คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #9 : ตอนที่ 8
ภาพของหญิงสาวร่างบางในชุดผ้ากันเปื้อนสีสวยที่เขาพึ่งซื้อมาให้เธอหมาดๆเมื่อไม่กี่ชั่วโมงก่อนหน้านี้ รินลณีรับโทรศัพท์จากเจ้านาย พอเธอวางสายเธอก็หันมาขอร้องธีรเดชให้ช่วยเป็นตากล้องในการถ่ายนิตยสารของเธอ เขานึกแล้วอดขำไม่ได้เพราะเขาจงใจเล่นตัวให้เธออ้อนวอนเขาสารพัด จนในที่สุดเขาตอบตกลงแต่ต้องแลกให้เธอมาทำอาหารให้เขาทานทุกเย็นเป็นเวลา 1 อาทิตย์ เธอมีท่าทีไม่พอใจในตอนแรกแต่ก็ยอมในที่สุด
รินลณีหัดผัก ทำกับข้าวหลายอย่างจนเหงื่อเริ่มออก เธอไม่มีเวลาแม้จะสละมือสักข้างไปเช็ด เพราะกลัวว่าจะทำอาหารไม่ทัน ก็คุณชายธีรเดชเล่นกำหนดเวลาให้เธอแค่ครึ่งชั่วโมง เธอเลยไม่มีเวลาแม้แต่จะละไปทำอย่างอื่นเลย นี่ถ้าไม่ติดว่าบอสสั่งเธอมาว่าตากล้องจะต้องเป็นเขาเท่านั้นเธอคงไม่ต้องมาทำอะไรแบบนี้ จวนเจียนใครครบเวลารินลณีก็ทำอาหารเสร็จพอดี
“เสร็จแล้ว” เธอร้องออกมาด้วยความดีใจจนชายหนุ่มต้องรีบเดินเข้ามาดู
“น่าตาใช้ได้ แต่ไม่รู้จะกินได้หรือเปล่า”
“กินได้อยู่แล้ว เบลอๆอร่อยกว่าที่นายเคยทำให้ฉันกินอีก” รินลณีคุยข่มแล้วหันไปยักคิ้วให้ธีรเดชเบาๆ ธีรเดชมองหน้าเธอที่เต็มไปด้วยเหงื่อเขารีบหยิบผ้าเช็ดหน้ามาซับให้ทันที รินลณีตกใจชักตัวออก “ทะ...ทำอะไร”
“คุณเหงื่อออกไง ผมจะเช็ดให้”
“ฉันเช็ดเองได้” เธอทำท่าจะแย่งผ้าเช็ดหน้าในมือเขามาเช็ดเอง
“ผมบอกว่าผมจะเช็ดให้” เขาใช้มืออีกข้างรวมมือเธอไว้และใช้อีกข้างเช็ดเหงื่อให้เธออย่างอ่อนโยนจนเธอรู้สึกใจเต้นขึ้นมาแปลกๆ สายตาของเขาและเธอเผลอสบกันโดนบังเอิญ ทั้งคู่มองตากันเนิ่นนาน หัวใจทั้งสองดวงเริ่มเต้นไม่เป็นจังหวะ ‘ตรึ้งงง’ เสียงแจ้งเตือนเมลเข้าในโทรศัพท์ของหญิงสาวดังขึ้น ทำให้ทั้งคู่หลุดจากภวังค์ รินลณีถอยห่างก่อนจะเดินไปหยิบโทรศัพท์ดู ส่วนธีรเดชก็ยืนเขินทำอะไรไม่ถูกได้แต่ยืนมองรินลณี เมื่อรินลณีหันมาอีกครั้งสายตาของทั้งคู่ก็สบกันอีกครั้ง แต่ครั้งนี้ทั้งคู่กับทำตัวไม่ถูก
“เอ่อ...ฉันว่าฉันกลับก่อนดีกว่า” รินลณีรีบถอดผ้ากันเปื้อนออก เธอหยิบข้าวของของเธอแล้วตรงดิ่งไปที่ประตู
“ดะ...เดี๋ยวซิคุณ อาหารตั้งเยอะจะให้ผมกินคนเดียวได้ไง” ธีรเดชเดินมาดึงแขนเธอไว้ “อยู่กินด้วยกันก่อน”
“แต่ฉัน...”
“ไม่งั้นผมไม่เป็นตากล้องให้นะ” ธีรเดชยกเหตุผลข้อนี้มาอ้าง
“ก็ได้ๆ แต่ว่า...มืออ่ะปล่อยได้และ” ธีรเดชสะดุ้งเล็กน้อยก่อนจะปล่อยมือออกจากแขนเธอ
บรรยากาศบนโต๊ะอาหารระหว่างเขากับเธอช่างเงียบสงัด ไม่มีใครคิดจะพูดอะไรเลยสักคำ แต่ถึงยังงั้นก็ไม่ได้ทำให้เขาและเธอรู้สึกอึดอัดเลยแม้แต่น้อย ธีรเดชคอยบริการตัดโน่นตักนี่ให้รินลณีไม่ขาด มื้ออาหารจบลงธีรเดชเดินมาส่งรินลณีถึงห้องเขาและเธอก็ยังไม่ได้พูดอะไรกัน
‘ตรึ้งงง’ ‘ตรึ้งตรึ่ง’ เสียงแจ้งเตือนไลน์ของรินลณีดังขึ้นพร้อมๆกับเสียงกริ่งประตูหน้าห้องเธอ เธอเดินไปเปิดประตูพบกับดอกกุหลาบขาวของบุรุษนิรนาม เธอยิ้มและรีบหยิบมาเข้ามาในห้อง ไม่นานนักเสียงแจ้งเตือนเมลเธอก็ดังขึ้น เธอรีบเดินไปเปิดเมลอ่านทันที ไม่ว่าจะเป็นเมลฉบับไหนก็ทำให้เธอยิ้มและมีความสุขทุกครั้งที่อ่าน ฉบับนี้ก็เช่นกัน เธออ่านจบและรีบตอนกลับทันที หลังจากตอบเมลเสร็จเธอก็ไปอาบน้ำเพื่อเตรียมเข้านอน พรุ่งนี้เธอจะต้องรีบเข้าบริษัทไปประชุมแต่เช้า
เธอทิ้งตัวลงนอนบนเตียงอย่างสบายก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเช็คโน่นนี่ดูตามประสา เธอเปิดเข้าไลน์ก็พบว่าธีรเดชส่งข้อความมาหาเธอตั้งแต่ตอนที่แยกกัน แต่เธอดันไปสนใจเมลจากบุรุษนิรนามและทำอย่างอื่นจบลืมตอนเขา เธอกดเข้าไปอ่านทันที
‘ขอบคุณสำหรับอาหารมื้อพิเศษวันนี้ อร่อยจริงๆอย่างที่คุณว่า’ เธอยิ้มก่อนจะรีบตอบกลับ
‘แน่นอน ฉันบอกแล้ว’ ไม่นานนักเขาก็ตอบกลับมาอีก
‘ผมคิดผิดหรือถูกที่ชมคุณ555’
‘นายทำถูกแล้วทำต่อไป’ เธอตอบเขากลับไปเรื่อยๆ คืนนี้บทสนทนาของเขาและเธอยังคงดำเนินต่อไป ทั้งๆที่เธอตั้งใจจะนอนแล้วแท้ๆแต่ก็อดที่จะโต้ตอบบทสนทนากวนประสาทของเขาไม่ได้ จนตอนนี้เวลาก็ล่วงเลยมามากแล้ว ดวงตาของเธอหนักขึ้นทุกที จนในที่สุดเธอก็หลับไปทั้งๆที่โทรศัพท์ยังอยู่ในมือและเปิดหน้าบทสนทนาของเขาและเธอ
ทางด้านธีรเดชที่เห็นว่าข้อความถูกอ่านนานมากแล้วแต่เธอไม่ตอบกลับมา เขาจึงหันไปมองนาฬิกาตอนนี้เป็นเวลาเกือบเที่ยงคืนแล้ว เธอคงจะหลับไปแล้วแน่ๆ เขายิ้มก่อนจะพิมพ์ข้อความสุดท้ายแล้วยิ้มขำกับตัวเอง
“ฝันดีนะครับนางฟ้าของผม” ธีรเดชพูดกับรูปของรินลณีประหนึ่งว่าเธอจะรับรู้
ความคิดเห็น