คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : Chapter 1 (รัก)ครั้งแรกของฮายอง
Chapter 1
ราวกับโดนเวทย์มนตร์สะกดพลัน
นาทีนั้นฉันรักเธอทันใด..
[ Oh Hayoung Part ]
6:30 น.
กริ๊งงงงงงงง~
" อื้ออออออออออออออออออออออ~ รู้แล้วน่าา ขออีก 1 นาที "
กริ๊งงงงงงงงงงงง~ กริ๊งงงงงงงงง~ กริ๊..
ปึ้ก!!!!!!!!
ยังไม่ทันจะสิ้นเสียงร้อง เจ้าของร่างกึ่งหลับกึ่งตื่นก็ใช้มือทุบไปที่นาฬิกาปลุกเจ้ากรรมต้นตอของเสียงร้องอันน่ารำคาญ ซึ่งบัดนี้มันได้นอนตายอยู่ที่พื้นเป็นอันเรียบร้อยแล้ว..
7:30 น.
แสงแดดยามเช้าส่องลอดผ่านช่องว่างเล็กๆระหว่างผ้าม่าน ลมเบาๆพัดเข้ามาชายผ้าปลิวไสว แสงแดดจากข้างนอกค่อยๆส่องกระทบกับใบหน้าคมๆของคนขี้เซา ลมหายใจที่เคยเข้า - ออกช้าๆสม่ำเสมอก็เร็วถี่ขึ้นเจ้าของร่างเริ่มรู้สึกตัว เต็มไปด้วยความง่วงงัวเงียอารมณ์ไม่ค่อยจะดีนัก หันไปมองนาฬิกาปลุกบนหัวนอนไม่พบเหมือนดั่งเดิม จึงเหลือบไปมองนาฬิกาอีกเรือนที่แขวนอยู่บนฝาผนัง ทำให้คนที่กำลังงุนง่วงอยู่เมื่อครู่รู้สึกตัวอย่างรวดเร็วจนถึงขั้นช็อคโลก !!!!!!!!
" เห้ยยย!!! เจ็ดโมงครึ่งบ้าหน่าา งานงอกแล้ววว!!!!!!! "
ฉันกำลังจะโทษเจ้านาฬิกาปลุกที่มันไม่ส่งเสียงเตือนแต่พอดูสภาพจึงลำดับเหตุการณ์ในสมองก่อนหน้านั้นก็เข้าใจดี นี่ฉันต้องเสียตังค์ซื้ออีกเรือนแล้วเรอะ!! คิดอย่างเดียวก็คงไม่ทัน ฮายองรีบสปริงตัวจากที่นอนเข้าจัดการตัวเองอย่างเร่งรีบเพื่อแข่งกับเวลาที่ไม่เคยรอเธอเลยมาตั้งแต่ไหนแต่ไร
7:50 น.
" สายแล้วๆ บ้าจริงนี่รีบที่สุดละนะ "
ตอนนี้ฉันเพิ่งออกจากบ้านอย่างเร่งรีบ ที่จริงโรงเรียนใหม่ฉันมันก็ไม่ได้ไกลมากนัก วิ่งไปแป๊ปปปปปปปปปปปปเดียวก็ถึง แป๊ปเดียวจริงๆ แต่จะไม่ให้ตกใจได้ยังไง ก็ในเมื่อโรงเรียนเข้าตอน 8:00 น. วันนี้เป็นวันแรกของการใช้ชีวิตมัธยมปลายยิ่งเป็นโรงเรียนใหม่มันต้องมีอะไรที่ต่างจากเดิมแน่ๆ แต่ฉันดันมาสายตั้งแต่วันแรกนี่มัน.. ความจริงฉันเพิ่งย้ายโรงเรียนจากการสอบเข้าที่นี่ เพราะฉันคิดว่าที่นี่ดีและมีชื่อเสียงในย่านนี้ ถือว่าโรงเรียนนี้เป็นที่ที่ดีน่าศึกษาต่อเลยล่ะ ฉันเตรียมตัวมาพร้อมกับวันนี้มาก ไม่ใช่ฉันไม่วางแผนนะ ฉันแพลนไว้แล้วว่าวันนี้ฉันต้องทำอะไรยังไง
6:30 น. ตื่นนอน จัดการตัวเองเตรียมไปโรงเรียน
7:30 น. ถึงโรงเรียน
แล้วฉันก็จะเหลือเวลาที่จะทำความรู้จักเพื่อนใหม่และโรงเรียนใหม่อีกประมาณครึ่งชั่วโมงโฮะๆ
แต่นั่นมันก็แค่ความคิดบัดนี้แพลนฉันก็พังทลายอย่างที่เห็น ㅠㅇㅠ
10 นาทีต่อมา
ร่างสูงที่วิ่งเหงื่อตกท่วมกายมาตลอดทางก็ยิ้มออก เมื่อเห็นประตูโรงเรียนอยู่ตรงหน้าก็หยุดชะลอวิ่งแล้วเดินพักให้หายเหนื่อยแทน แต่ไม่รู้ว่าพระเจ้าเล่นตลกอะไรกับเธอพอเดินได้ 2-3 ก้าว ออดเข้าแถวของโรงเรียนก็ดันดังขึ้นซะงั้น พร้อมกับนักเรียนที่กำลังวิ่งแย่งกันเข้าให้ทันเข้าแถว
" อะไรกัน ฉันยังไม่ทันจะหายเหนื่อยเลยนะ!! "
บ่นอย่างเดียวคงไปไม่ทัน เธอเร่งฝีเท้าขึ้นอีกครั้งแต่การวิ่งครั้งนี้กลับมีอุปสรรค ดูเหมือนว่าเธอวิ่งชนกับอะไรบางอย่าง ทำให้รู้สึกถึงความเจ็บปวดบริเวณหัวไหล่
" โอ๊ยยย!!!! "
ไม่ใช่เสียงของเธอแต่เป็นเสียงของใครอีกคนซึ่งตอนนี้ล้มไปนอนกองอยู่ที่พื้น
"ขอโทษค่ะ เป็นอะไรมากมั้ย? "
นั่นคือประโยคแรกของคนเซ่อที่กำลังจะเข้าไปพยุงเจ้าทุกข์ที่ต้องมาเจ็บตัวเพราะตัวเธอ
" ก็เจ็บน่ะสิ เดินไม่ดูตาม้าตาเรือ! ข้อเท้าฉันพลิกเธอเห็นมั้ย!!? "
ผู้เคราะห์ร้ายเงยหน้าขึ้นมาตอบอย่างอารมณ์ฉุนเฉียว ร่างสูงได้แต่ยืนนิ่งอึ้ง!!! มึน!! งง!! ทุกอย่างเงียบอยู่นิ่งก็มีแต่ก้อนเนื้อหัวใจของเธอนี่แหละที่เต้นแรงไม่ยอมหยุด
' คนบ้าอะไรสวยขนาดนี้เนี่ย พระเจ้าส่งนางฟ้ามารับวันเปิดเทอมของฉันรึไงกัน แต่ทำไมนะหน้าเธอก็สวยแต่ปากนี่...พูดดีๆไม่เป็นหรอคะคนสวย '
นั่นคือสิ่งแรกที่เธอคิดจนเผลอยิ้มออกมาคนเดียว ลืมไปว่า นางฟ้าของเธอกำลังเจ็บอยู่ กว่าจะรู้สึกตัวหลุดออกจากภวังค์
" อะ..อ๋อ ขอโทษจริงๆ เดี๋ยวฉันช่วยเอง "
ร่างสูงเข้าไปพยุงร่างบาง แต่ก็เกิดเหตุไม่คาดคิดไม่รู้ว่าร่างบางตัวหนักไปหรืออย่างไรอยู่ๆคนตัวเล็กกว่าก็ล้มทับเธอ การทรงตัวเสียศูนย์ร่างสูงล้มลงกับพื้นถนนโดยที่มีร่างบางทับอยู่ข้างบน ไม่ใช่แค่ตัวที่ทับเพียงเท่านั้นแต่แก้มของคนข้างบนดันไปโดนที่ปากของคนที่อยู่ข้างล่างนี่สิ!!! นาอึนพยายามจะผละตัวออกจากฮายองแล้วยันตัวเองขึ้นสายตาของทั้งคู่ประสานกัน ทุกสิ่งทุกอย่างหยุดนิ่งราวกับมีมนต์สะกด โลกหยุดหมุน ไม่รู้ว่านานเท่าไหร่ นานแค่ไหน ที่อยู่แบบนี้ หัวใจเต้นแรงจนกลัวอีกฝ่ายจะได้ยินแต่แล้ว..
'ออดดดดดดดดดดดดดด!!!~~'
เสียงออดก็ดังขึ้นอีกครั้ง ไม่รู้ว่าจะเป็นเสียงสวรรค์หรือเสียงนรก ที่ทำให้ทั้งสองได้รู้สึกตัว
" ฮะ..ฮะ เฮ้ยย ธะเธออ..เป็นอะไรมากมั้ย? "
ฮายองเป็นคนที่รู้สึกตัวก่อนมีอาการตื่นตระหนกตกใจ หน้าแดงร้อนผ่าว แต่ก็ยังตั้งสติขึ้นมาได้จึงพยุงอีกคนขึ้นมาจากพื้น
" เป็นอะไรรึป่าว? หน้าดูแดงๆนะ กระแทกพื้นหรอ?? "
ฮายองถามไปไม่คิดอะไรตามภาษาคนซื่อ(บื้อรึป่าวก็ไม่รู้)
" ไอบ้า!!! จะกระแทกได้ไงกันเล่า "
' ก็หน้าฉันดันไปอยู่บนหน้าเธอขนาดนั้น -//////- '
นาอึนตอบพลางหลบตาเสมองไปทางอื่นไม่สบตากับเจ้าของคำถาม
" ใครจะรู้ งั้นเรารีบไปกันเถอะ ดูเหมือนเขาจะเข้าเรียนกันแล้วนะ "
คนตัวสูงพูดพลางพยุงคนตัวเล็กแต่ดูเหมือนจะอาการที่ข้อเท้าไม่ค่อยสู้ดีนัก ดูจากสีหน้าของเจ้าตัวที่บ่งบอกถึงความเจ็บปวด พอเห็นอย่างนั้นฮายองจึงนั่งยองลงกับพื้นพลางเรียกนาอึนที่กำลังยืนด้วยความยากลำบากให้มาขึ้นหลัง
" นี่!! มาขึ้นหลังฉัน รู้หรอกว่าเดินไม่ไหว ไม่ต้องฝืนขึ้นมาได้แล้ว เสียเวลาฉันจริงๆ "
นิสัยปากปีจอไม่เคยเปลี่ยน แต่ความจริงในใจก็เป็นห่วงอยู่หรอก แต่จะให้พูดตรงๆมันไม่ใช่สไตล์ฉันน่ะ
" อื้ออออ "
นาอึนส่งเสียงอู้อี้ในลำคอตอบรับไปอย่างนั้น พลางขึ้นหลังร่างสูงอย่างเงียบๆ ไม่รู้ว่าเพราะอะไรแค่ขึ้นหลังคนตรงหน้าแค่นี้ถึงทำให้หัวใจเต้นแรงอย่างไม่มีสาเหตุ อาจเป็นเพราะไม่ค่อยได้ขี่หลังใครแบบนี้มานานมั้ง แก้มออกสีแดงระเรื่อ ความเงียบเข้าครอบงำจนเดินได้มาครึ่งทางก็เริ่มบทสนทนาไม่ให้การเดินทางดูเงียบเหงา
" นี่! ฉันชื่อโอฮายองอยู่ ม.4 เธอชื่ออะไรนะ? "
ร่างสูงที่กำลังแบกถามพลางเหลียวมองไปหาคนข้างหลัง
" นาอึน ซนนาอึน ม.5 ฉันเป็นพี่เธอเข้าใจไว้นะไอเด็ก ม.4 "
ไม่พูดเปล่านาอึนก็เอามือเขกไปที่หัวของร่างสูงที่แบกตนอยู่อย่างไม่คิดจะสงสาร..
" ค่าาาาา นี่คุณพี่นาอึนแล้วไอห้องพยาบาลมันอยู่ไหนอะ ? "
เพราะเป็นวันแรกที่เข้ามาอยู่ในรั้วโรงเรียนใหม่ฮายองไม่รู้อะไรเกี่ยวกับที่นี่เลยสักนิด จึงต้องถามนาอึนตลอดทาง
" ตรงไป ขึ้นบันไดแล้วเลี้ยวซ้าย ห้องทางขวามือ "
ห้องพยาบาล
ห้องสี่เหลี่ยมสีขาวสบายตาไม่ใหญ่ไม่เล็กมาก ลึกเข้าไปภายในมีเตียงเรียงกันเป็นแนวยาว 3-4 เตียง ถึงแม้ห้องจะดูไม่ใหญ่มากแต่ก็แบ่งสัดส่วนได้อย่างลงตัว เป็นระเบียบ หน้าต่างเปิดระบายอากาศมีผ้าม่านสีขาวบางๆกั้นอยู่ ทำให้ลมเย็นๆลอดผ่านเข้ามาได้อย่างไม่ยากนัก ฮายองค่อยๆให้นาอึนนั่งลงที่เก้าอี้ หลังจากที่สังเกตห้องแล้วก็เริ่มหาอุปกรณ์ที่ใช้ปฐมพยาบาลคนที่นั่งอยู่ คนตัวสูงเหลือบไปเห็นผ้าพันแผลในตู้เก็บอุปกรณ์ หยิบลงมาแล้วเริ่มบรรจงพันบริเวณข้อเท้าข้างพลิกของนาอึนที่แสดงสีหน้าอาการเจ็บปวดอย่างเห็นได้ชัด
" เจ็บมากมั้ย? "
" ลองมาโดนมั่งมั้ยล่ะ โอ้ยยย!! "
นาอึนตอบกลับทันควัน แต่เธอเผลอไปขยับเท้าจึงเกิดอาการเจ็บขึ้นนิดหน่อย จริงๆแล้วเธอไม่ได้เจ็บอะไรมากมาย แค่อยากจะกวนประสาทคนตรงหน้าเท่านั้นเอง
" อยู่เฉยๆสิ "
น้ำเสียงดูจริงจังของฮายองพูดพลางพันเท้าของนาอึนจนเสร็จแล้วค่อยๆพยุงไปห้องเรียน โดยที่ทั้งคู่ไม่ทันสังเกตเลยว่ามีสายตาคู่หนึ่งจับจ้องมองมาอย่างจับผิด แต่ไม่ได้มองอย่างเดียว มือกลับล้วงโทรศัพท์จากกระเป๋าขึ้นมา ไม่รอช้าที่จะเก็บหลักฐานด้วยรูปถ่าย
แช๊ะ!!!
รอยยิ้มเผยออกทางมุมปากเป็นรอยยิ้มที่แฝงไปด้วยเลศนัย ถ้าเขาคนนั้นรู้จะเกิดอะไรขึ้นกันนะ? แค่คิดก็สนุกแล้ว ลองคิดถึงผลที่ตามมาสิมันคุ้มซะยิ่งกว่าคุ้มเลยล่ะ..ซนนาอึน
หลังจากที่ฉันไปส่งพี่นาอึนคนสวยแต่ปากไม่สวย (ปากไม่ดี) จนถึงห้องแล้ว ก็มีแต่เรื่องให้คิดตลอดทางไม่เป็นอันเดิน
' ยังเจ็บอยู่รึเปล่า? '
' จะเดินไหวมั้ย? '
ขณะที่กำลังคิดอยู่อาจจะเป็นเพราะรีบเกินไปหรือความเหม่อลอยเซ่อซ่าจนลืมสิ่งตรงหน้าทำให้เดินสะดุดตกบันไดขาเจ็บไปตามนาอึนไปอีกคน..
"โอ้ยยยย อะไรกันวันนี้มันวันอะไรซวยจริงๆเดินก็หลงเรียนก็ไม่ได้เรียน ห้องก็หาไม่เจอ จะมีอะไรแย่กว่านี่อีกม้ายยยยยยยย!? "
ร่างสูงสบถออกมายาวยาวววววววหลังจากที่อัดอั้นมาตั้งแต่เมื่อเช้า ก็อดแปลกใจไม่ได้ทำไมเธอเพิ่งจะมาปรี๊ดดดแตกเอาป่านนี้ทั้งๆที่เรื่องก็เกิดตั้งแต่เมื่อเช้าแล้วหรือเพราะมีคนๆนั้นกันนะ ไม่เห็นจะเข้าใจเลย
ห้อง A
เสียงเงียบสงัดราวกับไร้ผู้คนภายในห้อง เดาได้เลยว่าอาจารย์เข้าสอนในห้องเป็นที่เรียบร้อย ฮายองยืนมึนๆเก้ๆกังๆอยู่หน้าห้องทำตัวไม่ถูกจะเข้าก็ไม่เข้าทำท่าจะเข้าแล้วถอยออกมาอยู่หลายครั้ง จนมีเสียงใสๆของใครอีกคนที่มาถึงทีหลังเอ่ยทัก
" เอ่อ..เธอเรียนห้องนี้รึเปล่า? ทำไมไม่เข้าไปล่ะ "
ฮายองหันหน้าไปมองแล้วทำปากจุ๊ๆเป็นการบอกว่าให้เบาๆแต่ดูเหมือนจะไม่ทันพอเธอหันกลับไปก็พบกับครูรุ่นราวคราวเดียวกับแม่มายืนอยู่แล้ว
" นี่พวกเธอ!! มายืนทำอะไรกันหน้าห้องทำไมไม่เข้าไป คิดว่าวันแรกจะมาสายได้หรือไง แล้วยังมาคุยกันเสียงดังหน้าห้องอีก เมื่อไม่อยากจะเข้าก็ไม่ต้องเข้ายืนสำนึกผิดหน้าห้องไปทั้งคู่จนหมดคาบเข้าใจ..? นะคะนักเรียน "
ยังไม่ทันที่ฮายองจะเอ่ยคำใดๆออกมาก็โดนอาจารย์ตัดบทจัดมาซะชุดใหญ่
' ยังไม่ทันจะพูดไรสักคำก็โดนเฉย อยากจะถาม..
ฉานนนนนนผิดอาร๊ายยยยยยยยยยยยยย!?! '
ความจริงแล้วฉันว่าเสียงของคนตรงหน้าไม่ได้ดังอะไรมากมาย แต่ทำไมเสียงถึงได้ไปเข้าโสตประสาทอาจารย์ได้..ก็ไม่รู้สินะ ขณะที่ฉันคิดอะไรเพลินอยู่ๆคนข้างๆก็เอ่ยทักขึ้นมาอีกที ไม่ใช่น้ำเสียงสดใสเหมือนครั้งแรกแต่เป็นน้ำเสียงที่แสดงถึงความรู้สึกผิดจนอารมณ์เสียใส่ไม่ลงไม่ลง
" เอ่อ..เธอ..ขอโทษนะฉันไม่ได้ตั้งใจให้เป็นแบบนี้ขอโทษจริงๆ ขอโทษ.."
เจ้าตัวที่รู้ว่าตัวเองทำผิดไปรีบขอโทษรัวๆด้วยไม่อยากให้เพื่อนใหม่รู้สึกไม่ดี
" ไม่ต้องขอโทษอะไรขนาดนั้นก็ได้เธอไม่ผิดหรอกนะ เธอชื่ออะไร ฉันโอฮายอง เรียกฮายองก็ได้ "
พูดจบก็ฉีกยิ้มส่งให้อีกคนที่กำลังรู้สึกผิด เผื่อจะทำให้อีกฝ่ายรู้สึกสบายใจขึ้นมาบ้าง
" อ๋ออ ฉันคิมนัมจู งั้นเรียกนัมจูเหมือนกันนะฮายอง "
นัมจูกลับมายิ้มสดใสอีกครั้ง ทั้งสองพูดคุยกันได้อย่างถูกคอ ไม่นานก็สนิทกันอย่างง่ายดาย สนิทกันเหมือนรู้จักกันมานาน ถือได้ว่าเป็นเพื่อนคนแรกของฮายองเลย นัมจูไม่ใช่นักเรียนใหม่ที่เพิ่งย้ายเข้ามาแต่เธอเรียนอยู่ที่นี่ตั้งแต่ม.ต้นแล้ว รู้ทุกอย่างดี รู้ลึก! รู้จริง! ถ้าอยากจะรู้เรื่องอะไรให้ถามเธอรับรองไม่ผิดหวังแน่
' ออดดดดดดดดดดดดดดดดดด '
" ฮ้าาาาาาาา~ ฮายองอาาา~ คาบนี้เราพักกันแล้วนะไปกันเต๊อะ~ "
ไม่พูดป่าวนัมจูเอื้อมมือไปดึงแล้วลากคนมึนๆที่ยืนงงๆ ให้ตามเธอไป
โรงอาหาร
ผู้คนคับคั่งบรรยายกาศที่แสนจะวุ่นวาย คนอื่นๆอาจจะคิดว่ามันเป็นเรื่องปกติ แต่สำหรับฮายองนั้นยังคงไม่คุ้นชินกับสถานที่นี้เท่าไหร่นัก จึงต้องตกเป็นหน้าที่ของคิมนัมจูผู้โชคดี(?) ที่ต้องดูแลต่อไปแต่ก็ดูไม่เป็นภาระของนัมจูสักเท่าไหร่ดูเหมือนจะยินดีซะด้วยซำ้
" ฮายองงงงงงกินเสร็จแล้วเรายังเหลือเวลาอยู่เลย เดี๋ยวฉันพาทัวร์โรงเรียนเองงนะ ^++++^ "
นัมจูฉีกยิ้มกว้างให้อีก1ทีแล้วจับมือลากคนตัวสูงให้เดินตามตัวเองไป
" เอ่อคือ..ขอโทษด้วยนะ ที่ทำให้เธอลำบาก "
คนที่ถูกลากพูดออกมาอย่างเกรงใจเพิ่งรู้จักกันวันแรกเองทำไมถึงดีกับตัวเธอขนาดนี้นะ
" ไม่เป็นไรหรอกเรื่องแค่นี้เอง ฉันอยา.. "
" ระวัง!!!!!!!!!!!! "
ตึ๊ก ตึ๊ก
เสียงลูกบาสเด้งกระทบพื้น ถ้าช้ากว่านี้ที่โดนคงไม่ใช่ลูกบาสแต่คงเป็นหัวของคนที่กำลังพาทัวร์อยู่เป็นแน่ ยังไม่ทันจะพูดจบ อยู่ๆก็มีลูกบาสลอยมาจากไหนก็ไม่รู้ แต่โชคดีที่ฮายองไวกว่าเลยดึงนัมจูให้หลบทันอยู่ในท่าที่คนตัวใหญ่กว่าเล็กน้อยกอดแล้วบังไม่ให้โดนลูกบาส
" เธอยังทำฉันใจเต้นแรงเหมือนเดิมเลยนะฮายอง.. "
คนที่อยู่ในอ้อมกอดเผลอพูดออกมาอย่างน้ำเสียงแผ่วเบาตอนนี้สติไม่อยู่กับตัวมันหลุดไปตั้งแต่ลูกบาสลอยมาแล้ว
" เมื่อกี๊พูดว่าอะไรนะ ฉันไม่ค่อยได้ยินๆ "
" อะ..อ๋อๆฉันบอกว่าเธอปล่อยฉันได้แล้วหน่าาฮายอง"
' สุดท้ายเธอก็จำฉันไม่ได้อยู่ดีสินะฮายอง.. '
นัมจูตอบกลับมาอย่างตะกุกตะกัก อ้อมกอดคลายออกฮายองมองหาเจ้าของลูกบาสแต่ก็หาไม่เจอ อยู่ๆร่างสูงก็เดินดุ่มๆไปที่สนามทิ้งให้นัมจูต้องเดินตาม
" ใครโยนไอนี่มา?? " ฮายองตะโกนอยู่ข้างสนามมือถือลูกบาสอยู่
" ฉันเองอะ แต้งนะอุตส่าห์เดินเอามาให้ "
คนๆหนึ่งเดินออกมาจากกลุ่ม แล้วยื่นมือมาดึงลูกบาสออกจากมือฮายองไปเสียดื้อๆ แต่เสียใจมีหรอฮายองจะยอมปล่อยให้ไปง่ายๆ
" อะไรของเธอเอามาให้ไม่ใช่หรอ อย่าลีลาฉันไม่ชอบ " น้ำเสียงเริ่มเปลี่ยนไปจากที่พูดดังๆน้ำเสียงไพเราะครั้งแรกกลับกลายเป็นนำ้เสียงอีกอย่างที่แข็งกร้าว กดดัน เสียงเบาลงกว่าเดิมอย่างเห็นได้ชัดอะไรของคนๆนี้กันนะ
" ไม่ให้ อยากได้ก็เข้ามาแย่งสิ "
" นี่เธอรู้มั้ยฉันเป็นใคร เธอไม่รู้จักฉันหรอห้ะ!!? "
" เธอยังไม่รู้จักตัวเองเลยฉันจะรู้มั้ยล่ะ อยากได้มั้ย ? อยากได้ก็มาแย่งเอา "
" อย่างเธอน่ะหรอเหอะ! เดี๋ยวจะออมมือให้ละกัน "
คนมีลูกที่มือทำทีไม่สนใจกับคำพูด ฮายองเริ่มเลี้ยงลูกไปบนสนามเลี้ยงผ่านคนที่1 คนที่2 แล้วเลี้ยงหลบกาดเลาะทางขอบสนามแล้วขึ้นไปเลย์อัพลงห่วงได้อย่างง่ายดาย ทุกคนตกอยู่ในสภาพ อึ้ง ทึ่ง งง คนตัวสูงกลับมายืนที่กลางสนามอีกครั้ง
" เอ้า!! อะไรกันนี่ให้ฉันเล่นคนเดียวหรอ ไม่ต้องออมมือเลยเต็มที่ๆ "
ฮายองเลี้ยงลูกอีกครั้งแต่ครึ่งนี้กลับหลบเข้าตรงกลางอย่างรวดเร็วไปเกือบถึงตัวเซ็นเตอร์แล้วกระโดดขึ้นโชว์ดังค์อีกลูก เสียงฮือฮากันดังรอบๆสนามคนเดียวสามารถชนะคน 5 คนได้ ก็จะไม่ให้เก่งได้ยังไงก็แต่ก่อนม.ต้นโรงเรียนเก่าเธอเป็นนักกีฬาบาสของโรงเรียนเลยนะไปแข่งมามากสนาม คนในสนามเคลื่อนไหวอีกครั้งคนที่เพิ่งเรียกเสียงฮือฮาไปหมาดๆก็โยนลูกบาสส่งคืนเจ้าของเดิม
"ก็บอกแล้วไง ไม่ต้องออมมือคราวหลังไว้เจอกันอีกนะ "
ฮายองแสยะยิ้มมุมปากแล้วทำมือท่าโอเค มีไม่กี่คนนักที่จะเจอรอยยิ้มแบบนี้ถือว่าคนๆนั้นเป็นผู้โชคดี(?)เลยก็ว่าได้ เจ้าของลูกพอรับลูกบาสเสร็จก็หันมายิ้มกว้างที่กลางเรียกเสียงกรี๊ดจากคนรอบข้างได้ไม่น้อย แล้วเดินออกไปจากสนาม อะไรกันดูไม่ออกหรือไงว่ารอยยิ้มนั้นมันเฟคน่ะ!
" อึนจีใจเย็นๆ "
" อึนจีอ่าา "
" อึนจี เดี๋ยว.. "
" อึนจะ.. "
เสียงคนหลายคนเรียกชื่อใครบางคนที่ฉันไม่รู้จัก คนๆนั้นชื่ออึนจีหรอ? ใครกันทำไมต้องกรี๊ดกร๊าดอะไรขนาดนั้นด้วย สงสัยต้องถามผู้รอบรู้ซะละว่าอะไรเป็นยังไง แล้วก็เดินกลับไปหานัมจูที่ยืนรออยู่ข้างสนาม สายตาเป็นห่วงที่มองมาเผยออกมาเพียงครู่เดียวแล้วจางหายไปเป็นสายตาที่ตื่นตกใจ
" ฮายองเธอรู้มั้ย ว่านั่นใคร ? "
นัมจูเอ่ยถามคนที่เพิ่งเดินกลับมา เหมือนเจ้าตัวจะไม่รู้เลยว่าคนที่กำลังเล่นอยู่นั้นใคร
" ใครล่ะ? ฉันเพิ่งมาวันแรกนะจะไปรู้จักได้ไงล้าาาา " เธอพูดพลางหัวเราะออกมาอย่างฝืดๆ
" นั่นพี่อึนจี ม.5 คนดังที่ฮอตป๊อปที่สุดในตอนนี้เลยนะเห้ยยยยยยย เธอไปหักหน้าพี่เขาอย่างนั้นได้ยังง๊ายยยยยยยยย รู้มั้ยว่าพี่เขาทั้งเท่ เก่งตั้งหลายด้าน เล่นกีฬาก็เก่ง ร้องเพลงก็เพราะ นิสัยก็ดี แถมมีโอกาสได้เล่นละครด้วย ><~ยังมีอีกนะ.. "
นัมจูพูดเหมือนอัดอั้นมานานแล้วฉันจะไปรู้ได้ไงไอพี่ขี้เก๊กนั่นอะนะโหๆอะไรกันนนน
" พอเลยๆ แล้วฉันทำอะไรผิดอะ คิดว่าเป็นคนดังทำผิดแล้วขอโทษไม่เป็นเลยรึไง? "
" เอาหน่าๆ แต่เสียดายจังพี่เขามีแฟนแล้วอะ "
ยิ่งนัมจูทำน้ำเสียงเสียงดายแบบนี้ฮายองก็ยิ่งหมั่นไส้
" รู้ป้ะแฟนพี่เขาสวยมากกกกกกกก แต่สวยน้อยกว่าฉันนิดนึง รู้สึกว่าถ้าจำไม่ผิดน่าจะชื่อนาองนาอึนอะไรสักอย่างนี่แหละ "
" ซนนาอึน?? "
" ใช่ๆชื่อนั้นเลย "
ชื่อคุ้นๆนะ นา..น นะนา..อึน เดี๋ยวนะ
เดี๋ยวๆ
เห้ยนั่นมันพี่นางฟ้านาอึนของฉันเมื่อเช้านี่ไม่เจรงงงงง ม่ายยยยยยยยยยยยยยยยย~~~~!!!!!!
To be continue >>>>>>>>>>>>
************************************************************************************
1ตอนแบบยาวๆจากที่หายไป1อาทิตย์เต็มๆ ขอโทษที่ให้รอนะคะ เอาใจสาวกทูอึนนิดนึงเรื่องนี้จะ feat.ทูอึนเล็กน้อย เม้นต์ = ให้กำลังใจไรท์เตอร์ = แรงบันดาลใจและความถี่ของการอัพค่ะ ขอบคุณที่เข้ามาอ่านกัoot8tอบคุณค่าาา ฝากเม้นต์ ติ ชม เพื่อนำไปปรับปรุงด้วยนะก๊าาาาา ^^
ความคิดเห็น