันอีกนะ " 

    ฮายองแสยะยิ้มมุมปากแล้วทำมือท่าโอเค มีไม่กี่คนนักที่จะเจอรอยยิ้มแบบนี้ถือว่าคนๆนั้นเป็นผู้โชคดี(?)เลยก็ว่าได้ เจ้าของลูกพอรับลูกบาสเสร็จก็หันมายิ้มกว้างที่กลางเรียกเสียงกรี๊ดจากคนรอบข้างได้ไม่น้อย แล้วเดินออกไปจากสนาม อะไรกันดูไม่ออกหรือไงว่ารอยยิ้มนั้นมันเฟคน่ะ!

    " อึนจีใจเย็นๆ "

    " อึนจีอ่าา "

    " อึนจี เดี๋ยว.. "

    " อึนจะ.. "

    เสียงคนหลายคนเรียกชื่อใครบางคนที่ฉันไม่รู้จัก คนๆนั้นชื่ออึนจีหรอ? ใครกันทำไมต้องกรี๊ดกร๊าดอะไรขนาดนั้นด้วย สงสัยต้องถามผู้รอบรู้ซะละว่าอะไรเป็นยังไง แล้วก็เดินกลับไปหานัมจูที่ยืนรออยู่ข้างสนาม สายตาเป็นห่วงที่มองมาเผยออกมาเพียงครู่เดียวแล้วจางหายไปเป็นสายตาที่ตื่นตกใจ

    " ฮายองเธอรู้มั้ย ว่านั่นใคร ? "

    นัมจูเอ่ยถามคนที่เพิ่งเดินกลับมา เหมือนเจ้าตัวจะไม่รู้เลยว่าคนที่กำลังเล่นอยู่นั้นใคร

    " ใครล่ะ? ฉันเพิ่งมาวันแรกนะจะไปรู้จักได้ไงล้าาาา " เธอพูดพลางหัวเราะออกมาอย่างฝืดๆ

    " นั่นพี่อึนจี ม.5 คนดังที่ฮอตป๊อปที่สุดในตอนนี้เลยนะเห้ยยยยยยย เธอไปหักหน้าพี่เขาอย่างนั้นได้ยังง๊ายยยยยยยยย รู้มั้ยว่าพี่เขาทั้งเท่ เก่งตั้งหลายด้าน เล่นกีฬาก็เก่ง ร้องเพลงก็เพราะ นิสัยก็ดี แถมมีโอกาสได้เล่นละครด้วย ><~ยังมีอีกนะ.. "

    นัมจูพูดเหมือนอัดอั้นมานานแล้วฉันจะไปรู้ได้ไงไอพี่ขี้เก๊กนั่นอะนะโหๆอะไรกันนนน

    " พอเลยๆ แล้วฉันทำอะไรผิดอะ คิดว่าเป็นคนดังทำผิดแล้วขอโทษไม่เป็นเลยรึไง? "

    " เอาหน่าๆ แต่เสียดายจังพี่เขามีแฟนแล้วอะ "

    ยิ่งนัมจูทำน้ำเสียงเสียงดายแบบนี้ฮายองก็ยิ่งหมั่นไส้

    " รู้ป้ะแฟนพี่เขาสวยมากกกกกกกก แต่สวยน้อยกว่าฉันนิดนึง รู้สึกว่าถ้าจำไม่ผิดน่าจะชื่อนาองนาอึนอะไรสักอย่างนี่แหละ "

    " ซนนาอึน?? "

    " ใช่ๆชื่อนั้นเลย "

    ชื่อคุ้นๆนะ นา..น นะนา..อึน เดี๋ยวนะ

    เดี๋ยวๆ

    เห้ยนั่นมันพี่นางฟ้านาอึนของฉันเมื่อเช้านี่ไม่เจรงงงงง ม่ายยยยยยยยยยยยยยยยย~~~~!!!!!!

    To be continue >>>>>>>>>>>>


    ************************************************************************************
    1ตอนแบบยาวๆจากที่หายไป1อาทิตย์เต็มๆ ขอโทษที่ให้รอนะคะ เอาใจสาวกทูอึนนิดนึงเรื่องนี้จะ feat.ทูอึนเล็กน้อย เม้นต์ = ให้กำลังใจไรท์เตอร์ = แรงบันดาลใจและความถี่ของการอัพค่ะ ขอบคุณที่เข้ามาอ่านกัoot8tอบคุณค่าาา ฝากเม้นต์ ติ ชม เพื่อนำไปปรับปรุงด้วยนะก๊าาาาา ^^

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×