คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #7 : ตอนที่ 6
รถของธีรเดชค่อยๆเคลื่อนตัวออกจากบ้านของรินลณี ภายในรถเงียบสงัดจนน่าอึดอัด ธีรเดชรอบมองรินลณีเป็นระยะๆ ส่วนรินลณีนั้นนั่งนิ่งเฉยเหมือนคนไม่มีความรู้สึกใดๆ รถคันสวยค่อยๆแล่นมาเรื่อยๆจนถึงคอนโดหรูซึ่งก็เป็นเวลาค่ำเสียแล้ว
“ขอบใจที่มาส่ง” รินลณีพูดพร้อมกับหยิบกระเป๋าใบสวยแล้วเดินลงจากรถไปไม่เปิดโอกาสให้ธีรเดชเอ่ยปากพูดสักคำ
ร่างบางของรินลณีตอนนี้ยืนอยู่ในลิฟต์เพียงลำพัง เธอไม่พอใจกับการกระทำของชายหนุ่มเอาเสียมากๆ ทำไมเขาถึงพยายามเอาตัวเองเข้ามาอยู่ในชีวิตของเธอจัง แถมยังสร้างเรื่องวุ่นวายไม่รู้จบ รางบางค่อยๆเดินมาเรื่อยๆจนถึงห้องของเธอ
“ไม่มีดอกกุหลาบ...” รินลณีเอ่ยขึ้นเพราะที่ประตูหน้าห้องของเธอนั้นไม่มีดอกกุหลาบห้อยอยู่อย่างที่เคยมี “หรือว่าเราจะกลับมาเร็วก่อนไป” เธอก้มมองนาฬิกาก่อนจะใช้คีย์การ์ดเปิดเข้าห้องไป
ร่างบางวางกระเป๋าใบสวยก่อนจะทิ้งตัวลงบนเตียงนอน เธอหยิบโทรศัพท์ขึ้นมารอเมลจากใครคนหนึ่ง ซึ่งตัวเธอก็รู้ดีว่าตอนนี้ยังไม่ถึงเวลาก็ตาม เธอจึงกดเข้าอินสตาแกรมเพื่อดูรูปงานแต่งงานเมื่อคืน มีคนแท็กรูปเธอที่งานมาให้มากมายและแท้นอนรูปเธอกับธีรเดชที่ประกาศตัวเป็นแฟนกันก็มีอยู่มาก สายตาของเธอพลันไปเห็นที่หน้าจอเริ่มแสดงแบตเตอร์รี่เหลือน้อยเต็มที ร่างบางดีดตัวขึ้นเพื่อไปหาที่ชาร์จแบต
“กระเป๋าเสื้อผ้า...” รินลณีนึกขึ้นได้ถึงจะตกใจ “บ้าเอ้ย...ดันลืมไว้ในรถนายนั่นได้ไงเนี่ย”
ในขณะที่เธอกำลังกลุ้มใจเสียงกดกริ่งหน้าห้องก็ดังขึ้น เธอรีบเดินไปเปิดทันที และเมื่อประตูบานนั้นถูกเปิดออกเธอก็เห็นร่างสูงใหญ่ของธีรเดชยืนอยู่หน้าประตูพร้อมกับกระเป๋าใบใหญ่ของเธอ
“คุณลืมมันไว้ในรถผม ผมเลยถือขึ้นมาให้” เขาวางกระเป๋าเธอลงตรงหน้า
“แล้วนายรู้จักห้องฉันได้ยังไง”
“ถ้าคุณใส่ใจอะไรสักนิดคุณจะรู้ว่าห้องผมอยู่ข้างๆคุณเนี่ย” เขาตอบพลางชี้ไปทางห้องตัวเอง “ถ้าไม่มีอะไรแล้วผมขอตัว”
“เดี๋ยว...” เขาหันมามองเธอ “ขอบใจนะสำหรับหลายๆเรื่อง ถึงแม้มันจะทำให้ชีวิตฉันวุ่นวายก็เถอะ แต่ถ้าไม่มีนายฉันก็ไม่รู้จะทำยังไงเหมือนกัน แค่นี้แหละไปได้”
“โอเค งั้นผมไปแล้วนะ ฝันดีครับ” เขายิ้มก่อนจะเดินจากไป เธอมองตามจนสุดสายตา เธอละสายตาจากเขาเพื่อมาปิดประตูห้องตัวเองแล้วเธอก็พบกุหลาบที่เธอกำลังรอ เธออมยิ้มก็จะหยิบมันแล้วกลับเข้าห้องไป
อีกด้านหนึ่งธีรเดชนั่งเปิดรูปในกล้องของเขาดูในMacเครื่องสวย เขาตั้งใจรูปงานแต่งของพี่ชายให้เสร็จเสียในวันนี้ เขาเปิดไล่ดูรูปไปเรื่อยๆจนมาถึงรูปของเธอ...รินลณี ศรีเพ็ญ...ที่เขาแอบถ่ายมามากมาย เขาแยกรูปเธอออกไปอยู่อีกโฟร์เดอร์เสียก่อนเพื่อจะได้ทำงานสะดวก เขานั่งทำรูปไปเรื่อยๆจนเสร็จ สายตาของเขาละไปมองนาฬิกา ตอนนี้เป็นเวลาเกือบ 5 ทุ่มแล้ว เขารีบเปิดเมลแล้วพิมพ์หาอีกฝ่ายทันที
“จะโกรธไหมเนี่ย” เขากดส่งเมลไปแล้วลุ้นท่าทีของอีกฝ่าย ‘ตรึ้งงง’ เสียงแจ้งเตือนเมลดังขึ้น เขารีบกดเปิดทันที ‘รินลณี ศรีเพ็ญ’ เธอยังรอเมลของเขาอยู่จริงๆด้วย เขาไม่รอช้ารีบอ่านเมลฉบับนั้น
‘มิตรภาพที่911 คืนนี้มาแปลกจังเลยนะคะคุณมาช้ากว่าปกติมากจนฉันเกือบถอดใจนอนไปเสียก่อนแล้ว ฉันไม่โกรธคุณหรอกนะคะคุณสบายใจได้ ขอบคุณนะคะที่คุณแคร์ฉันมากขนาดนี้ คุณเป็นมิตรภาพที่ดีของฉันจริงๆ วันนี้ฉันผ่านเรื่องวุ่นวายที่เล่าให้คุณฟังมาได้แล้วนะคะ ฉันจะพยายามทำมันให้ได้ทุกวัน ขอบคุณสำหรับคำแนะนำมากๆนะคะ ถ้าไม่มีคุณฉันคงทำอะไรแบบนี้ไม่ได้ คุณเป็นที่ปรึกษาที่ดีที่สุดของฉันเลยค่ะ ราตรีสวัสดิ์ค่ะ
รินลณี’
เขายิ้มก่อนจะปิดMacเครื่องสวยลง เขามองทอดออกไปที่นอกระเบียง วิวทิวทัศน์ในเมืองยามค่ำคืนก็สวยงามดีหากแต่วันนี้มันสวยยิ่งกว่าทุกๆวัน เพราะเขาได้ทำตามหัวใจตัวเองเสียที เขาเดินมาหยุดตรงเตียงนอน บริเวณหัวเตียงเต็มไปด้วยรูปถ่ายของรินลณีในอิริยาบถต่างๆ เขานำรูปให้ที่สวยที่สุดมาติดเพิ่มเข้าไป เขาคิดย้อนกลับไปเมื่อ 10 ปีที่แล้ว
ธีรเดชเด็กหนุ่มอายุ 15 ปี เขามาเที่ยวบ้านลูกพี่ลูกน้องอย่างชาตโยดมที่อายุห่างจากเขาสิบกว่าปี เขาได้เที่ยวเล่นอย่างมีความสุข แต่แล้วก็เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันกับเขา เมื่อเขาพลัดตกน้ำไม่ใช่ว่าเขานั้นจะว่ายน้ำไม่เป็น หากกแต่ตอนนั้นขาของเขาดันเป็นตะคิว ทำให้ไม่สามารถว่ายน้ำได้ ที่ตรงนั้นไม่มีใครเลยเพราะเขาออกมาปั่นจักรยานเล่นเพียงลำพังแล้วมันก็เย็นมากเกินกว่าจะมีใครมาเล่นแถวนี้ เด็กหนุ่มทุรนทุรายเป็นอย่างมาก ในใจเขาได้แต่วิงวอนขอพรเพื่อไม่ให้ตัวเองตาย เขายังอยากที่จะอยู่ดูแลแม่ และแล้วร่างของเขาก็ค่อยๆดำดิ่งลงไป นัยน์ตาของเขาค่อยๆปิดลง แต่ทันใดนั้นเขาก็เห็นเงารางๆของใครสักคนกำลังว่ายเขามาช่วยเขา เขาพยายามใช้สติทั้งหมดที่ยังเหลืออยู่จดจำภาพนั้นไว้ ไม่นานนักก็มีริมฝีปากอิ่มมาประกบกับปากของเขาเพื่อแบ่งออกซิเจนให้ก่อนที่ร่างของเขาจะถูกพาตัวขึ้นจากน้ำ สติของเขาดับวูบลงก่อนจะมารู้ตัวอีกทีที่โรงพยาบาล ร่างกายของเขาค่อยๆขยับ
“อาเล็ก...อาเล็กฟื้นแล้วครับน้า” เสียงของลูกพี่ลูกน้องของเขาดังขึ้น เขาค่อยๆกระพริบตาถี่ๆเพื่อปรับภาพตรงหน้าให้ชัด
“เล็กลูก...เป็นยังไงบ้าง”
“แม่ครับเล็กไม่เป็นไรแล้วครับ แม่อย่าร้องนะครับ” เขาใช้มือเช็ดน้ำตาของผู้เป็นแม่ เสียงประตูห้องถูกเปิดขึ้น
“อ้าวจอยมาพอดีเลย” ชาตโยดมหันไปทักแขกที่พึ่งมาใหม่ ธีรเดชมองตาจนเห็นร่างบางที่ค่อยๆเดินเข้ามาใกล้กับเขา “นี่ไงคนที่ช่วยชีวิตเราไว้ ขอบคุณซะซิ” เธอยิ้มให้เขา เขามองเธอย่างประทับใจ
“ขอบคุณครับพี่...”
“พี่ชื่อจอยค่ะ” เธอยิ้มหวานให้เขา
ใช่...จอย รินลณี ศรีเพ็ญ หากไม่มีเธอในวันนั้นคงไม่มีเขาในวันนี้ เธอผู้ช่วยชีวิตเขา เธอผู้เป็นเหมือนแสงสว่างของเขาในตอนที่ชีวิตของเขากำลังจะดับสิ้น เธอผู้เป็นจูบแรกของเขา และเธอผู้เป็นรักครั้งแรกของเขา เขาจะต้องพิชิตหัวใจดวงนี้ของเธอให้ได้
ความคิดเห็น