ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    END [GOT7 Markbam] Love Announcement รักก็บอก

    ลำดับตอนที่ #26 : EP23 I don't understand (100%)

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 5.24K
      38
      7 ม.ค. 58





    สองสามวันมานี้บรรยากาศมันช่างมาคุเหลือเกินครับ รู้สึกผิดยังไงไม่รู้ทั้งๆที่เพื่อนกำลังเสียใจเพราะเลิกกับแฟน แต่ผมก็ดันมานั่งสวีทกับแฟนตัวเองซะงั้น โถ่ววว ชีวิตน้องแบมไม่ง่ายเลยนะครับ วันนี้ผมเลยแยกกับพี่มาร์คในรอบหลายวันที่ตัวติดกันเป็นตังเม -/////- อย่างน้อยก็ควรจะให้เวลาเพื่อนๆหน่อย ฮ่าๆๆ ฮันบินด้วย นี่จะมากินไอติมกับเพื่อนก็ต้องขอหมอนั่น เพราะเดี๋ยวก็หาว่าผมไม่ยอมสอนมันอีก ดีเท่าไหร่ที่มันไม่ตามมาด้วย เพลีย

     

    “ไอ้ยูค ไอ้ยูคเว้ย ได้ยินมั้ยสัด”จากที่สะกิดธรรมดาผมกลับผลักมันแรงๆไปทีนึงเพราะหูมันตึงเหลือเกิน เรียไม่ได้ยิน

     

    “อะไรของมึงเนี่ย”

     

    “ก็พวกมึงอะ นี่มานั่งกินไอติมกัน หรือว่ามานั่งสมาธิสวดมนต์กันวะ เงียบเป็นป่าช้ากันเลย นี่กูนึกว่ากมาคนเดียวนะเนี่ย ไอ้ยองแจเหม่อกูว่าไม่เท่าไหร่หรอก แต่มึงนี่ดิไอ้ยักษ์เหม่อหาหม่อมแม่มึงหรา”

     

    เห้อเหนื่อยยย กูพูดอะไรเยอะแยะเนี่ย

     

    “บ่นเป็นป้าแก่ๆไปได้”

     

    “อ๋อนี่กูผิด ที่มาเป็นเพื่อนมึง? กูก็ลัวว่ามึงจะเหงา เห็นไอ้ยองแจมันกำลังเฮิร์ท” ชิ ไอ้เพื่อนบ้าเราอุตส่าห์หวังดี มาว่ากูเป็นป้าซะงั้น

     

    “กูก็เหงาอยู่เนี่ย..เห้อ ทั้งๆที่บอกว่าจะรีบตอบ ทั้งๆที่สัญญาแล้วแท้ๆ” ไอ้ยูคบ่นพึมพำกับตัวเอง ถึงแม้ผมจะได้ยิน แต่ผมก็ไม่เข้าใจอยู่ดีว่ามันเป็นอะไร

     

    เออเลิกแดก แล้วกลับบ้านกันไปเถอะ

    “กลับๆๆกูไม่แดกและ แดกความเงียบจนอิ่มแล้วครัชชช” ผมตีแขนไปที่เพื่อนทั้งสองคนจนมันสะดุ้ง แล้วพยักหน้าก่อนที่ไอ้ยูคจะหยิบสลิปไปจ่ายตังค์ให้ทันที..มันรวยครับ ส่วนยองแจหรอ ผมเกือบลืมว่ามันมาด้วยและ ดีที่มันยังพยักหน้าตอบรับกันบ้าง

     

    หลังจากออกมาจากร้าน ผมหยิบโทรศัพท์ตัวเองขี้นมาเพื่อกดเบอร์ที่อยู่ใน favorites ของตัวเองทันที

     

    ‘My Mark

     

    อุ้ย เขินนนนน

     

    ไม่ต้องรอสายนานนักเจ้าของโทรศัพท์ก็รับทันที

     

    (ครับ แฟน)

     

    “มาร์คฮยอง กลับกัน”

     

    (เสร็จแล้วหรอ แบมอยู่ไหน เดี๋ยวฮยองไปหา)

     

    “อยู่ร้านไอติมที่เดิมหน่ะฮยอง ฮยองจะเดินเที่ยวต่อรึเปล่าฮะ”

     

    (อื่อออ คงไม่แล้วหล่ะ อยากไปเจอแบมแล้วเนี่ย) โหยยยยย เขินสิ รอไรคับ

     

    “อื่อ งั้นก็มาเร็วๆนะครับ แบมคิดถึง” ผมกดวางทันทีที่พูดประโยคน่าอายจบ ใครจะไปรอให้เค้าแซวกันหล่ะครับ

     

    “เออมึงงั้นแยก..ย้า..”ยังไม่ทันที่ผมจะพูดจบประโยค สายตาของผมก็เหลือบไปเห็นเจบีฮยองเดินเคียงข้างมากับจูเนียร์ฮยอง รอยยิ้มปรากฏอยู่บนหน้าหวาน ซึ่งไม่ต่างจากคนข้างกายซักเท่าไหร่

     

    ไอ้ยูคยืนกำมือแน่น ไม่รู้เพราะโกรธใคร ระหว่างเจบีฮยองที่เป็นแฟนเก่าเพื่อนสนิท หรือเป็นเพราะรอยยิ้มกว้างที่ปรากฎอยู่บนหน้าสวยนั่น แต่ผมคิดว่าน่าจะเป็นอย่างหลังมากกว่า ส่วนยองแจผมหันไปมองเพื่อนอีกคนในทันทีที่นึกได้ว่ามันอยู่ด้วย

     

    แววตาที่สั่นระริกนั่นทำให้ผมยกมือขึ้นไปแตะไหล่อัตโนมัติจนมันสะดุ้งก่อนจะถอนหายใจออกมาแล้วพูดว่า..

     

    “กูกลับและ”แล้วเดินเอามือล้วงกระเป๋าไปเฉยเลย นี่คือวิถีคนที่ไปทิ้งเค้าใช่ไหม

     

    ผมเบนสายตาไปมองรุ่นพี่ของตัวเองอีกครั้งแต่ร่างสูงจากที่เดินอยู่ข้างๆจูเนียร์ฮยองกลับเอื้อมมือไปจับมืออีกคนทันที ส่วนจูเนียร์ฮยองก็ได้แต่ทำท่าทางขวยเขินโดยไม่ขัดขืนเลยซักนิด

     

    โอโหหหหห รู้สึกโมโหยังไงไม่รู้แฮะ ถึงแม้เพื่อนผมจะเป็นคนทิ้งเองก็เถอะ ว่าแล้วเข้าไปทักซักหน่อยดีมะ อยากรู้จังว่าพวกฮยองสองคนจะทำหน้ายังไง

     

    หมับ

     

    “จะไปไหนครับ”มาร์คฮยองที่เพิ่งมาถึงจับข้อมือผมเอาไว้

     

    “ก็เพื่อนมาร์คฮยองอ่ะ เลิกกับยองแจไม่เท่าไหร่ แต่..

     

    “ปล่อยพวกมันเถอะ”

     

     

    “หมายความว่าไงที่ให้ปล่อยไป”ยูคยอมที่ยืนมองภาพนั้นอยู่นาน หันกลับมาถามด้วยสีหน้า และน้ำเสียงไม่สู้ดีนัก

     

    “พวกนายไม่เข้าใจหรอก”มาร์คฮยองถอนหายใจ “กลับเถอะแบม นายด้วยยูคยอม”

     

    “เดี๋ยวฮยอง ฮยองควรจะบอกให้แบมรู้นะ แบมก็อยากรู้เหมือนยูคอ่ะ”ผมจับข้อแขนของมาร์คฮยองเพื่ออยากจะบอกให้รู้ว่าผมอยากรู้จริงๆ บอกอะไรผมบ้างเถอะ ผมไม่อยากรู้สึกไม่ดีกับจูเนียร์ฮยองนะ

     

    “ฉันจะไม่แก้ตัวแทนพวกมันหรอกนะ แต่ถ้าพวกนายมาเป็นฉันนายจะเข้าใจเอง”

     

    “ทั้งๆที่ผมเป็นแฟนฮยองเนี่ยนะ ไม่คิดจะบอกอะไรกันหน่อยหรอวะ เหอะ” ผมส่งค้อนไปให้แฟนตัวเองอย่างอดไม่ได้ รู้สึกว่าตัวเองกลายเป็นคนงี่เง่าทั้งๆที่มันก็ไม่เกี่ยวกับมาร์คฮยองเลย แต่มาถึงขนาดนี้แล้วอะไรก็หยุดผมไม่ได้แล้วหล่ะครับ

     

    “แบมแบม”ผมสะดุ้งนิดหน่อยเมื่อคนตรงหน้าเริ่มพูดเสียงเย็นๆ อ่า มาร์คฮยองกำลังโมโหใช่ไหมครับ

     

    “ขอโทษครับ..”สุดท้ายก็เป็นผมที่พ่ายแพ้สินะ

     

    “เหอะ” ยูคยอมแค่นเสียงออกมาเมื่อผมพูดขอโทษออกมา เห้ออออ ขอโทษนะแต่เสียงมาร์คฮยองน่ากลัวจริงๆหว่ะ T^T

     

    “เห้อออ ตอนนี้ปล่อยไปก่อนเถอะ นี่ก็จะสอบอยู่แล้ว หลังสอบแล้วค่อยมาพูดเรื่องนี้กันอีกทีนะ แต่ตอนนี้แยกย้ายกันก่อนเถอะถือว่าฮยองขอร้อง” มาร์คฮยองดึงผมให้ไปชิดกับตัวเองมากขึ้นก่อนจะยกมือตบไหล่ยูคยอมสุดท้ายเพื่อนตัวสูงก็เป็นคนเดินหนีไปก่อนเองจนได้

     

    “ฮยอง..

     

    “สอบเสร็จนะแบม แล้วฮยองจะเล่าให้ฟังเอง”

     

    มาร์คฮยองจูงมือผมไปที่รถเพื่อจะพาผมกลับไปส่งที่บ้าน ผมอยากให้สอบวันพรุ่งนี้เหลือเกิน เรื่องพวกนี้มันโคตรกวนใจผมเลย
     

    30%



    JB’s Part

     

    จะว่ายังไงดีหล่ะ...เมื่อพูดถึงเรื่องที่ผมโดนยองแจบอกเลิกมันก็แอบช็อคอยู่เหมือนกันนะครับ คือผมก็คบกับน้องมาตั้งสองปีจู่ๆมาโดนบอกเลิกโดยไม่มีเหตุผลอะไรเลยมันก็ต้องตกใจเป็นธรรมดา แล้วยังรู้สึกใจหายอีกด้วย ก็เสียใจนะครับแต่มันก็ไม่มากเกินกว่าในเอ็มวี หรือในละคร ผมว่ามันเวอร์ไปนิดนะครับ เอาจริงๆผมแค่อยากรู้มากกว่าว่าอะไรคือสาเหตุที่ทำให้น้องบอกเลิก

     

    แต่สิ่งที่น่าแปลกว่านั้น ที่จิตใต้สำนึกลึกๆของผมมันบอกว่า...ก็ดี

     

    มันแปลกมากใช่ไหมบางที่ผมก็ไม่เข้าใจตัวเองว่าทำไมถึงรู้สึกแบบนั้น....ผมหันไปมองเพื่อนสนิทหน้าหวานของตัวเองที่นั่งอยู่ข้างๆกัน  สองสามวันที่ผ่านมาก็มีแต่เค้าแหละครับที่ดูห่วงใหญ่ผมที่สุดแล้ว..อดคิดถึงวันนั้นไม่ได้ที่คนข้างๆจู่ๆก็สารภาพออกมาว่า...ชอบ ซะงั้น จนผมทำตัวไม่ถูกเวลาเจอกันคอยที่จะหลบหน้าตลอดเวลา จริงๆผมไม่ได้รู้สึกไม่ดีนะครับ แต่มันแย่เพราะผมดันรู้สึกดีนี่สิ -/////- บางทีผมก็ทำตัวไม่ถูกเวลาอยู่กับเพื่อนคนนี้หน่ะครับ

     

    ผมเคยบอกไปรึยังว่าก่อนที่จะมาคบกับยองแจ ผมเคยรู้สึกว่าเหมือนตัวเองกำลังรู้สึกแปลกๆกับจูเนียร์...แต่ก็เป็นความลับระดับชาติเลยครับ ไม่มีใครรู้หรอกครับ

     

    “เนียร์..บีเบื่ออะ”ผมพูดขึ้นมาเมื่อเห็นว่าเพื่อนสนิทไม่สนใจกันสักนิด ..ส่วนไอ้มาร์คหน่ะหรอ ปล่อยมันนั่งดูห้องน้องแบมเรียนพละทางหน้าต่างไปเถอะ

     

    “หือ..” คนหน้าหวานหันมามองหน้าผมก่อนจะชะโงกหน้าลงไปที่หน้าต่างที่ผมนั่งติดอยู่ “บีเดี๋ยวมันก็ผ่านไปนะ อย่าคิดมาก แล้วก็อย่าไปมองสิ” สายตาอ่อนโยนที่ส่งมาให้ผมเหมือนกับว่าเป็นห่วงกันซะเต็มประดา ทำให้ใจผมกระตุกแปลกๆ

     

    แต่เดี๋ยว ที่เนียร์พูดหมายความว่าไงวะ ผมงง... ผมหันไปมองทางหน้าต่างก่อนจะถึงบางอ้อ ยองแจอยู่ห้องเดียวกับแบมแบมนี่ เนียร์คิดว่าผมเห็นยองแจแล้วเฮิร์ทหรอ?

     

    “ไม่ๆบีหมายถึงช่วงนี้มันเบื่อๆ เลิกเรียนไปห้างกันม่ะ” ผมหันตัวเข้าไปหาเพื่อนตัวเองทันที

     

    “ไอ้ฮันบิน มากไปและๆ”เสียงบ่นจากโต๊ะด้านหลังพวกผมทำให้ผมหหับเนียร์หันไปมองเจ้าของเสียงทันที

     

    “มาร์คเป็นอะไร”

     

    “เนียร์ดูดิๆ มันจับเอวแบมด้วยอ่ะ” ไอ้มาร์คชี้ไปที่กลุ่มคนด้านล่าง ทำให้ผมมองตามไปด้วย... อ่ากำลังเล่นบาสกันอยู่หรอ แล้วน้องแบมก็เป็นคนกันไอ้เด็กใหม่นั่นด้วย แต่ดูท่าเจ้าเด็กนั่นก็ไม่ได้อยากจะแย่งลูกสักเท่าไหร่เลย เหมือนวิ่งๆแล้วให้เจ้าตัวเล็กกันมากกว่า ไหนจะมือที่บางครั้งก็ยกขึ้นมาจับเอวอีก 555555 เข้าใจและ

     

    “นิดหน่อยเองไอ้มาร์ค เค้าอาจจะไม่ตั้งใจก็ได้55555” ผมเอามือไปตบที่ไหล่ของเพื่อนรักเบาๆ

     

    “พูดได้นิ มึงเลิกกะแฟนแล้วนี่!!

     

    “มาร์ค!!!!” จูเนียร์เสียงดังขึ้นมาจนผมสะดุ้ง เพื่อนๆที่อยู่ใกล้ๆกับพวกผมก็หันมามองอย่างอดไม่ได้

     

    “เสียงดังทำไมอ่ะเนียร์”

     

    “มาร์คนิสัยไม่ดี ขอให้ฮันบินจับตัวน้องแบมตลอดเลย ชิ” จูเนียร์มองค้อนมาร์ค เพราะมาร์คพูดเรื่องเลิกกับยองแจรึเปล่าเนี่ย...ทำไมดูเป็นเดือดเป็นร้อนมากกว่าผมซะอีก.....ฮ่าๆๆๆๆๆๆ

     

    น่ารัก..

     

    เห้ย เชี่ยบี เพื่อนมึงนะเว้ย

     

    “สรุปว่าเนียร์จะไปเป็นเพื่อนบีมั้ยอ่ะ บีอยากหาอะไรทำนอกจากอ่านหนังสืออ่ะ ถ้าบีอยู่คนเดียวบีต้องคิดมากแน่ๆเลย”ผมเบะปากทำหน้าน่ารัก ที่ไม่รู้จะทำทำไม ส่งไปให้จูเนียร์ พลันสายตาผมก็เหลือบไปพบกับเพื่อนอีกคนที่นั่งอยู่ที่โต๊ะด้านหลัง มันส่งข้อความทางปากแบบไร้เสียงมาให้ผมว่า...

     

    ‘ตอแหล’

     

    หรือผมจะอ่านปากมันผิดครับ...นอกจากนั้นผมยังเกลียดสายตาที่มันมองมาเหมือนรู้ความลับอะไรอย่างนั้นแหละ พี่ต้วนมึงจะดูฉลาดไปและครับ

     

    “อ่า...งั้นเราไปเป็นเพื่อนบีก็ได้ แต่ไม่นานนะ”จูเนียร์พยักหน้าตอบผม จนผมยกยิ้มรับ ทำให้คนตรงหน้ารีบหลบสายตาหนีทันที

     

    “นายมาร์ค ต้วน!!!! ที่นี่ห้องเรียนไม่ใช่เวทีประกวดนางงาม มือหน่ะยกลงได้แล้ว!!!” เสียงอาจารย์ที่กำลังสอนอยู่แผดดังขึ้นทำให้เพื่อนทั้งห้องต่างหันไปมอง รวมทั้งผมด้วย

     

    เป็นจริงอย่างที่ครูว่า...สงสัยกำลังโบกมือให้น้องแบมมั้ง..พูดแล้วก็หมั่นไส้ อย่าให้กูมีแฟนบ้างละกันเหอะ สวีตกันเข้าไป...(เห้ยบี มึงเพิ่งเลิกกับแฟนครับ - - ใจเย็น)

     

    “ขอโทษครับ”

     

    สมน้ำหน้าแม่ง

     

    เลิกเรียน...

     

    “เห้ยพวกมึงจะไปห้างคังวอนใช่ป่ะ” ไอ้มาร์คที่เก็บของอยู่ถามผมขึ้นมาเหมือนกับมีจิตสัมผัส

     

    “เออ”

     

    “ไปกะกูม่ะ วันนี้แบมจะไปห้างนี้ นั่งรถกูประหยัด”

     

    “ประหยัดพ่อมึงสิครับ นั่งรถเมล์สามป้ายก็ถึงและ บ้านรวยก็เงี่ยไม่เห็นคุณค่าของเงินเลย”ได้ทีผมเลยด่ามันใหญ่ ไม่ใช่อะไรครับอิจฉา 55555555

     

    “เอองั้นไม่ต้องไป ดี! กูจะได้ไปกับแฟนกูสองคน” พูดจบมันก็เดินไปตามหาน้องแบมทันที

     

    “ฮ่าๆๆๆๆ”

     

    “บีดูอารมณ์ดีเนอะ”จูเนียร์ที่ยืนข้างๆผมมานาน ก็พูดขึ้น ทำให้ผมชะงักปรับสีหน้าแทบไม่ทัน ..แถไปก่อนละกันไอ้บี

     

    “เห็นบีแบบเนี่ย เนียร์คงไม่รู้หรอกว่าในใจของบีมันกำลังร้องไห้...”ผมกัดปาก ตีหน้าเศร้า..รางวัลออสก้าต้องเป็นของกูครับ

     

    “อะ..เอ่อ..งั้นไปๆเดินเที่ยวห้างกันดีกว่าเนอะ” เมื่อเห็นอย่างนั้นจูเนียร์ก็รีบเปลี่ยนเรื่องดึงแขนผมไปทันที

     

     

     

     

     

    หลังจากที่ผมกับจูเนียร์เดินเล่น กินเค้ก บลาๆๆๆ ผมก็ชวนเนียร์กลับเพราะเห็นว่ามันเริ่มที่จะมืดแล้ว คนข้างๆเดินยิ้มไปตลอดทางที่เราเดินไปด้วยกัน..นานแค่ไหนแล้วนะที่ไม่ได้เห็นเนียร์ยิ้มเต็มปากแบบนี้ จะมีก็ตอนที่อยู่กับเจ้าเด็กยักษ์ยูคยอมนั่น คิดแล้วจู่ๆก็อารมณ์เสียขึ้นมา จนตัวเองเผลอยื่นมือไปจับเพื่อนสนิทตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้

     

    “อ้ะ” จูเนียร์ตกใจพยายามดึงมือออกจากมือผม แต่ผมก็ไม่ยอมแพ้กลับจับมือนั้นไว้แน่นแทน ผมยกยิ้มมุมปากอย่างอารมณ์ดี ส่วนอีกคนที่ไม่สามารถขัดขืนได้ก็ปล่อยให้เลยตามเลยไปอย่างนั้น มันน่ารักดีนะที่เห็นแก้มสวยนั้นขึ้นสีชมพูจางๆ

     

    ผมเดินจับมือเค้าไปอย่างนั้นตลอดทางจนขึ้นรถเมล์ แม้กระทั่งรอรถ ขึ้นรถ หรือแม้แต่นั่งอยู่บนรถแล้วผมก็ยังไม่ปล่อย ผมก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าทำไมต้องทำแบบนี้ด้วย ถ้าจะบอกว่าเพราะผมรู้ว่าเนียร์ชอบผมแล้วผมเลิกกับแฟนพอดี เพื่อไม่ให้ตัวเองทนความเจ็บปวดก็เลยใช้เนียร์ช่วยดามใจ..บอกเลยว่าผมไม่ได้คิดแบบนั้นเลยจริงๆ

     

    ก็บอกแล้วว่าจิตใต้สำนึกของผม มันเรียกร้องอยากทำแบบนี้เอง...

     

    ตืดดึง..

     

    เสียงข้อความเข้าของคนข้างๆทำให้ผมต้องปล่อยมือเนียร์ไปอย่างน่าเสียดาย(?) แต่สายตาผมก็จับจ้องไปยังจอโทรศัพท์ของอีกคนอย่างอยากรู้อยากเห็น

     

    Yug_yeom

    ฮยองอยู่ไหน ทำไมไม่ค่อยตอบไลน์ผมเลย

    ไหนสัญญาแล้วไงว่าจะตอบผม                    19.46

     

    Read 19.46   มีอะไรรึเปล่ายูค

     

    Yug_yeom

    อ่อ ตอนนี้จะคุยกับฮยองต้องมีธุระด้วยหรอ

    ตอนนี้ผมจะคุยอะไรกับฮยองเหมือนแต่

    ก่อนไม่ได้ใช่ป่ะ                                           19.47

     

    Read 19.47  เห้ย ไม่ใช่ดิ เราขอโทษ

     

    Yug_yeom

    ผมเป็นคนรอ แม่งเหนื่อยหว่ะ แต่ฮยอง

    มาทำแบบนี้เนี่ยนะ บางทีการคุยกับฮยอง

    แม่งก็ไม่สนุกแล้ววะ                                  19.49

     

    Read 19.49   ยูค เราขอโทษ

     

    เด็กยักษ์เริ่มดราม่าใส่เพื่อนสนิทของผม ดูก็รู้ว่าเจ้าเด็กนั่นมันชอบจูเนียร์  นี่ก็ตอบจัง... คนที่อยู่ข้างๆคือผมไม่ใช่หรอ คนที่เค้าชอบคือผมไม่ใช่หรอ แล้วนั่นอะไร...

     

    เราโทรหานะ หรือจะให้เราไปหา

     

    ประโยคที่เพิ่งพิมพ์เสร็จสดๆร้อนๆกำลังจะถูกกดส่ง แต่ผมคว้ามันไว้ก่อน..ก่อนจะจัดการลบข้อความที่เพิ่งพิมพ์เสร็จออกไปแล้วกดออกจากโปรแกรมนั้นทันที

     

    ประจวบเหมาะที่รถเมล์มาถึงป้ายพอดี ผมเลยลากคนข้างๆให้เดินลงมาด้วย

     

    “บี..เราจะตอบยูคยอม” เนียร์แบมือขอโทรศัพท์ตัวเองคืนจากผม

     

    “จินยอง...” สายตาอีกคนเบิกกว้างขึ้นเมื่อผมเรียกชื่อจริงๆของเค้าออกมา เพราะมันแสดงให้เห็นว่าเรากำลังจริงจัง

     

    “หะ..หือ”

     

    ที่บอกว่าชอบ...ไม่ได้โกหกกันใช่ไหม คิดดีแล้วใช่ไหม” จูเนียร์เบิกตากว้างอีกครั้งเมื่อประโยคนั้นหลุดออกจากปากผม ก่อนจะหันหน้าหนีออกไปพร้อมกับเม้มปากของตัวเองแน่น

     

    “......”

     

    เมื่อเห็นวี่กคนยังไม่หันมามองหน้ากันตรงๆ ผมเลยเอื้อมมือไปจับคางของเค้าเพื่อเลื่อนหน้าของเค้าให้หันมาทางผม

     

    “จินยอง มองที่เราแล้วตอบมา” แววตาที่สั่นระริกจ้องกลับมาที่ผม ก่อนที่จะพยักหน้าลงช้าๆ

     

    “อะ อือ..ดีแล้ว”

     

    “อย่าเลิกชอบบีนะ” ทันทีที่ผมพูดจบจอนยองขมวดคิ้วเป็นปมในทันที บางทีประโยคนี้มันอาจจะดูเห็นแก่ตัวไปมาก แต่ขอเถอะ ถ้าพวกคุณมาเป็นผมก็จะเข้าใจเอง

     

    “หมายค....”

     

    “บีขอร้อง..”พูดจบผมก็ดึงอีกคนเข้ามากอดทันที ผมหวังว่าอะไรๆมันจะดีขึ้นนะครับ เพียงแต่ว่ายังไม่ใช่ตอนนี้เท่านั้นเอง....

     

    “บี..”

     

    “แล้วก็ไม่ต้องไปหาเด็กนั่นด้วย บอกไปตรงๆเลยว่าเนียร์คิดกับมันแค่พี่น้อง ไม่เกินกว่านั้น”

     

    “เห้ แต่ยูคยอมไม่ได้มาชอบเราสักหน่อย จะให้เราไปพูดแบบนั้นทำไม”

     

    “นี่เนียร์!! โอ้ยย ช่างมันแล้วๆ แค่ไม่ต้องไปหาหมอนั้น ไม่ต้องโทรไปก็พอ เค้าใจมั้ย” ผมดันอีกคนออกจากอ้อมกอดแล้วจ้องหน้าราวกับว่าจะสะกดจิตไม่ให้ร่างบางนี้ตอบรับอะไรไอ้เด็กนั้น

     

    “อะ..อืมม”เค้าเบือนหน้าหนีก่อนจะพวงแก้มจะขึ้นสีชมพูอีกครั้ง

     

     

    ถึงท้องฟ้าจะมืด...แต่ผมก็เห็นอยู่ดีว่าคนตรงหน้าน่ารักขนาดไหน.....

     

     

     

     

     



    Talk
    จะเข้าใจพี่บีกันมั้ยครับเนี่ย แบบเพิ่งเลิกกับยองแจไง
    จะรีบทำอะไรก็คงดูไม่ดี
    เดี๋ยวก็โดนหาว่าน้องเนียร์มาเป็นตัวแทนแก้เหงาไรงี้
    เข้าใจที่จะสื่อกันใช่ไหม 555555

    ซียูตอนต่อไป
    มีใครรอแจ็คกี้มั้ยคะ 55555 
    ฮีกำลังจะคัมแบ็คนะแจ้ะ

    อ่าาา ไม่ค่อยเม้นค่อย แท็ก #ฟิครกบ กันเลยง่ะ
    เค้าเสียใจ งื้อๆๆ

    หลังๆมานี่อาจจะไม่สนุก ฮืออ ขอโทษด้วยนะคะ
    แต่เหลืออีกไม่กี่ตอนก็คงจบ..มั้ง 555555
    ขอบคุณที่เข้ามาอ่านกันนะคะ
    พรุ่งนี้เค้าเปิดเทอมแล้ว งืออออออออ
    ขี้เกียจสุดๆ

    อย่าลืมเม้นๆๆๆๆๆๆกันนะ
    เลิฟฟฟฟ
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×