คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : ตอนที่ 5
บ้านหลังสวยที่ตั้งตระหง่านอยู่ตรงหน้าเป็นบ้านที่รินลณีใช้เงินที่ทำงานในวงการมาซื้อเป็นบ้านหลังแรกให้กับครอบครัวเธอ บ้านหลังนี้ยังดูใหม่และสวยงามอยู่ตลอดเวลาแม้บ้านหลังนี้จะสร้างมานานกว่า 10 ปี รินลณีเดินไปกดกริ่งที่หน้าประตู ระหว่างรอคนมาเปิดประตูให้เธอก็หันไปเช็คตารางงานของตัวเอง จนไม่ทันสังเกตว่าคนที่มาเปิดประตูให้นั้นคือผู้เป็นแม่ของเธอ เมื่อเธอหันกลับมาก็เห็นธีรเดชที่ยื่นคุยกับแม่ขอเธออย่างสนิทสนมจนเธอแปลกใจ
“แม่...” รินลณีโผเข้ากอดผู้เป็นแม่ด้วยความคิดถึง “คิดถึงจังเลย” เธอละกอดออกก่อนจะหันไปพูดกับธีรเดช “นายกลับไปได้แล้ว ขอบคุณที่มาส่ง” แม่ของเธอตีแขนลูกสาวตัวดีเบาๆ
“เดี๋ยวเถอะ ไปไล่พ่อเล็กเขาทำไม แม่ชวนเขาอยู่ทานข้าวกับเราแล้ว ไปลูกแม่คิดถึงฝีมือการทำกับข้าวของเราจริงๆ” แม่ของรินลณีเอ่ยก่อนจะเดินคุยกับธีรเดชเข้าบ้านไป ทิ้งให้รินลณียืนงงอยู่เพียงลำพัง
ภาพของชายหนุ่มในชุดผ้ากันเปื้อนกำลังทำอาหารอย่างขะมักเขม้นอยู่ข้างๆหญิงสูงวัย ใบหน้าของเขาดูมีความสุขกับการทำอาหารมากเหลือเธอ สายตาของรินลณีจับจ้องเขาไม่หยุด เธอแทบไม่อย่างจะเชื่อเมื่อพี่สาวของเธอเล่าให้ฟังว่าธีรเดชสนิทสนมกับผู้เป็นแม่ของเธอมาเกือบจะ 3 ปีแล้ว แล้วทำไมเธอถึงไม่เคยรู้มาก่อน
“ที่ตัวเล่ามาเนี่ยจริงหรอ นายนั่นเนี่ยนะสนิทกับแม่” รินลณีถามย้ำอีกทีเพราะความไม่แน่ใจ
“จริงซิ เค้าก็เคยเจอเล็กหลายครั้งนะแถมยังเคยทานอาหารฝีมืออาเล็กอยู่บ่อยๆ บ่อยกว่าตัวซะอีกมั้ง” รินลณีหันหน้ามามองพี่สาวอย่างเคืองๆ
“ทำไมตัวพูดแบบนี้อ่ะ จอยทำให้ตัวกินออกจะบ่อยนะ”
“ถ้าเป็นเมื่อก่อนน่ะใช่ แต่เดี๋ยวนี้งานตัวยุ่งจะตาย เดือนๆหนึ่งแทบจะไม่ได้กลับบ้าน เค้าน่ะเจอตัวเพราะไปหาตัว แต่แม่น่ะไม่ได้ออกจากบ้านไปไหน ตัวรู้ไหมแม่บ่นกับเค้าบ่อยๆนะว่าเหงา” พี่สาวของเธอหันไปมองธีรเดช “จนกระทั่งอาเล็กเข้ามาสนิทกับบ้านเรา แม่แทบจะไม่เคยพูดคำว่าเหงาอีกเลย” รินลณีมองตามเห็นแม่ของเธอนั้นมีความสุขมากอย่างที่ไม่ได้เห็นมานาน
“แม่ดูมีความสุขมากจริงๆด้วย จอยคงทำงานมากเกินไปจนละเลยครอบครัว” รินลณีทำหน้าเศร้าทำเสียงของเธอดูเสียใจอย่างเห็นได้ชัด
“ตัวทำเพื่อครอบครัวเค้ารู้ เค้าดีใจนะที่มีน้องแบบตัว” ทั้งสองยิ้มให้กันเล็กน้อย “ส่วนเรื่องข่าวนั่นเค้าเข้าใจแล้วล่ะ เค้าไว้ใจถ้าเป็นเล็ก”
“ทำไมตัวถึงไว้ใจนายนั่นล่ะ แทนที่ตัวจะพูดว่าไว้ใจในการตัดสินใจของจอย”
“ก็เพราะนิสัยเด็กๆของตัวแบบนี้ไง แต่เค้าเชื่อว่าเล็กน่ะดูแลน้องสาวเค้าได้ดีกว่าตัวน้องสาวเค้าเอง555” เธอพูดจบประโยคก่อนจะเดินเข้าไปช่วยในครัวทิ้งให้รินลณียืนหน้าเหวอเพียงลำพัง
รินลณีออกมานั่งอยู่ที่สวนของบ้านเธอเพียงลำพัง เธอทบทวนคิดเรื่องราวที่เกิดขึ้นทั้งหมดกับเธอใน 2 วันนี้ มันช่างรวดเร็วไม่สามารถควบคุมได้ เธอรู้สึกว้าวุ่นกับเรื่องที่เกิดขึ้น เธออยากจะคุยกับใครสักคน แล้วเธอก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเปิดเมล ใช่...วันนี้ทั้งวันเดินยังไม่ได้อ่านเมลจากบุรุษนิรนามเลย เขาเป็นคนเดียวที่เธอจะสามารถระบายทุกเรื่องได้ เธอกดอ่านเมลฉบับล่าสุด
‘เช้าวันใหม่เช้านี้คงจะวุ่นวายมากสำหรับคุณแน่ๆ ผมได้อ่านข่าวแล้วนะครับขึ้นหน้าหนึ่งทุกฉบับเลย555 ผมดีใจที่ได้เห็นรูปข่าวคุณในหนังสือพิมพ์บ้าง ผมแทบจะเหมาซื้อหนังสือพิมพ์วันนี้เพราะคุณเลยนะครับ แต่ผมคิดว่าคุณคงไม่ได้ดีใจเหมือนผมแน่ๆ อย่าลืมนะครับถ้ามีปัญหาอะไรปรึกษาผมได้เสมอ
บุรุษนิรนาม’
รินลณียิ้มให้กับเมลฉบับนั้นเล็กน้อย เขาช่างอารมณ์ขันจริงๆถึงกับจะเหมาซื้อหนังสือพิมพ์เพียงเพราะเธอลงข่าว ก็จริงอยู่ที่การปฏิบัติตัวและวางตัวดีของเธอนั้นทำให้เธอไม่ค่อยเป็นข่าว แต่เขาก็ไม่น่าจะต้องดีใจขึ้นขนาดนี้ รินลณีค่อยๆตอบเมลกลับบุรุษนิรนามถึงเรื่องราววุ่นวายที่เกิดขึ้น เธอเล่าเรื่องทุกอย่างให้เขาฟังจนหมด เธอรู้สึกสบายใจอย่างมากเมื่อตอบเมลฉบับนี้จบ
“มานั่งยิ้มอะไรอยู่ตรงนี้คนเดียวครับคุณแฟน” เสียงยียวนกวนประสาทของธีรเดชกระทบเข้าโสตประสาทของเธอ เธอหุบยิ้มทันที
“ฉันไม่ใช่แฟนนาย อย่ามากวนประสาท”
“ครับๆผมก็แค่ล้อเล่น คุณแม่คุณให้มาตาม อาหารเสร็จแล้ว” ธีรเดชพูดก่อนจะเดินนำเธอไป
บนโต๊ะอาหาร กับข้าวหลายอย่างถูกจัดวางอย่างน่าทาน เมนูต่างๆนั้นล้วนแต่เป็นของชอบของรินลณี เธอรีบปรี่เข้าไปนั่งที่โต๊ะข้างๆผู้เป็นแม่ของเธอก่อนหน้าธีรเดช ชายหนุ่มจึงเดินอ้อมไปนั่งฝั่งตรงข้ามเธอ
“ทานเยอะๆนะอาเล็ก ของชอบของเราทั้งนั้นเลยแม่จำได้” ผู้เป็นแม่ของรินลณีกล่าว ทำเอาเธอหันควับไปมองทันที
“นี่ก็ของชอบจอยนะ แม่จำไม่ได้หรอ” เธอเริ่มงอแง
“จำได้ๆ แม่จำได้อยู่แล้ว เราก็กินเยอะๆแล้วกัน นานๆจะกลับมากินข้าวกับแม่” หญิงสูงวัยตักยำวุ้นเส้นตรงหน้าของรินลณีให้ธีรเดช “ยำวุ้นเส้นแม่จำได้ว่าอาเล็กเคยบอกว่าแม่ทำอร่อย”
“ขอบคุณครับแม่ แม่ทำอะไรก็อร่อยหมดแหละครับ ผมมาทีไรน้ำหนักขึ้นทุกที” รินลณีรู้สึกไม่พอใจเป็นอย่างมากที่แม่ของเธอให้ความสำคัญกับธีรเดชมากกว่าเธอ พี่สาวของเธอเห็นท่าทางต่างๆของรินลณีก็ได้แต่ขำ
“แล้วนี่อาเล็กกับจอยมาด้วยกันได้ยังไง แม่ไม่เห็นรู้มาก่อนเลยว่าเราสนิทกัน”
“อ๋อ...ก็งานแต่งของพี่ชายกับวิกกี้ไงแม่ จอยกับนาย...กับอาเล็กก็ไปงานมาด้วยกัน”
“ใช่แม่ใช่ น้องก็ไปงานเดียวกันเลยติดรถอาเล็กกลับมา ใช่ไหมอาเล็ก” สองสาวพี่น้องโยนมาหวังให้ชายหนุ่มรับมุขของพวกเธอ ทั้งหมดมองที่ธีรเดชเป็นตาเดียว เขายิ้มก่อนจะตอบ
“ใช่ครับ”
“อ๋อ...แม่ก็นึกว่าลูกสาวแม่ไปทำเรื่องอะไรไว้ซะอีก”
“โถ่แม่ จอยไม่ใช่เด็กๆแล้วนะ จอยน่ะ...” ยังไม่ทันที่รินลณีจะพูดจบธีรเดชก็รีบพูดแทรกขึ้นมา
“เล็กกับพี่จอยเป็นแฟนกันครับ” สิ้นประโยคของชายหนุ่ม ทุกอย่างเงียบสนิท รินลณีตกใจกับสิ่งที่ธีรเดชพูดอย่างมากไม่ต่างอะไรกับพี่สาวของเธอ ส่วนผู้เป็นแม่นั้นไม่มีท่าทีใดๆ “เอ่อ...แม่ครับคือ…” เสียงช้อนถูกวางกระทบจานดังขึ้น
“นี่อาเล็กพูดจริงหรือเปล่าลูก” น้ำเสียงและสีหน้าของหญิงสูงวัยเปลี่ยนไป น้ำเสียงที่บ่งบอกถึงความดีใจและใบหน้าที่ยิ้มแย้มจนลูกสาวทั้งสองมึนงงกับท่าทีของผู้เป็นแม่ “ในที่สุดก็มีคนมาลากลูกสาวแม่ลงจากคานสักที แม่ดีใจมากๆที่เป็นอาเล็กนะลูก”
“แม่ไม่โกรธหรอกหรอครับที่ผมคบกับพี่จอย”
“แม่จะโกรธทำไม แม่ดีใจซะอีกที่ได้อาเล็กมาเป็นลูกชายแม่อีกคน”
“แต่อาเล็กเด็กกว่าจอยตั้ง 10 กว่าปีเลยนะแม่ แม่ไม่ว่าหรอถ้าทั้งคู่คบกัน” พี่สาวของรินลณีพูดขึ้น
“แม่ว่าอาเล็กดูเป็นผู้ใหญ่มากกว่าน้องสาวเราด้วยซ้ำนะเจี๊ยบ เฮ้อ...มีความสุขจัง” หญิงสูงวัยยิ้มอย่างมีความสุข
รินลณีได้แค่ฝืนยิ้มไปกับแม่ของเธอ เธอจ้องธีรเดชด้วยสายตาเอาเรื่องสุดๆ แต่เขานั้นกับทำหน้าตาและท่าทีทะเล้นใส่เธออย่างไม่รู้ร้อนรู้หนาว พี่สาวของเธอจับตาดูทั้งคู่แล้วแอบยิ้มเล็กน้อย ไม่รู้อะไรทำให้เธอมั่นใจว่าน้องสาวของเธอจะต้องลงเอยกับชายหนุ่มคนนี้แน่ๆ
ความคิดเห็น